บทที่1 new
- 1. 1
บทที่1
1.1UUความสาคัญและความเป็นมาของปัญหา
0000000โครงการออกแบบเครื่องประดับเพื่อสร้างสายสัมพันธ์อันดี
ระหว่างพ่อและลูกให้เกิดขึ้นภายในครอบครัว
มีแนวทางการศึกษาเพื่อต้องการให้พ่อและลูกใช้เวลาสร้างสายสัมพันธ์ เข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น
สานักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (2554: 1)
ได้สรุปปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อครอบครัวไทยประกอบด้วย
4 ปัจจัยหลัก คือ โครงสร้างทางประชากร, การเปลี่ยนแปลงทางทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม,
อิทธิพลของเทคโนโลยี, การผันผวนของค่าเงินหรือความแปรปรวนของระบบการเงินโลก
0000000 ค่านิยมในอดีตส่งผลต่อทัศนคติในฐานะบทบาทของความเป็นพ่อ
พ่ออาจมองข้ามบทบาทและหน้าที่ที่พึงปฏิบัติอย่างไม่หละหลวม “
ค่านิยมของยุคสังคมดั้งเดิมจะให้ผู้ชายหรือสามีไปทางานนอกบ้านเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว
ส่วนผู้หญิงหรือภรรยาจะคอยดูแลความเรียบร้อยภายในบ้าน
เพื่ออานวยความสะดวกให้กับสามีที่ทางานหนักกลับมา
หน้าที่ของภรรยาจึงเกี่ยวข้องโดยตรงกับความเป็นอยู่ภายในบ้าน บ้านใดที่ได้รับการดูแลอย่างดี
มีความสะอาดเรียบร้อย ย่อมแสดงให้เห็นว่าภรรยาเป็นแม่ศรีเรือน
ควรค่าแก่การยกย่องและควรแก่การใช้ชีวิตคู่ด้วย”
ครั้นสิ้นแสงสุริยาอย่าไปไหน จุดไต้ไฟเข้าไปส่องในห้องก่อน
ระวังดูปูปัดสลัดที่นอน ทั้งฟูกหมอนอย่าให้มีธุลีลง
(กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ, 2545, หน้า112)
0000000 “ การผันผวนของค่าเงินก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
เปลี่ยนความเข้าใจในเรื่องเงินตรากระแสการเงินมีความเคลื่อนไหวมากขึ้น มีแรงเหวี่ยงมากขึ้น
ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงของครอบครัว
เพราะเงินที่มีในระบบจะถูกดึงเข้าสู่เกมการเงินของโลก
ซึ่งครอบครัวยังไม่สามารถเข้าถึงเกมดังกล่าวได้ ” (สานักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. 2554 : 2)
0000000
สภาวะทางสังคมและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันส่งผลให้ครอบครัวแบกรับภาระด้านค่าใช้จ่ายเพิ่มเนื่อง
จากค่าครองชีพสูงขึ้น เวลาที่มีให้กับลูกน้อยลง
- 3. 3
รูปที่ 1.1 ตารางแสดงการทากิจกรรมของสมาชิกในครัวเรือนแบ่งตามภูมิภาค
จากตารางแสดงให้เห็นว่าคนไทยใช้เวลาในการดูแลสมาชิกในครัวเรือนโดยเพศหญิงใช้เว
ลามากกว่าเพศชาย 2 เท่า โดยเป็นการให้บริการครัวเรือนวันละ 2.1 ชั่วโมง
และการดูแลสมาชิกในครัวเรือนวันละ 2.7 ชั่วโมง
ซึ่งทั้งสองกิจกรรมนี้เพศหญิงใช้เวลามากกว่าชายถึงวันละ 1.2 และ 1.4
ชั่วโมงผลสารวจนี้สามารถวิเคราะห์ได้ว่าสมาชิกครอบครัวเพศชายมีหน้าที่ความรับผิดชอบภายใน
ครอบครัวน้อยมาก (สานักงานสถิติแห่งชาติ
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร,2552)
รูปที่ 1.2 รูปแผนภูมิการใช้เวลาในการให้บริการและดูแลสมาชิกในครัวเรือนของประชากร 1/
จาแนกตามกิจกรรมย่อยที่สาคัญและเพศ
ในกรณีที่พ่อไม่ได้อยู่ในครัวเรือนพบว่า ผู้ที่ทาหน้าที่ดูแลเด็กในสัดส่วนที่สูงสุดคือแม่
(ร้อยละ 41.0)รองลงมาคือปู่ย่า (ร้อยละ 34.0) ตายายและญาติ (ร้อยละ 13.2และร้อยละ 8.5
ตามลาดับ) ส่วนในกรณีที่แม่ไม่ได้อยู่ในครัวเรือนพบว่า ผู้ที่ทาหน้าที่ดูแลเด็กในสัดส่วนที่สูงสุดคือ
ปู่ย่า (ร้อยละ 49.3) รองลงมาคือ ตายายและญาติ(ร้อยละ 19.3 และ 12.6 ตามลาดับ)
ส่วนพ่อมีสัดส่วนในการทาหน้าที่ดูแลเด็กเพียงร้อยละ 14.0ดังรูปที่1.3
- 4. 4
รูปที่ 1.3 ตารางแสดงจานวนและร้อยละของเด็กอายุ 0 -17ปี จาแนกตามการอยู่อาศัยกับพ่อแม่
จากรูปที่ 1.3 เด็กอายุไม่เกิน 17 ปีมีทั้งสิ้น 17.4 ล้านคนเป็นเด็กผู้ชาย 8.9
ล้านคนและเป็นเด็กผู้หญิง 8.5ล้านคนในจานวนนี้เป็นเด็กที่อาศัยอยู่กับทั้งพ่อและแม่ร้อยละ 61.8
และอยู่กับพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งร้อยละ 18.1
ซึ่งอาจเนื่องจากการหย่าร้างหรือพ่อแม่แยกกันอยู่เนื่องจากการทางานโดยพบว่าสัดส่วนของเด็กที่อ
ยู่กับแม่สูงกว่าอยู่กับพ่อถึง 5 เท่า (ร้อยละ 15.0 และ 3.1 ตามลาดับ) ส่วนที่เหลือคือร้อยละ
20.1เป็นเด็กที่ไม่ได้อยู่กับพ่อและแม่ (สานักงานสถิติแห่งชาติ
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร,2551)
จากแผนภูมิ 1.3 แสดงให้เห็นว่าพ่อ มีสัดส่วนในการทาหน้าที่ดูแลเด็กเพียงร้อยล่ะ 14
เนื่องจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่ค่าเงินผันผวนส่งผลให้ค่าครองชีพสูงขึ้นผู้นาครอบครัวต้องทางา
นหาเงินมากขึ้น ค่านิยมของยุคสังคมไทยในอดีตที่ยังมีอิทธิพลต่อครอบครัวในปัจจุบัน
การเปลี่ยนแปลงทางทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมและประชากรทาให้เกิดการแข่งขันสูงขึ้น
ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้สายสัมพันธ์อันดีระหว่างพ่อและลูกลดน้อยลง
- 5. 5
รูปที่ 1.4แผนภูมิดัชนีชี้วัดสัมพันธภาพในครอบครัว
จากรูปที่ 1.4 พบว่าการเอาใจใส่ดูแลสุขทุกข์กันและกัน และ
การช่วยเหลือกันในการแก้ปัญหา เป็นตัวแปรที่บ่งบอกว่าครอบครัวมีสัมพันธภาพที่ดีที่สุด
ซึ่งเป็นแนวทางที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาเพื่อสร้างสายสัมพันธ์อันดีระหว่างพ่อและลูก
(สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัวมหาวิทยาลัยมหิดล.2554 :23)
0000000 จากแบบสอบถามเรื่องความสนใจเกี่ยวกับวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตเครื่องประดับ
ของกลุ่มเป้าหมายหลักช่วงอายุ 14-16 ปีพบว่า
เพศหญิงมีความสนใจวัตถุดิบหลากหลายกว่าเพศชายในขณะที่เพศชายให้ความสนใจวัตถุดิบจากห
นังสัตว์มากที่สุด (ชิษณุพงศ์เพ็งวันพุฒ, 2558)
0000000 ปัจจุบัน Costume Jewelry ได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น
เนื่องจากเครื่องประดับแท้มีราคาค่อนข้างสูง รูปแบบแฟชั่นก็มีไม่มากนัก
ถือเป็นข้อจากัดอย่างหนึ่งในการเข้าถึงผู้บริโภค เป็นช่องว่างให้ Costume Jewelry เข้ามาตอบโจทย์
เพราะมีราคาไม่แพง รูปแบบหลากหลาย เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกเพศทุกวัย และสามารถหาซื้อได้ง่าย
ไม่ว่าคุณจะเดินไปข้างถนน หรือในห้างสรรพสินค้าก็สามารถหาซื้อ Costume Jewelry ได้ทุกที่ โดย
"ราคา" เป็นตัวแปรสาคัญที่สามารถเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี มีตั้งแต่ราคาชิ้นละไม่กี่สิบบาท
ไปจนถึงราคาสูงหลักหมื่นบาท พอๆกับเครื่องประดับแท้ จุดเด่นของ Costume Jewelry อยู่ที่ดีไซน์
เป็นเหมือนแฟชั่นที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ บางคนจึงเรียก Costume Jewelry ว่า "Fashion
Jewelry"
Costume Jewelry เครื่องประดับแฟชั่นยอดนิยม. (16 กันยายน 2558). บริษัท จีเจฮับ (ไทยแลนด์)
จากัด สืบค้นจาก: https://www.gjhub.com/knowledge-show.php?knowledgeid=14
0000000
ตาแหน่งของผลิตภัณฑ์
Costume JewelryFine Jewelry
Tradition
Jewelry
- 10. 10
UUUUUUU1.4.2UU4. เทคนิคที่ใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการวัดและประเมินผลพฤติกรรมเป้าหมาย
เทคนิค การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตนเอง ได้แก่การเฝ้ าติดตามดูตนเอง (Self-Monitoring)
การประเมินตนเอง (Self-Assessment / Self-Evaluation) และการวิเคราะห์ตนเอง (Self-Analysis)
อย่างไรพิมพ์เพิ่มเติม
1.4UUขอบเขตของโครงการ
UUUUUUU1.4.1UUกลุ่มเป้าหมายเป็นพ่อที่มีลูกอายุ 12-17 ปีที่มีความสัมพันธ์เริ่มห่างจากลูก
อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
UUUUUUU1.4.2UUออกแบบเครื่องประดับสาหรับพ่อและลูก เพื่อสร้างสายสัมพันธ์อันดี
และสาหรับสวมใส่ในชีวิตประจาวัน
UUUUUUU1.4.3UUโครงการออกแบบเครื่องประดับเพื่อสร้างสายสัมพันธ์อันดีระหว่างพ่อและลูก
โดยออกแบบเครื่องประดับจานวน2 ชุด
1.3.4.21UUเครื่องประดับบนร่างกายเพื่อสร้างสายสัมพันธ์อันดีระหว่างพ่อและลูก
1.3.4.21UUเป็นเครื่องประดับสาหรับมอบเป็นของขวัญให้กับลูก
UUUUUUU1.4.4UUสามารถผลิตได้ในระบบอุตสาหกรรม
UUUUUUU1.4.5UUบรรจุภัณฑ์สาหรับใส่เครื่องประดับ
1.5UUประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
UUUUUUU1.5.1UUออกแบบเครื่องประดับที่ช่วยเสริมสร้างสายสัมพันธ์อันดีระหว่างพ่อและลูก
เพื่อเสริมสร้างสถาบันครอบครัวที่แข็งแรงโดยใช้หลักการแก้ปัญหาทางจิตวิทยาและการมอบของข
วัญเพื่อเป็นขวัญกาลังใจ
UUUUUUU1.5.2UUช่วยส่งเสริมให้ลูกมีสัมพันธ์ภาพที่ดีต่อพ่อมากยิ่งขึ้น
แบ่งเบาหน้าที่ในการดูแลลูกของแม่