รับทำโปรเจค.net 0831585457/ project@rubtumproject.com

1. บทที่ 3
วิธ ีด ำำ เนิน กำรวิจ ัย
กำรพัฒนำระบบกำรฝึกอบรมผ่ำนเว็บ (Web-based Training)
แบบผสมผสำนเป็นกำรศึกษำข้อมูลหลำยๆด้ำนเข้ำด้วยกัน คือ กำร
เลือกใช้โปรแกรมที่เป็นเครื่องมือสำำหรับกำรเรียนกำรสอนอย่ำงเหมำะ
สม กำรเลือกใช้วิธีกำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่เหมำะสม กำรเลือก
เครื่องมือ กำรฝึกอบรมผ่ำนเว็บ ให้เหมำะสมกับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้
กำรออกแบบระบบกำรฝึกอบรมผ่ำนเว็บแบบผสมผสำนให้ผู้เรียน
ทดลองใช้และดำำเนินกำรตำมขั้นตอนกำรดำำเนินงำนวิจัย โดยมีรำย
ละเอียดดังต่อไปนี้
1 ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำง
2 เครืองมือที่ใช้ในกำรวิจัย
่
3 ขั้นตอนกำรสร้ำงเว็บฝึกอบรม
4 แบบแผนกำรดำำเนินกำรทดลอง
5 กำรวิเครำะห์ข้อมูล
1 ประชำกรและกลุ่ม ตัว อย่ำ ง
1. ประชำกร ทีใช้ในกำรวิจัยครั้งนี้เป็น
่
- นักศึกษำชั้นปีที่ 2 ปีกำรศึกษำที่ 1 คณะครุศำสตร์อตสำหกรรม ภำควิชำเทคโนโลยีและ
ุ
กำรสื่อสำรกำรศึกษำ มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคลธัญบุรี จำำนวน 90 คน
2. กลุ่มตัวอย่ำง
- นักศึกษำชั้นปีที่ 2 ปีกำรศึกษำที่ 1 คณะครุศำสตร์อตสำหกรรม ภำควิชำเทคโนโลยีและ
ุ
73 คน ซึ่งได้มำโดยกำร
กำรสื่อสำรกำรศึกษำ มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคลธัญบุรี จำำนวน
สุ่มแบบกลุ่ม(Cluster or Area Sampling) จำกสูตรของเครซี่และ
มอร์แกน (Krejcie & Morgan, 1970)

2. 35
2 เครื่อ งมือ ที่ใ ช้ใ นกำรวิจ ัย
เครืองมือที่ใช้ในกำรเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่
่
1. เว็บไซต์เพื่อกำรฝึกอบรม เรื่อง เทคนิคกำรตกแต่งภำพด้วยโปรแกรมโฟโต้ชอป
2. แบบประเมินสื่อกำรฝึกอบรมสำำหรับผู้เชี่ยวชำญ
3. แบบประเมินผลกำรฝึกอบรม เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำำนวน
15 ข้อ
4. แบบประเมินควำมพึงพอใจของนักศึกษำที่มีตอกำรเรียนด้วยกำรฝึกอบรม
่
ผ่ำนเว็บเรื่อง เทคนิคกำรตกแต่งภำพด้วยโปรแกรมโฟโต้ชอป
กลุ่มผู้เชี่ยวชำญประกอบด้วย
1 ผู้เชี่ยวชำญด้ำนเนื้อหำ คือ เป็นผู้มีคุณวุฒิระดับปริญญำโท
ทำงด้ำนคอมพิวเตอร์ศึกษำ หรือดำำเนินกำรสอน ในด้ำนคอมพิวเตอร์
ศึกษำ จำำนวน 3 ท่ำน ซึ่งเป็นผู้พิจำรณำควำมเหมำะสมของเนื้อหำที่
เกี่ยวข้องในเว็บไซต์เพื่อกำรฝึกอบรม เรื่อง เทคนิคกำรตกแต่งภำพด้วยโปรแกรมโฟโต้
ชอป
2 ผู้เชี่ยวชำญด้ำนสื่อเพื่อกำรฝึกอบรมผ่ำนเว็บ คือ เป็นผู้มี
คุณวุฒิระดับปริญญำโททำงด้ำนเทคโนโลยีกำรศึกษำหรือสำขำที่
เกี่ยวข้อง หรือดำำเนินกำรสอนในด้ำนเทคโนโลยี จำำนวน 3 ท่ำน ซึ่ง
เป็นผู้พิจำรณำตรวจสอบควำมถูกต้อง ควำมเหมำะสมของกำรผลิตสื่อ
เพื่อกำรฝึกอบรมผ่ำนเว็บ
3 ผู้เชี่ยวชำญทำงด้ำนกำรวัดและประเมินผลกำรศึกษำ เป็นผู้มี
คุณวุฒิกำรศึกษำระดับปริญญำโทหรือเอกในสำขำที่เกี่ยวข้อง จำำนวน
3 ท่ำน ซึ่งเป็นผู้พิจำรณำเครื่องมือสำำหรับวิจัย ได้แก่ แบบประเมิน
สำำหรับผู้เชี่ยวชำญ แบบประเมินผลกำรฝึกอบรม และแบบประเมิน
ควำมพึงพอใจ

3. 36
3 ขั้น ตอนกำรสร้ำ งเว็บ ฝึก อบรม
1. ออกแบบระบบฐำนข้อมูลกำรฝึกอบรมผ่ำนเว็บในหัวข้อเรื่อง
เทคนิคกำรตกแต่งภำพด้วยโปรแกรมโฟโต้ชอป
ในส่วนแรก
กำรออกแบบแผนผังกำรรับข้อมูลของฐำนข้อมูลและกำรเก็บ
ข้อมูลพื้นฐำนของกำรผลิตโดยกำรสำำรวจข้อมูลเวลำมำตรฐำนที่ใช้
และนำำมำวิเครำะห์ขั้นตอนที่จำำเป็นที่จะมำออกแบบแผนผังกำรรับข้อมูลของระบบที่ตองกำร
้
ออกแบบ โดยกำรออกแบบฐำนข้อมูลจะแบ่งเป็นขั้นตอน ดังนี้
ขันตอนที่ 1 กำำหนดเอนทิตี้ (Entity) ของข้อมูลที่ต้องกำรจัด
้
เก็บในฐำนข้อมูลพร้อมทั้งกำำหนดคุณสมบัติซึ่งเป็นรำยละเอียดของ
ข้อมูลในเอนทิตี้แต่ละเอนทิตี้และกำำหนดดัชนีหลัก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่
มีค่ำของข้อมูลเป็นเอกลักษณ์จะเป็นค่ำที่ไม่ซำ้ำกันในแต่ละระเบียน
(Record)
ขั้นตอนที่ 2 กำำหนดควำมสัมพันธ์ของข้อมูลแต่ละเอนทิตี้ และเชื่อมโยงข้อมูลแต่ละเอนทิตี้ โดย
ใช้คณสมบัติที่มีอยูในเอนทิตี้เชื่อมโยงเข้ำด้วยกัน
ุ ่
ขันตอนที่ 3 ออกแบบฐำนข้อมูลรวมสำำหรับกำรรับค่ำที่ถูก
้
ป้อนจำกโปรแกรมฐำนข้อมูลรวม เป็นกำรเก็บข้อมูลต่ำงๆ ที่ถกป้อนจำกผูใช้โปรแกรม
ู ้
โดยข้อมูลเหล่ำนีจะใช้ในกำรประมวลผลจำกคำำสั่งต่ำงๆ ที่อยู่ในโปรแกรมเพื่อนำำไป
้
แสดงผลในรูปของ Gantt Chart โดยกำรกำำหนดชื่อขอบเขตของ
ฐำนข้อมูล กำำหนดข้อมูลทีจะได้รับจำกโปรแกรมมำเก็บไว้ในฐำนข้อมูล ดังตำรำงที่ 1
่
ตำรำงที่1 แสดงข้อมูลผู้เรียน
ชื่อเขตข้อมูล ชนิดข้อมูล ขนำดเขตข้อมูล คำำอธิบำย
ชื่อผู้ใช้งำนระบบ
StdUsernam Text 20
e
รหัสผ่ำน
StdPassword Text 20
ชื่อผู้เรียน
StdName Text 100
นำมสกุลผู้เรียน
StdSurName Text 100
ที่อยู่
StdAddress Text 100
เบอร์โทรศัพท์
StdTel Number Long
Integer

4. 37
ตำรำงที่2 /
แสดงข้อมูลผู้สอน ผู้ดูแลระบบ
ชื่อเขตข้อมูล ชนิดข้อมูล ขนำดเขตข้อมูล คำำอธิบำย
ชื่อผู้ใช้งำนระบบ
Username Text 20
รหัสผ่ำน
Password Text 20
Name Text 100 /
ชื่อผู้สอน ผู้ดูแลระบบ
SurName Text 100 /
นำมสกุลผู้สอน ผู้ดูแลระบบ
ที่อยู่
Address Text 100
เบอร์โทรศัพท์
Tel Text 12
สิทธิ์กำรใช้งำน
Permission Text 1
ตำรำงที่3 แสดงข้อมูลคลิปวีดีโอฝึกอบรม
ชื่อเขตข้อมูล ชนิดข้อมูล ขนำดเขตข้อมูล คำำอธิบำย
รหัสคลิปวีดีโอ
VideoID Text 20
ชื่อคลิปวีดโอ
ี
VideoName Text 20
รำยละเอียดคลิปวีดโอ
ี
Detail Text 100
อำจำรย์เจ้ำของคลิปวีดโอ
ี
Username Text 100
ตำรำงที่4 แสดงข้อมูลข้อควำมซักถำม
ชื่อเขตข้อมูล ชนิดข้อมูล ขนำดเขตข้อมูล คำำอธิบำย
รหัสคำำถำม
MsgID Text 20
คำำถำม
MsgQuestio Text 20
n
คำำตอบ
MsgAnswer Text 100
ผู้สอนที่ถกถำม
ู
Username Text 100
ผู้เรียนผู้ถำม
StdUsernam Text 100
e

5. 38
2. ความสัมพันธ์ของข้อมูลที่เก็บภายในฐานข้อมูล
ในส่วนการรับข้อมูลเข้ามาเก็บไว้ในฐานข้อมูลจะต้องมีการ
ออกแบบความสัมพันธ์ของข้อมูลที่เก็บอยู่ในฐานข้อมูล โดยจะแสดง
ความสัมพันธ์ของข้อมูล ตามรูปแบบของ Relation schema
model
ได้ดังนี้
Relation schema model ของตารางที่ 1 แสดงข้อมูลผู้เรียน
StdUser StdPass StdName StdSur StdAd StdTel
name word Name dress
Relation schema model ของตารางที่ 2 /
แสดงข้อมูลผู้สอน ผู้ดูแลระบบ
Userna Passw Nam SurNa Addre Tel Permissi
me ord e me ss on
Relation schema model ของตารางที่ 3 แสดงข้อมูลคลิปวีดีโอฝึกอบรม
VideoID VideoNam Detail Username
e
Relation schema model ของตารางที่ 4 แสดงข้อมูลข้อความซักถาม

6. 39
MsgID MsgQuesti MsgAnswe Userna StdUser
on r me name
โดยความสัมพันธ์ของข้อมูลซึ่งอยู่ในฐานข้อมูลเดียวกันแต่คนละตารางนั้นสามารถเชื่อมโยงกันได้โดยนำา
Primary key ของอีกตารางหนึ่งมาเป็น Foreign key ของตารางนั้นๆได้
3. ส่วนการแสดงผลข้อมูล
ในส่วนการแสดงผลข้อมูลจะเป็นการนำาข้อมูลในส่วนของการนำาเข้าข้อมูล มาแสดงให้
กับผู้ใช้งานระบบได้เห็นภาพโดยผู้ใช้งานระบบอาจจะเลือกจากหน้าจอรายงานหรือใน
หน้าจอของการค้นหาข้อมูล เช่น ผูใช้งานระบบต้องการดูตารางการผลิตของอาทิตย์แรกของ
้
เดือน โดยผู้ใช้งานของการค้นหาข้อมูล เช่น ก็สามารถที่จะใส่ช่วงที่ต้องการดูข้อมูลได้
ภาพที่ 1 หน้าจอแสดงการเข้าสู่ระบบของผู้เรียน

7. 40
ภาพที่ 2 /
หน้าจอแสดงการเข้าสู่ระบบของผู้สอน ผู้ดูแลระบบ
ภาพที่ 3 หน้าจอแสดงการเข้าดูคลิปวีดีโอ

8. 41
ภาพที่ 4 หน้าจอแสดงการส่งข้อซักถาม
ภาพที่ 5 หน้าจอแสดงการเพิ่มคลิปวีดีโอและรายละเอียด ของผู้สอน

9. 42
ภาพที่ 6 หน้าจอแสดงการตอบข้อซักถามของผู้สอน
ภาพที่ 7 หน้าจอแสดงการจัดการผู้ใช้งานของผู้ดูแลระบบ

10. 43
การสร้างโปรแกรมฝึกอบรม ในหัวข้อเรื่อง เทคนิคการตกแต่ง
ภาพด้วยโปรแกรมโฟโต้ชอป นั้น ผู้วิจัยได้พัฒนาเป็นเว็บแอปพลิ
เคชั่นเพื่อความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลและสะดวกในการใช้ข้อมูล
ร่วมกัน โดยมีวิธีการดำาเนินงานเป็นขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนและวิธีการดำาเนินงานการศึกษา
ในส่วนของขั้นตอนของวิธการดำาเนินงานนั้นได้แบ่งออกเป็น
ี 3 ส่วน ดังนี้
- การศึกษาปัญหาและวิเคราะห์ความต้องการของระบบว่าระบบเดิมมีปัญหาอย่างไรแล้ว ระบบ
ใหม่ทจะพัฒนานั้นได้มาช่วยลดปัญหาจากระบบเดิมอย่างไร
ี่
- การศึกษาขั้นตอนการพัฒนาระบบ ตามหลักการพัฒนาระบบแบบ SDLC
- การศึกษาเครื่องมือต่างๆที่ใช้ในการพัฒนาระบบ
การศึกษาระบบเบืองต้น
้
การศึกษาระบบงานเบื้องต้นนั้น จะมีการแบ่งหัวข้อการศึกษาระบบและต้องมีขั้นตอนต่างๆ ในการ
ศึกษาระบบเพื่อนำาไปพัฒนาต่อไป ดังนี้
- วางแผน (Planning)
การวางแผนเป็นการกำาหนดลักษณะ , รูปแบบ และเกณฑ์ในการพัฒนาโปรแกรม
- เลือกข้อมูล (Data Selection)
เมื่อได้วางแผนแล้วก็ทำาการเลือกข้อมูลและจัดการกับ
ข้อมูลต่างๆเพื่อให้ได้ผลงานตามแผนที่วางไว้
- การกำาหนดความต้องการของระบบ
พิจารณาความต้องการของระบบ โดยหลักแล้วระบบ
ต้องสามารถตรวจสอบสิทธิ์การเข้าใช้งานระบบ สามารถให้ผู้เรียน
สามารถเลือกเรียน ตามคลิปวีดีโอมีทางผู้สอนกำาหนดได้ สามารถส่ง
ข้อความไปถามข้อสงสัยต่างๆจากฝั่งผู้สอนได้ สามารถให้ผู้สอนสามารถเพิ่ม ลบ
แก้ไข คลิปวีดโอทางผู้สอนกำาหนดได้ สามารถให้ผู้สอน สามารถตอบกลับข้อความจากฝั่งผู้เรียนได้ และ
ี
สามารถให้ผู้ดูแลระบบ สามารถเพิ่ม ลบ แก้ไข และแสดงรายการของผู้ใช้งานระบบทั้งผู้เรียนและ
ผูสอนได้
้
4. แบบแผนการดำา เนิน การทดลอง
ผู้วิจัยได้ดำาเนินการศึกษาทดลองด้วยตนเอง โดยทดลองใช้กับ
นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จำานวน 90 คน
โดยมีลำาดับขั้นตอนการทดลอง ดังนี้

11. 44
1 ชี้แจงให้นักศึกษาทราบถึงกระบวนการเรียนการสอนโดย
ใช้ระบบการฝึกอบรมผ่านเว็บที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น
2 ดำาเนินการจัดการฝึกอบรมผ่านเว็บโดยใช้กลุ่มตัวอย่าง
เป็นนักศึกษาจำานวน 90 คน
3 หลังจากเรียนครบทุกหน่วยเนื้อหาในการฝึกอบรมผ่าน
เว็บแล้ว จึงให้นักศึกษาทำาแบบประเมินความพึงพอใจในการฝึกอบรม
ผ่านเว็บ
4 เก็บข้อมูลความพึงพอใจของนักศึกษากับระบบการฝึก
อบรมผ่านเว็บเพื่อนำาไปวิเคราะห์ข้อมูล
5 การวิเ คราะห์ข ้อ มูล
1 สถิติที่ใช้ในการหาคุณภาพเครื่องมือ
1.1 การวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยระดับความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
ในการฝึกอบรมผ่านเว็บ เป็นเครื่องมือในการประเมินความพึงพอใจ
โดยหาค่า IOC (พวงรัตน์ ทวีรัตน์. 2538 : 117)
∑ R
สูตร IOC = N
เมื่อ IOC แทน ดัชนีความสอดคล้องระหว่างจุดประสงค์กับ
เนื้อหา
∑ แทน ผลรวมคะแนนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
R
ทั้งหมด
N แทน จำานวนผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด
1.2 การวิเคราะห์หาค่าประสิทธิภาพและประสิทธิผลของ
การฝึกอบรมผ่านเว็บ เรื่อง เทคนิคการตกแต่งภาพด้วยโฟโต้ชอป โดย
การหาค่า E1 และ E2 จากสูตร ดังนี้
วิธีคำานวณหาค่าประสิทธิภาพ
1. ประเมินประสิทธิภาพมาตรฐาน 80/80 ดังนี้ (เกียรติศักดิ์
พันธ์ลำาเจียก , มปป: 107)

12. 45
สูตรที่ 1 E1 =
สูตรที่ 2 E2 =
เมื่อ E1 แทน ประสิทธิภาพของกิจกรรม แบบฝึกหัด หรือ
การทดสอบท้ายบท
E2 แทน ประสิทธิภาพของบทเรียนหลังการทดสอบ
หลังเรียน
∑ แทน คะแนนรวมของผู้เรียนจากกิจกรรม แบบ
x
ฝึกหัด หรือการทดสอบท้ายบท
∑f แทน คะแนนรวมที่ได้จากการทดสอบหลังเรียน
ของผู้เรียน
A แทน คะแนนเต็มของแบบฝึกหัดทุกชิ้นหรืองานรวม
กัน
B แทน คะแนนเต็มของกิจกรรม แบบฝึกหัด หรือการ
ทดสอบท้ายบท
N แทน จำานวนผู้เรียนทั้งหมด
การคำานวณหาประสิทธิภาพโดยใช้สูตรดังกล่าวข้างต้น ก็มักมี
การนำาคะแนนแบบฝึกหัดหรือผลงานในขณะประกอบกิจกรรมต่อ
กลุ่ม/เดี่ยว และคะแนนสอบหลังเรียนมาเข้าตารางแล้วจึงคำานวณหา
ค่า E1 / E2
2 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลมีดังนี้
2.1 ร้อยละ (Percentage)(บุญชม ศรีสะอาด. 2545 :
104)
สูตร P =f x 100
N

13. 46
เมื่อ P แทน ร้อยละ
f แทน ความถี่ที่ต้องการแปลงให้แปลงให้เป็นค่า
ร้อยละ
N แทน จำานวนคะแนนในกลุ่ม
2.2 การหาค่าเฉลี่ย (Mean) (ล้วน สายยศ, อังคณา สาย
ยศ, 2538:73) ของคะแนนใช้สูตร
สูตร =
เมื่อ แทน คะแนนเฉลี่ย
แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด
N แทน จำานวนข้อมูล
2.3 การแปลความหมายของแบบวัดความพึงพอใจที่ได้รับ
จากคะแนนเฉลี่ยเป็นระดับความพึงพอใจ โดยใช้เกณฑ์สมบูรณ์ (
Absolute Criteria) ดังนี้ (บุญชม ศรีสะอาด,2545. หน้า 99 -
100)
ค่าเฉลี่ย 4.51 – 5.00 หมายถึง ระดับมากที่สุด
ค่าเฉลี่ย 3.51 – 4.50 หมายถึง ระดับมาก
ค่าเฉลี่ย 2.51 – 3.50 หมายถึง ระดับปานกลาง
ค่าเฉลี่ย 1.51 – 2.50 หมายถึง ระดับน้อย
ค่าเฉลี่ย 1.00 – 1.50 หมายถึง ระดับน้อยที่สุด

14. 47