More Related Content
Similar to อุปกรณ์ เชื่อมต่อ คอมพิวเตอร์
Similar to อุปกรณ์ เชื่อมต่อ คอมพิวเตอร์ (12)
More from Kanyarad Smlf (7)
อุปกรณ์ เชื่อมต่อ คอมพิวเตอร์
- 4. การทางานของสแกนเนอร์
การจับภาพของสแกนเนอร์ ทาโดยฉายแสงบนเอกสารที่จะ
สแกน แสงจะผ่านกลับไปมาและภาพ จะถูกจับโดยเซลล์ที่ไวต่อ
แสง เรียกว่า charge-couple device หรือ CCD ซึ่งโดยปกติพื้นที่มืดบน
กระดาษจะสะท้อนแสงได้น้อยและพื้นที่ที่สว่างบนกระดาษจะสะท้อนแสงได้
มากกว่า CCD จะสืบหาปริมาณแสงที่สะท้อนกลับ
จากแต่ละพื้นที่ของภาพนั้น และเปลี่ยนคลื่นของแสงที่สะท้อน กลับมาเป็น
ข้อมูลดิจิตอล หลังจากนั้นซอฟต์แวร์ที่ใช้สาหรับการสแกนภาพก็จะแปลง
เอาสัญญาณเหล่านั้นกลับมาเป็นภาพ บนคอมพิวเตอร์อีกทีหนึ่ง
- 5. สิ่งที่จาเป็นสาหรับการสแกนภาพมีดังนี้
- สแกนเนอร์
- สาย SCSI สาหรับต่อจากสแกนเนอร์ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์
- ซอฟต์แวร์สาหรับการสแกนภาพ ซึ่งทาหน้าที่ควบคุมการทางานของ
สแกนเนอร์ให้ สแกนภาพตามที่กาหนด
- สแกนเอกสารเก็บไว้เป็นไฟล์ที่นากลับมาแก้ไขได้อาจต้องมีซอฟต์แวร์ที่
สนับสนุนด้าน OCR
- จอภาพที่เหมาะสมสาหรับการแสดงภาพที่สแกนมาจากสแกนเนอร์
- เครื่องมือสาหรับแสดงพิมพ์ภาพที่สแกน เช่น เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์หรือ
สไลด์โปรเจคเตอร์
- 6. ประเภทของภาพที่เกิดจากการสแกน แบ่งเป็นประเภทดังนี้
1. ภาพ Single Bit ภาพ Single Bit เป็นภาพที่มีความหยาบมากที่สุดใช้พื้นที่ในการเก็บ
ข้อมูล น้อยที่สุดและ นามาใช้ประโยชน์อะไรไ่ม่ค่อยได้ แต่ข้อดีของภาพประเภทนี้คือ ใช้
ทรัพยากรของเครื่องน้อยที่สุดใช้พื้นที่ ในการเก็บข้อมูลน้อยที่สุด ใช้ระยะเวลาในการ
สแกนภาพน้อยที่สุด Single-bit แบ่งออกได้สองประเภทคือ
- Line Art ได้แก่ภาพที่มีส่วนประกอบเป็นภาพขาวดา ตัวอย่างของภาพพวกนี้ ได้แก่ ภาพที่ได้
จากการสเก็ต
- Halftone ภาพพวกนี้จะให้สีที่เป็นโทนสีเทามากกว่า แต่โดยทั่วไปยังถูกจัดว่าเป็นภาพ
ประเภท Single-bit เนื่องจากเป็นภาพหยาบๆ
2. ภาพ Gray Scale
ภาพพวกนี้จะมีส่วนประกอบมากกว่าภาพขาวดา โดยจะประกอบด้วยเฉดสีเทาเป็นลาดับขั้น
ทาให้เห็นรายละเอียดด้านแสง-เงา ความชัดลึกมากขึ้นกว่าเดิมภาพพวกนี้แต่ละพิกเซล
หรือแต่ละจุดของภาพอาจประกอบด้วยจานวนบิตมากกว่า
ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลมากขึ้น
- 8. ไมโครโฟน
• ไมโครโฟน คืออุปกรณ์รับเสียงแล้วแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า เพื่อประมวลผลในเครื่องขยายเสียงหรือ
อุปกรณ์ผสมเสียงอื่น ๆ ไมโครโฟนประกอบด้วยขดลวดและแม่เหล็กเป็นหลัก เมื่อเสียงกระทบตัวรับ
ในไมโครโฟน จะทาให้ขดลวดสั่นสะเทือนตัดกับสนามแม่เหล็ก จึงทาให้เกิดสัญญาณไฟฟ้า ซึ่งเป็น
หลักการทางานตรงข้ามกับลาโพง โดยทั่วไปไมโครโฟนใช้รับเสียงพูดหรือเสียงร้องเพลง
• ชนิดของไมโครโฟน
• ชนิดของไมโครโฟน แบ่งตามหลักการทางไฟฟ้า ได้ 2 ประเภท ได้แก่
• แบบไดนามิก
• แบบคอนเดนเซอร์
• แบบไดนามิก ทางานโดยการสั่นสะเทือนของขดลวด ที่อยู่รอบแกนแม่เหล็ก ทาให้เกิดกระแสไฟฟ้า
อาศัยหลักการเหนี่ยวนาไฟฟ้า
• แบบคอนเดนเซอร์ ปล่อยกระแสไฟฟ้าสายตรง ไหลไปยังตัวไมค์ ซึ่งมีแผ่นโลหะบางๆตรวจจับการ
สั่นสะเทือนของอากาศ แล้วเปิด-ปิดทางเดินของวงจรไฟฟ้า
- 10. ลาโพง
• ลาโพง (อังกฤษ: loudspeaker, speaker) เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าเชิงกลอย่าง
หนึ่ง ทาหน้าที่แปลงสัญญาณไฟฟ้าให้เป็นเสียง มีด้วยกันหลายแบบ คาว่า
ลาโพงมักจะเรียกรวมกัน ทั้งดอกลาโพง หรือตัวขับ (driver) และลาโพงทั้ง
ตู้ (speaker system) ที่ประกอบด้วยลาโพงและวงจรอิเล็กทรอนิกส์สาหรับ
แบ่งย่านความถี่ (ครอสโอเวอร์เน็ตเวิร์ก)
• ลาโพงนับเป็นองค์ประกอบที่สาคัญในระบบเครื่องเสียง โดยมีขนาดตั้งแต่เล็ก
เท่าปลายนิ้ว จนถึงใหญ่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางนับสิบนิ้ว โดยมีโครงสร้างที่
แตกต่างกัน
- 12. • ประเภทลาโพงต่างๆ
• ทวีทเตอร์ คือลาโพงที่มีขนาดเล็กสุดของตู้ลาโพงออกแบบมาเพื่อให้เสียงที่มี
ความถี่สูง
• มิดเรนจ์ คือลาโพงขนาดกลางของตู้ลาโพงถูกออกแบบมาเพื่อให้เสียงในช่วง
ความถี่เป็นกลางๆ คือไม่สูงหรือไม่ต่ามากเกินไป
• วูฟเฟอร์ คือลาโพงที่มีขนาดใหญ่สุดของตู้ลาโพงออกแบบมาเพื่อให้เสียงที่มี
ความถี่ต่า
• ซับวูฟเฟอร์ คือลาโพงที่ทาหน้าที่ขับความถี่เสียงต่าสุด มักมีตู้แยกต่างหาก
และใช้วงจรขยายสัญญาณในตัว