SlideShare a Scribd company logo
อุบัติเหตุที่เกิดบนท้องถนนมากมายในปัจจุบันนี้ เกิดขึ้นจากปัจจัยหลายอย่าง
ทั้งใช้ความเร็วเกินกฎหมายกาหนด ความมักง่าย ความไม่ชานาญเส้นทาง และอื่นๆอีกมากมาย
ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุได้ทั้งสิ้นนะครับ วันนี้ S!Auto
ขอนาเสนอระบบความปลอดภัยอีกแบบหนึ่ง ที่ได้รับการติดตั้งในรถยนต์ระดับหรู
มาได้สักพักหนึ่งแล้ว
ระบบที่ว่านั่นก็คือAutonomous Emergency Brakingหรือ ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ
ซึ่งแต่ละค่ายรถยนต์มักมีชื่อเรียกระบบของตัวเองต่างกันออกไปเช่น
Mercedes Benzจะใช้ชื่อว่าBrakeAssist Plus (BAS
Plus) หรือฮอนด้าจะเรียกระบบของตนว่า Collision Mitigation Brake System
(CMBS) แต่ไม่ว่าแต่ละค่ายๆจะเรียกอย่างไรแต่การทางานของระบบมักจะคล้ายๆกัน
นั่นคือรถจะทาการเบรคโดยอัตโนมัติ เมื่อมีความเสี่ยงในการชนสิ่งกีดขวางด้านหน้า
ยกตัวอย่างเช่นหากว่าผู้ขับกาลังขับรถอยู่เพลินๆ
ขณะที่กาลังหันไปสบสายตากับแฟนสาวที่นั่งมาด้วยโดยไม่ได้เอะใจเลยว่า
เพียงช่วงเสี้ยววินาทีที่ผู้ขับละสายตาออกจากถนนนั้นรถยนต์คันหน้าเกิดเบรคกระทันหัน
ขณะที่ตนเองไม่ได้ชะลอความเร็วลงแม้แต่น้อยเรดาร์เซ็นเซอร์สาหรับตรวจจับวัตถุข้างหน้านั้น
จะส่งสัญญานไปยังกล่องควบคุมเพื่อให้สั่งการให้ส่งสัญญานเตือนผู้ขับ
โดยอาจแสดงเป็นไฟโชว์บนหน้าปัทม์พร้อมๆกับเสียงเตือน ในขณะเดียวกันนั้น
เบรคจะถูกเหยียบไว้ส่วนนึงเพื่อไม่ให้เกิดระยะฟรีของแป้ นเบรคเมื่อผู้ขับเหยียบเบรค
เพียงแตะเบรคเบาๆระบบจะทาการสั่งงานให้เบรคทางานด้วยแรงเบรคสูงสุดทันที
แต่หากผู้ขับยังคงไม่เหยียบเบรคไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม
ระบบจะทาการเบรคด้วยแรงเบรคสูงสุดภายในช่วงไม่กี่วินาทีก่อนการปะทะเพื่อหลีกเลี่ยง
หรือลดความแรงของอุบัติเหตุโดยอัตโนมัติ!
ผู้อ่านลองชมการทางานของระบบนี้ได้จากคลิปด้านล่างครับ
แม้ว่าเทคโนโลยีนี้ได้เปิดตัวออกสู่สายตาชาวโลกมานานพอสมควรแล้ว
แต่สาหรับเมืองไทยนั้นถือว่าค่อนข้างใหม่
โดยชาวไทยเองสามารถพบเทคโนโลยีประเภทนี้ได้จากรถยนต์Volvoรุ่นใหม่ๆทั้ง S60,V60,
XC60 และอื่นๆ รวมไปถึงค่ายญี่ปุ่นด้วยเช่นกันโดยฮอนด้าได้ติดตั้งระบบนี้ให้กับ New
Accord 2.4TECH ครับ
เราก็ได้แต่หวังว่าเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะช่วยให้เราเดินทางได้อย่างปลอดภัยนั้น
จะได้รับความนิยมจากชาวไทย
จนสามารถปรับลดต้นทุนการผลิตลงเพื่อที่จะสามารถนาไปติดตั้งกับรถยนต์อีกหลายๆยี่ห้อ
เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆนั่นเอง

More Related Content

Viewers also liked

Nidia isabel rivera restrepo
Nidia isabel rivera restrepoNidia isabel rivera restrepo
Nidia isabel rivera restreposantafe2012
 
Proyecto Lifting Intranet - Gestión Estratégica de la Comunicación en un medi...
Proyecto Lifting Intranet - Gestión Estratégica de la Comunicación en un medi...Proyecto Lifting Intranet - Gestión Estratégica de la Comunicación en un medi...
Proyecto Lifting Intranet - Gestión Estratégica de la Comunicación en un medi...
Sandra González Bustos
 
Como insertar una imagen desde archivo en power point
Como insertar una imagen desde archivo en power pointComo insertar una imagen desde archivo en power point
Como insertar una imagen desde archivo en power pointNashlie
 
Analysis of professional_contents_page
Analysis of professional_contents_pageAnalysis of professional_contents_page
Analysis of professional_contents_page
s555557
 
Yo No Fui, Fue Martin
Yo No Fui, Fue MartinYo No Fui, Fue Martin
Yo No Fui, Fue Martin
Gabriela Jimenez
 

Viewers also liked (6)

Nidia isabel rivera restrepo
Nidia isabel rivera restrepoNidia isabel rivera restrepo
Nidia isabel rivera restrepo
 
Proyecto Lifting Intranet - Gestión Estratégica de la Comunicación en un medi...
Proyecto Lifting Intranet - Gestión Estratégica de la Comunicación en un medi...Proyecto Lifting Intranet - Gestión Estratégica de la Comunicación en un medi...
Proyecto Lifting Intranet - Gestión Estratégica de la Comunicación en un medi...
 
Señales Inalámbricas
Señales InalámbricasSeñales Inalámbricas
Señales Inalámbricas
 
Como insertar una imagen desde archivo en power point
Como insertar una imagen desde archivo en power pointComo insertar una imagen desde archivo en power point
Como insertar una imagen desde archivo en power point
 
Analysis of professional_contents_page
Analysis of professional_contents_pageAnalysis of professional_contents_page
Analysis of professional_contents_page
 
Yo No Fui, Fue Martin
Yo No Fui, Fue MartinYo No Fui, Fue Martin
Yo No Fui, Fue Martin
 

งานวุฒิ

  • 1. อุบัติเหตุที่เกิดบนท้องถนนมากมายในปัจจุบันนี้ เกิดขึ้นจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งใช้ความเร็วเกินกฎหมายกาหนด ความมักง่าย ความไม่ชานาญเส้นทาง และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุได้ทั้งสิ้นนะครับ วันนี้ S!Auto ขอนาเสนอระบบความปลอดภัยอีกแบบหนึ่ง ที่ได้รับการติดตั้งในรถยนต์ระดับหรู มาได้สักพักหนึ่งแล้ว ระบบที่ว่านั่นก็คือAutonomous Emergency Brakingหรือ ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ ซึ่งแต่ละค่ายรถยนต์มักมีชื่อเรียกระบบของตัวเองต่างกันออกไปเช่น Mercedes Benzจะใช้ชื่อว่าBrakeAssist Plus (BAS Plus) หรือฮอนด้าจะเรียกระบบของตนว่า Collision Mitigation Brake System (CMBS) แต่ไม่ว่าแต่ละค่ายๆจะเรียกอย่างไรแต่การทางานของระบบมักจะคล้ายๆกัน นั่นคือรถจะทาการเบรคโดยอัตโนมัติ เมื่อมีความเสี่ยงในการชนสิ่งกีดขวางด้านหน้า ยกตัวอย่างเช่นหากว่าผู้ขับกาลังขับรถอยู่เพลินๆ ขณะที่กาลังหันไปสบสายตากับแฟนสาวที่นั่งมาด้วยโดยไม่ได้เอะใจเลยว่า เพียงช่วงเสี้ยววินาทีที่ผู้ขับละสายตาออกจากถนนนั้นรถยนต์คันหน้าเกิดเบรคกระทันหัน ขณะที่ตนเองไม่ได้ชะลอความเร็วลงแม้แต่น้อยเรดาร์เซ็นเซอร์สาหรับตรวจจับวัตถุข้างหน้านั้น จะส่งสัญญานไปยังกล่องควบคุมเพื่อให้สั่งการให้ส่งสัญญานเตือนผู้ขับ โดยอาจแสดงเป็นไฟโชว์บนหน้าปัทม์พร้อมๆกับเสียงเตือน ในขณะเดียวกันนั้น เบรคจะถูกเหยียบไว้ส่วนนึงเพื่อไม่ให้เกิดระยะฟรีของแป้ นเบรคเมื่อผู้ขับเหยียบเบรค เพียงแตะเบรคเบาๆระบบจะทาการสั่งงานให้เบรคทางานด้วยแรงเบรคสูงสุดทันที แต่หากผู้ขับยังคงไม่เหยียบเบรคไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ระบบจะทาการเบรคด้วยแรงเบรคสูงสุดภายในช่วงไม่กี่วินาทีก่อนการปะทะเพื่อหลีกเลี่ยง หรือลดความแรงของอุบัติเหตุโดยอัตโนมัติ! ผู้อ่านลองชมการทางานของระบบนี้ได้จากคลิปด้านล่างครับ แม้ว่าเทคโนโลยีนี้ได้เปิดตัวออกสู่สายตาชาวโลกมานานพอสมควรแล้ว แต่สาหรับเมืองไทยนั้นถือว่าค่อนข้างใหม่
  • 2. โดยชาวไทยเองสามารถพบเทคโนโลยีประเภทนี้ได้จากรถยนต์Volvoรุ่นใหม่ๆทั้ง S60,V60, XC60 และอื่นๆ รวมไปถึงค่ายญี่ปุ่นด้วยเช่นกันโดยฮอนด้าได้ติดตั้งระบบนี้ให้กับ New Accord 2.4TECH ครับ เราก็ได้แต่หวังว่าเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะช่วยให้เราเดินทางได้อย่างปลอดภัยนั้น จะได้รับความนิยมจากชาวไทย จนสามารถปรับลดต้นทุนการผลิตลงเพื่อที่จะสามารถนาไปติดตั้งกับรถยนต์อีกหลายๆยี่ห้อ เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆนั่นเอง