SlideShare a Scribd company logo
1 of 6
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
1.ชนิดของปลวก
การจาแนกปลวกอย่างกว้างๆแบ่งออกเป็น2พวกใหญ่ๆคือปลวกที่อาศัยอยู่ในดิน และ
ปลวกที่ไม่อาศัยอยู่ในดิน ปลวกอาศัยอยู่ในดิน จาแนกได้เป็น3 พวกคือ
1.1 ปลวกใต้ดิน(Subterranean
termites) พวกนี้จะอาศัยอยู่ในดินเกือบตลอดอายุของมันแม้ว่าจะออกจากผิวดินไปแล้ว
ก็ยังมีการติดต่อกับพื้นดินอยู่โดยการทาอุโมงค์ทางเดินด้วยดินไปสู่แหล่งอาหารต่างๆที่อยู่เหนือดิน
นอกจากนี้อุโมงค์ทางเดินยังเป็นเครื่องป้ องกันอันตรายจากศัตรู เช่นมด
1.2 ปลวกที่อยู่ตามจอมปลวก(Mound-building
termites)เป็นปลวกที่สร้างรังหรืออาณาจักรขนาดใหญ่อยู่บนพื้นดินโดยใช้เม็ดดินเล็กๆ
สร้างขึ้นเป็นเนินสูงใหญ่ที่เรียกว่าจอมปลวกจะพบเห็นทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย
และประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชีย แอฟริกา และออสเตรเลีย
1.3 ปลวกที่อยู่ตามรังขนาดเล็ก(Carton-nest-building termites) รังของ ปลวกชนิดนี้ เกิดจากมูลของ
ปลวกผสมกับเศษไม้เล็กๆและสร้างเป็นรังที่มีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันไปอาจจะอยู่ในดิน
บนพื้นดินหรือเหนือพื้นดิน เช่น ตามต้นไม้เสาไฟ หรืออาคารบ้านเรือน
1.4 ปลวกไม้แห้ง(Dry-wood termites) เป็นพวกที่มีอาณาจักรหรือรังเล็กกว่าปลวกใต้ดิน
อาศัยอยู่ในเนื้อไม้ และจะไม่ลงไปในดินปลวกชนิดนี้ต้องการความชื้นในไม้แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
และเป็นพวกที่ทาความเสียหายร้ายแรงต่ออาคารบ้านเรือนและเครื่องเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ
1.5 ปลวกไม้ชื้น(Damp-wood termites) อาศัยอยู่ในเนื้อไม้ที่มีความชื้นสูง เช่น เปลือกไม้ไม้ซุง
หรือไม้ที่ผุแล้ว ห้องที่มีความชื้นและความเย็นนับว่าเป็นสถานที่เหมาะสมสาหรับ ปลวก
ประเภทนี้อาศัยอยู่ตามปกติแล้วเป็นปลวกที่ไม่มีอันตรายต่ออาคารบ้านเรือนมากนัก
2.วรรณะของปลวก
ปลวกเป็นแมลงที่อยู่เป็นหมู่สังคมประกอบด้วยวรรณะต่างๆรวม3วรรณะ
และมีหน้าที่แตกต่างกันไป
2.1 ปลวกสืบพันธุ์
คือปลวกตัวผู้และตัวเมียมีปีกและเพศดังแมลงอื่นๆทั่วไปตามปกติ ในรังหรือ
อาณาจักรจะพบปลวกคู่นี้ทาหน้าที่ผสมพันธุ์และสืบพันธุ์ตัวผู้เรียกว่าราชาปลวกและตัวเมียเรียกว่า
ราชินีปลวกออกไข่เกิดเป็นปลวกชนิดต่างๆในรังนอกจากนี้ ปลวกสืบพันธุ์ยังมีหน้าที่ กระจาย
พันธุ์และสร้างอาณาจักรใหม่เกิดขึ้นอีกด้วยปลวกชนิดนี้มีปีกทั้งตัวผู้และตัวเมียเรียกว่าแมลงเม่า
เมื่อจับคู่ผสมพันธุ์แล้วจะสลัดปีกและเลือกสถานที่เหมาะสมเพื่อสร้างรังและเกิดเป็นอาณาจักร
ใหม่ต่อไป
2.2 ปลวกงาน
เป็น ปลวกตัวเล็กไม่มีปีกไม่มีเพศและไม่มีตาอาศัยอยู่ในดินหรือเนื้อไม้ ที่มันกัดและทาลาย
มีหน้าที่ก่อสร้าง หาอาหารมาเลี้ยงปลวกวรรณะอื่นๆปลวกชนิดนี้จะทางานทุกอย่างภายในรัง
2.3 ปลวกทหาร
เป็น ปลวกตัวเล็กแต่มีหัวโตและขากรรไกรขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการต่อสู้ไม่มีปีกไม่มีตา
และไม่มีเพศ ปลวกชนิดนี้มีหน้าที่ปกป้ องอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับรังศัตรูสาคัญของมันคือมด
3.ลักษณะเฉพาะของปลวกที่ควรรู้
อาหารของปลวกปลวกกินเซลลูโลสในเนื้อไม้เป็นอาหาร ดังนั้นในบ้านเรือนของมนุษย์
ส่วนที่จะเป็นอาหารของปลวกได้จึงหมายถึงทุกส่วนที่ทาจากไม้ไม่ว่าเสาฝากระดานโครงฝ้า
ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้ในบ้านทุกชิ้น ยกเว้นเฉพาะไม้เนื้อแข็งบางชนิดเท่านั้น
ที่มีสารเคมีบางอย่างโดยธรรมชาติที่ป้ องกันการรุกรานของปลวกได้ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ถ้านานไป
สารเคมีนั้นเสื่อมถอยด้อยคุณภาพลง ก็ถูกปลวกทาลายได้เช่นเดียวกัน
นอกจากไม้แท้ๆ แล้วไม้สังเคราะห์ประเภทที่มีส่วนผสมของเซลลูโลสจากไม้
ก็เป็นอาหารของปลวกเช่นกันดังนั้นเฟอร์นิเจอร์ยุคใหม่ที่ทาจากวัสดุแปลกๆ
แต่มีส่วนผสมของไม้อยู่จึงไม่รอดพ้นการเป็นอาหารของปลวกทั้งนี้ ยังรวมไปถึงกระดาษผ้า
และหนังสือต่างๆ ที่มีส่วนของเซลลูโลสจากพืชผสมอยู่ด้วย
บ้านเรือนสมัยนี้ส่วนใหญ่ก่อด้วยอิฐ ฉาบปูน โครงหลังคาทาด้วยเหล็ก
โครงฝ้าทาด้วยอลูมีเนียมแผ่นฝ้าเป็นยิปซั่ม ส่วนที่ยังเป็นอาหารเชื้อเชิญให้ปลวกบุกบ้านเราอยู่
ก็จะมีเพียงแค่วงกบและบานประตูหน้าต่างที่ยังนิยมใช้ที่ทาจากไม้อยู่
(แม้ว่าจะเป็นไม้เนื้อแข็ง)นอกจากนั้นก็มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ไม้จริงและไม้อัดหรือไม้เทียม
เท่านั้นที่เป็นอาหารของปลวกแต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเสื้อผ้าหรือหนังสือและกระดาษ
ที่ผู้คนมักเก็บสุมไว้ห้องเก็บของหรือแม้แต่ในห้องนอน ยังคงเป็นอาหารที่ปลวกชอบอยู่ด้วย
แม้ว่าปัจจุบันนี้จะหมดห่วงเรื่องตัวบ้านไปมากแต่ของในบ้านนั่นยังน่าห่วงไม่น้อย
4.การกาจัดปลวกด้วยสารเคมี
การกาจัดปลวกในปัจจุบัน มักจะใช้สารเคมีเพราะเห็นผลเร็ว และมีความแน่นอน
โดยใช้สารเคมีคือตัวเฟนนิล ไพราโซล มีข้อดีตรงที่ไม่มีกลิ่น
ให้ผลในการกาจัดที่ดี นอกจากนั้นยังมีระบบการวางท่อภายในตัวบ้าน
แล้วทาการฉีดสารเคมีเข้าไปตามท่อจุดต่างๆที่ได้เจาะรูปไว้โดยปกติแต่ละจุดจะอยู่ห่างกัน 1เมตร
ซึ่งวิธีนี้ต้องว่าจ้างบริษัทกาจัดปลวกมาทาให้โดยส่วนใหญ่จะฉีดปีละ 2-
3 ครั้งแล้วแต่ปริมาณของปลวกในบ้าน
แต่วิธีการกาจัดปลวกด้วยวิธีการต่างๆเหล่านี้ จะส่งผลเสียต่อมนุษย์
เพราะสารเคมีที่ใช้กาจัดปลวก อาจเกิดสารตกค้างได้ แต่ปัจจุบันเราสามารถสร้างทางเลือกใหม่
ในการกาจัดปลวกได้ คือใช้สมุนไพรในการกาจัดปลวก
5.การกาจัดปลวกด้วยสมุนไพร
สมุนไพรกาจัดปลวกนั้นสกัดจากพืชสมุนไพรไทยสมุนไพรที่ใช้ คือ หอมแดง พริกขี้หนู
และใบสาบเสือ ซึ่งเป็นพืชที่ปลวกไม่สามารถสร้างกลไก
ในการย่อยสลายสารสาคัญจากพืชเหล่านี้ได้สารสาคัญจากพืชเหล่านี้
มีผลในการควบคุมประชากรปลวกโดยกลไกที่แตกต่างกันตั้งแต่การยับยั้ง
การเจริญเติบโตของตัวอ่อนการวางไข่การกินอาหารตลอดถึงการลดการพัฒนาการของ
จุลินทรีย์ในลาไส้ของปลวกซึ่งมีผลโดยตรงต่อความอยู่
รอดและการทาลายของปลวก ซึ่งทาให้มีการควบคุมประชากรของปลวก
โดยลดขบวนการย่อยอาหารทาลายจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารหยุดการลอกคราบของตัวอ่อน
ทาให้ตัวอ่อน ไม่เจริญเติบโต ลดการฟักไข่
ของนางพญา สมุนไพรกาจัดปลวกนี้มีประสิทธิภาพในการลดประชากรของปลวกในสกุล Coptoter
mes spp. จะมีผลทาให้ปลวกค่อยๆอ่อนแอลง แต่ต้องใช้เวลานานกว่าการใช้สารเคมี
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจานวนประชากรของปลวกด้วย
6.สมุนไพรที่ใช้กาจัดปลวก
6.1หอมแดง
หอมแดงมีชื่อวิทยาศาสตร์: Allium ascalonicum เป็นพืชในวงศ์Alliaceae โดยยึดเอา French
grey challot หรือgriselle เป็นหอมที่แท้จริงจัดอยู่ในสปีชีย์นี้
มีการเพาะปลูกในเอเชียกลางและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ส่วนความหลากหลายอื่นที่มีคือ Allium
cepa var. aggregatum หรือที่รู้จักกันในชื่อ A.ascalonicum
เป็นพืชเศรษฐกิจสาคัญ
ของประเทศในถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยส่งออกหอมแดง
ไปยังประเทศมาเลเซียเป็นจานวนมากการซื้อขายส่วนใหญ่เป็นหัวๆชั่งขายเป็นกิโลกรัม
และมัดขายเป็นกาๆแต่ก็ขายตามน้าหนัก
เช่นเดียวกันในประเทศไทยปลูกกันมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ
แต่หอมแดงที่มีชื่อเสียงว่าเป็นหอมแดงคุณภาพดีได้แก่หอมแดงจากจังหวัดศรีสะเกษ
สรรพคุณ
หัวหอม มีรสฉุน ช่วยขับลมแก้ท้องอืดช่วยย่อยและเจริญอาหารแก้บวมน้า
แก้อาการอักเสบต่างๆ แก้บวมน้าขับพยาธิ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น เมล็ด แก้อาเจียนเป็นเลือด
แก้กินเนื้อสัตว์เป็นพิษร่างกายซุบผอม(ใช้เมล็ดแห้ง 5-10กรัมต้มน้าดื่ม)ตารายาไทยใช้หัวหอมแดง
ผสมรวมกับเหง้าเปราะหอมสุมหัวเด็ก แก้หวัดคัดจมูก
และกินเป็นยาขับลม หอมแดงมีสารเคอร์ซิตินและสารฟลาโวนอยด์(quercetin และflavonoid
glycosides) อาจป้ องกันโรคมะเร็งได้
นอกจากนี้ หอมแดงยังมีคุณสมบัติ เป็นยารักษาโรคใช้ลดไข้และรักษาแผลได้
โดยเอาหัวหอมแดงมาซอยเป็นแว่นๆ ผสมกับน้ามันมะพร้าวและเกลือต้มให้เดือด
แล้วนามาพอกแผลนอกจากนั้นหอมแดงยังช่วยลดระดับน้าตาลในเลือดและยับยั้งเส้นเลือดอุดตัน
ด้วยการบริโภคสดหรือประกอบอาหาร หรือบริโภคชนิดผง
6.2 พริกขี้หนู
ชื่อวิทยาศาสตร์: Capsicum flutescens Linn.
ชื่อวงศ์: SOLANACAEAC ชื่อสามัญ: Bird Chilli
ชื่อท้องถิ่น:พริกแต้ ดีปลีขี้นก หมักเพ็ดลักษณะวิสัย:ไม้ต้น
ลักษณะทั่วไป: พริกเป็นพืชที่มีอายุได้หลายฤดู ลาต้นตั้งตรง สูงประมาณ1-1.25
ฟุต ใบแบนเรียบเป็นมัน ดอกเป็นดอกเดี่ยวขนาดเล็ก กลีบดอกจะมีสีขาว หรือสีม่วง เกสรตัวผู้1-
10 อัน เกสรตัวเมีย 1-2 อัน ผลหลายขนาด ผลขนาดเล็กยาวประมาณ1-1.5
นิ้ว ลูกอ่อนสีเขียวเข้ม เมื่อแก่เป็นสีแดง การปลูกพริก ชอบดินร่วนซุย และอากาศร้อน
การขยายพันธุ์:โดยการเพาะเมล็ดประโยชน์:
ยอดอ่อนรับประทาน โดยลวกเป็นผักแกล้มน้าพริก หรือนาไปปรุงอาหารประเภทแกงจืด แกงเลียง
มีสรรพคุณทางยาขับลม ขับปัสสาวะ ภายในผลพริกจะมีสาร capsaicin ที่ก่อให้เกิดความเผ็ด
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
พริกเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลโซลานาซีอี (Solanaceae) ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกันกับมะเขือมันฝรั่ง
และยาสูบพืชในตระกูลนี้มีอยู่ประมาณ90สกุล (Genus) หรือ 2,000ชนิด
(Species) โดยทั่วไปเป็นได้ทั้งพืชล้มลุกไม้พุ่มและไม้ยืนต้นขนาดเล็กซึ่งกระจายอยู่ทั่วไปของโลก
สาหรับพริกจัดอยู่ในสกุล Capsicum ซึ่งประกอบด้วยพืชชนิดต่างๆประมาณ20-30
6.3 สาบเสือ
(อังกฤษ:Bitter bush, Siam weed) เป็นสมุนไพรอย่าง หนึ่งที่หาง่ายมากมีอยู่ทั่วไป
จัดว่าเป็นวัชพืชที่มีสรรพคุณทางยาที่ใช้ประโยชน์ได้ดีที่เดียวเราใช้"ต้นสาบเสือ"
เป็นดรรชีชี้วัดอุณหภูมิความแห้งแล้งของอากาศ
เพราะหากอากาศไม่แล้งต้นสาบเสือก็จะไม่ออกดอกสาเหตุที่ได้ชื่อว่าสาบเสือ
ก็เพราะว่าดอกของมันไม่มีกลิ่นหอมเลยแต่กลับมีกลิ่นสาบ
คนโบราณเวลาหนีสัตว์ร้ายอื่นเข้าดงสาบเสือจะปลอดภัย
เพราะสัตว์อื่นนั้นจะไม่ได้กลิ่นคนสาบเสือมีสรรพคุณทางยามากมายทั้งจากต้นใบดอก
ซึ่งสามารถจาแนกได้ดังนี้
ต้น เป็นยาแก้ปวดท้องท้องขึ้น ท้องเฟ้อแก้บวมดูดหนองแล้วนอกจากนี้
ใบ
ใบของสาบเสือมีสารสาคัญคือ กระอะนิสิก และฟลาโวนอยด์หลายชนิดเช่นไอโซซากูรานิติน
และโอโดราตินนอกจากนี้ยังมีสารพวกน้ามันหอมระเหย ซึ่งประกอบไปด้วยสารยูพาทอลคูมาริน
โดยสารสาคัญเหล่านี้จะไปออกฤทธิ์ที่ผนังเส้นเลือดทาให้เส้นเลือดหดตัว
และนอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ไปกระตุ้นสารที่ทาให้เลือดแข็งตัวได้เร็วขึ้น
ทาให้สามารถห้ามเลือดได้ ใช้เป็นยารักษาแผลสดสมานแผล ถอนพิษแก้อักเสบแก้พิษน้าเหลือง
แก้ตาฟางแก้ตาแฉะแก้ริดสีดวงทวารหนักรักษาแผลเปื่อยและยังมีฤทธิ์พิชิตปลวกได้อีกด้วย
ดอกของสาบเสือ เป็นยาแก้ร้อนใน กระหายน้าชูกาลังแก้อ่อนเพลีย บารุงหัวใจแก้ไข้
ทั้งต้น เป็นยาแก้บาดทะยัก

More Related Content

Viewers also liked

Papain pada Tanaman Pepaya mengganggu Integumen Serangga
Papain pada Tanaman Pepaya mengganggu Integumen SeranggaPapain pada Tanaman Pepaya mengganggu Integumen Serangga
Papain pada Tanaman Pepaya mengganggu Integumen SeranggaAmalHayat Makmur
 
Luke's portfolio
Luke's portfolioLuke's portfolio
Luke's portfolioKe Lu
 
DIAGRAMA UNIDAD V-VI EDUARDO RAMIREZ
DIAGRAMA UNIDAD V-VI EDUARDO RAMIREZDIAGRAMA UNIDAD V-VI EDUARDO RAMIREZ
DIAGRAMA UNIDAD V-VI EDUARDO RAMIREZeduardorrs
 
Presentation1 iiiiiii
Presentation1 iiiiiiiPresentation1 iiiiiii
Presentation1 iiiiiiiAdiya Asif
 

Viewers also liked (6)

Papain pada Tanaman Pepaya mengganggu Integumen Serangga
Papain pada Tanaman Pepaya mengganggu Integumen SeranggaPapain pada Tanaman Pepaya mengganggu Integumen Serangga
Papain pada Tanaman Pepaya mengganggu Integumen Serangga
 
Luke's portfolio
Luke's portfolioLuke's portfolio
Luke's portfolio
 
DIAGRAMA UNIDAD V-VI EDUARDO RAMIREZ
DIAGRAMA UNIDAD V-VI EDUARDO RAMIREZDIAGRAMA UNIDAD V-VI EDUARDO RAMIREZ
DIAGRAMA UNIDAD V-VI EDUARDO RAMIREZ
 
Presentation1 iiiiiii
Presentation1 iiiiiiiPresentation1 iiiiiii
Presentation1 iiiiiii
 
презентация Microsoft power point
презентация Microsoft power pointпрезентация Microsoft power point
презентация Microsoft power point
 
Air pollutants
Air pollutantsAir pollutants
Air pollutants
 

บทที่

  • 1. บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 1.ชนิดของปลวก การจาแนกปลวกอย่างกว้างๆแบ่งออกเป็น2พวกใหญ่ๆคือปลวกที่อาศัยอยู่ในดิน และ ปลวกที่ไม่อาศัยอยู่ในดิน ปลวกอาศัยอยู่ในดิน จาแนกได้เป็น3 พวกคือ 1.1 ปลวกใต้ดิน(Subterranean termites) พวกนี้จะอาศัยอยู่ในดินเกือบตลอดอายุของมันแม้ว่าจะออกจากผิวดินไปแล้ว ก็ยังมีการติดต่อกับพื้นดินอยู่โดยการทาอุโมงค์ทางเดินด้วยดินไปสู่แหล่งอาหารต่างๆที่อยู่เหนือดิน นอกจากนี้อุโมงค์ทางเดินยังเป็นเครื่องป้ องกันอันตรายจากศัตรู เช่นมด 1.2 ปลวกที่อยู่ตามจอมปลวก(Mound-building termites)เป็นปลวกที่สร้างรังหรืออาณาจักรขนาดใหญ่อยู่บนพื้นดินโดยใช้เม็ดดินเล็กๆ สร้างขึ้นเป็นเนินสูงใหญ่ที่เรียกว่าจอมปลวกจะพบเห็นทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชีย แอฟริกา และออสเตรเลีย 1.3 ปลวกที่อยู่ตามรังขนาดเล็ก(Carton-nest-building termites) รังของ ปลวกชนิดนี้ เกิดจากมูลของ ปลวกผสมกับเศษไม้เล็กๆและสร้างเป็นรังที่มีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันไปอาจจะอยู่ในดิน บนพื้นดินหรือเหนือพื้นดิน เช่น ตามต้นไม้เสาไฟ หรืออาคารบ้านเรือน 1.4 ปลวกไม้แห้ง(Dry-wood termites) เป็นพวกที่มีอาณาจักรหรือรังเล็กกว่าปลวกใต้ดิน อาศัยอยู่ในเนื้อไม้ และจะไม่ลงไปในดินปลวกชนิดนี้ต้องการความชื้นในไม้แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเป็นพวกที่ทาความเสียหายร้ายแรงต่ออาคารบ้านเรือนและเครื่องเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ 1.5 ปลวกไม้ชื้น(Damp-wood termites) อาศัยอยู่ในเนื้อไม้ที่มีความชื้นสูง เช่น เปลือกไม้ไม้ซุง หรือไม้ที่ผุแล้ว ห้องที่มีความชื้นและความเย็นนับว่าเป็นสถานที่เหมาะสมสาหรับ ปลวก ประเภทนี้อาศัยอยู่ตามปกติแล้วเป็นปลวกที่ไม่มีอันตรายต่ออาคารบ้านเรือนมากนัก 2.วรรณะของปลวก ปลวกเป็นแมลงที่อยู่เป็นหมู่สังคมประกอบด้วยวรรณะต่างๆรวม3วรรณะ และมีหน้าที่แตกต่างกันไป 2.1 ปลวกสืบพันธุ์
  • 2. คือปลวกตัวผู้และตัวเมียมีปีกและเพศดังแมลงอื่นๆทั่วไปตามปกติ ในรังหรือ อาณาจักรจะพบปลวกคู่นี้ทาหน้าที่ผสมพันธุ์และสืบพันธุ์ตัวผู้เรียกว่าราชาปลวกและตัวเมียเรียกว่า ราชินีปลวกออกไข่เกิดเป็นปลวกชนิดต่างๆในรังนอกจากนี้ ปลวกสืบพันธุ์ยังมีหน้าที่ กระจาย พันธุ์และสร้างอาณาจักรใหม่เกิดขึ้นอีกด้วยปลวกชนิดนี้มีปีกทั้งตัวผู้และตัวเมียเรียกว่าแมลงเม่า เมื่อจับคู่ผสมพันธุ์แล้วจะสลัดปีกและเลือกสถานที่เหมาะสมเพื่อสร้างรังและเกิดเป็นอาณาจักร ใหม่ต่อไป 2.2 ปลวกงาน เป็น ปลวกตัวเล็กไม่มีปีกไม่มีเพศและไม่มีตาอาศัยอยู่ในดินหรือเนื้อไม้ ที่มันกัดและทาลาย มีหน้าที่ก่อสร้าง หาอาหารมาเลี้ยงปลวกวรรณะอื่นๆปลวกชนิดนี้จะทางานทุกอย่างภายในรัง 2.3 ปลวกทหาร เป็น ปลวกตัวเล็กแต่มีหัวโตและขากรรไกรขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการต่อสู้ไม่มีปีกไม่มีตา และไม่มีเพศ ปลวกชนิดนี้มีหน้าที่ปกป้ องอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับรังศัตรูสาคัญของมันคือมด 3.ลักษณะเฉพาะของปลวกที่ควรรู้ อาหารของปลวกปลวกกินเซลลูโลสในเนื้อไม้เป็นอาหาร ดังนั้นในบ้านเรือนของมนุษย์ ส่วนที่จะเป็นอาหารของปลวกได้จึงหมายถึงทุกส่วนที่ทาจากไม้ไม่ว่าเสาฝากระดานโครงฝ้า ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้ในบ้านทุกชิ้น ยกเว้นเฉพาะไม้เนื้อแข็งบางชนิดเท่านั้น ที่มีสารเคมีบางอย่างโดยธรรมชาติที่ป้ องกันการรุกรานของปลวกได้ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ถ้านานไป สารเคมีนั้นเสื่อมถอยด้อยคุณภาพลง ก็ถูกปลวกทาลายได้เช่นเดียวกัน นอกจากไม้แท้ๆ แล้วไม้สังเคราะห์ประเภทที่มีส่วนผสมของเซลลูโลสจากไม้ ก็เป็นอาหารของปลวกเช่นกันดังนั้นเฟอร์นิเจอร์ยุคใหม่ที่ทาจากวัสดุแปลกๆ แต่มีส่วนผสมของไม้อยู่จึงไม่รอดพ้นการเป็นอาหารของปลวกทั้งนี้ ยังรวมไปถึงกระดาษผ้า และหนังสือต่างๆ ที่มีส่วนของเซลลูโลสจากพืชผสมอยู่ด้วย บ้านเรือนสมัยนี้ส่วนใหญ่ก่อด้วยอิฐ ฉาบปูน โครงหลังคาทาด้วยเหล็ก โครงฝ้าทาด้วยอลูมีเนียมแผ่นฝ้าเป็นยิปซั่ม ส่วนที่ยังเป็นอาหารเชื้อเชิญให้ปลวกบุกบ้านเราอยู่ ก็จะมีเพียงแค่วงกบและบานประตูหน้าต่างที่ยังนิยมใช้ที่ทาจากไม้อยู่ (แม้ว่าจะเป็นไม้เนื้อแข็ง)นอกจากนั้นก็มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ไม้จริงและไม้อัดหรือไม้เทียม เท่านั้นที่เป็นอาหารของปลวกแต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเสื้อผ้าหรือหนังสือและกระดาษ
  • 3. ที่ผู้คนมักเก็บสุมไว้ห้องเก็บของหรือแม้แต่ในห้องนอน ยังคงเป็นอาหารที่ปลวกชอบอยู่ด้วย แม้ว่าปัจจุบันนี้จะหมดห่วงเรื่องตัวบ้านไปมากแต่ของในบ้านนั่นยังน่าห่วงไม่น้อย 4.การกาจัดปลวกด้วยสารเคมี การกาจัดปลวกในปัจจุบัน มักจะใช้สารเคมีเพราะเห็นผลเร็ว และมีความแน่นอน โดยใช้สารเคมีคือตัวเฟนนิล ไพราโซล มีข้อดีตรงที่ไม่มีกลิ่น ให้ผลในการกาจัดที่ดี นอกจากนั้นยังมีระบบการวางท่อภายในตัวบ้าน แล้วทาการฉีดสารเคมีเข้าไปตามท่อจุดต่างๆที่ได้เจาะรูปไว้โดยปกติแต่ละจุดจะอยู่ห่างกัน 1เมตร ซึ่งวิธีนี้ต้องว่าจ้างบริษัทกาจัดปลวกมาทาให้โดยส่วนใหญ่จะฉีดปีละ 2- 3 ครั้งแล้วแต่ปริมาณของปลวกในบ้าน แต่วิธีการกาจัดปลวกด้วยวิธีการต่างๆเหล่านี้ จะส่งผลเสียต่อมนุษย์ เพราะสารเคมีที่ใช้กาจัดปลวก อาจเกิดสารตกค้างได้ แต่ปัจจุบันเราสามารถสร้างทางเลือกใหม่ ในการกาจัดปลวกได้ คือใช้สมุนไพรในการกาจัดปลวก 5.การกาจัดปลวกด้วยสมุนไพร สมุนไพรกาจัดปลวกนั้นสกัดจากพืชสมุนไพรไทยสมุนไพรที่ใช้ คือ หอมแดง พริกขี้หนู และใบสาบเสือ ซึ่งเป็นพืชที่ปลวกไม่สามารถสร้างกลไก ในการย่อยสลายสารสาคัญจากพืชเหล่านี้ได้สารสาคัญจากพืชเหล่านี้ มีผลในการควบคุมประชากรปลวกโดยกลไกที่แตกต่างกันตั้งแต่การยับยั้ง การเจริญเติบโตของตัวอ่อนการวางไข่การกินอาหารตลอดถึงการลดการพัฒนาการของ จุลินทรีย์ในลาไส้ของปลวกซึ่งมีผลโดยตรงต่อความอยู่ รอดและการทาลายของปลวก ซึ่งทาให้มีการควบคุมประชากรของปลวก โดยลดขบวนการย่อยอาหารทาลายจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารหยุดการลอกคราบของตัวอ่อน ทาให้ตัวอ่อน ไม่เจริญเติบโต ลดการฟักไข่ ของนางพญา สมุนไพรกาจัดปลวกนี้มีประสิทธิภาพในการลดประชากรของปลวกในสกุล Coptoter mes spp. จะมีผลทาให้ปลวกค่อยๆอ่อนแอลง แต่ต้องใช้เวลานานกว่าการใช้สารเคมี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจานวนประชากรของปลวกด้วย
  • 4. 6.สมุนไพรที่ใช้กาจัดปลวก 6.1หอมแดง หอมแดงมีชื่อวิทยาศาสตร์: Allium ascalonicum เป็นพืชในวงศ์Alliaceae โดยยึดเอา French grey challot หรือgriselle เป็นหอมที่แท้จริงจัดอยู่ในสปีชีย์นี้ มีการเพาะปลูกในเอเชียกลางและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ส่วนความหลากหลายอื่นที่มีคือ Allium cepa var. aggregatum หรือที่รู้จักกันในชื่อ A.ascalonicum เป็นพืชเศรษฐกิจสาคัญ ของประเทศในถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยส่งออกหอมแดง ไปยังประเทศมาเลเซียเป็นจานวนมากการซื้อขายส่วนใหญ่เป็นหัวๆชั่งขายเป็นกิโลกรัม และมัดขายเป็นกาๆแต่ก็ขายตามน้าหนัก เช่นเดียวกันในประเทศไทยปลูกกันมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ แต่หอมแดงที่มีชื่อเสียงว่าเป็นหอมแดงคุณภาพดีได้แก่หอมแดงจากจังหวัดศรีสะเกษ สรรพคุณ หัวหอม มีรสฉุน ช่วยขับลมแก้ท้องอืดช่วยย่อยและเจริญอาหารแก้บวมน้า แก้อาการอักเสบต่างๆ แก้บวมน้าขับพยาธิ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น เมล็ด แก้อาเจียนเป็นเลือด แก้กินเนื้อสัตว์เป็นพิษร่างกายซุบผอม(ใช้เมล็ดแห้ง 5-10กรัมต้มน้าดื่ม)ตารายาไทยใช้หัวหอมแดง ผสมรวมกับเหง้าเปราะหอมสุมหัวเด็ก แก้หวัดคัดจมูก และกินเป็นยาขับลม หอมแดงมีสารเคอร์ซิตินและสารฟลาโวนอยด์(quercetin และflavonoid glycosides) อาจป้ องกันโรคมะเร็งได้ นอกจากนี้ หอมแดงยังมีคุณสมบัติ เป็นยารักษาโรคใช้ลดไข้และรักษาแผลได้ โดยเอาหัวหอมแดงมาซอยเป็นแว่นๆ ผสมกับน้ามันมะพร้าวและเกลือต้มให้เดือด
  • 5. แล้วนามาพอกแผลนอกจากนั้นหอมแดงยังช่วยลดระดับน้าตาลในเลือดและยับยั้งเส้นเลือดอุดตัน ด้วยการบริโภคสดหรือประกอบอาหาร หรือบริโภคชนิดผง 6.2 พริกขี้หนู ชื่อวิทยาศาสตร์: Capsicum flutescens Linn. ชื่อวงศ์: SOLANACAEAC ชื่อสามัญ: Bird Chilli ชื่อท้องถิ่น:พริกแต้ ดีปลีขี้นก หมักเพ็ดลักษณะวิสัย:ไม้ต้น ลักษณะทั่วไป: พริกเป็นพืชที่มีอายุได้หลายฤดู ลาต้นตั้งตรง สูงประมาณ1-1.25 ฟุต ใบแบนเรียบเป็นมัน ดอกเป็นดอกเดี่ยวขนาดเล็ก กลีบดอกจะมีสีขาว หรือสีม่วง เกสรตัวผู้1- 10 อัน เกสรตัวเมีย 1-2 อัน ผลหลายขนาด ผลขนาดเล็กยาวประมาณ1-1.5 นิ้ว ลูกอ่อนสีเขียวเข้ม เมื่อแก่เป็นสีแดง การปลูกพริก ชอบดินร่วนซุย และอากาศร้อน การขยายพันธุ์:โดยการเพาะเมล็ดประโยชน์: ยอดอ่อนรับประทาน โดยลวกเป็นผักแกล้มน้าพริก หรือนาไปปรุงอาหารประเภทแกงจืด แกงเลียง มีสรรพคุณทางยาขับลม ขับปัสสาวะ ภายในผลพริกจะมีสาร capsaicin ที่ก่อให้เกิดความเผ็ด ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ พริกเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลโซลานาซีอี (Solanaceae) ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกันกับมะเขือมันฝรั่ง และยาสูบพืชในตระกูลนี้มีอยู่ประมาณ90สกุล (Genus) หรือ 2,000ชนิด (Species) โดยทั่วไปเป็นได้ทั้งพืชล้มลุกไม้พุ่มและไม้ยืนต้นขนาดเล็กซึ่งกระจายอยู่ทั่วไปของโลก สาหรับพริกจัดอยู่ในสกุล Capsicum ซึ่งประกอบด้วยพืชชนิดต่างๆประมาณ20-30 6.3 สาบเสือ (อังกฤษ:Bitter bush, Siam weed) เป็นสมุนไพรอย่าง หนึ่งที่หาง่ายมากมีอยู่ทั่วไป จัดว่าเป็นวัชพืชที่มีสรรพคุณทางยาที่ใช้ประโยชน์ได้ดีที่เดียวเราใช้"ต้นสาบเสือ" เป็นดรรชีชี้วัดอุณหภูมิความแห้งแล้งของอากาศ เพราะหากอากาศไม่แล้งต้นสาบเสือก็จะไม่ออกดอกสาเหตุที่ได้ชื่อว่าสาบเสือ ก็เพราะว่าดอกของมันไม่มีกลิ่นหอมเลยแต่กลับมีกลิ่นสาบ คนโบราณเวลาหนีสัตว์ร้ายอื่นเข้าดงสาบเสือจะปลอดภัย เพราะสัตว์อื่นนั้นจะไม่ได้กลิ่นคนสาบเสือมีสรรพคุณทางยามากมายทั้งจากต้นใบดอก ซึ่งสามารถจาแนกได้ดังนี้
  • 6. ต้น เป็นยาแก้ปวดท้องท้องขึ้น ท้องเฟ้อแก้บวมดูดหนองแล้วนอกจากนี้ ใบ ใบของสาบเสือมีสารสาคัญคือ กระอะนิสิก และฟลาโวนอยด์หลายชนิดเช่นไอโซซากูรานิติน และโอโดราตินนอกจากนี้ยังมีสารพวกน้ามันหอมระเหย ซึ่งประกอบไปด้วยสารยูพาทอลคูมาริน โดยสารสาคัญเหล่านี้จะไปออกฤทธิ์ที่ผนังเส้นเลือดทาให้เส้นเลือดหดตัว และนอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ไปกระตุ้นสารที่ทาให้เลือดแข็งตัวได้เร็วขึ้น ทาให้สามารถห้ามเลือดได้ ใช้เป็นยารักษาแผลสดสมานแผล ถอนพิษแก้อักเสบแก้พิษน้าเหลือง แก้ตาฟางแก้ตาแฉะแก้ริดสีดวงทวารหนักรักษาแผลเปื่อยและยังมีฤทธิ์พิชิตปลวกได้อีกด้วย ดอกของสาบเสือ เป็นยาแก้ร้อนใน กระหายน้าชูกาลังแก้อ่อนเพลีย บารุงหัวใจแก้ไข้ ทั้งต้น เป็นยาแก้บาดทะยัก