SlideShare a Scribd company logo
1 of 24
SEO
Search Engine Optimization
Search Engine Optimization
การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับในตาแหน่งที่ดีที่สุดในการค้นหา หรือ
ติดลาดับในหน้าต้นๆ ของ Search Engine ต่างๆ เช่น Google, Bing
การปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อ SEO (Website Optimization)
On-Page
การปรับปรุงส่วนประกอบต่างๆ "ภายในเว็บไซต์" ที่เป็นปัจจัยที่ Search Engine
นาไปพิจารณาในการจัดลาดับ
Off-Page
การปรับปรุงปัจจัย "ภายนอกเว็บไซต์" ที่มีผลต่อการทา SEO เช่น
การสร้าง Backlink
On-Page
องค์ประกอบต่างๆ ในการปรับปรุงเว็บไซต์
● Domain: ในกรณีจดโดเมนใหม่ ควรมี Keyword คาสาคัญอยู่ในโดเมน
● URL: ควร Friendly กับ Search engine มีคาสาคัญอยู่ใน URL
http://www.abc.com/index.php?id=33455
http://www.abc.com/10-ร้านดอกไม้ในไอจี/
● Title tag: ประมาณ 65-70 ตัวอักษร
● Meta description tag: ประมาณ 156 ตัวอักษร (Google เปลี่ยนแปลง
เพิ่มขยายในหน้า SERP ให้ถึงประมาณ 320 ตัวอักษร)
On-Page
● Heading tag: H1 ทาหน้าที่ เหมือนกับเป็นหัวเรื่อง ในหนึ่งเพจควรมี H1
tag เพียง 1 tag H2, H3 ก็มีความสาคัญเหมือนกัน
● Content: อย่าใส่ keyword ซ้ากัน เยอะเกินไป อาจถูกมองเป็น Spam
(ความหนาแน่นของ keyword ใน content ประมาณ 1.5-2%)
● Bold and Italic tags: มีการทาตัวอักษรตัวหนา หรือ ตัวเอียง บ้างใน
Content ในส่วนของเนื้อหา ที่เป็นข้อความสาคัญ
● Bullet Point, List Number
On-Page
● Alt tag: คาอธิบายรูปภาพ ในแง่ของผู้อ่านเราดูภาพสามารถเข้าใจ
ความหมายของรูปภาพได้ แต่สาหรับ Search engine ไม่เข้าใจ
ความหมายของรูปภาพได้ว่าต้องการจะสื่ออะไร Alt tag จึงเป็น tag ที่
อธิบายความของภาพให้ Search engine เข้าใจ
● File name: ชื่อไฟล์รูปภาพ ก็มีส่วนช่วยในเรื่องของ SEO ชื่อไฟล์รูปภาพ
ก็ควรจะตั้งชื่อให้ ให้มี Keyword อยู่ด้วย ถ้าต้องใช้เครื่องหมายคั่นคา
อย่าใช้ _ underscore เพราะมันจะมองเป็นคาๆ เดียวกัน ให้ใช้
เครื่องหมาย ขีดกลาง - Dash แทน
● File size: ขนาดของไฟล์รูปภาพ (มีผลในเรื่องของเวลาในการโหลดเพจ)
On-Page
● Anchor Text: ข้อความของลิ้งค์ ก็มีส่วนสาคัญเช่นกัน ส่วนใหญ่เราจะเน้น
เอา Keyword มาทาเป็นข้อความของลิงค์ แต่การปรับ algorithm ใหม่ๆ
ของ google ใช้ลักษณะ Longtail Keyword จะได้ผลมากกว่า
Keyword: ร้านดอกไม้ Longtail keyword: ร้านดอกไม้
ออนไลน์
Keyword: ช่อดอกไม้ Longtail keyword: ช่อดอกไม้ให้แฟน
On-Page
● Site Structure: การจัดหมวดหมู่ที่ดีนอกจากจะช่วยในเรื่องของ Usability,
Conversion แล้วยังช่วยในเรื่องของการทา Rank ด้วย
On-Page
On-Page
● Internal Link: การสร้างลิงค์ภายในเว็บไซต์, การสร้างลิงค์จากหน้าที่
Authority สูงๆ ไปยังหน้าอื่นๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกัน
On-Page
● CSS/Javascript file: มีผลในเรื่องของเวลาที่ใช้ในการโหลดเพจ, การ
แสดงผลหน้าเว็บ
● Duplicate content:
นอกจากการ copy บทความจากที่อื่นมาใส่ในเว็บโดยไม่มีการรีไรท์ การ
เปิดใช้งานเว็บได้ทั้งแบบ www และ non-www ซึ่ง Search engine ก็
มองว่าเป็น Duplicate content
http://www.abc.com/
http://abc.com/
http://www.abc.com/index.php
http://abc.com/index.php
On-Page
● Customer Reviews: +SEO because more reviews = more content
● Rich Snippets: HTML coded that tell search engines what
searchers should be able to understand
On-Page
● Page Load Time: เวลาที่ใช้ในการโหลดเว็บเพจ
● Mobile Friendly: ความสามารถในการใช้เว็บได้ในหลายๆ อุปกรณ์
● HTTPS://
เครื่องมือที่มือประโยชน์ช่วยทดสอบเว็บ (เอาไปใช้ในการปรับหน้า Landing Page ได้)
เครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบ Page Load Time
https://developers.google.com/speed/pagespeed/insights/
เครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบ Mobile Friendly
https://search.google.com/test/mobile-friendly
Off-Page
การเพิ่มลิ้งค์ภายนอกให้ยิงมาหาเว็บเรา (Inbound link / Back Link)
ข้อที่ควรพิจารณาของเว็บที่เราจะยิงสร้าง Back link กลับมาเว็บเรา
● ความเกี่ยวข้องของเนื้อหา เว็บที่เราจะสร้าง Back link กลับมาหาเว็บเรา
ควรมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเว็บเรา
● Anchor text ข้อความที่ใช้ทาลิงค์กลับมา ควรมี Keyword อยู่ หรือใช้
Relate Keyword
● อายุของลิงค์ อยู่ได้ตลอดหรือเปล่า?
● เช็คค่า DA, PA, SPAM ของเว็บที่เราจะไปทา Back link
เครื่องมือในการเช็คคุณภาพ DA PA SPAM
https://moz.com/researchtools/ose/
DA: บอก Quality ของโดเมน PA: บอก Quality ของหน้าเพจนั้นๆ
DO & DON’T
ข้อหลีกเลี่ยง
● เขียน Title, Meta description ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของหน้าเว็บ
● เขียน Title, Meta description ที่อธิบายธรรมดาเกินไป เช่น "ร้านดอกไม้สยาม | Loveyouflower"
● การใส่เฉพาะคาหลักในคา Title, Meta description
● การคัดลอกและวางเนื้อหาทั้งหมด หรือบางส่วน ลงใน Meta description
● การใช้ Title, Meta description เดียวกันในทุกๆ หน้า หรือเกือบทุกหน้า
● การใช้ URL ที่ยาวเกินไปและมีพารามิเตอร์
● การเลือกใช้ชื่อหน้าเว็บทั่วๆ ไป เช่น "page1.html"
● การใช้คาหลักมากเกินไป เช่น "ร้านดอกไม้-ช่อดอกไม้-ส่งช่อดอกไม้-สั่งดอกไม้.html"
ข้อหลีกเลี่ยง
● การเปลี่ยนชื่อ URL, ชื่อไฟล์รูปภาพ, ชื่อหมวดบทความ, ชื่อหมวดสินค้า ถ้า
ตรวจสอบแล้วพบว่า URL หรือ ชื่อตัวเก่า ถูกทา index ใน Search engine แล้ว
ต้องทา 301 Redirect ด้วย เพื่อเป็นการบอก Bot ให้ไปยังหน้าใหม่
● หลีกเลี่ยงการทาสแปม Back link โดยการไปโพสต์ตามเว็บบอร์ดคุณภาพต่า
เว็บไดเร็คทอรี่คุณภาพต่า เว็บ18+ เว็บบอร์ดพนัน ก่อนไปโพสต์ควรเช็คให้ดีก่อน ไม่
แน่ใจไม่ควรโพสต์
● การซื้อลิงก์จากไซต์อื่น (ถ้าไม่จาเป็นไม่ควรซื้อ)
ข้อหลีกเลี่ยง ในการทา CONTENT
● การเขียนเนื้อหาที่มีตัวสะกดและไวยากรณ์ผิดหลายจุด
● ทาข้อความเป็นรูปภาพ - Search engine ไม่สามารถอ่านข้อความดังกล่าวได้
● การเขียนเนื้อหายาวๆ ที่พูดถึงหลายหัวข้อในหน้าเว็บ โดยไม่ใช้ย่อหน้า หัวข้อย่อย
● การดัดแปลง (หรือคัดลอก) เนื้อหาจากเว็บไซต์อื่นๆ โดยไม่มีการเพิ่มเนื้อหาประโยชน์
ใหม่ๆ ต่อผู้ใช้ การมีเนื้อหาที่ซ้าๆ กันหรือคล้ายๆ กันทุกหน้า
● การแอบซ่อนข้อความไม่ให้ผู้ใช้เห็น เพื่อใช้กับ Search engine
● การใช้ URL ของหน้าเว็บเป็น Anchor Text - การใช้งานแบบนี้จะเหมาะสมในกรณี
เช่น การโปรโมตหรือแนะนาที่อยู่ใหม่ของเว็บไซต์
● การเขียน Anchor Text โดยใช้คาธรรมดาๆ เช่น "หน้าเว็บ", หรือ "คลิกที่นี่"
แนวทางที่ดี
● ใช้ชื่อไฟล์และ Alt Text เป็นข้อความสั้นๆ และสื่อความหมาย
● ใช้แท็กหัวเรื่องอย่างเหมาะสม H1, H2, H3 นึกว่าเรา กาลังเขียนโครงร่างรายงาน
วางแผนว่าอะไรคือเนื้อหาหลักและอะไรคือส่วนประกอบรอง แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะใช้
แท็กหัวเรื่องตรงไหนให้เหมาะสม
● Content is king การสร้าง Content ที่มีเนื้อหาที่มีประโยชน์น่าสนใจ นอกจากทาให้
คนอ่านอยากเข้ามาอ่าน อาจจะมีการบอกต่อๆ กันไป แชร์ต่อๆ กันไป ประโยชน์ที่จะได้
กลับมา นอกจากเรื่องของ Traffic แล้ว ก็คือ Back link ที่เกิดจากการกระจายบอก
ต่อๆ กันไป
Thank you
https://www.peeranat.com

More Related Content

Similar to รู้จักการทำ Basic SEO ได้ด้วยตัวเอง

Similar to รู้จักการทำ Basic SEO ได้ด้วยตัวเอง (20)

หลักการออกแบบเว็บไซต์
หลักการออกแบบเว็บไซต์หลักการออกแบบเว็บไซต์
หลักการออกแบบเว็บไซต์
 
Google site
Google siteGoogle site
Google site
 
Chapter4
Chapter4Chapter4
Chapter4
 
Web Design, Running A Website And Hosting
Web Design, Running A Website And HostingWeb Design, Running A Website And Hosting
Web Design, Running A Website And Hosting
 
หน่วยที่ 2
หน่วยที่ 2หน่วยที่ 2
หน่วยที่ 2
 
E marketing
E marketingE marketing
E marketing
 
2010012 Wordpress Com Boonkiat
2010012 Wordpress Com Boonkiat2010012 Wordpress Com Boonkiat
2010012 Wordpress Com Boonkiat
 
2010012 wordpress-com-boonkiat
2010012 wordpress-com-boonkiat2010012 wordpress-com-boonkiat
2010012 wordpress-com-boonkiat
 
Introduction for seo
Introduction for seoIntroduction for seo
Introduction for seo
 
SEM & SEO
SEM & SEOSEM & SEO
SEM & SEO
 
SEM & SEO
SEM & SEOSEM & SEO
SEM & SEO
 
Search Engine
Search  EngineSearch  Engine
Search Engine
 
คู่มือ Word
คู่มือ Wordคู่มือ Word
คู่มือ Word
 
คู่มือการทำเวปไซต์เรื่อง ฮาร์แวร์
คู่มือการทำเวปไซต์เรื่อง  ฮาร์แวร์คู่มือการทำเวปไซต์เรื่อง  ฮาร์แวร์
คู่มือการทำเวปไซต์เรื่อง ฮาร์แวร์
 
Reflection
ReflectionReflection
Reflection
 
Seo Wordcamp 2009
Seo Wordcamp 2009Seo Wordcamp 2009
Seo Wordcamp 2009
 
การบริการสารสนเทศบนเว็บด้วย OSS : Joomla Workshop
การบริการสารสนเทศบนเว็บด้วย OSS : Joomla Workshopการบริการสารสนเทศบนเว็บด้วย OSS : Joomla Workshop
การบริการสารสนเทศบนเว็บด้วย OSS : Joomla Workshop
 
10 seo
10 seo10 seo
10 seo
 
Session3 part1
Session3 part1Session3 part1
Session3 part1
 
Unit2
Unit2Unit2
Unit2
 

รู้จักการทำ Basic SEO ได้ด้วยตัวเอง

  • 3. การปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อ SEO (Website Optimization) On-Page การปรับปรุงส่วนประกอบต่างๆ "ภายในเว็บไซต์" ที่เป็นปัจจัยที่ Search Engine นาไปพิจารณาในการจัดลาดับ Off-Page การปรับปรุงปัจจัย "ภายนอกเว็บไซต์" ที่มีผลต่อการทา SEO เช่น การสร้าง Backlink
  • 4. On-Page องค์ประกอบต่างๆ ในการปรับปรุงเว็บไซต์ ● Domain: ในกรณีจดโดเมนใหม่ ควรมี Keyword คาสาคัญอยู่ในโดเมน ● URL: ควร Friendly กับ Search engine มีคาสาคัญอยู่ใน URL http://www.abc.com/index.php?id=33455 http://www.abc.com/10-ร้านดอกไม้ในไอจี/ ● Title tag: ประมาณ 65-70 ตัวอักษร ● Meta description tag: ประมาณ 156 ตัวอักษร (Google เปลี่ยนแปลง เพิ่มขยายในหน้า SERP ให้ถึงประมาณ 320 ตัวอักษร)
  • 5. On-Page ● Heading tag: H1 ทาหน้าที่ เหมือนกับเป็นหัวเรื่อง ในหนึ่งเพจควรมี H1 tag เพียง 1 tag H2, H3 ก็มีความสาคัญเหมือนกัน ● Content: อย่าใส่ keyword ซ้ากัน เยอะเกินไป อาจถูกมองเป็น Spam (ความหนาแน่นของ keyword ใน content ประมาณ 1.5-2%) ● Bold and Italic tags: มีการทาตัวอักษรตัวหนา หรือ ตัวเอียง บ้างใน Content ในส่วนของเนื้อหา ที่เป็นข้อความสาคัญ ● Bullet Point, List Number
  • 6. On-Page ● Alt tag: คาอธิบายรูปภาพ ในแง่ของผู้อ่านเราดูภาพสามารถเข้าใจ ความหมายของรูปภาพได้ แต่สาหรับ Search engine ไม่เข้าใจ ความหมายของรูปภาพได้ว่าต้องการจะสื่ออะไร Alt tag จึงเป็น tag ที่ อธิบายความของภาพให้ Search engine เข้าใจ ● File name: ชื่อไฟล์รูปภาพ ก็มีส่วนช่วยในเรื่องของ SEO ชื่อไฟล์รูปภาพ ก็ควรจะตั้งชื่อให้ ให้มี Keyword อยู่ด้วย ถ้าต้องใช้เครื่องหมายคั่นคา อย่าใช้ _ underscore เพราะมันจะมองเป็นคาๆ เดียวกัน ให้ใช้ เครื่องหมาย ขีดกลาง - Dash แทน ● File size: ขนาดของไฟล์รูปภาพ (มีผลในเรื่องของเวลาในการโหลดเพจ)
  • 7. On-Page ● Anchor Text: ข้อความของลิ้งค์ ก็มีส่วนสาคัญเช่นกัน ส่วนใหญ่เราจะเน้น เอา Keyword มาทาเป็นข้อความของลิงค์ แต่การปรับ algorithm ใหม่ๆ ของ google ใช้ลักษณะ Longtail Keyword จะได้ผลมากกว่า Keyword: ร้านดอกไม้ Longtail keyword: ร้านดอกไม้ ออนไลน์ Keyword: ช่อดอกไม้ Longtail keyword: ช่อดอกไม้ให้แฟน
  • 8. On-Page ● Site Structure: การจัดหมวดหมู่ที่ดีนอกจากจะช่วยในเรื่องของ Usability, Conversion แล้วยังช่วยในเรื่องของการทา Rank ด้วย
  • 10. On-Page ● Internal Link: การสร้างลิงค์ภายในเว็บไซต์, การสร้างลิงค์จากหน้าที่ Authority สูงๆ ไปยังหน้าอื่นๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกัน
  • 11.
  • 12. On-Page ● CSS/Javascript file: มีผลในเรื่องของเวลาที่ใช้ในการโหลดเพจ, การ แสดงผลหน้าเว็บ ● Duplicate content: นอกจากการ copy บทความจากที่อื่นมาใส่ในเว็บโดยไม่มีการรีไรท์ การ เปิดใช้งานเว็บได้ทั้งแบบ www และ non-www ซึ่ง Search engine ก็ มองว่าเป็น Duplicate content http://www.abc.com/ http://abc.com/ http://www.abc.com/index.php http://abc.com/index.php
  • 13. On-Page ● Customer Reviews: +SEO because more reviews = more content ● Rich Snippets: HTML coded that tell search engines what searchers should be able to understand
  • 14. On-Page ● Page Load Time: เวลาที่ใช้ในการโหลดเว็บเพจ ● Mobile Friendly: ความสามารถในการใช้เว็บได้ในหลายๆ อุปกรณ์ ● HTTPS:// เครื่องมือที่มือประโยชน์ช่วยทดสอบเว็บ (เอาไปใช้ในการปรับหน้า Landing Page ได้) เครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบ Page Load Time https://developers.google.com/speed/pagespeed/insights/ เครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบ Mobile Friendly https://search.google.com/test/mobile-friendly
  • 15. Off-Page การเพิ่มลิ้งค์ภายนอกให้ยิงมาหาเว็บเรา (Inbound link / Back Link) ข้อที่ควรพิจารณาของเว็บที่เราจะยิงสร้าง Back link กลับมาเว็บเรา ● ความเกี่ยวข้องของเนื้อหา เว็บที่เราจะสร้าง Back link กลับมาหาเว็บเรา ควรมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเว็บเรา ● Anchor text ข้อความที่ใช้ทาลิงค์กลับมา ควรมี Keyword อยู่ หรือใช้ Relate Keyword ● อายุของลิงค์ อยู่ได้ตลอดหรือเปล่า? ● เช็คค่า DA, PA, SPAM ของเว็บที่เราจะไปทา Back link
  • 17. DA: บอก Quality ของโดเมน PA: บอก Quality ของหน้าเพจนั้นๆ
  • 18.
  • 20. ข้อหลีกเลี่ยง ● เขียน Title, Meta description ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของหน้าเว็บ ● เขียน Title, Meta description ที่อธิบายธรรมดาเกินไป เช่น "ร้านดอกไม้สยาม | Loveyouflower" ● การใส่เฉพาะคาหลักในคา Title, Meta description ● การคัดลอกและวางเนื้อหาทั้งหมด หรือบางส่วน ลงใน Meta description ● การใช้ Title, Meta description เดียวกันในทุกๆ หน้า หรือเกือบทุกหน้า ● การใช้ URL ที่ยาวเกินไปและมีพารามิเตอร์ ● การเลือกใช้ชื่อหน้าเว็บทั่วๆ ไป เช่น "page1.html" ● การใช้คาหลักมากเกินไป เช่น "ร้านดอกไม้-ช่อดอกไม้-ส่งช่อดอกไม้-สั่งดอกไม้.html"
  • 21. ข้อหลีกเลี่ยง ● การเปลี่ยนชื่อ URL, ชื่อไฟล์รูปภาพ, ชื่อหมวดบทความ, ชื่อหมวดสินค้า ถ้า ตรวจสอบแล้วพบว่า URL หรือ ชื่อตัวเก่า ถูกทา index ใน Search engine แล้ว ต้องทา 301 Redirect ด้วย เพื่อเป็นการบอก Bot ให้ไปยังหน้าใหม่ ● หลีกเลี่ยงการทาสแปม Back link โดยการไปโพสต์ตามเว็บบอร์ดคุณภาพต่า เว็บไดเร็คทอรี่คุณภาพต่า เว็บ18+ เว็บบอร์ดพนัน ก่อนไปโพสต์ควรเช็คให้ดีก่อน ไม่ แน่ใจไม่ควรโพสต์ ● การซื้อลิงก์จากไซต์อื่น (ถ้าไม่จาเป็นไม่ควรซื้อ)
  • 22. ข้อหลีกเลี่ยง ในการทา CONTENT ● การเขียนเนื้อหาที่มีตัวสะกดและไวยากรณ์ผิดหลายจุด ● ทาข้อความเป็นรูปภาพ - Search engine ไม่สามารถอ่านข้อความดังกล่าวได้ ● การเขียนเนื้อหายาวๆ ที่พูดถึงหลายหัวข้อในหน้าเว็บ โดยไม่ใช้ย่อหน้า หัวข้อย่อย ● การดัดแปลง (หรือคัดลอก) เนื้อหาจากเว็บไซต์อื่นๆ โดยไม่มีการเพิ่มเนื้อหาประโยชน์ ใหม่ๆ ต่อผู้ใช้ การมีเนื้อหาที่ซ้าๆ กันหรือคล้ายๆ กันทุกหน้า ● การแอบซ่อนข้อความไม่ให้ผู้ใช้เห็น เพื่อใช้กับ Search engine ● การใช้ URL ของหน้าเว็บเป็น Anchor Text - การใช้งานแบบนี้จะเหมาะสมในกรณี เช่น การโปรโมตหรือแนะนาที่อยู่ใหม่ของเว็บไซต์ ● การเขียน Anchor Text โดยใช้คาธรรมดาๆ เช่น "หน้าเว็บ", หรือ "คลิกที่นี่"
  • 23. แนวทางที่ดี ● ใช้ชื่อไฟล์และ Alt Text เป็นข้อความสั้นๆ และสื่อความหมาย ● ใช้แท็กหัวเรื่องอย่างเหมาะสม H1, H2, H3 นึกว่าเรา กาลังเขียนโครงร่างรายงาน วางแผนว่าอะไรคือเนื้อหาหลักและอะไรคือส่วนประกอบรอง แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะใช้ แท็กหัวเรื่องตรงไหนให้เหมาะสม ● Content is king การสร้าง Content ที่มีเนื้อหาที่มีประโยชน์น่าสนใจ นอกจากทาให้ คนอ่านอยากเข้ามาอ่าน อาจจะมีการบอกต่อๆ กันไป แชร์ต่อๆ กันไป ประโยชน์ที่จะได้ กลับมา นอกจากเรื่องของ Traffic แล้ว ก็คือ Back link ที่เกิดจากการกระจายบอก ต่อๆ กันไป