เหมาแท็กซี่

1. เหมาแท็กซี่ให้บริการทั้งแบบผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง และผู้โดยสาร 4 ที่นั่ง คอยให้บริการท่าน จะไปไหนใกล้-
ไกล ให้เราบริการท่านได้ทุกสถานที่ โดยราคาเป็นกันเอง พขร.ของเรามีวินัย ใส่ใจบริการ เพียงแค่ท่าน
โทรศัพท์มาหาเรา เรายินดีให้บริการครับเจ้านาย 061-680-4343
จากเหมาแท็กซี่กรุงเทพ – สนามบิน
จากสนามบิน-ตามจุดหมาย
Taxi 4 ประตู
ไป กลับ
กรุงเทพ ในเมือง 600 600
Bangkok-DMK Airport 700 700
กทม.-พัทยา 1,500 1,500
กทม.หัวหิน 2,200 2,200
กทม.-ระยอง 2,200 2,200
กทม.-เกาะช้าง 3,500 3,500
กทม.-ภูเก็ต 10,000 10,000
กทม.-อุดรธานี 6,500 6,500
กทม.-อุบลราชธานี 6,000 6,000
กทม.-อยุธยา 1,200 1,200
กทม.-เชียงราย 9,000 9,000
กทม -เชียงใหม่ 9,000 9,000
กทม.-นครราชสีมา (โคราช) 3,000 3,000
กทม.-ขอนแก่น 4,500 4,500
กทม-ราชบุรี (ตลาดน้าดาเนินสะดวก ) 1,400 1,400
กทม.-เพชรบูรณ์ 4,000 4,000
กทม.-จันทบุรี 2,500 5,200
กทม.-อรัญประเทศ 2,500 2,500
กทม.พิษณุโลก 4,000 4,000

2. จากเหมาแท็กซี่กรุงเทพ – สนามบิน
จากสนามบิน-ตามจุดหมาย
Taxi รถครอบครัว ( 7ที่นั่ง )
ไป กลับ
กรุงเทพ ในเมือง (ฝั่งธน900) 800 800
ในกทม.-ดอนเมือง 800 800
กรุงเทพ-พัทยา 1,800 1,800
กรุงเทพ-หัวหิน 2,400 2,400
กทม.-ระยอง 2,400 2,400
กทม.-เกาะช้าง 4,500 45
กทม.-ภูเก็ต 12,000 12,000
กทม.-อุดรธานี 7,000 7,000
กทม.-อุบลราชธานี 6,500 6,500
กทม.-อยุธยา 1,300 1,300
กทม.-เชียงราย 9,000 9,000
กทม.-เชียงใหม่ 8,500 8,500
กทม.-นครราชสีมา (โคราช) 3,000 3,000
กทม.-ขอนแก่น 5,000 5,000
กทม.-ราชบุรี (ตลาดน้าดาเนินสะดวก ) 1,700 1,700
เพชรบูรณ์ 5,000 5,000
จันทบุรี 2,700 2,700
กทม.-อรัญประเทศ 2,800 2,800
ต้องการเหมาแท็กซี่ TAXIThailand1 (เรียกแท็กซี่,เหมาแท็กซี่)
Mr. Sampat Thasenhot
คุณ สัมภาษ ทะเสนฮด
โทรศัพท์ : 061 6804343
อีเมล์ : sampat4244@gmail.com
ID Line : sptsh
เว็บไซต์ : http://www.taxithailand1.com/
Facebook : TAXIThailand1

3. ประวัติแท็กซี่ไทย
ในประเทศไทย เริ่มมีแท็กซี่ให้บริการเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2466 (ค.ศ. 1923) โดยพระยาเทพหัสดิน ร่วมกับ
พระยาพิไชยชาญฤทธิ์ เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท แท็กซี่สยาม ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีรถให้บริการ 14 คัน คิด
ค่าบริการตามไมล์ไมล์ละ 0.15 บาท (1 ไมล์ = 1.609344 กิโลเมตร) โดยใช้รถยนต์ยี่ห้อออสติน แต่ประสบ
ปัญหาขาดทุน จึงต้องล้มเลิกกิจการไป จนกระทั่งพ.ศ. 2490 (ค.ศ. 1947) เจ้าของธุรกิจเอกชนบางรายได้มี
เริ่มการฟื้นฟูกิจการแท็กซี่ในประเทศไทยขึ้นมาใหม่ โดยในช่วงแรกจะนิยมใช้รถยนต์ยี่ห้อเรโนลต์ยุคต่อมา
ก็เปลี่ยนกลับมานิยมยี่ห้อออสติน ตามด้วยรถ ดัทสัน บลูเบิร์ด, และโตโยต้าในที่สุด เหมาแท็กซี่
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนั้น ป้ายทะเบียนของรถประเภทแท็กซี่จะมีราคาแพง (หลักแสนบาท) จึงทาให้ผู้ให้
บริการใช้รถยนต์แท็กซี่นานหลายสิบปีจนมีสภาพชารุดทรุดโทรมเพื่อให้คุ้มทุนค่าป้ายทะเบียน อีกทั้ง
กฎหมายมิได้บังคับให้รถแท็กซี่มีการติดมิเตอร์ การจ่ายค่าโดยสารจึงเป็นไปตามการต่อรองระหว่าง
ผู้โดยสารและผู้ให้บริการ เมื่อยุคสมัยผ่านไป ในช่วงเวลาหนึ่ง แท็กซี่กลายเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาจราจร
จากการจอดต่อรองราคาดังกล่าว ดังนั้นใน พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยมี
การออกกฎหมายให้รถแท็กซี่ที่จดทะเบียนใหม่ตั้งแต่ พ.ศ. 2535 เป็นต้นไป ต้องติดมิเตอร์ อีกทั้งกรมการ
ขนส่งทางบกยังได้เปลี่ยนระบบป้ายทะเบียนแท็กซี่ ให้จดทะเบียนได้ในราคาถูกลงจากเดิม (หลักพันบาท)
แต่จากัดอายุของรถแท็กซี่ไว้มิให้เกิน 12 ปี หากเกินจากนี้จะต้องปลดประจาการไม่สามารถเป็นรถแท็กซี่ได้
อีก และยังได้สั่งให้เปลี่ยนสีรถแท็กซี่บุคคล จากสี "ดา-เหลือง" ในระบบป้ายแบบเก่า เป็นสี "เขียว-เหลือง"
ในระบบป้ายแบบจากัดอายุ