ERP101 Chapter 13

1. Tanapat Limsaiprom
ธนาพัฒน์ ลิ้มสายพรหมธนาพฒน ลมสายพรหม
#TanapatLim
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

2. การพัฒนาโดยใช้ business process modelการพฒนาโดยใช business process model
1. กําหนดแนวทางของการใช้ business process model
ควรตั้งเป็นแนวทางตั้งแต่ขั้นแรกของการพัฒนาให้มีการจัดทํา business ควรตงเปนแนวทางตงแตขนแรกของการพฒนาใหมการจดทา business
process model สําหรับ business scenario และ business
process และทํา business scenario, business process ให้อย่ในprocess และทา business scenario, business process ใหอยูใน
รูปที่สามารถมองเห็นและเข้าใจได้ด้วยตา และกําหนดให้ใช้ business model
เป็นภาษากลางในการออกแบบ business process พร้อมทั้งกําหนดการใช้p
เครื่องมือออกแบบ business process ด้วย
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

3. การพัฒนาโดยใช้ business process modelการพฒนาโดยใช business process model
ปัจจุบันผู้จําหน่าย ERP package หันมาเริ่มใช้ business process
model ในการนําเสนอ business scenario และ business process model ในการนาเสนอ business scenario และ business process
ที่ ERP package มีให้เลือกใช้ด้วย
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

4. วิธีการพัฒนาที่ใช้ Business process modelp
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

5. การพัฒนาโดยใช้ business process modelการพฒนาโดยใช business process model
2. ร่าง business scenario
ร่าง business process scenario เป้าหมายโดยอ้างอิงกับ business ราง business process scenario เปาหมายโดยอางองกบ business
scenario ที่ ERP package นําเสนอ ERP package บางตัวอาจมี
business process model ของ business scenario ที่นําเสนอไว้ให้business process model ของ business scenario ทนาเสนอไวให
ในขณะเดียวกัน ใช้เครื่องมือช่วยออกแบบ business process และ จัดทํา
business process model ที่แสดง business scenario ที่ร่างไว้p
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

6. การพัฒนาโดยใช้ business process modelการพฒนาโดยใช business process model
3. prototyping ตาม business scenario
กําหนด parameter ของ ERP package ตาม business scenario กาหนด parameter ของ ERP package ตาม business scenario
ที่ร่างและทํา Prototyping
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

7. การพัฒนาโดยใช้ business process modelการพฒนาโดยใช business process model
4. ทดสอบและประเมิน business scenario
ลองใช้งาน ERP package ที่ทํา prototyping ทดสอบและประเมินความลองใชงาน ERP package ททา prototyping ทดสอบและประเมนความ
เหมาะสมของ Business scenario ที่ร่าง
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

8. การพัฒนาโดยใช้ business process modelการพฒนาโดยใช business process model
5. ออกแบบ business process
ใช้ผลของการทดสอบและการประเมิน business scenario ทําการเพิ่มเติมใชผลของการทดสอบและการประเมน business scenario ทาการเพมเตม
แก้ไข business scenario และทําการออกแบบ business process
โดยอ้างอิงกับ business process ที่ ERP package นําเสนอ ERP
k k b d lpackage บาง package อาจมี business process model ของ
business process ที่นําเสนอไว้ให้ ซึ่งควรนําไปใช้อย่างมีประสิทธิผล ผลที่ได้
คือการจัดทํา business process model ที่แสดง business process คอการจดทา business process model ทแสดง business process
ที่ออกแบบโดยใช้เครื่องมือออกแบบ business process model ที่จัดทําขึ้น
นี้จะเป็นเอกสารที่เป็นสินทรัพย์ของบริษัทที่สามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิผลใน
ภายหลัง คือ ในขั้นตอนใช้งาน, การฝังรากอย่างมั่นคงและการพัฒนา ต่อยอด, การ
ดูแลรักษา, การทํา version update, การพัฒนาต่อยอดระบบ ERP ฯลฯ
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

9. การพัฒนาโดยใช้ business process modelการพฒนาโดยใช business process model
6. prototyping ตาม business process
ทําการออกแบบ parameter ของ ERP package ตาม business ทาการออกแบบ parameter ของ ERP package ตาม business
process ที่ออกแบบ และทํา prototyping
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

10. การพัฒนาโดยใช้ business process modelการพฒนาโดยใช business process model
7. ทดสอบประเมินผล business process
ลองใช้ ERP package ที่ทํา prototyping ทดสอบและประเมินลองใช ERP package ททา prototyping ทดสอบและประเมน
business process ที่ออกแบบ
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

11. การพัฒนาโดยใช้ business process modelการพฒนาโดยใช business process model
8. ทําซํ้า
ทําการแก้ไขและเพิ่มเติม business scenario business process อีกทาการแกไขและเพมเตม business scenario business process อก
ครั้งจากผลการทดสอบและการประเมิน แล้วทํา prototyping อีก ซึ่งเป็นการ
ทําซํ้าของวงจร การออกแบบ prototyping, การทดสอบและการประเมิน ในการทาซาของวงจร การออกแบบ, prototyping, การทดสอบและการประเมน ในการ
แก้ไขปรับปรุงนั้น จะต้องทําทําการแก้ไขปรับปรุง business process
model ไปด้วย ตามปกติมักจะได้ผลสรุปหลังจากทําซํ้า 2 หรือ 3 ครั้ง กระบวนการุ
ทําซํ้านี้จะทําให้ parameter ของ ERP package ถูกกําหนดและนิ่ง และ
แนวทางในการพัฒนาแบบ add on หรือการสร้างระบบภายนอกก็จะชัดเจน ใน
ขณะเดียวกัน business scenario และ business process model
เสร็จสมบูรณ์
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

12. วิธีการพัฒนาที่ใช้ ประโยชน์ของ templateวธการพฒนาทใช ประโยชนของ template
เมื่อนํา ERP มาใช้ การใช้ประโยชน์จาก template ทําให้สามารถกําหนด business
scenario และ ออกแบบ business process ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดได้อย่างมี
ป ิ ิ โ ป ี ี ั b i i ี่ ํ ่ ้ ป็ประสิทธิภาพ โดยการเปรียบเทียบกบ business scenario ทีกําหนดล่วงหน้าเป็น
template และการเปรียบเทียบกับ business process ที่ ออกแบบไว้ล่วงหน้าเป็น
template ซึ่งมีผลช่วยลดปริมาณงานของการพัฒนาลงอย่างมาก ลดจํานวนครั้งของการทวนซํ้า
การออกแบบ prototyping ทดสอบและประเมิน ทําให้สามารถเพิ่มความเร็วของการดําเนินการการออกแบบ, prototyping, ทดสอบและประเมน ทาใหสามารถเพมความเรวของการดาเนนการ
โครงการ สิ่งนี้ช่วยลดต้นทุนการพัฒนาและลดระยะเวลาของการนํา ERP มาใช้ ประสบความสําเร็จ
Template คือ ERP package ที่สามารถใช้งานได้ทันที โดยการกําหนด parameter ไว้Template คอ ERP package ทสามารถใชงานไดทนท โดยการกาหนด parameter ไว
ล่วงหน้า และรวมถึงเอกสารอธิบาย, flow การทํางาน, คู่มือการทํางาน, คู่มือการทํางาน, เอกสาร
สรุปการออกแบบ add on, report form ที่มีใน add onฯลฯ ตามปกติ template จะ
ถูกนําเสนอโดยผู้จําหน่าย ERP package หรือ ที่ปรึกษา แต่บางครั้งอาจมีการจัดเตรียมู ู p g
template ภายในบริษัท โดยผู้ใช้ ERP package เพื่อการกระจายใน แนวนอนอย่างมี
ประสิทธิภาพ
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

13. วิธีการพัฒนาที่ใช้ ประโยชน์ของ templateวธการพฒนาทใช ประโยชนของ template
เข้าใจความยากในการนํา ERP มาใช้และบริหารโครงการอย่างระมัดระวัง
เพื่อทําให้การนํา ERP มาใช้ประสบความสําเร็จ จะต้องคํานึงถึงความยากในการนําเพอทาใหการนา ERP มาใชประสบความสาเรจ จะตองคานงถงความยากในการนา
ERP มาใช้ ตั้งแต่ต้น และทําการบริหารโครงการการนํา ERP มาใช้อย่างระมัดระวัง
การบริหารโครงการการนํา ERP มาใช้ในปัจจบันยังพึ่งพาความสามารถส่วนบคคลการบรหารโครงการการนา ERP มาใชในปจจุบนยงพงพาความสามารถสวนบุคคล
อยู่มาก จึงถือว่ายังขาดความสมบูรณ์และอยู่ในระดับความสําเร็จที่ตํ่า ทําให้โครงการ
การนํา ERP มาใช้ประสบความสําเร็จมีจํานวนจํากัด และไม่สามารถ ตอบสนองต่อ
การขยายตัวในอนาคตได้ ดังนั้นการเพิ่มระดับความสมบูรณ์ของการบริหารโครงการที่
เป็น ระบบเพื่อให้ใคร ๆ สามารถทําสําเร็จได้จึงเป็นเรื่องสําคัญเร่งด่วน
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

14. สิ่งที่ต้องพิจารณาในการบริหารโครงการการนํา ERP มาใช้
1. ใช้ ERP package ที่เป็น black box
การกําหนด business scenario ใหม่ การออกแบบ และการกําหนดการกาหนด business scenario ใหม การออกแบบ และการกาหนด
business process ใหม่ให้สอดรับนั้นเป็นสิ่งจําเป็นจากการปฏิวัติการทํางาน
การกําหนดเหล่านี้ ต้องใช้เครื่องมือ ERP package ซึ่งถือว่าเป็น black box การกาหนดเหลาน ตองใชเครองมอ ERP package ซงถอวาเปน black box
ในการทํางานซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นจะต้องเอาชนะความยากลําบากนี้ ในขณะที่ทํา
การบริหารโครงการ
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

15. สิ่งที่ต้องพิจารณาในการบริหารโครงการการนํา ERP มาใช้
2. พัฒนาระบบสารสนเทศขนาดใหญ่ การนํา ERP
มาใช้งานเป็นการพัฒนาระบบสารสนเทศขนาดใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศล่าสดมาใชงานเปนการพฒนาระบบสารสนเทศขนาดใหญทใชเทคโนโลยสารสนเทศลาสุด
โดยสิ่งที่ต้องทําคือ การใช้ software ขนาดใหญ่ที่เป็น black box ที่เรียกว่า
ERP package บน platform ของ hardware, software ที่ใช้ERP package บน platform ของ hardware, software ทใช
เทคโนโลยีล่าสุด ในการสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพสูงตามที่ ต้องการ และจะต้องทําให้
การทํางานมีเสถียรภาพในฐานะที่เป็นระบบสารสนเทศหลักขององค์กรฐ
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

16. สิ่งที่ต้องพิจารณาในการบริหารโครงการการนํา ERP มาใช้
3. ใช้สภาพแวดล้อมสนับสนุนและใช้วิธีการบริหารโครงการใหม่
การนํา ERP มาใช้งานจําเป็นต้องใช้วิธีการบริหารโครงการแบบใหม่ที่ใช้เทคนิคทางการนา ERP มาใชงานจาเปนตองใชวธการบรหารโครงการแบบใหมทใชเทคนคทาง
วิศวกรรมและใช้ประโยชน์ของระบบสารสนเทศ สําหรับสนับสนุนการบริหารโครงการ
เข้าช่วย ซึ่งวิธีการบริหารโครงการแบบใหม่ จะทําการวางแผนโครงการโดยการเขาชวย ซงวธการบรหารโครงการแบบใหม จะทาการวางแผนโครงการโดยการ
วิเคราะห์ project process แบ่งสิ่งที่ต้องทําเป็นหน่วยการปฏิบัติงานย่อยอย่าง
ละเอียด เท่าที่สามารถทําได้ล่วงหน้า (Work Breakdown Structure) ( )
แต่ละหน่วยปฏิบัติการย่อย ต้องกําหนด ขั้นตอน, การจัดสรรทรัพยากร, การลงบัญชี
ต้นทุน ให้มีความชัดเจน
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

17. สิ่งที่ต้องพิจารณาในการบริหารโครงการการนํา ERP มาใช้
4. ใช้ประโยชน์ของเทคนิคการบริหารโครงการใหม่
วิธีการบริหารโครงการแบบใหม่ จะทําการวางแผนโครงการโดยการวิเคราะห์วธการบรหารโครงการแบบใหม จะทาการวางแผนโครงการโดยการวเคราะห
project process แบ่งสิ่งที่ต้องทําออกเป็นหน่วยปฏิบัติงานย่อยอย่างละเอียด
เท่าที่สามารถทําได้ล่วงหน้า (Work Breakdown structure) นอกจากนั้นเทาทสามารถทาไดลวงหนา (Work Breakdown structure) นอกจากนน
สําหรับแต่ละหน่วยการปฏิบัติการย่อย ยังต้องทําให้ขั้นตอน, การจัดสรรทรัพยากร,
กําหนดการลงบัญชีต้นทุน มีความชัดเจน โดยทั้งหมดนี้จะเป็นการกําหนดเกณฑ์ญ ุ
(base Line) ของโครงการ
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

18. สิ่งที่ต้องพิจารณาในการบริหารโครงการการนํา ERP มาใช้
กราฟต่อไปนี้แสดงตัวอย่างการทําระยะเวลา และต้นทุนสะสมในรูปกราฟ โดยแสดงถึงเส้นเกณฑ์ในการดําเนิน
โครงการ การใช้เทคนิคการบริหารโครงการใหม่ที่เรียกว่า EVMS (Earned Valued
Management System) เป็นสิ่งจําเป็นเพื่อให้โครงการประสบความสําเร็จ โดยระบบนี้จะบอกให้รู้ถึง
ความก้าวหน้า และการลงบัญชีต้นทุนของทุกขั้นตอนการปฏิบัติการย่อย สามารถทําการ Monitorโครงการ
และคาดการณ์จุดที่จะไปถึงในขั้นสุดท้าย และสามารถประเมินความเสี่ยงโดย ติดตามดูความแตกต่างจากเกณฑ์ุ ุ ู
(base line) อยู่เสมอพร้อมๆ กับการดําเนินมาตรการป้องกัน ล่วงหน้าได้
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

19. สิ่งที่ต้องพิจารณาในการบริหารโครงการการนํา ERP มาใช้
6. เมื่อใช้งานจริง ให้คิดว่ายังเสร็จแค่ 50 %
การนํา ERP มาใช้ไม่ได้จบตรงการเริ่มใช้งานจริง แต่ต้องคิดว่าการเริ่มใช้งานจริงเป็นการนา ERP มาใชไมไดจบตรงการเรมใชงานจรง แตตองคดวาการเรมใชงานจรงเปน
การได้มาครึ่งทาง เท่านั้น การใช้งานจะประสบผลสําเร็จ ต้องมีกิจกรรมการให้ความรู้
อย่างต่อเนื่อง, การปฏิรปองค์กรอย่าง ต่อเนื่อง, การแสวงหาประสิทธิผลอย่างต่อเนื่องอยางตอเนอง, การปฏรูปองคกรอยาง ตอเนอง, การแสวงหาประสทธผลอยางตอเนอง
โดยต้องประกาศให้ทราบทั่วกันภายในบริษัท
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

20. สิ่งที่ต้องพิจารณาในการบริหารโครงการการนํา ERP มาใช้
7. คํานึงถึงการกระจายในแนวนอนตั้งแต่แรก
การนํา ERP มาใช้จําเป็นต้องมีการกระจายในแนวนอน คือการกระจายส่สายธรกิจการนา ERP มาใชจาเปนตองมการกระจายในแนวนอน คอการกระจายสูสายธุรกจ
อื่น, การระจายสู่โรงงานอื่นของบริษัท ฯลฯ ความสามารถทําการกระจายในแนวนอน
และการกระจายในวงกว้างอย่างรวดเร็วจะทําให้ การนํา ERP มาใช้ทั่วทั้งบริษัทและการกระจายในวงกวางอยางรวดเรวจะทาให การนา ERP มาใชทวทงบรษท
ประสบความสําเร็จ เพื่อให้การกระจายในแนวนอนใน บริษัททําได้ง่าย จําเป็นต้อง
จัดทําผลสําเร็จของการนํามาใช้ครั้งแรกให้เป็น template ภายในบริษัท โดยในp
การจัดทํานี้ การทําให้สามารถมองเห็น business scenario และ business
process ของ template ของ บริษัทได้ด้วยตาเป็น business process
model เป็นสิ่งสําคัญ
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

21. สิ่งที่ต้องพิจารณาในการบริหารโครงการการนํา ERP มาใช้
8. วางระบบดูแลรักษา ERP
ความสามารถดแลรักษาระบบ ERP ได้อย่างดี จําเป็นต้อง สร้างบคลากรสําหรับการความสามารถดูแลรกษาระบบ ERP ไดอยางด จาเปนตอง สรางบุคลากรสาหรบการ
ดูแลรักษา รวมทั้งจัดทําเอกสารสําหรับการดูแลรักษา
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

22. สิ่งที่ต้องพิจารณาในการบริหารโครงการการนํา ERP มาใช้
9. ขยายและต่อยอดระบบ
หากประสบผลสําเร็จในการนํา ERP มาใช้ การรีบขยายต่อยอด ERP โดยใช้หากประสบผลสาเรจในการนา ERP มาใช การรบขยายตอยอด ERP โดยใช
ประโยชน์จากการมี รากฐานของระบบสารสนเทศขององค์กรที่ได้จากการสร้างระบบ
ERP และการฝังรากของแนวคิด ERP ช่วย เพิ่มความสําเร็จของการนํา ERP มา
ใ ึ่ใช้ ซึงอาจขยายต่อยอด
- ขยายไปสู่ E‐business โดยการทําระบบ E‐Commerce มีระบบ
ความสัมพันธ์กับลกค้า ความสัมพันธ์กับค่ค้า ซัพพลายเออร์ความสมพนธกบลูกคา,ความสมพนธกบคูคา, ซพพลายเออร
- ขยายไปสู่ SCM โดยพัฒนาต่อยอดไปสู่ความร่วมมือกับซัพพลายเออร์โดยผ่าน
ระบบ SCM และการสร้างความแตกต่างด้วย business model ที่เหนือกว่า
บริษัทอื่นเพื่อสร้างขีด ความสามารถให้สูงขึ้น
- ขยายไปสู่ CRM สร้างความร่วมมือที่สร้างสรรค์กับลูกค้า เป็นการสร้างความ
่ ใ ้ ื ่ ใ ่ ั ั ิ ั ื่ ึ้แตกตางให เหนอกวาในการแขงขนกบบรษทอนสูงขน
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom

23. END
ERP101‐Chapter13 Tanapat limsaiprom