More Related Content
Similar to กิจกรรมที่ 4 (13)
กิจกรรมที่ 4
- 2. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมำพัฒนำเป็นโครงงำนคอมพิวเตอร์ มักจะได้มำจำกปัญหำ คำถำม หรือควำมสนใจใน
เรื่องต่ำงๆ จำกกำรสังเกตสิ่งต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่ำงๆ รอบตัว ปัญหำที่จะนำมำ
พัฒนำโครงงำนคอมพิวเตอร์ได้จำกแหล่งต่ำงๆ กัน ดังนี้
1. กำรอ่ำนค้นคว้ำจำกหนังสือ เอกสำร หนังสือพิมพ์ หรือวำรสำรต่ำงๆ
2. กำรไปเยี่ยมชมสถำนที่ต่ำงๆ
3. กำรฟังบรรยำยทำงวิชำกำร รำยกำรวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งกำรสนทนำอภิปรำยแลกเปลี่ยน
ควำมคิดเห็นระหว่ำงเพื่อนนักเรียนหรือกับบุคคลอื่นๆ
4. กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนในโรงเรียน
5. งำนอดิเรกของนักเรียน
6. กำรเข้ำชมงำนนิทรรศกำรหรืองำนประกวดโครงงำนคอมพิวเตอร์
- 5. องค์ประกอบของเค้าโครงของโครงงาน
• ชื่อโครงงาน
• ประเภทโครงงาน
• ชื่อผู้จัดทาโครงงาน
• ครูที่ปรึกษาโครงงาน
• ครูที่ปรึกษาร่วม
• ระยะเวลาดาเนินงาน
• แนวคิด ที่มา และความสาคัญ
• วัตถุประสงค์
• หลักการและทฤษฎี
• วิธีดาเนินงาน
• ขั้นตอนการปฏิบัติ
• ผลที่คาดว่าจะได้รับ
• เอกสารอ้างอิง
ทาอะไร กับใคร เพื่ออะไร
วิเคราะห์จากลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ได้
ผู้รับผิดชอบโครงงาน อาจเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มก็ได้
ครู-อาจารย์ผู้ทาหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และควบคุมการทาโครงงานของนักเรียน
ครู-อาจารย์ผู้ทาหน้าที่เป็นที่ปรึกษาร่วม ให้คาแนะนาในการทาโครงงานของนักเรียน
ระยะเวลาการดาเนินงานโครงงาน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด กาหนดเป็นวัน หรือ เดือนก็ได้
สภาพปัจจุบันที่เป็นความต้องการและความคาดหวังที่จะเกิดผล
สิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงงานทั้งในเชิงกระบวนการ และผลผลิต
หลักการและทฤษฎีที่นามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน
กิจกรรมหรือขั้นตอนการดาเนินงาน เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ และผู้รับผิดชอบ
วัน เวลา และกิจกรรมดาเนินการต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
สภาพของผลที่ต้องการให้เกิด ทั้งที่เป็นผลผลิต กระบวนการ และผลกระทบ
สื่อเอกสาร ข้อมูลที่ได้จากแหล่งต่างๆ ที่นามาใช้ในการดาเนินงาน
- 6. การลงมือทาโครงงาน
เมื่อเค้ำโครงของโครงงำนได้รับควำมเห็นชอบจำกอำจำรย์ที่ปรึกษำแล้ว ก็เสมือนว่ำกำรจัดทำโครงงำนได้ผ่ำนพ้นไปแล้วมำกกว่ำ
ครึ่ง ขั้นตอนต่อไปจะเป็นกำรลงมือพัฒนำตำมขั้นตอนที่วำงแผนไว้ ดังนี้
4.1 การเตรียมการ
กำรเตรียมกำร ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ในกำรพัฒนำให้พร้อมด้วย และควร
เตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อควำมไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับบันทึกกำรทำกิจกรรมต่ำงๆ ระหว่ำงทำโครงงำน
ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่ำงไร ได้ผลอย่ำงไร มีปัญหำและแก้ไขได้หรือไม่อย่ำงไร รวมทั้งข้อสังเกตต่ำงๆ ที่พบ
4.2 การลงมือพัฒนา
1. ปฏิบัติตำมแผนงำนที่วำงไว้ในเค้ำโครง แต่อำจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้ำพบว่ำจะช่วยทำให้ผลงำนดีขึ้น
2. จัดระบบกำรทำงำนโดยทำส่วนที่เป็นหลักสำคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่่อยทำ ส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริม
เพื่อให้โครงงำนมีควำมสมบูรณ์มำกขึ้น และถ้ำมีกำรแบ่งงำนกันทำ ให้ตกลงรำยละเอียดในกำรต่อเชื่อมชิ้นงำนที่ชัดเจนด้วย
3. พัฒนำระบบงำนด้วยควำมละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่ำงเป็นระบบและครบถ้วน
4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข
กำรตรวจสอบควำมถูกต้องของผลงำน เป็นควำมจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่ำผลงำนที่พัฒนำขึ้นทำงำนได้ถูกต้องตรงกับควำม
ต้องกำร ที่ระบุไว้ในเป้ำหมำยและทำด้วยประสิทธิภำพสูงด้วย
- 8. การเขียนรายงาน
กำรเขียนรำยงำนเป็นวิธีกำรสื่อควำมหมำยเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้ำใจแนวคิด วิธีดำเนินกำรศึกษำค้นคว้ำ ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและ
ข้อเสนอแนะต่ำงๆ เกี่ยวกับโครงงำนนั้น ในกำรเขียนรำยงำนนักเรียนควรใช้ภำษำที่อ่ำนง่ำย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมำ ให้ครอบคลุม
หัวข้อต่ำงๆเหล่ำนี้
5.1 ส่วนนา
ส่วนนำ เป็นกำรให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงำนนั้นซึ่งประกอบด้วย
1. ชื่อโครงงำน
2. ชื่อผู้ทำโครงงำน
3. ชื่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ
4. คำขอบคุณ เป็นคำกล่ำวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงำน ที่มีส่วนช่วยทำให้โครงงำนสำเร็จ
5. บทคัดย่อ อธิบำยถึงที่มำ ควำมสำคัญ วัตถุประสงค์ วิธีดำเนินกำร และผลที่ได้โดยย่อ
5.2 บทนา
บทนำเป็นส่วนรำยละเอียดของเนื้อหำของโครงงำนซึ่งประกอบด้วย
1. ที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน
2. เป้ำหมำยของกำรศึกษำค้นคว้ำ
3. ขอบเขตของโครงงำน
5.3 หลักการและทฤษฎี
หลักกำรและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จำกกำรศึกษำหำข้อมูลหรือหลักกำร ทฤษฎี หรือวิธีกำรที่จะนำมำใช้ในกำรพัฒนำ
โครงงำน ซึ่งรวมถึงกำรระบุผลงำนของผู้อื่นที่นักเรียนนำมำเปรียบเทียบหรือพัฒนำเพิ่มเติมด้วย
- 9. การเขียนรายงาน
5.4 วิธีดาเนินการ
วิธีดำเนินกำร อธิบำยขั้นตอนกำรดำเนินงำนโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุปัญหำหรืออุปสรรคที่พบพร้อมทั้งวิธีกำรที่ใช้
แก้ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในกำรทำงำน
5.5 ผลการศึกษา
ผลกำรศึกษำ นำเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนำได้ โดยอำจแสดงเป็นตำรำง หรือ กรำฟ หรือข้อควำม ทั้งนี้ให้คำนึงถึง
ควำมเข้ำใจของผู้อ่ำนเป็นหลัก
5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ
สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบำยผลสรุปที่ได้จำกกำรทำ งำน ถ้ำมีกำรตั้งสมมติฐำนควรระบุด้วยว่ำข้อมูลที่ได้สนับสนุน
หรือคัดค้ำนสมมติฐำนที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจำกนั้นยังควรกล่ำวถึงกำรนำ ผลกำรทดลองหรือพัฒนำไปใช้ประโยชน์
อุปสรรคของกำรทำโครงงำน หรือข้อสังเกตที่สำคัญ หรือข้อผิดพลำดบำงประกำรที่เกิดขึ้นจำกกำรทำ โครงงำนนี้รวมทั้ง
ข้อเสนอแนะเพื่อกำรปรับปรุงแก้ไขหำกจะมีผู้ศึกษำค้นคว้ำในเรื่องทำนองนี้ต่อไปในอนำคตด้วย
- 10. การเขียนรายงาน
5.7 ประโยชน์
ประโยชน์ที่ได้รับจำกโครงงำน ระบุประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจำกกำรพัฒนำโครงงำนนั้น และประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจำกกำรนำ
ผลงำนของโครงงำนไปใช้ด้วย
5.8 บรรณานุกรม
บรรณำนุกรม รวบรวมรำยชื่อหนังสือ วำรสำร เอกสำร หรือเว็บไซด์ต่ำงๆ ที่ผู้ทำ โครงงำนใช้ค้นคว้ำ หรืออ่ำนเพื่อศึกษำข้อมูลและ
รำยละเอียดต่ำงๆ ที่นำมำใช้ประโยชน์ในกำรทำ โครงงำนนี้กำรเขียนเอกสำรบรรณำนุกรมต้องให้ถูกต้องตำมหลักกำรเขียนด้วย
5.9 การจัดทาคู่มือการใช้งาน
หำโครงงำนที่นักเรียนจัดทำ เป็นกำรพัฒนำระบบใหม่ขึ้นมำ ให้นักเรียนจัดทำคู่มืออธิบำยวิธีกำรใช้ผลงำนนั้นโดยละเอียด ซึ่ง
ประกอบด้วย
1. ชื่อผลงำน
2. ควำมต้องกำรของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรำยละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อจะใช้ผลงำนนั้นได้
3. ควำมต้องกำรของซอฟต์แวร์ ระบุรำยชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงำนนั้นทำงำนได้อย่ำงสมบูรณ์
4. คุณลักษณะของผลงำน อธิบำยว่ำผลงำนนั้นทำ หน้ำที่อะไรบ้ำง รับอะไรเป็นข้อมูลขำเข้ำและส่วนอะไรออกมำเป็นข้อมูลขำออก
5. วิธีกำรใช้งำนของแต่ละฟังก์ชัน อธิบำยว่ำจะต้องกดคำสั่งใด หรือกดปุ่มใด เพื่อให้ผลงำนทำงำนในฟังก์ชันหนึ่งๆ