More Related Content
Similar to งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
Similar to งานเครื่องใช้ไฟฟ้า (20)
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
- 1. กลุ่มที่ 4
ผู้จัดทำ
1.ด.ญ. จิรัชญำ ชุ่มวงค์ ม.3/2 เลขที่ 14
2.ด.ญ. จิรำพร บุญยืน ม.3/2 เลขที่ 15
3.ด.ญ. จุฑำทิพย์ คำเมืองใจ ม.3/2 เลขที่ 16
4.ด.ญ. โชติกำ ยะมำ ม.3/2 เลขที่ 17
- 4. 4.1 เครื่องใช้ไฟฟ้ ำที่ให้แสงสว่ำง
อุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแสงสว่าง คือ หลอดไฟฟ้า หลอก
ไฟฟ้าใช้ในบ้าน แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้
1.หลอดไฟฟ้าธรรมดาหรือหลอดไฟชนิดไส้ โดยนักวิทยาศาสตร์ ทอมัส แอลวา เอดิ
สัน เป็นประดิษฐ์หลอกไฟฟ้าใช้เป็นครั้งแรก ด้วยการใช้คาร์บอนเป็นไส้หลอด
และได้พัฒนาและปรับปรุงมาจนถึงปัจจุบันที่ใช้วัตถุชนิดอื่นทาเป็นไส้หลอด
หลอกไฟธรรมดามีส่วนประกอบดังนี้
1.1หลอดแก้ว ทนความร้อนได้ดี ไม่แตกง่าย ภายในเป็นสุญญากาศ บรรจุแก๊ส
ไนโตรเจนและแก๊สอาร์กอนเล็กน้อยช่วยป้องกันการระเหิดและไส้หลอดระเบิด
1.2 ไส้หลอด ทาด้วยโลหะทังสเตน มีความต้านทานไฟฟ้าสูง จุดหลอมเหลวสูง
หาง่าย ราคาถูกเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไส้หลอดจะเกิดความร้อนสูงจน
เปล่งแสงสว่างออกมาได้ที่ฉลากหรือบนแผ่นป้ายจะมีข้อมูลระบุลักษณะเฉพาะ
หลอกไฟ เช่นกาลังไฟฟ้า ให้สังเกตจานวน วัตต์(w) ที่หลอด
- 5. 2. หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์
เป็นหลอดไฟที่มีประสิทธิภำพในกำรเปลี่ยนรูปพลังงำนไฟฟ้ ำเป็นพลังงำนแสงได้สูงกว่ำหลอดไฟ
ธรรมดำ ให้ควำมสว่ำงมำกกว่ำหลอดไฟธรรมดำประมำณ 5 เท่ำ มีอำยุกำรใช้งำนมำกกว่ำหลอดไฟ
ธรรมดำ 8 เท่ำ และช่วยประหยัดพลังงำนได้มำกกว่ำเมื่อเทียบกับหลอดชนิดไส้ที่ กำลังไฟฟ้ ำเท่ำกัน
ส่วนประกอบของหลอดฟลูออเรสเซนต์มีดังนี้
2.1 ตัวหลอดและขั้วหลอด ตัวหลอดทำด้วยแก้วทนควำมร้อนภำยในเป็นสุญญำกำศ บรรจุไอปรอท
และแก๊สอำร์กอนเล็กน้อย มีขั้ว 2 ขั้ว ที่ขั้วไฟฟ้ ำทั้งสองมีไส้หลอดที่ทำจำกทังสเตน ผิวด้ำนในของ
หลอดฉำบไว้ด้วยสำรเรืองแสง เป็นสำรเคมีที่เปล่งแสงได้เมื่อกระทบกับรังสีอัลตรำไวโอเลต
2.2 สตำร์ตเตอร์ ทำหน้ำที่เป็นสวิตช์ตัดไฟอัตโนมัติ อำศัยกำรขยำยตัวของโลหะเมื่อได้รับควำมร้อน
เมื่อเปิดสวิตช์ กระแสไฟฟ้ ำไหลผ่ำนแผ่นโลหะผ่ำนแก๊สอำร์กอนในครอบแก้วไปยังโลหะตัวนำ ขณะที่
กระแสไฟฟ้ ำไหลผ่ำนจะทำให้เกิดประกำยไฟขึ้นมำ และ ทำให้แผ่นโลหะคู่ร้อนแล้วงอมำแตะกับอีกขั้ว ทำให้
กระแสไฟฟ้ ำไหลผ่ำนแผ่นโลหะทั้งสองไปสู่ขั้วหลอดโดยไม่ผ่ำนแก๊สอำร์กอน จนกระทั้งหลอดไฟสว่ำง
- 6. 2.3 แบลลัตส์ ลักษณะคล้ำนหม้อแปรงไฟฟ้ ำ คือ มีขดลวดพันอยู่บนแกนเหล็ก ทหน้ำที่
เหนี่ยวนำให้เกิดควมต่ำงศักย์สูงที่ขั้วหลอด
กำรทำงำนของหลอดฟลูออเรสเซนต์ เมื่อกดสวิตช์เพื่อเปิดไฟหรือปิดวงจรไฟฟ้ ำ สตำร์ต
เตอร์จะต่อวงจรไฟฟ้ ำอย่ำงรวดเร็ว ทำให้เบลลัสต์มีควำมต่ำงศักย์สูง ขณะเดียวกันขั้วไฟฟ้ ำ
ไหลผ่ำนไส้หลอดทั้งสองโดยไม่ผ่ำนสตำร์ตเตอร์
ประสิทธิภำพของหลอดฟลูออเรสเซนต์ มีดังนี้
1.ให้แสงสว่ำงได้มำกกว่ำหลอดไฟธรรมดำประมำณ 5 เท่ำ
2.มีอำยุกำรใช้งำนนำนกว่ำไฟฟ้ ำธรรมดำ
3.ให้แสงกระจำยได้ทั่วถึง
4.มีหลำยสี ขึ้นอยู่กับสำรเรืองแสงที่ฉำบไว้
5.ไม่ร้อนมำกเท่ำหลอดไฟธรรมดำ
- 7. รูปแบบของหลอดฟลูออเรสเซนต์ มีการพัฒนาแบบใหม่ 2 แบบ
คือ
1.หลอดฟลูออเรสเซนต์มีประสิทธิภาพสูง หรือ หลอดผอม ซึ่ง
ประหยัดพลังงานได้มากกว่า
2. หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์(CFL) หรือ หลอดตะเกียบ ซึ่งมี
ราคาแพง แต่คุ้มค่า และมีอายุการใช้งานยาวนาน
- 8. 4.2. เครื่องใช้ไฟฟ้ ำที่ให้ควำมร้อน
เครื่องใช้ไฟฟ้ ำที่เปลี่ยนพลังงำนไฟฟ้ ำให้เป็นพลังงำนควำมร้อน ส่วนประกอบมีดังนี้
1.ขดลวดควำมร้อน เช่น ลวดนิโครม เป็นโลหะผสมนิกเกิลกับโครเมียม มีสมบัติต้ำนทำน
ไฟฟ้ ำสูง
2.สวิตซ์ควำมร้อน หรือ ตัวควบคุมอุณหภูมิ (thermostat) ประกอบด้วยแผ่น
โลหะที่ต่ำงชนิดกันประกบติดกัน ให้ควำมร้อนกับแผ่นโลหะในปริมำณเท่ำกันจะขยำยตัว
แตกต่ำงกันแผ่นโลหะคู่จึงโค้งงอ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้แยกออกจำกจุดสัมผัส
กระแสไฟฟ้ ำจะไหลผ่ำนไม่ได้ ดังนั้นใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ ำประเภทนี้จะต้องระมัดระวังในเรื่องควำม
ปลอดภัยของผูใช้
- 9. 4.3. เครื่องใช้ไฟฟ้ ำที่ให้พลังงำนกล
เครื่องใช้ไฟฟ้ ำให้พลังงำนกล ประกอบด้อย มอเตอร์ และ เครื่องควบคุมควำมเร็ว กำร
ทำให้เครื่องหมุนช้ำ หรือ เร็ว ทำได้โดยกำรเพิ่ม หรือ ลดควำมต้ำนทำนภำยในเครื่องซึ่งมี
ผลต่อปริมำณกระแสไฟฟ้ ำที่ไหลผ่ำน และทำให้ควำมเร็วเปลี่ยนไปได้
- 13. เครื่องขยายเสียง เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานเสียง โดยใช้
ไมโครโฟน เปลี่ยนเสียงพูดเป็นสัญญาณไฟฟ้า แล้วใช้อุปกรณ์
อิเล็กทรอนิกส์ขยายสัญญาณเสียงที่อยู่ในรูปสัญญาณไฟฟ้าให้แรงขึ้น จนทา
ให้ลาโพงสั่นสะเทือนเป็นเสียง
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานเสียง ในขั้นแรกต้อง
ขยายสัญญาณไฟฟ้าให้มีพลังงานเพิ่มขึ้น จนสามารถทาให้เกิดเสียงออกทาง
ลาโพงเสียงได้
เครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานรูปอื่นได้
หลายรูปแบบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต่างชนิดกันจะใช้พลังงานไฟฟ้าต่างกันในเวลา
ที่เท่ากัน