More Related Content
Similar to ดอกไม้กินได้ (12)
ดอกไม้กินได้
- 2. ดอกเข็ม
ดอกเข็ ม มี ห ลายสี เช่ น สี ข าว สี
แดง สีเหลือง สีชมพู และสีแสด ดอก
เข็ ม ที่ ใ ช้ ท าอาหารคื อ เข็ ม ดอกเล็ ก ๆ
ได้ แ ก่ เข็ ม ขาว เข็ ม ชมพู เข็ ม แดง
ส่วนเข็มเศรษฐีดอกใหญ่ไม่นิยมนามา
กิน ดอกเข็มจะมีน้าหวานตรงโคนดอก
เด็ ก ๆ สมั ย ก่ อ นน าดอกเข็ ม มาดู ด
น้ าหวานกิ น เล่ น ดอกเข็ ม ออกดอก
ตลอดปี แต่ จ ะให้ ด อกดกช่ ว งฤดู ฝ น
คนสมัยก่อนใช้ดอกเข็มชุบแป้งทอดเป็น
เหมือด (เครื่องเคียง) กินกับขนมจี น
น้ าพริ ก รสชาติ ด อกเข็ ม ไม่ ข ม แต่ มี
ความมัน แป้งที่ใช้ชุบทอดใช้แป้งข้าว
เจ้า ใส่น้าปูนใสและกะทิเล็กน้อย
- 3. ดอกพวงชมพู
พวงชมพู เ ป็ น พั น ธุ์ ไ ม้ เ ลื้ อ ย
มีมือสาหรับเกาะพันต้นไม้หรือกิ่ง
ไม้เพื่อการทรงตัว ลาต้นหรือเถา
จ ะ เ ป็ น สี น้ า ต า ล เ ข้ ม ด อ ก
พวงชมพูออกดอกเป็นช่อรวมกัน
เป็นกลุ่มตามซอกใบ ง่ามกิ่ง และ
ปลายยอด ส่วนปลายยอดสุดจะ
เป็นมือเกาะ ลักษณะรูปร่างของ
ดอกมี ทรงคล้า ยรู ปหั ว ใจมี ข นาด
เล็ก ขึ้นง่าย เหี่ยวเร็วเมื่อเก็บจาก
ต้ น ดอกมี ก ลี บ 3 กลี บ สี ช มพู
สดใส ใช้ชุบแป้งทอด เป็นเหมือด
กิ น กั บ ขนมจี น น้ าพริ ก มี ร สมั น
และขมเล็กน้อย
- 4. ดอกลั่ นทมคนโบราณไม่นิยมปลูกในบ้า น ดอกลั่นทม
บางคนบอกว่าเป็นเพราะชื่อที่พ้องกับคาว่า “ระทม”
แต่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อใหม่ให้เป็น “ลีลาวดี” คนทาง
ภาคเหนื อ เรี ย กว่ า ดอกจาปาลาว ช่ ว งฤดู ฝนดอก
ลั่นทมจะดกกว่าช่วงอื่น มีกลิ่นหอมอ่อน มีหลายสี
คื อ สี ข าว สี ช มพู สี ช มพู อ มขาว สี แ ดง สี แ ดง
เหลือง เป็นต้น สีขาวมี 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดดอก
ใหญ่ กลีบใหญ่บาง และชนิดดอกเล็ก กลีบหนา มีสี
เหลือง ข้างในกลีบชิดกว่าชนิดดอกใหญ่ ดอกสีขาว
ดอกใหญ่ น ามาชุ บ แป้ ง ทอดเป็ น เหมื อ ดขนมจี น
น้าพริก แต่ต้องตัดตรงส่วนก้านดอกบริเวณที่ติดกับ
กลีบเลี้ยงออกเพราะตรงส่วนนี้จะขม ส่วนสีอื่น ๆ ไม่
นามากิน
- 5. ดอกบานไม่รู้โรยเป็นไม้ล้มลุก ลาต้น ดอกบานไม่รู้โรย
ตั้ง ตรง แต่โ คนต้น เอนราบกับดิน และมี
รากตามข้อ ลาต้นมีสีแดง กิ่งอ่อนมีขน
อยู่ ทั่ ว ไป ดอกออกเป็ น กระจุ ก กลม ๆ
ประกอบด้ วยดอกเล็ ก ๆ จานวนมากบน
ก้านช่อ ดอกบานไม่รู้โรยมีหลายสี เช่น
สีแดง สีขาว และสีชมพู เป็นต้น ใช้เป็น
สั ญ ลั ก ษ ณ์ ข อ ง ค ว า ม มั่ น ค ง ใ น ชี วิ ต
โดยมากใช้ คู่ กั บ ดอกรั ก นั ก ประดิ ษ ฐ์
ดอกไม้แบบโบราณรู้จักดอกบานไม่รู้โรยดี
เพราะใช้ทาทั้งพานและพุ่ม
ห ล า ย ค น ค ง ไ ม่ คิ ด ว่ า ด อ ก
บานไม่ รู้ โ รยกิ น ได้ แต่ ค นโบราณหลาย
ท่านเอาดอกบานไม่รู้โรยมาชุบแป้งทอด
กิน เป็นเหมือดขนมจีนน้าพริกได้อร่อย
รสชาติมัน
- 6. กุหลาบมอญเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ดอกกุหลาบมอญ
ตามลาต้นและกิ่งมีหนาม ใบเป็นรูปไข่
ปลายใบแหลม ตามขอบจั ก เป็ น ฟั น
เลื่อย ดอกออกเป็นช่อ 3-4 ดอกที่ปลาย
กิ่ ง ออกดอกได้ ต ลอดทั้ ง ปี ดอก
กุหลาบมอญมีสีชมพูและสีแดง กลีบ
เรียงซ้อนกันอย่างหลวม ๆ มีกลิ่นหอม
รสชาติ มั น กลี บ ดอกน ามาใส่ ย ากุ้ ง
สกั ด น้ ามั น หอมระเหย ท าดอกไม้
ประดิษฐ์และบุหงาแห้ง
- 7. ต้ า ง ห ล ว ง เ ป็ น ไ ม้ ถิ่ น ท า ง ต้างหลวง (ดอกต้าน)
ภาคเหนื อ ดอกมี ลั ก ษณะเป็ น ช่ อ
กลมสี เ หลื อ งอมขาว ชาวเหนื อ
นิยมนาดอกอ่อนของต้างหลวงมา
ลวกหรื อ ต้ ม ให้ สุ ก กิ น เป็ น ผั ก จิ้ ม
กับน้าพริกตาแดง น้าพริกปลาร้า
แกงแคร่วมกับผักชนิดต่าง ๆ แกง
กับปลาแห้ง หรือแกงใส่หัวปลีด้วย
ก็ได้
- 8. ดาวเรื อ งเป็ น ไม้ พุ่ ม ชนิ ด สั้ น ดอกดาวเรือง
ล าต้ น ตั้ งตรง สู งประมาณ 50 ซม.
ใบมีกลิ่นฉุน ออกเป็นช่อแบบขนนก
ตรงกันข้ามเป็นคู่ ๆ ดอกเป็นกระจุก
กลี บ ดอกสี ส้ ม หรื อ เหลื อ ง มี ถิ่ น
กาเนิดแถบอเมริกาใต้ เป็นดอกไม้ที่
นามาใช้ในงานมงคลต่าง ๆ เพราะคา
ว่ า “ดาวเรื อ ง” พ้ อ งเสี ย งกั บ ค าว่ า
“รุ่ ง เรื อ ง” ท าให้ ชี วิ ต เจริ ญ รุ่ ง เรื อ ง
นอกจากนี้ดอกดาวเรืองยังนามากิน
ได้ อี ก ด้ ว ย ดาวเรื อ งสี เ หลื อ งเป็ น
ดาวเรื อ งที่ กิ น ได้ ดอกตู ม ทาง
ภาคเหนื อ ใช้ กิ น กั บ ลาบ กลี บ ดอก
ดาวเรืองบานใช้ยากับกุ้ง
- 9. ดอกมะลิ เ ป็ น ไม้ พุ่ ม ขนาดกลาง สู ง ดอกมะลิ
ประมาณ 5 ฟุต ใบมนป้อม ปลายใบแหลม
โคนสอบ ขอบใบเรียวไม่มีจัก มีสีเขียวเข้ม
เป็นมัน มะลิมีทั้งดอกซ้อนไม่ซ้อน ดอกมีสี
ขาว กลิ่นหอม ดอกมะลินามาตากแห้งชงน้า
ดื่ ม แทนชา และใช้ ท าบุ ห งาแห้ ง มะลิ เ ป็ น
ดอกไม้ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นสัญลักษณ์ของ
แม่ และเป็นดอกไม้ที่นิยมใช้บูชาพระ ใช้ลอย
น้าเอากลิ่นผสมในน้าดื่ม น้าสาหรับทาขนม
หวาน และน้าเชื่อมใส่ขนม
กลิ่ น หอมของน้ าเชื่ อ มจากดอกมะลิ
กลิ่ น หอมของข้ า วตู ห รือ ถั่ ว กวนได้ จากดอก
กระดังงาไทยและมะลิ กลิ่นหอมของน้ากะทิ
และน้าเชื่อมในซ่าหริ่มก็มาจากดอกกระดังงา
ไทยลนไฟกับมะลิ