SlideShare a Scribd company logo
1 of 217
Download to read offline
ท. เลียงพิบูลย
เขียน

กฎแหงกรรม
ในเรือง
่

อยุธยาแหงความหลัง
นครแลลับ
คํานํา
หนังสือ ท. เลียงพิบูลย เขียนกฎแหงกรรม ในเรื่องอยุธยาแหงความหลัง นครแลลับเพื่อการ
กุศล ไดพิมพขึ้นมา ๒ ครั้งเวลานานมาแลว ปจจุบนมีผูสนใจอานกันมาก แตหาหนังสือนี้ไมไดอีก
ั
แลว ผูเขียนนั้นคือ ท. เลียงพิบูลย ไดใชเวลานานในการรวบรวม โดยไดจากการบอกเลาของปา
เจียมเปนคนแรก ครั้งที่สองไดจากสมุดขอยของเกามีรายละเอียดมากที่ ท. เลียงพิบูลย ไดอานและ
พบมา ครั้งที่สามอาตมาเลาใหทานฟง อาตมารูจัก ท. เลียงพิบูลยมานานแลวตั้งแต พ.ศ. ๒๕๐๐

และเคารพนับถือทานมานานพอสมควร เพราะทานไดไปที่วัดอัมพวันเปนประจํา งานพระราชทาน
เพลิงของคุณแม ท. เลียงพิบูลยที่วัดธาตุทอง อาตมาก็ไดไปรวมบําเพ็ญกุศลกับทานดวย คุณโยม
ท. เลียงพิบูลยเคารพนับถือหลวงปูชุมที่ลําพูนมาก ไปลําพูนครั้งไรก็ตองไปแวะวัดอัมพวันเสมอ ๆ
สนทนาเรื่องกฎแหงกรรมกันตลอดมาจนทานถึงแกกรรมไปแลว หลังจากนั้นอาตมาคิดวาหนังสือจะ
หาอีกไมไดแลว กลัวจะสูญหายไปเสีย
ท. เลียงพิบูลยไดถึงแกกรรมเมื่อวันเสารที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๗ รวมเวลา ๙ ปแลว
ทางคณะชมรมกฎแหงกรรมของ ท. เลียงพิบูลย ไดจัดการบําเพ็ญกุศลใหทาน ณ โรงพยาบาลสงฆ
กทม. เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๓๖ อาตมาไดไปบรรยายธรรม ณ หอประชุมโรงพยาบาลสงฆ
เรื่องกฎแหงกรรมเพื่ออุทิศสวนกุศลและบูชาคุณของทาน ท. เลียงพิบูลย อาตมาไดรวมทุนบําเพ็ญ
กุศลสวนตัวจํานวน ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาท) และไดปรารภถึงเรื่องหนังสือ นครแลลับ
อยุธยาแหงความหลัง และอดีตที่ผานมา ในที่ประชุมฟง “ยังมีอยูที่ไหนบางหรือไม คุณโยม
ประสิทธิ์”

คุณโยมประสิทธิ์เรียนใหทราบวาตองไปหาดูที่ตนฉบับ ใหโยมไปดูที่รานขายหนังสือ

หลายแหงก็ไมมีเลย
กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๒
อาตมามีอยูหลายเลมที่คุณโยม ท. เลียงพิบูลยนําไปถวายเมื่อวันอาทิตยที่ ๖ เมษายน พ.ศ.
๒๕๑๘ แรม ๑๐ ค่ําเดือน ๕ มีญาติโยมสนใจกันมาก ขอยืมไปอานแลวไมสงคืน หนังสือจึงหายไป
หมด เหลืออยู ๑ เลมเทานั้น ขอยืมอานกันขาดหมด จะไปหาอีกก็ไมได ตั้งใจจะพิมพขึ้นใหมเปน
ครั้งที่ ๓ นี้ จึงปรารภขึ้นมา มีโยมสุนีย พันธศุภร หางทองลูกสาวทองใบสะพานควายสนใจมาก
โยมสุนีย พันธศุภรจึงขอติดตอกับชมรมกฎแหงกรรมของทาน ท. เลียงพิบูลย คุณทวี แสงทรัพย ได
ไปติดตอกับทาน พลเรือตรีทวีชัย เลียงพิบูลย เปนบุตรของคุณโยม ท. เลียงพิบูลย ไดเมตตา มอบ
ตนฉบับมาให เพื่อทําการจัดพิมพ
ิ
หนังสือเลมนี้มี ๒ เรื่อง คือ ทําดีไดดี ประวัตของทานโยม ท. เลียงพิบูลย เพื่อเปนคติเตือนใจ
การพิมพหนังสือครั้งนี้มีเหตุผล ๓ ประการคือ
๑. เพื่อรักษาประวัติ – หนังสือ – ไมใหสูญ
๒. เพื่อบูชาพระคุณของคุณโยม ท. เลียงพิบูลย
๓. เพื่อรวบรวมทุนพิมพหนังสือแจกนักเรียน นักศึกษาที่มาอบรม ณ วัดอัมพวัน และ
รวบรวมทุนเขาชมรมกฎแหงกรรมของ ท. เลียงพิบูลย
อาตมาขออนุโมทนาแด คุณทวี แสงทรัพย ผูติดตอ และขอขอบพระคุณขอบใจ ทานพลเรือ
ตรีทวีชัย เลียงพิบูลย ที่ไดอนุญาต และใหตนฉบับพิมพครั้งนี้ หนังสือเลมนี้มีประโยชนตอประชาชน
และประเทศชาติ เพื่อเปนตัวอยางของอนุชนรุนหลังตอไป บุญกุศลอันนี้ขออุทิศใหคุณโยม ท. เลียง
พิบูลย ขอใหคุณโยมจงมีความสุขความเจริญในเทวสถานวิมานแมนแดนสวรรคนั้นเทอญ
พระราชสุทธิญาณมงคล

วัดอัมพวัน อ. พรหมบุรี จ. สิงหบุรี
กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๓
บานสัมมากร บางกะป
29 กรกฎาคม 2536

เรื่อง อนุญาตใหพิมพหนังสือกฎแหงกรรมชุด “อยุธยาแหงความหลัง” เพื่อเปนการกุศลในวาระ
คลายวันเกิดของพระราชสุทธิญาณมงคล (หลวงพอจรัญ ฐิตธมฺโม)
เรียน คุณทวี แสงทรัพย ที่นับถือ
ตามที่ทานไดทําหนังสือในฐานะสมาชิกชมรมกฎแหงกรรม ท. เลียงพิบูลย และเปนผูไป
ปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน สิงหบรี มาขออนุญาตจัดพิมพหนังสือชุดกฎแหงกรรมเรื่อง “อยุธยาแหง
ุ
ความหลัง” เพื่อนอมถวายเปนพุทธบูชาและอุทิศสวนกุศลใหแกคุณ ท. เลียงพิบูลย เนื่องในวาระ
คลายวันเกิดพระราชสุทธิญาณมงคล ตามทีทานไดแจงวัตถุประสงคมานั้น
่
กระผมมีความยินดีอนุญาตใหพิมพหนังสือชุดดังกลาวตามวัตถุประสงคที่แจงมา

เพื่อ

ยกระดับคุณธรรมและจริยธรรมของสังคม ที่จะอยูรวมกันดวยความปกติสุข ตามเจตนารมณของ
คุณพอของกระผม ซึ่งเคยเขียนหนังสือชุดนี้ เพื่อใหคนในสังคมตระหนักถึง “กรรม” และ “ผลกรรม”
ในชุดที่มีชื่อวา “หนังสือกฎแหงกรรม ทําดีไดดี ทําชั่วไดชั่ว”
ในโอกาสนี้ กระผมขอใหทานประสบผลสําเร็จดังที่ทานมุงหวังไวดวยดี

ขอแสดงความนับถือ
พลเรือตรี ทวีชัย เลียงพิบูลย

กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๔
ความรูสึกของผูเขียน

เมื่อหลายปที่ผานมา เวลานั้นขาพเจาไดเขียนหนังสือชุด “กฎแหงกรรม” ยังไมครบรอยเรื่อง
ไดมีทานที่เคารพและเพื่อนฝูงที่รักนับถือหลายทาน มีความศรัทธาในหนังสือชุดนี้ ตางเห็นวาควรจะ
ตั้ง “มูลนิธิ

ท. เลียงพิบูลย” เพื่อนําเงินดอกผลมาพิมพหนังสือแจกเผยแพรใหกวางขวางเปน

ประจําตอไป ขาพเจายังไมทราบวา แตละทานไดตกลงกัน จะออกเงินครั้งแรกคนละหนึ่งหมื่นบาท
รวบรวมเงินพอจะจดทะเบียนได
คุณประสิทธิ์ การุณยวนิชย ตกลงจะใหใชตึกปากซอยสารสิน ซึ่งเปนของคุณประสิทธิ์เปน
สํานักงาน ทั้งไดอุตสาหรางโครงการสําหรับมูลนิธิมาใหขาพเจา ขอใหเห็นชอบดวย โดยบอกวา
พรรคพวกเขาเห็นดีเห็นชอบดวยกันแลว และจําใหคุณณรงค สุทธิกุลพานิชย เปนผูรักษาเงิน
ขาพเจายังไมคาดคิดมากอน

แตเมื่อทราบความหวังดีของทานที่เคารพนับถือและพวก

เพื่อน ๆ ก็เห็นคุณคาน้ําใจมีตอขาพเจานั้นสูงยิ่ง และเห็นประโยชนในเรื่องสรางกุศลทางอบรม
จําเปนในยุคนี้ ทุกทานตางก็เห็นความสําคัญในเรื่องศีลธรรม หวังจะเห็นประโยชนสวนรวม
ขาพเจาก็ลําบากใจ คิดแลวคิดอีก หากปฏิเสธเสียเลยก็จะทําใหผูหวังดีจะเสียกําลังใจ แตก็
ไดตั้งใจบริสุทธิ์ไวแลววา

จะไมเบียดเบียนเพื่อนฝูงและทานผูเคารพนับถือใหพลอยเดือดรอนใน

เรื่องนี้
ขาพเจาก็ไดเรียนกับทานผูหวังดีและผูเสียสละวา ขาพเจายังไมเห็นดวย เพราะกลัววาจะเปน
การเบียดเบียนใหรับความเดือดรอน ยังไมควร สวนจะตั้งชื่อ “ท. เลียงพิบูลย” เปนมูลนิธินั้นตองขอ
ตัว สําหรับเงินที่จะหาสมทบทุนพิมพหนังสือนั้น ขาพเจาจะหาเอง จะไมใหกระทบกระเทือนผูใด
ขาพเจาคิดวาจะเขียนหนังสือเรื่องยาวสักเลมหนึ่ง ปกแข็งเดินทอง แลวนําไปจําหนาย นําเงินสมทบ
ทุนพิมพหนังสือตอไป เพราะการตั้งมูลนิธินั้นใหญโตยุงยาก ลําบากเพิ่มภาระอีกมากมาย
กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๕
ตอจากนั้นมา ขาพเจาก็ไมมีเวลาจะเริ่มเขียนหนังสือตามที่ตั้งใจไว เพราะงานอื่นแทรกจนหา
เวลาไมไดหลายป คุณประสิทธิ์ การุณยวนิช ไดมาเตือนขาพเจามาเสมอ ขาพเจาก็ไดแต
ผลัดวันประกันพรุง ตอมาเมื่อกลางป พ.ศ. ๒๕๑๗ คุณณรงคไดบอกมาวา เวลานี้มผูสงเงินมา
ี
สมทบทุน “กฎแหงกรรม” เพื่อจัดพิมพหนังสือแจกตอไป บางทานก็ไมประสงคออกนาม สงมาเปน
จํานวนเกาหมื่นกวาแลว ในจํานวนนี้ทราบวาของคุณณรงคสองหมื่น
ขาพเจาไดยินเชนนั้น ก็รูสึกวาคาน้ําใจไดหลั่งไหลเขามาสมทบทุนในชุด “กฎแหงกรรม”
มากมายโดยไมหวังสิ่งตอบแทน

ขาพเจาจะตองเรงเขียนหนังสือที่ตั้งใจไวใหเสร็จเรียบรอยเปน

รูปเลมใหเร็วที่สุด แตทุกสิ่งยิ่งเร็วเทาไหรก็รูสึกวาชาเทานั้น ที่สุดจะออกไดทันปใหมก็ไมทัน เพราะ
ตองมาเขียนเรื่องสวัสดีปใหม แลวก็ใสชื่อคุณณรงคเปนผูรับจองหนังสือ คิดวาลําบากคนเดียวไม
พอ

จึงทําใหคุณณรงคลําบากไปดวย

เพราะมีผูถามวาเรื่อง

“นครแลลับอยุธยาแหง

ความหลัง” จะเสร็จเมื่อไหร ถามไปที่ทางคุณณรงค ฯ บอกวาเวลานี้เขาสงเงินมาจองแลว
ขาพเจาก็ตอบไมถูก เพราะมีผูขอรองใหเพิ่มเติมลงเรื่อง “อดีตที่ผาน” ใหลงรูปดวยก็ลาชาไปอีก
และบัดนี้ เรื่องไดเรียบรอยลงแลว หนังสือเลมนี้พิมพจํานวนสามพันเลม ปกแข็งเดินทอง ประมาณ
ไวเดิมสี่รอยหนา แตเมื่อเขียนไปแลวก็เกินไปมากกวากําหนด ไมคอยจะเสร็จงาย เพราะมีหลาย
ทานขอใหเขียนเพิ่มเติม ขาพเจาก็เต็มใจ เพราะเห็นประโยชนสวนรวม
คุณณรงคบอกวา หนังสือที่จัดพิมพเลมนี้ เปนเงินเทาไหร ขอใหเก็บจากกองทุน

“กฎแหง

กรรม” ที่คุณณรงค แตขาพเจาขอใหการพิมพครั้งนี้เปนทุนสวนตัว
ขาพเจาของคุณณรงควา หนังสือเลมนี้เปนอนุสรณในชีวิตรักของขาพเจา และขาพเจายัง
เปนหนี้คาน้ําใจของทานผูบริจาคทรัพยในครั้งงานศพแมเปนจํานวนมาก ขาพเจายังระลึกถึงทาน

กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๖
อยูเสมอ รักน้ําใจ จึงอยากจะนําหนังสือเลมนี้ไปอภินันทนาการ เปนอนุสรณแกทานที่ขาพเจายังไม
ลืม แมเวลาจะผานมาหลายปแลว
ขาพเจาก็ไดตั้งใจจะแบงหนังสือที่พิมพเปนพิเศษ จํานวนหารอยเลม ไปแจกจายใหทานที่มี
พระคุณในครั้งงานศพ

“แม” เพื่อเปนอนุสรณคาน้ําใจของทาน ที่ไดบริจาคเงินคาพิมพหนังสือ

และ สรางหองคนไขที่ศิริราชพยาบาลตึก ๗๒ ขาพเจาขอกราบมาดวยใจจริงอีกครั้งหนึ่ง เหลือ
จํานวนสองพันหารอยเลม ขอมอบใหคุณณรงคจําหนาย ทั้งทุนทั้งกําไร ขอมอบใหกองทุน

“กฎ

แหงกรรม” ดวยความตั้งใจของขาพเจา ขอเปนเลมพิเศษทั้งเขียนและพิมพ
คุณณรงคพยายามจะขอรองใหนําเงินทุน “กฎแหงกรรม” มาจายคาหนังสือ ขาพเจาอธิบาย
ความรูสึกใหฟงวา ขาพเจามีความยินดีเขียนและพิมพ เพื่อเปนอนุสรณในชีวิตรักและสงวนลิขสิทธิ์
เปนพิเศษ มอบใหคณ “กฎแหงกรรม” พิมพจําหนายตอไป เงินทุนที่ไดจากการขายหนังสือเลมนี้
ุ
มิใชวาจะจํากัดแตเพียงพิมพหนังสือแจงอยางเดียว หากมีสิ่งใดนอกเหนือที่เห็นสมควร จะชวย
เพื่อนมนุษยที่ตกทุกขไดยาก ไดรบภัยจากธรรมชาติ ทําใหขาดอาหาร ที่อยูอาศัย เมื่อไดรับเคราะห
ั
กรรม ก็ใหพิจารณาชวยเหลือเพื่อนมนุษยดวยกัน ยามรับความเดือดรอน หากตอไปเงินนี้เพิ่ม
จํานวน มีสงใดที่เปนประโยชนสวนรวมแลว ก็ใหนําเงินนี้สงเสริมไดตามความเห็นสมควร
ิ่
สวนผูบริจาคเปนกองทุนสําหรับพิมพหนังสือนั้น ขอใหแยกไวพิมพหนังสือโดยเฉพาะ และก็
ไดเริ่มพิมพหนังสือในกองทุนที่ผูบริจาคไปบางแลว
ขอขอบคุณทุกทาน ที่เขาใจในเจตนาของขาพเจาและไดเห็นประโยชนในหนังสือชุด “กฎแหง
กรรม” นี้ ขอพุทธานุภาพ จงบันดาลใหทุกทานจงประสบความสุขดวยความสงบทั่วทุกทานเทอญ

กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๗
“นครแลลับ อยุธยาแหงความหลัง”
โดย ท. เลียงพิบูลย

เมื่อสมัยยังอยูในวัยเด็ก ขาพเจาไดรูจักกับหญิงสูงอายุผูหนึ่ง มาพักบานญาติของแก ใกล
บานขาพเจา อายุแกกวาแม จึงเรียกแกวา ปาเจียม รูปรางของปาเจียมนั้นผอมสูง ผิวเนื้อดําแดง
เคยออกฝดาษมาแลว มีรอยแผลบนใบหนา สมัยนั้นเขาเรียกวา เปนหนาขาวตัง และฟนเขยินกิน
หมากจนฟนดํา เครื่องแตงตัวของปาเจียม แกชอบนุงผาลายโจงกระเบน ใชผาแถบคาดนม ไมชอบ
ใสเสื้อ ตัดผมสั้น ชอบพกเหรียญเงินไวที่ชายพกแบบคนสมัยกอน รูปรางปาเจียมมองดูแลว หา
ความเจริญตาภายนอกไดยาก แตน้ําใจปาเจียมนั้นผิดกับรูปราง ตรงขาม ใจดี รักเด็ก พวกเราเพื่อน
ๆ ชอบปาเจียมมาก เมื่อยามตรุษ ยามสงกรานต ปาเจียมก็มักมากรุงเทพฯ และมีขนมติดมือมา
ฝากเด็กดวยทุกครั้ง เปนขนมไทยทําเอง แกเปนชาวเมืองสมุทร มาบางกอกดวยเรือแจว แรมคืนกวา
จะถึงบางกอก เด็ก ๆ พอรูวาปาเจียมมา พวกเราก็ดีใจ พากันไปหา พวกเราชอบนิสัยออนโยน เมือ
่
พูดกับเด็ก ๆ และหนาตาแกยิ้มแยมอยูตลอดเวลา เมื่อพูดกับพวกเรา รูสึกวา แกมีจิตใจเอ็นดู
เมตตาปรานีกับพวกเรามาก ฉะนัน เด็ก ๆ ลองไดไปพูดกับปาเจียม แลวมักจะติดแก ขาพเจากําลัง
้
เขียนเรื่องนี้ ก็อดนึกถึงรูปรางหนาตา กิริยาทาทางของปาเจียมไมได ไมเคยลืม นึกถึงกิริยา
ออนหวาน ใหความเห็นอกเห็นใจกับเด็ก ผิดกับรูปรางภายนอก ยังจําไดถึงปจจุบันนี้ แมรูปชั่วตัวดํา
แตน้ําใจดี
ยังจําได ครั้งหนึ่งเพื่อนเด็กขางบานขาพเจา ไปขอสตางคพอแม แทนที่จะไดสตางค กลับถูก
แมเอาไมเรียวไลตี ตองวิ่งหนีโจนออกจากบานแทบไมทัน แลวมายืนรองไหอยูขางตรอกสะพานยาว
เมื่อปาเจียมไปเห็นเขาก็สงสาร เขาไปปลอบถาม แลวก็ใหสตางค อายเพื่อนคนนั้นกลับหัวเราะออก
กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๘
ดีใจลิงโลดวาปาเจียมใหมากกวาแมเสียอีก แลวจะไมใหเราเด็ก ๆ รักปาเจียมไดอยางไร นับแตเด็ก
พวกเรายังไมเคยพบใคร จะมีใจดีเทาปาเจียมเลย จะพูดอยางเดี๋ยวนี้ ปาเจียมก็คือ แมพระของเด็ก
เวลานั้น
เมื่อขาพเจานึกถึงตอนนี้แลว ก็ตองหยุดเขียน นั่งนิ่งสงบจิต อุทิศสวนกุศลที่ไดสรางในชาติ
กอนหรือชาตินี้ก็ดี ขอใหวิญญาณของปาเจียมจงไดรับผลบุญที่แผใหในครั้งนี้ดวย ปาเจียมไดจาก
โลกนี้ไปนานแลว แตความดีของปาเจียมยังฝงอยูในจิตใจของเด็กพวกเราในครั้งนั้นอยางไมรูลืม
ขาพเจาจะเริ่มเขียนเรื่องตอไปวา ครั้งนั้นปาเจียมเคยเลาเรื่องราวนิทานเกี่ยวกับเรื่องผี ๆ สาง
ๆ ใหฟง เวลานั้น พวกเราเด็ก ๆ ก็ชอบฟง กลางวันเราไมกลัว แตถากลางคืนเราก็ไมกลา พวกเด็ก ๆ
ตองนั่งชิดเบียดกันฟง
ขาพเจามีความสนใจเรื่องที่ปาเจียมเลาใหฟง

แมจะผานมาหาสิบกวาปแลวก็ดี

ยังจํา

ขอความไดดี ครั้งนั้นปาเจียมเลาใหฟงวา
พวกหนู ๆ คงอยากจะฟงเรื่องที่บานนอกของปา มีเรื่องประหลาดมหัศจรรยจริง ๆ ปาจะเลา
ใหฟง ที่บานปานั้น มีคลองเกาแกสมัยกรุงเกา เขาเรียกกันวา คลองลับแล แตภายหลังเขาเรียกวา
คลองตาพลับ เปนชื่อปูของปา ปูไดจองที่ดินไวเปนจํานวนพันกวาไร ตามริมน้าจดเหนือจดใต และ

ํ
สวนลึกเขาไปในเนื้อที่ที่ยังไมมีคนจองยังมีอีกมากมาย

พวกลูกหลานไมมีใครไปอยูทํามาหากิน

เพราะที่กวางใหญ แมแตปาก็ยังเขาไปไมสุดเขต เขาวาเขาไปลึก ๆ ก็จะพบพวกกระเบื้อง พวกจาน
ชามลายคราม ของเกาที่แตกหัก มีอิฐดินเกลื่อนกราดมากมาย ลวยแตเปนของโบราณ กินเขต
บริเวณกวางออกไป คลายเปนคูคลอง แตตื้นเขินพูนเปนเนินดิน และมีตนไมขนรก เขาพากันคิดวา
ึ้
เมื่อสมัยโบราณคงจะเปนเมืองหรือหมูบานใหญ เพราะดูที่ดินเปนโคก เคยถมดินขึ้นมาสูง บางแหง
เหมือนเคยเปนบึง เปนสระน้ําใหญมากอน แตตื้นพอจะมีรองรอยใหเห็น ทุกคนที่เคยเขาไปกลับมา
กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๙
บอกวา สถานที่นั้นเยือกเย็นขนลุก เหมือนมีอาถรรพณ บางคนจะไปขุดหาทรัพย ก็ไมกลาเขาไปอีก
ทําใหหวาดกลัว
เมื่อปาเล็ก ๆ เขาวามีลายแทง ถาใครมีปญญาคิดไดก็ไปขุดเอา จะไดเงินเต็มลําเรือชลา มี

ทอง และเพชรนิลจินดาในเรือชลาอีกลํา ใครคิดไดก็เปนเจาสัว ร่ํารวยมากมาย เพราะเรือชลา ๒ ลํา
้
นี้ฝงอยูใตดินลึก เห็นคนไปเที่ยวขุดกัน ก็ไมเห็นพบแมแตซากเรือชลา ๒ ลํานัน มีบางคนบอกวามี ๓
ลําดวยกัน ลําหนึ่งบรรทุกทองคําเต็มลํา อีกลําหนึ่งบรรทุกเงิน และ อีกลําหนึ่งบรรทุกเพชรพลอย
เขาพูดตอ ๆ กันไป แตก็ไมมีใครพบใครเห็น ที่บานปาวันดีคืนดี ยืนอยูที่นอกชานบานก็เห็นถนัด
มองเห็นเหมือนใครจุดดอกไมไฟพะเนียง พุงขึ้นเปนฝอยสวาง สูงเกินกวายอดไมมาก
ครั้งนั้นขาพเจายังสนใจไดบอกกับปาเจียมวา “เราไมตองเอามากหรอกปา เพียงแคครึ่งลําก็

รวยถมเถไปแลว” ปาเจียมหัวเราะบอกวา “เออดี หลานชายไมมกมาก แตเรื่องนี้เปนกุศลบารมีแต
ั
อดีตครั้งเกากอนถึงจะได ไมใชบญของใคร จะขุดเทาไหรก็ไมได ถาเปนเจาของก็ขุดไดงาย ๆ ปา
ุ
บอก ยังงี้แหละ ฉะนั้นปาจึงไมสนใจ เพราะไมใชบุญของใครจะขุดเทาไหรก็ไมได
วันนั้นปาเจียมคุยกันกับพวกเรานานกวาเรื่องอื่น เพราะแกบอกวา มาคราวนี้อยูบางกอก
นานหนอย ไมใชเวลาหนาแลกขาว ปกติปาเจียมแกอยูบานนอก และแกเปนญาติกับลุงสินธุ ซึ่ง
บานอยูไมหางจากบานขาพเจาเทาใดนัก ปหนึ่งแกมาหลายครั้ง พักกับลุกสินธุ และปาเจียมก็เลา
ตอไปวา
ที่บานปาก็มีเรื่องแปลก ๆ เหมือนนิทาน คือ ทุกคืนวันพระขึ้น ๑๕ ค่ํา จันทรเต็มดวง พอ
จันทรตรงหัว เวลาเที่ยงคืน จันทรสองสวางทั่วพื้นโลก เราก็จะไดยินเสียงมโหรีพิณพาทย เปนเสียงที่
เยือกเย็นจับใจไพเราะมาตามสายลม แปลกที่เสียงจะมีทุกคืนวันพระ ๑๕ ค่ํา เหมือนเสียงนั้น
ลองลอยมาตามลมยามดึก ฟงแลวไพเราะแตเยือกเย็นจับหัวใจพิกล เปนเพลงโบราณเสียงเศรา ๆ
กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๑๐
เหมือนจะรําพันถึงชีวิตใครคนหนึ่ง ปาชอบฟง ไมกลัว ยามดึกสงัดยิ่งฟงเสียงชัดเจน พวกเด็ก ๆ ที่
บาน ถาไมหลับเสียกอน พอไดยินเสียงก็นึกวา เสียงนั้นมาจากพวกผีดิบ ทําใหพวกเด็กหวาดกลัว
รีบเอาผาหมนอนคลุมโปงเงียบเลย
มีเพื่อนรุนโตกวาขาพเจาหลายป เกิดสนใจถามปาเจียมวา “ผมวามันตองมีประวัติทลี้ลับ
ี่
แฝงอยูในเนื้อเพลง นาสนใจนะปา ถามีคนสํารวจดู และผูเฒาผูแกใหเขาเลาใหฟงคงไดเรื่องสนุก
แน”
ปาเจียมแกยิ้มแลวพูดวา “เรื่องราวเกาแกครั้งปู ยา ตา ยาย ปาก็พอจะรูจากพอ พอจะเลาสู
กันฟงไดบาง เพราะคนในบานนี้ ก็รูทั่วถึงเรื่องเกาของเมืองลับแลในความเปนมา
ปูเลาใหพอฟงวา เมื่อสมัยกอนนั้น ที่เราอยูกันในปจจุบันนี้ ยอนหลังไปกอนปาเกิด สมัยกอน
ในคุงน้ํากวาจะหาบานหรือเรือนแพอยูริมน้ํานั้นหายาก เพราะผูคนยังมีไมมากนัก หมูบานยังอยู
หางกันไกลตั้งคุงน้ํา ริมแมน้ํามีตนลําพูขึ้นตนใหญโต ถัดเขามาก็มีตนไมอื่น ๆ หรือตนจากขึ้นเปน

ปาเปนดงทึบ เปนดงจรเข ดงเหี้ย ดงตะกวด และสัตวเลื้อยคลานมากมาย เพราะไมคอยมีอะไร
รบกวน เรือแพขึ้นลองก็นอย นาน ๆ จะมีเรือไฟลากจูงสักลําหนึ่ง ฉะนั้นจะเปนที่สงบ จึงมีสัตวครึ่ง
น้ําครึ่งบกมากมาย
ปูเคยชวยชายผูหนึ่งเพิ่งสึกจากพระ ผมยังไมทันขึ้น เปนทิดสึกใหม นอนสลบไสลอยูใตตน
ไทร เมื่อปูรักษาหายปกติแลว ชายผูนั้นไดเลาใหฟงวา แกมาจากบางกอก จะไปเมืองสมุทรทางเรือ
แกศึกษาเปนมหาเปรียญ แตตองสึกออกมาเพราะจําเปน เมื่อมาในระหวางทางเกิดปวดทองลงทอง
อยางหนัก นึกวาเปนโรคหาลง เพราะทองเดิน ขี้ไหลไมรูจักหยุด นึกวาถาจะตาย ก็อยารบกวนให
คนอื่นลําบาก หรือ พลอยตายไปดวยเลย จึงตะเกียกตะกายขึ้นจากเรือมานอนบนฝง ใหคนเรือ
กลับไป แตไมรูวามีบาน มีคลองอยูแถวนี้ เมื่อคืนมองไมเห็นอะไรเลย นอนสลบไมรูสึกตัวตลอดรุง

กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๑๑
เมื่อมีคนมาชวย แกก็นึกถึงบุญคุณมาชุบชีวิตแกขึ้นใหม เหมือนเปนพอบังเกิดเกลาผูหนึ่ง แตมีเรื่อง
จําเปนรับอาสาแมกาหลง ตองไปสืบหาพี่สาวชื่อสังเวียน ไดหนีตามชาวทะเล พวกจับปลามาอยู
เมืองสมุทร เมื่อสืบหาพบตัวไดเรียบรอยแลว ก็จะบอกพี่สาววา บัดนี้แมกาหลงยกโทษใหไมโกรธ
ขอใหกลับไปอยูอยางเดิม หรือ จะพาสามีไปดวยก็ได เมื่อพี่สังเวียนกลับไปอยู เพื่อใหแมกาหลง
หายความเศราโศกเสียใจ แกเลาใหฟงวา พี่สาวของแกชื่อสังเวียนคนนี้ ไมใชลูกแทแมกาหลง แตมี
คนยกใหแมกาหลงตั้งแตเล็ก ๆ แมตัวแกเองแมกาหลงเลาใหฟงวา เชาวันหนึ่งแมกาหลงตื่นขึ้นมา
ก็เห็นมีเด็กทารกผูชายนอนดูดมืออยูในเบาะ ใสไวในกระจาด มีผาออมปดทอง หนาตานาเอ็นดู ไม
รูวาใครเอามาทิ้งไวที่หวบันไดบาน แมกาหลงเห็นเขาก็สงสารเอ็นดู ไดลงไปอุมขึ้นมา เด็กยังถีบตีน
ั
สายมือไปมาแลวหัวเราะดีใจ เปนทารกที่ไมเดียงสา แมกาหลงรับเอาทารกนั้นมาเลี้ยงไว ทนุถนอม
ถึงกับจางแมนมมาเลียงอยางดี ใหชื่อวงศ ทารกคอย ๆ เติบโตขึ้นมา แมกาหลงก็ใหเขาศึกษาเลา
้
เรียนธรรมกับทานสมภารวัดแถวบาน แลวก็บวชเปนสามเณร เลาเรียนศึกษาธรรมจนสอบนักธรรม
มหาเปรียญไดตั้งแตเปนสามเณร ตอเมื่ออายุครบบวช ก็บวชตั้งหนาเลาเรียนศึกษาจนไดเปนมหา
มหาวงศไดเลาใหปูฟงวา เมื่อบวชเปนพระไดพรรษาเดียวก็เกิดเรื่องขึ้น เพราะพี่สาวเปน
ลูกเลี้ยงของแมกาหลงเหมือนกัน เกิดหนีตามผูชายชาวเมืองสมุทร หากินในทางจับปลาไปอยูเมือง
สมุทร แมกาหลงมีความรักอาลัยลูกสาวมาก ก็เฝาแตรําพันรองไหขาวปลากินไมลง เพราะความ
เสียใจ แลวก็ไมมีญาติพี่นองคนใดจะชวยออกติดตาม ตัวเองก็อายุมากแลว เวลานั้นพระมหาวงศ
ยังเปนพระภิกษุ แตมีจิตใจสูงดวยความกตัญูมาเยี่ยม ทนดูโยมแมที่เลี้ยงตนมาอยางทนุถนอม
จนเติบโต แตบัดนี้โยมแมไดรับความทุกขใจอยางหนักเชนนี้ ก็ทนอยูไมไหว ก็ขอรองใหโยมแมหาย
โศกเศราเสียใจ ตัวอาตมาเองจะอาสาไปสืบ เมื่อพบตัวพี่สาวแลว จะเรียกรองใหกลับมาหาโยมแม
กาหลงใหได แตจะไปทั้งเปนพระก็ไมสะดวกดวยประการทั้งปวง จึงตองขออนุญาตโยมแมลาสึก
จากพระ กับทานสมภารเพื่อจะออกไปสืบหาพี่สาวที่เมืองสมุทร เมื่อสึกจากพระกลับมาอยูทางโลก
กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๑๒
แลว ก็ลาพระอาจารยออกจากวัดกลับไปกราบเทาแมกาหลง ผูมีพระคุณสูงยิ่ง รับจะรีบออก
เดินทางทันทีไมใหเสียเวลา

ไปเที่ยวติดตามหาพี่สาวจนกวาจะพบ

ขอใหแมกาหลงอยาหวง

โศกเศราเสียใจเลย จงทําใจใหดี กินขาวกินปลา ทําจิตใจใหสบาย ตัวเองจะอาสาไปรับพีสาวคืนมา
่
ใหได
แมกาหลงคอยมีหนาตาแชมชื่นขึ้นบาง และเชื่อฟงทิดมหาวงศ ลูกชายปลุกปลอบ ก็คอย
คลายหายเศราโศกลงได แลวก็มอบคาเดินทาง คาใชจายใหมหาวงศ แมกาหลงเปนหญิงที่มีอันจะ
กินผูหนึ่ง ตําบลแถวตลาดเสาชิงชา เปนผูหนึ่งที่มีคนรูจักมากในสมัยนั้น ซึ่งเปนหญิงโสดตั้งแตสาว
ตลอดจนมีอายุ มีทรัพยสินเงินทองมรดกตกทอดมากมาย นิสัยใจบุญรักเด็ก
เมื่อมหาวงศไดรับมอบหมายจากแมกาหลงแลว

ก็จัดแจงวาจางเรือมาดสองแจวหัวทาย

เดินทางจากบางกอก มุงหนาไปเมืองสมุทร ซึ่งเวลานั้นการเดินทางสวนมากไปทางน้ําสะดวก แต
เหตุการณที่ไมคาดถึงก็เกิดขึ้น เห็นจะเปนเพราะมหาวงศบวชนาน ไมเคยกินขาวเย็น เมื่อมาอยูทาง
โลกเกิดกินขาวเย็นระหวางเดินทาง มหาวงศเกิดมีอาการทองรวงอยางหนัก ทําใหหนาตาซีดเซียว
ตองสั่งใหเรือจอดขางตลิ่ง เขาปาหลายครั้ง อาการก็ไมดีขึ้น กลับลงทองหนัก
คนแจวเรือเห็นอาการปวยทองเดินของมหาวงศก็ชักจะตกใจกลัว ทั้งสองหารือกันวา หาก
ทานมหาเกิดเปนโรคหาลงแลว เราสองคนก็คงจะไมมีทางรอด ตองตายแน ทางบานบางกอกลูก
เมียคงไมรู กําลังคิดกันวาจะทําอยางไรดี ถาคอยใหทานมหาสั่งใหจอดเรือคราวตอไปนี้ คงขึ้นฝงไม
ไหว แลวนอนขี้ไหลเต็มอยูในเรือจะทําอยางไร คิดวาโรคหาคงกินเราแน ๆ เราควรฉวยโอกาสที่ทาน
มหาอยูบนฝงคราวนี้ เรารีบออกเรือหนีกลับบานกันดีกวา ปลอยใหทานมหาตายคนเดียว อยา
พลอยใหเราตองตายดวยเลย คนเรืออีกคนหนึ่งไมเห็นดวยบอกวา ไมไดหรอก เรามาดวยกัน จะทิ้ง
ทานมหาไวคนเดียวอยางไร กอนจะทําอะไรบอกใหรูเรื่อง อยาใหเขาวาขี้ขลาดตาขาวกลัวตาย
เกินไป
กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๑๓
เมื่อหารือกันแลว คนแจวเรือแทบไมมีแรงใจจะแจวตอไปเพราะความกลัว นึกวาโรคหากําลัง
ลงแนแลว ควรจะทําอยางใดดี ปลอยใหอยูบนฝงคนเดียวก็สงสาร ทั้งไมรูวาเปนโรคหาจริงหรือไม
เมื่อคิดแลวก็เห็นอกเขาอกเรา ก็รําพึงวา ทานมหาก็เปนคนดี ไมนาจะถูกโรคหากินเลย พลางยกมือ

้ํ
ขึ้นไหวทวมหัว แลวทั้งสองก็กลาวขึ้นวา “เจาประคุณ เจาพอ เจาแม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแมนาลําคลอง
จงชวยใหทานมหาพนจากโรคหารายดวยเถิด

เมือกลับถึงบางกอกก็จะขอถวายพวงมาลัยเปน
่

เครื่องบูชา” ทั้งสองคนบนบานดวยความหวาดกลัว คนหนึ่งบอกวา “ถายังไมหายเราก็อยาลอยแพ
แกเลย บอกใหแกรูตัวแลวสงแกขึ้นฝง ดูที่ไหนเหมาะสม คิดวาทีวัดเหมาะสมกวาที่อื่น แกเคยบวช
่
แลวเปนคนดีมีศีลธรรม คงเห็นอกเห็นใจเรา” พอดีทานมหาวงศเสร็จธุระถายทองแลว ก็ออกมาจาก
ปาพงขางตลิ่งเดินโซเซกลับมาขึ้นเรือ ทําใหคนเรือทั้งสองคิดมาก แสดงความหวาดกลัว ไมกลาเขา
ไปฉุดพยุงขึ้นเรือ กลัวติดโรคหา ปลอยใหทานมหาพยายามใชกําลังที่ยังมีอยู แตออนเพลียกัดฟน
ปนปายขึ้นเรือจนได เมื่อขึ้นมาไดก็นอนหายใจระรวยแทบหมดแรง พักอยูครูหนึ่งพอมีกําลัง ก็พูด
เสียงสั้น ๆ แหบ ๆ เพราะยังไมหายเพลียเหนี่อยวา
“ฉันเห็นจะเปนโรคหาแนแลว จึงทองรวงอยางหนัก ตั้งใจวาจะไมกลับมาขึนเรืออีกแลว จะ
้
ปลอยใหตัวตายในรกในปาใหรูแลวรูรอดไป แตมาคิดวาหวงที่ยังไมบอกใหพอมิ่งกับพอจรรู กลัวจะ
เปนหวงคอยฉัน และฉันก็ไมไดสั่งใหเขาใจกันดี” พูดแลวก็หยุดพักครูหนึ่ง พอกําลังดีเสียงแจมใสขึ้น
วา
“ฉันขอใหพอมิ่งกับพอจร หาทางสงฉันขึ้นตลิ่งที่เหมาะสมสักแหงหนึ่ง หางไกลจากหมูบาน
คน อยาอยูใกลเพราะจําทําใหผูอื่นเขาเปนอันตรายเพราะโรคหาดวย แลวฉันจะขึ้นไปนอนคอย
ความตายจะมาถึง ฉันไมมีลูกมีเมีย ไมมใครเปนหวง มีก็แตแมกาหลงผูมีพระคุณชุบเลี้ยง เพราะ
ี
ฉันเปนเด็กกําพรา ไมรูจักพอแม เปนใครอยูที่ไหน เอามาทิ้งไวที่หนาบานแมกาหลง ไดเลี้ยงฉันมา
จนเติบโต ฉันก็เคารพแมกาหลงเปนพระประจําใจของฉัน” เมื่อเลามาถึงตอนนี้ ทานมหาก็น้ําตา
กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๑๔
ไหล เมื่อคิดถึงความดีของแมกาหลงผูมีพระคุณ พูดแคนั้นแลวก็พูดไมออก เพราะตื้นตันใจ ทําให
คนแจวทั้งสองพลอยเศราจนน้ําตาไหลไปดวย เพราะเห็นความดีความกตัญูของทานมหา
เมื่อหยุดพักหนึ่ง ทานมหารูสึกวามีสติกําลังดีขึ้น ก็พูดตอไปวา “ฉันรูวาแมกาหลง หากรูวา
ฉันตาย คงรองไหเสียใจมาก เสียใจเพราะพี่สาวตามผูชายไปแลว นองชายก็ตายอีก ไมมีใครจะชวย
ปลอบแมของขาพเจาใหหายเศราได แตฉันก็คิดวามันมีเวรกรรม จึงไดเกิดเหตุอยางนี้ขึ้น พอมิ่งกับ
พอจร เมื่อเห็นที่ไหนเหมาะสมก็สงฉันขึ้นฝง ในตัวฉันมีเงินอยูสิบสี่ตําลึง ฉันจะขอมอบใหพอจรและ

พอมิ่งคนละครึ่ง เอาไปแบงกันเอง สวนฉันจะตายอยูแลว ก็ไมจําเปนจะใชเงินอีก จึงไมมีประโยชน
กับฉันอีกตอไปแลว
คนแจวเรือทั้งสองไดฟงทานมหาพูดเชนนั้น

ก็เกิดสงสารจนต้ําตาไหลเพราะเห็นอกเห็นใจ

เกือบจะไมยอมสงทานมหาใหขนบนฝงไปตายอยางผีไมมีญาติอยูคนเดียว
ึ้

ที่คนทังสองคิดกันไว
้

เดิม กอนวาจะชวนกันหลบหนี แตบัดนี้ไมตองทิ้ง เพราะทานมหาสมัครใจพูดขึ้นเองแลว ยังใจดีให
เงินจํานวนไมนอยที่ติดตัวมาทั้งหมด สําหรับในสมัยยุคนั้นก็นับวามากมาย
ความดีของทานมหา ทําใหคนเรือทั้งสองเกิดไมแนใจวา การที่คิดจะทําไปนี้จะผิดหรือถูก
เมื่อมาเรือลําเดียวกันก็ควรจะรวมตายดวยกัน เมื่อมองดูหนากันแลว ทั้งสองก็รูวา ตางไดเปลี่ยน
ความรูสึกใหมเพราะมีใจตรงกัน คนเรือพูดกับทานมหาวา
“ผมมาคิดดูแลว อยาใหเปนอยางนั้นเลย เราพากันไปเที่ยวหาหมอดีกวา เพราะทานมหาก็
เปนคนดี บุญวาสนาจะไมถึงอับจนก็จะหาย ไมถึงที่ยังไมตายก็ได”
เมื่อทานมหาไดยินเชนนั้น ก็มองเห็นความหวังดีของคนเรือทั้งสอง จึงบอกวา “ไมไดหรอกพอ
มิ่งพอจร มีลูกเมียอยูขางหลัง ตองรับภาระเลี้ยงดู อีกอยางหนึ่งเมื่อนําฉันเขาไปในหมูบาน ชาวบาน

รูวาฉันเปนโรคหา จะนําความพินาศมาสูพวกเขา ก็คงจะแตกตื่นตกใจ หวาดกลัวพากันหลบหนีโรค
กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๑๕
หา ทําใหชาวบานโกลาหล ตางไมมีความสุข ฉันคนเดียว ไมอยากจะใหคนอื่นเดือดรอนทั่วไปเลย
เพราะโรคหานี้เปนที่รายแรงเพียงใด ชาวบานชาวเมืองแตไหนเขาก็รูกันทั่วไปแลว หากลงที่ไหนก็
ตายกันเปนหมูบาน เพราะฉะนันชาวบานชาวเมืองจึงกลัวกันนักหนา ขอใหฉันไดรับเคราะหกรรม
้
เพียงคนเดียวเถิด อยาใหเดือดรอนถึงคนอื่นเลย”
คนเรือทั้งสองยิ่งฟงคํา ยิ่งนึกถึงความดีในตัวทานมหา ก็ยิ่งสงสารเห็นใจมากขึ้น เวลานั้น
จวนย่ําค่ําแลว ความเงียบสงัดในทองน้ําปกคลุมดวยความมืดทัวไป นาน ๆ จะไดยินเสียงปลาใหญ
่
โดดขึ้นฮุบเหยื่อ น้ําแตกกระจายดังโผงผาง และเสียงนกรองจอกแจกอยูบนยอดไม กอนจะนอน ๓
ชีวิตอยูบนเรือแจวดวยความเศรานาสงสาร ผานคุงน้ําแลวไมนาน ก็ไดยินเสียงระฆังทางวัดดังหงาง
ๆ มาแตไกล แลวก็ไดยินเสียงหมาหอนติดตามเสียงระฆังอยางโหยหวน ทําใหทั้งสามเศราใจยิ่งขึ้น
พอแจวไปไมนานก็เห็นวัด กําลังจะถึงวัด
คนเรือทั้งสองตางก็นึกไดวา เมื่อทานมหาไมยอมใหชาวบานชวย ก็อยากจะสงขึ้นวัดใหเปน
หนาที่ของพระที่เปนหมอ พอจะชวยพยาบาลรักษาใหหายได
ทั้งสองก็ตามลงบอกกับทานมหาวา จะจัดการสงขึ้นวัด เพื่อพระทานจะมีทางชวยใหหายได
บาง

เพราะสมัยนั้นทางวัดมักจะมีพวกที่มีความรูเปนหมอรักษาโรคภัยไขเจ็บใหกับชาวบานเปน

ทาน แตเมื่อพูดแลวทานมหาก็รีบคานขึ้นวา อยาเลย อยาทําใหพระเจาตองเดือดรอนวุนวายเลย
พระเจาก็กลัวโรคหาเหมือนคนธรรมดา

เมื่อฉันจะตายแลว

ก็ขออยาใหพระเจาและคนอื่นตอง

เดือดรอนไปดวยเลย ขอใหฉันไดตายคนเดียว ก็จะไมมีเวรกรรมติดตอกัน เพราะไมทําใหคนอื่น
เดือดรอนเพราะฉัน
ิ
เมื่อกําลังพูดกันระหวางคนแจวเรือกับทานมหา เรือไดผานหนาวัดไป ไดยนเสียงพระสวด
มนตค่ําที่ศาลาวัดชายน้ํา ทานมหาไมยอมใหชาวเรือทั้งสองแวะจอดเรือสงขึ้นที่ทาวัด บอกใหผาน
กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๑๖
เลยไป จะขึ้นในปาหางบานผูบานคน ชาวเรือทั้งสองก็คานวา หางบานในปาก็มีแตสัตวเลื้อยคลาน

อาศัย นอกนั้นยังมีฝูงลิงมากมายในปา ทั้งน้ําแหงหางตลิ่งมีแตโคลนเลน ไมเหมือนหมูบานคน มี
คลอง มีบันไดขึ้นงาย แตทานมหาไมยอม ขอใหสงใหหางไกลจากบานผูคน เพราะน้ํากําลังขึ้น ไม
ชาเรือจะเขาถึงริมฝง สวนเรื่องสัตวเลื้อยคลาน จรเข ลิง คางก็ไมกลัว คนเรือทั้งสองปฏิบัติดวย
ความไมเต็มใจ เรือไดแจวผานไป ๒ คุงน้ํา ไกลหมูบานคนมามากแลว ความมืดสนิทสองขางลําน้ํา
มีแตพวกหิ่งหอยสงแสงระยับทั่วไปสองขางริมชายน้ํา มีตนไมใหญชายน้ําตนหนึ่ง มีแสงสวางแพรว
พราวสุกใสกวาตนอื่น มีพวกหิ่งหอยเต็มตนทุกกิ่งใบ แลวก็พากันสองแสงดับสวางพรอม ๆ ราวกับ
นัดและซอมกันไวกอน
มหาไดจองตามองดูเหมืนอมองเห็นคนกวักมือเรียก ทานมหารูสึกเหมือนตองมนตสะกด จึงชี้
มือและสั่งใหเรือแจวเขาฝงใตตนไมใหญสวางดวยแสงหิ่งหอยตนนั้น

เพราะตัวเองจะสมัครใจอยู

ตรงนั้น กอนที่เรือจะจอด ขอใหชวยนําเอาหอเสื้อผาไปดวย แลวทานมหาก็นําเงินที่มีอยูในตัว
ทั้งหมด มอบใหคนเรือทั้งสอง บอกวานําไปแบงกัน แลวใหรีบกลับไปบางกอกโดยเร็ว เพราะรูสึก
ปวดมวนทองขึ้นมาอีกแลว คิดวาคงไมรอดไปถึงเชาวันรุงขึ้นเปนแน
คนเรือทั้งสองที่เคยคิดวาจะหลบหนีไปเพราะกลัวโรคหาจะติดตอ แตบัดนี้เกิดมีความเคารพ
นับถือน้ําใจของทานมหาที่ยอมเสียสละ
ชาวเรือทงสองเกิดความสงสาร พูดอยางเสียงสะอื้นอยูในลําคอวา พวกผมสองคนนี้หากไมมี
ลูกเมีย ไมมีหวง ตัวคนเดียวแลว ก็ไมมีทางจากทานมหาไป จะเปนตายอยางไรก็จะขออยูดวยกัน
เพราะเดี๋ยวนี้หมดความกลัวแลว แตจนใจเพราะยังมีหวงอยูทางบาน พูดแลวไสหัวเรือเขาเกยตลิ่ง
ซึ่งเปนโชคดีที่คืนนั้นน้ําขึ้น ฉะนันเรือจึงเกยอยูบนตลิ่งได การขึ้นลงก็สะดวก สองคนเรือก็ชวยพยุง
้
ทานมหาขึนไปพักอยูใตตนไทรใหญ นอกจากเสียงจิ้งหรีดเรไรแลว ก็เปนสถานที่เงียบสงบ เพราะ
้
ปกคลุมไปดวยกิ่งกานสาขาแผออกกวางใหญ หากเวลาธรรมดานอนอยูคนเดียวก็คงจะนากลัว ทัง
้
กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๑๗
สองชวยกันเอาผาขาวมาปูทั้งมืด ๆ ที่ไมมีแสงไฟ อาศัยแสงหิ่งหอยและแสงดาว ตางก็ชวยพยุงราง
ทานมหาลงนอนบนผาขาวมาใตตนไทร แลวก็เอาผาหมที่ทานมหาติดมาคลุมตัวกันน้ําคาง
เมื่อเปนที่เรียบรอยแลว ทั้งสองก็กราบทานมหาดวยความอาลัยอยางจริงใจทั้งสองคน แลว
ทั้งสองคนก็ออกเรือจากสถานที่นั้นดวยน้ําตานองหนา บนวาทําไมคนดี ๆ อยางนี้จะตองมาตาย
อยางผีไมมีญาติ ทานมหาเนื่องจากเปนโรคทองรวงอยางแรง จนถายออกจนหมดแรงนอนสลบไสล
อยูโคนตนไทรใหญจนรุงเชา
เชารุงขึ้น พวกหมาที่บานปู ซึ่งอยูลึกเขาไปมาก ตางก็วิ่งออกจากบานแตเชา เมื่อไปพบมีคน
นอนสลบใตตนไทร ก็ชวยกันสงเสียงเหาหอน
เวลานั้น ปูตื่นแตเชา เมื่อไดยินเสียงหมาเหาผิดสังเกต ก็เกิดสงสัย ลงบันไดเดินไปทางตน

ไทรใหญอยูริมน้ํา เมื่อเห็นมีคนเอาผาขาวมามาปูนอน และสลบไสลอยูเชนนั้น ก็ตื่นเตนตกใจ ไล
พวกหมาใหออกไป ปูมีความรูทางหมอ เปนที่รูจักกันหลายคุงน้ํา เจ็บปวยมาใหปูรักษา
ปูก็ไปจับตัวดูก็ยังอุน จับชีพจรก็ยังเตน จึงรูวาชายผูนี้ยังไมตาย ยังมีลมหายใจ จึงจัดการ
พยาบาลตามความสามารถ ไมชาทานมหาก็รูสึกตัว แตยังมีอาการออนเพลีย เพราะหมดกําลัง
คอย ๆ ลืมตามองดู เมื่อเห็นปูมาคลําดูตามเนื้อตามตัว ตามแขนตามขา ตัวมหาเองกําลังนอนอยูใต
ตนไทรใหญ

ก็นึกถึงตัวที่ไดมีอาการปวยโรคลงทองอยางหนัก

นึกวานี่เราตายไปแลวหรือยัง

พยายามจะลุกขึ้น แตหมดกําลัง ลุกขึ้นไมไหว ยังจําไดนึกไดตลอดจนคนเรือไดชวยกันน้ําขึ้นมาไว
โคนตนไทรเมื่อคืนนี้ ก็รูตัววายังไมตาย และคิดวาคงไมใชโรคหา มิฉะนั้นก็คงตายแลว ปูบอกวาให
นอนนิ่ง ๆ กอน ไมเปนไรพักผอนกอนแลวจะคอย ๆ มีแรง ไดไปเอายาบํารุงกําลังเขาสุราเปนน้ํา
กระสายมาใหกิน แลวคอยครูหนึ่ง บอกใหคนทางบานวา ประเดี๋ยวคนไขมีแรงแลวจะชวยนํามา
รักษาที่บนบานโดนไมรังเกียจ เพราะปูมีจิตใจเมตตาสงสาร จะรักษาจนกวาจะหายเปนปรกติ
กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๑๘
เมื่อทานมหาวงศไดเขามาอยูบานปู ไมนานความออนเพลียก็คอย ๆ คลายหาย การขับถาย
ก็เขาสูเปนปกติ เพราะไมไดเปนโรคหา หรือ อหิวาตเหมือนความเขาใจ ทานมหาวงศก็นึกถึง
บุญคุณของปู จึงบอกวาหากไปตามพี่สังเวียนใหพบแลว ก็จะออนวอนพาไปพบแมกาหลง แลวก็
หมดหนาทีจะมาใชแรงงานใหปู ๓ ปเทาที่ปผูมีพระคุณชวยชีวิตไว
่
ู
ตอจากนั้นมหาวงศก็ลาปูไป ปูเปนคนใจดี ก็มอบเงินใหเปนคาเดินทางไป ๓ ตําลึง เพราะเงิน
ที่มหาวงศติดตัวมานัน
้

ไดใหคนแจวเรือทั้งสองไปหมดแลว

เพราะนึกวาตัวจะไมมีชีวิตรอดจึง

เสียสละ
เมื่อมหาวงศไดจากไปตามพี่สาวแลว ทั้งพี่สาวก็กลับไปอยูกับแมกาหลง ทานมหาจึงได
กลับมาตามที่ไดสัญญาไวกับปู และมาขอทํางานรับใชหนี้ปู แตนั้นมาปูกรูสึกชอบนิสัยซื่อตรงและ
็
ความกตัญูกตเวทีของมหาวงศ เพราะเปนคนรักษาสัจจะ จิตใจพรอมดวยศีลธรรม มหาวงศเมือ
่
มาถึงก็เริ่มบุกเบิกถางปาที่ดินใหเปนไรเปนสวน ดวยความขยันของมหาวงศที่ดิน เคยเปนปารก ก็
คอยกลายเปนไรเปนสวนขึ้นมาอยางทันตาเห็น เพราะปาถางเตียนแลวก็ยกไรปลูกตนไมลมลุกพวก
ฟกแฟง ถั่วงา มันเผือกผลก็ออกงอกงาม สวนสวนก็ปลูกตนไมยืนตน และหากมีเวลา มหาวงศกลา
็
ปูเขาบางกอกไปเยี่ยมแมกาหลงผูมีพระคุณที่เลี้ยงตัวมา

ไดขอผลไมฟกแฟงผักหญาที่ปลูกจาก

ที่ดินของปู นําไปใหแมกาหลงดวยความกตัญู แตก็เปนแรงงานของทานมหา ไรที่เพาะปลูก
ไมลมลุก ไดผลเกิดเปนเงินเปนทองขึ้นมา
เมื่อปูเห็นความขยันความซื่อสัตยสุจริต เปนคนมีความกตัญูก็พออกพอใจ อยากจะใหอยู
นาน ๆ เพราะมหาวงศไดสัญญาวา จะทํางานรับใชเพียง ๓ ป ก็จะจากไป ทําใหเกิดความอาลัย จึง
ตั้งใจจะยกหญิงสาวลูกหลานที่หนาตาหมดจดใหเปนเมียมหาวงศ

แตความรูสึกของมหาวงศนั้น

คลายคนไมมีหัวใจรักใคร ไมเคยสนใจในเรื่องผูหญิงมากอน แมจะมีหญิงสาวในเขตบานปูมีความ
สนใจในตัวมหาวงศก็ดี
กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๑๙
เมื่อใกลวันที่ทิดมหาวงศจะถึงกําหนด จะครบจํานวนวันเดือนปที่สัญญาวาจะอยูทํางานใหปู
วันคืนกําลังผานไปใกลจะสิ้นสุดลง แตมหาวงศก็ไมมีทาทีพูดถึงการกลับบาน หรือเตรียมตัวจะจาก

ปูไปบางกอกตามที่ตกลงไว
วันหนึ่งทานมหาไดพดกับปู “คุณพอครับ ผมอยากจะใหคุณพอชวยเหลือผมสักหนอย” ทิด
ู
มหาวงศชอบเรียกปูวาคุณพอ มีความเคารพปูเหมือนพอบังเกิดเกลา เพราะถือวาปูไดเคยรักษา
ชวยเหลือใหมีชีวิต
ปูถามวา “ทิดมหาจะใหชวยอะไร บอกมาเถิดทุกอยาง ถาพอชวยไดแลวตองชวยเด็ดขาด”
ทิดมหาบอกวา “ผมไมรบกวนอะไรคุณพอมากมายหรอกครับ ผมอยากจะสั่งคุณพอวา หาก
ผมตายลงแลว ขอใหนําศพผมไปฝงไวในนครรางกลางดง หรือ จะเผาผมใหไหมอยูที่นั่นก็ได ขอให
ชวยจัดการตามผมขอดวย นับวาเปนพระคุณตอผมเปนที่สุด คุณพอโปรดรับปากใหผมแนใจวา
เมื่อผมตายแลวจะไดไปอยูที่นั่นดวย”
ปูฟงแลวก็สะดุงจึงพูดวา “ทิดมหาทําไมพูดเปนลางอยางนั้นละ รูปรางยังแข็งแรง หนุม ๆ
แนน ๆ อยางนี้ อายฉันมันแกแลว ควรจะฝากผีฝากไขกับทิดมหา แตทิดมหาเปนหนุมกลับมาฝากผี
ฝากไขกับคนแก ฟงดูแลวมั้นยังไงก็ไมรูชอบกล”
ทิดมหากลับพูดแลออนวอนวา “คุณพอครับ มนุษยเราเกิดมานั้นไมแนนอน คนหนุมอาจตาย
กอนคนแกนั้นมีถมไป ฉะนั้นผมขอวิงวอนใหคุณพอรับปากใหผมสบายใจหนอยเถิดครับ”
ปูคิดแลวก็ตอบวา “ถาทิดมหาตายกอนพอก็ตกลงวา พอจะจัดการตามทิดมหาขอรองทุก
ประการ แมทิดมหาไมใชลูกแท พอก็รักเหมือนลูกผูเปนเลือดเนื้อของพอผูหนึ่ง ไมมีอะไรที่พอจะทํา
ู
ใหลูกที่พอรักไมได แมพอจะมีลูกหลายคน แตจะหาน้ําใจที่สงดวยความกตัญูกตเวทีและขยัน

กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๒๐
ขันแข็ง เอาการเอางานเหมือนทิดมหาไมได ทิดมหาดีกวาลูกแทของพอ ซึ่งไมคอยจะเอาถาน ฉะนัน
้
มีอะไรพอจะทําใหลูกได พอจะทําใหลูกทุกสิ่ง”
เมื่อกอนถึงกําหนดวันเดือน ๓ ป ครบสัญญาที่ไดทํางานสมบูรณ การกอรางสรางไรสราง
สวน ก็เปนรูปยกรองดวยแรงงานของทิดมหา ทุมเทอยางไมเห็นแกความเหนื่อยยาก สําเร็จโดย
เรียบรอย คอยแตเวลาจะเกิดดอกออกผลขึ้นเทานั้น เพื่อผูอื่นจะไดรับชวงบํารุงไรสวนตอไป
พอวันเวลาจะครบกําหนดสัญญา ทิดมหาวงศก็บอกกับปูใหทราบวา เวลาจะจากปูไปใกล
เขามาแลว แตทิดมหาก็ไมไดเตรียมตัวเพื่อกําหนดวันเวลา จะออกเดินทางกลับบางกอก
หลังจากครบกําหนดแลว

ทิดมหาก็ไมกนขาวกินน้ํา
ิ

ไดแตนอนสงบนิ่งอยูในบานหรือ

กระทอม ที่ทิดมหาสรางอยูนั้นใกลในเขตบริเวณบานของปู
เมื่อปูรูวาทิดมหาไมกนอะไรก็ไมสบายใจ เปนหวงรีบไปเยี่ยมและตรวจเพื่อรักษา แตทิดมหา
ิ
ก็แสดงความยินดีเมื่อเห็นปูเขาไปหา ไมไดปวยไขดังคิด แตย้ําถึงการที่รับปากไววา ทิดมหาสิ้นชีวิต

ลงแลว ขอใหจัดการตามที่ขอรอง ปูรับปากจะจัดการตามที่ขอรอง ปูสงสัยทิดมหามานานแลว
ทําไมถึงมีความรูสึก มีความคิดแปลกไปจากคนธรรมดาเชนนี้ พยายามถามเหตุผล แตทิดมหาก็อิด
ๆ เอื้อน ๆ ไมอยากจะบอกความจริง ในที่สุดเสียออนวอนและมีความเกรงใจ และเคารพนับถือปู
เปนพอ จึงบอกความจริงใหทราบวา
ทุกคืนวันพระกลางเดือนขึ้น ๑๕ ค่ํา ไดยินเสียงมโหรีลอยตามลมมาจากนครรางกลางดง ก็
เกิดทําใหจิตใจปนปวน เพราะเสียงเพลงไพเราะจับใจ เหมือนจะเรียกรองใหไปหาแทบทนไมไหว
เมื่อเดือนหงายก็ถือโอกาสนั่งสมาธิ เมื่อใจสงบแลวเกิดเปนรางนิมิตออกติดตามเสียงเพลงนั้นเขาไป
ความรูสึกเหมือนครึ่งฝนครึ่งจริง

กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๒๑
พอเดินไปถึงหมูเงาไมใหญ ใตแสงเดือนที่สองสวางบนทองฟา เห็นมีหญิงสาว ๒ คนมายืน
คอยอยูกอน พอเห็นหนาก็บอกวา องคหญิงใหมาเชิญ ผมเองก็งง แตเดินตามหญิงสาวไปเหมือน
ตองมนตสะกด ผมก็ผานเขาไปเห็นภายในบานเมืองสวยงาม จัดไวเปนระเบียบเรียบรอย มีบาน
นอยใหญปลูกเปนระเบียบ

มีความรมเย็นรมรื่น

ทําใหจิตใจมีความสดชื่น

มีความสุขอยาง

ประหลาด ในที่นั้นมีแตหญิงลวน ๆ ไมมีคนแก ไมมีเด็ก มีแตสวยงาม ๆ ทั่วไป มองเห็นสระน้ํากวาง
ใหญ เห็นตําหนักมีพวกสาว ๆ สวย ๆ เปนหมูแลวก็บรรเลงกระจับปสีซอเปนเพลงไพเราะในตําหนัก
แพชายน้ํา มีองคหญิงรูปรางสวยงามดุจนางฟา เหมือนเดือนลอมรอบไปดวยหมูดาวนั่งดูดวงจันทร
ในเงาน้ําและทองฟา เปนภาพที่สวยงามที่สุดในชีวิตผมที่เคยเห็นมา จิตใจสดชื่นเปนสุขจริง ๆ
ความเหนื่อยยากลําบากในชีวิต ที่ตองกรํางานอยูตลอดวันลืมหายเปนปลิดทิ้ง มีแตความสุขสดชื่น
ใจคอเบิกบานเมื่อเขาไปในสถานที่แหงนั้น ตะลึกเพราะความงามทั่วไป นึกในใจวานี่ไมใชมนุษย
สวยงามเกินกวามนุษยจะสรางได
ปูไดฟงเรื่องแปลกประหลาด เกิดตื่นเตนสนใจ ทิดมหาไดเลาตอไปวา
เปนนิมิตไดเกิดขึ้นกับตัวผม ทําใหผมมีความสุขอยางที่สุด เมื่อองคหญิงผูเลอโฉมเห็นผม
แลว แสดงความดีใจและตื่นเตน ตรงเขามาหาผมดวยสีหนาแสดงถึงความสุข ทรงตรัสถามถึงวา
“ยังมีเวลาเหลืออีกเทาใดที่ไดสัญญาไววาจะทํางานใหแกผูมีพระคุณจึงจะครบ” ทิดมหาบอกวายัง
เหลือเวลาอีกครึ่งป องคหญิงรับสั่งวา “เมือครบกําหนดสัญญาแลว “สุรเทพ” ของฉันเราจงมาอยู
่
ดวยกันเถิดนะ เพราะถึงเวลาเราจะอยูรวมกันแลว เมื่อหมดขอผูกพันใด ๆ ในโลกมนุษยแลว หญิง
ไดรอคอยเธอมานานดวยความอดทน บัดนี้หญิงก็หมดขอผูกพันในราชนิกูล หลุดพนจากโลกมนุษย
แลว เราจะไดมีโอกาส มีอิสระสมปรารถนาตามความเรียกรองของหัวใจที่ไดทนทุกขทรมานมานาน
แลว” รับสังแลวองคหญิงก็ใหพวกกํานัลสาว ๆ ไปยกอาหารที่เตรียมไวแลว ออกเลี้ยงกันอยางสุข
่
สําราญ ทุกคนตางมีใจเบิกบานชุมชื่น ความสุขสบายทางจิตใจ ทําใหครึ้มใจเพลิดเพลิน ทําใหผม
กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย
 

๒๒
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001

More Related Content

What's hot

GMOペパボ 開発現場以外でも「スクラム」的な取り組み
GMOペパボ 開発現場以外でも「スクラム」的な取り組みGMOペパボ 開発現場以外でも「スクラム」的な取り組み
GMOペパボ 開発現場以外でも「スクラム」的な取り組みFuminori Wajima
 
[BNI đào tạo 5 phút] - Hãy là một chủ nhà thân thiện
[BNI đào tạo 5 phút] - Hãy là một chủ nhà thân thiện[BNI đào tạo 5 phút] - Hãy là một chủ nhà thân thiện
[BNI đào tạo 5 phút] - Hãy là một chủ nhà thân thiệnNguyen Thanh Tuan
 
John deere 2500 a professional greens mower service repair manual (tm1757)
John deere 2500 a professional greens mower service repair manual (tm1757)John deere 2500 a professional greens mower service repair manual (tm1757)
John deere 2500 a professional greens mower service repair manual (tm1757)fjjskefkskem
 
Chituku function lo
Chituku function loChituku function lo
Chituku function lovenkatesha9
 
[Bản Việt Nam] Làm Giàu Nhanh - T. Harv Eker
[Bản Việt Nam] Làm Giàu Nhanh - T. Harv Eker[Bản Việt Nam] Làm Giàu Nhanh - T. Harv Eker
[Bản Việt Nam] Làm Giàu Nhanh - T. Harv EkerThao Media 99
 
더 나은 개발자 되기
더 나은 개발자 되기더 나은 개발자 되기
더 나은 개발자 되기JeongHun Byeon
 
CRE-022-創新與創意思考力
CRE-022-創新與創意思考力CRE-022-創新與創意思考力
CRE-022-創新與創意思考力handbook
 
[Bài đào tạo 5 phút tại BNI] - Sự có mặt
[Bài đào tạo 5 phút tại BNI] - Sự có mặt[Bài đào tạo 5 phút tại BNI] - Sự có mặt
[Bài đào tạo 5 phút tại BNI] - Sự có mặtNguyen Thanh Tuan
 
Đào tạo 5 phút BNI - Bản đồ chiến lược tới thành công
Đào tạo 5 phút BNI  - Bản đồ chiến lược tới thành côngĐào tạo 5 phút BNI  - Bản đồ chiến lược tới thành công
Đào tạo 5 phút BNI - Bản đồ chiến lược tới thành côngNguyen Thanh Tuan
 
[Đào tạo 5 phút BNI] - Sáu bước để tạo sự thân thiện
[Đào tạo 5 phút BNI] - Sáu bước để tạo sự thân thiện[Đào tạo 5 phút BNI] - Sáu bước để tạo sự thân thiện
[Đào tạo 5 phút BNI] - Sáu bước để tạo sự thân thiệnNguyen Thanh Tuan
 
[BNI Đào tạo 5 phút] - Phát triển quan hệ trong kinh doanh
[BNI Đào tạo 5 phút] - Phát triển quan hệ trong kinh doanh[BNI Đào tạo 5 phút] - Phát triển quan hệ trong kinh doanh
[BNI Đào tạo 5 phút] - Phát triển quan hệ trong kinh doanhNguyen Thanh Tuan
 
dtac accelerate batch4 Demo Day : PlanforFIT
dtac accelerate batch4 Demo Day : PlanforFITdtac accelerate batch4 Demo Day : PlanforFIT
dtac accelerate batch4 Demo Day : PlanforFITdtac Accelerate
 
Adbhuta anubhavaalu-01-08
Adbhuta anubhavaalu-01-08Adbhuta anubhavaalu-01-08
Adbhuta anubhavaalu-01-08venkatesha9
 
Đào tạo 5 phút BNI - Đường tắt tới thành công
Đào tạo 5 phút BNI  - Đường tắt tới thành côngĐào tạo 5 phút BNI  - Đường tắt tới thành công
Đào tạo 5 phút BNI - Đường tắt tới thành côngNguyen Thanh Tuan
 
Ee Din Du Kaavaali 01
Ee Din Du Kaavaali 01Ee Din Du Kaavaali 01
Ee Din Du Kaavaali 01guestcc0c19
 

What's hot (20)

GMOペパボ 開発現場以外でも「スクラム」的な取り組み
GMOペパボ 開発現場以外でも「スクラム」的な取り組みGMOペパボ 開発現場以外でも「スクラム」的な取り組み
GMOペパボ 開発現場以外でも「スクラム」的な取り組み
 
[BNI đào tạo 5 phút] - Hãy là một chủ nhà thân thiện
[BNI đào tạo 5 phút] - Hãy là một chủ nhà thân thiện[BNI đào tạo 5 phút] - Hãy là một chủ nhà thân thiện
[BNI đào tạo 5 phút] - Hãy là một chủ nhà thân thiện
 
John deere 2500 a professional greens mower service repair manual (tm1757)
John deere 2500 a professional greens mower service repair manual (tm1757)John deere 2500 a professional greens mower service repair manual (tm1757)
John deere 2500 a professional greens mower service repair manual (tm1757)
 
Tu duy tich cuc dcn 9421
Tu duy tich cuc dcn 9421Tu duy tich cuc dcn 9421
Tu duy tich cuc dcn 9421
 
Chituku function lo
Chituku function loChituku function lo
Chituku function lo
 
[Bản Việt Nam] Làm Giàu Nhanh - T. Harv Eker
[Bản Việt Nam] Làm Giàu Nhanh - T. Harv Eker[Bản Việt Nam] Làm Giàu Nhanh - T. Harv Eker
[Bản Việt Nam] Làm Giàu Nhanh - T. Harv Eker
 
더 나은 개발자 되기
더 나은 개발자 되기더 나은 개발자 되기
더 나은 개발자 되기
 
CRE-022-創新與創意思考力
CRE-022-創新與創意思考力CRE-022-創新與創意思考力
CRE-022-創新與創意思考力
 
[Bài đào tạo 5 phút tại BNI] - Sự có mặt
[Bài đào tạo 5 phút tại BNI] - Sự có mặt[Bài đào tạo 5 phút tại BNI] - Sự có mặt
[Bài đào tạo 5 phút tại BNI] - Sự có mặt
 
Đào tạo 5 phút BNI - Bản đồ chiến lược tới thành công
Đào tạo 5 phút BNI  - Bản đồ chiến lược tới thành côngĐào tạo 5 phút BNI  - Bản đồ chiến lược tới thành công
Đào tạo 5 phút BNI - Bản đồ chiến lược tới thành công
 
[Đào tạo 5 phút BNI] - Sáu bước để tạo sự thân thiện
[Đào tạo 5 phút BNI] - Sáu bước để tạo sự thân thiện[Đào tạo 5 phút BNI] - Sáu bước để tạo sự thân thiện
[Đào tạo 5 phút BNI] - Sáu bước để tạo sự thân thiện
 
P4 lesson 4
P4 lesson 4P4 lesson 4
P4 lesson 4
 
[BNI Đào tạo 5 phút] - Phát triển quan hệ trong kinh doanh
[BNI Đào tạo 5 phút] - Phát triển quan hệ trong kinh doanh[BNI Đào tạo 5 phút] - Phát triển quan hệ trong kinh doanh
[BNI Đào tạo 5 phút] - Phát triển quan hệ trong kinh doanh
 
EPS TOPIK Textbook in Bangla
EPS TOPIK Textbook in Bangla EPS TOPIK Textbook in Bangla
EPS TOPIK Textbook in Bangla
 
Anna bhaaryato
Anna bhaaryatoAnna bhaaryato
Anna bhaaryato
 
P4 lesson 5
P4 lesson 5P4 lesson 5
P4 lesson 5
 
dtac accelerate batch4 Demo Day : PlanforFIT
dtac accelerate batch4 Demo Day : PlanforFITdtac accelerate batch4 Demo Day : PlanforFIT
dtac accelerate batch4 Demo Day : PlanforFIT
 
Adbhuta anubhavaalu-01-08
Adbhuta anubhavaalu-01-08Adbhuta anubhavaalu-01-08
Adbhuta anubhavaalu-01-08
 
Đào tạo 5 phút BNI - Đường tắt tới thành công
Đào tạo 5 phút BNI  - Đường tắt tới thành côngĐào tạo 5 phút BNI  - Đường tắt tới thành công
Đào tạo 5 phút BNI - Đường tắt tới thành công
 
Ee Din Du Kaavaali 01
Ee Din Du Kaavaali 01Ee Din Du Kaavaali 01
Ee Din Du Kaavaali 01
 

ท.เลียงพิบูลย์Tl001

  • 2. คํานํา หนังสือ ท. เลียงพิบูลย เขียนกฎแหงกรรม ในเรื่องอยุธยาแหงความหลัง นครแลลับเพื่อการ กุศล ไดพิมพขึ้นมา ๒ ครั้งเวลานานมาแลว ปจจุบนมีผูสนใจอานกันมาก แตหาหนังสือนี้ไมไดอีก ั แลว ผูเขียนนั้นคือ ท. เลียงพิบูลย ไดใชเวลานานในการรวบรวม โดยไดจากการบอกเลาของปา เจียมเปนคนแรก ครั้งที่สองไดจากสมุดขอยของเกามีรายละเอียดมากที่ ท. เลียงพิบูลย ไดอานและ พบมา ครั้งที่สามอาตมาเลาใหทานฟง อาตมารูจัก ท. เลียงพิบูลยมานานแลวตั้งแต พ.ศ. ๒๕๐๐  และเคารพนับถือทานมานานพอสมควร เพราะทานไดไปที่วัดอัมพวันเปนประจํา งานพระราชทาน เพลิงของคุณแม ท. เลียงพิบูลยที่วัดธาตุทอง อาตมาก็ไดไปรวมบําเพ็ญกุศลกับทานดวย คุณโยม ท. เลียงพิบูลยเคารพนับถือหลวงปูชุมที่ลําพูนมาก ไปลําพูนครั้งไรก็ตองไปแวะวัดอัมพวันเสมอ ๆ สนทนาเรื่องกฎแหงกรรมกันตลอดมาจนทานถึงแกกรรมไปแลว หลังจากนั้นอาตมาคิดวาหนังสือจะ หาอีกไมไดแลว กลัวจะสูญหายไปเสีย ท. เลียงพิบูลยไดถึงแกกรรมเมื่อวันเสารที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๗ รวมเวลา ๙ ปแลว ทางคณะชมรมกฎแหงกรรมของ ท. เลียงพิบูลย ไดจัดการบําเพ็ญกุศลใหทาน ณ โรงพยาบาลสงฆ กทม. เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๓๖ อาตมาไดไปบรรยายธรรม ณ หอประชุมโรงพยาบาลสงฆ เรื่องกฎแหงกรรมเพื่ออุทิศสวนกุศลและบูชาคุณของทาน ท. เลียงพิบูลย อาตมาไดรวมทุนบําเพ็ญ กุศลสวนตัวจํานวน ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาท) และไดปรารภถึงเรื่องหนังสือ นครแลลับ อยุธยาแหงความหลัง และอดีตที่ผานมา ในที่ประชุมฟง “ยังมีอยูที่ไหนบางหรือไม คุณโยม ประสิทธิ์” คุณโยมประสิทธิ์เรียนใหทราบวาตองไปหาดูที่ตนฉบับ ใหโยมไปดูที่รานขายหนังสือ หลายแหงก็ไมมีเลย กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๒
  • 3. อาตมามีอยูหลายเลมที่คุณโยม ท. เลียงพิบูลยนําไปถวายเมื่อวันอาทิตยที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๘ แรม ๑๐ ค่ําเดือน ๕ มีญาติโยมสนใจกันมาก ขอยืมไปอานแลวไมสงคืน หนังสือจึงหายไป หมด เหลืออยู ๑ เลมเทานั้น ขอยืมอานกันขาดหมด จะไปหาอีกก็ไมได ตั้งใจจะพิมพขึ้นใหมเปน ครั้งที่ ๓ นี้ จึงปรารภขึ้นมา มีโยมสุนีย พันธศุภร หางทองลูกสาวทองใบสะพานควายสนใจมาก โยมสุนีย พันธศุภรจึงขอติดตอกับชมรมกฎแหงกรรมของทาน ท. เลียงพิบูลย คุณทวี แสงทรัพย ได ไปติดตอกับทาน พลเรือตรีทวีชัย เลียงพิบูลย เปนบุตรของคุณโยม ท. เลียงพิบูลย ไดเมตตา มอบ ตนฉบับมาให เพื่อทําการจัดพิมพ ิ หนังสือเลมนี้มี ๒ เรื่อง คือ ทําดีไดดี ประวัตของทานโยม ท. เลียงพิบูลย เพื่อเปนคติเตือนใจ การพิมพหนังสือครั้งนี้มีเหตุผล ๓ ประการคือ ๑. เพื่อรักษาประวัติ – หนังสือ – ไมใหสูญ ๒. เพื่อบูชาพระคุณของคุณโยม ท. เลียงพิบูลย ๓. เพื่อรวบรวมทุนพิมพหนังสือแจกนักเรียน นักศึกษาที่มาอบรม ณ วัดอัมพวัน และ รวบรวมทุนเขาชมรมกฎแหงกรรมของ ท. เลียงพิบูลย อาตมาขออนุโมทนาแด คุณทวี แสงทรัพย ผูติดตอ และขอขอบพระคุณขอบใจ ทานพลเรือ ตรีทวีชัย เลียงพิบูลย ที่ไดอนุญาต และใหตนฉบับพิมพครั้งนี้ หนังสือเลมนี้มีประโยชนตอประชาชน และประเทศชาติ เพื่อเปนตัวอยางของอนุชนรุนหลังตอไป บุญกุศลอันนี้ขออุทิศใหคุณโยม ท. เลียง พิบูลย ขอใหคุณโยมจงมีความสุขความเจริญในเทวสถานวิมานแมนแดนสวรรคนั้นเทอญ พระราชสุทธิญาณมงคล วัดอัมพวัน อ. พรหมบุรี จ. สิงหบุรี กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๓
  • 4. บานสัมมากร บางกะป 29 กรกฎาคม 2536 เรื่อง อนุญาตใหพิมพหนังสือกฎแหงกรรมชุด “อยุธยาแหงความหลัง” เพื่อเปนการกุศลในวาระ คลายวันเกิดของพระราชสุทธิญาณมงคล (หลวงพอจรัญ ฐิตธมฺโม) เรียน คุณทวี แสงทรัพย ที่นับถือ ตามที่ทานไดทําหนังสือในฐานะสมาชิกชมรมกฎแหงกรรม ท. เลียงพิบูลย และเปนผูไป ปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน สิงหบรี มาขออนุญาตจัดพิมพหนังสือชุดกฎแหงกรรมเรื่อง “อยุธยาแหง ุ ความหลัง” เพื่อนอมถวายเปนพุทธบูชาและอุทิศสวนกุศลใหแกคุณ ท. เลียงพิบูลย เนื่องในวาระ คลายวันเกิดพระราชสุทธิญาณมงคล ตามทีทานไดแจงวัตถุประสงคมานั้น ่ กระผมมีความยินดีอนุญาตใหพิมพหนังสือชุดดังกลาวตามวัตถุประสงคที่แจงมา เพื่อ ยกระดับคุณธรรมและจริยธรรมของสังคม ที่จะอยูรวมกันดวยความปกติสุข ตามเจตนารมณของ คุณพอของกระผม ซึ่งเคยเขียนหนังสือชุดนี้ เพื่อใหคนในสังคมตระหนักถึง “กรรม” และ “ผลกรรม” ในชุดที่มีชื่อวา “หนังสือกฎแหงกรรม ทําดีไดดี ทําชั่วไดชั่ว” ในโอกาสนี้ กระผมขอใหทานประสบผลสําเร็จดังที่ทานมุงหวังไวดวยดี  ขอแสดงความนับถือ พลเรือตรี ทวีชัย เลียงพิบูลย กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๔
  • 5. ความรูสึกของผูเขียน  เมื่อหลายปที่ผานมา เวลานั้นขาพเจาไดเขียนหนังสือชุด “กฎแหงกรรม” ยังไมครบรอยเรื่อง ไดมีทานที่เคารพและเพื่อนฝูงที่รักนับถือหลายทาน มีความศรัทธาในหนังสือชุดนี้ ตางเห็นวาควรจะ ตั้ง “มูลนิธิ ท. เลียงพิบูลย” เพื่อนําเงินดอกผลมาพิมพหนังสือแจกเผยแพรใหกวางขวางเปน ประจําตอไป ขาพเจายังไมทราบวา แตละทานไดตกลงกัน จะออกเงินครั้งแรกคนละหนึ่งหมื่นบาท รวบรวมเงินพอจะจดทะเบียนได คุณประสิทธิ์ การุณยวนิชย ตกลงจะใหใชตึกปากซอยสารสิน ซึ่งเปนของคุณประสิทธิ์เปน สํานักงาน ทั้งไดอุตสาหรางโครงการสําหรับมูลนิธิมาใหขาพเจา ขอใหเห็นชอบดวย โดยบอกวา พรรคพวกเขาเห็นดีเห็นชอบดวยกันแลว และจําใหคุณณรงค สุทธิกุลพานิชย เปนผูรักษาเงิน ขาพเจายังไมคาดคิดมากอน แตเมื่อทราบความหวังดีของทานที่เคารพนับถือและพวก เพื่อน ๆ ก็เห็นคุณคาน้ําใจมีตอขาพเจานั้นสูงยิ่ง และเห็นประโยชนในเรื่องสรางกุศลทางอบรม จําเปนในยุคนี้ ทุกทานตางก็เห็นความสําคัญในเรื่องศีลธรรม หวังจะเห็นประโยชนสวนรวม ขาพเจาก็ลําบากใจ คิดแลวคิดอีก หากปฏิเสธเสียเลยก็จะทําใหผูหวังดีจะเสียกําลังใจ แตก็ ไดตั้งใจบริสุทธิ์ไวแลววา จะไมเบียดเบียนเพื่อนฝูงและทานผูเคารพนับถือใหพลอยเดือดรอนใน เรื่องนี้ ขาพเจาก็ไดเรียนกับทานผูหวังดีและผูเสียสละวา ขาพเจายังไมเห็นดวย เพราะกลัววาจะเปน การเบียดเบียนใหรับความเดือดรอน ยังไมควร สวนจะตั้งชื่อ “ท. เลียงพิบูลย” เปนมูลนิธินั้นตองขอ ตัว สําหรับเงินที่จะหาสมทบทุนพิมพหนังสือนั้น ขาพเจาจะหาเอง จะไมใหกระทบกระเทือนผูใด ขาพเจาคิดวาจะเขียนหนังสือเรื่องยาวสักเลมหนึ่ง ปกแข็งเดินทอง แลวนําไปจําหนาย นําเงินสมทบ ทุนพิมพหนังสือตอไป เพราะการตั้งมูลนิธินั้นใหญโตยุงยาก ลําบากเพิ่มภาระอีกมากมาย กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๕
  • 6. ตอจากนั้นมา ขาพเจาก็ไมมีเวลาจะเริ่มเขียนหนังสือตามที่ตั้งใจไว เพราะงานอื่นแทรกจนหา เวลาไมไดหลายป คุณประสิทธิ์ การุณยวนิช ไดมาเตือนขาพเจามาเสมอ ขาพเจาก็ไดแต ผลัดวันประกันพรุง ตอมาเมื่อกลางป พ.ศ. ๒๕๑๗ คุณณรงคไดบอกมาวา เวลานี้มผูสงเงินมา ี สมทบทุน “กฎแหงกรรม” เพื่อจัดพิมพหนังสือแจกตอไป บางทานก็ไมประสงคออกนาม สงมาเปน จํานวนเกาหมื่นกวาแลว ในจํานวนนี้ทราบวาของคุณณรงคสองหมื่น ขาพเจาไดยินเชนนั้น ก็รูสึกวาคาน้ําใจไดหลั่งไหลเขามาสมทบทุนในชุด “กฎแหงกรรม” มากมายโดยไมหวังสิ่งตอบแทน ขาพเจาจะตองเรงเขียนหนังสือที่ตั้งใจไวใหเสร็จเรียบรอยเปน รูปเลมใหเร็วที่สุด แตทุกสิ่งยิ่งเร็วเทาไหรก็รูสึกวาชาเทานั้น ที่สุดจะออกไดทันปใหมก็ไมทัน เพราะ ตองมาเขียนเรื่องสวัสดีปใหม แลวก็ใสชื่อคุณณรงคเปนผูรับจองหนังสือ คิดวาลําบากคนเดียวไม พอ จึงทําใหคุณณรงคลําบากไปดวย เพราะมีผูถามวาเรื่อง “นครแลลับอยุธยาแหง ความหลัง” จะเสร็จเมื่อไหร ถามไปที่ทางคุณณรงค ฯ บอกวาเวลานี้เขาสงเงินมาจองแลว ขาพเจาก็ตอบไมถูก เพราะมีผูขอรองใหเพิ่มเติมลงเรื่อง “อดีตที่ผาน” ใหลงรูปดวยก็ลาชาไปอีก และบัดนี้ เรื่องไดเรียบรอยลงแลว หนังสือเลมนี้พิมพจํานวนสามพันเลม ปกแข็งเดินทอง ประมาณ ไวเดิมสี่รอยหนา แตเมื่อเขียนไปแลวก็เกินไปมากกวากําหนด ไมคอยจะเสร็จงาย เพราะมีหลาย ทานขอใหเขียนเพิ่มเติม ขาพเจาก็เต็มใจ เพราะเห็นประโยชนสวนรวม คุณณรงคบอกวา หนังสือที่จัดพิมพเลมนี้ เปนเงินเทาไหร ขอใหเก็บจากกองทุน “กฎแหง กรรม” ที่คุณณรงค แตขาพเจาขอใหการพิมพครั้งนี้เปนทุนสวนตัว ขาพเจาของคุณณรงควา หนังสือเลมนี้เปนอนุสรณในชีวิตรักของขาพเจา และขาพเจายัง เปนหนี้คาน้ําใจของทานผูบริจาคทรัพยในครั้งงานศพแมเปนจํานวนมาก ขาพเจายังระลึกถึงทาน กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๖
  • 7. อยูเสมอ รักน้ําใจ จึงอยากจะนําหนังสือเลมนี้ไปอภินันทนาการ เปนอนุสรณแกทานที่ขาพเจายังไม ลืม แมเวลาจะผานมาหลายปแลว ขาพเจาก็ไดตั้งใจจะแบงหนังสือที่พิมพเปนพิเศษ จํานวนหารอยเลม ไปแจกจายใหทานที่มี พระคุณในครั้งงานศพ “แม” เพื่อเปนอนุสรณคาน้ําใจของทาน ที่ไดบริจาคเงินคาพิมพหนังสือ และ สรางหองคนไขที่ศิริราชพยาบาลตึก ๗๒ ขาพเจาขอกราบมาดวยใจจริงอีกครั้งหนึ่ง เหลือ จํานวนสองพันหารอยเลม ขอมอบใหคุณณรงคจําหนาย ทั้งทุนทั้งกําไร ขอมอบใหกองทุน “กฎ แหงกรรม” ดวยความตั้งใจของขาพเจา ขอเปนเลมพิเศษทั้งเขียนและพิมพ คุณณรงคพยายามจะขอรองใหนําเงินทุน “กฎแหงกรรม” มาจายคาหนังสือ ขาพเจาอธิบาย ความรูสึกใหฟงวา ขาพเจามีความยินดีเขียนและพิมพ เพื่อเปนอนุสรณในชีวิตรักและสงวนลิขสิทธิ์ เปนพิเศษ มอบใหคณ “กฎแหงกรรม” พิมพจําหนายตอไป เงินทุนที่ไดจากการขายหนังสือเลมนี้ ุ มิใชวาจะจํากัดแตเพียงพิมพหนังสือแจงอยางเดียว หากมีสิ่งใดนอกเหนือที่เห็นสมควร จะชวย เพื่อนมนุษยที่ตกทุกขไดยาก ไดรบภัยจากธรรมชาติ ทําใหขาดอาหาร ที่อยูอาศัย เมื่อไดรับเคราะห ั กรรม ก็ใหพิจารณาชวยเหลือเพื่อนมนุษยดวยกัน ยามรับความเดือดรอน หากตอไปเงินนี้เพิ่ม จํานวน มีสงใดที่เปนประโยชนสวนรวมแลว ก็ใหนําเงินนี้สงเสริมไดตามความเห็นสมควร ิ่ สวนผูบริจาคเปนกองทุนสําหรับพิมพหนังสือนั้น ขอใหแยกไวพิมพหนังสือโดยเฉพาะ และก็ ไดเริ่มพิมพหนังสือในกองทุนที่ผูบริจาคไปบางแลว ขอขอบคุณทุกทาน ที่เขาใจในเจตนาของขาพเจาและไดเห็นประโยชนในหนังสือชุด “กฎแหง กรรม” นี้ ขอพุทธานุภาพ จงบันดาลใหทุกทานจงประสบความสุขดวยความสงบทั่วทุกทานเทอญ กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๗
  • 8. “นครแลลับ อยุธยาแหงความหลัง” โดย ท. เลียงพิบูลย เมื่อสมัยยังอยูในวัยเด็ก ขาพเจาไดรูจักกับหญิงสูงอายุผูหนึ่ง มาพักบานญาติของแก ใกล บานขาพเจา อายุแกกวาแม จึงเรียกแกวา ปาเจียม รูปรางของปาเจียมนั้นผอมสูง ผิวเนื้อดําแดง เคยออกฝดาษมาแลว มีรอยแผลบนใบหนา สมัยนั้นเขาเรียกวา เปนหนาขาวตัง และฟนเขยินกิน หมากจนฟนดํา เครื่องแตงตัวของปาเจียม แกชอบนุงผาลายโจงกระเบน ใชผาแถบคาดนม ไมชอบ ใสเสื้อ ตัดผมสั้น ชอบพกเหรียญเงินไวที่ชายพกแบบคนสมัยกอน รูปรางปาเจียมมองดูแลว หา ความเจริญตาภายนอกไดยาก แตน้ําใจปาเจียมนั้นผิดกับรูปราง ตรงขาม ใจดี รักเด็ก พวกเราเพื่อน ๆ ชอบปาเจียมมาก เมื่อยามตรุษ ยามสงกรานต ปาเจียมก็มักมากรุงเทพฯ และมีขนมติดมือมา ฝากเด็กดวยทุกครั้ง เปนขนมไทยทําเอง แกเปนชาวเมืองสมุทร มาบางกอกดวยเรือแจว แรมคืนกวา จะถึงบางกอก เด็ก ๆ พอรูวาปาเจียมมา พวกเราก็ดีใจ พากันไปหา พวกเราชอบนิสัยออนโยน เมือ ่ พูดกับเด็ก ๆ และหนาตาแกยิ้มแยมอยูตลอดเวลา เมื่อพูดกับพวกเรา รูสึกวา แกมีจิตใจเอ็นดู เมตตาปรานีกับพวกเรามาก ฉะนัน เด็ก ๆ ลองไดไปพูดกับปาเจียม แลวมักจะติดแก ขาพเจากําลัง ้ เขียนเรื่องนี้ ก็อดนึกถึงรูปรางหนาตา กิริยาทาทางของปาเจียมไมได ไมเคยลืม นึกถึงกิริยา ออนหวาน ใหความเห็นอกเห็นใจกับเด็ก ผิดกับรูปรางภายนอก ยังจําไดถึงปจจุบันนี้ แมรูปชั่วตัวดํา แตน้ําใจดี ยังจําได ครั้งหนึ่งเพื่อนเด็กขางบานขาพเจา ไปขอสตางคพอแม แทนที่จะไดสตางค กลับถูก แมเอาไมเรียวไลตี ตองวิ่งหนีโจนออกจากบานแทบไมทัน แลวมายืนรองไหอยูขางตรอกสะพานยาว เมื่อปาเจียมไปเห็นเขาก็สงสาร เขาไปปลอบถาม แลวก็ใหสตางค อายเพื่อนคนนั้นกลับหัวเราะออก กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๘
  • 9. ดีใจลิงโลดวาปาเจียมใหมากกวาแมเสียอีก แลวจะไมใหเราเด็ก ๆ รักปาเจียมไดอยางไร นับแตเด็ก พวกเรายังไมเคยพบใคร จะมีใจดีเทาปาเจียมเลย จะพูดอยางเดี๋ยวนี้ ปาเจียมก็คือ แมพระของเด็ก เวลานั้น เมื่อขาพเจานึกถึงตอนนี้แลว ก็ตองหยุดเขียน นั่งนิ่งสงบจิต อุทิศสวนกุศลที่ไดสรางในชาติ กอนหรือชาตินี้ก็ดี ขอใหวิญญาณของปาเจียมจงไดรับผลบุญที่แผใหในครั้งนี้ดวย ปาเจียมไดจาก โลกนี้ไปนานแลว แตความดีของปาเจียมยังฝงอยูในจิตใจของเด็กพวกเราในครั้งนั้นอยางไมรูลืม ขาพเจาจะเริ่มเขียนเรื่องตอไปวา ครั้งนั้นปาเจียมเคยเลาเรื่องราวนิทานเกี่ยวกับเรื่องผี ๆ สาง ๆ ใหฟง เวลานั้น พวกเราเด็ก ๆ ก็ชอบฟง กลางวันเราไมกลัว แตถากลางคืนเราก็ไมกลา พวกเด็ก ๆ ตองนั่งชิดเบียดกันฟง ขาพเจามีความสนใจเรื่องที่ปาเจียมเลาใหฟง แมจะผานมาหาสิบกวาปแลวก็ดี ยังจํา ขอความไดดี ครั้งนั้นปาเจียมเลาใหฟงวา พวกหนู ๆ คงอยากจะฟงเรื่องที่บานนอกของปา มีเรื่องประหลาดมหัศจรรยจริง ๆ ปาจะเลา ใหฟง ที่บานปานั้น มีคลองเกาแกสมัยกรุงเกา เขาเรียกกันวา คลองลับแล แตภายหลังเขาเรียกวา คลองตาพลับ เปนชื่อปูของปา ปูไดจองที่ดินไวเปนจํานวนพันกวาไร ตามริมน้าจดเหนือจดใต และ  ํ สวนลึกเขาไปในเนื้อที่ที่ยังไมมีคนจองยังมีอีกมากมาย พวกลูกหลานไมมีใครไปอยูทํามาหากิน เพราะที่กวางใหญ แมแตปาก็ยังเขาไปไมสุดเขต เขาวาเขาไปลึก ๆ ก็จะพบพวกกระเบื้อง พวกจาน ชามลายคราม ของเกาที่แตกหัก มีอิฐดินเกลื่อนกราดมากมาย ลวยแตเปนของโบราณ กินเขต บริเวณกวางออกไป คลายเปนคูคลอง แตตื้นเขินพูนเปนเนินดิน และมีตนไมขนรก เขาพากันคิดวา ึ้ เมื่อสมัยโบราณคงจะเปนเมืองหรือหมูบานใหญ เพราะดูที่ดินเปนโคก เคยถมดินขึ้นมาสูง บางแหง เหมือนเคยเปนบึง เปนสระน้ําใหญมากอน แตตื้นพอจะมีรองรอยใหเห็น ทุกคนที่เคยเขาไปกลับมา กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๙
  • 10. บอกวา สถานที่นั้นเยือกเย็นขนลุก เหมือนมีอาถรรพณ บางคนจะไปขุดหาทรัพย ก็ไมกลาเขาไปอีก ทําใหหวาดกลัว เมื่อปาเล็ก ๆ เขาวามีลายแทง ถาใครมีปญญาคิดไดก็ไปขุดเอา จะไดเงินเต็มลําเรือชลา มี  ทอง และเพชรนิลจินดาในเรือชลาอีกลํา ใครคิดไดก็เปนเจาสัว ร่ํารวยมากมาย เพราะเรือชลา ๒ ลํา ้ นี้ฝงอยูใตดินลึก เห็นคนไปเที่ยวขุดกัน ก็ไมเห็นพบแมแตซากเรือชลา ๒ ลํานัน มีบางคนบอกวามี ๓ ลําดวยกัน ลําหนึ่งบรรทุกทองคําเต็มลํา อีกลําหนึ่งบรรทุกเงิน และ อีกลําหนึ่งบรรทุกเพชรพลอย เขาพูดตอ ๆ กันไป แตก็ไมมีใครพบใครเห็น ที่บานปาวันดีคืนดี ยืนอยูที่นอกชานบานก็เห็นถนัด มองเห็นเหมือนใครจุดดอกไมไฟพะเนียง พุงขึ้นเปนฝอยสวาง สูงเกินกวายอดไมมาก ครั้งนั้นขาพเจายังสนใจไดบอกกับปาเจียมวา “เราไมตองเอามากหรอกปา เพียงแคครึ่งลําก็  รวยถมเถไปแลว” ปาเจียมหัวเราะบอกวา “เออดี หลานชายไมมกมาก แตเรื่องนี้เปนกุศลบารมีแต ั อดีตครั้งเกากอนถึงจะได ไมใชบญของใคร จะขุดเทาไหรก็ไมได ถาเปนเจาของก็ขุดไดงาย ๆ ปา ุ บอก ยังงี้แหละ ฉะนั้นปาจึงไมสนใจ เพราะไมใชบุญของใครจะขุดเทาไหรก็ไมได วันนั้นปาเจียมคุยกันกับพวกเรานานกวาเรื่องอื่น เพราะแกบอกวา มาคราวนี้อยูบางกอก นานหนอย ไมใชเวลาหนาแลกขาว ปกติปาเจียมแกอยูบานนอก และแกเปนญาติกับลุงสินธุ ซึ่ง บานอยูไมหางจากบานขาพเจาเทาใดนัก ปหนึ่งแกมาหลายครั้ง พักกับลุกสินธุ และปาเจียมก็เลา ตอไปวา ที่บานปาก็มีเรื่องแปลก ๆ เหมือนนิทาน คือ ทุกคืนวันพระขึ้น ๑๕ ค่ํา จันทรเต็มดวง พอ จันทรตรงหัว เวลาเที่ยงคืน จันทรสองสวางทั่วพื้นโลก เราก็จะไดยินเสียงมโหรีพิณพาทย เปนเสียงที่ เยือกเย็นจับใจไพเราะมาตามสายลม แปลกที่เสียงจะมีทุกคืนวันพระ ๑๕ ค่ํา เหมือนเสียงนั้น ลองลอยมาตามลมยามดึก ฟงแลวไพเราะแตเยือกเย็นจับหัวใจพิกล เปนเพลงโบราณเสียงเศรา ๆ กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๑๐
  • 11. เหมือนจะรําพันถึงชีวิตใครคนหนึ่ง ปาชอบฟง ไมกลัว ยามดึกสงัดยิ่งฟงเสียงชัดเจน พวกเด็ก ๆ ที่ บาน ถาไมหลับเสียกอน พอไดยินเสียงก็นึกวา เสียงนั้นมาจากพวกผีดิบ ทําใหพวกเด็กหวาดกลัว รีบเอาผาหมนอนคลุมโปงเงียบเลย มีเพื่อนรุนโตกวาขาพเจาหลายป เกิดสนใจถามปาเจียมวา “ผมวามันตองมีประวัติทลี้ลับ ี่ แฝงอยูในเนื้อเพลง นาสนใจนะปา ถามีคนสํารวจดู และผูเฒาผูแกใหเขาเลาใหฟงคงไดเรื่องสนุก แน” ปาเจียมแกยิ้มแลวพูดวา “เรื่องราวเกาแกครั้งปู ยา ตา ยาย ปาก็พอจะรูจากพอ พอจะเลาสู กันฟงไดบาง เพราะคนในบานนี้ ก็รูทั่วถึงเรื่องเกาของเมืองลับแลในความเปนมา ปูเลาใหพอฟงวา เมื่อสมัยกอนนั้น ที่เราอยูกันในปจจุบันนี้ ยอนหลังไปกอนปาเกิด สมัยกอน ในคุงน้ํากวาจะหาบานหรือเรือนแพอยูริมน้ํานั้นหายาก เพราะผูคนยังมีไมมากนัก หมูบานยังอยู หางกันไกลตั้งคุงน้ํา ริมแมน้ํามีตนลําพูขึ้นตนใหญโต ถัดเขามาก็มีตนไมอื่น ๆ หรือตนจากขึ้นเปน  ปาเปนดงทึบ เปนดงจรเข ดงเหี้ย ดงตะกวด และสัตวเลื้อยคลานมากมาย เพราะไมคอยมีอะไร รบกวน เรือแพขึ้นลองก็นอย นาน ๆ จะมีเรือไฟลากจูงสักลําหนึ่ง ฉะนั้นจะเปนที่สงบ จึงมีสัตวครึ่ง น้ําครึ่งบกมากมาย ปูเคยชวยชายผูหนึ่งเพิ่งสึกจากพระ ผมยังไมทันขึ้น เปนทิดสึกใหม นอนสลบไสลอยูใตตน ไทร เมื่อปูรักษาหายปกติแลว ชายผูนั้นไดเลาใหฟงวา แกมาจากบางกอก จะไปเมืองสมุทรทางเรือ แกศึกษาเปนมหาเปรียญ แตตองสึกออกมาเพราะจําเปน เมื่อมาในระหวางทางเกิดปวดทองลงทอง อยางหนัก นึกวาเปนโรคหาลง เพราะทองเดิน ขี้ไหลไมรูจักหยุด นึกวาถาจะตาย ก็อยารบกวนให คนอื่นลําบาก หรือ พลอยตายไปดวยเลย จึงตะเกียกตะกายขึ้นจากเรือมานอนบนฝง ใหคนเรือ กลับไป แตไมรูวามีบาน มีคลองอยูแถวนี้ เมื่อคืนมองไมเห็นอะไรเลย นอนสลบไมรูสึกตัวตลอดรุง  กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๑๑
  • 12. เมื่อมีคนมาชวย แกก็นึกถึงบุญคุณมาชุบชีวิตแกขึ้นใหม เหมือนเปนพอบังเกิดเกลาผูหนึ่ง แตมีเรื่อง จําเปนรับอาสาแมกาหลง ตองไปสืบหาพี่สาวชื่อสังเวียน ไดหนีตามชาวทะเล พวกจับปลามาอยู เมืองสมุทร เมื่อสืบหาพบตัวไดเรียบรอยแลว ก็จะบอกพี่สาววา บัดนี้แมกาหลงยกโทษใหไมโกรธ ขอใหกลับไปอยูอยางเดิม หรือ จะพาสามีไปดวยก็ได เมื่อพี่สังเวียนกลับไปอยู เพื่อใหแมกาหลง หายความเศราโศกเสียใจ แกเลาใหฟงวา พี่สาวของแกชื่อสังเวียนคนนี้ ไมใชลูกแทแมกาหลง แตมี คนยกใหแมกาหลงตั้งแตเล็ก ๆ แมตัวแกเองแมกาหลงเลาใหฟงวา เชาวันหนึ่งแมกาหลงตื่นขึ้นมา ก็เห็นมีเด็กทารกผูชายนอนดูดมืออยูในเบาะ ใสไวในกระจาด มีผาออมปดทอง หนาตานาเอ็นดู ไม รูวาใครเอามาทิ้งไวที่หวบันไดบาน แมกาหลงเห็นเขาก็สงสารเอ็นดู ไดลงไปอุมขึ้นมา เด็กยังถีบตีน ั สายมือไปมาแลวหัวเราะดีใจ เปนทารกที่ไมเดียงสา แมกาหลงรับเอาทารกนั้นมาเลี้ยงไว ทนุถนอม ถึงกับจางแมนมมาเลียงอยางดี ใหชื่อวงศ ทารกคอย ๆ เติบโตขึ้นมา แมกาหลงก็ใหเขาศึกษาเลา ้ เรียนธรรมกับทานสมภารวัดแถวบาน แลวก็บวชเปนสามเณร เลาเรียนศึกษาธรรมจนสอบนักธรรม มหาเปรียญไดตั้งแตเปนสามเณร ตอเมื่ออายุครบบวช ก็บวชตั้งหนาเลาเรียนศึกษาจนไดเปนมหา มหาวงศไดเลาใหปูฟงวา เมื่อบวชเปนพระไดพรรษาเดียวก็เกิดเรื่องขึ้น เพราะพี่สาวเปน ลูกเลี้ยงของแมกาหลงเหมือนกัน เกิดหนีตามผูชายชาวเมืองสมุทร หากินในทางจับปลาไปอยูเมือง สมุทร แมกาหลงมีความรักอาลัยลูกสาวมาก ก็เฝาแตรําพันรองไหขาวปลากินไมลง เพราะความ เสียใจ แลวก็ไมมีญาติพี่นองคนใดจะชวยออกติดตาม ตัวเองก็อายุมากแลว เวลานั้นพระมหาวงศ ยังเปนพระภิกษุ แตมีจิตใจสูงดวยความกตัญูมาเยี่ยม ทนดูโยมแมที่เลี้ยงตนมาอยางทนุถนอม จนเติบโต แตบัดนี้โยมแมไดรับความทุกขใจอยางหนักเชนนี้ ก็ทนอยูไมไหว ก็ขอรองใหโยมแมหาย โศกเศราเสียใจ ตัวอาตมาเองจะอาสาไปสืบ เมื่อพบตัวพี่สาวแลว จะเรียกรองใหกลับมาหาโยมแม กาหลงใหได แตจะไปทั้งเปนพระก็ไมสะดวกดวยประการทั้งปวง จึงตองขออนุญาตโยมแมลาสึก จากพระ กับทานสมภารเพื่อจะออกไปสืบหาพี่สาวที่เมืองสมุทร เมื่อสึกจากพระกลับมาอยูทางโลก กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๑๒
  • 13. แลว ก็ลาพระอาจารยออกจากวัดกลับไปกราบเทาแมกาหลง ผูมีพระคุณสูงยิ่ง รับจะรีบออก เดินทางทันทีไมใหเสียเวลา ไปเที่ยวติดตามหาพี่สาวจนกวาจะพบ ขอใหแมกาหลงอยาหวง โศกเศราเสียใจเลย จงทําใจใหดี กินขาวกินปลา ทําจิตใจใหสบาย ตัวเองจะอาสาไปรับพีสาวคืนมา ่ ใหได แมกาหลงคอยมีหนาตาแชมชื่นขึ้นบาง และเชื่อฟงทิดมหาวงศ ลูกชายปลุกปลอบ ก็คอย คลายหายเศราโศกลงได แลวก็มอบคาเดินทาง คาใชจายใหมหาวงศ แมกาหลงเปนหญิงที่มีอันจะ กินผูหนึ่ง ตําบลแถวตลาดเสาชิงชา เปนผูหนึ่งที่มีคนรูจักมากในสมัยนั้น ซึ่งเปนหญิงโสดตั้งแตสาว ตลอดจนมีอายุ มีทรัพยสินเงินทองมรดกตกทอดมากมาย นิสัยใจบุญรักเด็ก เมื่อมหาวงศไดรับมอบหมายจากแมกาหลงแลว ก็จัดแจงวาจางเรือมาดสองแจวหัวทาย เดินทางจากบางกอก มุงหนาไปเมืองสมุทร ซึ่งเวลานั้นการเดินทางสวนมากไปทางน้ําสะดวก แต เหตุการณที่ไมคาดถึงก็เกิดขึ้น เห็นจะเปนเพราะมหาวงศบวชนาน ไมเคยกินขาวเย็น เมื่อมาอยูทาง โลกเกิดกินขาวเย็นระหวางเดินทาง มหาวงศเกิดมีอาการทองรวงอยางหนัก ทําใหหนาตาซีดเซียว ตองสั่งใหเรือจอดขางตลิ่ง เขาปาหลายครั้ง อาการก็ไมดีขึ้น กลับลงทองหนัก คนแจวเรือเห็นอาการปวยทองเดินของมหาวงศก็ชักจะตกใจกลัว ทั้งสองหารือกันวา หาก ทานมหาเกิดเปนโรคหาลงแลว เราสองคนก็คงจะไมมีทางรอด ตองตายแน ทางบานบางกอกลูก เมียคงไมรู กําลังคิดกันวาจะทําอยางไรดี ถาคอยใหทานมหาสั่งใหจอดเรือคราวตอไปนี้ คงขึ้นฝงไม ไหว แลวนอนขี้ไหลเต็มอยูในเรือจะทําอยางไร คิดวาโรคหาคงกินเราแน ๆ เราควรฉวยโอกาสที่ทาน มหาอยูบนฝงคราวนี้ เรารีบออกเรือหนีกลับบานกันดีกวา ปลอยใหทานมหาตายคนเดียว อยา พลอยใหเราตองตายดวยเลย คนเรืออีกคนหนึ่งไมเห็นดวยบอกวา ไมไดหรอก เรามาดวยกัน จะทิ้ง ทานมหาไวคนเดียวอยางไร กอนจะทําอะไรบอกใหรูเรื่อง อยาใหเขาวาขี้ขลาดตาขาวกลัวตาย เกินไป กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๑๓
  • 14. เมื่อหารือกันแลว คนแจวเรือแทบไมมีแรงใจจะแจวตอไปเพราะความกลัว นึกวาโรคหากําลัง ลงแนแลว ควรจะทําอยางใดดี ปลอยใหอยูบนฝงคนเดียวก็สงสาร ทั้งไมรูวาเปนโรคหาจริงหรือไม เมื่อคิดแลวก็เห็นอกเขาอกเรา ก็รําพึงวา ทานมหาก็เปนคนดี ไมนาจะถูกโรคหากินเลย พลางยกมือ  ้ํ ขึ้นไหวทวมหัว แลวทั้งสองก็กลาวขึ้นวา “เจาประคุณ เจาพอ เจาแม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแมนาลําคลอง จงชวยใหทานมหาพนจากโรคหารายดวยเถิด เมือกลับถึงบางกอกก็จะขอถวายพวงมาลัยเปน ่ เครื่องบูชา” ทั้งสองคนบนบานดวยความหวาดกลัว คนหนึ่งบอกวา “ถายังไมหายเราก็อยาลอยแพ แกเลย บอกใหแกรูตัวแลวสงแกขึ้นฝง ดูที่ไหนเหมาะสม คิดวาทีวัดเหมาะสมกวาที่อื่น แกเคยบวช ่ แลวเปนคนดีมีศีลธรรม คงเห็นอกเห็นใจเรา” พอดีทานมหาวงศเสร็จธุระถายทองแลว ก็ออกมาจาก ปาพงขางตลิ่งเดินโซเซกลับมาขึ้นเรือ ทําใหคนเรือทั้งสองคิดมาก แสดงความหวาดกลัว ไมกลาเขา ไปฉุดพยุงขึ้นเรือ กลัวติดโรคหา ปลอยใหทานมหาพยายามใชกําลังที่ยังมีอยู แตออนเพลียกัดฟน ปนปายขึ้นเรือจนได เมื่อขึ้นมาไดก็นอนหายใจระรวยแทบหมดแรง พักอยูครูหนึ่งพอมีกําลัง ก็พูด เสียงสั้น ๆ แหบ ๆ เพราะยังไมหายเพลียเหนี่อยวา “ฉันเห็นจะเปนโรคหาแนแลว จึงทองรวงอยางหนัก ตั้งใจวาจะไมกลับมาขึนเรืออีกแลว จะ ้ ปลอยใหตัวตายในรกในปาใหรูแลวรูรอดไป แตมาคิดวาหวงที่ยังไมบอกใหพอมิ่งกับพอจรรู กลัวจะ เปนหวงคอยฉัน และฉันก็ไมไดสั่งใหเขาใจกันดี” พูดแลวก็หยุดพักครูหนึ่ง พอกําลังดีเสียงแจมใสขึ้น วา “ฉันขอใหพอมิ่งกับพอจร หาทางสงฉันขึ้นตลิ่งที่เหมาะสมสักแหงหนึ่ง หางไกลจากหมูบาน คน อยาอยูใกลเพราะจําทําใหผูอื่นเขาเปนอันตรายเพราะโรคหาดวย แลวฉันจะขึ้นไปนอนคอย ความตายจะมาถึง ฉันไมมีลูกมีเมีย ไมมใครเปนหวง มีก็แตแมกาหลงผูมีพระคุณชุบเลี้ยง เพราะ ี ฉันเปนเด็กกําพรา ไมรูจักพอแม เปนใครอยูที่ไหน เอามาทิ้งไวที่หนาบานแมกาหลง ไดเลี้ยงฉันมา จนเติบโต ฉันก็เคารพแมกาหลงเปนพระประจําใจของฉัน” เมื่อเลามาถึงตอนนี้ ทานมหาก็น้ําตา กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๑๔
  • 15. ไหล เมื่อคิดถึงความดีของแมกาหลงผูมีพระคุณ พูดแคนั้นแลวก็พูดไมออก เพราะตื้นตันใจ ทําให คนแจวทั้งสองพลอยเศราจนน้ําตาไหลไปดวย เพราะเห็นความดีความกตัญูของทานมหา เมื่อหยุดพักหนึ่ง ทานมหารูสึกวามีสติกําลังดีขึ้น ก็พูดตอไปวา “ฉันรูวาแมกาหลง หากรูวา ฉันตาย คงรองไหเสียใจมาก เสียใจเพราะพี่สาวตามผูชายไปแลว นองชายก็ตายอีก ไมมีใครจะชวย ปลอบแมของขาพเจาใหหายเศราได แตฉันก็คิดวามันมีเวรกรรม จึงไดเกิดเหตุอยางนี้ขึ้น พอมิ่งกับ พอจร เมื่อเห็นที่ไหนเหมาะสมก็สงฉันขึ้นฝง ในตัวฉันมีเงินอยูสิบสี่ตําลึง ฉันจะขอมอบใหพอจรและ  พอมิ่งคนละครึ่ง เอาไปแบงกันเอง สวนฉันจะตายอยูแลว ก็ไมจําเปนจะใชเงินอีก จึงไมมีประโยชน กับฉันอีกตอไปแลว คนแจวเรือทั้งสองไดฟงทานมหาพูดเชนนั้น ก็เกิดสงสารจนต้ําตาไหลเพราะเห็นอกเห็นใจ เกือบจะไมยอมสงทานมหาใหขนบนฝงไปตายอยางผีไมมีญาติอยูคนเดียว ึ้ ที่คนทังสองคิดกันไว ้ เดิม กอนวาจะชวนกันหลบหนี แตบัดนี้ไมตองทิ้ง เพราะทานมหาสมัครใจพูดขึ้นเองแลว ยังใจดีให เงินจํานวนไมนอยที่ติดตัวมาทั้งหมด สําหรับในสมัยยุคนั้นก็นับวามากมาย ความดีของทานมหา ทําใหคนเรือทั้งสองเกิดไมแนใจวา การที่คิดจะทําไปนี้จะผิดหรือถูก เมื่อมาเรือลําเดียวกันก็ควรจะรวมตายดวยกัน เมื่อมองดูหนากันแลว ทั้งสองก็รูวา ตางไดเปลี่ยน ความรูสึกใหมเพราะมีใจตรงกัน คนเรือพูดกับทานมหาวา “ผมมาคิดดูแลว อยาใหเปนอยางนั้นเลย เราพากันไปเที่ยวหาหมอดีกวา เพราะทานมหาก็ เปนคนดี บุญวาสนาจะไมถึงอับจนก็จะหาย ไมถึงที่ยังไมตายก็ได” เมื่อทานมหาไดยินเชนนั้น ก็มองเห็นความหวังดีของคนเรือทั้งสอง จึงบอกวา “ไมไดหรอกพอ มิ่งพอจร มีลูกเมียอยูขางหลัง ตองรับภาระเลี้ยงดู อีกอยางหนึ่งเมื่อนําฉันเขาไปในหมูบาน ชาวบาน  รูวาฉันเปนโรคหา จะนําความพินาศมาสูพวกเขา ก็คงจะแตกตื่นตกใจ หวาดกลัวพากันหลบหนีโรค กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๑๕
  • 16. หา ทําใหชาวบานโกลาหล ตางไมมีความสุข ฉันคนเดียว ไมอยากจะใหคนอื่นเดือดรอนทั่วไปเลย เพราะโรคหานี้เปนที่รายแรงเพียงใด ชาวบานชาวเมืองแตไหนเขาก็รูกันทั่วไปแลว หากลงที่ไหนก็ ตายกันเปนหมูบาน เพราะฉะนันชาวบานชาวเมืองจึงกลัวกันนักหนา ขอใหฉันไดรับเคราะหกรรม ้ เพียงคนเดียวเถิด อยาใหเดือดรอนถึงคนอื่นเลย” คนเรือทั้งสองยิ่งฟงคํา ยิ่งนึกถึงความดีในตัวทานมหา ก็ยิ่งสงสารเห็นใจมากขึ้น เวลานั้น จวนย่ําค่ําแลว ความเงียบสงัดในทองน้ําปกคลุมดวยความมืดทัวไป นาน ๆ จะไดยินเสียงปลาใหญ ่ โดดขึ้นฮุบเหยื่อ น้ําแตกกระจายดังโผงผาง และเสียงนกรองจอกแจกอยูบนยอดไม กอนจะนอน ๓ ชีวิตอยูบนเรือแจวดวยความเศรานาสงสาร ผานคุงน้ําแลวไมนาน ก็ไดยินเสียงระฆังทางวัดดังหงาง ๆ มาแตไกล แลวก็ไดยินเสียงหมาหอนติดตามเสียงระฆังอยางโหยหวน ทําใหทั้งสามเศราใจยิ่งขึ้น พอแจวไปไมนานก็เห็นวัด กําลังจะถึงวัด คนเรือทั้งสองตางก็นึกไดวา เมื่อทานมหาไมยอมใหชาวบานชวย ก็อยากจะสงขึ้นวัดใหเปน หนาที่ของพระที่เปนหมอ พอจะชวยพยาบาลรักษาใหหายได ทั้งสองก็ตามลงบอกกับทานมหาวา จะจัดการสงขึ้นวัด เพื่อพระทานจะมีทางชวยใหหายได บาง เพราะสมัยนั้นทางวัดมักจะมีพวกที่มีความรูเปนหมอรักษาโรคภัยไขเจ็บใหกับชาวบานเปน ทาน แตเมื่อพูดแลวทานมหาก็รีบคานขึ้นวา อยาเลย อยาทําใหพระเจาตองเดือดรอนวุนวายเลย พระเจาก็กลัวโรคหาเหมือนคนธรรมดา เมื่อฉันจะตายแลว ก็ขออยาใหพระเจาและคนอื่นตอง เดือดรอนไปดวยเลย ขอใหฉันไดตายคนเดียว ก็จะไมมีเวรกรรมติดตอกัน เพราะไมทําใหคนอื่น เดือดรอนเพราะฉัน ิ เมื่อกําลังพูดกันระหวางคนแจวเรือกับทานมหา เรือไดผานหนาวัดไป ไดยนเสียงพระสวด มนตค่ําที่ศาลาวัดชายน้ํา ทานมหาไมยอมใหชาวเรือทั้งสองแวะจอดเรือสงขึ้นที่ทาวัด บอกใหผาน กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๑๖
  • 17. เลยไป จะขึ้นในปาหางบานผูบานคน ชาวเรือทั้งสองก็คานวา หางบานในปาก็มีแตสัตวเลื้อยคลาน  อาศัย นอกนั้นยังมีฝูงลิงมากมายในปา ทั้งน้ําแหงหางตลิ่งมีแตโคลนเลน ไมเหมือนหมูบานคน มี คลอง มีบันไดขึ้นงาย แตทานมหาไมยอม ขอใหสงใหหางไกลจากบานผูคน เพราะน้ํากําลังขึ้น ไม ชาเรือจะเขาถึงริมฝง สวนเรื่องสัตวเลื้อยคลาน จรเข ลิง คางก็ไมกลัว คนเรือทั้งสองปฏิบัติดวย ความไมเต็มใจ เรือไดแจวผานไป ๒ คุงน้ํา ไกลหมูบานคนมามากแลว ความมืดสนิทสองขางลําน้ํา มีแตพวกหิ่งหอยสงแสงระยับทั่วไปสองขางริมชายน้ํา มีตนไมใหญชายน้ําตนหนึ่ง มีแสงสวางแพรว พราวสุกใสกวาตนอื่น มีพวกหิ่งหอยเต็มตนทุกกิ่งใบ แลวก็พากันสองแสงดับสวางพรอม ๆ ราวกับ นัดและซอมกันไวกอน มหาไดจองตามองดูเหมืนอมองเห็นคนกวักมือเรียก ทานมหารูสึกเหมือนตองมนตสะกด จึงชี้ มือและสั่งใหเรือแจวเขาฝงใตตนไมใหญสวางดวยแสงหิ่งหอยตนนั้น เพราะตัวเองจะสมัครใจอยู ตรงนั้น กอนที่เรือจะจอด ขอใหชวยนําเอาหอเสื้อผาไปดวย แลวทานมหาก็นําเงินที่มีอยูในตัว ทั้งหมด มอบใหคนเรือทั้งสอง บอกวานําไปแบงกัน แลวใหรีบกลับไปบางกอกโดยเร็ว เพราะรูสึก ปวดมวนทองขึ้นมาอีกแลว คิดวาคงไมรอดไปถึงเชาวันรุงขึ้นเปนแน คนเรือทั้งสองที่เคยคิดวาจะหลบหนีไปเพราะกลัวโรคหาจะติดตอ แตบัดนี้เกิดมีความเคารพ นับถือน้ําใจของทานมหาที่ยอมเสียสละ ชาวเรือทงสองเกิดความสงสาร พูดอยางเสียงสะอื้นอยูในลําคอวา พวกผมสองคนนี้หากไมมี ลูกเมีย ไมมีหวง ตัวคนเดียวแลว ก็ไมมีทางจากทานมหาไป จะเปนตายอยางไรก็จะขออยูดวยกัน เพราะเดี๋ยวนี้หมดความกลัวแลว แตจนใจเพราะยังมีหวงอยูทางบาน พูดแลวไสหัวเรือเขาเกยตลิ่ง ซึ่งเปนโชคดีที่คืนนั้นน้ําขึ้น ฉะนันเรือจึงเกยอยูบนตลิ่งได การขึ้นลงก็สะดวก สองคนเรือก็ชวยพยุง ้ ทานมหาขึนไปพักอยูใตตนไทรใหญ นอกจากเสียงจิ้งหรีดเรไรแลว ก็เปนสถานที่เงียบสงบ เพราะ ้ ปกคลุมไปดวยกิ่งกานสาขาแผออกกวางใหญ หากเวลาธรรมดานอนอยูคนเดียวก็คงจะนากลัว ทัง ้ กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๑๗
  • 18. สองชวยกันเอาผาขาวมาปูทั้งมืด ๆ ที่ไมมีแสงไฟ อาศัยแสงหิ่งหอยและแสงดาว ตางก็ชวยพยุงราง ทานมหาลงนอนบนผาขาวมาใตตนไทร แลวก็เอาผาหมที่ทานมหาติดมาคลุมตัวกันน้ําคาง เมื่อเปนที่เรียบรอยแลว ทั้งสองก็กราบทานมหาดวยความอาลัยอยางจริงใจทั้งสองคน แลว ทั้งสองคนก็ออกเรือจากสถานที่นั้นดวยน้ําตานองหนา บนวาทําไมคนดี ๆ อยางนี้จะตองมาตาย อยางผีไมมีญาติ ทานมหาเนื่องจากเปนโรคทองรวงอยางแรง จนถายออกจนหมดแรงนอนสลบไสล อยูโคนตนไทรใหญจนรุงเชา เชารุงขึ้น พวกหมาที่บานปู ซึ่งอยูลึกเขาไปมาก ตางก็วิ่งออกจากบานแตเชา เมื่อไปพบมีคน นอนสลบใตตนไทร ก็ชวยกันสงเสียงเหาหอน เวลานั้น ปูตื่นแตเชา เมื่อไดยินเสียงหมาเหาผิดสังเกต ก็เกิดสงสัย ลงบันไดเดินไปทางตน  ไทรใหญอยูริมน้ํา เมื่อเห็นมีคนเอาผาขาวมามาปูนอน และสลบไสลอยูเชนนั้น ก็ตื่นเตนตกใจ ไล พวกหมาใหออกไป ปูมีความรูทางหมอ เปนที่รูจักกันหลายคุงน้ํา เจ็บปวยมาใหปูรักษา ปูก็ไปจับตัวดูก็ยังอุน จับชีพจรก็ยังเตน จึงรูวาชายผูนี้ยังไมตาย ยังมีลมหายใจ จึงจัดการ พยาบาลตามความสามารถ ไมชาทานมหาก็รูสึกตัว แตยังมีอาการออนเพลีย เพราะหมดกําลัง คอย ๆ ลืมตามองดู เมื่อเห็นปูมาคลําดูตามเนื้อตามตัว ตามแขนตามขา ตัวมหาเองกําลังนอนอยูใต ตนไทรใหญ ก็นึกถึงตัวที่ไดมีอาการปวยโรคลงทองอยางหนัก นึกวานี่เราตายไปแลวหรือยัง พยายามจะลุกขึ้น แตหมดกําลัง ลุกขึ้นไมไหว ยังจําไดนึกไดตลอดจนคนเรือไดชวยกันน้ําขึ้นมาไว โคนตนไทรเมื่อคืนนี้ ก็รูตัววายังไมตาย และคิดวาคงไมใชโรคหา มิฉะนั้นก็คงตายแลว ปูบอกวาให นอนนิ่ง ๆ กอน ไมเปนไรพักผอนกอนแลวจะคอย ๆ มีแรง ไดไปเอายาบํารุงกําลังเขาสุราเปนน้ํา กระสายมาใหกิน แลวคอยครูหนึ่ง บอกใหคนทางบานวา ประเดี๋ยวคนไขมีแรงแลวจะชวยนํามา รักษาที่บนบานโดนไมรังเกียจ เพราะปูมีจิตใจเมตตาสงสาร จะรักษาจนกวาจะหายเปนปรกติ กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๑๘
  • 19. เมื่อทานมหาวงศไดเขามาอยูบานปู ไมนานความออนเพลียก็คอย ๆ คลายหาย การขับถาย ก็เขาสูเปนปกติ เพราะไมไดเปนโรคหา หรือ อหิวาตเหมือนความเขาใจ ทานมหาวงศก็นึกถึง บุญคุณของปู จึงบอกวาหากไปตามพี่สังเวียนใหพบแลว ก็จะออนวอนพาไปพบแมกาหลง แลวก็ หมดหนาทีจะมาใชแรงงานใหปู ๓ ปเทาที่ปผูมีพระคุณชวยชีวิตไว ่ ู ตอจากนั้นมหาวงศก็ลาปูไป ปูเปนคนใจดี ก็มอบเงินใหเปนคาเดินทางไป ๓ ตําลึง เพราะเงิน ที่มหาวงศติดตัวมานัน ้ ไดใหคนแจวเรือทั้งสองไปหมดแลว เพราะนึกวาตัวจะไมมีชีวิตรอดจึง เสียสละ เมื่อมหาวงศไดจากไปตามพี่สาวแลว ทั้งพี่สาวก็กลับไปอยูกับแมกาหลง ทานมหาจึงได กลับมาตามที่ไดสัญญาไวกับปู และมาขอทํางานรับใชหนี้ปู แตนั้นมาปูกรูสึกชอบนิสัยซื่อตรงและ ็ ความกตัญูกตเวทีของมหาวงศ เพราะเปนคนรักษาสัจจะ จิตใจพรอมดวยศีลธรรม มหาวงศเมือ ่ มาถึงก็เริ่มบุกเบิกถางปาที่ดินใหเปนไรเปนสวน ดวยความขยันของมหาวงศที่ดิน เคยเปนปารก ก็ คอยกลายเปนไรเปนสวนขึ้นมาอยางทันตาเห็น เพราะปาถางเตียนแลวก็ยกไรปลูกตนไมลมลุกพวก ฟกแฟง ถั่วงา มันเผือกผลก็ออกงอกงาม สวนสวนก็ปลูกตนไมยืนตน และหากมีเวลา มหาวงศกลา ็ ปูเขาบางกอกไปเยี่ยมแมกาหลงผูมีพระคุณที่เลี้ยงตัวมา ไดขอผลไมฟกแฟงผักหญาที่ปลูกจาก ที่ดินของปู นําไปใหแมกาหลงดวยความกตัญู แตก็เปนแรงงานของทานมหา ไรที่เพาะปลูก ไมลมลุก ไดผลเกิดเปนเงินเปนทองขึ้นมา เมื่อปูเห็นความขยันความซื่อสัตยสุจริต เปนคนมีความกตัญูก็พออกพอใจ อยากจะใหอยู นาน ๆ เพราะมหาวงศไดสัญญาวา จะทํางานรับใชเพียง ๓ ป ก็จะจากไป ทําใหเกิดความอาลัย จึง ตั้งใจจะยกหญิงสาวลูกหลานที่หนาตาหมดจดใหเปนเมียมหาวงศ แตความรูสึกของมหาวงศนั้น คลายคนไมมีหัวใจรักใคร ไมเคยสนใจในเรื่องผูหญิงมากอน แมจะมีหญิงสาวในเขตบานปูมีความ สนใจในตัวมหาวงศก็ดี กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๑๙
  • 20. เมื่อใกลวันที่ทิดมหาวงศจะถึงกําหนด จะครบจํานวนวันเดือนปที่สัญญาวาจะอยูทํางานใหปู วันคืนกําลังผานไปใกลจะสิ้นสุดลง แตมหาวงศก็ไมมีทาทีพูดถึงการกลับบาน หรือเตรียมตัวจะจาก  ปูไปบางกอกตามที่ตกลงไว วันหนึ่งทานมหาไดพดกับปู “คุณพอครับ ผมอยากจะใหคุณพอชวยเหลือผมสักหนอย” ทิด ู มหาวงศชอบเรียกปูวาคุณพอ มีความเคารพปูเหมือนพอบังเกิดเกลา เพราะถือวาปูไดเคยรักษา ชวยเหลือใหมีชีวิต ปูถามวา “ทิดมหาจะใหชวยอะไร บอกมาเถิดทุกอยาง ถาพอชวยไดแลวตองชวยเด็ดขาด” ทิดมหาบอกวา “ผมไมรบกวนอะไรคุณพอมากมายหรอกครับ ผมอยากจะสั่งคุณพอวา หาก ผมตายลงแลว ขอใหนําศพผมไปฝงไวในนครรางกลางดง หรือ จะเผาผมใหไหมอยูที่นั่นก็ได ขอให ชวยจัดการตามผมขอดวย นับวาเปนพระคุณตอผมเปนที่สุด คุณพอโปรดรับปากใหผมแนใจวา เมื่อผมตายแลวจะไดไปอยูที่นั่นดวย” ปูฟงแลวก็สะดุงจึงพูดวา “ทิดมหาทําไมพูดเปนลางอยางนั้นละ รูปรางยังแข็งแรง หนุม ๆ แนน ๆ อยางนี้ อายฉันมันแกแลว ควรจะฝากผีฝากไขกับทิดมหา แตทิดมหาเปนหนุมกลับมาฝากผี ฝากไขกับคนแก ฟงดูแลวมั้นยังไงก็ไมรูชอบกล” ทิดมหากลับพูดแลออนวอนวา “คุณพอครับ มนุษยเราเกิดมานั้นไมแนนอน คนหนุมอาจตาย กอนคนแกนั้นมีถมไป ฉะนั้นผมขอวิงวอนใหคุณพอรับปากใหผมสบายใจหนอยเถิดครับ” ปูคิดแลวก็ตอบวา “ถาทิดมหาตายกอนพอก็ตกลงวา พอจะจัดการตามทิดมหาขอรองทุก ประการ แมทิดมหาไมใชลูกแท พอก็รักเหมือนลูกผูเปนเลือดเนื้อของพอผูหนึ่ง ไมมีอะไรที่พอจะทํา ู ใหลูกที่พอรักไมได แมพอจะมีลูกหลายคน แตจะหาน้ําใจที่สงดวยความกตัญูกตเวทีและขยัน กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๒๐
  • 21. ขันแข็ง เอาการเอางานเหมือนทิดมหาไมได ทิดมหาดีกวาลูกแทของพอ ซึ่งไมคอยจะเอาถาน ฉะนัน ้ มีอะไรพอจะทําใหลูกได พอจะทําใหลูกทุกสิ่ง” เมื่อกอนถึงกําหนดวันเดือน ๓ ป ครบสัญญาที่ไดทํางานสมบูรณ การกอรางสรางไรสราง สวน ก็เปนรูปยกรองดวยแรงงานของทิดมหา ทุมเทอยางไมเห็นแกความเหนื่อยยาก สําเร็จโดย เรียบรอย คอยแตเวลาจะเกิดดอกออกผลขึ้นเทานั้น เพื่อผูอื่นจะไดรับชวงบํารุงไรสวนตอไป พอวันเวลาจะครบกําหนดสัญญา ทิดมหาวงศก็บอกกับปูใหทราบวา เวลาจะจากปูไปใกล เขามาแลว แตทิดมหาก็ไมไดเตรียมตัวเพื่อกําหนดวันเวลา จะออกเดินทางกลับบางกอก หลังจากครบกําหนดแลว ทิดมหาก็ไมกนขาวกินน้ํา ิ ไดแตนอนสงบนิ่งอยูในบานหรือ กระทอม ที่ทิดมหาสรางอยูนั้นใกลในเขตบริเวณบานของปู เมื่อปูรูวาทิดมหาไมกนอะไรก็ไมสบายใจ เปนหวงรีบไปเยี่ยมและตรวจเพื่อรักษา แตทิดมหา ิ ก็แสดงความยินดีเมื่อเห็นปูเขาไปหา ไมไดปวยไขดังคิด แตย้ําถึงการที่รับปากไววา ทิดมหาสิ้นชีวิต  ลงแลว ขอใหจัดการตามที่ขอรอง ปูรับปากจะจัดการตามที่ขอรอง ปูสงสัยทิดมหามานานแลว ทําไมถึงมีความรูสึก มีความคิดแปลกไปจากคนธรรมดาเชนนี้ พยายามถามเหตุผล แตทิดมหาก็อิด ๆ เอื้อน ๆ ไมอยากจะบอกความจริง ในที่สุดเสียออนวอนและมีความเกรงใจ และเคารพนับถือปู เปนพอ จึงบอกความจริงใหทราบวา ทุกคืนวันพระกลางเดือนขึ้น ๑๕ ค่ํา ไดยินเสียงมโหรีลอยตามลมมาจากนครรางกลางดง ก็ เกิดทําใหจิตใจปนปวน เพราะเสียงเพลงไพเราะจับใจ เหมือนจะเรียกรองใหไปหาแทบทนไมไหว เมื่อเดือนหงายก็ถือโอกาสนั่งสมาธิ เมื่อใจสงบแลวเกิดเปนรางนิมิตออกติดตามเสียงเพลงนั้นเขาไป ความรูสึกเหมือนครึ่งฝนครึ่งจริง กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๒๑
  • 22. พอเดินไปถึงหมูเงาไมใหญ ใตแสงเดือนที่สองสวางบนทองฟา เห็นมีหญิงสาว ๒ คนมายืน คอยอยูกอน พอเห็นหนาก็บอกวา องคหญิงใหมาเชิญ ผมเองก็งง แตเดินตามหญิงสาวไปเหมือน ตองมนตสะกด ผมก็ผานเขาไปเห็นภายในบานเมืองสวยงาม จัดไวเปนระเบียบเรียบรอย มีบาน นอยใหญปลูกเปนระเบียบ มีความรมเย็นรมรื่น ทําใหจิตใจมีความสดชื่น มีความสุขอยาง ประหลาด ในที่นั้นมีแตหญิงลวน ๆ ไมมีคนแก ไมมีเด็ก มีแตสวยงาม ๆ ทั่วไป มองเห็นสระน้ํากวาง ใหญ เห็นตําหนักมีพวกสาว ๆ สวย ๆ เปนหมูแลวก็บรรเลงกระจับปสีซอเปนเพลงไพเราะในตําหนัก แพชายน้ํา มีองคหญิงรูปรางสวยงามดุจนางฟา เหมือนเดือนลอมรอบไปดวยหมูดาวนั่งดูดวงจันทร ในเงาน้ําและทองฟา เปนภาพที่สวยงามที่สุดในชีวิตผมที่เคยเห็นมา จิตใจสดชื่นเปนสุขจริง ๆ ความเหนื่อยยากลําบากในชีวิต ที่ตองกรํางานอยูตลอดวันลืมหายเปนปลิดทิ้ง มีแตความสุขสดชื่น ใจคอเบิกบานเมื่อเขาไปในสถานที่แหงนั้น ตะลึกเพราะความงามทั่วไป นึกในใจวานี่ไมใชมนุษย สวยงามเกินกวามนุษยจะสรางได ปูไดฟงเรื่องแปลกประหลาด เกิดตื่นเตนสนใจ ทิดมหาไดเลาตอไปวา เปนนิมิตไดเกิดขึ้นกับตัวผม ทําใหผมมีความสุขอยางที่สุด เมื่อองคหญิงผูเลอโฉมเห็นผม แลว แสดงความดีใจและตื่นเตน ตรงเขามาหาผมดวยสีหนาแสดงถึงความสุข ทรงตรัสถามถึงวา “ยังมีเวลาเหลืออีกเทาใดที่ไดสัญญาไววาจะทํางานใหแกผูมีพระคุณจึงจะครบ” ทิดมหาบอกวายัง เหลือเวลาอีกครึ่งป องคหญิงรับสั่งวา “เมือครบกําหนดสัญญาแลว “สุรเทพ” ของฉันเราจงมาอยู ่ ดวยกันเถิดนะ เพราะถึงเวลาเราจะอยูรวมกันแลว เมื่อหมดขอผูกพันใด ๆ ในโลกมนุษยแลว หญิง ไดรอคอยเธอมานานดวยความอดทน บัดนี้หญิงก็หมดขอผูกพันในราชนิกูล หลุดพนจากโลกมนุษย แลว เราจะไดมีโอกาส มีอิสระสมปรารถนาตามความเรียกรองของหัวใจที่ไดทนทุกขทรมานมานาน แลว” รับสังแลวองคหญิงก็ใหพวกกํานัลสาว ๆ ไปยกอาหารที่เตรียมไวแลว ออกเลี้ยงกันอยางสุข ่ สําราญ ทุกคนตางมีใจเบิกบานชุมชื่น ความสุขสบายทางจิตใจ ทําใหครึ้มใจเพลิดเพลิน ทําใหผม กฎแหงกรรม – อยูธยาแหงความหลัง นครแลลับ – ท. เลียงพิบูลย   ๒๒