บทที่
- 1. บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
1.ชนิดของปลวก
การจาแนกปลวกอย่างกว้างๆแบ่งออกเป็น2พวกใหญ่ๆคือปลวกที่อาศัยอยู่ในดิน และ
ปลวกที่ไม่อาศัยอยู่ในดิน ปลวกอาศัยอยู่ในดิน จาแนกได้เป็น3 พวกคือ
1.1 ปลวกใต้ดิน(Subterranean
termites) พวกนี้จะอาศัยอยู่ในดินเกือบตลอดอายุของมันแม้ว่าจะออกจากผิวดินไปแล้ว
ก็ยังมีการติดต่อกับพื้นดินอยู่โดยการทาอุโมงค์ทางเดินด้วยดินไปสู่แหล่งอาหารต่างๆที่อยู่เหนือดิน
นอกจากนี้อุโมงค์ทางเดินยังเป็นเครื่องป้ องกันอันตรายจากศัตรู เช่นมด
1.2 ปลวกที่อยู่ตามจอมปลวก(Mound-building
termites)เป็นปลวกที่สร้างรังหรืออาณาจักรขนาดใหญ่อยู่บนพื้นดินโดยใช้เม็ดดินเล็กๆ
สร้างขึ้นเป็นเนินสูงใหญ่ที่เรียกว่าจอมปลวกจะพบเห็นทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย
และประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชีย แอฟริกา และออสเตรเลีย
1.3 ปลวกที่อยู่ตามรังขนาดเล็ก(Carton-nest-building termites) รังของ ปลวกชนิดนี้ เกิดจากมูลของ
ปลวกผสมกับเศษไม้เล็กๆและสร้างเป็นรังที่มีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันไปอาจจะอยู่ในดิน
บนพื้นดินหรือเหนือพื้นดิน เช่น ตามต้นไม้เสาไฟ หรืออาคารบ้านเรือน
1.4 ปลวกไม้แห้ง(Dry-wood termites) เป็นพวกที่มีอาณาจักรหรือรังเล็กกว่าปลวกใต้ดิน
อาศัยอยู่ในเนื้อไม้ และจะไม่ลงไปในดินปลวกชนิดนี้ต้องการความชื้นในไม้แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
และเป็นพวกที่ทาความเสียหายร้ายแรงต่ออาคารบ้านเรือนและเครื่องเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ
1.5 ปลวกไม้ชื้น(Damp-wood termites) อาศัยอยู่ในเนื้อไม้ที่มีความชื้นสูง เช่น เปลือกไม้ไม้ซุง
หรือไม้ที่ผุแล้ว ห้องที่มีความชื้นและความเย็นนับว่าเป็นสถานที่เหมาะสมสาหรับ ปลวก
ประเภทนี้อาศัยอยู่ตามปกติแล้วเป็นปลวกที่ไม่มีอันตรายต่ออาคารบ้านเรือนมากนัก
2.วรรณะของปลวก
ปลวกเป็นแมลงที่อยู่เป็นหมู่สังคมประกอบด้วยวรรณะต่างๆรวม3วรรณะ
และมีหน้าที่แตกต่างกันไป
2.1 ปลวกสืบพันธุ์
- 2. คือปลวกตัวผู้และตัวเมียมีปีกและเพศดังแมลงอื่นๆทั่วไปตามปกติ ในรังหรือ
อาณาจักรจะพบปลวกคู่นี้ทาหน้าที่ผสมพันธุ์และสืบพันธุ์ตัวผู้เรียกว่าราชาปลวกและตัวเมียเรียกว่า
ราชินีปลวกออกไข่เกิดเป็นปลวกชนิดต่างๆในรังนอกจากนี้ ปลวกสืบพันธุ์ยังมีหน้าที่ กระจาย
พันธุ์และสร้างอาณาจักรใหม่เกิดขึ้นอีกด้วยปลวกชนิดนี้มีปีกทั้งตัวผู้และตัวเมียเรียกว่าแมลงเม่า
เมื่อจับคู่ผสมพันธุ์แล้วจะสลัดปีกและเลือกสถานที่เหมาะสมเพื่อสร้างรังและเกิดเป็นอาณาจักร
ใหม่ต่อไป
2.2 ปลวกงาน
เป็น ปลวกตัวเล็กไม่มีปีกไม่มีเพศและไม่มีตาอาศัยอยู่ในดินหรือเนื้อไม้ ที่มันกัดและทาลาย
มีหน้าที่ก่อสร้าง หาอาหารมาเลี้ยงปลวกวรรณะอื่นๆปลวกชนิดนี้จะทางานทุกอย่างภายในรัง
2.3 ปลวกทหาร
เป็น ปลวกตัวเล็กแต่มีหัวโตและขากรรไกรขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการต่อสู้ไม่มีปีกไม่มีตา
และไม่มีเพศ ปลวกชนิดนี้มีหน้าที่ปกป้ องอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับรังศัตรูสาคัญของมันคือมด
3.ลักษณะเฉพาะของปลวกที่ควรรู้
อาหารของปลวกปลวกกินเซลลูโลสในเนื้อไม้เป็นอาหาร ดังนั้นในบ้านเรือนของมนุษย์
ส่วนที่จะเป็นอาหารของปลวกได้จึงหมายถึงทุกส่วนที่ทาจากไม้ไม่ว่าเสาฝากระดานโครงฝ้า
ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้ในบ้านทุกชิ้น ยกเว้นเฉพาะไม้เนื้อแข็งบางชนิดเท่านั้น
ที่มีสารเคมีบางอย่างโดยธรรมชาติที่ป้ องกันการรุกรานของปลวกได้ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ถ้านานไป
สารเคมีนั้นเสื่อมถอยด้อยคุณภาพลง ก็ถูกปลวกทาลายได้เช่นเดียวกัน
นอกจากไม้แท้ๆ แล้วไม้สังเคราะห์ประเภทที่มีส่วนผสมของเซลลูโลสจากไม้
ก็เป็นอาหารของปลวกเช่นกันดังนั้นเฟอร์นิเจอร์ยุคใหม่ที่ทาจากวัสดุแปลกๆ
แต่มีส่วนผสมของไม้อยู่จึงไม่รอดพ้นการเป็นอาหารของปลวกทั้งนี้ ยังรวมไปถึงกระดาษผ้า
และหนังสือต่างๆ ที่มีส่วนของเซลลูโลสจากพืชผสมอยู่ด้วย
บ้านเรือนสมัยนี้ส่วนใหญ่ก่อด้วยอิฐ ฉาบปูน โครงหลังคาทาด้วยเหล็ก
โครงฝ้าทาด้วยอลูมีเนียมแผ่นฝ้าเป็นยิปซั่ม ส่วนที่ยังเป็นอาหารเชื้อเชิญให้ปลวกบุกบ้านเราอยู่
ก็จะมีเพียงแค่วงกบและบานประตูหน้าต่างที่ยังนิยมใช้ที่ทาจากไม้อยู่
(แม้ว่าจะเป็นไม้เนื้อแข็ง)นอกจากนั้นก็มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ไม้จริงและไม้อัดหรือไม้เทียม
เท่านั้นที่เป็นอาหารของปลวกแต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเสื้อผ้าหรือหนังสือและกระดาษ
- 3. ที่ผู้คนมักเก็บสุมไว้ห้องเก็บของหรือแม้แต่ในห้องนอน ยังคงเป็นอาหารที่ปลวกชอบอยู่ด้วย
แม้ว่าปัจจุบันนี้จะหมดห่วงเรื่องตัวบ้านไปมากแต่ของในบ้านนั่นยังน่าห่วงไม่น้อย
4.การกาจัดปลวกด้วยสารเคมี
การกาจัดปลวกในปัจจุบัน มักจะใช้สารเคมีเพราะเห็นผลเร็ว และมีความแน่นอน
โดยใช้สารเคมีคือตัวเฟนนิล ไพราโซล มีข้อดีตรงที่ไม่มีกลิ่น
ให้ผลในการกาจัดที่ดี นอกจากนั้นยังมีระบบการวางท่อภายในตัวบ้าน
แล้วทาการฉีดสารเคมีเข้าไปตามท่อจุดต่างๆที่ได้เจาะรูปไว้โดยปกติแต่ละจุดจะอยู่ห่างกัน 1เมตร
ซึ่งวิธีนี้ต้องว่าจ้างบริษัทกาจัดปลวกมาทาให้โดยส่วนใหญ่จะฉีดปีละ 2-
3 ครั้งแล้วแต่ปริมาณของปลวกในบ้าน
แต่วิธีการกาจัดปลวกด้วยวิธีการต่างๆเหล่านี้ จะส่งผลเสียต่อมนุษย์
เพราะสารเคมีที่ใช้กาจัดปลวก อาจเกิดสารตกค้างได้ แต่ปัจจุบันเราสามารถสร้างทางเลือกใหม่
ในการกาจัดปลวกได้ คือใช้สมุนไพรในการกาจัดปลวก
5.การกาจัดปลวกด้วยสมุนไพร
สมุนไพรกาจัดปลวกนั้นสกัดจากพืชสมุนไพรไทยสมุนไพรที่ใช้ คือ หอมแดง พริกขี้หนู
และใบสาบเสือ ซึ่งเป็นพืชที่ปลวกไม่สามารถสร้างกลไก
ในการย่อยสลายสารสาคัญจากพืชเหล่านี้ได้สารสาคัญจากพืชเหล่านี้
มีผลในการควบคุมประชากรปลวกโดยกลไกที่แตกต่างกันตั้งแต่การยับยั้ง
การเจริญเติบโตของตัวอ่อนการวางไข่การกินอาหารตลอดถึงการลดการพัฒนาการของ
จุลินทรีย์ในลาไส้ของปลวกซึ่งมีผลโดยตรงต่อความอยู่
รอดและการทาลายของปลวก ซึ่งทาให้มีการควบคุมประชากรของปลวก
โดยลดขบวนการย่อยอาหารทาลายจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารหยุดการลอกคราบของตัวอ่อน
ทาให้ตัวอ่อน ไม่เจริญเติบโต ลดการฟักไข่
ของนางพญา สมุนไพรกาจัดปลวกนี้มีประสิทธิภาพในการลดประชากรของปลวกในสกุล Coptoter
mes spp. จะมีผลทาให้ปลวกค่อยๆอ่อนแอลง แต่ต้องใช้เวลานานกว่าการใช้สารเคมี
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจานวนประชากรของปลวกด้วย
- 4. 6.สมุนไพรที่ใช้กาจัดปลวก
6.1หอมแดง
หอมแดงมีชื่อวิทยาศาสตร์: Allium ascalonicum เป็นพืชในวงศ์Alliaceae โดยยึดเอา French
grey challot หรือgriselle เป็นหอมที่แท้จริงจัดอยู่ในสปีชีย์นี้
มีการเพาะปลูกในเอเชียกลางและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ส่วนความหลากหลายอื่นที่มีคือ Allium
cepa var. aggregatum หรือที่รู้จักกันในชื่อ A.ascalonicum
เป็นพืชเศรษฐกิจสาคัญ
ของประเทศในถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยส่งออกหอมแดง
ไปยังประเทศมาเลเซียเป็นจานวนมากการซื้อขายส่วนใหญ่เป็นหัวๆชั่งขายเป็นกิโลกรัม
และมัดขายเป็นกาๆแต่ก็ขายตามน้าหนัก
เช่นเดียวกันในประเทศไทยปลูกกันมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ
แต่หอมแดงที่มีชื่อเสียงว่าเป็นหอมแดงคุณภาพดีได้แก่หอมแดงจากจังหวัดศรีสะเกษ
สรรพคุณ
หัวหอม มีรสฉุน ช่วยขับลมแก้ท้องอืดช่วยย่อยและเจริญอาหารแก้บวมน้า
แก้อาการอักเสบต่างๆ แก้บวมน้าขับพยาธิ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น เมล็ด แก้อาเจียนเป็นเลือด
แก้กินเนื้อสัตว์เป็นพิษร่างกายซุบผอม(ใช้เมล็ดแห้ง 5-10กรัมต้มน้าดื่ม)ตารายาไทยใช้หัวหอมแดง
ผสมรวมกับเหง้าเปราะหอมสุมหัวเด็ก แก้หวัดคัดจมูก
และกินเป็นยาขับลม หอมแดงมีสารเคอร์ซิตินและสารฟลาโวนอยด์(quercetin และflavonoid
glycosides) อาจป้ องกันโรคมะเร็งได้
นอกจากนี้ หอมแดงยังมีคุณสมบัติ เป็นยารักษาโรคใช้ลดไข้และรักษาแผลได้
โดยเอาหัวหอมแดงมาซอยเป็นแว่นๆ ผสมกับน้ามันมะพร้าวและเกลือต้มให้เดือด
- 5. แล้วนามาพอกแผลนอกจากนั้นหอมแดงยังช่วยลดระดับน้าตาลในเลือดและยับยั้งเส้นเลือดอุดตัน
ด้วยการบริโภคสดหรือประกอบอาหาร หรือบริโภคชนิดผง
6.2 พริกขี้หนู
ชื่อวิทยาศาสตร์: Capsicum flutescens Linn.
ชื่อวงศ์: SOLANACAEAC ชื่อสามัญ: Bird Chilli
ชื่อท้องถิ่น:พริกแต้ ดีปลีขี้นก หมักเพ็ดลักษณะวิสัย:ไม้ต้น
ลักษณะทั่วไป: พริกเป็นพืชที่มีอายุได้หลายฤดู ลาต้นตั้งตรง สูงประมาณ1-1.25
ฟุต ใบแบนเรียบเป็นมัน ดอกเป็นดอกเดี่ยวขนาดเล็ก กลีบดอกจะมีสีขาว หรือสีม่วง เกสรตัวผู้1-
10 อัน เกสรตัวเมีย 1-2 อัน ผลหลายขนาด ผลขนาดเล็กยาวประมาณ1-1.5
นิ้ว ลูกอ่อนสีเขียวเข้ม เมื่อแก่เป็นสีแดง การปลูกพริก ชอบดินร่วนซุย และอากาศร้อน
การขยายพันธุ์:โดยการเพาะเมล็ดประโยชน์:
ยอดอ่อนรับประทาน โดยลวกเป็นผักแกล้มน้าพริก หรือนาไปปรุงอาหารประเภทแกงจืด แกงเลียง
มีสรรพคุณทางยาขับลม ขับปัสสาวะ ภายในผลพริกจะมีสาร capsaicin ที่ก่อให้เกิดความเผ็ด
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
พริกเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลโซลานาซีอี (Solanaceae) ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกันกับมะเขือมันฝรั่ง
และยาสูบพืชในตระกูลนี้มีอยู่ประมาณ90สกุล (Genus) หรือ 2,000ชนิด
(Species) โดยทั่วไปเป็นได้ทั้งพืชล้มลุกไม้พุ่มและไม้ยืนต้นขนาดเล็กซึ่งกระจายอยู่ทั่วไปของโลก
สาหรับพริกจัดอยู่ในสกุล Capsicum ซึ่งประกอบด้วยพืชชนิดต่างๆประมาณ20-30
6.3 สาบเสือ
(อังกฤษ:Bitter bush, Siam weed) เป็นสมุนไพรอย่าง หนึ่งที่หาง่ายมากมีอยู่ทั่วไป
จัดว่าเป็นวัชพืชที่มีสรรพคุณทางยาที่ใช้ประโยชน์ได้ดีที่เดียวเราใช้"ต้นสาบเสือ"
เป็นดรรชีชี้วัดอุณหภูมิความแห้งแล้งของอากาศ
เพราะหากอากาศไม่แล้งต้นสาบเสือก็จะไม่ออกดอกสาเหตุที่ได้ชื่อว่าสาบเสือ
ก็เพราะว่าดอกของมันไม่มีกลิ่นหอมเลยแต่กลับมีกลิ่นสาบ
คนโบราณเวลาหนีสัตว์ร้ายอื่นเข้าดงสาบเสือจะปลอดภัย
เพราะสัตว์อื่นนั้นจะไม่ได้กลิ่นคนสาบเสือมีสรรพคุณทางยามากมายทั้งจากต้นใบดอก
ซึ่งสามารถจาแนกได้ดังนี้
- 6. ต้น เป็นยาแก้ปวดท้องท้องขึ้น ท้องเฟ้อแก้บวมดูดหนองแล้วนอกจากนี้
ใบ
ใบของสาบเสือมีสารสาคัญคือ กระอะนิสิก และฟลาโวนอยด์หลายชนิดเช่นไอโซซากูรานิติน
และโอโดราตินนอกจากนี้ยังมีสารพวกน้ามันหอมระเหย ซึ่งประกอบไปด้วยสารยูพาทอลคูมาริน
โดยสารสาคัญเหล่านี้จะไปออกฤทธิ์ที่ผนังเส้นเลือดทาให้เส้นเลือดหดตัว
และนอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ไปกระตุ้นสารที่ทาให้เลือดแข็งตัวได้เร็วขึ้น
ทาให้สามารถห้ามเลือดได้ ใช้เป็นยารักษาแผลสดสมานแผล ถอนพิษแก้อักเสบแก้พิษน้าเหลือง
แก้ตาฟางแก้ตาแฉะแก้ริดสีดวงทวารหนักรักษาแผลเปื่อยและยังมีฤทธิ์พิชิตปลวกได้อีกด้วย
ดอกของสาบเสือ เป็นยาแก้ร้อนใน กระหายน้าชูกาลังแก้อ่อนเพลีย บารุงหัวใจแก้ไข้
ทั้งต้น เป็นยาแก้บาดทะยัก