ประวัติการลอยกระทงบับ
- 2. กำา หนดวัน ลอยกระทง
วันลอยกระทงของทุกปีจะตรงกับวัน
ขึน 15 คำ่า เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติ
้
ไทย หรือถ้าเป็นปฏิทินจันทรคติล้านนาจะ
ตรงกับเดือนยี่ และหากเป็นปฏิทินสุริยคติจะ
ราวเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเดือน 12 นี้เป็น
ช่วงต้นฤดูหนาว อากาศจึงเย็นสบาย และอยู่
ในช่วงฤดูนำ้าหลาก มีนำ้าขึ้นเต็มฝั่ง ทำาให้
เห็นสายนำ้าอย่างชัดเจน อีกทั้งวันขึน 15 คำ่า
้
เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวง ทำาให้สามารถ
เห็นแม่นำ้าที่มีแสงจันทร์ส่องกระทบลงมา เป็น
- 5. เหตุผ ลและความเชือ ของการลอยกระทง
่
สาเหตุที่มีประเพณีลอยกระทงขึ้นนั้น เกิดจาก
ความเชื่อหลาย ๆ ประการของแต่ละท้องที่ ได้แก่
1.เพื่อแสดงความสำานึกถึงบุญคุณของแม่นำ้าทีให้
่
เราได้อาศัยนำ้ากิน นำ้าใช้ ตลอดจนเป็นการขอขมาต่อพระ
แม่คงคา ทีได้ทิ้งสิ่งปฏิกลต่าง ๆ ลงaไปในนำ้า อันเป็น
่
ู
สาเหตุให้แหล่งนำ้าไม่สะอาด
2.เพื่อเป็นการสักการะรอยพระพุทธบาท เมือ
่
คราวที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ
และได้ทรงประทับรอยพระบาทไว้บนหาดทรายแม่นำ้านัมม
ทานที ซึ่งเป็นแม่นำ้าสายหนึงอยู่ในแคว้นทักขิณาบถของ
่
ประเทศอินเดีย ปัจจุบันเรียกว่าแม่นำ้าเนรพุทท
3.เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ เพราะการลอย
กระทงเปรียบเหมือนการลอยความทุกข์ ความโศกเศร้า
- 8. ภาคเหนือ (ตอนบน) จะเรียกประเพณีลอย
กระทงว่า "ยีเ ป็ง " อันหมายถึงการทำาบุญใน
่
วันเพ็ญเดือนยี่ (เดือนยีถ้านับตามล้านนาจะ
่
ตรงกับเดือนสิบสองในแบบไทย) โดยชาว
เหนือจะนิยมประดิษฐ์โคมลอย หรือที่เรียกว่า
"ว่าวฮม" หรือ "ว่าวควัน" โดยการใช้ผ้า
บางๆ แล้วสุมควันข้างใต้ ให้โคมลอยขึนไป
้
ในอากาศ เพื่อเป็นการบูชาพระอุปคุตต์ ซึง
่
เชื่อกันว่าท่านบำาเพ็ญบริกรรมคาถาอยูใน
่
- 10. จัง หวัด สุโ ขทัย เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีชื่อเสียงใน
เรื่องประเพณีลอยกระทง ด้วยความเป็นจังหวัดต้น
กำาเนิดของประเพณีนี้ โดยการจัดงาน ลอย
กระทงเผาเทีย นเล่น ไฟ ที่จังหวัดสุโขทัยถูก
ฟื้นฟูกลับมาอีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ.2520 ซึ่ง
จำาลองบรรยากาศงานมาจากงานลอยกระทงสมัย
กรุงสุโขทัย และหลังจากนั้นก็มีการจัดงานลอย
กระทงเผาเทียนเล่นไฟขึ้นที่จังหวัดสุโขทัยทุก ๆ ปี
มีทั้งการจัดขบวนแห่โคมชักโคมแขวน การเล่นพลุ
ตะไล และไฟพะเนียง
- 11. ภาคตะวัน ออกเฉีย งเหนือ งานลอย
กระทงจะเรีย กว่า เทศกาลไหลเรือ
ไฟ โดยจัดเป็นประเพณียิ่งใหญ่ทุกปีใน
จังหวัดนครพนม มีการนำาหยวกกล้วย หรือ
วัสดุต่าง ๆ มาตกแต่งเรือ และประดับไฟ
อย่างสวยงาม และตอนกลางคืนจะมีการจุด
- 14. กิจ กรรมในวัน ลอยกระทง
ในปัจจุบันมีการจัดงานลอยกระทงทุก ๆ
จังหวัด ซึ่งจะมีกิจกรรมแตกต่างกันไปในแต่ละ
สถานที่ แต่กิจกรรมที่มีเหมือน ๆ กันก็คือ การ
ประดิษ ฐ์ก ระทง โดยนำา วัส ดุต า ง ๆ ทั้ง หยวก
่
กล้ว ย ใบตอง หรือ จะเป็น กาบพลับ พลึง
เปลือ กมะพร้า ว ฯลฯ มาประดับ ตกแต่ง ด้ว ย
ดอกไม้ ธูป เทีย น เครื่อ งสัก การบูช า ให้เ ป็น
กระทงที่ส วยงาม ภายหลังมีการใช้วัสดุโฟมที่
สามารถประดิษฐ์กระทงได้ง่าย แต่จะทำาให้เกิด
ขยะที่ย่อยสลายยากขึ้น จึงมีการรณรงค์ให้เลิกใช้
- 17. เพลงประจำา เทศกาลลอยกระทง
เมื่อเราได้ยินเพลง "รำา วงลอยกระทง"
ที่ข ึ้น ต้น ว่า "วัน เพ็ญ เดือ นสิบ สอง นำ้า นอง
เต็ม ตลิง ..." นั่น เป็น สัญ ญาณว่า ใกล้จ ะถึง
่
วัน ลอยกระทงแล้ว ซึ่งเพลงนี้เป็นที่คุ้นหูของทั้ง
ชาวไทย และชาวต่างชาติ เพราะในต่างประเทศ
มักเปิดเพลงนี้ต้อนรับนักท่องเที่ยว เพื่อแสดงถึง
ความเป็นประเทศไทย
- 18. เพลงรำาวงวันลอยกระทงแต่งโดยครูแก้ว
อัจฉริยกุล ผู้ให้ทำานองคือ ครูเอื้อ สุนทร
สนาน แห่งสุนทราภรณ์ ซึงครูเอื้อได้แต่ง
่
เพลงนี้ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2498 ขณะที่ได้ไป
บรรเลงเพลงที่บริเวณคณะบัญชี
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมีผู้ขอเพลง
จากครูเอื้อ ครูเอื้อจึงนั่งแต่งเพลงนี้ที่ริมแม่นำ้า
เจ้าพระยา ในระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงจึง
เกิดเป็นเพลง "รำาวงลอยกระทง" ที่ติดหูกัน
มาทุกวันนี้