SlideShare a Scribd company logo
จากเว็บ 1.0 สู่เว็บ 3.0
Web 1.0 เจ้าของเว็บเป็นผู้สร้างระบบและเนื้อหาบนเว็บ ผู้เข้าชม อ่านอย่างเดียว
Web 2.0 เจ้าของเว็บสร้างระบบและเนื้อหาบนเว็บ ผู้เข้าชมสร้างเนื้อหาบนระบบเดียวกับเจ้าของเว็บแล้วให้ผู้ชมอื่นๆ ได้ดูต่อ จนเป็นที่มาของ Social Network
ภาพจาก socialcomputingmagazine.com
ภาพจาก http://kruthaipy1.ning.com/forum/topics/3-web-10-web-20
Web 3.0 เราสามารถปรับแต่งแก้ไขข้อมูล หรือระบบได้เองอย่างอิสระมากขึ้น 	หรือจากที่เจอแต่ข้อความน่าเบื่อ เราก็สามารถเจอข้อมูลอิ่น โดยไม่จำเป็นต้องเป็น   ข้อความเสมอไป
1. Artificial intelligence (AI) = ปัญญาประดิษฐ์ อันจะเอามาเป็นเครื่องมือ ที่ช่วยคาดเดาพฤติกรรม วิเคราะห์ความต้องการของมนุษย์ ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลนั้นมา ระบบก็จะให้ในสิ่งนั้นๆ ที่ต้องการ และแสดงข้อมูลออกมาได้อย่างตรงใจ ภาพจาก http://predictionboy.blogspot.com/2007/08/what-ai-will-really-be-like.html
2.Semantic Web and SOA (Service-oriented architecture) (Service-oriented architecture)เป็นระบบที่เชื่อมข้อมูลต่างๆ ให้สัมพันธ์กัน   ซึ่งจะทำให้ระบบฐานข้อมูลมีขนาดมหาศาล
ไม่เฉพาะแค่ตัวอักษรเท่านั้น แต่จะรวมไปถึงข้อมูลรูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียง ที่เราสามารถค้นหาได้โดยไม่ต้องพึ่งการค้นหาโดยพิมพ์ keywordแบบเก่าๆ เช่น ต้องการเพลงที่มีทำนองแบบนี้ ก็เอาเพลงไปค้นหา แล้วมันก็จะแสดงเพลงที่มีทำนองเดียวกัน หรือลักษณ์ใกล้กันออกมา
ภาพจาก http://carpetics.blogspot.com/
3. 3D หรือ Web3D Consortium ปกติเราเห็นเว็บเป็นหน้าเรียบๆ แบบ 2 มิติ แต่ใน Web 3.0อาจจะได้เห็น 3 มิติ กันแล้วครับ เช่น ต้องการซื้อของเราก็ให้ตัวเราในเว็บที่เป็น 3Dเดินเข้าร้านไปซื้อของในร้านค้าโลกออนไลน์ โดยระหว่างซื้อก็สามารถสนทนาถึงเรื่องสินค้าและร้านนั้นได้
ภาพจาก  http://news.hiperia3d.com/2008/07/20-technologies-for-3d-worlds-on-web.html
4. Composite applications เป็นการผสมผสาน Applicationหรือโปรแกรม หรือบริการต่างๆ ของเว็บ ที่มาจากแหล่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งานนั้นเอง ภาพจาก http://www.infoq.com/articles/soa-at-safeco
5.Metadata (data about data) แปลงตรงตัว ก็คือ การอธิบายข้อมูลด้วยข้อมูล โดยมันจะทำการคำนวนว่าข้อมูลที่เราใช้งานอยู่มีข้อมูลใดสัมพันธ์กันบ้างที่สามารถอธิบายข้อมูลตัวมันเองได้ เช่น เราดูข้อมูลของ Tosdnมันก็จะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันคือ php, asp, 
ภาพจาก http://www.esri.com/news/arcuser/0402/metadata1of2.html
นิยามของ web 4.0
สิทธิภาพ คูวัฒนากุล เป็น learning web ซึ่งก็คือโลกของการเรียนรู้บนสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น คือแทนที่จะต้องสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามโปรแกรมต่าง ๆ แต่ด้วย web 4.0 นี้คอมพิวเตอร์จะปรับตัวให้เข้ากับการใช้งานของผู้ใช้ โดยweb 4.0 จะทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้มากขึ้น และหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น
สุรีกานต์ ทุมศรีมา เป็นแนวคิดของ Web ที่พัฒนาต่อจาก Web 3.0      โดยหัวใจของมันก็คือเรื่องของ Adaptable หรือความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้ใช้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกและได้รับข้อมูลที่พวกเขาต้องการมากที่สุดโดยประยุกต์ใช้รูปแบบพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นตัวค้นหา อีกทั้งยังเป็นเว็บที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองว่าผู้บริโภคชอบไม่ชอบอะไรในเว็บ หากชอบฟังค์ชันการทำงานนั้นก็จะปรับตัวให้ดียิ่งขึ้นและสร้างความเกี่ยวพันกับการใช้งานของผู้บริโภคมากขึ้น แต่ถ้าหากไม่ชอบฟังค์ชันการทำงานนั้นๆจะค่อยหายไปจนไม่โผล่มากวนใจอีกเลย
เดชชาติ สินสถิตย์ คือ Learning Web โลกของการเรียนรู้บนสิ่งที่ที่มนุษย์สร้างขึ้น กับ เทคโนโลยีที่ก้าวไปพร้อมกัน web 4.0 นั้นมันจะเรียนรู้ได้ด้วยตัวมันเองและ พัฒนาจาก web 3.0 ให้มีมากกว่า การสื่อสาร,การคิดวิเคราะห์ได้ด้วยตรรกวิทยา, โครงสร้างของการศึกษาการดำรงค์อยู่ของมนุษย์ ที่บ้างทีเราอาจจะมีปัญหากับ ความเป้นส่วนตัว ของความที่มันฉลาดจะคิดแท่นเราได้ และ มันก้ยังห่างไกลเราอยู่ประมาณ 10-15 ปี
อ้างอิง http://tatrionline.blogspot.com/2007/11/web-30-web-40-100.html
ผู้จัดทำ ปรีณาภา   ปัญญาพวก    ม.6/13 เลขที่ 52

More Related Content

Viewers also liked

จากเว็ป1.0ถึง3.0
จากเว็ป1.0ถึง3.0จากเว็ป1.0ถึง3.0
จากเว็ป1.0ถึง3.0
Bell
 
จากเว็ป1.0ถึง3.04.0
จากเว็ป1.0ถึง3.04.0จากเว็ป1.0ถึง3.04.0
จากเว็ป1.0ถึง3.04.0
Bell
 
จากเว็ป1.0ถึง3.0
จากเว็ป1.0ถึง3.0จากเว็ป1.0ถึง3.0
จากเว็ป1.0ถึง3.0
Bell
 
Performance Appraisal (Updated)
Performance Appraisal (Updated)Performance Appraisal (Updated)
Performance Appraisal (Updated)
annabellesppt
 
I/O Psychology: P.A.
I/O Psychology: P.A.I/O Psychology: P.A.
I/O Psychology: P.A.
annabellesppt
 
Performance Appraisal (I/O)
Performance Appraisal (I/O)Performance Appraisal (I/O)
Performance Appraisal (I/O)
annabellesppt
 
Performance Appraisal
Performance AppraisalPerformance Appraisal
Performance Appraisal
annabellesppt
 
Performance Appraisal (Updated)
Performance Appraisal (Updated)Performance Appraisal (Updated)
Performance Appraisal (Updated)
annabellesppt
 

Viewers also liked (10)

จากเว็ป1.0ถึง3.0
จากเว็ป1.0ถึง3.0จากเว็ป1.0ถึง3.0
จากเว็ป1.0ถึง3.0
 
จากเว็ป1.0ถึง3.04.0
จากเว็ป1.0ถึง3.04.0จากเว็ป1.0ถึง3.04.0
จากเว็ป1.0ถึง3.04.0
 
Somtumplara
SomtumplaraSomtumplara
Somtumplara
 
Cambridge journals
Cambridge journalsCambridge journals
Cambridge journals
 
จากเว็ป1.0ถึง3.0
จากเว็ป1.0ถึง3.0จากเว็ป1.0ถึง3.0
จากเว็ป1.0ถึง3.0
 
Performance Appraisal (Updated)
Performance Appraisal (Updated)Performance Appraisal (Updated)
Performance Appraisal (Updated)
 
I/O Psychology: P.A.
I/O Psychology: P.A.I/O Psychology: P.A.
I/O Psychology: P.A.
 
Performance Appraisal (I/O)
Performance Appraisal (I/O)Performance Appraisal (I/O)
Performance Appraisal (I/O)
 
Performance Appraisal
Performance AppraisalPerformance Appraisal
Performance Appraisal
 
Performance Appraisal (Updated)
Performance Appraisal (Updated)Performance Appraisal (Updated)
Performance Appraisal (Updated)
 

จากเว็ป1.0ถึง3.0

  • 3. Web 2.0 เจ้าของเว็บสร้างระบบและเนื้อหาบนเว็บ ผู้เข้าชมสร้างเนื้อหาบนระบบเดียวกับเจ้าของเว็บแล้วให้ผู้ชมอื่นๆ ได้ดูต่อ จนเป็นที่มาของ Social Network
  • 6. Web 3.0 เราสามารถปรับแต่งแก้ไขข้อมูล หรือระบบได้เองอย่างอิสระมากขึ้น หรือจากที่เจอแต่ข้อความน่าเบื่อ เราก็สามารถเจอข้อมูลอิ่น โดยไม่จำเป็นต้องเป็น ข้อความเสมอไป
  • 7. 1. Artificial intelligence (AI) = ปัญญาประดิษฐ์ อันจะเอามาเป็นเครื่องมือ ที่ช่วยคาดเดาพฤติกรรม วิเคราะห์ความต้องการของมนุษย์ ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลนั้นมา ระบบก็จะให้ในสิ่งนั้นๆ ที่ต้องการ และแสดงข้อมูลออกมาได้อย่างตรงใจ ภาพจาก http://predictionboy.blogspot.com/2007/08/what-ai-will-really-be-like.html
  • 8. 2.Semantic Web and SOA (Service-oriented architecture) (Service-oriented architecture)เป็นระบบที่เชื่อมข้อมูลต่างๆ ให้สัมพันธ์กัน ซึ่งจะทำให้ระบบฐานข้อมูลมีขนาดมหาศาล
  • 9. ไม่เฉพาะแค่ตัวอักษรเท่านั้น แต่จะรวมไปถึงข้อมูลรูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียง ที่เราสามารถค้นหาได้โดยไม่ต้องพึ่งการค้นหาโดยพิมพ์ keywordแบบเก่าๆ เช่น ต้องการเพลงที่มีทำนองแบบนี้ ก็เอาเพลงไปค้นหา แล้วมันก็จะแสดงเพลงที่มีทำนองเดียวกัน หรือลักษณ์ใกล้กันออกมา
  • 11.
  • 12. 3. 3D หรือ Web3D Consortium ปกติเราเห็นเว็บเป็นหน้าเรียบๆ แบบ 2 มิติ แต่ใน Web 3.0อาจจะได้เห็น 3 มิติ กันแล้วครับ เช่น ต้องการซื้อของเราก็ให้ตัวเราในเว็บที่เป็น 3Dเดินเข้าร้านไปซื้อของในร้านค้าโลกออนไลน์ โดยระหว่างซื้อก็สามารถสนทนาถึงเรื่องสินค้าและร้านนั้นได้
  • 14. 4. Composite applications เป็นการผสมผสาน Applicationหรือโปรแกรม หรือบริการต่างๆ ของเว็บ ที่มาจากแหล่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งานนั้นเอง ภาพจาก http://www.infoq.com/articles/soa-at-safeco
  • 15. 5.Metadata (data about data) แปลงตรงตัว ก็คือ การอธิบายข้อมูลด้วยข้อมูล โดยมันจะทำการคำนวนว่าข้อมูลที่เราใช้งานอยู่มีข้อมูลใดสัมพันธ์กันบ้างที่สามารถอธิบายข้อมูลตัวมันเองได้ เช่น เราดูข้อมูลของ Tosdnมันก็จะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันคือ php, asp, 
  • 18. สิทธิภาพ คูวัฒนากุล เป็น learning web ซึ่งก็คือโลกของการเรียนรู้บนสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น คือแทนที่จะต้องสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามโปรแกรมต่าง ๆ แต่ด้วย web 4.0 นี้คอมพิวเตอร์จะปรับตัวให้เข้ากับการใช้งานของผู้ใช้ โดยweb 4.0 จะทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้มากขึ้น และหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น
  • 19. สุรีกานต์ ทุมศรีมา เป็นแนวคิดของ Web ที่พัฒนาต่อจาก Web 3.0 โดยหัวใจของมันก็คือเรื่องของ Adaptable หรือความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้ใช้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกและได้รับข้อมูลที่พวกเขาต้องการมากที่สุดโดยประยุกต์ใช้รูปแบบพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นตัวค้นหา อีกทั้งยังเป็นเว็บที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองว่าผู้บริโภคชอบไม่ชอบอะไรในเว็บ หากชอบฟังค์ชันการทำงานนั้นก็จะปรับตัวให้ดียิ่งขึ้นและสร้างความเกี่ยวพันกับการใช้งานของผู้บริโภคมากขึ้น แต่ถ้าหากไม่ชอบฟังค์ชันการทำงานนั้นๆจะค่อยหายไปจนไม่โผล่มากวนใจอีกเลย
  • 20. เดชชาติ สินสถิตย์ คือ Learning Web โลกของการเรียนรู้บนสิ่งที่ที่มนุษย์สร้างขึ้น กับ เทคโนโลยีที่ก้าวไปพร้อมกัน web 4.0 นั้นมันจะเรียนรู้ได้ด้วยตัวมันเองและ พัฒนาจาก web 3.0 ให้มีมากกว่า การสื่อสาร,การคิดวิเคราะห์ได้ด้วยตรรกวิทยา, โครงสร้างของการศึกษาการดำรงค์อยู่ของมนุษย์ ที่บ้างทีเราอาจจะมีปัญหากับ ความเป้นส่วนตัว ของความที่มันฉลาดจะคิดแท่นเราได้ และ มันก้ยังห่างไกลเราอยู่ประมาณ 10-15 ปี
  • 22. ผู้จัดทำ ปรีณาภา ปัญญาพวก ม.6/13 เลขที่ 52