SlideShare a Scribd company logo
1 of 49
Download to read offline
มองแมว
Cat story
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
-แมวมอง
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
-CAT
ประเภทโครงงาน สารคดี
ชื่อผู้ทาโครงงาน นายธน ธนันตเศรษฐ
นายกฤษณพงษ์ พุ่มดอกไม้
ชื่อที่ปรึกษา คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ
ชื่อที่ปรึกษาร่วม -
ระยะเวลาดาเนินงาน 2 อาทิตย์
• ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ได้นิยมเลี้ยงแมวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก แต่ไม่มีความรู้
เกี่ยวกับแมวอย่างจริงจังเพราะแมวแต่ละสายพันธุ์นั้นมีการดูแลแตกต่างกัน
เช่น ถิ่นกาเนิด อาหารประจาวัน ลักษณะโดยรวม จึงทาให้เห็นว่าควร
จะต้องให้ความรู้เกี่ยวกับแมวให้มากขึ้นดังนั้นการศึกษาเรื่องนี้จึงมี
ความสาคัญในระดับหนึ่ง
1.เพื่อต้องการให้ผู้อ่านได้รับความรู้เรื่องแมวไปอย่างถูกต้อง
2.เลี้ยงดูอย่างถูกสุขลักษณะของแมว
3.การดูแบสัตว์ให้ไม่เครียดและอารมณ์ดี
ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของแมว พันธุ์แมว วิธีเลี้ยงดูและการฝึกแมว
1.วิธีเลี้ยงดูแมว
2.ลักษณะนิสัยของแมว
3.ประเภทของแมว
4.การฝึกแมว
แนวทางการดาเนินงาน
ศึกษาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต นามา
วิเคราะห์และสรุปเนื้อหา แล้วร่างโครงงาน
จากนั้นดาเนินงานตามที่วางไว้ เสนอความ
คิดเห็นของผู้จัดทาที่มีต่องาน เพื่อปรับปรุง
ในขั้นสุดท้าย
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.คอมพิวเตอร์
2.อินเตอร์เน็ต
งบประมาณ 100 บาท
ลาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิด
อบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
11 12
1
3
1
4
15
1
6
17
1 คิดหัวข้อโครงงาน / / อุษณีย
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / / / อุษณีย
3 จัดทาโครงร่างงาน / / / อุษณีย
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน / / / กาญจน
วดี
5 ปรับปรุงทดสอบ / กาญจน
วดี
6 การทาเอกสารรายงาน / / กาญจน
วดี
7 ประเมินผลงาน / อุษณีย
8 นาเสนอโครงงาน / / กาญจน
วดี
สุขศึกษา
การงานอาชีพและเทคโนโลยี
อังกฤษ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่
ได้รับวามรู้เกี่ยวกับแมว
แมว
ประเภท
วิธีเลี้ยงดู
ลักษณะนิสัย
การฝึก
ประเภทของแมว
Ragdoll
Maine Coon
Exotic
Cornish Rex
Bengal
Korat
Sokoke
Sphynx
Egyptian Mau
Nebelung
Turkish Van
Bombay
Siberian
La Perm
Snowshoe
Siamese
Russian Blue
Japanese Bobtail
Himalayan
แมว
• แมว หรือ แมวบ้าน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Felis catus) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อยู่ใน
ตระกูล Felidae ต้นตระกูลมาจากเสือไซบีเรีย (Felis tigris altaica) ซึ่งมีช่วงลาตัว
ตั้งแต่จมูกถึงปลายหางยาวประมาณ 4 เมตร แมวที่เลี้ยงตามบ้าน จะมีรูปร่างขนาดเล็ก
ขนาดลาตัวยาว ช่วงขาสั้นและจัดอยู่ในกลุ่มของประเภทสัตว์กินเนื้อ มีเขี้ยวและเล็บแหลมคม
สามารถหดซ่อนเล็บได้เช่นเดียวกับเสือ สืบสายเลือดมาจากแมวป่าที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่ง
ลักษณะบางอย่างของแมวยังคงพบเห็นได้ในแมวบ้านปัจจุบัน
• แมวเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่เมื่อประมาณ 9,500 ปีก่อน ซึ่งจาก
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของแมวคือการทามัมมี่แมวที่พบในสมัยอียิปต์
โบราณ หรือในพิพิธภัณฑ์อังกฤษในกรุงลอนดอน มีการแสดงสมบัติที่นาออกมาจาก
พีระมิดโบราณแห่งอียิปต์ ซึ่งรวมถึงมัมมี่แมวหลายตัว ซึ่งเมื่อนาเอาผ้าพันมัมมี่ออกก็
พบว่า แมวในสมัยโบราณทุกตัวมีลักษณะใกล้เคียงกัน คือเป็นแมวที่มีรูปร่างเล็ก ขนสั้นมี
แต้มสีน้าตาล มีความคล้ายคลึงกับพันธุ์ในปัจจุบัน ที่เรียกว่าแมวอะบิสซิเนีย
กลับไปหน้าตัวเลือก
วิธีการเลี้ยงแมวอย่างถูกต้อง
• การเลี้ยงลูกแมว ต้องมีตารางประจาวันในการให้อาหารที่เหมาะสม การขับถ่ายการเล่นและการ
นอนหลับ โดยต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อความสาเร็จในการเลี้ยงลูกแมวต้องคานึงถึง
• 1.โภชนาการและการหย่านม
• 2.สุขอนามัย
• 3.อุณหภูมิและความชื้น
• 4.การป้ องกันโรค
• 5.การบารุงและทาให้เข้ากับสังคม
กลับไปหน้าตัวเลือก
• โภชนาการและการหย่านม
ลูกแมวจะได้รับน้านมน้าเหลืองใน 12 ชั่วโมงแรก ลูกแมวจะดูดซึมภูมิคุ้มกันจากน้านมน้าเหลืองได้ในช่วง 24
ชั่วโมงแรกนับจากคลอด ในกรณีที่แม่แมวไม่สามารถเลี้ยงดูลูกแมวได้ ลูกแมวต้องดูดนมจากขวดหรือหลอดหยด
ตามแต่จะหาได้
• ใน 24-28 ชั่วโมงแรก ลูกแมวต้องการนม 1 มิลลิลิตรต่อชั่วโมง แต่ละวันเพิ่มจานวนขึ้น 0.5 มิลลิลิตร จนถึง 10
มิลลิลิตรต่อมื้อ จึงหยุดเพิ่ม ใน 1 วันลูกแมวควรได้รับอาหาร 6-9 มื้อ
ในช่วง 2 สัปดาห์ ให้อาหารลูกแมว 5-7 มิลลิลิตรต่อครั้ง
ช่วง 3 สัปดาห์ จะเริ่มให้อาหารอ่อน 3 เวลาต่อวัน และยังมีการให้นมจากขวดอยู่
ในสัปดาห์ที่ 4 ลูกแมวควรได้รับน้านมจากขวด 4-6 ครั้งต่อวันร่วมกับอาหารอ่อน 4-5 ครั้งต่อวัน ลดการให้อาหาร
ช่วงกลางคืนลง
ลูกแมวจะกินอาหารแข็งได้เมื่ออายุ 7 สัปดาห์
สัญญาณ แรกของการเจ็บป่วย คือ น้าหนักลด น้าหนักของลูกแมวจะเพิ่มขึ้น 50-100 กรัมต่อสัปดาห์ เมื่อลูกแมว
อายุ 14 วัน น้าหนักจะเพิ่มเป็น 2 เท่าของน้าหนักแรกเกิด ถ้าลูกแมวน้าหนักไม่เพิ่มควรให้อาหารเพิ่มขึ้น
กลับไปหน้าตัวเลือก
วิธีการเลี้ยงแมวอย่างถูกต้อง
• สุขอนามัย
ลูก แมวเกิดใหม่จะไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ เพราะกล้ามเนื้อที่ทาหน้าที่ยังเจริญไม่
สมบูรณ์ ลูกแมวต้องได้รับการกระตุ้นโดยใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ ชุบน้าอุ่นลูบบริเวณทวารหนัก จะทา
ให้ลูกแมวปัสสาวะ อุจจาระภายใน 1-2 นาที โดยปกติลูกแมวอายุ 21 วัน จะขับถ่ายของเสียได้
เอง หมั่นสังเกตปัสสาวะและอุจจาระของลูกแมว ปัสสาวะปกติควรมีสีเหลืองอ่อนหรือใส ถ้ามัน
มีสีเหลืองคล้าหรือส้มแสดงว่าลูกแมวได้รับอาหารไม่เพียงพอ ปกติอุจจาระจะมีสีน้าตาลจาง
หรือเข้ม อุจจาระสีเขียวแสดงถึงโรคติดเชื้อ ถ้าอุจจาระแข็งมากแสดงว่าให้อาหารทีละมากๆ แต่
ให้ไม่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นสาเหตุทาให้ท้องอืด มีแก๊ส หายใจไม่สะดวก
กลับไปหน้าตัวเลือก
วิธีการเลี้ยงแมวอย่างถูกต้อง
• อุณหภูมิและความชื้น
• ลูก แมวเกิดใหม่ยังไม่สามารถรักษาความร้อนของร่างกาย หรือสั่นตัวเพื่อให้เกิดความร้อนได้ จึง
ต้องมีที่ให้ความร้อนแก่ลูกแมว เช่น ตู้อบ เครื่องทาน้าอุ่น ซึ่งถูกออกแบบสาหรับลูกสัตว์เกิดใหม่
จะช่วยรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้เหมาะสมและควรระมัดระวังอย่าให้ความร้อนสูง เกินไป
ควรมีเทอร์โมมิเตอร์ในบริเวณนั้นเพื่อคอยสังเกตอุณหภูมิ ในสัปดาห์แรกอุณหภูมิควรอยู่ที่ 85-
90 องศาฟาเรนไฮต์ ความชื้น 55-65% พอ 3 สัปดาห์ลดอุณหภูมิลงเป็น 75 องศาฟาเรนไฮต์
ลองสังเกตถ้าลูกแมวมาอยู่รวมกันแสดงว่ามันหนาวไป แต่ถ้าลูกแมวอยู่ห่างกันคนละมุมแสดง
ว่าร้อนไป ลูกแมวที่มีอุณหภูมิร่างกายต่าควรทาให้อบอุ่นอย่างช้าๆ ภายใน 2-3 ชั่วโมง จนลูก
แมวมีอุณหภูมิร่างกายปกติ 97 องศาฟาเรนไฮต์
• ควรรักษาความชื้น โดยใช้ผ้าขนหนูชุบน้าวางเหนือกล่องที่ลูกแมวอยู่ จะช่วยเพิ่มความชื้นได้ ไม่
ควนเลี้ยงลูกแมวในที่อับชื้น หรือบนพื้นที่ผุพัง เพราะจะทาให้เกิดเชื้อรา ซึ่งอาจเกิดโรคทางเดิน
หายใจได้ การควบคุมอุณหภูมินั้นสาคัญกว่าในเรื่องความชื้น ลูกแมวควรอยู่ในที่ที่มีผิวสัมผัสที่
ดี เช่น ผ้าห่ม ขนแกะ จะช่วยพัฒนาการเคลื่อนไหวของลูกแมว
กลับไปหน้าตัวเลือก
วิธีการเลี้ยงแมวอย่างถูกต้อง
• การป้ องกันโรค
• ลูก แมวอาจติดโรคได้ง่าย เช่น โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ถ้าหากไม่ได้
รับน้านมเหลืองจากแม่ นมน้าเหลือง 24 ชั่งโมงแรกหลังคลอดจะมี
แอนติบอดีมากมาย ซึ่งแอนติบอดีจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ลูกแมวที่ไม่ได้
กินนมน้าเหลืองจะมีภูมิคุ้มกันโรคน้อย และควรฉีดวัคซีนให้ลูกแมวด้วย
ลูกแมวอาจได้รับอันตรายจากพยาธิ จึงควรถ่ายพยาธิให้ลูกแมว เริ่ม
เมื่อลูกแมวอายุ 6 สัปดาห์ และถ่ายซ้าอีกครั้งเมื่ออายุ 8 และ 10สัปดาห์
กลับไปหน้าตัวเลือก
วิธีการเลี้ยงแมวอย่างถูกต้อง
• การบารุงและทาให้เข้ากับสังคม
• ควรลูบขน กอด และให้ลูกแมวเล่นกับคนประมาณ 30-40 นาทีต่อวัน
นอกเหนือจากการให้อาหารและทาความสะอาดให้มัน ลูกแมวต้องการ
การกระตุ้น ควรปูรองพื้นกล่องที่ลูกแมวนอนด้วยวัสดุอ่อนนุ่ม ลูกแมว
จะอบอุ่นและหลับสบาย สิ่งสาคัญคือทาให้เหมือนลูกแมวเป็นสมาชิก
ในบ้านในช่วง 3-6 สัปดาห์ จาไว้ว่ามันยังเด็ก ต้องจับอย่างทะนุถนอม
แต่ต้องเริ่มฝึกลูกแมวให้คุ้นเคยกับเสียง การขับถ่าย คนแปลกหน้า และ
สัตว์เลี้ยงอื่นๆ
กลับไปหน้าตัวเลือก
วิธีการเลี้ยงแมวอย่างถูกต้อง
ลักษณะนิสัย
กลับไปหน้าตัวเลือก
• โดยธรรมชาติแล้วแมวเป็นสัตว์ที่รักอิสระ ชอบทาอะไรตามใจตนเอง และมักคิด
เสมอว่าตัวเองอยู่เหนือมนุษย์ เป็นนายเรา
เป็นเจ้าของเรามากกว่าที่เราจะเป็นเจ้าของมัน แมวจะรักตอบคนที่รักมันเท่านั้น
ใครที่ทาเย่อหยิ่งกับมันก่อน
อย่าได้หวังว่ามันจะง้อ แม้ว่ามันอาจจะหยิ่งซักหน่อย ไม่ติดเจ้าของเหมือนสุนัข ไม่
คอยมานั่งเฝ้ าคุณอยู่ตลอดเวลา แถมยังไม่ค่อยเชื่อฟังอีก
แต่ถ้าคุณทาให้มันรักคุณได้แล้ว เรียนรู้วิธีที่จะจัดการกับมันได้อย่างถูกต้อง เจ้า
เหมียวตัวนั้นจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าเอ็นดูเลยแหละ
แมวพันธุ์ Ragdoll
• ถิ่นกาเนิด จากประเทศอเมริกา (America)
• ลักษณะ เป็นแมวที่มีโครงร่างขนาดใหญ่ ร่างกายแข็งแรง มีตาสีฟ้ าสวยงาม มองแล้ว
เคลิ้มเชียว ขนจะหนาแน่นเป็นปุยมากในบริเวณเอว ที่หางมีขนยาวชัน ถ้าสังเกตุที่
บริเวณอุ้งเท้าไปจนถึงช่วงขาของมันจะเป็นสีขาวจนดูเหมือนกับสวมถุงเท้าตลอดเวลา
• อุปนิสัย เป็นแมวผู้ดีชอบความเงียบสงบ มีเสียงร้องที่เบามาก และเวลาอุ้มจะมีนิสัย
ที่เป็นเอกลักษณ์ของมันเลยก็คือจะเมื่อเวลาที่คนอุ้ม มันจะทิ้งตัวโตงเตงราวกับตุ๊กตา
เศษผ้าราวกับไม่มีชีวิต ดูคล้ายอาการเมายา ขนาดนั้นเชียวดูกันเอาเองละกัน
• การดูแล ด้วยความที่เป็นแมวขนยาวแล้วชอบเลียขนเพื่อทาความสะอาด ทาให้แมว
พันธุ์นี้มักป่วยจากการเกิด Hairball (ขนที่จับตัวเป็นก้อนกลมในกระเพาะ อันเกิด
จากการเลีย) ในท้องสูง เจ้าของที่เลี้ยง แมว Ragdoll ควรใส่ใจในการแปรงขนให้มัน
และหมั่นสังเกตอาการต่าง ๆ หากพบอาการผิดปกติ ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Maine Coon
• แมวเมนคูน (Maine Coon) เป็นแมวลูกผสมที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง
ในสหรัฐอเมริกา เชื่อกันว่าเกิดจากแมวที่ผสมพันธุ์กันในอเมริกา มี การ
บันทึกกันไว้ว่า พระนางมารี อังตัวเน็ต พระราชินีของ พระราชาฝรั่งเศส ได้ส่ง
ทั้งของและเจ้าพวกสัตว์เลี้ยง เช่น แมวเมนคูน ของพระนางไปก่อนล่วงหน้า
ก่อน ตอนที่พระนางเตรียมหนี จากพวกปฏิวัติในฝรั่งเศส เข้ามหาสมุทร
แอตแลนติกไปอเมริกา ต้นชื่อที่ เรียกว่า เมน นั้น เพราะแม่พันธุ์นี้ได้พบกัน
ครั้งแรกตอนที่มันมาขึ้นฝั่ง ที่รัฐ ริมมหาสมุทรแอตแลนติก ด้านอเมริกาเหนือ
คือ รัฐเมน ส่วนชื่อ คูน ท่อนหลังนั้นน่า จะมาจากพวงหาง ของเจ้าแมวพันธุ์
ที่ว่าที่มีหางเป็นพวงเหมือนตัวแรคคูนที่มีอยู่ใน ทวีปอเมริกา เจ้าแมวเมนคูน
เป็นแมวที่ได้จากการผสมของตัวแรคคูน กับแมวบ้าน จึงมีชื่อว่า" Maine
Coon " ซึ่งมาจากชื่อเมือง Maine กับคาว่า Raccoon
กลับไปหน้าตัวเลือก
• ลักษณะโดยทั่วไป
เป็นแมวที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ตายาวติดกับบริเวณช่องจมูก จมูกเล็ก ช่วงขาแข็งแรง
เท้ากลมมน ขนยาวและมีน้าหนัก ลักษณะขนที่มีน้ามันในตัวจึงไม่ค่อยเปียกน้า
ปลายหางขนหยาบ ขึ้นหนาแน่น แต่ขนไม่ยาวนัก บริเวณรอบลาคอถึงโคนใบหูขน
มักพันเป็นกระจุก สีต้นตระกูลของแมวนี้ได้แก่ สีขาว สีดา สีเงิน สีเหลือง ลูก
นัยน์ตาเป็นรูปไข่ลาดเอียง และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกสภาพอากาศ เมื่อ
อากาศหนาวเย็นจะมีขนที่หนาขึ้น และเมื่ออากาศร้อนขนจะบางลง
ลักษณะประจาพันธุ์
หัวมีขนาดใหญ่สมส่วน โหนกแก้มสูง รูปหน้ายาวปานกลาง ดูเป็นทรงเหลี่ยม ใบหู
ตั้งชี้เรียวแหลม มีขนที่ปลายหูเหมือนแมวป่า ดวงตากลมโต สีเขียว ทอง ทองแดง
พบตาสีฟ้ าบ้างในเหมียวที่มีขนสีขาว ขนเป็นประเภทขนกึ่งยาว มีขนปกคลุมหนา
แต่ไม่พันกันยุ่งขนส่วนหัว คอและไหล่จะไม่ยาวมาก จะไล่ความยาวจากส่วนหลัง
ส่วนท้องไปจนถึงสีข้างและหาง ตัวผู้จะมีขนคอที่หนากว่าตัวเมีย ขาแข็งแรง ความ
ยาวได้สัดส่วนกับลาตัว อุ้งเท้าใหญ่ เท้าหน้าจะมีนิ้วข้างละ 5 นิ้ว ส่วนเท้าหลังมี
ข้างละ 4 นิ้ว
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Exotic
เกิดจากการนาแมวเปอร์เซียมาผสมกับแมว
อเมริกันขนสั้น แมวเอ็กโซติค ช็อตแฮร์เป็น
แมวขนาดกลาง-ใหญ่ ลักษณะคล้ายกับ
แมวเปอร์เซีย เพียงแต่ขนสั้นกว่า ตัวป้ อมขา
สั้น จมูกสั้น หัวกลม มีหลากหลายสีสัน เป็น
แมวที่รักสงบ ใจดี จริง ๆ แล้วแมวเอ็กโซติค
นี้มีทั้งพันธุ์ขนสั้นและขนยาวครับ (แต่ในรูป
เป็นพันธุ์ชนสั้น) เรียกชื่อภาษาอังกฤษก็
exotic shorthair กับ exotic
longhair ครับ พันธุ์ขนยาวก็ต่างจาก
พันธุ์ขนสั้นแค่ขนมันยาวเท่านั้นเอง
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Cornish Rex
แมวพันธุ์นี้มีถิ่นกาเนิดที่เมือง คอร์วอลล์
(Corwall) ประเทศอังกฤษเมื่อประมาณ
ปีค.ศ. 1950 เกิดจากการผสมพันธุ์ในหมู่
แมวพันธุ์เร็กซ์ด้วยกัน แมวคอร์นิช เร็กซ์ เป็น
แมวขี้เล่น ขี้ประจบ เป็นแมวขนาดเล็ก-กลาง
หัวยาวแคบหน้าผากกลมเล็กน้อย จมูกยาว
ใบหูใหญ่ปลายมน นัยน์ตาสีทองแดงหรือ
น้าตาลแดงรูปไข่ ลาตัวผอมบาง ขาและหาง
ยาว เท้าเล็ก มีหลายสี ขนหยิกเป็นคลื่นและ
สั้นมากกว่าแมวเดวอน เร็กซ์ ดังนั้นจึงอาจดู
เหมือนว่า คอร์นิช เร็กซ์ ขนหยิกน้อยกว่า เด
วอน เร็กซ์
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Bengal
ถูกตั้งฉายาว่า ลูกเสือดาวที่เกิดมาเชื่อง ซึ่งก็น่าจะมี
ที่มาของต้นตระกูล อันเกิดจากการผสมพันธุ์กันของ
แมวป่า และแมวบ้าน แมวเบงกอลเป็นแมวที่มีความ
ฉลาดมาก น่ารัก และคล่องแคล่วปราดเปรียว มีนิสัย
ชอบวิ่งไล่สิ่งของ หรือวัตถุ ชอบปีนป่าย และชอบเล่น
น้า ชอบไล่จับหนู หากไม่มีอะไรให้เล่นก็จะของเล่น
ด้วยตัวเอง มีเสียงร้องที่ฟังแล้วเหมือนแมวป่า
ค่อนข้างมาก
กลับไปหน้าตัวเลือก
• ลักษณะประจาพันธุ์
ขนาดปานกลางค่อนข้างใหญ่ หัวมีความยาวมากกว่ากว้าง เนื่องเพราะถูก
ผสมโดยควบคุมลักษณะให้มีรูปร่างคล้ายแมวป่า เพรียว ยาว เห็นมัด
กล้ามเนื้อแบบนักล่าชัดเจน โฑดยที่มักจะมีความสูงส่วนสะโพกสูงกว่าความ
สูงของช่วงไหล่ หาวส่วนมากจะมีปลายชี้ลง ใบหูกลม สั้น ตารูปไข่ (oval)
ช่วงโคนหนวดเด่น ช่วงปากและรอบจมูกกลมกว่าแมวบ้าน จุดที่เด่นที่สุดของ
แมวเบงกอลได้แก่ลายแลีสีขนที่อาจเป็นจุดแบบแมวป่า หรือลายหินอ่อน
ถิ่นกาเนิด
มาจากผู้หญิงชาวมลรัฐอริโซนา ประเทศอเมริกาที่หลงใหลในลวดลายของ
แมวป่า และนิสัยอันน่ารักของแมวบ้าน จึงทาการผสมพันธุ์ในราวปี ค.ศ.
1980 โดยใช้แม่แมวลูกผสมระหว่างแมวป่า (Asian Leopard Cat)
จานวน 8 ตัวมาทาการผสมและคัดเลือกพันธุ์ เธอตั้งชื่อสายพันธุ์นี้ว่า เบง
กอล ตามชื่อวิทยาศาสตร์ของแมวป่าที่เรียกกันว่า Felis bengolensis
นั่นเอง
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Korat
แมวพันธุ์นี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ คือ แมวโคราช แมวมาเลศ หรือแมวดอกเลา แมวโคราชเป็นแมวที่พบ
ที่อาเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา หรือเรารู้จักกันในนามว่าโคราช มีหลักฐานบันทึกเกี่ยวกับแมวโคราชใน
สมุดข่อย (Smud Khoi of Cats) ที่เขียนขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1350-1767 หรือประมาณ พ.ศ.
1893-2310 ในบันทึกได้กล่าวถึงแมวที่ให้โชคลาภที่ดี 17 ตัวของประเทศไทย รวมถึงแมวโคราชด้วย
ปัจจุบันสมุดข่อยนี้ถูกเก็บไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ชื่อแมวโคราช เป็นชื่อที่ได้รับ
พระราชทานจากสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 5 โดยใช้แหล่งกาเนิดของแมวเป็นชื่อเรียกพันธุ์แมว มีเรื่องเล่า
มากมายหรือเป็นตานานเล่าขานเกี่ยวกับแมวโคราช รวมถึงตานานพื้นบ้านที่กล่าวถึงการที่แมวโคราชมี
หางหงิกงอ (kinks) มากเท่าไหร่จะมีโชคลาภมากเท่านั้น (แม้ว่าลักษณะหางหงิกงอไม่ใช่มาตรฐานพันธุ์
ตากหลักของ CFA ก็ตาม) แต่คนไทยจะเรียกแมวโคราชอีกชื่อว่า แมวสีสวาด (Si-Sawat cat (see-
sa-what)
กลับไปหน้าตัวเลือก
• ลักษณะสีขน
ขนสั้น สีสวาด (silver blue) ทั่วทั้งตัวและเป็นสีสวาดตั้งแต่เกิดจนตาย
• ลักษณะของส่วนหัว
หัวเมื่อดูจากด้านหน้าจะเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ในแมวตัวผู้
หน้าผากมีรอยหยักทาให้เป็นรูปหัวใจเด่นชัดมากขึ้น หูใหญ่ตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่
ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปากสีเงิน หรือม่วงอ่อน
• ลักษณะของนัยน์ตา
นัยน์ตาสีเขียวสดใสเป็นประกาย หรือสีเหลืองอาพัน ขณะยังเป็นลูกแมวตาจะเป็นสี
ฟ้ า เมื่อโตขึ้นจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด และเมื่อเติบโตเต็มที่ตาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว
ใบไม้ หรือสีเหลืองอาพัน
• ลักษณะของหาง
หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง
ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลาตัว
• ลักษณะที่เป็นข้อด้อยของพันธุ์
ขนยาวเกินไป มีสีอืนปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก
หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป (เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน
3 นิ้ว) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Sokoke
แมวโซโคกี้( Sokoke ) เป็นแมวที่มีเชื้อสายขางแมวป่าแอฟริกา แต่ไม่มีหลักฐาน
แน่ชัดว่า ได้ถูกนามาเลี้ยงเหมือนแมวบ้านทั่วไปตั้งแต่เมื่อใด ลายของแมวพันธุ์นี้มอง
เผินๆก็คล้ายกับแมวเบงกอล คือมีลักษณะเป็น แทบบี้ลายจุด บนพื้นสีน้าตาล ( มี
ตั้งแต่สีน้าตาลอ่อน ไปจนถึงน้าตาลเข้ม ) แม้ว่าจะมีการเพาะเลี้ยงมานานแล้ว แต่มัน
ก็เพิ่งได้รับการรับรองจากสถาบัน FIFe เมื่อปี 1993 นี่เอง ปัจจุบันแมวชนิดนี้เป็น
แมวที่หายาก และมีจานวนน้อยมาก
ลักษณะโดยทั่วไป
เป็นมีขนาดกลาง ลาตัวบอบบาง แต่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ หัวค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบ
กับลาตัว ใบหูขนาดกลาง ดวงตาเป็นรูปเมล็ดอัลม่อน ขนสั้นแนบสนิทกับลาตัว ขา
ยาว เหมือนแมวป่า
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Sphynx
• สฟิงซ์ (Sphynx) เป็นแมวขนาดเล็ก เชื้อสายดั้งเดิมยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ว่ามีต้นกาเนิด
จากแถบ อียิปต์ หรือฮาวายกันแน่ แมวไม่มีขนตัวแรกปรากฏ ที่แคนาดาในพ.ศ. 2509 ต่อมา
จึงได้กลายเป็นแมวพันธุ์หนึ่ง โดยใช้แมวขนสั้นของอเมริกามาผสม สมาคมผู้เลี้ยงแมวส่วน
ใหญ่ไม่ยอมรับแมวพันธุ์นี้แต่ที่แน่ ๆ หลายคนมองว่า เพราะไม่มีขนมันจึงเป็น แมวที่น่า
เกลียดที่สุดในโลก แต่ถ้าหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีอยู่บาง ๆ อย่างชัดเจนที่ปลายลาตัวทั้ง
สองข้าง นับว่าเหมาะอย่างยิ่ง สาหรับกลุ่มผู้เป็นโรคแพ้ขนสัตว์ จะรับไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา
ด้วยธรรมชาติของมันที่มีขนอันน้อยนิด สฟิงซ์ จึงไม่ชอบอากาศเย็นจัด นอกจากนี้สฟิงซ์ ยัง
ต้องการอาหารประเภทโปรตีนมากกว่าแมวสายพันธุ์อื่น ๆ
• ลักษณะโดยทั่วไป
หัวมีทรงคล้ายลิ่ม หูเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายมนกลม ตาสีอาพัน ลาตัวยาว ขายาวปานกลาง
ผิวหนัง สีน้าตาลขาว หรือดาขาว ขนเส้นเล็กสั้น พื้นท้องแถบขาวยาวตั้งแต่ปากตลอดทั้ง
ลาตัว หาง ยาวปลายเรียว นิสัย ขี้ประจบ รักเจ้าของ หากเวลาที่มันต้องการสิ่งใด หรือเพื่อ
เรียกร้องความสนใจจะส่งเสียงร้องแผ่วเบา ขาดหายเป็นจังหวะ
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Egyptian Mau
• แมวอียิปเตียน โม ( Egyptian Mau ) เป็นแมวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ประวัติของ
มันไม่แน่ชัดว่ามีความเป็นมาอย่างไร เชื่อว่าเป็นแมวที่มีถิ่นกาเนิดอยู่ที่ ประเทศอียิป เพราะคาว่า
โม (Mau) คือภาษาอียิปต์โบราณที่หมายถึงแมวนั่นเอง มีบันทึกว่าในปี ค.ศ. 1950 แมวพันธุ์นี้ได้
ถูกนาเข้าจากกรุง Cairo ประเทศอียิปต์ มาที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยได้มีหลักฐานว่า เจ้า
หญิงรัสเซียได้เลี้ยงแมว Egyptian Mau สีเงินเพศเมียและได้ผสมพันธุ์กับแมวของทูต จนให้
กาเนิดลูกแมวมา 3 ตัว จนได้นาลูกแมวทั้ง 3 นี้ไปอเมริกาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1956 และได้รับการ
ผสมและปรับปรุงสายพันธุ์ใหม่จากนักผสมพันธุ์ชาวอเมริกา จนกระทั่งเป็นที่นิยม จนกระทั่งในปี
ค.ศ. 1980 ได้มีการนาเข้าแมวพันธุ์นี้มาจากอินเดียและอียิปต์อีกด้วย โดยลักษณะโดดเด่นก็คือ
ลายจุดบนตัวนั่นเอง มีสีอยู่ 3 สี คือ สีน้าตาลแดง เงิน และสีควันบุหรี่
• ลักษณะโดยทั่วไป
เป็นแมวขนสั้นแท๊บบี้(ลายเสือ)แบบมีจุด ลาตัวค่อนข้างใหญ่ ใบหน้ามีความยาวปานกลาง ใบหู
หใญ่กว้าง ดวงตาสีเขียว หรือสีเหลืองอาพัน ขาค่อนข้างยาว และขาหลังยาวกว่าขาหน้าล็กน้อย มี
ลายจุดขนาดเท่าๆกันกระจายอยู่ทั่วทั้งลาตัว โดยที่ขา และหาง จะมีลายขีดๆเป็นเส้น บริเวณ
หน้าผากมีลายเหมือนอักษรตัว "M"
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Nebelung
• แมวเนบีลัง ( Nebelung ) เป็นแมวที่มีรูปร่างลักษณะหน้าตา คล้ายๆกับแมว
Russian Blue ซึ่งได้รับการยอมรับ และขึ้นทะเบียนจากสถาบันแมวในอเมริกา
เมื่อปี ค.ศ. 1986 คาว่า Nebelung เป็นภาษาเยอรมัน ที่มีความหมายว่า เจ้า
แห่งสายหมอก แมวชนิดนี้มีเพียงสีเดียวคือ สีเทา ที่ปลายขนออกเป็นสีเงินเงา นิสัย
เรียบร้อย แต่ขี้อาย ไม่ค่อยเข้ากับคนแปลกหน้า และมีความจงรักภักดีต่อเจ้าของ
เป็นอย่างมาก
• ลักษณะโดยทั่วไป
เป็นแมวขนกึ่งยาวที่มีขนาดเล็ก ถึงขนาดกลาง ลาตัวยาวบอบบาง หัวมีความยาวไม่
มาก จมูกยาวไม่มีจุดหักของจมูก ใบหูใหญ่ และตั้งอยู่ห่างกันอย่างได้สัดส่วน
สวยงาม ดวงตาเป็นสีเขียวสดใส ลักษณะเป็นรูปเมล็ดอัลมอนท์ ขายาว อุ้งเท้าเล็ก
หางยาว ขนนุ่มฟู และเงางามเหมือนสีหมอกจางๆ
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Turkish Van
• แมวเตอร์กิชแวน ( Turkish Van ) เป็นแมวที่มีต้นกาเนิดมานานหลายร้อยปีแล้ว
โดยถิ่นกาเนิดอยู่ที่แถบทะเลสาบแวน ในตุรกี ซึ่งเป็นเจ้าเหมียวชนิดเดียว ที่ไม่กลัวน้า
แถมยังชอบว่ายน้าอีกด้วย จนได้ฉายาว่า "Swimming Cat" และมันได้รับการ
รับรองจากสถาบัน GCCF เมื่อปี ค.ศ. 1969 ปัจจุบันมีหลากหลายเฉดสี และหลายลาย
แต่สีที่คลาสสิคมากๆคือ สีน้าตาลแดง หรือ น้าตาล ครีมๆ อุปนิสัยร่าเริง มีความเป็นมิตร
ชอบหมกตัวอยู่กับเจ้าของ ไม่ก็แอบซุกอยู่ในที่เงียบๆ มีพละกาลังในการเล่นสูง และชอบ
ว่ายน้าเป็นชีวิตจิตใจ
• ลักษณะโดยทั่วไป
เป็นแมวขนกึ่งยาวที่สามารถปรับสภาพได้ตามภูมิอากาศ ลาตัวยาว และใหญ่มาก หัว
ค่อนข้างกว้าง ใบหูขนาดกลางถึงใหญ่ ตั้งตรงสูง ไม่ห่างกันมากนัก ดวงตาโต สีเหลือง
อาพัน หรือสีฟ้ า หรือบางครั้งมีท้ง2สี ( Odd Eyes ) ลายของขนตลอดลาตัวจะเป็นสี
ขาว มีสีอื่นได้เฉพาะที่หัวและหาง ไม่ควรมีแต้มตามลาตัวเกิน 2 ที่
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Bombay
• บอมเบย์ Bombay เกิดจากนาแมวพม่าสี
น้าตาลเข้มผสมพันธุ์กับแมวอเมริกันขนสั้นสี
ดา ผลก็คือ ได้ลูกแมวสีดาขลับ
• สี : ดาขลับ
รูปร่างและขนาด : เป็นแมวขนาดกลางมี
กล้ามเนื้อชัดเจน หัวโตหน้าผากกลมกว้าง หู
กลมและเอียงไปทางข้างหน้า มีจมูกสั้นสีดา
คางเห็นชัดเจน ตากลมโตสีตาเป็นสีทอง ขา
ยาวปานกลางเท้าเล็กรูปไข่
ลักษณะนิสัย : อ่อนโยนไม่ก้าวร้าวสามารถ
ปรับตัวเข้ากับแมวตัวอื่นๆได้ดีและชอบอยู่กับ
มนุษย์ไม่ปลีกตัวไปไกล
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Siberian
• Siberian Blue และ Siberian Red Spotted S
iberian เป็นแมวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาก โดยได้มีการกล่าวถึงแมวพันธุ์นี้ไว้ใน
หนังสือของ Harrison Wier ที่ชื่อว่า Our Cats and all About ที่ได้กล่าวถึง
ประวัติเกี่ยวกับแมวในอังกฤษตั้งแต่ปี ค.ศ. 1871 Siberian เป็นแมวที่มีถิ่นกาเนิดอยู่ใน
ประเทศรัสเซีย และได้ปรากฏตัวอยู่ในวรรณกรรมของรัสเซียหลายเรื่อง มีการนาเข้าแมว
พันธุ์นี้เข้ามาในอเมริกาเมื่อปี ค.ศ. 1990 และจนถึงปัจจุบัน Siberian ก็ยังเป็นแมวสาย
พันธุ์ที่มีราคาแพงและหายาก
• Siberian เป็นแมวแบบขนกึ่งสั้นกึ่งยาว จะมีขนหนายาวในช่วงฤดูหนาว และขนจะสั้นลง
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สามารถมีได้หลากหลายสี เพราะว่ามีราคาแพงมากนั่นเอง Siberian
ได้รับการขึ้นทะเบียนกับ CFA เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2000 นี้เอง
• Siberian เป็นแมวที่มีลักษณะนิสัยดี เหมาะสมแก่การเป็นแมวเลี้ยง แม้จะมีลักษณะ
คล้ายแมวป่าก็ตาม ลักษณะนิสัยคล้ายคลึงสุนัข คือจงรักภักดีและเป็นมิตร
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ La Perm
• แมวลาเปิร์ม ( La Perm ) เป็นแมวอีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของ
แมวธรรมดาทั่วไป พบได้ทุกเฉดสี และทุกลาย มีทั้งชนิดขนสั้น และขนยาว แต่
ลักษณะที่ทาให้มันต่างจากแมวทั่วไปก็คือ ขนที่นุ่มฟู และหยิก แมวชนิดนี้เมื่อตอน
แรกเกิด ขนจะเป็นเส้นตรงเหมือนแมวทั่วไป หรือบางทีอาจไม่มีขนเลยก็ได้ หลังจาก
นั้นประมาณ 2-3 สัปดาห์ ขนของมัน จะเริ่มเปลี่ยนเป็นขนหยิกๆ เป็นที่ต้องตาต้องใจ
ในหมู่คนรักแมวอย่างมาก เนื่องจากความน่ารักของมัน ประกอบกับนิสัยที่มัน ชอบ
อยู่กับบ้าน ติดเจ้าของ และการเลี้ยงดู หรือการทาความสะอาดขนของมัน ไม่ยุ่งยาก
เหมือนพวกแมวขนยาวชนิดอื่นๆ
• ลักษณะโดยทั่วไป
เป็นแมวที่มีลาตัวขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดกลาง ใบหน้ายาว ใบหูตั้งตรงสูง ส่วนอื่นๆ
ก็เหมือนแมวทั่วๆไป แต่ที่สาคัญ ขนต้องหยิก และนุ่ม
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Snowshoe
• แมวสโนว์ชู ( Snowshoe ) เป็นแมวขนสั้นที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ ระหว่างแมว
ไทย กับแมวอเมริกัน ช็อตแฮร์ ( American Shorthair ) หรือ แมวในตระกูลโอ
เรียลทัล ( Oriental ) โดยเริ่มมีต้นกาเนิดของแมวชนิดนี้ราวๆปี ค.ศ. 1960 เมื่อนักผสม
พัธุ์แมวที่เลี้ยงแมวไทยเพศเมียไว้ จนแมวของธอให้กาเนิดลูกๆที่มีลักษณะเหมือนแมวไทย
ทุกประการ แต่ที่อุ้งท้าทั้งสี่ของมันกลับมีสีขาว ซึ่งเป็นจุดเด่นของเเมวชนิดนี้และทาให้มัน
ถูกเรียกว่า "Snowshoe" ที่มีความหมายว่่ารองเท้าหิมะ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาในปัจจุบัน
แมวชนิดนี้ได้รับการผสมข้ามสายพันธุ์ จนมีแทบทุกเฉดสี และหลากหลายลวดลาย แต่
จุดเด่นที่สาคัญที่สุดคือ บริเวณอุ้งเท้าทั้งสี่ จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น
• ลักษณะโดยทั่วไป
เป็นแมวขนาดกลางที่มีรูปร่างค่อนข้างเหมือนแมวไทย และก็มีส่วนคล้ายแมวโอเรียนทัลอยู่
ด้วย แต่ลาตัวจะกลมกว่า ส่วนหัวกว้าง และยาวไม่มาก ใบหูขนาดกลางปลายหูกลมมน
ดวงตารูปไข่ ส่วนใหญ่เป็นสีฟ้ า มีขนสั้นเหมือนแมวไทย และ ที่สาคัญที่สุดคือ บริเวณอุ้งเท้า
ทั้งสี่ จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Siamese
• แมววิเชียรมาศ ตรงกับความหมายว่า "เพชรแห่งดวงจันทร์" หรือ "Moon
Diamond" บางตาราก็เรียก "แมวแก้ว" ซึ่งก็ตรงกับคาว่า "วิเชียร" แมวชนิดนี้มัก
ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแมวเก้าแต้มเสมอ ที่จริงแล้วไม่ถูกต้อง แมวเก้าแต้มคือแมวที่มีสี
พื้นสีขาว และมีแต้มบนร่างกาย 9 แห่ง เหตุที่มักเข้าใจผิดเพราะแมววิเชียรมาศ จะมี
สีพื้นสีขาวงาช้าง (หรือโบราณจะเป็นขาวล้วนก็ไม่ทราบ) และมีแต้มที่จมูกครอบไปถึง
ปากเป็นหนึ่งแห่ง กับขาทั้งสี่ หูสอง หางหนึ่ง และที่อวัยวะเพศอีกหนึ่ง รวมเป็น 9
แห่งเช่นกันในแมววิเชียรมาศนี้แต้มตามตาราว่าไว้ว่าต้องเป็นสีดาดังหมึกวาด แต่
ปัจจุบันเมื่อดูให้ดีแล้วจะเป็นแต้มสีน้าตาลเข้มเกือบดา ไม่ได้ดาสนิท หรือที่
ต่างประเทศเรียกว่า Seal brown หรือแต้มสีครั่ง แมววิเชียรมาศเป็นที่รู้จักใน
ต่างประเทศโดยใช้ชื่อว่า แมวสยาม (Siamese Cat) แต่ต่างประเทศจะมีแต้มสี
อื่นที่หลากหลายกว่า ซึ่งในบ้านเราจะยอมรับเฉพาะแมวที่มีแต้มสีน้าตาลเข้มเท่านั้น
นัยน์ตาสีฟ้ าก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของแมวชนิดนี้
กลับไปหน้าตัวเลือก
• ลักษณะโดยทั่วไป
ขนสั้นแน่นสีขาว หรือสีน้าตาลอ่อน มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้าตาลไหม้ที่
บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ (ทั้งแมวเพศ
ผู้และแมวเพศเมีย) รวม 9 แห่ง ขณะที่อายุยังน้อย หรือเป็นลูกแมว สีขน
จะออกสีครีมอ่อนๆ หรือขาวนวล พอโตขึ้นสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นตามลาดับ
จนเป็นสีน้าตาล (สีลูกกวาด) รูปหัวไม่กลม หรือแหลมเกินไป หน้าผาก
ใหญ่และแบน จมูกสั้น หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว ตาสีฟ้ า หางยาว
ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลาย
หาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลาตัว
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Russian Blue
• Russian Blue แมวรัสเซี่ยนบลู หรือ แมวรัสเซียสีฟ้ า
แมวรัสเซี่ยนบลู หรือ แมวรัสเซียสีฟ้ า (Russian Blue) เป็นแมวน่ารัก สุภาพ
เรียบร้อย เงียบ รักสะอาด ขี้เล่น ทว่าขี้อายเล็กน้อย ฉลาดหลักแหลม เช่น สามารถ
เปิดประตูบ้านได้ด้วยตนเอง เข้ากันได้ดีกับเด็กๆ และสัตว์อื่นๆ อีกทั้งยังมีลักษณะเด่น
ที่ไม่เหมือนใคร ขนของมันสั้นและหนาแน่น ขนสีฟ้ าซึ่งก็คือสีเทาอ่อนเป็นลักษณะเด่น
ที่แมวพันธุ์นี้มี และยังมีเพียงสีนี้สีเดียวเท่านั้น แต่ด้วยความที่ รัสเซียน บลู เป็นแมวที่
มีขนสองชั้น ดูเผิน ๆ คล้ายขนของตัวบีเวอร์ ในระยะแรกจึงเป็นที่รู้จักกันในฐานะแมว
ทูต หรือ Foreign Blue
• ว่ากันว่า ถิ่นกาเนิดเดิมของ แมวรัสเซียน บลู อยู่ทางตอนเหนือของประเทศรัสเซีย โดย
แมวรัสเซี่ยน บลู ตัวแรกที่ถูกนามาอังกฤษ เป็นของที่พระเจ้าซาร์องค์หนึ่งประทาน
ให้แก่นักการเมืองชาวอังกฤษ ขณะที่บางตานานกล่าวว่า ชาวกลาสีเรือรัสเซียเอาแมว
ชนิดนี้มาแลกกับขาแกะขาหนึ่งกับเจ้าของอู่เรือในปี ค.ศ. 1860 จนกระทั่งได้กลายเป็น
แมวชั้นสูง และเป็นแมวที่นิยมชมชอบมากของราชินี Victoria อย่างไรก็ดี ไม่มีผู้ใด
ล่วงรู้ถึงต้นกาเนิดของแมวพันธุ์ Russian Blue อย่างแน่ชัดนัก
กลับไปหน้าตัวเลือก
• ตามหลักฐานอ้างอิงระบุว่า แมวพันธุ์นี้ปรากฎตัวสู่งานประกวดแมวเป็นครั้งแรกที่เมือง
Crystal Palace ประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1875 ในฐานะแมวทูต ในตอนแรก
Russian Blue ได้ถูกจัดอยู่ในประเภทแมวสี Blue จนยังไม่ทันถึงปี ค.ศ. 1912
Russian Blue ก็ได้รับการรับรองสายพันธุ์ด้วยตัวของมันเอง จนกระทั่งหลัง
สงครามโลกครั้งที่สอง นักผสมพันธุ์ชาวอังกฤษและสแกนดิเนเวียได้ทาการปรับปรุงสาย
พันธุ์ของ Russian Blue ให้ดียิ่งขึ้น
• ต่อมา แมวพันธุ์นี้ถูกนาเข้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นปี ค.ศ. 1900 แต่ได้มีการ
พัฒนาสายพันธุ์น้อยมาก จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่สอง นักผสมพันธุ์ชาวอเมริกาได้
ทาการผสมแมวอังกฤษกับแมวสีเงินที่มีตาสีเขียว จนกลายเป็น Russian Blue อย่างที่
เราเห็นกันในปัจจุบัน จนกระทั่งปี ค.ศ. 1960 แมวพันธุ์นี้ก็เริ่มได้รับความนิยมอย่างมากทั้ง
ในฐานะแมวบ้านและแมวประกวด
• สาหรับลักษณะประจาสายพันธุ์ แมวรัสเซียน บลู นั้น เป็นแมวตัวใหญ่ ดวงตากลมโตรูป
กลม (Round) สีเขียวสุกใส ศีรษะแบนกว้างคล้ายงู รูปร่างป้ อมกลม ล่าสัน หูได้รูปกับ
ศีรษะ ลาตัวยาวเรียว ขนสั้นอ่อนนุ่มสีเทาเงินล้วนเป็นเงางามอ่อนนุ่มทั่วตัว ปราศจากรอย
ด่างพร้อย ลักษณะศีรษะเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมตั้งขึ้น ขนขึ้นปกคลุมบริเวณคอมีความอ่อน
นุ่มลักษณะคล้ายเส้นไหม และลาตัวค่อนข้างยาว
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Japanese Bobtail
• Japanese Bobtail (แมวหางกุดญี่ปุ่น)
แมวเจแปนนีส บ๊อบเทล หรือแมวหางกุดญี่ปุ่น (Japanese
Bobtail) เป็นแมวที่น่ารัก เป็นมิตร มีเสน่ห์ และร่าเริงที่สุดพันธุ์
หนึ่ง ชอบเล่น ชอบคาบของไว้ในปากเดินไปมา รวมทั้งชอบตะกุย
น้าเล่น มีเสียงร้องสดใสนุ่มนวล
• ลักษณะประจาพันธุ์ของแมวหางกุดญี่ปุ่นเป็นแมวขนาดกลาง มี
มัดกล้ามเนื้อให้เห็น ขายาวเรียว มักพบว่าขาหลังยาวกว่าขาหน้า
ส่วนหางที่สั้นกุดเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมหรือมิว
เตชั่น มีขนหนาขึ้นปกคลุมเป็นแพสวยงามเหมือนหางกระต่าย ซึ่ง
เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้วมีความยาว
ราว 1-3 นิ้ว หัวเป็นรูปสามเหลี่ยม กระดูกแก้มเป็นสันนูน จมูกยาว
ตารูปไข่สีเหลือง ไม่ค่อยพบตาสีฟ้ า มีทั้งขนยาวและขนสั้น สีขนที่
ฮิตที่สุดคือสามสี (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่ามิ-เกะ)
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวหางกุดญี่ปุ่นเป็นแมวรักษาการณ์ของไฮโซญี่ปุ่นมาหลาย
ศตวรรษ ในปี 1602 มีคาสั่งจากทางการให้ผู้ครอบครองนาแมวของ
ตัวเองไปปล่อยในพื้นที่ชนบทเพื่อทาสงครามปราบหนูที่เป็นศัตรูตัว
ฉกาจต่ออุตสาหกรรมใหม่ที่กาลังรุ่งเรืองและทารายได้เข้าประเทศ
อย่างมหาศาล นับจากนั้นมันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในตานานและ
ประวัติศาสตร์ รวมทั้งศิลปะของญี่ปุ่น โดยสื่อความหมายถึงการนา
ความโชคดีมีชัย ต่อมานักเพาะพันธุ์แมวชาวอเมริกันนาเจ้าหางกุด
มาจากญี่ปุ่นในราวปี 1968 จากนั้นอีก 10 ปีก็ได้รับการประกาศ
เป็นพันธุ์มาตรฐานและเป็นที่นิยม
กลับไปหน้าตัวเลือก
แมวพันธุ์ Himalayan
• Himalayan (หิมาลายัน)
แมวหิมาลายัน เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าแมว color point เป็นแมวเปอร์เซียที่ได้รับความนิยม
มากอีกชนิดหนึ่ง แมวหิมาลายันเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวเปอร์เซียและ
แมวไทยพันธุ์วิเชียรมาศ มีลักษณะรูปร่างหน้าตา และขนยาวเหมือนแมวเปอร์เซีย แต่มีแต้ม
แบบแมววิเชียรมาศ (9 จุด ได้แก่ ครอบหน้า 1, หู 2, ขาทั้ง 4, หาง 1 และอวัยวะเพศ 1)
แมวหิมาลายันได้รับการพัฒนาจนมีสายเลือดที่นิ่งจนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นแมวเปอร์เซียอีก
สายพันธุ์หนึ่ง
ทั้งนี้แมวหิมาลายัน ถูกผสมขึ้นครั้งแรกในแถบเทือกเขาหิมาลัย จึงได้ชื่อว่า แมวฮิมาลายัน
แมวพันธุ์นี้จะมีลักษณะขนที่ปกคลุมร่างกายคล้ายละอองหิมะ มีนัยน์ตาสีฟ้ าหรือสีน้าเงิน
หากดวงตาของแมหิมาลายันเป็นสีอื่นจะถือว่าผิดจากมาตรฐาน
• ลักษณะทั่วไป แมวหิมาลายัน
แมวหิมาลายัน มีลักษณะผิวแบบแมวไทยในอเมริกาเหนือ ลาตัวสั้นป้ อมและเตี้ย แข็งแรง
ขาค่อนข้างเล็ก หูสั้น จมูกสั้น แก้มนูนเต็ม ลูกนัยน์ตากลมม่านในตาเปิด ลูกนัยน์ตาสีน้าเงิน
หรือฟ้ าสุกใส ขนยาว บริเวณรอบเอวมีขนอ่อนนุ่ม รอบ ๆ คอและแก้มมีขนครุยห้อย บริเวณ
หางขนขึ้นหนาทึบ ที่หูจะมีขนยาวเป็นกระจุกห้อยย้อยลงมาน่ารักเชียวหละ
กลับไปหน้าตัวเลือก
ลักษณะนิสัย แมวหิมาลายัน
แมวหิมาลายัน ส่วนใหญ่นั้นไม่ใช่พวกที่ไม่สามารถอยู่นิ่งได้ กล่าวคือ มัน
ไม่ได้ขยับไปขยับมาตลอดเวลา แม้มันชอบที่จะเล่นและเป็นค่อนข้างจะ
คล่องแคล่ว แต่มันก็มีเวลาของมัน แมวหิมาลายันชอบที่จะทาอะไรที่คุณ
กาลังทาอยู่ คาที่จะอธิบายลักษณะของมันได้มากที่สุดคือ people
oriented ก็คือมีแนวโน้มที่จะอยู่กับคน ช่วยเหลือคน ปฏิบัติตามคน
นอกจากนี้แมวหิมาลายันมักจะพยายามที่จะช่วยเหลือคุณในทุก ๆ เรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่คุณอ่านหนังสือพิมพ์ หรือจัดเตียง มันมักจะมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมต่าง ๆ ของคุณเสมอ และมันก็จะระบายความรู้สึกของมัน
ออกมาทางเสียงที่ไพเราะเป็นเหมือนดนตรี สิ่งที่มันต้องการที่สุดก็คือแค่
การที่เราอุทิศแรงกายแรงใจในการเลี้ยงดู เอาใจใส่มันแค่นั้นเอง
กลับไปหน้าตัวเลือก
การฝึกแมว
• วิธีที่ 1 การเรียก
เราจะเริ่มฝึกให้เจ้าแมวน้อยเข้ามาหาโดยการเรียกเพียงแค่สองพยางค์ เช่น
มานี่(ชื่อแมว) เมื่อเขาเดินเข้ามาหาก็ให้รางวัล เช่น อาหารที่เขาชอบ หรือ
การเกาคางให้ก็ได้ แต่ถ้าเขาไม่เดินเข้ามาหาให้เรียกซ้า และใช้มือเป็น
สัญลักษณ์ ทาแบบนี้ซ้าหลายๆรอบ จนกว่าเขาจะเข้าใจและเข้ามาหา ที่
สาคัญที่สุดคือควรเรียกโดยเสียงที่จะทาให้มันสบายใจ โดยคุณจะต้องทา
มันซ้าๆ ถ้าเกิดดูแล้วมันรู้สึกราคาญก็ควรหยุดการฝึกไว้ก่อนและต้องมั่นใจ
ว่า อารมณ์ของแมว ณ ตอนนั้น อยู่ในสภาพที่ดี และไม่ควรฝึกที่มีเสียงดัง
เพราะจะทาให้เขาสับสน ข้อสาคัญ ห้าม ! เรียกแมวไปทาสิ่งที่เขาไม่ชอบ
เช่น การอาบน้า เพราะเขาจะอาจไม่ฟังตามคาสั่งเราอีก
กลับไปหน้าตัวเลือก
การฝึกแมว
• วิธีที่ 2 ฝึกให้อยู่ในลัง
การฝึกนี้ถือว่าค่อนข้างง่าย เพราะแมวชอบอยู่ในที่มืดๆอยู่แล้ว
โดยคุณสามารถใส่ผ้าห่มหรือของเล่นให้เขาได้ เมื่อเขาอยู่ในลัง
ให้คุณชมเขาและให้รางวัล แต่เมื่อเขาออกมาแล้วห้ามชม
เด็ดขาด เพราะเขาอาจคิดว่าสิ่งที่คุณต้องการคือให้เขาออกมา
และจะทาให้แมวสับสนได้ ควรให้รางวัลทุกครั้งที่เขาเข้าไปในลัง
และปล่อยให้อยู่นานขึ้น เพื่อให้รู้ว่านี่คือที่นอนของเขา
กลับไปหน้าตัวเลือก
การฝึกแมว
• วิธีที่ 3 การหมอบ
ให้เราถือขนมเพื่อล่อแมวไว้ และก็เรียกชื่อแมวพร้อมกับออกคาสั่ง
เช่น หมอบ ! และค่อยๆลดขนมมาให้เขาโดยปกติแล้วเขาจะย่อตัว
ตามขนมมา และขยับขนมออกห่างจากตัวแมวเพื่อให้แมวอยู่ใน
ท่าหมอบ เมื่อเขาทาตามควรให้รางวัลและคาชม ควรทาซ้าๆ
เพื่อให้เขารู้ถึงคาสั่ง
กลับไปหน้าตัวเลือก
การฝึกแมว
• วิธีที่ 4 การคาบของ
แมวบางตัวชอบที่จะคาบของ เราสามารถทดสอบว่าแมวตัว
นั้นชอบคาบของหรือไม่ ควรลองโยนตุ๊กตาผ้าต่อหน้าเขาและ
เลือกของที่เขาชอบเป็นพิเศษ รอจนกว่าเขาจะคาบมันไว้ และ
เรียกให้เขามาหาพร้อมกับ เสนอขนมเพื่อแลกกับตุ๊กตาของ
เขา และเล่นหลายๆครั้งเพื่อที่จะให้เขาเข้าใจประมาณว่า "ต้อง
เอาตุ๊กตามาเพื่อที่จะได้ขนม"
กลับไปหน้าตัวเลือก
การฝึกแมว
• วิธีที่ 5 การฝึกแมวให้ขับถ่าย
เตรียมกะบะทรายและวางไว้มุมที่ไกลที่นอน หรือที่กินอาหารของเขา
โดยสิ่งแรกในการฝึก คือการให้อาหาร ควรให้อาหารเป็นเวลา เพราะลูก
แมว จะใช้กะบะทราย หลังจากการตื่นนอน กินอาหาร และ ออกกาลัง
กายแล้ว หลังกินอาหารควรเล่นกะน้องแมวซัก 10-20 นาที จากนั้นเรียก
เขาไปยังที่กะบะทราย เมื่อน้องแมวไปถึงกะบะทราย ให้เอามือตะกุย
ทรายเพื่อเรียกความสนใจของเขา ทาแบบนี้หลายๆครั้ง พยายามกระตุ้น
ให้เขา ใช้กะบะทรายเอง และชมเขา ถึงแม้เขาจะไม่ได้เข้าไปขับถ่ายก็
ตาม การทาเช่นนี้จะทาให้เขาคิดว่าการเข้ากะบะทรายเป็นสิ่งที่ดี เพราะ
น้องแมวบางตัวอาจจะไม่กล้าเข้า เนื่องจากกลัวโดนดุ อย่างไรก็ตาม เรา
ควรทาให้น้องแมวนั้นรู้สึกสบายใจ และไว้วางใจในกระบะทราย เพราะ
แมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด ถ้ากระบะทรายสกปรกเขาจะไม่ใช้เลย
กลับไปหน้าตัวเลือก
แหล่งข้อมูล
• http://th.wikipedia.org/
• https://sites.google.com/site/busukho11342/l
aksna-nisay-khxng-maew
• https://blog.eduzones.com/rabbitsmile/12313
1
• http://www.catthailand.com/catanimaltv.asp
กลับไปหน้าตัวเลือก
มองแมว

More Related Content

Viewers also liked

Prevención primaria y secundaria
Prevención primaria y secundariaPrevención primaria y secundaria
Prevención primaria y secundariamarnunbai
 
Offre de services technocast
Offre de services technocastOffre de services technocast
Offre de services technocastyamnaine Mahfoud
 
でも、何で「音」なの?
でも、何で「音」なの?でも、何で「音」なの?
でも、何で「音」なの?ekbo
 
Andoc - СЭД через Интернет
Andoc - СЭД через ИнтернетAndoc - СЭД через Интернет
Andoc - СЭД через ИнтернетAndocCloud
 
WORK AT CHANAKYA ACADEMY
WORK AT CHANAKYA ACADEMYWORK AT CHANAKYA ACADEMY
WORK AT CHANAKYA ACADEMYKiran Mai
 
Photo_composition_rules.dragtbrs
Photo_composition_rules.dragtbrsPhoto_composition_rules.dragtbrs
Photo_composition_rules.dragtbrsbdiiz
 
エクボの世界観
エクボの世界観エクボの世界観
エクボの世界観ekbo
 
Shanghai Daewin Brochure
Shanghai Daewin BrochureShanghai Daewin Brochure
Shanghai Daewin BrochureLucy Luo
 
Catalog2013_EMAIL
Catalog2013_EMAILCatalog2013_EMAIL
Catalog2013_EMAILAngelo Q
 
Nanshan Aluminum presentation v2016
Nanshan Aluminum presentation v2016Nanshan Aluminum presentation v2016
Nanshan Aluminum presentation v2016帅 耿
 
Mario Tapiz Resume 2015
Mario Tapiz Resume 2015Mario Tapiz Resume 2015
Mario Tapiz Resume 2015Mario Tapiz
 

Viewers also liked (18)

เอเซอร์
เอเซอร์เอเซอร์
เอเซอร์
 
Prevención primaria y secundaria
Prevención primaria y secundariaPrevención primaria y secundaria
Prevención primaria y secundaria
 
Offre de services technocast
Offre de services technocastOffre de services technocast
Offre de services technocast
 
でも、何で「音」なの?
でも、何で「音」なの?でも、何で「音」なの?
でも、何で「音」なの?
 
Company SPC Ecology. Presentation
Company SPC Ecology. PresentationCompany SPC Ecology. Presentation
Company SPC Ecology. Presentation
 
Redacción de textos
Redacción de textosRedacción de textos
Redacción de textos
 
Andoc - СЭД через Интернет
Andoc - СЭД через ИнтернетAndoc - СЭД через Интернет
Andoc - СЭД через Интернет
 
WORK AT CHANAKYA ACADEMY
WORK AT CHANAKYA ACADEMYWORK AT CHANAKYA ACADEMY
WORK AT CHANAKYA ACADEMY
 
Ilovepdf merged 5
Ilovepdf merged 5Ilovepdf merged 5
Ilovepdf merged 5
 
taj cv
taj cvtaj cv
taj cv
 
Photo_composition_rules.dragtbrs
Photo_composition_rules.dragtbrsPhoto_composition_rules.dragtbrs
Photo_composition_rules.dragtbrs
 
エクボの世界観
エクボの世界観エクボの世界観
エクボの世界観
 
Get Polished
Get PolishedGet Polished
Get Polished
 
Shanghai Daewin Brochure
Shanghai Daewin BrochureShanghai Daewin Brochure
Shanghai Daewin Brochure
 
Catalog2013_EMAIL
Catalog2013_EMAILCatalog2013_EMAIL
Catalog2013_EMAIL
 
Nanshan Aluminum presentation v2016
Nanshan Aluminum presentation v2016Nanshan Aluminum presentation v2016
Nanshan Aluminum presentation v2016
 
Mario Tapiz Resume 2015
Mario Tapiz Resume 2015Mario Tapiz Resume 2015
Mario Tapiz Resume 2015
 
asante kivoi
asante kivoiasante kivoi
asante kivoi
 

มองแมว

  • 2. ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) -แมวมอง ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) -CAT ประเภทโครงงาน สารคดี ชื่อผู้ทาโครงงาน นายธน ธนันตเศรษฐ นายกฤษณพงษ์ พุ่มดอกไม้ ชื่อที่ปรึกษา คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ ชื่อที่ปรึกษาร่วม - ระยะเวลาดาเนินงาน 2 อาทิตย์
  • 3. • ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ได้นิยมเลี้ยงแมวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก แต่ไม่มีความรู้ เกี่ยวกับแมวอย่างจริงจังเพราะแมวแต่ละสายพันธุ์นั้นมีการดูแลแตกต่างกัน เช่น ถิ่นกาเนิด อาหารประจาวัน ลักษณะโดยรวม จึงทาให้เห็นว่าควร จะต้องให้ความรู้เกี่ยวกับแมวให้มากขึ้นดังนั้นการศึกษาเรื่องนี้จึงมี ความสาคัญในระดับหนึ่ง
  • 6. แนวทางการดาเนินงาน ศึกษาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต นามา วิเคราะห์และสรุปเนื้อหา แล้วร่างโครงงาน จากนั้นดาเนินงานตามที่วางไว้ เสนอความ คิดเห็นของผู้จัดทาที่มีต่องาน เพื่อปรับปรุง ในขั้นสุดท้าย เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ 1.คอมพิวเตอร์ 2.อินเตอร์เน็ต งบประมาณ 100 บาท ลาดั บ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิด อบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 11 12 1 3 1 4 15 1 6 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน / / อุษณีย 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / / / อุษณีย 3 จัดทาโครงร่างงาน / / / อุษณีย 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน / / / กาญจน วดี 5 ปรับปรุงทดสอบ / กาญจน วดี 6 การทาเอกสารรายงาน / / กาญจน วดี 7 ประเมินผลงาน / อุษณีย 8 นาเสนอโครงงาน / / กาญจน วดี สุขศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี อังกฤษ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ได้รับวามรู้เกี่ยวกับแมว
  • 8. ประเภทของแมว Ragdoll Maine Coon Exotic Cornish Rex Bengal Korat Sokoke Sphynx Egyptian Mau Nebelung Turkish Van Bombay Siberian La Perm Snowshoe Siamese Russian Blue Japanese Bobtail Himalayan
  • 9. แมว • แมว หรือ แมวบ้าน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Felis catus) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อยู่ใน ตระกูล Felidae ต้นตระกูลมาจากเสือไซบีเรีย (Felis tigris altaica) ซึ่งมีช่วงลาตัว ตั้งแต่จมูกถึงปลายหางยาวประมาณ 4 เมตร แมวที่เลี้ยงตามบ้าน จะมีรูปร่างขนาดเล็ก ขนาดลาตัวยาว ช่วงขาสั้นและจัดอยู่ในกลุ่มของประเภทสัตว์กินเนื้อ มีเขี้ยวและเล็บแหลมคม สามารถหดซ่อนเล็บได้เช่นเดียวกับเสือ สืบสายเลือดมาจากแมวป่าที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่ง ลักษณะบางอย่างของแมวยังคงพบเห็นได้ในแมวบ้านปัจจุบัน • แมวเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่เมื่อประมาณ 9,500 ปีก่อน ซึ่งจาก หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของแมวคือการทามัมมี่แมวที่พบในสมัยอียิปต์ โบราณ หรือในพิพิธภัณฑ์อังกฤษในกรุงลอนดอน มีการแสดงสมบัติที่นาออกมาจาก พีระมิดโบราณแห่งอียิปต์ ซึ่งรวมถึงมัมมี่แมวหลายตัว ซึ่งเมื่อนาเอาผ้าพันมัมมี่ออกก็ พบว่า แมวในสมัยโบราณทุกตัวมีลักษณะใกล้เคียงกัน คือเป็นแมวที่มีรูปร่างเล็ก ขนสั้นมี แต้มสีน้าตาล มีความคล้ายคลึงกับพันธุ์ในปัจจุบัน ที่เรียกว่าแมวอะบิสซิเนีย กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 10. วิธีการเลี้ยงแมวอย่างถูกต้อง • การเลี้ยงลูกแมว ต้องมีตารางประจาวันในการให้อาหารที่เหมาะสม การขับถ่ายการเล่นและการ นอนหลับ โดยต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อความสาเร็จในการเลี้ยงลูกแมวต้องคานึงถึง • 1.โภชนาการและการหย่านม • 2.สุขอนามัย • 3.อุณหภูมิและความชื้น • 4.การป้ องกันโรค • 5.การบารุงและทาให้เข้ากับสังคม กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 11. • โภชนาการและการหย่านม ลูกแมวจะได้รับน้านมน้าเหลืองใน 12 ชั่วโมงแรก ลูกแมวจะดูดซึมภูมิคุ้มกันจากน้านมน้าเหลืองได้ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกนับจากคลอด ในกรณีที่แม่แมวไม่สามารถเลี้ยงดูลูกแมวได้ ลูกแมวต้องดูดนมจากขวดหรือหลอดหยด ตามแต่จะหาได้ • ใน 24-28 ชั่วโมงแรก ลูกแมวต้องการนม 1 มิลลิลิตรต่อชั่วโมง แต่ละวันเพิ่มจานวนขึ้น 0.5 มิลลิลิตร จนถึง 10 มิลลิลิตรต่อมื้อ จึงหยุดเพิ่ม ใน 1 วันลูกแมวควรได้รับอาหาร 6-9 มื้อ ในช่วง 2 สัปดาห์ ให้อาหารลูกแมว 5-7 มิลลิลิตรต่อครั้ง ช่วง 3 สัปดาห์ จะเริ่มให้อาหารอ่อน 3 เวลาต่อวัน และยังมีการให้นมจากขวดอยู่ ในสัปดาห์ที่ 4 ลูกแมวควรได้รับน้านมจากขวด 4-6 ครั้งต่อวันร่วมกับอาหารอ่อน 4-5 ครั้งต่อวัน ลดการให้อาหาร ช่วงกลางคืนลง ลูกแมวจะกินอาหารแข็งได้เมื่ออายุ 7 สัปดาห์ สัญญาณ แรกของการเจ็บป่วย คือ น้าหนักลด น้าหนักของลูกแมวจะเพิ่มขึ้น 50-100 กรัมต่อสัปดาห์ เมื่อลูกแมว อายุ 14 วัน น้าหนักจะเพิ่มเป็น 2 เท่าของน้าหนักแรกเกิด ถ้าลูกแมวน้าหนักไม่เพิ่มควรให้อาหารเพิ่มขึ้น กลับไปหน้าตัวเลือก วิธีการเลี้ยงแมวอย่างถูกต้อง
  • 12. • สุขอนามัย ลูก แมวเกิดใหม่จะไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ เพราะกล้ามเนื้อที่ทาหน้าที่ยังเจริญไม่ สมบูรณ์ ลูกแมวต้องได้รับการกระตุ้นโดยใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ ชุบน้าอุ่นลูบบริเวณทวารหนัก จะทา ให้ลูกแมวปัสสาวะ อุจจาระภายใน 1-2 นาที โดยปกติลูกแมวอายุ 21 วัน จะขับถ่ายของเสียได้ เอง หมั่นสังเกตปัสสาวะและอุจจาระของลูกแมว ปัสสาวะปกติควรมีสีเหลืองอ่อนหรือใส ถ้ามัน มีสีเหลืองคล้าหรือส้มแสดงว่าลูกแมวได้รับอาหารไม่เพียงพอ ปกติอุจจาระจะมีสีน้าตาลจาง หรือเข้ม อุจจาระสีเขียวแสดงถึงโรคติดเชื้อ ถ้าอุจจาระแข็งมากแสดงว่าให้อาหารทีละมากๆ แต่ ให้ไม่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นสาเหตุทาให้ท้องอืด มีแก๊ส หายใจไม่สะดวก กลับไปหน้าตัวเลือก วิธีการเลี้ยงแมวอย่างถูกต้อง
  • 13. • อุณหภูมิและความชื้น • ลูก แมวเกิดใหม่ยังไม่สามารถรักษาความร้อนของร่างกาย หรือสั่นตัวเพื่อให้เกิดความร้อนได้ จึง ต้องมีที่ให้ความร้อนแก่ลูกแมว เช่น ตู้อบ เครื่องทาน้าอุ่น ซึ่งถูกออกแบบสาหรับลูกสัตว์เกิดใหม่ จะช่วยรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้เหมาะสมและควรระมัดระวังอย่าให้ความร้อนสูง เกินไป ควรมีเทอร์โมมิเตอร์ในบริเวณนั้นเพื่อคอยสังเกตอุณหภูมิ ในสัปดาห์แรกอุณหภูมิควรอยู่ที่ 85- 90 องศาฟาเรนไฮต์ ความชื้น 55-65% พอ 3 สัปดาห์ลดอุณหภูมิลงเป็น 75 องศาฟาเรนไฮต์ ลองสังเกตถ้าลูกแมวมาอยู่รวมกันแสดงว่ามันหนาวไป แต่ถ้าลูกแมวอยู่ห่างกันคนละมุมแสดง ว่าร้อนไป ลูกแมวที่มีอุณหภูมิร่างกายต่าควรทาให้อบอุ่นอย่างช้าๆ ภายใน 2-3 ชั่วโมง จนลูก แมวมีอุณหภูมิร่างกายปกติ 97 องศาฟาเรนไฮต์ • ควรรักษาความชื้น โดยใช้ผ้าขนหนูชุบน้าวางเหนือกล่องที่ลูกแมวอยู่ จะช่วยเพิ่มความชื้นได้ ไม่ ควนเลี้ยงลูกแมวในที่อับชื้น หรือบนพื้นที่ผุพัง เพราะจะทาให้เกิดเชื้อรา ซึ่งอาจเกิดโรคทางเดิน หายใจได้ การควบคุมอุณหภูมินั้นสาคัญกว่าในเรื่องความชื้น ลูกแมวควรอยู่ในที่ที่มีผิวสัมผัสที่ ดี เช่น ผ้าห่ม ขนแกะ จะช่วยพัฒนาการเคลื่อนไหวของลูกแมว กลับไปหน้าตัวเลือก วิธีการเลี้ยงแมวอย่างถูกต้อง
  • 14. • การป้ องกันโรค • ลูก แมวอาจติดโรคได้ง่าย เช่น โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ถ้าหากไม่ได้ รับน้านมเหลืองจากแม่ นมน้าเหลือง 24 ชั่งโมงแรกหลังคลอดจะมี แอนติบอดีมากมาย ซึ่งแอนติบอดีจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ลูกแมวที่ไม่ได้ กินนมน้าเหลืองจะมีภูมิคุ้มกันโรคน้อย และควรฉีดวัคซีนให้ลูกแมวด้วย ลูกแมวอาจได้รับอันตรายจากพยาธิ จึงควรถ่ายพยาธิให้ลูกแมว เริ่ม เมื่อลูกแมวอายุ 6 สัปดาห์ และถ่ายซ้าอีกครั้งเมื่ออายุ 8 และ 10สัปดาห์ กลับไปหน้าตัวเลือก วิธีการเลี้ยงแมวอย่างถูกต้อง
  • 15. • การบารุงและทาให้เข้ากับสังคม • ควรลูบขน กอด และให้ลูกแมวเล่นกับคนประมาณ 30-40 นาทีต่อวัน นอกเหนือจากการให้อาหารและทาความสะอาดให้มัน ลูกแมวต้องการ การกระตุ้น ควรปูรองพื้นกล่องที่ลูกแมวนอนด้วยวัสดุอ่อนนุ่ม ลูกแมว จะอบอุ่นและหลับสบาย สิ่งสาคัญคือทาให้เหมือนลูกแมวเป็นสมาชิก ในบ้านในช่วง 3-6 สัปดาห์ จาไว้ว่ามันยังเด็ก ต้องจับอย่างทะนุถนอม แต่ต้องเริ่มฝึกลูกแมวให้คุ้นเคยกับเสียง การขับถ่าย คนแปลกหน้า และ สัตว์เลี้ยงอื่นๆ กลับไปหน้าตัวเลือก วิธีการเลี้ยงแมวอย่างถูกต้อง
  • 16. ลักษณะนิสัย กลับไปหน้าตัวเลือก • โดยธรรมชาติแล้วแมวเป็นสัตว์ที่รักอิสระ ชอบทาอะไรตามใจตนเอง และมักคิด เสมอว่าตัวเองอยู่เหนือมนุษย์ เป็นนายเรา เป็นเจ้าของเรามากกว่าที่เราจะเป็นเจ้าของมัน แมวจะรักตอบคนที่รักมันเท่านั้น ใครที่ทาเย่อหยิ่งกับมันก่อน อย่าได้หวังว่ามันจะง้อ แม้ว่ามันอาจจะหยิ่งซักหน่อย ไม่ติดเจ้าของเหมือนสุนัข ไม่ คอยมานั่งเฝ้ าคุณอยู่ตลอดเวลา แถมยังไม่ค่อยเชื่อฟังอีก แต่ถ้าคุณทาให้มันรักคุณได้แล้ว เรียนรู้วิธีที่จะจัดการกับมันได้อย่างถูกต้อง เจ้า เหมียวตัวนั้นจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าเอ็นดูเลยแหละ
  • 17. แมวพันธุ์ Ragdoll • ถิ่นกาเนิด จากประเทศอเมริกา (America) • ลักษณะ เป็นแมวที่มีโครงร่างขนาดใหญ่ ร่างกายแข็งแรง มีตาสีฟ้ าสวยงาม มองแล้ว เคลิ้มเชียว ขนจะหนาแน่นเป็นปุยมากในบริเวณเอว ที่หางมีขนยาวชัน ถ้าสังเกตุที่ บริเวณอุ้งเท้าไปจนถึงช่วงขาของมันจะเป็นสีขาวจนดูเหมือนกับสวมถุงเท้าตลอดเวลา • อุปนิสัย เป็นแมวผู้ดีชอบความเงียบสงบ มีเสียงร้องที่เบามาก และเวลาอุ้มจะมีนิสัย ที่เป็นเอกลักษณ์ของมันเลยก็คือจะเมื่อเวลาที่คนอุ้ม มันจะทิ้งตัวโตงเตงราวกับตุ๊กตา เศษผ้าราวกับไม่มีชีวิต ดูคล้ายอาการเมายา ขนาดนั้นเชียวดูกันเอาเองละกัน • การดูแล ด้วยความที่เป็นแมวขนยาวแล้วชอบเลียขนเพื่อทาความสะอาด ทาให้แมว พันธุ์นี้มักป่วยจากการเกิด Hairball (ขนที่จับตัวเป็นก้อนกลมในกระเพาะ อันเกิด จากการเลีย) ในท้องสูง เจ้าของที่เลี้ยง แมว Ragdoll ควรใส่ใจในการแปรงขนให้มัน และหมั่นสังเกตอาการต่าง ๆ หากพบอาการผิดปกติ ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 18. แมวพันธุ์ Maine Coon • แมวเมนคูน (Maine Coon) เป็นแมวลูกผสมที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ในสหรัฐอเมริกา เชื่อกันว่าเกิดจากแมวที่ผสมพันธุ์กันในอเมริกา มี การ บันทึกกันไว้ว่า พระนางมารี อังตัวเน็ต พระราชินีของ พระราชาฝรั่งเศส ได้ส่ง ทั้งของและเจ้าพวกสัตว์เลี้ยง เช่น แมวเมนคูน ของพระนางไปก่อนล่วงหน้า ก่อน ตอนที่พระนางเตรียมหนี จากพวกปฏิวัติในฝรั่งเศส เข้ามหาสมุทร แอตแลนติกไปอเมริกา ต้นชื่อที่ เรียกว่า เมน นั้น เพราะแม่พันธุ์นี้ได้พบกัน ครั้งแรกตอนที่มันมาขึ้นฝั่ง ที่รัฐ ริมมหาสมุทรแอตแลนติก ด้านอเมริกาเหนือ คือ รัฐเมน ส่วนชื่อ คูน ท่อนหลังนั้นน่า จะมาจากพวงหาง ของเจ้าแมวพันธุ์ ที่ว่าที่มีหางเป็นพวงเหมือนตัวแรคคูนที่มีอยู่ใน ทวีปอเมริกา เจ้าแมวเมนคูน เป็นแมวที่ได้จากการผสมของตัวแรคคูน กับแมวบ้าน จึงมีชื่อว่า" Maine Coon " ซึ่งมาจากชื่อเมือง Maine กับคาว่า Raccoon กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 19. • ลักษณะโดยทั่วไป เป็นแมวที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ตายาวติดกับบริเวณช่องจมูก จมูกเล็ก ช่วงขาแข็งแรง เท้ากลมมน ขนยาวและมีน้าหนัก ลักษณะขนที่มีน้ามันในตัวจึงไม่ค่อยเปียกน้า ปลายหางขนหยาบ ขึ้นหนาแน่น แต่ขนไม่ยาวนัก บริเวณรอบลาคอถึงโคนใบหูขน มักพันเป็นกระจุก สีต้นตระกูลของแมวนี้ได้แก่ สีขาว สีดา สีเงิน สีเหลือง ลูก นัยน์ตาเป็นรูปไข่ลาดเอียง และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกสภาพอากาศ เมื่อ อากาศหนาวเย็นจะมีขนที่หนาขึ้น และเมื่ออากาศร้อนขนจะบางลง ลักษณะประจาพันธุ์ หัวมีขนาดใหญ่สมส่วน โหนกแก้มสูง รูปหน้ายาวปานกลาง ดูเป็นทรงเหลี่ยม ใบหู ตั้งชี้เรียวแหลม มีขนที่ปลายหูเหมือนแมวป่า ดวงตากลมโต สีเขียว ทอง ทองแดง พบตาสีฟ้ าบ้างในเหมียวที่มีขนสีขาว ขนเป็นประเภทขนกึ่งยาว มีขนปกคลุมหนา แต่ไม่พันกันยุ่งขนส่วนหัว คอและไหล่จะไม่ยาวมาก จะไล่ความยาวจากส่วนหลัง ส่วนท้องไปจนถึงสีข้างและหาง ตัวผู้จะมีขนคอที่หนากว่าตัวเมีย ขาแข็งแรง ความ ยาวได้สัดส่วนกับลาตัว อุ้งเท้าใหญ่ เท้าหน้าจะมีนิ้วข้างละ 5 นิ้ว ส่วนเท้าหลังมี ข้างละ 4 นิ้ว กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 20. แมวพันธุ์ Exotic เกิดจากการนาแมวเปอร์เซียมาผสมกับแมว อเมริกันขนสั้น แมวเอ็กโซติค ช็อตแฮร์เป็น แมวขนาดกลาง-ใหญ่ ลักษณะคล้ายกับ แมวเปอร์เซีย เพียงแต่ขนสั้นกว่า ตัวป้ อมขา สั้น จมูกสั้น หัวกลม มีหลากหลายสีสัน เป็น แมวที่รักสงบ ใจดี จริง ๆ แล้วแมวเอ็กโซติค นี้มีทั้งพันธุ์ขนสั้นและขนยาวครับ (แต่ในรูป เป็นพันธุ์ชนสั้น) เรียกชื่อภาษาอังกฤษก็ exotic shorthair กับ exotic longhair ครับ พันธุ์ขนยาวก็ต่างจาก พันธุ์ขนสั้นแค่ขนมันยาวเท่านั้นเอง กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 21. แมวพันธุ์ Cornish Rex แมวพันธุ์นี้มีถิ่นกาเนิดที่เมือง คอร์วอลล์ (Corwall) ประเทศอังกฤษเมื่อประมาณ ปีค.ศ. 1950 เกิดจากการผสมพันธุ์ในหมู่ แมวพันธุ์เร็กซ์ด้วยกัน แมวคอร์นิช เร็กซ์ เป็น แมวขี้เล่น ขี้ประจบ เป็นแมวขนาดเล็ก-กลาง หัวยาวแคบหน้าผากกลมเล็กน้อย จมูกยาว ใบหูใหญ่ปลายมน นัยน์ตาสีทองแดงหรือ น้าตาลแดงรูปไข่ ลาตัวผอมบาง ขาและหาง ยาว เท้าเล็ก มีหลายสี ขนหยิกเป็นคลื่นและ สั้นมากกว่าแมวเดวอน เร็กซ์ ดังนั้นจึงอาจดู เหมือนว่า คอร์นิช เร็กซ์ ขนหยิกน้อยกว่า เด วอน เร็กซ์ กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 22. แมวพันธุ์ Bengal ถูกตั้งฉายาว่า ลูกเสือดาวที่เกิดมาเชื่อง ซึ่งก็น่าจะมี ที่มาของต้นตระกูล อันเกิดจากการผสมพันธุ์กันของ แมวป่า และแมวบ้าน แมวเบงกอลเป็นแมวที่มีความ ฉลาดมาก น่ารัก และคล่องแคล่วปราดเปรียว มีนิสัย ชอบวิ่งไล่สิ่งของ หรือวัตถุ ชอบปีนป่าย และชอบเล่น น้า ชอบไล่จับหนู หากไม่มีอะไรให้เล่นก็จะของเล่น ด้วยตัวเอง มีเสียงร้องที่ฟังแล้วเหมือนแมวป่า ค่อนข้างมาก กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 23. • ลักษณะประจาพันธุ์ ขนาดปานกลางค่อนข้างใหญ่ หัวมีความยาวมากกว่ากว้าง เนื่องเพราะถูก ผสมโดยควบคุมลักษณะให้มีรูปร่างคล้ายแมวป่า เพรียว ยาว เห็นมัด กล้ามเนื้อแบบนักล่าชัดเจน โฑดยที่มักจะมีความสูงส่วนสะโพกสูงกว่าความ สูงของช่วงไหล่ หาวส่วนมากจะมีปลายชี้ลง ใบหูกลม สั้น ตารูปไข่ (oval) ช่วงโคนหนวดเด่น ช่วงปากและรอบจมูกกลมกว่าแมวบ้าน จุดที่เด่นที่สุดของ แมวเบงกอลได้แก่ลายแลีสีขนที่อาจเป็นจุดแบบแมวป่า หรือลายหินอ่อน ถิ่นกาเนิด มาจากผู้หญิงชาวมลรัฐอริโซนา ประเทศอเมริกาที่หลงใหลในลวดลายของ แมวป่า และนิสัยอันน่ารักของแมวบ้าน จึงทาการผสมพันธุ์ในราวปี ค.ศ. 1980 โดยใช้แม่แมวลูกผสมระหว่างแมวป่า (Asian Leopard Cat) จานวน 8 ตัวมาทาการผสมและคัดเลือกพันธุ์ เธอตั้งชื่อสายพันธุ์นี้ว่า เบง กอล ตามชื่อวิทยาศาสตร์ของแมวป่าที่เรียกกันว่า Felis bengolensis นั่นเอง กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 24. แมวพันธุ์ Korat แมวพันธุ์นี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ คือ แมวโคราช แมวมาเลศ หรือแมวดอกเลา แมวโคราชเป็นแมวที่พบ ที่อาเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา หรือเรารู้จักกันในนามว่าโคราช มีหลักฐานบันทึกเกี่ยวกับแมวโคราชใน สมุดข่อย (Smud Khoi of Cats) ที่เขียนขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1350-1767 หรือประมาณ พ.ศ. 1893-2310 ในบันทึกได้กล่าวถึงแมวที่ให้โชคลาภที่ดี 17 ตัวของประเทศไทย รวมถึงแมวโคราชด้วย ปัจจุบันสมุดข่อยนี้ถูกเก็บไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ชื่อแมวโคราช เป็นชื่อที่ได้รับ พระราชทานจากสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 5 โดยใช้แหล่งกาเนิดของแมวเป็นชื่อเรียกพันธุ์แมว มีเรื่องเล่า มากมายหรือเป็นตานานเล่าขานเกี่ยวกับแมวโคราช รวมถึงตานานพื้นบ้านที่กล่าวถึงการที่แมวโคราชมี หางหงิกงอ (kinks) มากเท่าไหร่จะมีโชคลาภมากเท่านั้น (แม้ว่าลักษณะหางหงิกงอไม่ใช่มาตรฐานพันธุ์ ตากหลักของ CFA ก็ตาม) แต่คนไทยจะเรียกแมวโคราชอีกชื่อว่า แมวสีสวาด (Si-Sawat cat (see- sa-what) กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 25. • ลักษณะสีขน ขนสั้น สีสวาด (silver blue) ทั่วทั้งตัวและเป็นสีสวาดตั้งแต่เกิดจนตาย • ลักษณะของส่วนหัว หัวเมื่อดูจากด้านหน้าจะเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ในแมวตัวผู้ หน้าผากมีรอยหยักทาให้เป็นรูปหัวใจเด่นชัดมากขึ้น หูใหญ่ตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่ ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปากสีเงิน หรือม่วงอ่อน • ลักษณะของนัยน์ตา นัยน์ตาสีเขียวสดใสเป็นประกาย หรือสีเหลืองอาพัน ขณะยังเป็นลูกแมวตาจะเป็นสี ฟ้ า เมื่อโตขึ้นจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด และเมื่อเติบโตเต็มที่ตาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ใบไม้ หรือสีเหลืองอาพัน • ลักษณะของหาง หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลาตัว • ลักษณะที่เป็นข้อด้อยของพันธุ์ ขนยาวเกินไป มีสีอืนปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป (เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 26. แมวพันธุ์ Sokoke แมวโซโคกี้( Sokoke ) เป็นแมวที่มีเชื้อสายขางแมวป่าแอฟริกา แต่ไม่มีหลักฐาน แน่ชัดว่า ได้ถูกนามาเลี้ยงเหมือนแมวบ้านทั่วไปตั้งแต่เมื่อใด ลายของแมวพันธุ์นี้มอง เผินๆก็คล้ายกับแมวเบงกอล คือมีลักษณะเป็น แทบบี้ลายจุด บนพื้นสีน้าตาล ( มี ตั้งแต่สีน้าตาลอ่อน ไปจนถึงน้าตาลเข้ม ) แม้ว่าจะมีการเพาะเลี้ยงมานานแล้ว แต่มัน ก็เพิ่งได้รับการรับรองจากสถาบัน FIFe เมื่อปี 1993 นี่เอง ปัจจุบันแมวชนิดนี้เป็น แมวที่หายาก และมีจานวนน้อยมาก ลักษณะโดยทั่วไป เป็นมีขนาดกลาง ลาตัวบอบบาง แต่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ หัวค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบ กับลาตัว ใบหูขนาดกลาง ดวงตาเป็นรูปเมล็ดอัลม่อน ขนสั้นแนบสนิทกับลาตัว ขา ยาว เหมือนแมวป่า กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 27. แมวพันธุ์ Sphynx • สฟิงซ์ (Sphynx) เป็นแมวขนาดเล็ก เชื้อสายดั้งเดิมยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ว่ามีต้นกาเนิด จากแถบ อียิปต์ หรือฮาวายกันแน่ แมวไม่มีขนตัวแรกปรากฏ ที่แคนาดาในพ.ศ. 2509 ต่อมา จึงได้กลายเป็นแมวพันธุ์หนึ่ง โดยใช้แมวขนสั้นของอเมริกามาผสม สมาคมผู้เลี้ยงแมวส่วน ใหญ่ไม่ยอมรับแมวพันธุ์นี้แต่ที่แน่ ๆ หลายคนมองว่า เพราะไม่มีขนมันจึงเป็น แมวที่น่า เกลียดที่สุดในโลก แต่ถ้าหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีอยู่บาง ๆ อย่างชัดเจนที่ปลายลาตัวทั้ง สองข้าง นับว่าเหมาะอย่างยิ่ง สาหรับกลุ่มผู้เป็นโรคแพ้ขนสัตว์ จะรับไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา ด้วยธรรมชาติของมันที่มีขนอันน้อยนิด สฟิงซ์ จึงไม่ชอบอากาศเย็นจัด นอกจากนี้สฟิงซ์ ยัง ต้องการอาหารประเภทโปรตีนมากกว่าแมวสายพันธุ์อื่น ๆ • ลักษณะโดยทั่วไป หัวมีทรงคล้ายลิ่ม หูเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายมนกลม ตาสีอาพัน ลาตัวยาว ขายาวปานกลาง ผิวหนัง สีน้าตาลขาว หรือดาขาว ขนเส้นเล็กสั้น พื้นท้องแถบขาวยาวตั้งแต่ปากตลอดทั้ง ลาตัว หาง ยาวปลายเรียว นิสัย ขี้ประจบ รักเจ้าของ หากเวลาที่มันต้องการสิ่งใด หรือเพื่อ เรียกร้องความสนใจจะส่งเสียงร้องแผ่วเบา ขาดหายเป็นจังหวะ กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 28. แมวพันธุ์ Egyptian Mau • แมวอียิปเตียน โม ( Egyptian Mau ) เป็นแมวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ประวัติของ มันไม่แน่ชัดว่ามีความเป็นมาอย่างไร เชื่อว่าเป็นแมวที่มีถิ่นกาเนิดอยู่ที่ ประเทศอียิป เพราะคาว่า โม (Mau) คือภาษาอียิปต์โบราณที่หมายถึงแมวนั่นเอง มีบันทึกว่าในปี ค.ศ. 1950 แมวพันธุ์นี้ได้ ถูกนาเข้าจากกรุง Cairo ประเทศอียิปต์ มาที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยได้มีหลักฐานว่า เจ้า หญิงรัสเซียได้เลี้ยงแมว Egyptian Mau สีเงินเพศเมียและได้ผสมพันธุ์กับแมวของทูต จนให้ กาเนิดลูกแมวมา 3 ตัว จนได้นาลูกแมวทั้ง 3 นี้ไปอเมริกาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1956 และได้รับการ ผสมและปรับปรุงสายพันธุ์ใหม่จากนักผสมพันธุ์ชาวอเมริกา จนกระทั่งเป็นที่นิยม จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1980 ได้มีการนาเข้าแมวพันธุ์นี้มาจากอินเดียและอียิปต์อีกด้วย โดยลักษณะโดดเด่นก็คือ ลายจุดบนตัวนั่นเอง มีสีอยู่ 3 สี คือ สีน้าตาลแดง เงิน และสีควันบุหรี่ • ลักษณะโดยทั่วไป เป็นแมวขนสั้นแท๊บบี้(ลายเสือ)แบบมีจุด ลาตัวค่อนข้างใหญ่ ใบหน้ามีความยาวปานกลาง ใบหู หใญ่กว้าง ดวงตาสีเขียว หรือสีเหลืองอาพัน ขาค่อนข้างยาว และขาหลังยาวกว่าขาหน้าล็กน้อย มี ลายจุดขนาดเท่าๆกันกระจายอยู่ทั่วทั้งลาตัว โดยที่ขา และหาง จะมีลายขีดๆเป็นเส้น บริเวณ หน้าผากมีลายเหมือนอักษรตัว "M" กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 29. แมวพันธุ์ Nebelung • แมวเนบีลัง ( Nebelung ) เป็นแมวที่มีรูปร่างลักษณะหน้าตา คล้ายๆกับแมว Russian Blue ซึ่งได้รับการยอมรับ และขึ้นทะเบียนจากสถาบันแมวในอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1986 คาว่า Nebelung เป็นภาษาเยอรมัน ที่มีความหมายว่า เจ้า แห่งสายหมอก แมวชนิดนี้มีเพียงสีเดียวคือ สีเทา ที่ปลายขนออกเป็นสีเงินเงา นิสัย เรียบร้อย แต่ขี้อาย ไม่ค่อยเข้ากับคนแปลกหน้า และมีความจงรักภักดีต่อเจ้าของ เป็นอย่างมาก • ลักษณะโดยทั่วไป เป็นแมวขนกึ่งยาวที่มีขนาดเล็ก ถึงขนาดกลาง ลาตัวยาวบอบบาง หัวมีความยาวไม่ มาก จมูกยาวไม่มีจุดหักของจมูก ใบหูใหญ่ และตั้งอยู่ห่างกันอย่างได้สัดส่วน สวยงาม ดวงตาเป็นสีเขียวสดใส ลักษณะเป็นรูปเมล็ดอัลมอนท์ ขายาว อุ้งเท้าเล็ก หางยาว ขนนุ่มฟู และเงางามเหมือนสีหมอกจางๆ กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 30. แมวพันธุ์ Turkish Van • แมวเตอร์กิชแวน ( Turkish Van ) เป็นแมวที่มีต้นกาเนิดมานานหลายร้อยปีแล้ว โดยถิ่นกาเนิดอยู่ที่แถบทะเลสาบแวน ในตุรกี ซึ่งเป็นเจ้าเหมียวชนิดเดียว ที่ไม่กลัวน้า แถมยังชอบว่ายน้าอีกด้วย จนได้ฉายาว่า "Swimming Cat" และมันได้รับการ รับรองจากสถาบัน GCCF เมื่อปี ค.ศ. 1969 ปัจจุบันมีหลากหลายเฉดสี และหลายลาย แต่สีที่คลาสสิคมากๆคือ สีน้าตาลแดง หรือ น้าตาล ครีมๆ อุปนิสัยร่าเริง มีความเป็นมิตร ชอบหมกตัวอยู่กับเจ้าของ ไม่ก็แอบซุกอยู่ในที่เงียบๆ มีพละกาลังในการเล่นสูง และชอบ ว่ายน้าเป็นชีวิตจิตใจ • ลักษณะโดยทั่วไป เป็นแมวขนกึ่งยาวที่สามารถปรับสภาพได้ตามภูมิอากาศ ลาตัวยาว และใหญ่มาก หัว ค่อนข้างกว้าง ใบหูขนาดกลางถึงใหญ่ ตั้งตรงสูง ไม่ห่างกันมากนัก ดวงตาโต สีเหลือง อาพัน หรือสีฟ้ า หรือบางครั้งมีท้ง2สี ( Odd Eyes ) ลายของขนตลอดลาตัวจะเป็นสี ขาว มีสีอื่นได้เฉพาะที่หัวและหาง ไม่ควรมีแต้มตามลาตัวเกิน 2 ที่ กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 31. แมวพันธุ์ Bombay • บอมเบย์ Bombay เกิดจากนาแมวพม่าสี น้าตาลเข้มผสมพันธุ์กับแมวอเมริกันขนสั้นสี ดา ผลก็คือ ได้ลูกแมวสีดาขลับ • สี : ดาขลับ รูปร่างและขนาด : เป็นแมวขนาดกลางมี กล้ามเนื้อชัดเจน หัวโตหน้าผากกลมกว้าง หู กลมและเอียงไปทางข้างหน้า มีจมูกสั้นสีดา คางเห็นชัดเจน ตากลมโตสีตาเป็นสีทอง ขา ยาวปานกลางเท้าเล็กรูปไข่ ลักษณะนิสัย : อ่อนโยนไม่ก้าวร้าวสามารถ ปรับตัวเข้ากับแมวตัวอื่นๆได้ดีและชอบอยู่กับ มนุษย์ไม่ปลีกตัวไปไกล กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 32. แมวพันธุ์ Siberian • Siberian Blue และ Siberian Red Spotted S iberian เป็นแมวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาก โดยได้มีการกล่าวถึงแมวพันธุ์นี้ไว้ใน หนังสือของ Harrison Wier ที่ชื่อว่า Our Cats and all About ที่ได้กล่าวถึง ประวัติเกี่ยวกับแมวในอังกฤษตั้งแต่ปี ค.ศ. 1871 Siberian เป็นแมวที่มีถิ่นกาเนิดอยู่ใน ประเทศรัสเซีย และได้ปรากฏตัวอยู่ในวรรณกรรมของรัสเซียหลายเรื่อง มีการนาเข้าแมว พันธุ์นี้เข้ามาในอเมริกาเมื่อปี ค.ศ. 1990 และจนถึงปัจจุบัน Siberian ก็ยังเป็นแมวสาย พันธุ์ที่มีราคาแพงและหายาก • Siberian เป็นแมวแบบขนกึ่งสั้นกึ่งยาว จะมีขนหนายาวในช่วงฤดูหนาว และขนจะสั้นลง ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สามารถมีได้หลากหลายสี เพราะว่ามีราคาแพงมากนั่นเอง Siberian ได้รับการขึ้นทะเบียนกับ CFA เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2000 นี้เอง • Siberian เป็นแมวที่มีลักษณะนิสัยดี เหมาะสมแก่การเป็นแมวเลี้ยง แม้จะมีลักษณะ คล้ายแมวป่าก็ตาม ลักษณะนิสัยคล้ายคลึงสุนัข คือจงรักภักดีและเป็นมิตร กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 33. แมวพันธุ์ La Perm • แมวลาเปิร์ม ( La Perm ) เป็นแมวอีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของ แมวธรรมดาทั่วไป พบได้ทุกเฉดสี และทุกลาย มีทั้งชนิดขนสั้น และขนยาว แต่ ลักษณะที่ทาให้มันต่างจากแมวทั่วไปก็คือ ขนที่นุ่มฟู และหยิก แมวชนิดนี้เมื่อตอน แรกเกิด ขนจะเป็นเส้นตรงเหมือนแมวทั่วไป หรือบางทีอาจไม่มีขนเลยก็ได้ หลังจาก นั้นประมาณ 2-3 สัปดาห์ ขนของมัน จะเริ่มเปลี่ยนเป็นขนหยิกๆ เป็นที่ต้องตาต้องใจ ในหมู่คนรักแมวอย่างมาก เนื่องจากความน่ารักของมัน ประกอบกับนิสัยที่มัน ชอบ อยู่กับบ้าน ติดเจ้าของ และการเลี้ยงดู หรือการทาความสะอาดขนของมัน ไม่ยุ่งยาก เหมือนพวกแมวขนยาวชนิดอื่นๆ • ลักษณะโดยทั่วไป เป็นแมวที่มีลาตัวขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดกลาง ใบหน้ายาว ใบหูตั้งตรงสูง ส่วนอื่นๆ ก็เหมือนแมวทั่วๆไป แต่ที่สาคัญ ขนต้องหยิก และนุ่ม กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 34. แมวพันธุ์ Snowshoe • แมวสโนว์ชู ( Snowshoe ) เป็นแมวขนสั้นที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ ระหว่างแมว ไทย กับแมวอเมริกัน ช็อตแฮร์ ( American Shorthair ) หรือ แมวในตระกูลโอ เรียลทัล ( Oriental ) โดยเริ่มมีต้นกาเนิดของแมวชนิดนี้ราวๆปี ค.ศ. 1960 เมื่อนักผสม พัธุ์แมวที่เลี้ยงแมวไทยเพศเมียไว้ จนแมวของธอให้กาเนิดลูกๆที่มีลักษณะเหมือนแมวไทย ทุกประการ แต่ที่อุ้งท้าทั้งสี่ของมันกลับมีสีขาว ซึ่งเป็นจุดเด่นของเเมวชนิดนี้และทาให้มัน ถูกเรียกว่า "Snowshoe" ที่มีความหมายว่่ารองเท้าหิมะ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาในปัจจุบัน แมวชนิดนี้ได้รับการผสมข้ามสายพันธุ์ จนมีแทบทุกเฉดสี และหลากหลายลวดลาย แต่ จุดเด่นที่สาคัญที่สุดคือ บริเวณอุ้งเท้าทั้งสี่ จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น • ลักษณะโดยทั่วไป เป็นแมวขนาดกลางที่มีรูปร่างค่อนข้างเหมือนแมวไทย และก็มีส่วนคล้ายแมวโอเรียนทัลอยู่ ด้วย แต่ลาตัวจะกลมกว่า ส่วนหัวกว้าง และยาวไม่มาก ใบหูขนาดกลางปลายหูกลมมน ดวงตารูปไข่ ส่วนใหญ่เป็นสีฟ้ า มีขนสั้นเหมือนแมวไทย และ ที่สาคัญที่สุดคือ บริเวณอุ้งเท้า ทั้งสี่ จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 35. แมวพันธุ์ Siamese • แมววิเชียรมาศ ตรงกับความหมายว่า "เพชรแห่งดวงจันทร์" หรือ "Moon Diamond" บางตาราก็เรียก "แมวแก้ว" ซึ่งก็ตรงกับคาว่า "วิเชียร" แมวชนิดนี้มัก ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแมวเก้าแต้มเสมอ ที่จริงแล้วไม่ถูกต้อง แมวเก้าแต้มคือแมวที่มีสี พื้นสีขาว และมีแต้มบนร่างกาย 9 แห่ง เหตุที่มักเข้าใจผิดเพราะแมววิเชียรมาศ จะมี สีพื้นสีขาวงาช้าง (หรือโบราณจะเป็นขาวล้วนก็ไม่ทราบ) และมีแต้มที่จมูกครอบไปถึง ปากเป็นหนึ่งแห่ง กับขาทั้งสี่ หูสอง หางหนึ่ง และที่อวัยวะเพศอีกหนึ่ง รวมเป็น 9 แห่งเช่นกันในแมววิเชียรมาศนี้แต้มตามตาราว่าไว้ว่าต้องเป็นสีดาดังหมึกวาด แต่ ปัจจุบันเมื่อดูให้ดีแล้วจะเป็นแต้มสีน้าตาลเข้มเกือบดา ไม่ได้ดาสนิท หรือที่ ต่างประเทศเรียกว่า Seal brown หรือแต้มสีครั่ง แมววิเชียรมาศเป็นที่รู้จักใน ต่างประเทศโดยใช้ชื่อว่า แมวสยาม (Siamese Cat) แต่ต่างประเทศจะมีแต้มสี อื่นที่หลากหลายกว่า ซึ่งในบ้านเราจะยอมรับเฉพาะแมวที่มีแต้มสีน้าตาลเข้มเท่านั้น นัยน์ตาสีฟ้ าก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของแมวชนิดนี้ กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 36. • ลักษณะโดยทั่วไป ขนสั้นแน่นสีขาว หรือสีน้าตาลอ่อน มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้าตาลไหม้ที่ บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ (ทั้งแมวเพศ ผู้และแมวเพศเมีย) รวม 9 แห่ง ขณะที่อายุยังน้อย หรือเป็นลูกแมว สีขน จะออกสีครีมอ่อนๆ หรือขาวนวล พอโตขึ้นสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นตามลาดับ จนเป็นสีน้าตาล (สีลูกกวาด) รูปหัวไม่กลม หรือแหลมเกินไป หน้าผาก ใหญ่และแบน จมูกสั้น หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว ตาสีฟ้ า หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลาย หาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลาตัว กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 37. แมวพันธุ์ Russian Blue • Russian Blue แมวรัสเซี่ยนบลู หรือ แมวรัสเซียสีฟ้ า แมวรัสเซี่ยนบลู หรือ แมวรัสเซียสีฟ้ า (Russian Blue) เป็นแมวน่ารัก สุภาพ เรียบร้อย เงียบ รักสะอาด ขี้เล่น ทว่าขี้อายเล็กน้อย ฉลาดหลักแหลม เช่น สามารถ เปิดประตูบ้านได้ด้วยตนเอง เข้ากันได้ดีกับเด็กๆ และสัตว์อื่นๆ อีกทั้งยังมีลักษณะเด่น ที่ไม่เหมือนใคร ขนของมันสั้นและหนาแน่น ขนสีฟ้ าซึ่งก็คือสีเทาอ่อนเป็นลักษณะเด่น ที่แมวพันธุ์นี้มี และยังมีเพียงสีนี้สีเดียวเท่านั้น แต่ด้วยความที่ รัสเซียน บลู เป็นแมวที่ มีขนสองชั้น ดูเผิน ๆ คล้ายขนของตัวบีเวอร์ ในระยะแรกจึงเป็นที่รู้จักกันในฐานะแมว ทูต หรือ Foreign Blue • ว่ากันว่า ถิ่นกาเนิดเดิมของ แมวรัสเซียน บลู อยู่ทางตอนเหนือของประเทศรัสเซีย โดย แมวรัสเซี่ยน บลู ตัวแรกที่ถูกนามาอังกฤษ เป็นของที่พระเจ้าซาร์องค์หนึ่งประทาน ให้แก่นักการเมืองชาวอังกฤษ ขณะที่บางตานานกล่าวว่า ชาวกลาสีเรือรัสเซียเอาแมว ชนิดนี้มาแลกกับขาแกะขาหนึ่งกับเจ้าของอู่เรือในปี ค.ศ. 1860 จนกระทั่งได้กลายเป็น แมวชั้นสูง และเป็นแมวที่นิยมชมชอบมากของราชินี Victoria อย่างไรก็ดี ไม่มีผู้ใด ล่วงรู้ถึงต้นกาเนิดของแมวพันธุ์ Russian Blue อย่างแน่ชัดนัก กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 38. • ตามหลักฐานอ้างอิงระบุว่า แมวพันธุ์นี้ปรากฎตัวสู่งานประกวดแมวเป็นครั้งแรกที่เมือง Crystal Palace ประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1875 ในฐานะแมวทูต ในตอนแรก Russian Blue ได้ถูกจัดอยู่ในประเภทแมวสี Blue จนยังไม่ทันถึงปี ค.ศ. 1912 Russian Blue ก็ได้รับการรับรองสายพันธุ์ด้วยตัวของมันเอง จนกระทั่งหลัง สงครามโลกครั้งที่สอง นักผสมพันธุ์ชาวอังกฤษและสแกนดิเนเวียได้ทาการปรับปรุงสาย พันธุ์ของ Russian Blue ให้ดียิ่งขึ้น • ต่อมา แมวพันธุ์นี้ถูกนาเข้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นปี ค.ศ. 1900 แต่ได้มีการ พัฒนาสายพันธุ์น้อยมาก จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่สอง นักผสมพันธุ์ชาวอเมริกาได้ ทาการผสมแมวอังกฤษกับแมวสีเงินที่มีตาสีเขียว จนกลายเป็น Russian Blue อย่างที่ เราเห็นกันในปัจจุบัน จนกระทั่งปี ค.ศ. 1960 แมวพันธุ์นี้ก็เริ่มได้รับความนิยมอย่างมากทั้ง ในฐานะแมวบ้านและแมวประกวด • สาหรับลักษณะประจาสายพันธุ์ แมวรัสเซียน บลู นั้น เป็นแมวตัวใหญ่ ดวงตากลมโตรูป กลม (Round) สีเขียวสุกใส ศีรษะแบนกว้างคล้ายงู รูปร่างป้ อมกลม ล่าสัน หูได้รูปกับ ศีรษะ ลาตัวยาวเรียว ขนสั้นอ่อนนุ่มสีเทาเงินล้วนเป็นเงางามอ่อนนุ่มทั่วตัว ปราศจากรอย ด่างพร้อย ลักษณะศีรษะเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมตั้งขึ้น ขนขึ้นปกคลุมบริเวณคอมีความอ่อน นุ่มลักษณะคล้ายเส้นไหม และลาตัวค่อนข้างยาว กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 39. แมวพันธุ์ Japanese Bobtail • Japanese Bobtail (แมวหางกุดญี่ปุ่น) แมวเจแปนนีส บ๊อบเทล หรือแมวหางกุดญี่ปุ่น (Japanese Bobtail) เป็นแมวที่น่ารัก เป็นมิตร มีเสน่ห์ และร่าเริงที่สุดพันธุ์ หนึ่ง ชอบเล่น ชอบคาบของไว้ในปากเดินไปมา รวมทั้งชอบตะกุย น้าเล่น มีเสียงร้องสดใสนุ่มนวล • ลักษณะประจาพันธุ์ของแมวหางกุดญี่ปุ่นเป็นแมวขนาดกลาง มี มัดกล้ามเนื้อให้เห็น ขายาวเรียว มักพบว่าขาหลังยาวกว่าขาหน้า ส่วนหางที่สั้นกุดเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมหรือมิว เตชั่น มีขนหนาขึ้นปกคลุมเป็นแพสวยงามเหมือนหางกระต่าย ซึ่ง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้วมีความยาว ราว 1-3 นิ้ว หัวเป็นรูปสามเหลี่ยม กระดูกแก้มเป็นสันนูน จมูกยาว ตารูปไข่สีเหลือง ไม่ค่อยพบตาสีฟ้ า มีทั้งขนยาวและขนสั้น สีขนที่ ฮิตที่สุดคือสามสี (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่ามิ-เกะ) กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 40. แมวหางกุดญี่ปุ่นเป็นแมวรักษาการณ์ของไฮโซญี่ปุ่นมาหลาย ศตวรรษ ในปี 1602 มีคาสั่งจากทางการให้ผู้ครอบครองนาแมวของ ตัวเองไปปล่อยในพื้นที่ชนบทเพื่อทาสงครามปราบหนูที่เป็นศัตรูตัว ฉกาจต่ออุตสาหกรรมใหม่ที่กาลังรุ่งเรืองและทารายได้เข้าประเทศ อย่างมหาศาล นับจากนั้นมันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในตานานและ ประวัติศาสตร์ รวมทั้งศิลปะของญี่ปุ่น โดยสื่อความหมายถึงการนา ความโชคดีมีชัย ต่อมานักเพาะพันธุ์แมวชาวอเมริกันนาเจ้าหางกุด มาจากญี่ปุ่นในราวปี 1968 จากนั้นอีก 10 ปีก็ได้รับการประกาศ เป็นพันธุ์มาตรฐานและเป็นที่นิยม กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 41. แมวพันธุ์ Himalayan • Himalayan (หิมาลายัน) แมวหิมาลายัน เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าแมว color point เป็นแมวเปอร์เซียที่ได้รับความนิยม มากอีกชนิดหนึ่ง แมวหิมาลายันเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวเปอร์เซียและ แมวไทยพันธุ์วิเชียรมาศ มีลักษณะรูปร่างหน้าตา และขนยาวเหมือนแมวเปอร์เซีย แต่มีแต้ม แบบแมววิเชียรมาศ (9 จุด ได้แก่ ครอบหน้า 1, หู 2, ขาทั้ง 4, หาง 1 และอวัยวะเพศ 1) แมวหิมาลายันได้รับการพัฒนาจนมีสายเลือดที่นิ่งจนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นแมวเปอร์เซียอีก สายพันธุ์หนึ่ง ทั้งนี้แมวหิมาลายัน ถูกผสมขึ้นครั้งแรกในแถบเทือกเขาหิมาลัย จึงได้ชื่อว่า แมวฮิมาลายัน แมวพันธุ์นี้จะมีลักษณะขนที่ปกคลุมร่างกายคล้ายละอองหิมะ มีนัยน์ตาสีฟ้ าหรือสีน้าเงิน หากดวงตาของแมหิมาลายันเป็นสีอื่นจะถือว่าผิดจากมาตรฐาน • ลักษณะทั่วไป แมวหิมาลายัน แมวหิมาลายัน มีลักษณะผิวแบบแมวไทยในอเมริกาเหนือ ลาตัวสั้นป้ อมและเตี้ย แข็งแรง ขาค่อนข้างเล็ก หูสั้น จมูกสั้น แก้มนูนเต็ม ลูกนัยน์ตากลมม่านในตาเปิด ลูกนัยน์ตาสีน้าเงิน หรือฟ้ าสุกใส ขนยาว บริเวณรอบเอวมีขนอ่อนนุ่ม รอบ ๆ คอและแก้มมีขนครุยห้อย บริเวณ หางขนขึ้นหนาทึบ ที่หูจะมีขนยาวเป็นกระจุกห้อยย้อยลงมาน่ารักเชียวหละ กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 42. ลักษณะนิสัย แมวหิมาลายัน แมวหิมาลายัน ส่วนใหญ่นั้นไม่ใช่พวกที่ไม่สามารถอยู่นิ่งได้ กล่าวคือ มัน ไม่ได้ขยับไปขยับมาตลอดเวลา แม้มันชอบที่จะเล่นและเป็นค่อนข้างจะ คล่องแคล่ว แต่มันก็มีเวลาของมัน แมวหิมาลายันชอบที่จะทาอะไรที่คุณ กาลังทาอยู่ คาที่จะอธิบายลักษณะของมันได้มากที่สุดคือ people oriented ก็คือมีแนวโน้มที่จะอยู่กับคน ช่วยเหลือคน ปฏิบัติตามคน นอกจากนี้แมวหิมาลายันมักจะพยายามที่จะช่วยเหลือคุณในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่คุณอ่านหนังสือพิมพ์ หรือจัดเตียง มันมักจะมีส่วนร่วม ในกิจกรรมต่าง ๆ ของคุณเสมอ และมันก็จะระบายความรู้สึกของมัน ออกมาทางเสียงที่ไพเราะเป็นเหมือนดนตรี สิ่งที่มันต้องการที่สุดก็คือแค่ การที่เราอุทิศแรงกายแรงใจในการเลี้ยงดู เอาใจใส่มันแค่นั้นเอง กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 43. การฝึกแมว • วิธีที่ 1 การเรียก เราจะเริ่มฝึกให้เจ้าแมวน้อยเข้ามาหาโดยการเรียกเพียงแค่สองพยางค์ เช่น มานี่(ชื่อแมว) เมื่อเขาเดินเข้ามาหาก็ให้รางวัล เช่น อาหารที่เขาชอบ หรือ การเกาคางให้ก็ได้ แต่ถ้าเขาไม่เดินเข้ามาหาให้เรียกซ้า และใช้มือเป็น สัญลักษณ์ ทาแบบนี้ซ้าหลายๆรอบ จนกว่าเขาจะเข้าใจและเข้ามาหา ที่ สาคัญที่สุดคือควรเรียกโดยเสียงที่จะทาให้มันสบายใจ โดยคุณจะต้องทา มันซ้าๆ ถ้าเกิดดูแล้วมันรู้สึกราคาญก็ควรหยุดการฝึกไว้ก่อนและต้องมั่นใจ ว่า อารมณ์ของแมว ณ ตอนนั้น อยู่ในสภาพที่ดี และไม่ควรฝึกที่มีเสียงดัง เพราะจะทาให้เขาสับสน ข้อสาคัญ ห้าม ! เรียกแมวไปทาสิ่งที่เขาไม่ชอบ เช่น การอาบน้า เพราะเขาจะอาจไม่ฟังตามคาสั่งเราอีก กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 44. การฝึกแมว • วิธีที่ 2 ฝึกให้อยู่ในลัง การฝึกนี้ถือว่าค่อนข้างง่าย เพราะแมวชอบอยู่ในที่มืดๆอยู่แล้ว โดยคุณสามารถใส่ผ้าห่มหรือของเล่นให้เขาได้ เมื่อเขาอยู่ในลัง ให้คุณชมเขาและให้รางวัล แต่เมื่อเขาออกมาแล้วห้ามชม เด็ดขาด เพราะเขาอาจคิดว่าสิ่งที่คุณต้องการคือให้เขาออกมา และจะทาให้แมวสับสนได้ ควรให้รางวัลทุกครั้งที่เขาเข้าไปในลัง และปล่อยให้อยู่นานขึ้น เพื่อให้รู้ว่านี่คือที่นอนของเขา กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 45. การฝึกแมว • วิธีที่ 3 การหมอบ ให้เราถือขนมเพื่อล่อแมวไว้ และก็เรียกชื่อแมวพร้อมกับออกคาสั่ง เช่น หมอบ ! และค่อยๆลดขนมมาให้เขาโดยปกติแล้วเขาจะย่อตัว ตามขนมมา และขยับขนมออกห่างจากตัวแมวเพื่อให้แมวอยู่ใน ท่าหมอบ เมื่อเขาทาตามควรให้รางวัลและคาชม ควรทาซ้าๆ เพื่อให้เขารู้ถึงคาสั่ง กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 46. การฝึกแมว • วิธีที่ 4 การคาบของ แมวบางตัวชอบที่จะคาบของ เราสามารถทดสอบว่าแมวตัว นั้นชอบคาบของหรือไม่ ควรลองโยนตุ๊กตาผ้าต่อหน้าเขาและ เลือกของที่เขาชอบเป็นพิเศษ รอจนกว่าเขาจะคาบมันไว้ และ เรียกให้เขามาหาพร้อมกับ เสนอขนมเพื่อแลกกับตุ๊กตาของ เขา และเล่นหลายๆครั้งเพื่อที่จะให้เขาเข้าใจประมาณว่า "ต้อง เอาตุ๊กตามาเพื่อที่จะได้ขนม" กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 47. การฝึกแมว • วิธีที่ 5 การฝึกแมวให้ขับถ่าย เตรียมกะบะทรายและวางไว้มุมที่ไกลที่นอน หรือที่กินอาหารของเขา โดยสิ่งแรกในการฝึก คือการให้อาหาร ควรให้อาหารเป็นเวลา เพราะลูก แมว จะใช้กะบะทราย หลังจากการตื่นนอน กินอาหาร และ ออกกาลัง กายแล้ว หลังกินอาหารควรเล่นกะน้องแมวซัก 10-20 นาที จากนั้นเรียก เขาไปยังที่กะบะทราย เมื่อน้องแมวไปถึงกะบะทราย ให้เอามือตะกุย ทรายเพื่อเรียกความสนใจของเขา ทาแบบนี้หลายๆครั้ง พยายามกระตุ้น ให้เขา ใช้กะบะทรายเอง และชมเขา ถึงแม้เขาจะไม่ได้เข้าไปขับถ่ายก็ ตาม การทาเช่นนี้จะทาให้เขาคิดว่าการเข้ากะบะทรายเป็นสิ่งที่ดี เพราะ น้องแมวบางตัวอาจจะไม่กล้าเข้า เนื่องจากกลัวโดนดุ อย่างไรก็ตาม เรา ควรทาให้น้องแมวนั้นรู้สึกสบายใจ และไว้วางใจในกระบะทราย เพราะ แมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด ถ้ากระบะทรายสกปรกเขาจะไม่ใช้เลย กลับไปหน้าตัวเลือก
  • 48. แหล่งข้อมูล • http://th.wikipedia.org/ • https://sites.google.com/site/busukho11342/l aksna-nisay-khxng-maew • https://blog.eduzones.com/rabbitsmile/12313 1 • http://www.catthailand.com/catanimaltv.asp กลับไปหน้าตัวเลือก