SlideShare a Scribd company logo
สุนัข
(DOG)
สุนัข
ที่มาและความสาคัญ จุดประสงค์
ครูที่ปรึกษา
อ้างอิง ผู้จัดทา
ที่มาและความสาคัญ
เนื่องจากสุนัขเป็นสัตว์ที่นิยมเลี้ยงกันมาก เป็นสัตว์ที่น่ารัก อ่อนโยน
เชื่อฟัง ไม่มีอันตรายกับผู้เลี้ยง เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย
สุนัขมีหลากหลายสายพันธุ์และเป็นที่นิยม ได้แก่ ชิวาวา (Chihuahua)
ปอมเมอเรเนียน (Pomerania) ชิสุ (Shih Tzu) ยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์
(Yorkshire Terrier) บีเกิล (Beagle) ฯลฯ และควรมีวิธีเลี้ยงและข้อแนะนาใน
การเลี้ยงเพื่อที่จะเลี้ยงให้ถูกต้อง
จุดประสงค์
1. เพื่อให้ผู้ที่สนใจในสุนัขมีความรู้เพิ่มขึ้น
2.เพื่อใช้เป็นสื่อความรู้ต่างๆ
3.เพื่อให้รู้วิธีเลี้ยงสุนัขให้มีสุขภาพดีมากขึ้น
สุนัข
หมา หรือภาษาทางการว่า สุนัข เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้านมหลายชนิดหลายสกุลในวงศ์ Canidae ออกลูก
เป็นตัว ลาตัวมีขนปกคลุม มีเขี้ยว 2 คู่ เท้าหน้ามี 5 นิ้ว เท้าหลังมี 4 นิ้ว ซ่อนเล็บไม่ได้ อวัยวะเพศของสุนัขตัวผู้มี
กระดูกอยู่ภายใน 1 ชิ้น สุนัขที่ยังคงเป็นสัตว์ป่า เช่น หมาใน (Cuon alpinus) สุนัขที่เลี้ยงเป็นสัตว์บ้าน คือ
ชนิด Canis lupus familiaris สุนัขเป็นสัตว์ที่มีหลายพันธุ์ เช่น ลาบราดอร์, โกลเดินริทรีฟเวอร์, ชิวาวา และอีก
มากมาย มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ดุและไม่ดุ พันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ เช่น โกลเด้น ลาบราดอร์ ที่มีขนาดเล็ก เช่น ชิวาวา ชิ
สุ ส่วนที่ดุ ได้แก่ ร็อดไวเลอร์ อัลเซเชียน สุนัขแต่ละพันธุ์จะมีนิสัยแตกต่างกัน
สุนัขพัฒนามาจากสัตว์กินเนื้อและล่าเหยื่อ ดังนั้นวิวัฒนาการของฟันสาหรับเคี้ยวเนื้อและกระดูกจึงยังคงมีอยู่
รวมทั้งการมีประสาทดมกลิ่นและตามล่าเหยื่อที่ดีมาก นอกจากนี้สุนัขยังมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงทาให้วิ่งได้เร็วและเร่ง
ความเร็วได้เท่าที่ต้องการ ลักษณะการเดินของสุนัขจะทิ้งน้าหนักตัวบนนิ้วเท้า ซึ่งส่งผลให้สุนัขเคลื่อนไหวได้
คล่องแคล่วกว่าสัตว์ชนิดอื่น นอกจากนี้สุนัขยังมีสัญชาตญาณในการทางานเป็นกลุ่ม ดังนั้นสุนัขจึงสามารถล่าสัตว์ที่มี
ขนาดใหญ่กว่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สุนัข
ประวัติ
สุนัขมีต้นกาเนิดมาจากมนุษย์แถบขั้วโลกเหนือนามันมาเลี้ยงเมื่อประมาณ 12,000 ปีที่แล้วแล้ว เชื่อกันว่า สุนัข
ป่าตัวแรกนั้น เกิดขึ้นเมื่อ 31,700 ปีก่อน การอพยพข้ามถิ่นและทวีปต่าง ๆ ทาให้สุนัขหลากหลายสายพันธุ์กาเนิดขึ้น
สุนัขพันธุ์ที่เรียกได้ว่าเป็นสุนัขพันธุ์ต้นตระกูลคือพันธุ์สุนัขไซบิเรียนหรือหมาป่าที่มีอยู่อย่างแพร่หลายใน
ปัจจุบัน ต่อมามีสุนัขป่าอีกพันธุ์หนึ่งที่มนุษย์นามากินมีชื่อภาษาละตินว่า เคนิสลูปัส (Canis lupus) ซึ่งแปลว่าสุนัขป่า
สุนัขป่าชนิดนี้จะเชื่องกว่าสุนัขธรรมดา มีขนยาว หางเป็นแผง กระดูกแก้มโหนก และหางของมันจะเห็นชัดมากขึ้น มี
นิสัยรักอิสระกว่าสุนัขป่า
การค้นคว้าวิจัยและศึกษาเรื่องราวของสุนัข ได้มีขึ้นในประเทศอังกฤษ ในแถบยุโรปและอเมริกา แล้วจึง
แพร่หลายไปในส่วนต่าง ๆ ของโลก ในสหรัฐอเมริกาได้มีการจัดตั้งเป็นสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขขึ้นในปี ค.ศ. 1 สุนัขพันธุ์
แท้ชนิดแรกที่ได้จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาคือ สุนัขพันธุ์อิงลิชเชสเตอร์กริว ในประเทศอังกฤษได้มีการรวบรวมกัน
ตั้งสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขขึ้นเช่นกันในปี ค.ศ. 1859 (พ.ศ. 2402) ในครั้งแรกสมาคมนี้ได้รับรองให้จดทะเบียนสุนัขพันธุ์แท้
ได้ 40 สายพันธุ์ และได้จัดวิธีการสุนัขพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อความเหมาสมอีกหลายครั้ง ในปี ค.ศ. 1881 (พ.ศ. 2424) สมาคมนี้
ได้ให้การรับรองพันธุ์แท้ต่าง ๆ รวมเป็นจานวน 46 พันธุ์ การแก้ไขเพิ่มเติมการรับรองเป็นสุนัขพันธุ์แท้เป็นครั้ง
สุดท้าย เมื่อปี ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2417) ได้มีสุนัขที่ให้การรับรองทั้งหมด 120 กว่าสายพันธุ์
บรรพบุรุษ และ
ที่มาของความเชื่อง
วิวัฒนาการด้านโมเลกุลของสุนัขชี้ให้เห็นว่าสุนัขเลี้ยงนั้น (Canis lupus familiaris) สืบทอดมาจากจานวนประชากร
หมาป่า (Canis lupus) เพียงตัวเดียวหรือหลายตัว สะท้อนให้เห็นถึงการตั้งชื่อพวกมัน สุนัขสืบทอดจากหมาป่าและสุนัข
ธรรมดาสามารถผสมข้ามพันธุ์กับหมาป่าได้ด้วย
ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสุนัขนั้นถูกฝังลึกในด้านโบราณคดีและหลักฐานที่ตรงกันชี้ให้เห็นช่วงเวลาของการ
ทาให้สุนัขเชื่องในยุคหินใหม่ ใกล้ ๆ กับขอบเขตของช่วงเพลสโตซีนและโฮโลซีนในระหว่าง 17,000 - 14,000 ปีมาแล้ว ซาก
กระดูกฟอสซิลและการวิเคราะห์ยีนของสุนัขในยุคอดีตกับปัจจุบัน และประชากรหมาป่ายังไม่ถูกค้นพบ สุนัขทั้งหมดสืบอายุ
อาจเกิดจากเหตุการณ์ที่ทาให้เชื่องด้วยตัวเองหรือไม่ก็ได้ถูกทาให้เชื่องด้วยตัวมันเองในพื้นที่มากกว่าหนึ่งพื้นที่ สุนัขที่ถูก
เลี้ยงให้เชื่องแล้วอาจจะผสมข้ามพันธุ์กับประชากรหมาป่าที่อยู่ในถิ่นนั้น ๆ ในหลาย ๆโอกาส กระบวนการนี้รู้จักในทางทาง
พันธุศาสตร์ว่า อินโทรเกรสชัน (Introgression)
ในยุคแรก ๆ ฟอสซิลสุนัข กะโหลก 2 จากรัสเซียและขากรรไกรล่างจากเยอรมนี พบเมื่อ 13,000 ถึง 17,000 ปี
มาแล้ว บรรพบุรุษของมันเป็นหมาป่าโฮลาร์กติก (Canis lupus lupus) ซากศพของสุนัขตัวเล็กจากถ้าของสมัยวัฒนธรรมนา
ทูเฟียนของยุคหินได้ถูกเก็บไว้ในแถบตะวันออกกลาง มีอายุราว 12,000 ปีมาแล้ว เข้าใจว่าเป็นทายาทมาจากหมาป่าในแถบ
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภาพศิลปะบนหินและซากกระดูกชี้ให้เห็นว่า เป็นเวลากว่า 14,000 ปีมาแล้วที่สุนัขในที่นี้กาเนิดจาก
แอฟริกาเหนือข้ามยูเรเชียไปถึงอเมริกาเหนือ หลุมฝังศพสุนัขที่สุสานยุคหินของเมืองสแวร์ดบอร์กในประเทศเดนมาร์กทา
ให้นึกไปถึงในยุคยุโรปโบราณว่าสุนัขมีค่าเป็นถึงเพื่อนร่วมทางของมนุษย์
การวิเคราะห์ทางยีนได้ให้ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เหมือนกันมาจนถึงทุกวันนี้ วิล่า ซาโวไลเนน และ
เพื่อนร่วมงาน พ.ศ. 2540 สรุปว่าบรรพบุรุษของสุนัขได้แยกออกจากหมาป่าชนิดอื่น ๆ มาเป็นเวลาระหว่าง
75,000 ถึง 135,000 ปีมาแล้ว เมื่อผลการวิเคราะห์ที่ตามมาโดยซาโวไลเนน พ.ศ. 2545 ชี้ให้เห็น เผ่าพันธุ์
ดั้งเดิมจากกลุ่มยีนสาหรับประชากรสุนัขทั้งหมด ระหว่าง 40,000 ถึง 15,000 ปีมาแล้ว ในเอเชีย
ตะวันออก เวอร์จีเนลลี่ พ.ศ. 2548 แนะนาว่าอย่างไรก็ดี ช่วงเวลาของทั้งคู่จะต้องถูกประเมินผลอีกครั้งใน
การค้นพบเมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นว่า นาฬิกาโมเลกุลแบบเก่าที่ใช้วัดเวลานั้นได้กะเวลายุคสมัยของ
เหตุการณ์ทางธรณีวิทยาเกินความจริง โดยในความจริง และในการเห็นพ้องกันว่าด้วยเรื่องหลักฐานทาง
โบราณคดี เป็นเวลาเพียง 15,000 ปีเท่านั้นที่ควรจะเป็นช่วงชีวิตสาหรับความหลากหลายของของสุนัข
หมาป่า
สหภาพโซเวียตเคยพยายามนาสุนัขจิ้งจอกมาเลี้ยงให้เชื่อง เช่นในสุนัขจิ้งจอกเงิน และสามารถนา
มันมาเลี้ยงได้เพียงแค่ 9 ชั่วอายุของมันหรือน้อยกว่าอายุขัยของมนุษย์ นี่ยังเป็นผลในการเปลี่ยนแปลง
ด้านอื่น เช่น สี ที่จะกลายเป็นสีดา สีขาว หรือสีดาปนขาว พวกมันได้พัฒนาความสามารถในการขยายพันธุ์
ตลอดปี หางที่โค้งงอมากขึ้น และหูที่ดูเหี่ยวย่น
บรรพบุรุษ และ
ที่มาของความเชื่อง
ลักษณะทั่วไปและ
การล่าเหยื่อ
สุนัขเล่นกีฬา
สุนัขเทร์เรียร์
สุนัขทางาน
สุนัขอเนกประสงค์
สุนัขตุ๊กตา
สุนัขเล่นกีฬา
สุนัขเล่นกีฬา (Sporting Dogs) เป็นสุนัขพันธุ์ที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อเป็นผู้ช่วยในการล่าสัตว์โดยเฉพาะ มีหน้าที่
การค้นหาเหยื่อ และนาเหยื่อกลับมาให้เจ้าของ เราสามารถแบ่งสุนัขเล่นกีฬาได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้
สเปเนี่ยน เป็นพันธุ์สุนัขที่มีรูปร่างขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป เฉลียวฉลาด จมูกรับกลิ่นได้ดี ลักษณะเด่นคือ
หูยาวตูบ แบ่งย่อยได้เป็น 2 กลุ่มคือ พันธุ์ที่ใช้ล่าสัตว์ และพันธุ์ขนาดเล็ก (ปัจจุบันจัดอยู่ในกลุ่มสุนัขที่เลี้ยงไว้ดูเล่น)
ในขณะที่มันออกล่าสัตว์ เมื่อมันพบเหยื่อ มันจะพุ่งเข้าโจมตีเหยื่อทันที
พอยน์เตอร์ และเซทเตอร์ เป็นพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าสเปเนี่ยน ขายาว หูตูบ และจมูกรับกลิ่นได้ดี
รีทรีฟเวอร์ เป็นสุนัขที่เป็นมิตร แข็งแรง มีโครงสร้างดี และ มีความเชี่ยวชาญในการล่าสัตว์ มันถนัด การ
ค้นหา และนาเหยื่อกลับมาให้เจ้าของ มันมักจะทางานร่วมกับสุนัขพันธุ์สเปเนียน นอกจากนี้ รีทรีฟเวอร์ยังสามารถ
ว่ายน้าได้ดี มันจึงมักถูกใช้ในการล่าสัตว์ปีกที่บินอยู่เหนือน้า เช่น ห่านป่า เป็นต้น
ลักษณะทั่วไปและ
การล่าเหยื่อ
สุนัขเทร์เรียร์
สุนัขเทร์เรียร์ (Terriers) เป็นสุนัขขนาดเล็ก ต้นกาเนิดอยู่ในประเทศอังกฤษ มีนิสัยชอบดมกลิ่น อยากรู้อยากเห็น ตาม
รอย และขุดหาสิ่งที่สงสัย มันจึงกลายเป็นผู้ช่วยในการล่าสัตว์ สุนัขเทอร์เรียจะทาหน้าที่ตามรอยสัตว์ป่า เช่น กระต่าย หนู แบด
เจอร์ หมาป่า เมื่อพบแหล่งที่อยู่อาศัยของเหยื่อ มันจะมุดลงไปในรูนั้น ทาให้สัตว์เหล่านั้นตกใจและวิ่งออกมาจากรัง เพื่อให้คนตาม
ล่าต่อไป
แม้เทร์เรียร์จะเป็นสุนัขที่มีขนาดเล็ก ขาสั้น แต่เคลื่อนไหวได้อย่างว่องไว มีความมานะอดทน บากบั่น กล้าหาญ ทาให้มัน
เคยถูกใช้เป็นสุนัขสงคราม แต่ปัจจุบันนิยมนามาเลี้ยงเป็นเพื่อนเล่นในบ้าน สุนัขเทร์เรียร์แยกย่อยได้อีกหลายสายพันธุ์ อาจแบ่ง
เทร์เรียร์เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามลักษณะของขน ได้แก่ พันธุ์ขนเรียบและสั้น เช่น ฟอกซ์ เทร์เรียร์ขนสั้น พันธุ์ขนหยาบและ
ยาว เช่น สก็อตทิช เทร์เรียร์ และ เคอรีบูล เทร์เรียร์ เป็นต้น
บนเกาะอังกฤษนั้น มีสุนัขเทร์เรียร์อีกมากมายหลายสายพันธุ์ กระจายไปตามท้องที่ต่าง ๆ แต่ส่วนหนึ่งได้กลายพันธุ์ไป
เหลือแต่สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม เช่น ฟ็อกซ์ เทร์เรียร์, บูล เทร์เรียร์, แบดลิงตัน และ แมนเชสเตอร์ เทร์เรียร์ จากเกาะ
อังกฤษ
ลักษณะทั่วไปและ
การล่าเหยื่อ
สุนัขทางาน
สายพันธุ์สุนัขทางาน (Working dogs) ได้จากการที่มนุษย์พบว่าสุนัขเป็นสัตว์ที่มีความสามารถเกินกว่าที่คาด
ไว้ มันมีความฉลาด แข็งแกร่ง ว่องไว มานะอดทน สายตาดี และติดตามกลิ่นได้อย่างดีเยี่ยม สุนัขจึงถูกคัดเลือกพันธุ์
เพื่อใช้งาน นอกเหนือจากการล่าสัตว์ จึงได้สายพันธุ์นี้ ที่มีลักษณะเด่น แตกต่างกันไปและมีทักษะที่หลากหลาย
มนุษย์นาสุนัขมาใช้งาน เป็นเวลานับร้อยปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เลี้ยงเพื่อเฝ้ายาม สารวจหาระเบิดในสงคราม
ต้อนฝูงสัตว์ ลากสัมภาระ ตามรอยหาผู้ร้าย และ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ปัจจุบันยังมีสุนัขที่ถูกฝึกเลี้ยงไว้เพื่อเป็นผู้ช่วยตารวจ นาทางให้กับคนพิการด้านสายตา ตรวจค้นยาเสพ
ติด แก๊สรั่ว วัตถุระเบิด และช่วยเหลือผู้พิการด้านการได้ยินอีกด้วย ตัวอย่างของสายพันธุ์สุนัขตารวจ ได้แก่ บ็อกเซอร์
, พินซ์เช่อร์, โดเบอร์แมน, รอทไวเลอร์ เยอรมันเชพเพิร์ด, เกรดเดน เป็นต้น
ลักษณะทั่วไปและ
การล่าเหยื่อ
ยังมีสุนัขทางานอีกกลุ่มหนึ่งที่ทาหน้าที่เป็นผู้ช่วยของชาวไร่ชาวนา เช่น คอลลี, พูลิ, โอลด์ อิงลิช ชีพด็อก,
เยอรมันเชพเพิร์ด, เช็ทแลนด์ ชีพด็อก และ คอร์กี้ โดยสุนัขพวกนี้ จะคอยช่วยเหลือชาวไร่ ในการเฝ้าดูแลฝูงปศุ
สัตว์ เนื่องจากพวกมันช่วยชาวไร่ทางานได้ดีมาก ดังนั้น เกือบทุกประเทศที่มีการเลี้ยงสัตว์ จะมีการพัฒนา สายพันธุ์
สุนัขต้อนสัตว์ จนได้พันธุ์สุนัขประจาถิ่นของตนเอง เช่น คอลลี จากสก็อตแลนด์ พูลิ จากฮังการี และ คอร์กี้ จาก
เวลส์ เป็นต้น
สุนัขเป็นสัตว์ที่มีความอดทน และแข็งแกร่ง จนสามารถช่วยมนุษย์ทางานหนัก ๆ ได้ นอกจากนี้ ประเทศใน
เขตอากาศหนาวมาก ๆ ซึ่งการเดินทาง เป็นไปด้วยความยากลาบาก ยังใช้สุนัข เช่น อะลาสกัน มาลามูท, ไซบีเรียน
ฮัสกี้ และ ซามอยด์ เพื่อเป็นพาหนะเดินทาง โดยสามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 160 กิโลเมตร ในเวลา 18 ชั่วโมง
สุนัขแต่ละตัวมักจะมีความสามารถเฉพาะอย่าง มนุษย์มักใช้สุนัขทางานอีกหลายประเภท โดยสุนัขบางพันธุ์
ถูกฝึกเพื่อทางานเฉพาะอย่าง เช่น สุนัขเซนต์ เบอร์นาร์ดถูกฝึกให้ค้นหา และนาบรั่นดีไปให้กับผู้หลงทางใน
หิมะ เบอร์นีส เมาน์เทน ช่วยลากเลื่อนที่บรรทุกนมและเนยไปส่งที่ตลาด โปรตุกีส วอเทอร์ ด็อก ช่วยดาน้างมหา
อวนและเครื่องมือหาปลาที่ตกน้า หรือแม้กระทั่งปลาที่หลุดออกไปจากอวน นอกจากนี้ ยังมีสุนัขที่ทาหน้าที่
ประหลาดที่สุด คือ สุนัขพันธุ์นอร์วีเจียน ลุนเดฮันด์ กลายเป็นสุนัขที่ใช่ในการล่านก โดยถูกฝึกมาให้ทางานใน
ถ้า หรือหน้าผาที่สูงชัน เพื่อจู่โจมกับรังนกพัฟฟินอีกด้วย
ลักษณะทั่วไปและ
การล่าเหยื่อ
สุนัขตุ๊กตา
สุนัขตุ๊กตา (Toy Dogs) เป็นสุนัขตัวเล็กๆ เดิมเป็นสุนัขตัวใหญ่ แต่ถูกพัฒนาพันธุ์จนกลายเป็นสุนัข
ตัวเล็ก สุนัขประเภทนี้เหมาะสาหรับ เลี้ยงไว้แก้เหงา มันสามารถแก้เหงาให้กับคนชราที่ถูกทอดทิ้ง คน
ป่วย รวมไปถึงเด็ก ๆ ให้หายจากความโดดเดี่ยว
สุนัขตุ๊กตาถือกาเนิดขึ้นมาเมื่อหลายพันปีมาแล้ว โดยเมื่อ 4,000 ปีก่อน สุนัขสิงโต (Lion Dogs) ที่
หน้าตาคล้าย ๆ กับ สุนัขปักกิ่งในจีน และพบแลปด็อกส์ ที่โด่งดังในกลุ่มชาวโรมัน ในสมัยก่อนนั้น สุนัข
ตุ๊กตาเป็นที่นิยมมากในกลุ่มผู้หญิง และเด็ก ๆ ในสังคมชั้นสูง
แม้ว่าสุนัขตุ๊กตาจะตัวเล็ก แต่มันก็ยังมีสัญชาตญาณของสุนัขอยู่ครบถ้วน มันพร้อมที่จะปกป้อง
เจ้านาย และบ้านที่มันอาศัยอยู่ โดยการเห่าเสียงดัง ๆ หรือร้องครวญคราง เพื่อเตือนเมื่อมีผู้บุกรุก และ
บางตัวอาจจู่โจมผู้บุกรุกก็มี
สุนัขแต่ละตัวมักจะมีความสามารถเฉพาะอย่าง มนุษย์มักใช้สุนัขทางานอีกหลายประเภท โดยสุนัข
บางพันธุ์ถูกฝึกเพื่อทางานเฉพาะอย่าง
ลักษณะทั่วไปและ
การล่าเหยื่อ
สุนัขอเนกประสงค์
สุนัขอเนกประสงค์ (Non Sporting) เป็นสุนัขนานาประโยชน์ตามแต่เจ้าของจะ
ใช้งาน สุนัขพวกนี้หลาย ๆ พันธุ์มีผู้นิยมซื้อมาเลี้ยงกันมาก อย่างเช่น สุนัขพันธุ์ดัล
เมเชี่ยน เป็นต้น เนื่องจากเป็นสุนัขที่ประโยชน์ใช้สอยที่ไม่ธรรมดา สุนัขพันธุ์ลาซา
แอพโซ เป็นสุนัขที่ลามะในธิเบตเลี้ยงไว้เพื่อป้องกันภัย และถือว่าเป็นสัญลักษณ์
แห่งโชคลาภ สาหรับสุนัขพันธุ์เชาเชา ซึ่งถือกาเนิดในมองโกเลียเมื่อ 3,000 ปีก่อน
ในช่วงแรก ๆ เป็นสุนัขที่ถูกใช้ในสงคราม แต่ต่อมากลับถูกชาวจีนฆ่าเพื่อเป็นอาหาร
และนาเอาขนของมันไปทาเครื่องนุ่งห่ม
ลักษณะทั่วไปและ
การล่าเหยื่อ
ลักษณะทางกายภาพ
การผสมพันธุ์สุนัขสมัยใหม่ได้แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในเรื่องของขนาด
รูปร่างหน้าตา และพฤติกรรมมากกว่าสัตว์เลี้ยงในบ้านชนิดอื่นๆ สุนัขจะได้คุณสมบัติ
ต่าง ๆ จากบรรพบุรุษของมัน ซึ่งก็คือหมาป่า สุนัขเป็นผู้ล่าและสัตว์ที่ชอบคุ้ยหาของ
ตามกองขยะ มันมีฟันที่แหลมคมและฟันเขี้ยวที่แข็งแรงสาหรับจู่โจม จับถือและฉีก
อาหารของพวกมัน แม้ว่าการผสมพันธุ์ที่เลือกไว้เพื่อขยายพันธุ์ได้เปลี่ยนแปลง
ภาพลักษณ์ของการผสมพันธุ์ต่าง ๆ สุนัขทุกตัวจะจดจาคุณสมบัติต่าง ๆ จากบรรพ
บุรุษรุ่นแรก ๆ เหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้านมที่กินสัตว์เป็นอาหารอื่น ๆ ทั่วไป สุนัข
มีกล้ามเนื้ออันทรงกาลัง กระดูกข้อเท้าที่ต่อเข้าด้วยกัน มีระบบหัวใจและหลอดเลือดที่
คอยช่วยให้สุนัขวิ่งได้ดีและมีความอดทนอดกลั้น และมีฟันที่ใช้สาหรับจับและฉีกอาหาร
ไม่เหมือนกับมนุษย์ที่เดินด้วยฝ่าเท้า แต่สุนัขเดินด้วยฝ่ามือและฝ่าเท้าพร้อม ๆ กัน
สติปัญญาและ
พฤติกรรม
สุนัขแต่ละตัวและแต่ละสายพันธุ์ มีสัญชาตญาณของตนเอง นับตั้งแต่เริ่ม
กระบวนการเปลี่ยนแปลง จากสุนัขป่ามาเป็นสุนัขเลี้ยง ได้มีการคัดเลือกและพัฒนา
สายพันธุ์สุนัขสืบทอดกันมามากกว่า 4,000 ชั่วอายุ ทาให้ลักษณะร่างกายของสุนัข
หลายสายพันธุ์ เปลี่ยนแปลงไปจากบรรพบุรุษของพวกมันอย่างมาก แต่สุนัขแต่ละ
สายพันธุ์ยังคงรักษาลักษณะพฤติกรรมของสุนัขป่าที่มันเคยเป็นไว้ได้ไม่มากก็น้อย
ทั้งสุนัขป่าและสุนัขเลี้ยงมีวิธีสื่อสารโดยการเห่า การใช้ภาษากาย และสัญชาตญาณใน
การรวมกลุ่ม ทั้งนี้สุนัขมีพฤติกรรมให้การสร้างอานาเขตของมัน เช่น การฉี่รดตามที่
ต่าง ๆ เพื่อบอกว่าตรงนี้เป็นเจ้าของ และการเดินเป็นวงกลมก่อนนอนเพื่อกระจายกลิ่น
ตัวไปรอบ ๆ และกาหนดอาณาเขตไม่ให้สัตว์ตัวอื่นเข้ามารบกวน และสุนัขยังเป็นสัตว์ที่
มีนิสัยขี้เล่นขี้อ้อน
นิสัย
บาสเซ็ทฮาว
ปั๊ก
ไซบีเรียน ฮัสกี้
ชิวาวา
เฟรนซ์ บลูด๊อก
ชิสุ
ร็อตไวเลอร์
มอลทิส
นิสัย
ปั๊ก เป็นสุนัขหน้า ตายับย่นที่มีเสน่ห์สุดบรรยาย “ปั๊ก” เป็นสุนัขเก่าแก่ที่สุดพันธุ์
หนึ่ง ว่ากันว่าเคยเป็นสุนัขในพระราชสานักยุคพระนางซูสีไทเฮา “ปั๊ก” ติดคนรักและเจ้าของ
ชนิดนั่งมองหน้าได้กันเป็นวัน อายุยืน เหมาะที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน แต่แพ้อากาศร้อน จึงไม่
เหมาะจะเลี้ยงไว้นอกบ้าน
โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ หากคุณต้องการมีสุนัขที่รักคุณแบบมอบ กายถวายชีวิต คุณ
จะต้องเลือก”โกลเด้น รีทรีฟเวอร์” เพราะแววตาที่เขามองคุณนั้นเปี่ยมล้นด้วยความรัก มีขน
สีทองสลวย รูปร่างสง่างาม ฉลาด ฝึกง่าย กระตือรือร้น แต่เฝ้าบ้านไม่ได้เพราะเป็นมิตรกับ
ทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งขโมย
นิสัย
ไซบีเรียน ฮัสกี้ สุนัขสัญชาติรัสเซีย มีขนสวยและหนา ตาแปลกและสวยมาก รูปร่างสง่า
งาม ปราดเปรียว ว่องไว รักอิสระ ไม่ชอบถูกกักขังและมีพลังงานเหลือเฟือ หากคิดจะเลี้ยงพันธุ์นี้
ต้องมีอาณาบริเวณให้เค้าวิ่ง และรั้วรอบขอบชิดพอสมควร ไม่งั้นเขาอาจหนีออกจากบ้านได้
นิสัย
บาสเซ็ทฮาว เป็นสุนัขขนาดกระทัดรัด หูยาว ขาสั้น เมื่อเทียบกับขนาดลาตัว มีขน
2-3สี นิสัยร่าเริง รักอิสระมองโลกสดใส ถ้าไม่ได้เจ็บป่วยจริงจะไม่เห็น บาสเซ็ทฮาว
ซึมเศร้าเลย จึงเหมาะที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน
นิสัย
เวสตี้ เป็นสุนัขสีขาวยอดนิยม แต่มีไม่มากนัก มีเสน่ห์ ร่าเริง น่ารัก ช่างประจบและ
ขนาดเล็ก น้าหนัก โตสุดไม่เกิน 8 กก. เวสตี้เป็นหมาติดคนอย่างมาก จัดเป็นสุนัขที่เป็นได้
ทั้งเพื่อนและอารักขา (แบบจุ๋มจิ๋ม) เพราะหูไว เห่าเก่ง (แต่ไม่พร่าเพื่อ)
นิสัย
ชิวาวา เป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่สุด จึงนิยมใส่กระเป๋าพกติดตัวไปทุกที่ เห็นตัวเล็กอย่างนี้
ลักษณะเด่นคือ ความสง่างาม คล่องแคล่วว่องไวและตื่นตัวตลอดเวลา
นิสัย
เฟรนซ์ บลูด๊อก สุนัขสัญชาติฝรั่งเศส ขนาดกระทัดรัด แข็งแรง มีหูคล้ายค้างคาว
นิสัยขี้เล่น หนังบริเวณลุกกระเดือกค่อนข้างย่น ขนมีหลายสี ทั้งน้าตาล ขาว ขาว-น้าตาล
ขนสั้นนุ่ม น่ากอดน่าสัมผัส ถ้าปล่อยให้อ้วนมักมีปัญหาทางเดินหายใจ
นิสัย
บิชอง ฟริเซ่ นิสัยร่าเริงแจ่มใส ขนสีขาวปุกปุยเหมือนปุยเมฆ น้าหนักเพียง 3-6กก.
นิสัย
ชิสุ มีความโดดเด่นที่ขนสวย แต่งทรงได้หลากหลาย มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง ไม่
ชอบการฝึกสอน ชอบให้คุณมาอุ้มมากกว่าที่จะเดินไปให้อุ้ม คุณต้องอ้อนเค้า…ไม่ใช่รอให้เขา
มาอ้อนคุณ
นิสัย
บีเกิ้ล กินเก่ง แบบยอมตายดีกว่าจะอด และมีจมูกดมกลิ่นเป็นเลิศ และมักจดจ่อต่อ
กลิ่นที่สนใจเป็นเยี่ยม เป็นสุนัขยอดนิยมในอเมริกา (และเราจาได้ว่าเป็นพระเอกหนังเรื่อง
Under Dog ด้วยนะ)
นิสัย
ลาบาดอร์ รีทรีฟเวอร์ มีนิสัยตอบสนองเร็ว เป็นมิตร สงบ เรียบร้อย ซื่อสัตย์ ฉลาด
รักเจ้าของ นิยมนามาฝึกให้นาคนตาบอด และทาหน้าที่ได้มีประสิทธิภาพ โครงสร้างบึกบึน
น่าเกรงขาม
นิสัย
ปอมเมอเรเนียน มีขนหนาหลายชั้น ร่าเริง ฉลาดขี้อ่อน อยากรู้อยาก
เห็น แววตาแสดงถึงความฉลาดอย่างชัดเจน
นิสัย
อัลเซเชี่ยน(เยอรมันเชพเพิด) เป็นสุนัขที่ฉลาด เป็นมิตร การฝึกให้เชื่อ
ฟังคาสั่งตั้งแต่เล็กจะช่วยดึงความสามารถพิเศษของเค้าออกมา
นิสัย
บลูด็อก เป็นสุนัขที่มีกาลังมากและตัวใหญ่ เป็นสุนัขที่มีเสน่ห์ เชื่อง ฉลาด อดทน มี
ขนสั้นตรง นุ่ม มีสีน้าตาล-ขาว น้าตาล-แดง หรือหลายสีปนกัน เช่น น้าตาลมีปื้นขาว
นิสัย
ร็อตไวเลอร์ มีสีดาตลอดตัว อาจมีสีน้าตาลปนเข้มบ้างเล็กน้อย มีโครงสร้างแข็งแรงมาก เป็นสุนัขที่
ฉลาด ฝึกง่าย และรักที่จะทางาน มีนิสัยมุ่งมั่นหวงแหนเขตแดนอย่างมาก จึงมักมีอารมณ์ดุร้ายได้หากโดน
แกล้งหรือแหย่ให้โมโห แต่ถ้าเลี้ยงแบบให้ความรักเค้าและอ่อนโยนต่อเค้า คุณก็จะได้อารมณ์เยี่ยงนั้นกลับมา
เป็นทวีคูณ
นิสัย
พุดเดิ้ล เป็นสุนัขที่นิยมเลี้ยงในบ้านเรา ทั้งพุดเดิ้ลทอย และทีคัพ นิสัยคล้ายกันทั้ง 2
พันธุ์ คือขี้อ้อน เรียกร้องความรักสุดๆ และมีความรักให้เจ้าของเหลือเฟือ มีขนหยิกหนา
คนเลี้ยงจะสนุกกับการทา grooming สีทีนิยมมีทั้งขาว น้าตาลและดา
นิสัย
มอลทิส เป็นสุนัขตระกูลทอย เหมาะสาหรับคนที่ชอบสุนัขแบบคุณหนู เพราะตัวเล็ก
อ้วนกลม ขาวสะอาดแต่ไม่บอบบาง ตรงข้ามกลับเป็นสุนัขเลี้ยงง่าย มีขนละเอียดอ่อนเหมือน
สาลีผสมไหม หน้าหวาน ตาโต เลี้ยงเป็นเพื่อนได้ดี แต่เฝ้าบ้านไม่ได้เพราะแทบไม่เห่าและไม่
ระแวงใครเลย
นิสัย
การเลี้ยงสุนัข
ที่อยู่ของลูกสุนัข
การเคี้ยว
การฝึกในบ้าน
ความพร้อมในการเลี้ยงสุนัข
ที่อยู่ที่นอน
ความรัก
การอาบน้า
การทาหมัน
การป้องกันโรค
การกาจัดและป้องกันเห็บ
กาหนดการปฏิบัติเพื่อป้องกันโรค
วิธีการสังเกตดูลักษณะของสุนัขที่ดี
ที่อยู่ของลูกสุนัข
ลูกสุนัขต้องการที่อยู่ที่เป็นส่วนตัว หากล่องหรือที่นอนสาหรับสุนัขไว้ในคอกที่อบอุ่นและมีมุมที่ไม่
มีลมโกรก (กรงสุนัขที่ใช้ในเวลาการเดินทางจะได้เปรียบ เพราะสามารถนามาใช้ได้ตลอดอายุขัยของเขา
ถ้าจะซื้อมาใช้ ต้องให้มีขนาดใหญ่พอเมื่อเขาโตเต็มที่) เขาจะใช้กรงเป็นสถานที่พักผ่อนนอนหลับและรู้สึก
ปลอดภัยและอุ่นใจ เอากล่องกระดาษหรือกล่องไม้วางด้านข้างลงทาเป็นเตียงนอนที่มิดชิด เขาก็จะยิ่งรู้สึก
ปลอดภัย เหตุผลก็คือว่า บรรพบุรุษซึ่งคล้ายกับหมาป่าของเขาเคยอาศัยถ้าเป็นบ้านพัก โดย
สัญชาตญาณลูกสุนัขก็จะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยในที่ที่คล้ายกับถ้า อาจจะปูพื้นด้วยผ้าเช็ดตัว หรือผ้าห่ม
เก่าๆที่อยู่ของเขาก็จะสมบูรณ์แบบ เมื่อเขาอยู่ในที่ของเขา อย่าได้รบกวนหรือดึงตัวเขาออกมา ควรให้เขา
ออกมาเองอย่าให้เด็กๆ รบกวนหรือเย้าแหย่เขาเล่น เขาต้องการความรู้สึกปลอดภัยถ้าเขาอยู่ในที่ของเขา
อย่ากักขังเขาในกรงเป็นเวลานานๆ ถ้าเขาทาอะไรผิดก็อย่าได้ไล่เขาเข้าไปในกรง การทาอย่างนั้นจะทาให้
เขารู้สึกว่ามันเป็นที่ทาโทษเขา แทนที่จะเป็นสถานที่พักที่มีความสุขสบาย คุณควรจะรู้สึกสบายใจที่ลูก
สุนัขมีที่ของตัวเอง เขาจะไปงีบหรือขดตัวนอนอย่างมีความสุขตลอดคืน โดยไม่เห่าหรือร้องคราง และคุณ
ก็รู้ว่าเขาจะไม่ก่อความเดือดร้อนให้แม้คุณจะไม่คอยเฝ้าดูเขาก็ตาม
การเลี้ยงสุนัข
การเคี้ยว
ฟันของลูกสุนัขจะขึ้นอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 3 ถึง 6 เดือน ในช่วงนี้ควรจะให้ อะไรเขาเพื่อขบเคี้ยว เพื่อช่วยในการ
ขึ้นของฟัน ลูกสุนัขจะกัดสิ่งของโดยไม่เลือก เขาไม่รู้ว่านั่นคือรองเท้าคู่ที่ดีที่สุดของคุณ หรือมันคือขาโต๊ะที่เป็นวัตถุโบราณ
เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่เกิดจากลูกสุนัข ขอแนะนาให้หาของขบเคี้ยวที่ไม่แตกหักหรือเป็นภัยกับลูกสุนัขเพื่อจะขบ
เคี้ยวเล่น เช่น ลูกบอลยางที่โตและแข็งพอที่เขาจะกลืนไม่ได้ หรืออาจจะเป็นกระดูกเทียม คุณอาจจะให้รองเท้าเก่าๆ หรือ
วัสดุที่มีรูปร่างคล้ายรองเท้าเหมือนของคน เพราะสุนัขคิดว่าจะเป็นรองเท้าอะไรก็ได้ทั้งนั้นเพื่อความสนุกสนาน อย่าให้
กระดูกจริงทั้งสุกและดิบก็ตาม เพราะกระดูกแตก ทาให้เกิดบาดแผลในปากหรือติดคอในขณะที่เขากลืนเศษกระดูกเข้าไป
หาทางทาให้กระดูกเทียมและลูกบอลเป็นที่ดึงดูดสาหรับลูกสุนัข โดยที่คุณนาสิ่งเหล่านั้นมาเล่นเกมส์กับเขา เมื่อไรก็ตาม
หากลูกสุนัขเขาเริ่มจะกัดแทะสิ่งของที่ต้องห้ามก็รีบนากระดูกเทียมหรือลูกบอลให้แทน ออกคาสั่งว่า "อย่า" อย่างขึงขังแล้ว
นาสิ่งของที่มีค่าออกห่างจากเขา เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มกัดแทะของที่เราให้เขา ก็ให้กล่าวชมความประพฤติที่ดี แล้วจะรู้สึกว่าจะมี
การตอบสนองอย่างมีความสุข ช่วยให้ลูกสุนัขให้อยู่ห่างไกลจากสิ่งที่เป็นโทษ เป็นต้นว่า น้ายาทาความสะอาดทินเนอร์
สารเคมีที่ใช้ในบ้านเรือน และสิ่งของที่มีอันตราย โดยเก็บสิ่งเหล่านั้นในตู้ที่ล็อกกุญแจได้
การเลี้ยงสุนัข
การฝึกในบ้าน
ควรฝึกลูกสุนัขโดยทันที เริ่มจากการให้อาหารลูกสุนัขเป็นเวลาและพาออกไป
เที่ยวนอกบ้านบ่อยๆ ถ้าหากคุณเลี้ยงลูกสุนัขของคุณด้วยอาหารของลูกสุนัขของยูคานู
บาหรืออามส์สาหรับลูกสุนัข จะพบว่าเวลาในการฝึกจะสั้นลงเนื่องจากการให้อาหารและ
การขับถ่ายจะเป็นกิจวัตรจะมีสิ่งบอกเหตุซึ่งคุณคุณต้องคอยสังเกตว่า ถึงเวลาที่จะต้อง
นาลูกสุนัขออกไปนอกบ้าน ในกรณีที่ลูกสุนัขเดินไปตามพื้นเป็นรูปวงกลม นั่งหรือร้อง
ครางอยู่ที่ประตู หรือถ้าคุณมองเห็นสุนัขของคุณมองคุณด้วยสายตาวิงวอน และกระวน
กระวาย นั่นแสดงว่าเป็นเวลาที่คุณควรจะนาเขาออกไปข้างนอกหลังจากที่ลูกสุนัข
ปัสสาวะเสร็จ ให้ชมเขาอย่างเงียบๆ แล้วนาเขาเข้ามาในบ้านในไม่ช้าเขาก็จะเชื่อมโยงการ
ปัสสาวะนอกบ้านกับคาชมเชยของคุณ
การเลี้ยงสุนัข
ความพร้อมในการเลี้ยงสุนัข
ความพร้อมของสถานที่ การเลี้ยงสุนัขต้องมีสถานที่หรือบริเวณสาหรับให้สุนัขวิ่ง
เล่นออกกาลังกายบ้าง อย่าปล่อยให้สุนัขอยู่ในที่แคบ สิ่งแวดล้อมไม่ดี มันจะรู้สึกซึมและ
ส่งเสียงคราง อุปนิสัยผิดไป ดังนั้นผู้เลี้ยงสุนัขควรคานึงถึงสิ่งแวดล้อมและสถานที่ให้
พอเหมาะกับสุนัขด้วย
ความพร้อมของผู้เลี้ยง ผู้เลี้ยงควรสารวจตัวเองเสียก่อนกว่า ชีวิตความเป็นอยู่เป็น
อย่างไร และมีเวลาให้กับสุนัขหรือไม่ เช่น ถ้าสถานที่แคบไม่มีบริเวณที่จะปล่อยให้สุนัข
วิ่งเล่น แต่อยากจะเลี้ยงสุนัขมากจึงขังกรงเอาไว้ ก็จะไม่ได้อะไรขึ้นมา ผู้เลี้ยงจะได้รับ
เพียงเสียงเห่าที่หนวกหูเท่านั้น ผู้เลี้ยงต้อยมีเวลาพามันออกกาลังวิ่งเล่นบ้าง คอย
ฝึกสอนบางสิ่งบางอย่างที่เป็นพื้นฐานต่าง ๆ ให้สุนัข จะทาให้สุนัขที่เลี้ยงมีคุณค่ามากขึ้น
เช่นการนั่งคอย การไหว้ ไม่ขโมยอาหารและกินมูมมาม
การเลี้ยงสุนัข
ความรัก
การเลี้ยงดูสุนัขต้องมีความรัก ความจริงใจและเสมอต้นเสมอปลายด้วย เพราะบางคนนาสุนัขมาเลี้ยง
ขณะที่ยังเป็นลูกสุนัข มีความน่ารักขนปุกปุย ขี้เล่น แต่พอสุนัขโตขึ้นความน่ารักดังกล่าวก็จะค่อย ๆ หายไป
นิสัยใจคอเปลี่ยนไป รูปร่างขนที่ปุกปุยก็จะหยาบ ขายาว ตัวโตขึ้น หมดความน่ารักลง ทาให้ไม่อยากเอาใจใส่
และไม่เล่นกับมัน แต่สุนัขไม่มีความเข้าใจในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงนี้ยังคงทาในสิ่งที่เคยทา เช่น อยากจะให้อุ้ม แล้ว
ตะกุยตะกายให้อุ้ม แต่เรามักไม่เข้าใจก็ทาโทษมันด้วยความโมโหและราคาญที่ถูกเล็บข่วนเป็นเป็นแผล หรือ
ทาให้เสื้อผ้าสกปรก จึงทาโทษด้วยการดุหรือเฆี่ยนตี ทาให้สุนัขเข็ดกลัวไม่อยากเข้าใกล้ หรือคอยหลบ ๆ ซ่อน
ๆ ทาให้สุนัขที่เคยน่ารักหมดคุณค่าไป
ความเอาใจใส่ในชีวิตประจาวัน เมื่อสุนัขเกิดอาการไม่สบาย มันไม่สามารถบอกเล่าอาการต่าง ๆ ได้
เหมือนคน จึงต้อยคอยสังเกต เอาใจใส่ในชีวิตประจาวัน เพื่อให้สุนัขมีความเป็นอยู่ที่ดี นอกเหนือไปจากการให้
อาหารและน้าดื่มที่สะอาดแล้ว ต้องคอยสังเกตว่าสุนัขมีสุขภาพอย่างไร ในเรื่องของการขับถ่าย ท้องเสียหรือไม่
มีกิริยาท่าทางร่าเริงหรือหงอย ซึม ไม่สบาย มีแปล มีเห็บหมัดรบกวนหรือไม่ หากพบสิ่งผิดปกติต้องรีบ
ช่วยเหลือทันที
การเลี้ยงสุนัข
ที่อยู่ที่นอน
สุนัขควรมีที่หลับนอนของมันเองที่เป็นที่เป็นทางและเป็นสัดส่วน จะเลี้ยงสุนัขไว้ในบ้านหรือ
นอกบ้านก็แล้วแต่ความพร้อมของเจ้าของและสมาชิกคนอื่นในครอบครัว ส่วนใหญ่หากมันยังเล็กก็
นิยมเลี้ยงไว้ในบ้านเพื่อสะดวกในการดูแล และทาให้มันสนิทสนมกับคนในบ้านได้ง่าย แต่ต้องคอยดุ
แลเรื่องการขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทาง จัดที่นอนสาหรับลูกสุนัขไว้ในลังไม้หรือตะกร้าตั้งไว้มุมห้อง
เงียบ ๆ สักมุมหนึ่ง หรืออาจใช้เพียงผ้าผวยเก่า ๆ หรือเศษผ้านุ่ม ๆ หลายชั้นทาเป็นที่นอนขนาด
เล็กใหญ่ ก็ได้แล้วแต่ความเหมาะสม
หากมีอาณาบริเวณบ้านมากพอ หรือต้องการเลี้ยงไว้นอกบ้าน ซึ่งมันก็ต้องการที่คุ้มแดดคุ้ม
ฝน หรือหลบร้อนตอนกลางวัน การสร้างคอกหรือกรงเลี้ยงจึงเป็นสิ่งจาเป็น ขนาดกรงควรกว้างพอ
ให้มันเหียดตัวหรือกลับตัวได้ง่ายและสูงพอที่มันจะยืนได้ บริเวณที่ตั้งกรงหรือคอกเลือกเอาที่ร่ม มี
อากาศถ่ายเทได้ดีไม่อับชื้น และควรติดมุ้งลวดเพื่อกันยุงและแมลงให้มันด้วย
การเลี้ยงสุนัข
การอาบน้า
ตามปกติไม่นิยมอาบน้าให้ลูกสุนัขบ่อยเกินไป เพราะจาทาให้น้ามันที่เคลือบเส้นขนหมดไป
ทาให้ผิวหนังและเส้นขนแห้งไม่เป็นมัน เกิดอาการคัน สุนัขจะกัดหรือเกาให้เป็นแผล นอกจากนี้สุนัข
ยังแพ้ต่อการเป็นโรคทางระบบหายใจ โดยเฉพาะ จะเป็นโรคปอดบวมได้ง่าย เพราะฉะนั้นหาไม่
จาเป็นจริง ๆ แล้วก็ไม่ควรอาบน้าให้สุนัขสารับลุกสุนัขอาจใช้ผ้าชุบน้าอุ่นบิดให้แห้งตามตรงที่ตัว
สกปรก หรือใช้แปรงและการหวีขนบ่อย ๆ ก็จะรักษาความสะอาดได้ดีโดยไม่ต้องอาบน้า เมื่อสุนัขโต
ขึ้นอาจจะอาบน้าให้ด้วยน้าธรรมดาหรือน้าอุ่นให้เพียงอาทิตย์ละครั้งก็พอ หรือเมื่อเห็นว่ามันสกปรก
มาก มีกลิ่นเหม็นแล้ว การอาบน้าควรอาบให้ในเวลาที่มีแดดออก อากาศไม่หนาวมาก ใช้สบู่หรือ
แชมพูอย่างอ่อน ถูให้ทั่วตัวและหัว ระวังไม่ให้ฟองสบู่เข้าตาและน้าเข้าหู จากนั้นต้องล้างสบู่ออกให้
หมด เพราะถ้าล้างออกไม่หมดจะทาให้เกิดการคันจนสุนัขเกาเป็นแผล เสร็จแล้วจึงเช็ดตัวสุนัขให้แห้ง
การเลี้ยงสุนัข
การกาจัดและป้องกันเห็บ
เห็บ หมัดและแมลง เป็นพาหะนาโรคบางชนิดมาสู่สุนัข ถึงแม้ไม่เกิดโรคก็จะทาความราคาญ
ให้สุนัขมาก เห็บหรือหมัดที่มีในสุนัขส่วนมากมักเกิดจากเจ้าของที่ไม่ดุแลสุนัขเท่าที่ควร
หมัด หรือเห็บมักเกาะกินเลือดอยู่ตามบริเวณผิวหนังอ่อน ๆ ของสุนัข เช่น รอบคอ ริมฝีปาก
บริเวณหลังเลยหางขึ้นไป ตามซอกเล็บ และตามบริเวณก้นการกาจัดเห็บ หมัด อาจใช้น้ามันสนหยด
ลงไปให้ถูกตัวเล็กน้อย จะทาให้มันหลุดออกมา หากดึงหมัดหรือเห็บขณะที่มันกาลังกัดติดอยู่กับ
บริเวณผิวหนังแรง ๆ อาจทาให้ผิวสุนัขเป็นแผล การป้องกันกาจัดเห็บหรือหมัดอาจใช้วิธีรักษา
ความสะอาดตัวสุนัข ใช้อุปกรณ์ในการกาจัดเห็บ เช่น ยกกาจัดเห็บ แป้งกาจัดเห็บ แชมพูกาจัดเห็บ
ตามคาแนะนาของสัตวแพทย์หรือทาด้วยความระมัดระวัง ควรทาการจับหมัดหรือเห็บทุก ๆ อาทิตย์
และทาความสะอาดที่นอนสุนัขด้วย แต่การฆ่ากาจัดเห็บเฉพาะที่ตัวสุนัข ไม่สามารถแกปัญหาได้ตลอด
เพราะเห็บหรือหมัดเล่านี้จะอาศัยอยู่บริเวณที่อยู่ของสุนัข ดังนั้นควรใช้ยาฆ่าเห็บผสมกับน้าผสมกับ
น้าราดตามบริเวณที่สุนัขอาศัยอยู่ด้วย การกาจัดสิ่งเหล่านี้จะต้องทาอย่างต่อเนื่องจึงจะประสบ
ความสาเร็จ
การเลี้ยงสุนัข
การทาหมัน
หากไม่ต้องการให้มีลูกสุนัขเกิดเกินจานวนที่จะเลี้ยงได้ หรือเพื่อเสี่ยงกับการผสม
พันธุ์ในครอกได้ลุกสุนัขผิดลักษณะควรทาหมันให้กับสุนัข นอกจากนั้น การทาหมันจะช่วย
ลดควมวุ่นวายเนื่องจากพฤติกรรมของสุนัขในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วยการทา
หมันสุนัขตัวผู้สามารถกระทาได้เมื่ออายุ 7-8 เดือนขึ้นไป สาหรับตัวเมียควรทาเมื่ออายุ 1 ปี
ขึ้นไป หรือหลังจากมีประจาเดือนครั้งแรกไปแล้ว 1 เดือน และไม่ควรทาหมันเมื่อสุนัขมีอายุ
มากแล้ว
การเลี้ยงสุนัข
การป้องกันโรค
ผู้เลี้ยงควรต้องมีเวลาให้กับสุนัข เพื่อทาความคุ้นเคยและศึกษาสุนัขแต่ละตัว ต้องคอยเอาใจใส่สังเกต
ความเป็นอยู่ การกินอาหาร การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ นอกจากนี้ควรจะต้องมีความรู้ พื้นฐานเกี่ยวกับสุนัข โรค
ต่างๆ เมื่อสุนัขเกิดอาการเจ็บป่วยจะได้นาไปรักษาได้ทันทีโรคที่เกิดกับสุนัขมีหลายชนิดและมักเกิดการระบาด
อยู่เสมอทุกปี หลายโรคอาจร้ายแรงทาให้สุนัขพิการหรือเสียชีวิต ทั้งอาจติดต่อถึงคนภายในบ้านด้วย การ
หมั่นเอาใจใสในตัวสุนัขและดูแลสุขภาพทั่วไปของสุนัขจึงเป็นฯการป้องกันโรคเบื้องต้นที่ดีที่สุด อาการของสุนัข
ที่เริ่มป่วยสังเกตได้จาก อาการเซื่องซึม , ไม่ร่างเริงแจ่มใส , ไม่กินอาหารหรือกินอาหารน้องลง , อาเจียน , มี
อาการท้องร่วง , ท้องผูก , ผอมลง , ขนหยาบกระด้าง , ผิวหนังเป็นผื่นแดง , ตาแฉะ , จมูกแห้งหรือมีน้ามูก
หากสุนัขมีอาการดังกล่าว ควรทาการรักษาหรือนาสุนัขไปหาสัตวแพทย์โรคสุนัขหลายโรคสามารถป้องกันได้
โดยการฉีดวัคซีนตามกาหนดเวลาที่เหมาะสม หลังการฉีดวัคซีนควรงดอาบน้าภายใน 1 สัปดาห์ เพราะสุนัขอาจ
มีไข้เล็กน้อยจากปฏิกิริยาต่อวัคซีน ดูแลให้สุนัขกินยาตามเวลาที่สัตวแพทย์กาหนด รวมทั้งควรแยกสุนัขตัวที่
ป่วยออกจากตัวปกติ สิ่งที่ช่วยให้สุนัขรอดพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บได้อีกประการหนึ่งคือ การรักษาความสะอาด
ทั้งของสุนัขและสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย กาจัดเห็บ หมัด ยุง หนู หรือทาลายแหล่งเพาะพันธุ์ของสัตว์ที่เป็น
พาหะเหล่านี้
การเลี้ยงสุนัข
กาหนดการปฏิบัติเพื่อป้องกันโรคของสุนัข
• 3 สัปดาห์ ตรวจอุจจาระและถ่ายพยาธิ
• 2 เดือน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดสุนัข โรคพาร์โวไวรัส เลปโตสไปโรซีส ตับอักเสบ
ติดต่อ
• 3 เดือน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และถ่ายพยาธิ
• 4 เดือน ฉีดซ้าเช่นเดียวกับเมื่ออายุ 2 เดือน
การเลี้ยงสุนัข
วิธีการสังเกตดูลักษณะของสุนัขที่ดี
• ส่วนหัวไม่มีรอยยุบ บวม หัวมีลักษณะสมดุลกัน
• ตา ทั้ง 2 ข้าง มีขนาดเท่ากันทั้ง 2 ข้าง มีประกาย สดใส สนใจในสิ่งแวดล้อม
• หู ตรงตามลักษณะของสายพันธุ์ รูปร่างได้ขนาด ไม่เป็นแผล
• จมูกชื้นเป็นมัน จับดูต้องเย็น เวลาเดินต้องดมกลิ่นไปด้วย
• ปากและฟันต้องไม่ฉีกหรือแหว่ง เหงือกสีชมพูสดใส ฟันมีการเรียงตัว เป็นระเบียบ
• ผิวหนังมีความยืดหยุ่น เวลาดึงผิวหนังขึ้นแล้วปล่อยต้องคลายตัวทันที ไม่มีรังแค
• ขนเป็นประกายเงางามอ่อนนุ่ม
• ลาตัว ควรเป็นทรงกระบอก อกมีกล้ามเนื้อแข็งแรง ไหล่ 2 ข้าง สมดุลกันท้องไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป
• ทวารหนัก ต้องไม่บวมหรือแดง ไม่ควรมีเศษอุจจาระติดโดยรอบ
• เท้าขนานกันเวลายืน ปลายเท้าไม่บิดเข้าหรือออก ปลายนิ้วไม่งุ้ม ขาหลังไม่ลาดเอียงเกินไป
• อวัยวะสืบพันธุ์ เพศผู้ต้องตรวจดูว่ามีลูกอัณฑะครบ 2 ข้าง เพศเมียต้องตรวจรูอวัยวะสืบพันธุ์ปกติ
• ท่าทางและอารมณ์ควรจะร่าเริง ขี้เล่น อยากรู้อยากเห็น
การเลี้ยงสุนัข
ครูที่ปรึกษาโครงงาน
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
( Mrs.Khueantong Moonwan )
วิทยฐานะ ชานาญการพิเศษตาแหน่ง ครู คศ.3
ผู้จัดทา
นางสาวรธิดา มากพันธ์ ม.6/15 เลขที่ 36
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยเชียงใหม่
อ้างอิง
• http://webboard.yenta4.com/topic/549777
• http://board.postjung.com/695944.html
• http://www.royalcanin.co.th/node_1083605/node_1083606/node_1083
611
• http://brightlives.th.88db.com/pets/pets_handle.htm
• http://www.dogilike.com/content/caring/
• http://www.petheng.com/index.php/dealer/dog-article/item/57-dog

More Related Content

Similar to สุนัข

โกลเด้น รีทรีฟเวอร์
โกลเด้น รีทรีฟเวอร์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์
โกลเด้น รีทรีฟเวอร์PongsaTorn Sri
 
การเลี้ยงสุนัข Note2
การเลี้ยงสุนัข Note2การเลี้ยงสุนัข Note2
การเลี้ยงสุนัข Note2
sukanya sutimol
 
สุนัขพันธุ์หายาก 01
สุนัขพันธุ์หายาก 01สุนัขพันธุ์หายาก 01
สุนัขพันธุ์หายาก 01
Ken ken
 
โครงงาน สายพันธุ์ของแมว
โครงงาน สายพันธุ์ของแมวโครงงาน สายพันธุ์ของแมว
โครงงาน สายพันธุ์ของแมว
Walk4Fun
 

Similar to สุนัข (7)

โกลเด้น รีทรีฟเวอร์
โกลเด้น รีทรีฟเวอร์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์
โกลเด้น รีทรีฟเวอร์
 
การเลี้ยงสุนัข Note2
การเลี้ยงสุนัข Note2การเลี้ยงสุนัข Note2
การเลี้ยงสุนัข Note2
 
Doc1
Doc1Doc1
Doc1
 
สุนัขพันธุ์หายาก 01
สุนัขพันธุ์หายาก 01สุนัขพันธุ์หายาก 01
สุนัขพันธุ์หายาก 01
 
งานSh
งานShงานSh
งานSh
 
โครงงาน สายพันธุ์ของแมว
โครงงาน สายพันธุ์ของแมวโครงงาน สายพันธุ์ของแมว
โครงงาน สายพันธุ์ของแมว
 
บีเกิล
บีเกิลบีเกิล
บีเกิล
 

More from victorploy

สุนัข 2
สุนัข 2สุนัข 2
สุนัข 2
victorploy
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่น
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่นโครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่น
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่น
victorploy
 
02 e
02 e02 e
01 e
01 e01 e
ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6victorploy
 

More from victorploy (10)

สุนัข 2
สุนัข 2สุนัข 2
สุนัข 2
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่น
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่นโครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่น
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่น
 
06 e
06 e06 e
06 e
 
05 e
05 e05 e
05 e
 
04 e
04 e04 e
04 e
 
03 e
03 e03 e
03 e
 
02 e
02 e02 e
02 e
 
01 e
01 e01 e
01 e
 
Blog
BlogBlog
Blog
 
ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6
 

สุนัข

  • 3. ที่มาและความสาคัญ เนื่องจากสุนัขเป็นสัตว์ที่นิยมเลี้ยงกันมาก เป็นสัตว์ที่น่ารัก อ่อนโยน เชื่อฟัง ไม่มีอันตรายกับผู้เลี้ยง เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย สุนัขมีหลากหลายสายพันธุ์และเป็นที่นิยม ได้แก่ ชิวาวา (Chihuahua) ปอมเมอเรเนียน (Pomerania) ชิสุ (Shih Tzu) ยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์ (Yorkshire Terrier) บีเกิล (Beagle) ฯลฯ และควรมีวิธีเลี้ยงและข้อแนะนาใน การเลี้ยงเพื่อที่จะเลี้ยงให้ถูกต้อง
  • 5. สุนัข หมา หรือภาษาทางการว่า สุนัข เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้านมหลายชนิดหลายสกุลในวงศ์ Canidae ออกลูก เป็นตัว ลาตัวมีขนปกคลุม มีเขี้ยว 2 คู่ เท้าหน้ามี 5 นิ้ว เท้าหลังมี 4 นิ้ว ซ่อนเล็บไม่ได้ อวัยวะเพศของสุนัขตัวผู้มี กระดูกอยู่ภายใน 1 ชิ้น สุนัขที่ยังคงเป็นสัตว์ป่า เช่น หมาใน (Cuon alpinus) สุนัขที่เลี้ยงเป็นสัตว์บ้าน คือ ชนิด Canis lupus familiaris สุนัขเป็นสัตว์ที่มีหลายพันธุ์ เช่น ลาบราดอร์, โกลเดินริทรีฟเวอร์, ชิวาวา และอีก มากมาย มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ดุและไม่ดุ พันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ เช่น โกลเด้น ลาบราดอร์ ที่มีขนาดเล็ก เช่น ชิวาวา ชิ สุ ส่วนที่ดุ ได้แก่ ร็อดไวเลอร์ อัลเซเชียน สุนัขแต่ละพันธุ์จะมีนิสัยแตกต่างกัน สุนัขพัฒนามาจากสัตว์กินเนื้อและล่าเหยื่อ ดังนั้นวิวัฒนาการของฟันสาหรับเคี้ยวเนื้อและกระดูกจึงยังคงมีอยู่ รวมทั้งการมีประสาทดมกลิ่นและตามล่าเหยื่อที่ดีมาก นอกจากนี้สุนัขยังมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงทาให้วิ่งได้เร็วและเร่ง ความเร็วได้เท่าที่ต้องการ ลักษณะการเดินของสุนัขจะทิ้งน้าหนักตัวบนนิ้วเท้า ซึ่งส่งผลให้สุนัขเคลื่อนไหวได้ คล่องแคล่วกว่าสัตว์ชนิดอื่น นอกจากนี้สุนัขยังมีสัญชาตญาณในการทางานเป็นกลุ่ม ดังนั้นสุนัขจึงสามารถล่าสัตว์ที่มี ขนาดใหญ่กว่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • 7. ประวัติ สุนัขมีต้นกาเนิดมาจากมนุษย์แถบขั้วโลกเหนือนามันมาเลี้ยงเมื่อประมาณ 12,000 ปีที่แล้วแล้ว เชื่อกันว่า สุนัข ป่าตัวแรกนั้น เกิดขึ้นเมื่อ 31,700 ปีก่อน การอพยพข้ามถิ่นและทวีปต่าง ๆ ทาให้สุนัขหลากหลายสายพันธุ์กาเนิดขึ้น สุนัขพันธุ์ที่เรียกได้ว่าเป็นสุนัขพันธุ์ต้นตระกูลคือพันธุ์สุนัขไซบิเรียนหรือหมาป่าที่มีอยู่อย่างแพร่หลายใน ปัจจุบัน ต่อมามีสุนัขป่าอีกพันธุ์หนึ่งที่มนุษย์นามากินมีชื่อภาษาละตินว่า เคนิสลูปัส (Canis lupus) ซึ่งแปลว่าสุนัขป่า สุนัขป่าชนิดนี้จะเชื่องกว่าสุนัขธรรมดา มีขนยาว หางเป็นแผง กระดูกแก้มโหนก และหางของมันจะเห็นชัดมากขึ้น มี นิสัยรักอิสระกว่าสุนัขป่า การค้นคว้าวิจัยและศึกษาเรื่องราวของสุนัข ได้มีขึ้นในประเทศอังกฤษ ในแถบยุโรปและอเมริกา แล้วจึง แพร่หลายไปในส่วนต่าง ๆ ของโลก ในสหรัฐอเมริกาได้มีการจัดตั้งเป็นสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขขึ้นในปี ค.ศ. 1 สุนัขพันธุ์ แท้ชนิดแรกที่ได้จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาคือ สุนัขพันธุ์อิงลิชเชสเตอร์กริว ในประเทศอังกฤษได้มีการรวบรวมกัน ตั้งสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขขึ้นเช่นกันในปี ค.ศ. 1859 (พ.ศ. 2402) ในครั้งแรกสมาคมนี้ได้รับรองให้จดทะเบียนสุนัขพันธุ์แท้ ได้ 40 สายพันธุ์ และได้จัดวิธีการสุนัขพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อความเหมาสมอีกหลายครั้ง ในปี ค.ศ. 1881 (พ.ศ. 2424) สมาคมนี้ ได้ให้การรับรองพันธุ์แท้ต่าง ๆ รวมเป็นจานวน 46 พันธุ์ การแก้ไขเพิ่มเติมการรับรองเป็นสุนัขพันธุ์แท้เป็นครั้ง สุดท้าย เมื่อปี ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2417) ได้มีสุนัขที่ให้การรับรองทั้งหมด 120 กว่าสายพันธุ์
  • 8. บรรพบุรุษ และ ที่มาของความเชื่อง วิวัฒนาการด้านโมเลกุลของสุนัขชี้ให้เห็นว่าสุนัขเลี้ยงนั้น (Canis lupus familiaris) สืบทอดมาจากจานวนประชากร หมาป่า (Canis lupus) เพียงตัวเดียวหรือหลายตัว สะท้อนให้เห็นถึงการตั้งชื่อพวกมัน สุนัขสืบทอดจากหมาป่าและสุนัข ธรรมดาสามารถผสมข้ามพันธุ์กับหมาป่าได้ด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสุนัขนั้นถูกฝังลึกในด้านโบราณคดีและหลักฐานที่ตรงกันชี้ให้เห็นช่วงเวลาของการ ทาให้สุนัขเชื่องในยุคหินใหม่ ใกล้ ๆ กับขอบเขตของช่วงเพลสโตซีนและโฮโลซีนในระหว่าง 17,000 - 14,000 ปีมาแล้ว ซาก กระดูกฟอสซิลและการวิเคราะห์ยีนของสุนัขในยุคอดีตกับปัจจุบัน และประชากรหมาป่ายังไม่ถูกค้นพบ สุนัขทั้งหมดสืบอายุ อาจเกิดจากเหตุการณ์ที่ทาให้เชื่องด้วยตัวเองหรือไม่ก็ได้ถูกทาให้เชื่องด้วยตัวมันเองในพื้นที่มากกว่าหนึ่งพื้นที่ สุนัขที่ถูก เลี้ยงให้เชื่องแล้วอาจจะผสมข้ามพันธุ์กับประชากรหมาป่าที่อยู่ในถิ่นนั้น ๆ ในหลาย ๆโอกาส กระบวนการนี้รู้จักในทางทาง พันธุศาสตร์ว่า อินโทรเกรสชัน (Introgression) ในยุคแรก ๆ ฟอสซิลสุนัข กะโหลก 2 จากรัสเซียและขากรรไกรล่างจากเยอรมนี พบเมื่อ 13,000 ถึง 17,000 ปี มาแล้ว บรรพบุรุษของมันเป็นหมาป่าโฮลาร์กติก (Canis lupus lupus) ซากศพของสุนัขตัวเล็กจากถ้าของสมัยวัฒนธรรมนา ทูเฟียนของยุคหินได้ถูกเก็บไว้ในแถบตะวันออกกลาง มีอายุราว 12,000 ปีมาแล้ว เข้าใจว่าเป็นทายาทมาจากหมาป่าในแถบ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภาพศิลปะบนหินและซากกระดูกชี้ให้เห็นว่า เป็นเวลากว่า 14,000 ปีมาแล้วที่สุนัขในที่นี้กาเนิดจาก แอฟริกาเหนือข้ามยูเรเชียไปถึงอเมริกาเหนือ หลุมฝังศพสุนัขที่สุสานยุคหินของเมืองสแวร์ดบอร์กในประเทศเดนมาร์กทา ให้นึกไปถึงในยุคยุโรปโบราณว่าสุนัขมีค่าเป็นถึงเพื่อนร่วมทางของมนุษย์
  • 9. การวิเคราะห์ทางยีนได้ให้ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เหมือนกันมาจนถึงทุกวันนี้ วิล่า ซาโวไลเนน และ เพื่อนร่วมงาน พ.ศ. 2540 สรุปว่าบรรพบุรุษของสุนัขได้แยกออกจากหมาป่าชนิดอื่น ๆ มาเป็นเวลาระหว่าง 75,000 ถึง 135,000 ปีมาแล้ว เมื่อผลการวิเคราะห์ที่ตามมาโดยซาโวไลเนน พ.ศ. 2545 ชี้ให้เห็น เผ่าพันธุ์ ดั้งเดิมจากกลุ่มยีนสาหรับประชากรสุนัขทั้งหมด ระหว่าง 40,000 ถึง 15,000 ปีมาแล้ว ในเอเชีย ตะวันออก เวอร์จีเนลลี่ พ.ศ. 2548 แนะนาว่าอย่างไรก็ดี ช่วงเวลาของทั้งคู่จะต้องถูกประเมินผลอีกครั้งใน การค้นพบเมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นว่า นาฬิกาโมเลกุลแบบเก่าที่ใช้วัดเวลานั้นได้กะเวลายุคสมัยของ เหตุการณ์ทางธรณีวิทยาเกินความจริง โดยในความจริง และในการเห็นพ้องกันว่าด้วยเรื่องหลักฐานทาง โบราณคดี เป็นเวลาเพียง 15,000 ปีเท่านั้นที่ควรจะเป็นช่วงชีวิตสาหรับความหลากหลายของของสุนัข หมาป่า สหภาพโซเวียตเคยพยายามนาสุนัขจิ้งจอกมาเลี้ยงให้เชื่อง เช่นในสุนัขจิ้งจอกเงิน และสามารถนา มันมาเลี้ยงได้เพียงแค่ 9 ชั่วอายุของมันหรือน้อยกว่าอายุขัยของมนุษย์ นี่ยังเป็นผลในการเปลี่ยนแปลง ด้านอื่น เช่น สี ที่จะกลายเป็นสีดา สีขาว หรือสีดาปนขาว พวกมันได้พัฒนาความสามารถในการขยายพันธุ์ ตลอดปี หางที่โค้งงอมากขึ้น และหูที่ดูเหี่ยวย่น บรรพบุรุษ และ ที่มาของความเชื่อง
  • 11. สุนัขเล่นกีฬา สุนัขเล่นกีฬา (Sporting Dogs) เป็นสุนัขพันธุ์ที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อเป็นผู้ช่วยในการล่าสัตว์โดยเฉพาะ มีหน้าที่ การค้นหาเหยื่อ และนาเหยื่อกลับมาให้เจ้าของ เราสามารถแบ่งสุนัขเล่นกีฬาได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้ สเปเนี่ยน เป็นพันธุ์สุนัขที่มีรูปร่างขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป เฉลียวฉลาด จมูกรับกลิ่นได้ดี ลักษณะเด่นคือ หูยาวตูบ แบ่งย่อยได้เป็น 2 กลุ่มคือ พันธุ์ที่ใช้ล่าสัตว์ และพันธุ์ขนาดเล็ก (ปัจจุบันจัดอยู่ในกลุ่มสุนัขที่เลี้ยงไว้ดูเล่น) ในขณะที่มันออกล่าสัตว์ เมื่อมันพบเหยื่อ มันจะพุ่งเข้าโจมตีเหยื่อทันที พอยน์เตอร์ และเซทเตอร์ เป็นพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าสเปเนี่ยน ขายาว หูตูบ และจมูกรับกลิ่นได้ดี รีทรีฟเวอร์ เป็นสุนัขที่เป็นมิตร แข็งแรง มีโครงสร้างดี และ มีความเชี่ยวชาญในการล่าสัตว์ มันถนัด การ ค้นหา และนาเหยื่อกลับมาให้เจ้าของ มันมักจะทางานร่วมกับสุนัขพันธุ์สเปเนียน นอกจากนี้ รีทรีฟเวอร์ยังสามารถ ว่ายน้าได้ดี มันจึงมักถูกใช้ในการล่าสัตว์ปีกที่บินอยู่เหนือน้า เช่น ห่านป่า เป็นต้น ลักษณะทั่วไปและ การล่าเหยื่อ
  • 12. สุนัขเทร์เรียร์ สุนัขเทร์เรียร์ (Terriers) เป็นสุนัขขนาดเล็ก ต้นกาเนิดอยู่ในประเทศอังกฤษ มีนิสัยชอบดมกลิ่น อยากรู้อยากเห็น ตาม รอย และขุดหาสิ่งที่สงสัย มันจึงกลายเป็นผู้ช่วยในการล่าสัตว์ สุนัขเทอร์เรียจะทาหน้าที่ตามรอยสัตว์ป่า เช่น กระต่าย หนู แบด เจอร์ หมาป่า เมื่อพบแหล่งที่อยู่อาศัยของเหยื่อ มันจะมุดลงไปในรูนั้น ทาให้สัตว์เหล่านั้นตกใจและวิ่งออกมาจากรัง เพื่อให้คนตาม ล่าต่อไป แม้เทร์เรียร์จะเป็นสุนัขที่มีขนาดเล็ก ขาสั้น แต่เคลื่อนไหวได้อย่างว่องไว มีความมานะอดทน บากบั่น กล้าหาญ ทาให้มัน เคยถูกใช้เป็นสุนัขสงคราม แต่ปัจจุบันนิยมนามาเลี้ยงเป็นเพื่อนเล่นในบ้าน สุนัขเทร์เรียร์แยกย่อยได้อีกหลายสายพันธุ์ อาจแบ่ง เทร์เรียร์เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามลักษณะของขน ได้แก่ พันธุ์ขนเรียบและสั้น เช่น ฟอกซ์ เทร์เรียร์ขนสั้น พันธุ์ขนหยาบและ ยาว เช่น สก็อตทิช เทร์เรียร์ และ เคอรีบูล เทร์เรียร์ เป็นต้น บนเกาะอังกฤษนั้น มีสุนัขเทร์เรียร์อีกมากมายหลายสายพันธุ์ กระจายไปตามท้องที่ต่าง ๆ แต่ส่วนหนึ่งได้กลายพันธุ์ไป เหลือแต่สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม เช่น ฟ็อกซ์ เทร์เรียร์, บูล เทร์เรียร์, แบดลิงตัน และ แมนเชสเตอร์ เทร์เรียร์ จากเกาะ อังกฤษ ลักษณะทั่วไปและ การล่าเหยื่อ
  • 13. สุนัขทางาน สายพันธุ์สุนัขทางาน (Working dogs) ได้จากการที่มนุษย์พบว่าสุนัขเป็นสัตว์ที่มีความสามารถเกินกว่าที่คาด ไว้ มันมีความฉลาด แข็งแกร่ง ว่องไว มานะอดทน สายตาดี และติดตามกลิ่นได้อย่างดีเยี่ยม สุนัขจึงถูกคัดเลือกพันธุ์ เพื่อใช้งาน นอกเหนือจากการล่าสัตว์ จึงได้สายพันธุ์นี้ ที่มีลักษณะเด่น แตกต่างกันไปและมีทักษะที่หลากหลาย มนุษย์นาสุนัขมาใช้งาน เป็นเวลานับร้อยปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เลี้ยงเพื่อเฝ้ายาม สารวจหาระเบิดในสงคราม ต้อนฝูงสัตว์ ลากสัมภาระ ตามรอยหาผู้ร้าย และ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปัจจุบันยังมีสุนัขที่ถูกฝึกเลี้ยงไว้เพื่อเป็นผู้ช่วยตารวจ นาทางให้กับคนพิการด้านสายตา ตรวจค้นยาเสพ ติด แก๊สรั่ว วัตถุระเบิด และช่วยเหลือผู้พิการด้านการได้ยินอีกด้วย ตัวอย่างของสายพันธุ์สุนัขตารวจ ได้แก่ บ็อกเซอร์ , พินซ์เช่อร์, โดเบอร์แมน, รอทไวเลอร์ เยอรมันเชพเพิร์ด, เกรดเดน เป็นต้น ลักษณะทั่วไปและ การล่าเหยื่อ
  • 14. ยังมีสุนัขทางานอีกกลุ่มหนึ่งที่ทาหน้าที่เป็นผู้ช่วยของชาวไร่ชาวนา เช่น คอลลี, พูลิ, โอลด์ อิงลิช ชีพด็อก, เยอรมันเชพเพิร์ด, เช็ทแลนด์ ชีพด็อก และ คอร์กี้ โดยสุนัขพวกนี้ จะคอยช่วยเหลือชาวไร่ ในการเฝ้าดูแลฝูงปศุ สัตว์ เนื่องจากพวกมันช่วยชาวไร่ทางานได้ดีมาก ดังนั้น เกือบทุกประเทศที่มีการเลี้ยงสัตว์ จะมีการพัฒนา สายพันธุ์ สุนัขต้อนสัตว์ จนได้พันธุ์สุนัขประจาถิ่นของตนเอง เช่น คอลลี จากสก็อตแลนด์ พูลิ จากฮังการี และ คอร์กี้ จาก เวลส์ เป็นต้น สุนัขเป็นสัตว์ที่มีความอดทน และแข็งแกร่ง จนสามารถช่วยมนุษย์ทางานหนัก ๆ ได้ นอกจากนี้ ประเทศใน เขตอากาศหนาวมาก ๆ ซึ่งการเดินทาง เป็นไปด้วยความยากลาบาก ยังใช้สุนัข เช่น อะลาสกัน มาลามูท, ไซบีเรียน ฮัสกี้ และ ซามอยด์ เพื่อเป็นพาหนะเดินทาง โดยสามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 160 กิโลเมตร ในเวลา 18 ชั่วโมง สุนัขแต่ละตัวมักจะมีความสามารถเฉพาะอย่าง มนุษย์มักใช้สุนัขทางานอีกหลายประเภท โดยสุนัขบางพันธุ์ ถูกฝึกเพื่อทางานเฉพาะอย่าง เช่น สุนัขเซนต์ เบอร์นาร์ดถูกฝึกให้ค้นหา และนาบรั่นดีไปให้กับผู้หลงทางใน หิมะ เบอร์นีส เมาน์เทน ช่วยลากเลื่อนที่บรรทุกนมและเนยไปส่งที่ตลาด โปรตุกีส วอเทอร์ ด็อก ช่วยดาน้างมหา อวนและเครื่องมือหาปลาที่ตกน้า หรือแม้กระทั่งปลาที่หลุดออกไปจากอวน นอกจากนี้ ยังมีสุนัขที่ทาหน้าที่ ประหลาดที่สุด คือ สุนัขพันธุ์นอร์วีเจียน ลุนเดฮันด์ กลายเป็นสุนัขที่ใช่ในการล่านก โดยถูกฝึกมาให้ทางานใน ถ้า หรือหน้าผาที่สูงชัน เพื่อจู่โจมกับรังนกพัฟฟินอีกด้วย ลักษณะทั่วไปและ การล่าเหยื่อ
  • 15. สุนัขตุ๊กตา สุนัขตุ๊กตา (Toy Dogs) เป็นสุนัขตัวเล็กๆ เดิมเป็นสุนัขตัวใหญ่ แต่ถูกพัฒนาพันธุ์จนกลายเป็นสุนัข ตัวเล็ก สุนัขประเภทนี้เหมาะสาหรับ เลี้ยงไว้แก้เหงา มันสามารถแก้เหงาให้กับคนชราที่ถูกทอดทิ้ง คน ป่วย รวมไปถึงเด็ก ๆ ให้หายจากความโดดเดี่ยว สุนัขตุ๊กตาถือกาเนิดขึ้นมาเมื่อหลายพันปีมาแล้ว โดยเมื่อ 4,000 ปีก่อน สุนัขสิงโต (Lion Dogs) ที่ หน้าตาคล้าย ๆ กับ สุนัขปักกิ่งในจีน และพบแลปด็อกส์ ที่โด่งดังในกลุ่มชาวโรมัน ในสมัยก่อนนั้น สุนัข ตุ๊กตาเป็นที่นิยมมากในกลุ่มผู้หญิง และเด็ก ๆ ในสังคมชั้นสูง แม้ว่าสุนัขตุ๊กตาจะตัวเล็ก แต่มันก็ยังมีสัญชาตญาณของสุนัขอยู่ครบถ้วน มันพร้อมที่จะปกป้อง เจ้านาย และบ้านที่มันอาศัยอยู่ โดยการเห่าเสียงดัง ๆ หรือร้องครวญคราง เพื่อเตือนเมื่อมีผู้บุกรุก และ บางตัวอาจจู่โจมผู้บุกรุกก็มี สุนัขแต่ละตัวมักจะมีความสามารถเฉพาะอย่าง มนุษย์มักใช้สุนัขทางานอีกหลายประเภท โดยสุนัข บางพันธุ์ถูกฝึกเพื่อทางานเฉพาะอย่าง ลักษณะทั่วไปและ การล่าเหยื่อ
  • 16. สุนัขอเนกประสงค์ สุนัขอเนกประสงค์ (Non Sporting) เป็นสุนัขนานาประโยชน์ตามแต่เจ้าของจะ ใช้งาน สุนัขพวกนี้หลาย ๆ พันธุ์มีผู้นิยมซื้อมาเลี้ยงกันมาก อย่างเช่น สุนัขพันธุ์ดัล เมเชี่ยน เป็นต้น เนื่องจากเป็นสุนัขที่ประโยชน์ใช้สอยที่ไม่ธรรมดา สุนัขพันธุ์ลาซา แอพโซ เป็นสุนัขที่ลามะในธิเบตเลี้ยงไว้เพื่อป้องกันภัย และถือว่าเป็นสัญลักษณ์ แห่งโชคลาภ สาหรับสุนัขพันธุ์เชาเชา ซึ่งถือกาเนิดในมองโกเลียเมื่อ 3,000 ปีก่อน ในช่วงแรก ๆ เป็นสุนัขที่ถูกใช้ในสงคราม แต่ต่อมากลับถูกชาวจีนฆ่าเพื่อเป็นอาหาร และนาเอาขนของมันไปทาเครื่องนุ่งห่ม ลักษณะทั่วไปและ การล่าเหยื่อ
  • 17. ลักษณะทางกายภาพ การผสมพันธุ์สุนัขสมัยใหม่ได้แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในเรื่องของขนาด รูปร่างหน้าตา และพฤติกรรมมากกว่าสัตว์เลี้ยงในบ้านชนิดอื่นๆ สุนัขจะได้คุณสมบัติ ต่าง ๆ จากบรรพบุรุษของมัน ซึ่งก็คือหมาป่า สุนัขเป็นผู้ล่าและสัตว์ที่ชอบคุ้ยหาของ ตามกองขยะ มันมีฟันที่แหลมคมและฟันเขี้ยวที่แข็งแรงสาหรับจู่โจม จับถือและฉีก อาหารของพวกมัน แม้ว่าการผสมพันธุ์ที่เลือกไว้เพื่อขยายพันธุ์ได้เปลี่ยนแปลง ภาพลักษณ์ของการผสมพันธุ์ต่าง ๆ สุนัขทุกตัวจะจดจาคุณสมบัติต่าง ๆ จากบรรพ บุรุษรุ่นแรก ๆ เหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้านมที่กินสัตว์เป็นอาหารอื่น ๆ ทั่วไป สุนัข มีกล้ามเนื้ออันทรงกาลัง กระดูกข้อเท้าที่ต่อเข้าด้วยกัน มีระบบหัวใจและหลอดเลือดที่ คอยช่วยให้สุนัขวิ่งได้ดีและมีความอดทนอดกลั้น และมีฟันที่ใช้สาหรับจับและฉีกอาหาร ไม่เหมือนกับมนุษย์ที่เดินด้วยฝ่าเท้า แต่สุนัขเดินด้วยฝ่ามือและฝ่าเท้าพร้อม ๆ กัน
  • 18. สติปัญญาและ พฤติกรรม สุนัขแต่ละตัวและแต่ละสายพันธุ์ มีสัญชาตญาณของตนเอง นับตั้งแต่เริ่ม กระบวนการเปลี่ยนแปลง จากสุนัขป่ามาเป็นสุนัขเลี้ยง ได้มีการคัดเลือกและพัฒนา สายพันธุ์สุนัขสืบทอดกันมามากกว่า 4,000 ชั่วอายุ ทาให้ลักษณะร่างกายของสุนัข หลายสายพันธุ์ เปลี่ยนแปลงไปจากบรรพบุรุษของพวกมันอย่างมาก แต่สุนัขแต่ละ สายพันธุ์ยังคงรักษาลักษณะพฤติกรรมของสุนัขป่าที่มันเคยเป็นไว้ได้ไม่มากก็น้อย ทั้งสุนัขป่าและสุนัขเลี้ยงมีวิธีสื่อสารโดยการเห่า การใช้ภาษากาย และสัญชาตญาณใน การรวมกลุ่ม ทั้งนี้สุนัขมีพฤติกรรมให้การสร้างอานาเขตของมัน เช่น การฉี่รดตามที่ ต่าง ๆ เพื่อบอกว่าตรงนี้เป็นเจ้าของ และการเดินเป็นวงกลมก่อนนอนเพื่อกระจายกลิ่น ตัวไปรอบ ๆ และกาหนดอาณาเขตไม่ให้สัตว์ตัวอื่นเข้ามารบกวน และสุนัขยังเป็นสัตว์ที่ มีนิสัยขี้เล่นขี้อ้อน
  • 20. นิสัย ปั๊ก เป็นสุนัขหน้า ตายับย่นที่มีเสน่ห์สุดบรรยาย “ปั๊ก” เป็นสุนัขเก่าแก่ที่สุดพันธุ์ หนึ่ง ว่ากันว่าเคยเป็นสุนัขในพระราชสานักยุคพระนางซูสีไทเฮา “ปั๊ก” ติดคนรักและเจ้าของ ชนิดนั่งมองหน้าได้กันเป็นวัน อายุยืน เหมาะที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน แต่แพ้อากาศร้อน จึงไม่ เหมาะจะเลี้ยงไว้นอกบ้าน
  • 21. โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ หากคุณต้องการมีสุนัขที่รักคุณแบบมอบ กายถวายชีวิต คุณ จะต้องเลือก”โกลเด้น รีทรีฟเวอร์” เพราะแววตาที่เขามองคุณนั้นเปี่ยมล้นด้วยความรัก มีขน สีทองสลวย รูปร่างสง่างาม ฉลาด ฝึกง่าย กระตือรือร้น แต่เฝ้าบ้านไม่ได้เพราะเป็นมิตรกับ ทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งขโมย นิสัย
  • 22. ไซบีเรียน ฮัสกี้ สุนัขสัญชาติรัสเซีย มีขนสวยและหนา ตาแปลกและสวยมาก รูปร่างสง่า งาม ปราดเปรียว ว่องไว รักอิสระ ไม่ชอบถูกกักขังและมีพลังงานเหลือเฟือ หากคิดจะเลี้ยงพันธุ์นี้ ต้องมีอาณาบริเวณให้เค้าวิ่ง และรั้วรอบขอบชิดพอสมควร ไม่งั้นเขาอาจหนีออกจากบ้านได้ นิสัย
  • 23. บาสเซ็ทฮาว เป็นสุนัขขนาดกระทัดรัด หูยาว ขาสั้น เมื่อเทียบกับขนาดลาตัว มีขน 2-3สี นิสัยร่าเริง รักอิสระมองโลกสดใส ถ้าไม่ได้เจ็บป่วยจริงจะไม่เห็น บาสเซ็ทฮาว ซึมเศร้าเลย จึงเหมาะที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน นิสัย
  • 24. เวสตี้ เป็นสุนัขสีขาวยอดนิยม แต่มีไม่มากนัก มีเสน่ห์ ร่าเริง น่ารัก ช่างประจบและ ขนาดเล็ก น้าหนัก โตสุดไม่เกิน 8 กก. เวสตี้เป็นหมาติดคนอย่างมาก จัดเป็นสุนัขที่เป็นได้ ทั้งเพื่อนและอารักขา (แบบจุ๋มจิ๋ม) เพราะหูไว เห่าเก่ง (แต่ไม่พร่าเพื่อ) นิสัย
  • 25. ชิวาวา เป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่สุด จึงนิยมใส่กระเป๋าพกติดตัวไปทุกที่ เห็นตัวเล็กอย่างนี้ ลักษณะเด่นคือ ความสง่างาม คล่องแคล่วว่องไวและตื่นตัวตลอดเวลา นิสัย
  • 26. เฟรนซ์ บลูด๊อก สุนัขสัญชาติฝรั่งเศส ขนาดกระทัดรัด แข็งแรง มีหูคล้ายค้างคาว นิสัยขี้เล่น หนังบริเวณลุกกระเดือกค่อนข้างย่น ขนมีหลายสี ทั้งน้าตาล ขาว ขาว-น้าตาล ขนสั้นนุ่ม น่ากอดน่าสัมผัส ถ้าปล่อยให้อ้วนมักมีปัญหาทางเดินหายใจ นิสัย
  • 27. บิชอง ฟริเซ่ นิสัยร่าเริงแจ่มใส ขนสีขาวปุกปุยเหมือนปุยเมฆ น้าหนักเพียง 3-6กก. นิสัย
  • 28. ชิสุ มีความโดดเด่นที่ขนสวย แต่งทรงได้หลากหลาย มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง ไม่ ชอบการฝึกสอน ชอบให้คุณมาอุ้มมากกว่าที่จะเดินไปให้อุ้ม คุณต้องอ้อนเค้า…ไม่ใช่รอให้เขา มาอ้อนคุณ นิสัย
  • 29. บีเกิ้ล กินเก่ง แบบยอมตายดีกว่าจะอด และมีจมูกดมกลิ่นเป็นเลิศ และมักจดจ่อต่อ กลิ่นที่สนใจเป็นเยี่ยม เป็นสุนัขยอดนิยมในอเมริกา (และเราจาได้ว่าเป็นพระเอกหนังเรื่อง Under Dog ด้วยนะ) นิสัย
  • 30. ลาบาดอร์ รีทรีฟเวอร์ มีนิสัยตอบสนองเร็ว เป็นมิตร สงบ เรียบร้อย ซื่อสัตย์ ฉลาด รักเจ้าของ นิยมนามาฝึกให้นาคนตาบอด และทาหน้าที่ได้มีประสิทธิภาพ โครงสร้างบึกบึน น่าเกรงขาม นิสัย
  • 31. ปอมเมอเรเนียน มีขนหนาหลายชั้น ร่าเริง ฉลาดขี้อ่อน อยากรู้อยาก เห็น แววตาแสดงถึงความฉลาดอย่างชัดเจน นิสัย
  • 32. อัลเซเชี่ยน(เยอรมันเชพเพิด) เป็นสุนัขที่ฉลาด เป็นมิตร การฝึกให้เชื่อ ฟังคาสั่งตั้งแต่เล็กจะช่วยดึงความสามารถพิเศษของเค้าออกมา นิสัย
  • 33. บลูด็อก เป็นสุนัขที่มีกาลังมากและตัวใหญ่ เป็นสุนัขที่มีเสน่ห์ เชื่อง ฉลาด อดทน มี ขนสั้นตรง นุ่ม มีสีน้าตาล-ขาว น้าตาล-แดง หรือหลายสีปนกัน เช่น น้าตาลมีปื้นขาว นิสัย
  • 34. ร็อตไวเลอร์ มีสีดาตลอดตัว อาจมีสีน้าตาลปนเข้มบ้างเล็กน้อย มีโครงสร้างแข็งแรงมาก เป็นสุนัขที่ ฉลาด ฝึกง่าย และรักที่จะทางาน มีนิสัยมุ่งมั่นหวงแหนเขตแดนอย่างมาก จึงมักมีอารมณ์ดุร้ายได้หากโดน แกล้งหรือแหย่ให้โมโห แต่ถ้าเลี้ยงแบบให้ความรักเค้าและอ่อนโยนต่อเค้า คุณก็จะได้อารมณ์เยี่ยงนั้นกลับมา เป็นทวีคูณ นิสัย
  • 35. พุดเดิ้ล เป็นสุนัขที่นิยมเลี้ยงในบ้านเรา ทั้งพุดเดิ้ลทอย และทีคัพ นิสัยคล้ายกันทั้ง 2 พันธุ์ คือขี้อ้อน เรียกร้องความรักสุดๆ และมีความรักให้เจ้าของเหลือเฟือ มีขนหยิกหนา คนเลี้ยงจะสนุกกับการทา grooming สีทีนิยมมีทั้งขาว น้าตาลและดา นิสัย
  • 36. มอลทิส เป็นสุนัขตระกูลทอย เหมาะสาหรับคนที่ชอบสุนัขแบบคุณหนู เพราะตัวเล็ก อ้วนกลม ขาวสะอาดแต่ไม่บอบบาง ตรงข้ามกลับเป็นสุนัขเลี้ยงง่าย มีขนละเอียดอ่อนเหมือน สาลีผสมไหม หน้าหวาน ตาโต เลี้ยงเป็นเพื่อนได้ดี แต่เฝ้าบ้านไม่ได้เพราะแทบไม่เห่าและไม่ ระแวงใครเลย นิสัย
  • 38. ที่อยู่ของลูกสุนัข ลูกสุนัขต้องการที่อยู่ที่เป็นส่วนตัว หากล่องหรือที่นอนสาหรับสุนัขไว้ในคอกที่อบอุ่นและมีมุมที่ไม่ มีลมโกรก (กรงสุนัขที่ใช้ในเวลาการเดินทางจะได้เปรียบ เพราะสามารถนามาใช้ได้ตลอดอายุขัยของเขา ถ้าจะซื้อมาใช้ ต้องให้มีขนาดใหญ่พอเมื่อเขาโตเต็มที่) เขาจะใช้กรงเป็นสถานที่พักผ่อนนอนหลับและรู้สึก ปลอดภัยและอุ่นใจ เอากล่องกระดาษหรือกล่องไม้วางด้านข้างลงทาเป็นเตียงนอนที่มิดชิด เขาก็จะยิ่งรู้สึก ปลอดภัย เหตุผลก็คือว่า บรรพบุรุษซึ่งคล้ายกับหมาป่าของเขาเคยอาศัยถ้าเป็นบ้านพัก โดย สัญชาตญาณลูกสุนัขก็จะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยในที่ที่คล้ายกับถ้า อาจจะปูพื้นด้วยผ้าเช็ดตัว หรือผ้าห่ม เก่าๆที่อยู่ของเขาก็จะสมบูรณ์แบบ เมื่อเขาอยู่ในที่ของเขา อย่าได้รบกวนหรือดึงตัวเขาออกมา ควรให้เขา ออกมาเองอย่าให้เด็กๆ รบกวนหรือเย้าแหย่เขาเล่น เขาต้องการความรู้สึกปลอดภัยถ้าเขาอยู่ในที่ของเขา อย่ากักขังเขาในกรงเป็นเวลานานๆ ถ้าเขาทาอะไรผิดก็อย่าได้ไล่เขาเข้าไปในกรง การทาอย่างนั้นจะทาให้ เขารู้สึกว่ามันเป็นที่ทาโทษเขา แทนที่จะเป็นสถานที่พักที่มีความสุขสบาย คุณควรจะรู้สึกสบายใจที่ลูก สุนัขมีที่ของตัวเอง เขาจะไปงีบหรือขดตัวนอนอย่างมีความสุขตลอดคืน โดยไม่เห่าหรือร้องคราง และคุณ ก็รู้ว่าเขาจะไม่ก่อความเดือดร้อนให้แม้คุณจะไม่คอยเฝ้าดูเขาก็ตาม การเลี้ยงสุนัข
  • 39. การเคี้ยว ฟันของลูกสุนัขจะขึ้นอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 3 ถึง 6 เดือน ในช่วงนี้ควรจะให้ อะไรเขาเพื่อขบเคี้ยว เพื่อช่วยในการ ขึ้นของฟัน ลูกสุนัขจะกัดสิ่งของโดยไม่เลือก เขาไม่รู้ว่านั่นคือรองเท้าคู่ที่ดีที่สุดของคุณ หรือมันคือขาโต๊ะที่เป็นวัตถุโบราณ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่เกิดจากลูกสุนัข ขอแนะนาให้หาของขบเคี้ยวที่ไม่แตกหักหรือเป็นภัยกับลูกสุนัขเพื่อจะขบ เคี้ยวเล่น เช่น ลูกบอลยางที่โตและแข็งพอที่เขาจะกลืนไม่ได้ หรืออาจจะเป็นกระดูกเทียม คุณอาจจะให้รองเท้าเก่าๆ หรือ วัสดุที่มีรูปร่างคล้ายรองเท้าเหมือนของคน เพราะสุนัขคิดว่าจะเป็นรองเท้าอะไรก็ได้ทั้งนั้นเพื่อความสนุกสนาน อย่าให้ กระดูกจริงทั้งสุกและดิบก็ตาม เพราะกระดูกแตก ทาให้เกิดบาดแผลในปากหรือติดคอในขณะที่เขากลืนเศษกระดูกเข้าไป หาทางทาให้กระดูกเทียมและลูกบอลเป็นที่ดึงดูดสาหรับลูกสุนัข โดยที่คุณนาสิ่งเหล่านั้นมาเล่นเกมส์กับเขา เมื่อไรก็ตาม หากลูกสุนัขเขาเริ่มจะกัดแทะสิ่งของที่ต้องห้ามก็รีบนากระดูกเทียมหรือลูกบอลให้แทน ออกคาสั่งว่า "อย่า" อย่างขึงขังแล้ว นาสิ่งของที่มีค่าออกห่างจากเขา เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มกัดแทะของที่เราให้เขา ก็ให้กล่าวชมความประพฤติที่ดี แล้วจะรู้สึกว่าจะมี การตอบสนองอย่างมีความสุข ช่วยให้ลูกสุนัขให้อยู่ห่างไกลจากสิ่งที่เป็นโทษ เป็นต้นว่า น้ายาทาความสะอาดทินเนอร์ สารเคมีที่ใช้ในบ้านเรือน และสิ่งของที่มีอันตราย โดยเก็บสิ่งเหล่านั้นในตู้ที่ล็อกกุญแจได้ การเลี้ยงสุนัข
  • 40. การฝึกในบ้าน ควรฝึกลูกสุนัขโดยทันที เริ่มจากการให้อาหารลูกสุนัขเป็นเวลาและพาออกไป เที่ยวนอกบ้านบ่อยๆ ถ้าหากคุณเลี้ยงลูกสุนัขของคุณด้วยอาหารของลูกสุนัขของยูคานู บาหรืออามส์สาหรับลูกสุนัข จะพบว่าเวลาในการฝึกจะสั้นลงเนื่องจากการให้อาหารและ การขับถ่ายจะเป็นกิจวัตรจะมีสิ่งบอกเหตุซึ่งคุณคุณต้องคอยสังเกตว่า ถึงเวลาที่จะต้อง นาลูกสุนัขออกไปนอกบ้าน ในกรณีที่ลูกสุนัขเดินไปตามพื้นเป็นรูปวงกลม นั่งหรือร้อง ครางอยู่ที่ประตู หรือถ้าคุณมองเห็นสุนัขของคุณมองคุณด้วยสายตาวิงวอน และกระวน กระวาย นั่นแสดงว่าเป็นเวลาที่คุณควรจะนาเขาออกไปข้างนอกหลังจากที่ลูกสุนัข ปัสสาวะเสร็จ ให้ชมเขาอย่างเงียบๆ แล้วนาเขาเข้ามาในบ้านในไม่ช้าเขาก็จะเชื่อมโยงการ ปัสสาวะนอกบ้านกับคาชมเชยของคุณ การเลี้ยงสุนัข
  • 41. ความพร้อมในการเลี้ยงสุนัข ความพร้อมของสถานที่ การเลี้ยงสุนัขต้องมีสถานที่หรือบริเวณสาหรับให้สุนัขวิ่ง เล่นออกกาลังกายบ้าง อย่าปล่อยให้สุนัขอยู่ในที่แคบ สิ่งแวดล้อมไม่ดี มันจะรู้สึกซึมและ ส่งเสียงคราง อุปนิสัยผิดไป ดังนั้นผู้เลี้ยงสุนัขควรคานึงถึงสิ่งแวดล้อมและสถานที่ให้ พอเหมาะกับสุนัขด้วย ความพร้อมของผู้เลี้ยง ผู้เลี้ยงควรสารวจตัวเองเสียก่อนกว่า ชีวิตความเป็นอยู่เป็น อย่างไร และมีเวลาให้กับสุนัขหรือไม่ เช่น ถ้าสถานที่แคบไม่มีบริเวณที่จะปล่อยให้สุนัข วิ่งเล่น แต่อยากจะเลี้ยงสุนัขมากจึงขังกรงเอาไว้ ก็จะไม่ได้อะไรขึ้นมา ผู้เลี้ยงจะได้รับ เพียงเสียงเห่าที่หนวกหูเท่านั้น ผู้เลี้ยงต้อยมีเวลาพามันออกกาลังวิ่งเล่นบ้าง คอย ฝึกสอนบางสิ่งบางอย่างที่เป็นพื้นฐานต่าง ๆ ให้สุนัข จะทาให้สุนัขที่เลี้ยงมีคุณค่ามากขึ้น เช่นการนั่งคอย การไหว้ ไม่ขโมยอาหารและกินมูมมาม การเลี้ยงสุนัข
  • 42. ความรัก การเลี้ยงดูสุนัขต้องมีความรัก ความจริงใจและเสมอต้นเสมอปลายด้วย เพราะบางคนนาสุนัขมาเลี้ยง ขณะที่ยังเป็นลูกสุนัข มีความน่ารักขนปุกปุย ขี้เล่น แต่พอสุนัขโตขึ้นความน่ารักดังกล่าวก็จะค่อย ๆ หายไป นิสัยใจคอเปลี่ยนไป รูปร่างขนที่ปุกปุยก็จะหยาบ ขายาว ตัวโตขึ้น หมดความน่ารักลง ทาให้ไม่อยากเอาใจใส่ และไม่เล่นกับมัน แต่สุนัขไม่มีความเข้าใจในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงนี้ยังคงทาในสิ่งที่เคยทา เช่น อยากจะให้อุ้ม แล้ว ตะกุยตะกายให้อุ้ม แต่เรามักไม่เข้าใจก็ทาโทษมันด้วยความโมโหและราคาญที่ถูกเล็บข่วนเป็นเป็นแผล หรือ ทาให้เสื้อผ้าสกปรก จึงทาโทษด้วยการดุหรือเฆี่ยนตี ทาให้สุนัขเข็ดกลัวไม่อยากเข้าใกล้ หรือคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทาให้สุนัขที่เคยน่ารักหมดคุณค่าไป ความเอาใจใส่ในชีวิตประจาวัน เมื่อสุนัขเกิดอาการไม่สบาย มันไม่สามารถบอกเล่าอาการต่าง ๆ ได้ เหมือนคน จึงต้อยคอยสังเกต เอาใจใส่ในชีวิตประจาวัน เพื่อให้สุนัขมีความเป็นอยู่ที่ดี นอกเหนือไปจากการให้ อาหารและน้าดื่มที่สะอาดแล้ว ต้องคอยสังเกตว่าสุนัขมีสุขภาพอย่างไร ในเรื่องของการขับถ่าย ท้องเสียหรือไม่ มีกิริยาท่าทางร่าเริงหรือหงอย ซึม ไม่สบาย มีแปล มีเห็บหมัดรบกวนหรือไม่ หากพบสิ่งผิดปกติต้องรีบ ช่วยเหลือทันที การเลี้ยงสุนัข
  • 43. ที่อยู่ที่นอน สุนัขควรมีที่หลับนอนของมันเองที่เป็นที่เป็นทางและเป็นสัดส่วน จะเลี้ยงสุนัขไว้ในบ้านหรือ นอกบ้านก็แล้วแต่ความพร้อมของเจ้าของและสมาชิกคนอื่นในครอบครัว ส่วนใหญ่หากมันยังเล็กก็ นิยมเลี้ยงไว้ในบ้านเพื่อสะดวกในการดูแล และทาให้มันสนิทสนมกับคนในบ้านได้ง่าย แต่ต้องคอยดุ แลเรื่องการขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทาง จัดที่นอนสาหรับลูกสุนัขไว้ในลังไม้หรือตะกร้าตั้งไว้มุมห้อง เงียบ ๆ สักมุมหนึ่ง หรืออาจใช้เพียงผ้าผวยเก่า ๆ หรือเศษผ้านุ่ม ๆ หลายชั้นทาเป็นที่นอนขนาด เล็กใหญ่ ก็ได้แล้วแต่ความเหมาะสม หากมีอาณาบริเวณบ้านมากพอ หรือต้องการเลี้ยงไว้นอกบ้าน ซึ่งมันก็ต้องการที่คุ้มแดดคุ้ม ฝน หรือหลบร้อนตอนกลางวัน การสร้างคอกหรือกรงเลี้ยงจึงเป็นสิ่งจาเป็น ขนาดกรงควรกว้างพอ ให้มันเหียดตัวหรือกลับตัวได้ง่ายและสูงพอที่มันจะยืนได้ บริเวณที่ตั้งกรงหรือคอกเลือกเอาที่ร่ม มี อากาศถ่ายเทได้ดีไม่อับชื้น และควรติดมุ้งลวดเพื่อกันยุงและแมลงให้มันด้วย การเลี้ยงสุนัข
  • 44. การอาบน้า ตามปกติไม่นิยมอาบน้าให้ลูกสุนัขบ่อยเกินไป เพราะจาทาให้น้ามันที่เคลือบเส้นขนหมดไป ทาให้ผิวหนังและเส้นขนแห้งไม่เป็นมัน เกิดอาการคัน สุนัขจะกัดหรือเกาให้เป็นแผล นอกจากนี้สุนัข ยังแพ้ต่อการเป็นโรคทางระบบหายใจ โดยเฉพาะ จะเป็นโรคปอดบวมได้ง่าย เพราะฉะนั้นหาไม่ จาเป็นจริง ๆ แล้วก็ไม่ควรอาบน้าให้สุนัขสารับลุกสุนัขอาจใช้ผ้าชุบน้าอุ่นบิดให้แห้งตามตรงที่ตัว สกปรก หรือใช้แปรงและการหวีขนบ่อย ๆ ก็จะรักษาความสะอาดได้ดีโดยไม่ต้องอาบน้า เมื่อสุนัขโต ขึ้นอาจจะอาบน้าให้ด้วยน้าธรรมดาหรือน้าอุ่นให้เพียงอาทิตย์ละครั้งก็พอ หรือเมื่อเห็นว่ามันสกปรก มาก มีกลิ่นเหม็นแล้ว การอาบน้าควรอาบให้ในเวลาที่มีแดดออก อากาศไม่หนาวมาก ใช้สบู่หรือ แชมพูอย่างอ่อน ถูให้ทั่วตัวและหัว ระวังไม่ให้ฟองสบู่เข้าตาและน้าเข้าหู จากนั้นต้องล้างสบู่ออกให้ หมด เพราะถ้าล้างออกไม่หมดจะทาให้เกิดการคันจนสุนัขเกาเป็นแผล เสร็จแล้วจึงเช็ดตัวสุนัขให้แห้ง การเลี้ยงสุนัข
  • 45. การกาจัดและป้องกันเห็บ เห็บ หมัดและแมลง เป็นพาหะนาโรคบางชนิดมาสู่สุนัข ถึงแม้ไม่เกิดโรคก็จะทาความราคาญ ให้สุนัขมาก เห็บหรือหมัดที่มีในสุนัขส่วนมากมักเกิดจากเจ้าของที่ไม่ดุแลสุนัขเท่าที่ควร หมัด หรือเห็บมักเกาะกินเลือดอยู่ตามบริเวณผิวหนังอ่อน ๆ ของสุนัข เช่น รอบคอ ริมฝีปาก บริเวณหลังเลยหางขึ้นไป ตามซอกเล็บ และตามบริเวณก้นการกาจัดเห็บ หมัด อาจใช้น้ามันสนหยด ลงไปให้ถูกตัวเล็กน้อย จะทาให้มันหลุดออกมา หากดึงหมัดหรือเห็บขณะที่มันกาลังกัดติดอยู่กับ บริเวณผิวหนังแรง ๆ อาจทาให้ผิวสุนัขเป็นแผล การป้องกันกาจัดเห็บหรือหมัดอาจใช้วิธีรักษา ความสะอาดตัวสุนัข ใช้อุปกรณ์ในการกาจัดเห็บ เช่น ยกกาจัดเห็บ แป้งกาจัดเห็บ แชมพูกาจัดเห็บ ตามคาแนะนาของสัตวแพทย์หรือทาด้วยความระมัดระวัง ควรทาการจับหมัดหรือเห็บทุก ๆ อาทิตย์ และทาความสะอาดที่นอนสุนัขด้วย แต่การฆ่ากาจัดเห็บเฉพาะที่ตัวสุนัข ไม่สามารถแกปัญหาได้ตลอด เพราะเห็บหรือหมัดเล่านี้จะอาศัยอยู่บริเวณที่อยู่ของสุนัข ดังนั้นควรใช้ยาฆ่าเห็บผสมกับน้าผสมกับ น้าราดตามบริเวณที่สุนัขอาศัยอยู่ด้วย การกาจัดสิ่งเหล่านี้จะต้องทาอย่างต่อเนื่องจึงจะประสบ ความสาเร็จ การเลี้ยงสุนัข
  • 46. การทาหมัน หากไม่ต้องการให้มีลูกสุนัขเกิดเกินจานวนที่จะเลี้ยงได้ หรือเพื่อเสี่ยงกับการผสม พันธุ์ในครอกได้ลุกสุนัขผิดลักษณะควรทาหมันให้กับสุนัข นอกจากนั้น การทาหมันจะช่วย ลดควมวุ่นวายเนื่องจากพฤติกรรมของสุนัขในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วยการทา หมันสุนัขตัวผู้สามารถกระทาได้เมื่ออายุ 7-8 เดือนขึ้นไป สาหรับตัวเมียควรทาเมื่ออายุ 1 ปี ขึ้นไป หรือหลังจากมีประจาเดือนครั้งแรกไปแล้ว 1 เดือน และไม่ควรทาหมันเมื่อสุนัขมีอายุ มากแล้ว การเลี้ยงสุนัข
  • 47. การป้องกันโรค ผู้เลี้ยงควรต้องมีเวลาให้กับสุนัข เพื่อทาความคุ้นเคยและศึกษาสุนัขแต่ละตัว ต้องคอยเอาใจใส่สังเกต ความเป็นอยู่ การกินอาหาร การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ นอกจากนี้ควรจะต้องมีความรู้ พื้นฐานเกี่ยวกับสุนัข โรค ต่างๆ เมื่อสุนัขเกิดอาการเจ็บป่วยจะได้นาไปรักษาได้ทันทีโรคที่เกิดกับสุนัขมีหลายชนิดและมักเกิดการระบาด อยู่เสมอทุกปี หลายโรคอาจร้ายแรงทาให้สุนัขพิการหรือเสียชีวิต ทั้งอาจติดต่อถึงคนภายในบ้านด้วย การ หมั่นเอาใจใสในตัวสุนัขและดูแลสุขภาพทั่วไปของสุนัขจึงเป็นฯการป้องกันโรคเบื้องต้นที่ดีที่สุด อาการของสุนัข ที่เริ่มป่วยสังเกตได้จาก อาการเซื่องซึม , ไม่ร่างเริงแจ่มใส , ไม่กินอาหารหรือกินอาหารน้องลง , อาเจียน , มี อาการท้องร่วง , ท้องผูก , ผอมลง , ขนหยาบกระด้าง , ผิวหนังเป็นผื่นแดง , ตาแฉะ , จมูกแห้งหรือมีน้ามูก หากสุนัขมีอาการดังกล่าว ควรทาการรักษาหรือนาสุนัขไปหาสัตวแพทย์โรคสุนัขหลายโรคสามารถป้องกันได้ โดยการฉีดวัคซีนตามกาหนดเวลาที่เหมาะสม หลังการฉีดวัคซีนควรงดอาบน้าภายใน 1 สัปดาห์ เพราะสุนัขอาจ มีไข้เล็กน้อยจากปฏิกิริยาต่อวัคซีน ดูแลให้สุนัขกินยาตามเวลาที่สัตวแพทย์กาหนด รวมทั้งควรแยกสุนัขตัวที่ ป่วยออกจากตัวปกติ สิ่งที่ช่วยให้สุนัขรอดพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บได้อีกประการหนึ่งคือ การรักษาความสะอาด ทั้งของสุนัขและสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย กาจัดเห็บ หมัด ยุง หนู หรือทาลายแหล่งเพาะพันธุ์ของสัตว์ที่เป็น พาหะเหล่านี้ การเลี้ยงสุนัข
  • 48. กาหนดการปฏิบัติเพื่อป้องกันโรคของสุนัข • 3 สัปดาห์ ตรวจอุจจาระและถ่ายพยาธิ • 2 เดือน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดสุนัข โรคพาร์โวไวรัส เลปโตสไปโรซีส ตับอักเสบ ติดต่อ • 3 เดือน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และถ่ายพยาธิ • 4 เดือน ฉีดซ้าเช่นเดียวกับเมื่ออายุ 2 เดือน การเลี้ยงสุนัข
  • 49. วิธีการสังเกตดูลักษณะของสุนัขที่ดี • ส่วนหัวไม่มีรอยยุบ บวม หัวมีลักษณะสมดุลกัน • ตา ทั้ง 2 ข้าง มีขนาดเท่ากันทั้ง 2 ข้าง มีประกาย สดใส สนใจในสิ่งแวดล้อม • หู ตรงตามลักษณะของสายพันธุ์ รูปร่างได้ขนาด ไม่เป็นแผล • จมูกชื้นเป็นมัน จับดูต้องเย็น เวลาเดินต้องดมกลิ่นไปด้วย • ปากและฟันต้องไม่ฉีกหรือแหว่ง เหงือกสีชมพูสดใส ฟันมีการเรียงตัว เป็นระเบียบ • ผิวหนังมีความยืดหยุ่น เวลาดึงผิวหนังขึ้นแล้วปล่อยต้องคลายตัวทันที ไม่มีรังแค • ขนเป็นประกายเงางามอ่อนนุ่ม • ลาตัว ควรเป็นทรงกระบอก อกมีกล้ามเนื้อแข็งแรง ไหล่ 2 ข้าง สมดุลกันท้องไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป • ทวารหนัก ต้องไม่บวมหรือแดง ไม่ควรมีเศษอุจจาระติดโดยรอบ • เท้าขนานกันเวลายืน ปลายเท้าไม่บิดเข้าหรือออก ปลายนิ้วไม่งุ้ม ขาหลังไม่ลาดเอียงเกินไป • อวัยวะสืบพันธุ์ เพศผู้ต้องตรวจดูว่ามีลูกอัณฑะครบ 2 ข้าง เพศเมียต้องตรวจรูอวัยวะสืบพันธุ์ปกติ • ท่าทางและอารมณ์ควรจะร่าเริง ขี้เล่น อยากรู้อยากเห็น การเลี้ยงสุนัข
  • 50. ครูที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ( Mrs.Khueantong Moonwan ) วิทยฐานะ ชานาญการพิเศษตาแหน่ง ครู คศ.3
  • 51. ผู้จัดทา นางสาวรธิดา มากพันธ์ ม.6/15 เลขที่ 36 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยเชียงใหม่
  • 52. อ้างอิง • http://webboard.yenta4.com/topic/549777 • http://board.postjung.com/695944.html • http://www.royalcanin.co.th/node_1083605/node_1083606/node_1083 611 • http://brightlives.th.88db.com/pets/pets_handle.htm • http://www.dogilike.com/content/caring/ • http://www.petheng.com/index.php/dealer/dog-article/item/57-dog