More Related Content
Similar to ขั้นตอนการทำโครงงาน (15)
More from Jirayut Wannakorn (7)
ขั้นตอนการทำโครงงาน
- 2. 1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
โดยทั่วไปเรื่องที่จะนามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คาถาม หรือ
ความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ รอบตัว
ปัญหาที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ได้จากแหล่งต่างๆ กัน ดังนี้
1. การอ่านค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์ หรือวารสารต่างๆ
2. การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ
3. การฟังบรรยายทางวิชาการ รายการวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งการสนทนาอภิปราย
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างเพื่อนนักเรียนหรือกับบุคคลอื่นๆ
4. กิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน
5. งานอดิเรกของนักเรียน
6. การเข้าชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์
- 5. 3. จัดทาเค้าโครงโครงงาน
องค์ประกอบเค้าโครงโครงงาน รายละเอียดที่ต้องระบุ
ชื่อโครงงาน ทำอะไร กับใคร เพื่ออะไร
ประเภทโครงงาน วิเครำะห์จำกลักษณะของประโยชน์หรือผลงำนที่ได้
ชื่อผู้จัดทาโครงงาน ผู้รับผิดชอบโครงงำน อำจเป็นรำยบุคคล หรือรำยกลุ่มก็ได้
ครูที่ปรึกษาโครงงาน
ครู-อำจำรย์ผู้ทำหน้ำที่เป็นที่ปรึกษำ และควบคุมกำรทำ
โครงงำนของนักเรียน
ครูที่ปรึกษาร่วม
ครู-อำจำรย์ผู้ทำหน้ำที่เป็นที่ปรึกษำร่วม ให้คำแนะนำในกำร
ทำโครงงำนของนักเรียน
ระยะเวลาดาเนินงาน
ระยะเวลำกำรดำเนินงำนโครงงำน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
กำหนดเป็นวัน หรือ เดือนก็ได้
ประเภทโครงงาน วิเครำะห์จำกลักษณะของประโยชน์หรือผลงำนที่ได้
- 6. องค์ประกอบเค้าโครงโครงงาน รายละเอียดที่ต้องระบุ
แนวคิด ที่มา และความสาคัญ
สภำพปัจจุบันที่เป็นควำมต้องกำรและควำมคำดหวังที่จะ
เกิดผล
วัตถุประสงค์
สิ่งที่ต้องกำรให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงงำนทั้งในเชิง
กระบวนกำร และผลผลิต
หลักการและทฤษฎี หลักกำรและทฤษฎีที่นำมำใช้ในกำรพัฒนำโครงงำน
วิธีดาเนินงาน
กิจกรรมหรือขั้นตอนกำรดำเนินงำน เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์
งบประมำณ และผู้รับผิดชอบ
ขั้นตอนการปฏิบัติ
วัน เวลำ และกิจกรรมดำเนินกำรต่ำงๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจน
สิ้นสุด
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
สภำพของผลที่ต้องกำรให้เกิด ทั้งที่เป็นผลผลิต กระบวนกำร
และผลกระทบ
เอกสารอ้างอิง
สื่อเอกสำร ข้อมูลที่ได้จำกแหล่งต่ำงๆ ที่นำมำใช้ในกำร
ดำเนินงำน
- 7. 4. การจัดทาโครงงาน
เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ก็เสมือนว่าการจัดทา
โครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึ่ง ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ ดังนี้
4.1 ) การเตรียมการ
กำรเตรียมกำร ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ในกำรพัฒนำให้พร้อมด้วย และควรเตรียม
สมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อควำมไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับบันทึกกำรทำกิจกรรมต่ำงๆ ระหว่ำงทำโครงงำน ได้แก่ ได้
ปฏิบัติอย่ำงไร ได้ผลอย่ำงไร มีปัญหำและแก้ไขได้หรือไม่อย่ำงไร รวมทั้งข้อสังเกตต่ำงๆ ที่พบ
4.2 ) การลงมือพัฒนา
1. ปฏิบัติตำมแผนงำนที่วำงไว้ในเค้ำโครง แต่อำจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้ำพบว่ำจะช่วยทำให้ผลงำนดีขึ้น
2. จัดระบบกำรทำงำนโดยทำส่วนที่เป็นหลักสำคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่อยทำ ส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริม
เพื่อให้โครงงำนมีควำมสมบูรณ์มำกขึ้น และถ้ำมีกำรแบ่งงำนกันทำ ให้ตกลงรำยละเอียดในกำรต่อเชื่อมชิ้นงำนที่ชัดเจน
ด้วย
3. พัฒนำระบบงำนด้วยควำมละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่ำงเป็นระบบและครบถ้วน
- 8. 4.3 ) การทดสอบผลงานและแก้ไข
กำรตรวจสอบควำมถูกต้องของผลงำน เป็นควำมจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่ำผลงำนที่พัฒนำขึ้นทำงำนได้ถูกต้องตรงกับควำม
ต้องกำร ที่ระบุไว้ในเป้ำหมำยและทำด้วยประสิทธิภำพสูงด้วย
4.4 ) การอภิปรายและข้อเสนอแนะ
เมื่อพัฒนำผลงำนเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทำสรุปด้วยข้อควำมที่สั้นกะทัดรัดอย่ำงครอบคลุม เพื่อช่วยให้ผู้อ่ำนได้เข้ำใจถึงสิ่งที่
ค้นพบจำกกำรทำโครงงำน และทำกำรอภิปรำยผลด้วย เพื่อพิจำรณำข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนำ ไปหำควำมสัมพันธ์กับหลักกำร
ทฤษฎี หรือผลงำนที่ผู้อื่นได้ศึกษำไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงกำรนำหลักกำร ทฤษฎี หรือผลงำนของผู้อื่นมำใช้ประกอบกำรอภิปรำยผลที่ได้
ด้วย
4.5 ) แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ
เมื่อทำโครงงำนเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอำจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สำคัญ หรือปัญหำ ซึ่งสำมำรถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและ
สิ่งที่ควรจะศึกษำและหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้
- 10. 5.2 บทนา
บทนำเป็นส่วนรำยละเอียดของเนื้อหำของโครงงำนซึ่งประกอบด้วย
1. ที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน
2. เป้ำหมำยของกำรศึกษำค้นคว้ำ
3. ขอบเขตของโครงงำน
5.3 หลักการและทฤษฎี
หลักกำรและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จำกกำรศึกษำหำข้อมูลหรือหลักกำร ทฤษฎี หรือวิธีกำรที่จะ
นำมำใช้ในกำรพัฒนำโครงงำน ซึ่งรวมถึงกำรระบุผลงำนของผู้อื่นที่นักเรียนนำมำเปรียบเทียบหรือพัฒนำเพิ่มเติม
ด้วย
5.4 วิธีดาเนินการ
วิธีดำเนินกำร อธิบำยขั้นตอนกำรดำเนินงำนโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุปัญหำหรืออุปสรรคที่พบพร้อมทั้ง
วิธีกำรที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในกำรทำงำน
5.5 ผลการศึกษา
ผลกำรศึกษำ นำเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนำได้ โดยอำจแสดงเป็นตำรำง หรือ กรำฟ หรือข้อควำม
ทั้งนี้ให้คำนึงถึงควำมเข้ำใจของผู้อ่ำนเป็นหลัก
- 11. 5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ
สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบำยผลสรุปที่ได้จำกกำรทำ งำน ถ้ำมีกำรตั้งสมมติฐำนควรระบุด้วยว่ำข้อมูล
ที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้ำนสมมติฐำนที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจำกนั้นยังควรกล่ำวถึงกำรนำ ผลกำรทดลองหรือ
พัฒนำไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของกำรทำโครงงำน หรือข้อสังเกตที่สำคัญ หรือข้อผิดพลำดบำงประกำรที่เกิดขึ้น
จำกกำรทำ โครงงำนนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อกำรปรับปรุงแก้ไขหำกจะมีผู้ศึกษำค้นคว้ำในเรื่องทำนองนี้ต่อไปใน
อนำคตด้วย
5.7 ประโยชน์
ประโยชน์ที่ได้รับจำกโครงงำน ระบุประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจำกกำรพัฒนำโครงงำนนั้น และประโยชน์ที่
ผู้ใช้จะได้รับจำกกำรนำผลงำนของโครงงำนไปใช้ด้วย
5.8 บรรณานุกรม
บรรณำนุกรม รวบรวมรำยชื่อหนังสือ วำรสำร เอกสำร หรือเว็บไซด์ต่ำงๆ ที่ผู้ทำ โครงงำนใช้ค้นคว้ำ
หรืออ่ำนเพื่อศึกษำข้อมูลและรำยละเอียดต่ำงๆ ที่นำมำใช้ประโยชน์ในกำรทำ โครงงำนนี้กำรเขียนเอกสำร
บรรณำนุกรมต้องให้ถูกต้องตำมหลักกำรเขียนด้วย
- 12. 5.9 การจัดทาคู่มือการใช้งาน
หำโครงงำนที่นักเรียนจัดทำ เป็นกำรพัฒนำระบบใหม่ขึ้นมำ ให้นักเรียนจัดทำคู่มืออธิบำยวิธีกำรใช้ผลงำนนั้นโดย
ละเอียด ซึ่งประกอบด้วย
1. ชื่อผลงำน
2. ควำมต้องกำรของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรำยละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อจะใช้ผลงำนนั้นได้
3. ควำมต้องกำรของซอฟต์แวร์ ระบุรำยชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงำน
นั้นทำงำนได้อย่ำงสมบูรณ์
4. คุณลักษณะของผลงำน อธิบำยว่ำผลงำนนั้นทำ หน้ำที่อะไรบ้ำง รับอะไรเป็นข้อมูลขำเข้ำและส่วนอะไร
ออกมำเป็นข้อมูลขำออก
5. วิธีกำรใช้งำนของแต่ละฟังก์ชัน อธิบำยว่ำจะต้องกดคำสั่งใด หรือกดปุ่มใด เพื่อให้ผลงำนทำงำนใน
ฟังก์ชันหนึ่งๆ
- 13. 6. การนาเสนอและแสดงโครงงาน
การนาเสนอและการแสดงผลงานเป็นขั้นตอนที่สาคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทาโครงงาน เพื่อแสดงออก
ถึงผลิตผลความคิด ความพยายามในการทางานที่ผู้ทาโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีทาให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึง
ผลงานนั้น การเสนอผลงานอาจทาได้ในหลายรูปแบบต่างๆ กัน เช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบาย
ประกอบการรายงานด้วยคาพูดในที่ประชุม การจัดนิทรรศการโดยโปสเตอร์และอธิบายด้วยคาพูด เป็นต้น โดย
ผลงานที่นามาเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
1. ชื่อโครงงาน
2. ชื่อผู้จัดทาโครงงาน
3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
4. คาอธิบายถึงที่มาและความสาคัญของโครงงาน
5. วิธีการดาเนินการที่สาคัญ
6. การสาธิตผลงาน
7. ผลการสังเกตและข้อสรุปสาคัญที่ได้จากการทาโครงงาน