โครงงานคอมพิวเตอร์ (pdf)

2. นางสาว กมลชนก บริสุทธิ์เพ็ชร์ ม.5/1 เลขที่ 19
นางสาว กฤชมนธนะนาวานุกุล ม.5/1 เลขที่ 23

3. ความหมายของโครงงาน
โครงงานหมายถึง กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าและลงมือปฏิบัติ
ด้วยตนเองตามความสามารถ ความถนัด และความสนใจ โดยอาศัยกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการอื่นใดไปใช้ในการศึกษาหาคาตอบในเรื่องนั้นๆ โดยมี
ครูผู้สอนคอยกระตุ้นแนะนาและให้คาปรึกษาแก่ผู้เรียนอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การเลือก
หัวข้อที่จะศึกษา ค้นคว้า ดาเนินการ วางแผน กาหนดขั้นตอนการดาเนินงาน โดยทั่วๆ
ไป การทาโครงงานสามารถทาได้ทุกระดับการศึกษา ซึ่งอาจทาเป็นรายบุคคลหรือเป็น
กลุ่มก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงงาน อาจเป็นโครงงานเล็กๆ ที่ไม่ยุ่งยาก
ซับซ้อนหรือเป็นโครงงานใหญ่ที่มีความยากและซับซ้อนขึ้นก็ได้

4. ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
หมายถึง กิจกรรมการเรียนที่มีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ
โดยต้องวางแผนการดาเนินงานศึกษาพัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ทาง
กระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทา
โครงงาน อาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือนักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนา
แล้ว สามารถทาโครงงานเรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา
การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มี
ผู้รายงานไว้

5. จุดมุ่งหมายสาคัญเป็นการเปิดโอกาสให้ได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้
ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์ หรือค้นคว้าใช้คอมพิวเตอร์ในการ
พัฒนาสื่อการเรียนรู้พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนา
เกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นใฝ่เรียนรู้ การพัฒนาความคิด
ใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับเพื่อนและอยู่ใน
สังคมอย่างมีความสุข

6. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือที่ ใช้ ในงานวิจัยในทุกสาขาวิชา ดังนั้นโครงงาน
คอมพิวเตอร์จึงมีความหลากหลาย ทั้งในลักษณะของเนื้อหา กิจกรรม และประโยชน์หรือ
ผลงานที่ได้ แบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คือ
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
3. โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี (Theory Experiment)
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application)
5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)

7. ขั้นตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจทา
โดยทั่วไปเรื่องที่จะนามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา
คาถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว นักเรียน
สามารถจะศึกษาการได้มาของเรื่องที่จะทาโครงงาน การอ่านค้นคว้า การไปเยี่ยม
ชมสถานที่ต่างๆ การฟังบรรยาย รายการวิทยุโทรทัศน์ สนทนาอภิปราย กิจกรรม
การเรียนการสอน งานอดิเรก การเข้าชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงาน
คอมพิวเตอร์ ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ ควร
พิจารณาองค์ประกอบสาคัญดังนี้
– จะต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
– สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องได้
– มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษา
– มีเวลาเพียงพอ
– มีงบประมาณเพียงพอ
– มีความปลอดภัย

9. 2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
รวมถึงการขอคาปรึกษาจากผู้มีความรู้จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนดของเขต
ของเรื่องที่จะศึกษาได้มากขึ้น รวมทั้งความรู้เพิ่มเติมในเรื่งที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและ
วางแผนดาเนินการทาโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาค้นคว้า นักเรียนจะต้องบันทึก
สรุปสาระสาคัญไว้ด้วย จะต้องพิจารณาดังนี้ มูลเหตุจูงใจและเป้าหมาย อุปกรณ์ ความต้องการของ
ผู้ใช้งานและคุณลักษณะของผลงาน (Requirement and Specification) วิธีการประเมินผล วิธีการ
พัฒนา ข้อสรุปของโครงงาน ความแปลกใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ แนวทางในการปรับปรุง

10. 3. การจัดทาเค้าโครงของโครงงานที่จะทา
ต้องกาหนดกรอบแนวคิดและวางแผนการพัฒนาล่วงหน้า เพื่อคาดการณ์
ความเป็นไปได้ของโครงงาน ขั้นตอนที่สาคัญคือ ศึกษาค้นคว้าเอกสาร
วิเคราะห์ข้อมูล ออกแบบการพัฒนา เสนอเค้าโครงของโครงงานต่ออาจารย์
ที่ปรึกษา เพื่อขอคาแนะนาและปรับปรุงแก้ไข

11. 4. การลงมือทาโครงงาน
เมื่อเค้าโครงได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการ
พัฒนาตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้ดังนี้ เตรียมการ ลงมือพัฒนา ตรวจสอบผลงานและ
แก้ไข อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ แนวทางในการพัฒนาโครงงานในอนาคต

12. 5. การเขียนรายงาน
เป็นสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวความคิด วิธีดาเนินการศึกษา
ค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงงาน
นั้น ในการเขียน ควรใช้ภาษาที่อ่านเข้าใจง่าย ชัดเจน กระชับ และ
ตรงไปตรงมาให้ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ

13. 6. การนาเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน
เป็นการนาเสนอเพื่อแสดงออกถึงผลิตผลของความคิด ความพยายามในการ
ทางานที่ผู้ทาโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีที่ทาให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจใน
โครงงานนั้น ในการเสนออาจทาได้หลายรูปแบบ เช่น ติดโปสเตอร์ การรายงาน
ในที่ประชุม การแสดงผลงานด้วยสื่อต่างๆ การจัดนิทรรศการ การอธิบายด้วย
คาพูด

14. แหล่งอ้างอิง
slamunder1.blogspot.com
http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-
https://ipattapong.wordpress.com