เคล็ด
- 1. เคล็ด(ไม่)ลับ<br />เคล็ด(ไม่)ลับ ดับกลิ่นเท้า<br />ในช่วงที่คุณต้องสวมรองเท้าตลอดวันอย่างต่อเนื่องกันหลายๆ วัน<br />อาจเป็นสาเหตุให้เท้าส่งกลิ่นเหม็นได้เช่นกัน วิธีกำจัดกลิ่นตุๆ ของเท้า ก็คือ... ทุกครั้งหลังอาบน้ำให้โรยแป้งฝุ่นให้ทั่ว ๆ เพื่อให้เท้าแห้งไม่อับชื้น<br />อีกวิธีหนึ่งก็คือ นำถุงน้ำชาที่ชงแล้วสัก 4 - 5 ถุงมาแช่ใส่อ่างน้ำอุ่น อ่างใบเล็กๆ แช่เท้าลงไปในน้ำอุ่นประมาณ 5 นาที ทำเช่นนี้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง เท้าจะไม่มีกลิ่น เพราะถุงชาจะเปลี่ยนความเป็นกรดด่างและหยุดยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย<br />ปล่อยเท้าให้เปลือยเปล่าบ้าง<br />เท้าที่นุ่มนวลไม่หยาบกร้านนั้นย่อมเป็นเท้าที่คุณผู้หญิงทั้งหลายควรจะเป็นเจ้าของ ผู้หญิงส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการดูแลผิวของใบหน้าและทั่วเรือนร่างแต่ทวากลับละเลยส่วนของเท้าไปอย่างน่าน้อยใจแทนเท้าทั้งสองข้าง การปล่อยเท้าเปลือยเปล่าบ้าง นั้นคือวิธีที่ง่ายดายที่สุดที่จะทำให้ผิวเท้านวลเนียน<br />เพราะการสวมถุงเท้า - รองเท้า และถุงน่อง อยู่ทุก ๆ วัน<br />วันละหลายชั่วโมงนั้นค่อนข้างทำร้ายเท้าให้อับและต้องทนหมักเซลล์ผิวตายๆ เอาไว้ถึง 200 มิลลิกรัมในแต่ละวัน และนี่เองที่ทำให้เท้าของคุณหยาบไม่นุ่มสดใสเหมือนแขนหรือลำตัว รู้เช่นนี้แล้วก็ เว้น ๆ การสวมถุงน่อง ถุงเท้า และรองเท้าบ้าง ควรเปลือยเท้าสบายๆ และชโลมโลชั่นบำรุงผิวให้เท้าของคุณด้วย<br />ดูแลเท้าหยาบ - แตก<br />ถนอมเท้าให้นุ่มนวลน่าสัมผัสและผ่อนคลายความเมื่อยขบจากการใช้งานหนักด้วยการแช่เท้าในน้ำอุ่นๆ ผสมน้ำมันยูคาลิปตัสและเกลือทะเลแช่นานสัก 10 นาที จากนั้นเช็ดซับให้แห้ง ใช้วาสลีนธรรมดาๆ (ปิโตรเลียม เจลลี่) ชโลมลูบให้ทั่วๆ ทั้งส้นเท้าและหลังเท้า และหาถุงเท้าบางๆ มาสวมไว้สัก 30 นาทีจึงค่อยถอดถุงเท้าออก วาสลีนที่ซึมสู่ผิวจะช่วยถนอมดูแลให้เท้าของคุณมีความนุ่มนวลไม่แตกไม่หยาบกร้าน และยังเรียบเนียนดีอีกด้วย<br />ใครทราบบ้างว่า น้ำใบบัวบกสามารถลบรอยตีนกาได้ วันนี้มีเรื่องนี้มาบอก... <br /> วิธี คือ นำใบบัวบกที่ได้มาล้างให้สะอาด แล้วนำมาปั่น หรือจะบด จะโขลก ด้วยกรรมวิธีอะไรก็ได้ที่ถนัด เพราะสิ่งที่ต้องการ คือ น้ำใบบัวบก <br /> พอได้น้ำใบบัวบกสด ๆ แล้ว ใช้สำลีชุบน้ำใบบัวบกมาทาให้ทั่วใบหน้า ทาทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออก ทาทุกวันก่อนนอน หรือจะหลับไปเลยก็ได้ <br /> น้ำใบบัวบกจะไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ซึ่งจะช่วยลบรอยตีนกาได้ แต่ที่สำคัญต้องทำสม่ำเสมอ ถึงจะเห็นผล รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่อยากลบรอยตีนกา ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้. <br />ไข่เจียวอาหารประจำชาติชนิดหนึ่ง เมนูยอดนิยม ทำง่าย แต่น้อยคนที่จะทำออกมาแล้วดูน่ารับประทานและอร่อย วันนี้มีเคล็ดลับมาฝากไข่เจียวฟู ๆ ดูน่ารับประทาน แต่มีพ่อครัวแม่ครัวมือใหม่หลายคน ที่ทำออกมาแล้วดูแฟบ แถมยังไม่อร่อย ไม่ต้องกังวลไป เดลินิวส์ออนไลน์ มาช่วยแล้วการทอดไข่เจียวให้น่ารับประทานนั้น ต้องเริ่มจากขั้นตอนการปรุงและตีไข่ โดยตอกไข่ใส่ถ้วยปรุงให้เรียบร้อย แล้วบีบน้ำมะนาว ลงไป 2-3 หยด และตีไข่ให้เข้ากัน ทอดลงในน้ำมันร้อน ก็จะได้ไข่เจียวที่ฟูและนุ่มอีกวิธีหนึ่ง เมื่อตีไข่จนขึ้นฟูแล้ว ใส่น้ำมันลงกระทะ รอน้ำมันเดือด ๆ ใช้ตะหลิวตักน้ำมันขึ้นมาหน่อย ใส่ลงไปในชามไข่ จากนั้น ค่อยนำไข่ลงไปเจียวในกระทะอีกเคล็ดลับหนึ่งคือ ให้ใช้หม้อแทนกระทะในการทอด วิธีนี้สามารถกำหนดรูปร่างของไข่ให้ฟูและหนาได้ตามความต้องการ โดยไม่ต้องใช้ตัวช่วยใด ๆ ทั้งสิ้น สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรลืมในการทอดไข่ให้ฟู คือ ใช้ไฟแรง แต่ไม่ถึงกับแรงจัด และน้ำมันต้องมากพอ การตีไข่ เมื่อตีเสร็จแล้ว อย่าวางทิ้งไว้ รีบเอาลงกระทะเลย เพราะฟองอากาศจะได้ยังแฝงตัวอยู่ในเนื้อไข่ ไม่ลอยขึ้นมาจนหมด.<br />