1. 229
พระราชบัญ ญัต ิ
ว่า ด้ว ยการเข้า ชื่อ เสนอข้อ บัญ ญัต ิท ้อ งถิ่น
พ.ศ. ๒๕๔๒
ภูม ิพ ลอดุล ยเดช ป.ร.
ให้ไ ว้ ณ วัน ที่ ๑๐ ตุล าคม พ.ศ. ๒๕๔๒
เป็น ปีท ี่ ๕๔ ในรัช กาลปัจ จุบ ัน
พระบาทสมเด็ จพระปรมิ นทรมหาภู มิ พลอดุ ล ยเดช มี
พระบรมราชโองการโปรดเกล้ าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อ
บัญญัติท้องถิ่น
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้
โดยคำาแนะนำาและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วย
การเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒”
มาตรา ๒* พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวัน
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
* รก.๒๕๔๒/๑๐๔ก/๑/๒๖ ตุลาคม ๒๕๔๒
มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้
“องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า กรุงเทพมหานคร
องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล เมืองพัทยา องค์การบริหารส่วน
ตำาบล และองค์กรปกครองส่วนท้องถินอืนทีมกฎหมายจัดตังขึน
่ ่ ่ ี
้ ้
“ประธานสภาท้องถิ่น” หมายความว่า บุคคลผู้ทำาหน้าที่
ประธานของสภาท้องถิ่นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการเข้าชื่อ
เสนอให้สภาท้องถิ่นนั้นพิจารณาออกข้อบัญญัติท้องถิ่น
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)

2. 230
“ข้อบัญญัติท้องถิ่น” หมายความว่า กฎซึ่งออกโดยอาศัย
อำานาจนิติบัญญัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง
ขึ้น
“ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง” หมายความว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่นให้สภาท้อง
ถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นพิจารณา
มาตรา ๔ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดมี
จำานวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำานวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นนัน มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อประธานสภาท้องถิ่น
้
เพื่อดำาเนินการให้สภาท้องถิ่นพิจารณาออกข้อบัญญัติท้องถิ่นได้
มาตรา ๕ คำาร้องขอให้ประธานสภาท้องถิ่นดำาเนินการให้สภา
ท้องถิ่นพิจารณาออกข้อบัญญัติท้องถิ่น ต้องมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
(๑) ชื่อ ที่อยู่ และลายมือชื่อของผู้เข้าชื่อทุกคน พร้อมทั้ง
สำาเนาบัตรประจำาตัวประชาชน บัตรประจำาตัวประชาชนที่หมดอายุ
หรือบัตรหรือหลักฐานอื่นใดของทางราชการที่มีรูปถ่ายสามารถแสดง
ตนได้
(๒) ร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นซึ่งต้องมีข้อกำาหนดที่ชัดเจนเพียง
พอได้ว่ามีความประสงค์จะตราข้อบัญญัติท้องถิ่นในเรื่องใดที่อยู่ใน
อำานาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ในการนี้อาจมีสรุป
สาระสำาคัญและคำาชี้แจงความมุ่งหมายของการกำาหนดหลักการใน
แต่ละข้อกำาหนดของร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นที่เสนอให้เพียงพอที่จะ
เข้าใจเหตุผลที่กำาหนดไว้ในแต่ละข้อกำาหนดด้วยก็ได้
(๓) รายชื่อผู้แทนของผู้เข้าชื่อที่จะมีอำานาจดำาเนินกิจการที่
เกี่ยวข้องกับการเสนอและการพิจารณาข้อบัญญัติท้องถิ่น
(๔) คำารับรองของผู้แทนของผู้เข้าชื่อตาม (๓) ว่าผู้เข้าชื่อทุก
คนเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น และเป็นผู้
ร่วมลงชือด้วยตนเอง
่
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้ใดร่วมลงชื่อ
ในการเข้าชื่อดังกล่าวโดยถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้แล้ว ให้ถือว่า
การเข้าชื่อนั้นมีผลสมบูรณ์และจะถอนการเข้าชื่อในภายหลังอีกมิได้
มาตรา ๖ เมื่อประธานสภาท้องถิ่นได้รับคำาร้องตามมาตรา ๕
แล้ว ให้ประธานสภาท้องถิ่นตรวจสอบความครบถ้วนของเอกสารดัง
กล่าว ถ้าเห็นว่าครบถ้วนแล้วให้ประธานสภาท้องถิ่นจัดให้มีการปิด
ประกาศรายชื่อผู้เข้าชื่อดังกล่าวไว้ ณ ที่ทำาการขององค์กรปกครอง
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)

3. 231
ส่วนท้องถิ่นนั้น และเขตชุมชนหนาแน่นในเขตองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นนัน
้
ในกรณีทผใดมีชอเป็นผูเข้าชือดังกล่าวตามประกาศในวรรคหนึง
ี่ ู้
ื่
้
่
่
โดยมิได้รวมเข้าชือด้วยให้ผนน มีสิทธิยื่นคำาร้องคัดค้านต่อประธานสภา
่
่
ู้ ั้
ท้องถิ่นหรือบุคคลที่ประธานสภาท้องถิ่นแต่งตั้ง เพื่อให้ขีดฆ่าชื่อ
ตนเองออกจากบัญชีรายชื่อผู้เข้าชื่อดังกล่าวได้ภายในยี่สิบวันนับแต่
วันปิดประกาศตามวรรคหนึ่ง
เมื่ อพ้นกำาหนดระยะเวลาคัดค้ านตามวรรคสองแล้ว ให้ถือว่า
รายชื่ อของผู้ เข้าชื่ อที่ ไม่มีการคัดค้ านเป็นรายชื่ อที่ ถู กต้องและถ้ามี
จำานวนครบตามมาตรา ๔ ให้ประธานสภาท้องถิ่ นจัดให้สภาท้องถิ่ น
ดำาเนินการพิจารณาออกข้อบัญญัติท้องถิ่ นต่อไป แต่ถ้ามีจำานวนไม่
ครบตามมาตรา ๔ ให้ ประธานสภาท้องถิ่นแจ้งให้ผู้แทนของผู้เข้าชื่อ
ตามมาตรา ๕ (๓) ทราบเพื่อดำาเนินการจัดให้มีการเข้าชื่อเพิ่มเติมให้
ครบตามมาตรา ๔ ภายในสามสิบวัน ถ้าพ้นกำาหนดระยะเวลาดังกล่าว
มิได้เสนอการเข้าชื่อจนครบจำานวนให้ประธานสภาท้องถิ่นจำาหน่าย
เรื่องการพิจารณาออกข้อบัญญัติท้องถิ่นที่มีการเข้าชื่อเสนอ ให้เป็น
ไปตามข้อบังคับการประชุมของสภาท้องถิ่นนั้น
มาตรา ๗ ผูใดกระทำาการใดโดยไม่มอำานาจโดยชอบด้วย
้
ี
กฎหมาย เพือมิให้ผมสทธิเลือกตังในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด
่
ู้ ี ิ
้
สามารถใช้สิทธิเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น หรือขัดขวางการ
ดำาเนินการเข้าชื่อเสนอกฎหมายในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น
ต้องระวางโทษจำาคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่หนึงหมื่น
่
บาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำาทั้งปรับ
มาตรา ๘ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการ
ตามพระราชบัญญัตินี้
ผูร ับ สนองพระบรม
้
ราชโองการ
ชวน หลีก ภัย
นายกรัฐ มนตรี
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)

4. 232
หมายเหตุ : เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้
คือ โดยที่มาตรา ๒๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
บัญญัติให้ราษฎรผู้มีสิทธิเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด
จำานวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำานวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นนันมีสิทธิเข้าชื่อเพื่อให้สภาท้องถิ่นพิจารณาออก
้
ข้อบัญญัติท้องถิ่นได้ และเนื่องจากมาตรา ๒๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย ได้บัญญัติให้หลักเกณฑ์และวิธีการเข้าชื่อรวมทั้ง
การตรวจสอบให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ จึงจำาเป็นต้องตราพระ
ราชบัญญัตินี้
-------------------------------------------
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)