SlideShare a Scribd company logo
1 of 16
ขั้นตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4
คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและ
แหล่งข้อมูล
จัดทาข้อเสนอโครงงาน
การลงมือทาโครงงาน
การเขียนรายงาน การนาเสนอและแสดงโครงงาน
1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจจะทา โดยทั่วไปเรื่องที่จะมาพัฒนาเป็น
โครงงานคอมพิวเตอร์มักได้จากปัญหา คาถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการ
สังเกตสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์หรือสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเรา จาก
แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาเป็นโครงงาน
คอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ประกอบที่สาคัญดังต่อไปนี้
1.1 ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
1.2 สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้
1.3 มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษา
1.4 มีเวลาเพียงพอ
1.5 มีงบประมาณเพียงพอ
1.6 มีความปลอดภัย
2. ศึกษาค้นคว้าและวางแผน การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
รวมถึงการขอคาปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนด
ขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่
จะศึกษา จนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงานนั้นได้
3. จัดทาข้อเสนอโครงงานที่จะทา ดังนี้
3.1 ศึกษาค้นคว้าเอกสารอ้างอิงและรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ทรงคุณวุฒิ
3.2 วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อกาหนดขอบเขตและลักษณะของโครงการที่จะพัฒนา
3.3 ออกแบบการพัฒนา มีการกาหนดลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และ
ตัวแปลภาษา โปรแกรม และวัสดุต่างๆที่ต้องใช้
3.4 กาหนดตารางการปฏิบัติงานของการจัดทาเค้าโครงของโครงงาน ลงมือทาโครงงาน
และสรุปรายงานโครงงาน โดยกาหนดช่วงเวลาอย่างกว้าง ๆ
3.5 ทาการพัฒนาโครงงานขั้นต้น เพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น โดยอาจจะทาการ
พัฒนาส่วนย่อย ๆ บางส่วนตามที่ได้ออกแบบไว้แล้ว นาผลจากการศึกษาในช่วงนี้ไปปรับปรุงแผนการ
ทดลองที่ออกแบบไว้ในครั้งแรกให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
3.6 เสนอเค้าโครงของโครงงานคอมพิวเตอร์ต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อขอคาแนะนาและ
ปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้การวางแผนและดาเนินการทาโครงงานเป็นไปอย่างเหมาะสมเป็นขั้นตอนตั้งแต่
เริ่มต้นจนสิ้นสุด
4. การลงมือทาโครงงาน เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจาก
อาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ก็เสมือนว่าการจัดทาโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึ่ง
ขั้นตอนต่อไปเป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้ เช่น จัดเตรียมวัสดุ
อุปกรณ์ให้พร้อม รวมทั้งการกาหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของสมาชิกในกลุ่มให้ชัดเจน
แล้วจึงดาเนินการทาโครงงาน ขณะเดียวกันต้องมีการทดสอบ ตรวจสอบ ปรับปรุงแก้ไข
เพื่อพัฒนาโครงงานเป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้น ทางานได้ถูกต้องตรง
กับความต้องการที่ระบุไว้ในเป้าหมายและเกิดประสิทธิภาพตามขั้นตอนต่อไปนี้
4.1 การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆที่จะ
ใช้ในการพัฒนาให้พร้อมและควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์
สาหรับบันทึกการทากิจกรรมต่างๆระหว่างการทาโครงงาน ได้แก่ การดาเนินการอย่างไร ได้ผล
อย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆที่พบ
4.2 การลงมือพัฒนา เป็นการปฏิบัติตามแผนงานที่ได้วางไว้ในเค้าโครง ซึ่งสามารถ
เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ หากพบว่าจะช่วยให้ผลงานพัฒนาได้ดีขึ้น โดยจัดระบบการทางาน ทาส่วนที่
เป็นหลักสาคัญให้เสร็จก่อน จึงค่อยทาส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริม เพื่อให้โครงงานมีความ
สมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทาให้มีการตกลงรายละเอียดในการเชื่อมต่อชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย
รวมทั้งต้องพัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ บันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบและครบถ้วน
4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เพื่อให้
แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้น ทางานได้ถูกต้องตรงตามความต้องการที่ระบุไว้ในเป้าหมาย และมี
ประสิทธิภาพ
4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทา
ข้อสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัด ครอบคลุมหัวข้อโครงงาน เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบ
จากการทาโครงงานและอภิปรายผล เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนาไปหาความสัมพันธ์
กับ หลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้รวมไปถึงหลักการ ทฤษฎี หรือผลงาน
ของผู้อื่นมาใช้ประกอบการอภิปรายผลได้
4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทาโครงงาน
เสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สาคัญหรือปัญหาซึ่งสามารถเขียนเป็น
ข้อเสนอแนะ สาหรับผู้ที่สนใจจะนาไปพัฒนาผลงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. เขียนรายงานและจัดทาคู่มือการใช้
การเขียนรายงานเป็นวิธีการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจแนวคิด วิธีดาเนินการศึกษา
ค้นคว้าหาข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงาน ในการ
เขียนรายงานนักเรียนควรใช้ภาษาที่อ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา และส่วน
สุดท้ายเป็นคู่มือการใช้งานโครงงาน ซึ่งประกอบด้วย
ส่วนแรกของรายงานจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงาน โดยส่วนใหญ่ได้เขียนไว้ใน
ข้อเสนอโครงงานบ้างแล้ว ยกเว้น กิตติกรรมประกาศ ซึ่งเป็นคากล่าวขอบคุณบุคลากรหรือ
หน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนช่วยให้การทาโครงงานสาเร็จ อีกส่วนหนึ่งคือ บทคัดย่อ ซึ่งเป็น
การอธิบายโดยสรุปให้เห็นถึงผลการศึกษาที่ได้จากการทาโครงงาน โดยเขียนเป็นความเรียง
บทที่ 1 บทนา เป็นส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานโดยได้เขียนไว้
แล้วในข้อเสนอโครงงานซึ่งประกอบด้วย ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
วัตถุประสงค์ ขอบเขตของโครงงาน
บทที่ 2 หลักการและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูล
หลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการที่จะนามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึ่งรวมถึงการระบุ
ผลงานของผู้อื่น ที่ผู้จัดทาโครงงานนามาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิ่มเติมด้วย
บทที่ 3 วิธีดาเนินการ อธิบายขั้นตอนการดาเนินงานโดยละเอียด ระบุปัญหา
หรืออุปสรรคที่พบ วิธีการที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทาโครงงาน
บทที่ 4 ผลการศึกษา นาเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนาได้ โดยอาจแสดงเป็นรูปภาพ
ตาราง กราฟ ข้อความ ทั้งนี้ต้องการสื่อความหมายให้ผู้อื่นเข้าใจได้ง่าย
บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ การสรุปผลการดาเนินงาน เป็นการอธิบายผลสรุปที่ได้
จากการทาโครงงาน ถ้ามีการตั้งสมมุติฐานควรระบุถึงข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านสมมุตติฐาน
ที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ การนาผลการทดลองหรือพัฒนาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทา
โครงงานหรือข้อสังเกตที่สาคัญหรือข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้นจากการทาโครงงานนี้ และควรมี
ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงโครงงานเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้อื่นศึกษาค้นคว้าต่อไปในอนาคต นอกจากนี้
ควรกล่าวถึงประโยชน์ที่ผู้จัดทาและผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการทาโครงงานด้วย
บรรณานุกรม รวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสารเอกสารและเว็บไซต์ ที่ผู้จัดทาโครงงานใช้
ศึกษา ค้นคว้ารายละเอียด ที่นามาใช้ประโยชน์ในการทาโครงงาน ทั้งนี้เขียนเอกสารบรรณานุกรม
ต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย
คู่มือการใช้งาน เป็นคู่มืออธิบายวิธีการใช้งานผลงานนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย ชื่อ
ผลงาน คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์เพื่อที่จะใช้กับผลงานนั้นได้ (ถ้ามี) รายละเอียดของ
คอมพิวเตอร์ ต้องมีรายชื่อซอฟต์แวร์ ผลงานนั้นทาหน้าที่อะไรบ้าง รับอะไรเป็นข้อมูลเข้า และส่ง
อะไรออกมาเป็นข้อมูลออก วิธีการใช้งานควรอธิบายขั้นตอนตามลาดับการทางาน ที่สามารถเข้าใจได้
ง่าย ข้อแนะนาการใช้งานสามารถแยกออกจากรายงานหรือใส่ไว้ในภาคผนวกของรายงานก็ได้
แล้วแต่ดุลยพินิจของผู้จัดทา
6. การนาเสนอและแสดงโครงงาน โดยทั่วไปเมื่อโครงงานเสร็จสิ้นแล้ว ต้องมีการนาเสนอ
โครงงานให้กับผู้ที่ต้องการใช้งานหรือครูที่ปรึกษาโครงงาน ดังนั้นควรเตรียมเอกสารนาเสนอให้
สมบูรณ์ โดยอาจปรับย่อข้อความที่สาคัญมาจากการรายงานก็ได้ การนาเสนอในรูปแบบใดนั้นต้อง
เลือกให้เหมาะสมโดยพิจารณาวัตถุประสงค์ของงานนาเสนอ ชื่อ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ป้ายนิทรรศการ
เอกสารรายงาน แผ่นพับ นอกจากนี้ยังต้องวางแผนในการนาเสนอและสาธิตโครงงาน และควรฝึก
ตอบคาถามที่เกี่ยวข้องไว้ด้วย
6.1 ชื่อโครงงาน
6.2 ชื่อผู้จัดทาโครงงาน
6.3 ชื่อที่ปรึกษา
6.4 คาอธิบายถึงที่มาและความสาคัญของโครงงาน
6.5 วิธีการดาเนินการที่สาคัญ
6.6 การสาธิตผลงาน
6.7 ผลการสังเกตและข้อสรุปสาคัญที่ได้จากการทาโครงงาน
ถ้าเป็นการรายงานด้วยคาพูดต่อที่ประชุม ควรมีการเตรียมการในประเด็นต่อไปนี้
1) จัดลาดับความคิดในการนาเสนออย่างมีระบบ และนาเสนออย่างตรงไปตรงมาด้วยภาษาที่
ชัดเจนเข้าใจง่าย
2) ทาความเข้าใจกับเรื่องที่จะอธิบาย รวมไปถึงการเตรียมข้อมูลที่อาจจะต้องใช้ในการตอบ
คาถาม
3) หลีกเลี่ยงการอ่านรายงาน
4) ควรมองไปยังผู้ฟังรายงาน
5) ตอบคาถามอย่างตรงไปตรงมา
6) รายงานให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กาหนด
7) ควรใช้สื่อ เช่น สไลด์ แผ่นใส ประกอบการรายงาน
8) ความเหมาะสมของเนื้อหาต่อผู้ฟัง
9) ถ้าเป็นโครงงานพัฒนาผลงาน ผลงานนั้นควรอยู่ในสภาพที่ทางานได้เป็นอย่างดี
การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ นอกจากจะเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้นาความรู้
ทางคอมพิวเตอร์มาใช้แก้ปัญหา พัฒนาคิดค้นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้
ผู้เรียนมีความสนใจที่จะทางานวิจัย และประกอบอาชีพทางคอมพิวเตอร์มากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้นจึง
น่าที่จะจัดให้การทาโครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมในทุกระดับชั้น เพื่อนาไปสู่การพัฒนา
ประเทศต่อไปในอนาคต

More Related Content

What's hot

¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãì
¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãì¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãì
¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãìPhatchara Chanosot
 
กิจกรรม4
กิจกรรม4กิจกรรม4
กิจกรรม4thunnattapat
 
กิจกรรม4
กิจกรรม4กิจกรรม4
กิจกรรม4thunnattapat
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์5,27
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์5,27ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์5,27
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์5,27Chonlakan Kuntakalang
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์Fern Chutimon
 
ขั้นตอนการทำงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำงานคอมพิวเตอร์ทาม ได้ไหมดาว
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์chadanut nuallaor
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4Chanoknan Mongchuy
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4Wichayaporn02
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4Chanin Monkai
 
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)Wiroonanong tawkum
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอม
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมขั้นตอนการทำโครงงานคอม
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมGuanaim Saengsawang
 
โครงงาานคอมพิวเตอร์
โครงงาานคอมพิวเตอร์โครงงาานคอมพิวเตอร์
โครงงาานคอมพิวเตอร์Chanita Wongkanjun
 
ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์Manop Amphonyothin
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์Pongpan Pairojana
 

What's hot (19)

ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 
¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãì
¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãì¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãì
¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãì
 
กิจกรรม4
กิจกรรม4กิจกรรม4
กิจกรรม4
 
กิจกรรม4
กิจกรรม4กิจกรรม4
กิจกรรม4
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์5,27
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์5,27ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์5,27
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์5,27
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรม4
กิจกรรม4กิจกรรม4
กิจกรรม4
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่  4กิจกรรมที่  4
กิจกรรมที่ 4
 
ขั้นตอนการทำงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรมที่4
กิจกรรมที่4 กิจกรรมที่4
กิจกรรมที่4
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4
 
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอม
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมขั้นตอนการทำโครงงานคอม
ขั้นตอนการทำโครงงานคอม
 
โครงงาานคอมพิวเตอร์
โครงงาานคอมพิวเตอร์โครงงาานคอมพิวเตอร์
โครงงาานคอมพิวเตอร์
 
ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 

Similar to กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์

กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4noonnoi555
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4noonnoi555
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์May Saksit
 
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์komsan saithep
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1yoyensry
 
งานนำเสนอขั้นตอนการทำโครงงาน
งานนำเสนอขั้นตอนการทำโครงงานงานนำเสนอขั้นตอนการทำโครงงาน
งานนำเสนอขั้นตอนการทำโครงงานSirirat Raiwklang
 
กิจกรรมที่4
กิจกรรมที่4กิจกรรมที่4
กิจกรรมที่4Jirakit Suttikham
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์annny002
 
กิจกรรมที่ 4 : ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 : ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 4 : ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 : ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์Nattaporn Chaisanfoon
 

Similar to กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ (13)

กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรม4
กิจกรรม4กิจกรรม4
กิจกรรม4
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
งานนำเสนอขั้นตอนการทำโครงงาน
งานนำเสนอขั้นตอนการทำโครงงานงานนำเสนอขั้นตอนการทำโครงงาน
งานนำเสนอขั้นตอนการทำโครงงาน
 
กิจกรรมที่4
กิจกรรมที่4กิจกรรมที่4
กิจกรรมที่4
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 
งาน4
งาน4งาน4
งาน4
 
กิจกรรมที่4
กิจกรรมที่4กิจกรรมที่4
กิจกรรมที่4
 
กิจกรรมที่ 4 : ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 : ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 4 : ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 : ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 

กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์

  • 3. 1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจจะทา โดยทั่วไปเรื่องที่จะมาพัฒนาเป็น โครงงานคอมพิวเตอร์มักได้จากปัญหา คาถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการ สังเกตสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์หรือสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเรา จาก แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาเป็นโครงงาน คอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ประกอบที่สาคัญดังต่อไปนี้ 1.1 ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา 1.2 สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้ 1.3 มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษา 1.4 มีเวลาเพียงพอ 1.5 มีงบประมาณเพียงพอ 1.6 มีความปลอดภัย
  • 4. 2. ศึกษาค้นคว้าและวางแผน การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล รวมถึงการขอคาปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนด ขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่ จะศึกษา จนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงานนั้นได้
  • 5. 3. จัดทาข้อเสนอโครงงานที่จะทา ดังนี้ 3.1 ศึกษาค้นคว้าเอกสารอ้างอิงและรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ทรงคุณวุฒิ 3.2 วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อกาหนดขอบเขตและลักษณะของโครงการที่จะพัฒนา 3.3 ออกแบบการพัฒนา มีการกาหนดลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และ ตัวแปลภาษา โปรแกรม และวัสดุต่างๆที่ต้องใช้ 3.4 กาหนดตารางการปฏิบัติงานของการจัดทาเค้าโครงของโครงงาน ลงมือทาโครงงาน และสรุปรายงานโครงงาน โดยกาหนดช่วงเวลาอย่างกว้าง ๆ 3.5 ทาการพัฒนาโครงงานขั้นต้น เพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น โดยอาจจะทาการ พัฒนาส่วนย่อย ๆ บางส่วนตามที่ได้ออกแบบไว้แล้ว นาผลจากการศึกษาในช่วงนี้ไปปรับปรุงแผนการ ทดลองที่ออกแบบไว้ในครั้งแรกให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น 3.6 เสนอเค้าโครงของโครงงานคอมพิวเตอร์ต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อขอคาแนะนาและ ปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้การวางแผนและดาเนินการทาโครงงานเป็นไปอย่างเหมาะสมเป็นขั้นตอนตั้งแต่ เริ่มต้นจนสิ้นสุด
  • 6. 4. การลงมือทาโครงงาน เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจาก อาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ก็เสมือนว่าการจัดทาโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึ่ง ขั้นตอนต่อไปเป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้ เช่น จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ให้พร้อม รวมทั้งการกาหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของสมาชิกในกลุ่มให้ชัดเจน แล้วจึงดาเนินการทาโครงงาน ขณะเดียวกันต้องมีการทดสอบ ตรวจสอบ ปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนาโครงงานเป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้น ทางานได้ถูกต้องตรง กับความต้องการที่ระบุไว้ในเป้าหมายและเกิดประสิทธิภาพตามขั้นตอนต่อไปนี้ 4.1 การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆที่จะ ใช้ในการพัฒนาให้พร้อมและควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สาหรับบันทึกการทากิจกรรมต่างๆระหว่างการทาโครงงาน ได้แก่ การดาเนินการอย่างไร ได้ผล อย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆที่พบ
  • 7. 4.2 การลงมือพัฒนา เป็นการปฏิบัติตามแผนงานที่ได้วางไว้ในเค้าโครง ซึ่งสามารถ เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ หากพบว่าจะช่วยให้ผลงานพัฒนาได้ดีขึ้น โดยจัดระบบการทางาน ทาส่วนที่ เป็นหลักสาคัญให้เสร็จก่อน จึงค่อยทาส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริม เพื่อให้โครงงานมีความ สมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทาให้มีการตกลงรายละเอียดในการเชื่อมต่อชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย รวมทั้งต้องพัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ บันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบและครบถ้วน 4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เพื่อให้ แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้น ทางานได้ถูกต้องตรงตามความต้องการที่ระบุไว้ในเป้าหมาย และมี ประสิทธิภาพ
  • 8. 4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทา ข้อสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัด ครอบคลุมหัวข้อโครงงาน เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบ จากการทาโครงงานและอภิปรายผล เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนาไปหาความสัมพันธ์ กับ หลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้รวมไปถึงหลักการ ทฤษฎี หรือผลงาน ของผู้อื่นมาใช้ประกอบการอภิปรายผลได้ 4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทาโครงงาน เสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สาคัญหรือปัญหาซึ่งสามารถเขียนเป็น ข้อเสนอแนะ สาหรับผู้ที่สนใจจะนาไปพัฒนาผลงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • 9. 5. เขียนรายงานและจัดทาคู่มือการใช้ การเขียนรายงานเป็นวิธีการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจแนวคิด วิธีดาเนินการศึกษา ค้นคว้าหาข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงาน ในการ เขียนรายงานนักเรียนควรใช้ภาษาที่อ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา และส่วน สุดท้ายเป็นคู่มือการใช้งานโครงงาน ซึ่งประกอบด้วย ส่วนแรกของรายงานจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงาน โดยส่วนใหญ่ได้เขียนไว้ใน ข้อเสนอโครงงานบ้างแล้ว ยกเว้น กิตติกรรมประกาศ ซึ่งเป็นคากล่าวขอบคุณบุคลากรหรือ หน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนช่วยให้การทาโครงงานสาเร็จ อีกส่วนหนึ่งคือ บทคัดย่อ ซึ่งเป็น การอธิบายโดยสรุปให้เห็นถึงผลการศึกษาที่ได้จากการทาโครงงาน โดยเขียนเป็นความเรียง
  • 10. บทที่ 1 บทนา เป็นส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานโดยได้เขียนไว้ แล้วในข้อเสนอโครงงานซึ่งประกอบด้วย ที่มาและความสาคัญของโครงงาน วัตถุประสงค์ ขอบเขตของโครงงาน บทที่ 2 หลักการและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูล หลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการที่จะนามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึ่งรวมถึงการระบุ ผลงานของผู้อื่น ที่ผู้จัดทาโครงงานนามาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิ่มเติมด้วย บทที่ 3 วิธีดาเนินการ อธิบายขั้นตอนการดาเนินงานโดยละเอียด ระบุปัญหา หรืออุปสรรคที่พบ วิธีการที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทาโครงงาน
  • 11. บทที่ 4 ผลการศึกษา นาเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนาได้ โดยอาจแสดงเป็นรูปภาพ ตาราง กราฟ ข้อความ ทั้งนี้ต้องการสื่อความหมายให้ผู้อื่นเข้าใจได้ง่าย บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ การสรุปผลการดาเนินงาน เป็นการอธิบายผลสรุปที่ได้ จากการทาโครงงาน ถ้ามีการตั้งสมมุติฐานควรระบุถึงข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านสมมุตติฐาน ที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ การนาผลการทดลองหรือพัฒนาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทา โครงงานหรือข้อสังเกตที่สาคัญหรือข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้นจากการทาโครงงานนี้ และควรมี ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงโครงงานเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้อื่นศึกษาค้นคว้าต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ ควรกล่าวถึงประโยชน์ที่ผู้จัดทาและผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการทาโครงงานด้วย
  • 12. บรรณานุกรม รวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสารเอกสารและเว็บไซต์ ที่ผู้จัดทาโครงงานใช้ ศึกษา ค้นคว้ารายละเอียด ที่นามาใช้ประโยชน์ในการทาโครงงาน ทั้งนี้เขียนเอกสารบรรณานุกรม ต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย คู่มือการใช้งาน เป็นคู่มืออธิบายวิธีการใช้งานผลงานนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย ชื่อ ผลงาน คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์เพื่อที่จะใช้กับผลงานนั้นได้ (ถ้ามี) รายละเอียดของ คอมพิวเตอร์ ต้องมีรายชื่อซอฟต์แวร์ ผลงานนั้นทาหน้าที่อะไรบ้าง รับอะไรเป็นข้อมูลเข้า และส่ง อะไรออกมาเป็นข้อมูลออก วิธีการใช้งานควรอธิบายขั้นตอนตามลาดับการทางาน ที่สามารถเข้าใจได้ ง่าย ข้อแนะนาการใช้งานสามารถแยกออกจากรายงานหรือใส่ไว้ในภาคผนวกของรายงานก็ได้ แล้วแต่ดุลยพินิจของผู้จัดทา
  • 13. 6. การนาเสนอและแสดงโครงงาน โดยทั่วไปเมื่อโครงงานเสร็จสิ้นแล้ว ต้องมีการนาเสนอ โครงงานให้กับผู้ที่ต้องการใช้งานหรือครูที่ปรึกษาโครงงาน ดังนั้นควรเตรียมเอกสารนาเสนอให้ สมบูรณ์ โดยอาจปรับย่อข้อความที่สาคัญมาจากการรายงานก็ได้ การนาเสนอในรูปแบบใดนั้นต้อง เลือกให้เหมาะสมโดยพิจารณาวัตถุประสงค์ของงานนาเสนอ ชื่อ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ป้ายนิทรรศการ เอกสารรายงาน แผ่นพับ นอกจากนี้ยังต้องวางแผนในการนาเสนอและสาธิตโครงงาน และควรฝึก ตอบคาถามที่เกี่ยวข้องไว้ด้วย
  • 14. 6.1 ชื่อโครงงาน 6.2 ชื่อผู้จัดทาโครงงาน 6.3 ชื่อที่ปรึกษา 6.4 คาอธิบายถึงที่มาและความสาคัญของโครงงาน 6.5 วิธีการดาเนินการที่สาคัญ 6.6 การสาธิตผลงาน 6.7 ผลการสังเกตและข้อสรุปสาคัญที่ได้จากการทาโครงงาน
  • 15. ถ้าเป็นการรายงานด้วยคาพูดต่อที่ประชุม ควรมีการเตรียมการในประเด็นต่อไปนี้ 1) จัดลาดับความคิดในการนาเสนออย่างมีระบบ และนาเสนออย่างตรงไปตรงมาด้วยภาษาที่ ชัดเจนเข้าใจง่าย 2) ทาความเข้าใจกับเรื่องที่จะอธิบาย รวมไปถึงการเตรียมข้อมูลที่อาจจะต้องใช้ในการตอบ คาถาม 3) หลีกเลี่ยงการอ่านรายงาน 4) ควรมองไปยังผู้ฟังรายงาน 5) ตอบคาถามอย่างตรงไปตรงมา 6) รายงานให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กาหนด 7) ควรใช้สื่อ เช่น สไลด์ แผ่นใส ประกอบการรายงาน 8) ความเหมาะสมของเนื้อหาต่อผู้ฟัง 9) ถ้าเป็นโครงงานพัฒนาผลงาน ผลงานนั้นควรอยู่ในสภาพที่ทางานได้เป็นอย่างดี
  • 16. การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ นอกจากจะเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้นาความรู้ ทางคอมพิวเตอร์มาใช้แก้ปัญหา พัฒนาคิดค้นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ ผู้เรียนมีความสนใจที่จะทางานวิจัย และประกอบอาชีพทางคอมพิวเตอร์มากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้นจึง น่าที่จะจัดให้การทาโครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมในทุกระดับชั้น เพื่อนาไปสู่การพัฒนา ประเทศต่อไปในอนาคต