1. LOGO

2. ปื นไรเฟิ ล
อาวุธปื นไรเฟิ ลได้ถกผลิตขึ้นมาตามคริ สต์ศกราชที่แตกต่างกัน จึงมี
ู
ั
การพัฒนาของอาวุธปื นไรเฟิ ลชนิ ดนั้นแตกต่างกันไปด้วย ซึ่ งสามารถ
จาแนกการพัฒนาของอาวุธปื นไรเฟิ ลได้เป็ น 12 รุ่ นด้วยกัน คือ
-
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น Kar98k
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น M1918 Browning Automatic Rifle หรื อ BAR
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น M1 CARBINE
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น M1 GARAND
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น MP44
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น FG42

3. -
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น AVS-36
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น M1903 Springfield rifle
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น Lee Enfield
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น Mosin Nagant
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น Samozaryadnaya Vintovka Tokareva SVT-40
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น Gewehr
ซึ่งคุณสมบัติของปื นแต่ละชนิดศึกษาได้จากข้อมูลดังต่อไปนี้

4. ปื นไรเฟิ ลรุ่น Kar98k
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น Kar98k เป็ นปื นไรเฟิ ล Bolt Action ชื่อว่า "Mauser
Karabiner98k" หรื อ "Kar98K" เป็ นปื นไรเฟิ ลคาร์ไบน์ใช้กระสุ นขนาด 7.92x57
mm. หรื อ 8 mm. MAUSER ขนาดเดียวกับปื นไรเฟิ ลกึ่งอัตโนมัติ Gewehr 43
ความจุ 5นัด ใช้คลิปกระสุ นในการบรรจุ เป็ นปื นไรเฟิ ลที่กองทัพเยอรมันไว้ใจ
มากในเรื่ องความแม่นยาเป็ นปื นรุ่ นแรกๆที่พฒนาในช่วงสงครามโลกครั้งที่1
ั
ภาพ ปื นไรเฟิ ลชนิด Kar98k

5. ปื นไรเฟิ ลรุ่ น M1918 Browning
Automatic Rifle หรือ BAR
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น M1918 Browning Automatic Rifle หรื อ BAR
ใช้กระสุ นขนาด.30-.60 มีระบบการยิงแบบ Gas-operated ความจุกระสุ น 20นัด/
แม็กกาซี น อัตราการยิง 450-640นัด/นาที มีน้ าหนักประมาน 7.24 kg. มีอานาจ
ทะลุทะลวงสู งแต่แรงปะทะต่า ข้อเสี ยคือมีน้ าหนักค่อนข้างมาก
ภาพ ปื นไรเฟิ ลรุ่ น M1918 Browning Automatic Rifle หรื อ BAR

6. ปื นไรเฟิ ลรุ่น M1 CARBINE
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น M1 Carbineซึ่ งเป็ นปื นที่กองทัพไทยเรี ยกว่า"ปื น
สั้นบรรจุเอง แบบ 87 (ปสบ.87)" เข้าประจาการในปี พ.ศ. 2487ปื นไรเฟิ ล
ชนิดนี้เป็ นปื นที่ออกแบบมาเพื่อให้รบในเป้ าหมายที่ยากลาบาก สามารถ
ลุยน้ าลุยโลนหรื อที่ช้ืนแฉะได้ซ่ ึ งเป็ นประโยชน์อย่างยิงในพื้นที่สงคราม
่
เวียดนามเนื่องจากภูมิประเทศมีความชื้นแฉะและยังเป็ นปื นที่มีน้ าหนัก
ค่อนข้างเบา สามารถหลบหนีศตรู ได้โดยสะดวก
ั
ภาพ ปื นไรเฟิ ลรุ่ น M1 CARBINE

7. ปื นไรเฟิ ลรุ่น M1 GARAND
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น M1 GARANDเป็ นปื นที่ใช้กระสุ น .30-06 ระบบการยิง
เซมิออโต้ ความจุ 8 นัดต่อคลิป ร่ องเกลียว 4 เกลียวเวียนขวา มีความพิเศษตรงที่
พอยิงจนกระสุ นหมด ปื นจะดีดคลิปออกมาเสี ยงดัง ปิ๊ ง! ออกแบบโดยนาย John
C.Garand ซึ่ งปื น M1 Garand ได้รับการพัฒนาต่อมาจนออกมาเป็ นปื นไรเฟิ ล
ั
อัตโนมัติดวยคือปื น M14 และเป็ นปื นรุ่ นแรกที่ได้ใช้กบกระสุ นใหม่ คือ .308
้
Winchester หรื อ 7.62x51 mm. NATO ซึ่ งมีบทบาทอย่างมากในช่วงสงคราม
เกาหลี สงครามเวียดนาม สงครามโลกครั้งที่ 2
ภาพ ปื นไรเฟิ ลรุ่ น M1 GARAND

8. ปื นไรเฟิ ลรุ่น MP44
ปื นรุ่ น MP44ถูกพัฒนามาจากMP43(Machine Pistol 43) พัฒนา
ในปี 1943(ตามเลขลงท้าย) ในช่วงแรก ฮิตเลอร์ ตองการอาวุธประจากาย
้
ทหารราบที่มีระยะยิงไกลกว่า 2,000 หลา(เหตุผลที่นิยมKar9จึงไม่สนใจที่
จะให้ผลิตปื นเอ็ม พี 43 ขึ้น แต่อลเบิร์ต สเปี ยร์ รัฐมนตรี กระทรวงอาวุธของ
ั
นาซี เยอรมันในขณะนั้น เห็นว่าเยอรมันมีความต้องการปื นรุ่ นนี้ เป็ นอย่าง
มาก จึงทาการผลิตปื นรุ่ นนี้ข้ ึนโดยปื นรุ่ นนี้ เป็ นปื นไรเฟิ ลแบบอัตโนมัติที่
ถูกพัฒนาแบบก้าวกระโดด จุดประสงค์เพื่อให้ปืนมีระยะยิงที่หวังผลได้มาก
ขึ้น ยิงได้ไกลขึ้นและเป็ นปื นที่มีน้ าหนักค่อนข้างเบา มีความคล่องตัวสู ง
เป็ นปื นที่มีประสิ ทธิภาพมาก

9. ปื นไรเฟิ ลรุ่น MP44
ภาพ ปื นไรเฟิ ลรุ่ น MP44

10. ปื นไรเฟิ ลรุ่น FG42
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น FG42 เป็ นปื นไรเฟิ ลอเนกประสงค์ที่มีความแม่นยา
สูง และมีพลังการทาลายล้างที่สูงมากซึ่ งยังติดกล้องเล็งไว้อีกด้วย ปื นนี้ถกใช้
ู
ในกองทัพเยอรมัน ผูออกแบบคือ Louis Stange มีลกษณะเด่นคือ สามารถ
้
ั
บรรจุกระสุ นได้มากถึง1,000 นัดต่อ1กล่องกระสุ น และมีอตราการยิงที่มาก
ั
ถึง900นัด/นาที ปื นชนิดนี้ถกพัฒนาขึ้นมาจากการยิงโดยการนังหรื อไม่ค่อยมี
ู
่
ประสิ ทธิ ภาพ จึงต้องผลิตขาทรายมาช่วยในการนอนยิงซึ่ งทาให้การยิงมี
ความแม่นยาสู ง
ภาพ ปื นไรเฟิ ลรุ่ น FG42

11. ปื นไรเฟิ ลรุ่น AVS-36
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น AVS-36 เป็ นปื นไรเฟิ ลกึ่งอัตโนมัติที่ใช้ เป็ นปื นที่มี
ระบบปฏิบติการแบบ MANUALLY OPERATED , ROTATING BOLT
ั
และมีระบบการยิงแบบ BOLT ACTION มีรูปแบบการทางานด้วยแก๊ส โดย
เป็ นปื นชนิดแรกที่ใช้แก็สเป็ นตัวช่วยขับดัน เพื่อยิงกระสุ น
ภาพ ปื นไรเฟิ ลรุ่ น AVS-36

12. ปื นไรเฟิ ลรุ่น M1903
Springfield rifle
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น M1903 Springfield rifle เป็ นปื นไรเฟิ ลสัญชาติ
อเมริ กาผลิตโดยบริ ษท SPRINGFIELD เป็ นปื นที่ถกใช้ในสมัยสงครามโลก
ั
ู
ครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยปื นชนิดนี้เป็ นปื นที่พฒนาขึ้นมาเพื่อใช้
ั
สาหรับพลแม่นปื นเป็ นส่ วนใหญ่ และยังมีกล้องเล็งเพื่อเสริ มความแม่นยาอีก
ด้วย
ภาพ ปื นไรเฟิ ลรุ่ น
M1903 Springfield rifle

13. ปื นไรเฟิ ลรุ่น Lee Enfield
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น Lee Enfield เป็ นปื นที่ประจาการในกองทัพบกอังกฤษ
นามาใช้ต้ งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 โดยปื นชนิดนี้จะมีลกเลื่อนเหมือนของ
ั
ู
เยอรมัน แต่จะบรรจุกระสุ นได้ 10 นัด โดยใช้กระสุ น .303 British ซึ่ งเป็ นปื นที่
อังกฤษผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในการตอบโต้ในระยะไกลและยังเป็ นปื นไรเฟิ ล
กึ่งอัตโนมัติ
ภาพ ปื นไรเฟิ ลรุ่ น
Lee Enfield

14. ปื นไรเฟิ ลรุ่น Mosin Nagant
ปื นรุ่ น Mosin Nagant เป็ นปื นไรเฟิ ลของทหารกองทัพแดงที่มีความ
แม่นยาในการยิงระยะไกลแต่อตรายิงต่อเนื่องต่าทาให้ลาบากในการต่อสู่ ระยะ
ั
ั
ประชิดใช้กนตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่1 ถึงปลายปี 1997 ซึ่ งเป็ นปื นไรเฟิ ล
กึ่งอัตโนมัติที่ถกพัฒนาให้มีความแม่นยาสู งมากๆโดยผลิตลากล้องที่มีความ
ู
แม่นยาในระยะไกลสู งไปประกอบเข้ากันกับตัวปื น
ภาพ ปื นไรเฟิ ลรุ่ น Mosin Nagant

15. ปื นไรเฟิ ลรุ่ น Samozaryadnaya
Vintovka Tokareva SVT-40
ปื นรุ่ น Samozaryadnaya Vintovka Tokareva SVT-40 เป็ นปื นไรเฟิ ลที่มี
การอัพเกรดขนานใหญ่ของปื น เป็ นประจากายของกองทัพแดงในโซเวียต สามารถ
ยิงหวังผลในระยะไกลถึง 500 m เป็ นปื นที่เสริ มประสิ ทธิภาพมากและทาให้
ได้เปรี ยบในช่วงท้ายสมัยในสงครามโลกครั้งที่ 2
ภาพ ปื นไรเฟิ ลรุ่ น Samozaryadnaya Vintovka Tokareva SVT-40

16. ปื นไรเฟิ ลรุ่น Gewehr 43
ปื นไรเฟิ ลรุ่ น Gewehr 43 เป็ นปื นประเภท Semi-Automatic Rifle มี
น้ าหนัก 4.1 kg. ใช้ระบบ Gas-operated ในการทางาน ระยะหวังผล 400 m.
เป็ นปื นที่เยอรมันผลิตเพื่อหวังสังหารศัตรู ในระยะไกล
ภาพ ปื นไรเฟิ ลรุ่ น Gewehr 43

17. บรรณานุกรม
- กนกพงศ์ สงสมพันธุ์. ประวัติของปื นไรเฟิ ลชนิดต่างๆ. ค้นเมื่อ 26
พฤศจิกายน 2556 จาก
http://bossbaz.siam2web.com/?cid=1041236
- จันตรี ศิริบุญรอด. การพัฒนาของปื นไรเฟิ ล. ค้นเมื่อ 28 พฤศจิกายน
2556 จาก
http://picpost.mthai.com/view/16702

18. จัดทาโดย...
นาย วงศธร จันทร์ศิริ
นาย ชัยโรจน์ บุญลาภ
นาย ยุทธวีร์ อาแซ
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 6/3

19. www.themegallery.com
LOGO