...

1. NET HAM

3. วิธีการ Download netham - 2.1.0.Live.VMWare.lmage.FC14.zip ขั้นตอนที่ 1. ทำการเปิดWebBrowserแล้วใส่http://inms.in.th/portal/ ดังรูป

4. วิธีการ Download netham - 2.1.0.Live.VMWare.lmage.FC14.zip ขั้นตอนที่ 2. ไปที่NetHAMแล้วเลือก Download NetHAMและสังเกตดูว่าเค้าจะให้เรากรอกข้อมูลเช่นเวอร์ชั่นชื่อ-นามสกุลอีเมลเป็นต้น ดังรูป

5. วิธีการ Download netham - 2.1.0.Live.VMWare.lmage.FC14.zip ขั้นตอนที่ 3.กรอกข้อมูลให้ครบตามช่องที่มีเครื่องหมาย * เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้วจากนั้นเลือกที่ยอมรับแล้วก็ทำการ Download ดังรูป * จำนวน Node ที่ต้องการ Monitor : 5 node แต่ถ้าหากใส่เกิน 9 node จะต้องเสียค่าบริการ *

6. วิธีการ Download netham - 2.1.0.Live.VMWare.lmage.FC14.zip ขั้นตอนที่ 4. เลือกที่ Download แล้วทำการ Save File จากนั้นเลือก OK จากนั้นจึงรอจนครบ 100% ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการ Download ดังรูป

7. วิธีการติดตั้งnetham - 2.1.0.Live.VMWare.lmage.FC14.zip ขั้นตอนที่ 1. Install ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ VMware-player-3.1.3-324285.exe แล้วจะมีเมนูขึ้นมาเพื่อให้ทำการ Install จากนั้นให้เลือก Next ดังรูป

8. วิธีการติดตั้งnetham - 2.1.0.Live.VMWare.lmage.FC14.zip ขั้นตอนที่ 2. ทำการเลือก Drive ที่ต้องการจะลงโปรแกรมเช่น C:rogram FilesMwareMware Player(หรือจะเลือก Drive ที่ต้องการลงเองก็ได้โดยเลือกไปที่ Change) แล้วทำการเลือก Next ดังรูป

9. วิธีการติดตั้งnetham - 2.1.0.Live.VMWare.lmage.FC14.zip ขั้นตอนที่ 3.4.5.เลือกCheck for product updates on startup แล้ว Next หน้าถัดมาให้เลือก Help improve VMware Player แล้ว Next หน้าถัดมาให้เลือกDesktop,Start Menu Program folder,Quick Launch toolbar แล้ว Next ดังรูป

10. วิธีการติดตั้งnetham - 2.1.0.Live.VMWare.lmage.FC14.zip ขั้นตอนที่ 6.7. ทำการเลือก Continue และหน้าถัดมาจะเห็นได้ว่ามันกำลังทำการ Install จากนั้นจึงรอจนกว่าจะเสร็จ

11. วิธีการติดตั้งnetham - 2.1.0.Live.VMWare.lmage.FC14.zip ขั้นตอนที่ 8. หลังจากที่ Install เสร็จแล้วมันจะให้เราทำการ Restart (เราจะ Restart Now เลยก็ได้แต่ถ้าไม่ต้องการ Restart ให้เลือก Restart Later ) ก็เป็นการเสร็จสิ้นการ Install ดังรูป

12. การใช้งาน 1.หลังจากการ Download แล้วจะได้รับไพล์ดังนี้ 2.ให้ทำการ แตกไฟล์จะได้ดังรูป 3.ให้เข้าไปใน Folder จนถึงดังรูป 4.ทำการ Install โปรแกรมจนเสร็จ

13. 5.หลังการ Install เสร็จแล้วจะได้ ICON ที่Desktopดังรูป 6.เปิด โปรแกรม VMware Playes

14. 7.ทำการ Open a Virtual Machine แล้วเลือก NetHAM2 Live จาก Folder NetHAM 2.1.0 Liveที่ได้ทำการ Download มา

15. 8.เลือก NetHAM2Live ตามลูกศร1 เสร็จแล้วทำการคลิ๊ก Play virtual machine ตามลูกศร2 เป็นการเข้าสู่ระบบ NetHAM

16. 9.ทำการLogin to the Virtual Machineโดยใช้รหัสดังนี้ Login: root Password: 123456

17. 10.พิมพ์ ifconfigเพื่อเป็นการดู หมายเลขไอพีแอดเดรสในครั้งนี้คือ 192.168.80.128

18. 11.เปิดเว็บเบราว์เซอร์ แล้วพิมพ์หมายเลขไอพีแอดเดรสและตามด้วย netham2 ในครั้งนี้คือ http://192.168.80.128/netham2 กรอกรหัสผ่านซึ่งประกอบด้วย Username และ Password Username : admin Password : admin เมื่อผู้ใช้ทําการเข้าใช้งานแล้วควรทําการเปลี่ยน Username และ Password เพื่อความปลอดภัย

19. เมนูหลัก Monitor ใช้สําหรับการกลับเข้าสู่หน้าจอหลักของซอฟต์แวร์NetHAM Configure ใช้สําหรับการเข้าสู่หน้าจอการปรับแต่งค่าอุปกรณ์ Logged in สําหรับแสดงประเภทของผู้ใช้ที่ Login เข้าสู่ ซอฟต์แวร์ NetHAM Logout สําหรับออกจากซอฟต์แวร์NetHAM

20. เมนูMonito ส่วน Monitor จะแสดงสถานะภาพรวมของเครือข่ายและบริการในรูปแบบต่าง แสดงหน้าจอหลักของซอฟต์แวร์NetHAM

21. หน้าจอแสดงแผนผังการเชื่อมต่ออุปกรณ์เครือข่าย จะแสดงแผนผังการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ที่ผู้ใช้ได้ทําการเพิ่มเข้าสู่ซอฟต์แวร์ NetHAM เพื่อทําการตรวจสอบสถานะและบริการ

22. เครื่องหมายแสดงสถานะของอุปกรณ์ ในแผนผังการเชื่อมต่อยังสามารถแสดงสถานะของอุปกรณ์แต่ละตัวได้อีกด้วย โดยแบ่งออกได้เป็นสถานะดังต่อไปนี้

23. เส้นสีแสดงสถานะของลิงค์หรือการเชื่อมต่อเครือข่าย ในแผนผังการเชื่อมต่อจะมีเส้นสีที่คอยแสดงสถานะของลิงค์หรือการเชื่อมต่อเครือข่ายไว้คอยเตือนสถานะของลิงค์อยู่ตลอดเวลาและยังแสดงหมายเลขพอร์ตที่อุปกรณ์ดังกล่าวเชื่อมต่อกันอยู่ ส่วนที่1 จะแสดง Interface ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างว่าอุปกรณ์เชื่อมกับอุปกรณ์ที่ interface ใด ส่วนที่ 2 เมื่อนํา Mouse ไปชี้ที่เส้นสัญญาณ จะปรากฏข้อมูลในส่วนที่2 คือข้อมูลที่บอกค่าต่างๆ ของสายสัญญาณโดยมีความหมายคือ Up คือ ปริมาณ Bandwidth ที่ถูกส่งจาก อุปกรณ์ลูกไปอุปกรณ์ที่เป็น Parent Down คือ ปริมาณ Bandwidth ที่ถูกส่งจาก อุปกรณ์ Parent ไปอุปกรณ์ลูก Utilization คือ ปริมาณ Bandwidth ที่ใช้งานต่อปริมาณทั้งหมด

24. วิธีการตั้งค่า Interface ในการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ Double click ที่เส้นที่เชื่อมต่อ ระหว่างอุปกรณ์ที่ต้องการตั้งค่า Interface จะปรากฏหน้าต่าง ในการเลือก Interface จะต้อง Interface ที่เป็นสีเขียวซึ่งหมายถึง Interface ที่เปิดอยู่นั่นเอง

25. หน้าจอแสดงสถานะอุปกรณ์เครือข่าย โดยแสดงบริการที่ผู้ใช้ได้ทําการเพิ่มเข้าสู่NetHAMเพื่อเอาไว้ตรวจสอบอุปกรณ์นั้นๆในส่วนนี้ยังแบ่งการทํางานออกเป็น 3 ส่วนซึ่งได้แก่ 1. แท็บแสดงสถานะอุปกรณ์ 2. แท็บแสดงสถานะบริการ 3. แท็บการจัดเก็บ

26. 1.แท็บแสดงสถานะอุปกรณ์ แสดงสถานะอุปกรณ์เครือข่ายจากการตรวจสอบของซอฟต์แวร์NetHAM แสดงสถานะของ Service ที(ได้จากการตรวจสอบของซอฟต์แวร์NetHAM

27. 2.แท็บแสดงสถานะบริการ เป็นส่วนที่แสดงสถานของแต่ละServiceและ interface โดยสามารถแสดงค่าต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ service นัIนได้โดยจะแสดงออกมาในรูปของกราฟ ส่วน Interface มีสัญลักษณ์ 3 แบบคือ การแสดงกราฟ โปรแกรมนี้สามารถแสดงกราฟค่าต่างๆที่ของตัวServiceและ Interface ได้

28. วิธีแสดงกราฟ 1.เลือก Interface หรือ Service ที่ต้องการ 2. เลือกช่วงเวลาที่ต้องการแสดงกราฟ 3. กดเพื่อทําการแสดงกราฟ ผลลัพธ์จะเป็นดังนี้

29. โดยกราฟนี้สามารถขยายบริเวณช่วงเวลาที่เราต้องการดูโดยลากเมาส์บริเวณที่เราต้องการจะดูดังรูป ผลลัพธ์ที่ได้คือ

30. กราฟสามารถเลือกที่จะแสดงเฉพาะบางชุดข้อมูลที่เราต้องการดูโดยกดดังรูป ผลลัพธ์ที่ได้คือ

31. 3. แท็บการจัดเก็บ แท็บการจัดเก็บมีประโยชน์คือใช้จัดเก็บบริการหรือส่วนที่เราจําเป็นต้องคอยดูบ่อยๆ โดยมีขั้นตอนการจัดเก็บดังนี้ 1. เลือก service ที่เราสนใจ

32. 2. กดบริเวณที่เป็นเลข แสดงการเลือกเซอร์วิสได้จะเลือกเป็นFavorit

33. ผลลัพธ์เป็นดังนี้ ผลลัพธ์จากการเลือกเซอร์วิสเข้าสู่ Favorite

34. 3. เราสามารถรวมข้อมูลที่เราสนใจไว้ใน Folder เพื่อจัดระเบียบได้โดยการลากไปใส่ Folder

35. แสดงการเลือกข้อมูลด้าน Interface ต่างๆเข้าสู่ Favorite

36. เมนูConfigur การ Configure อุปกรณ์บนNetHAM • วิธีการเพิ่ม Router และ Switch • วิธีการเพิ่ม Server ภาพตัวอย่างแผนผังการเชื่อมต่อ

37. วิธีการเพิ่ม Router และ Switch วิธีเพิ่มอุปกรณ์ Switch 1. เปิด Web Browser ทําการ Login เข้าสู่ซอฟต์แวร์NetHAMและเข้าสู่เมนู Configure จากแถบเมนูด้านบนขวาของจอ 2. คลิกเมนูย่อยกําหนดอุปกรณ์จากเมนูคอนฟิก หน้าต่างแสดงส่วนการคอนฟิกหลัก

38. 3.เข้าสู่หน้าจอกําหนดอุปกรณ์ และคลิกปุ่ม เพื่อทําการเพิ่มอุปกรณ์ในการ Monitor ลงสู่ซอฟต์แวร์ NetHAM หน้าต่างแสดงอุปกรณ์ที่ถูกตั้งค่าในโปรแกรม

39. 4. กรอกรายละเอียดของอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ลงในหน้าคอนฟิกทั่วไป

40. โฮสต์ที่เชื่อมต่อเลือกโฮสต์NetHAMโดยคลิกที่เครื่องหมาย และทําตามขั้นตอนดังนี้ หน้าต่างการตั้งค่าโฮสต์ที่เชื่อมต่อ จะได้ผลดังนี้ ผลลัพธ์จากการตั้งค่าโฮสต์ที่เชื่อมต่อ และกดปุ่่ม

41. เซอร์วิสเลือกเซอร์วิสที่จะตรวจสอบโดยคลิกที่เครื่องหมาย และทําตามขั้นตอนดังนี้ หน้าต่างการตั้งค่าเซอร์วิสที่ต้องการตรวจสอบ จะได้ผลลัพธ์ดัง ผลลัพธ์ที่ได้จากการตั้งค่าเซอร์วิสและกดปุ่ม

42. กดปุ่ม เพื่อบันทึกค่าคอนฟิกเข้าสู่ซอฟต์แวร์NetHAM

43. 5. คลิกเมนูย่อยโหลดคอนฟิกใหม่จากเมนูเครื่องมือ เขียนข้อมูลคอนฟิก ไปยังไฟล์คอนฟิกพร้อมทั้งตรวจสอบความถูกต้องและเริ่มการทํางานของซอฟต์แวร์ NetHAMโดยการกดปุ่ม จากบนลงล่างตามลําดับและตรวจสอบดูว่าไม่มีข้อผิดพลาด

44. หน้าต่างแสดงผลลัพธ์จากการโลหดคอนฟิกใหม่

45. 6. กลับสู่หน้าจอ Monitor จะพบอุปกรณ์ที่เพิ่มเข้าสู่ระบบและเชื่อมต่อกันดังภาพ หน้าต่างส่วนของ Monitor หลังจากตั้งค่า Switch แล้ว

46. วิธีเพิ่มอุปกรณ์ Route 1. เข้าสู่เมนู Configure จากแถบเมนูด้านบนขวาของจอ 2. คลิกเมนูย่อยกําหนดอุปกรณ์จากเมนูคอนฟิก หน้าต่างแสดงส่วนการคอนฟิกหลัก

47. 3. เข้าสู่หน้าจอกําหนดอุปกรณ์และคลิกปุ่ม เพื่อทําการเพิ่มอุปกรณ์ในการ Monitor ลงสู่ซอฟต์แวร์ NetHAM หน้าต่างแสดงอุปกรณ์ทีถูกตั้งค่าในโปรแกรม

48. 4. กรอกรายละเอียดของอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ลงในหน้าคอนฟิกทั่วไป ภาพแสดงการคอนฟิกค่าต่างๆในการคอนฟิก โฮสต์ที่เชื่อมต่อเลือกโฮสต์Switch_Aโดยคลิกที่เครื่องหมาย และทําตามขั้นตอนดังที่กล่าวมาแล้ว ในการเพิ่มอุปกรณ์ Switch และกดปุ่ม กดปุ่ม อีกครั้งเพื่อบันทึกค่าคอนฟิกเข้าสู่ซอฟต์แวร์NetHAM

49. 5. คลิกเมนูย่อยโหลดคอนฟิกใหม่ จากเมนูเครื่องมือและเขียนข้อมูลคอนฟิกเขียนข้อมูลคําสั่งไปยังไฟล์คอนฟิ กพร้อมทัIงตรวจสอบความถูกต้องและเริ่มการทํางานของซอฟต์แวร์NetHAM 6. กลับสู่หน้าจอ Monitor

50. วิธีการเพิ่ม Server วิธีเพิ่มโฮสต์ 1. เข้าสู่เมนู Configure จากแถบเมนูด้านบนขวาของจอ ภาพแสดงแถบเมนู 2. คลิกเมนูย่อยกําหนดอุปกรณ์จากเมนูคอนฟิก หน้าต่างแสดงส่วนการคอนฟิกหลัก

51. 3. เข้าสู่หน้าจอกําหนดอุปกรณ์และคลิกปุ่มเพื่อทําการเพิ่มอุปกรณ์ในการ Monitor ลงสู่ซอฟต์แวร์ NetHAM หน้าต่างแสดงอุปกรณ์ที่ถูกตั้งค่าในโปรแกรม 4. กรอกรายละเอียดของอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ลงในหน้าคอนฟิกทั่วไป ภาพแสดงการคอนฟิกค่าต่างๆในการคอนฟิก

52. โฮสต์ที่เชื่อมต่อเลือกโฮสต์Switch_Aโดยคลิกที่เครื่องหมาย และทําตามขั้นตอนดังที่กล่าวมาแล้ว ในการเพิ่มอุปกรณ์ Switch และกดปุ่ม กดปุ่ม อีกครั้งเพื่อบันทึกค่าคอนฟิกเข้าสู่ซอฟต์แวร์NetHAM 5. คลิกเมนูย่อยโหลดคอนฟิกใหม่จากเมนูเครื่องมือ และเขียนข้อมูลคอนฟิกเขียนข้อมูลคําสั่งไปยังไฟล์คอนฟิกพร้อมทั้งตรวจสอบความถูกต้องและเริ่มการทํางานของซอฟต์แวร์ NetHAM

53. 6. กลับสู่หน้าจอ Monitor หน้าต่างส่วนของ Monitor หลังจากตัIงค่า Server แล้ว

54. การ Activation และ Deactivation หากยังไม่มีการ Activate โปรแกรมจะไม่สามารถใช้งานNetHAMได้ดังเช่นรูป ภาพแสดงโปรแกรมที่ยังไม่ถูก Activate

55. - การ Activate โปรแกรมจะทําการ Redirect มาที่ ภาพแสดงเงื่อนไขในการใช้การโปรแกรม 1. ทําการติกถูกที่ยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลงแล้วกดยอมรับ 2. ทําการใส่ข้อมูลให้ถูกต้องดังเช่นในตัวอย่าง

56. ภาพแสดงขัั้นการการกรอกข้อมูลในการ Activate 3. เมื่อทําการ Activate เสร็จสิ้นจะแสดงดังภาพ จํานวนโฮสต์คือจํานวนเครื่องที่เราสามารถตรวจสอบได้

57. การ Deactivate 1. เข้าสู่เมนู Configure จากแถบเมนูด้านบนขวาของจอ 2. เลือก Activation ในส่วนของการจัดการระบบ 3. กดปุ่มยกเลิกใบอนุญาตสิ้นสุดการยกเลิกใบอนุญาต

58. เช็คการอัพเดต 1. คลิกที่จัดการระบบ > เลือกเช็คการอัพเดต ระบบจะแสดง Version ล่าสุดของNetHAM หากรุ่นที่เราใช้อยู่ยังไม่ใช่รุ่นล่าสุดจะมีปุ่มอัพเดตให้ทําการอัพเดตโปรแกรมด้วย

59. การแจ้งเตือน - กําหนดผ้ติดต่อ เราสามารถเพิ่มผู้ติดต่อโดยกดที่ จะปรากฏหน้าดังนี้

60. - ชื่อผู้ติดต่อกําหนดชื่อของ User ว่าจะใช้ชื่อใด - เปิดการเตือนโฮสต์คือจะเปิดให้มีการเตือนเมื่อโฮสต์ในระบบมีปัญหาหรือไม่ - เปิดการเตือนเซอร์วิสคือจะเปิดให้มีการเตือนเมื่อเซอร์วิสในระบบมีปัญหาหรือไม่ -เวลาในการเตือนมีตัวลเลือกคือ - 24 *7 คือเช็ค 24ชั่วโมง 7 วัน - 8*5 คือช่วงเวลาทํางาน 8.00 น.-17.00น. วันจันทร์ถึงศุกร์ - ตัวเลือกโฮสต์หรือเซอร์วิสคือกรณีปัญหาใดที่จะมีการแจ้งเตือน - คําสั่งเตือนคือต้องการจะให้เตือนโดยใช้วิธีการใด

61. - ตั้งค่าการแจ้งเตือนด้วยอีเมลล์

62. ส่วนที่1,2 เป็นการกําหนดค่าการแจ้งเตือนเมื่อ Host หรือ Service เกิดปัญหา - ชื่ออีเมล์ผู้ส่งคือชื่อ email ที่ใช้ในการส่งเมื่อเกิดปัญหา - หัวเรื่องอีเมล์สามารถแก้ไขได้ตามต้องการ - ข้อความคือข้อความทีถูกส่งไปสามารถแก้ไขได้ ส่วนที3 เป็นการการตัIงค่า SMTP server - SMTP server และ Port หากมีเป็นของตนเองก็สามารถใส่ลงไปในช่องนี้ - SMTP username และ Password เป็นของผู้ใช้โดยขึ้นอยู่ปับ SMTP Server หากไม่มี SMTP Server สามรถใช้ตามตัวอย่างด้านบนได้โดยusernameและ Password จะใช้เป็น Account ของ Gmail

63. แหล่งอ้างอิง http://inms.in.th/a