SlideShare a Scribd company logo
1 of 128
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 1
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
เยือนโงลังกั๋งครั้งที่สาม (ตอนที่ 201)
เลาปกําลังจะขึ้นมากลับเมืองซินเอี๋ยเพราะเสียน้ําใจในความผิดหวังจากการเดินทางมาเยือนโงลังกั๋งถึงสอง
ครั้งแลวก็ไมพบขงเบง มิหนําซ้ําไดรับความอัปยศอดสูน้ําใจที่หลงทักคนผิดมาโดยลําดับ แตพลันที่ไดยินคํา
ของเด็กนอยวา "อาจารยผูเฒามาโนนแลว" ความผิดหวังก็สรางสิ้นไป กลับกระชุมกระชวยขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
เพราะเหตุที่ในใจเลาปรุมรอนอยูดวยความรูสึกที่ใครไดพบขงเบง ดังนั้นพอไดยินคําของเด็กนอยก็สําคัญวาขง
เบงกําลังกลับมาบาน ก็ยินดีเหลียวหลังไปมองเห็นชายคนหนึ่งขี่ลากําลังเดินทางตรงมาที่กระทอมนอย ชายผู
นี้สวมหมวกปดหนากันหิมะ ใสเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอก ในมือถือไมเทากิ่งไมสาลี่ ดานหลังมีเด็กนอยในชุด
อาภรณสีเขียวหิ้วน้ําเตาใสสุราเดินตามมาติดๆ แลวไดยินเสียงชายนั้นรองเพลงในทํานองโบราณเปนเนื้อความ
วา
"จิตมนุษยใชวาสุดจะหยั่งคาด
สรรพสิ่งสามารถคนศึกษา
เพราะมนุษยมีอุตตมะปญญา
ตางจากสัตวสาราโดยทั่วไป
อยากรูวาบายึดในอํานาจ
ลองใหอํานาจก็สิ้นซึ่งสงสัย
อยากรูจิตคิดโลภประการใด
พอใหตองเงินตราก็รูกล
อยากรูวามั่นคงในศักดิ์ศรี
ใหใกลชิดสตรีก็เห็นผล
ใครรูวาจิตใจใชหรือคน
กลอมสุราแลวจะดลใหเห็นจริง
ใครรูน้ําใจซื่อหรือวาคด
ใหลองบทพนันเลนเห็นทุกสิ่ง
หาประการกลหยั่งใจไดตามจริง
รูใหยิ่งกระจางไวเพื่อใชคน"
ความตอนนี้เปนบทหนึ่งในกวีนิพนธของขงเบงที่ไดมีการรวบ รวมและปรากฏในชั้นหลัง ในสามกกฉบับ
เจาพระยาพระคลัง (หน) ไมไดกลาวถึงความนี้ แตไดพรรณนาวา ชายผูนี้ขี่อูฐจะมาที่กระทอม นอยของขงเบง
ซึ่งไมเห็นสมเพราะในแผนดินตงงวนใชลาเปนพื้น ไมไดใชอูฐเปนพาหนะ ตางกับดินแดนซินเกียงซึ่งหลาย
ทองที่เปนทะเลทรายจึงตองใชอูฐ สวนในสามกกฉบับสมบูรณนั้นระบุวาพอตาของขงเบงขี่ลาและไดทองบท
กวีมีเนื้อความวา
"หนึ่งราตรีที่ลมหนาวทิศอุดรพัดมา
พาใหเกิดเมฆินทรแดงหนาทึบถึงหมื่นลี้
หิมะกลางเวหาปลิววะวอน
เปลี่ยนโฉมขุนเขาสายน้ําเกา
ไดแหงนหนาพิเคราะหอากาศ
สงสัยเปนมังกรหยกฟาดฟนตอสู
เกล็ดมังกรปรอยๆ ปลิวบินวอน
บัดดลกระจายทั่วจักรวาล
ขี่ลาขามสะพานเล็ก
ขาผูโดดเดี่ยวตองถอนใจดวยดอกเหมยชรา"
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
เลาปไดยินเสียงเพลงมีเนื้อความเกี่ยวกับหลักการหยั่งรูน้ําใจคนนาพิสดารยิ่ง ประกอบทั้งเห็นกิริยาอาการของ
ชายผูนี้แจมใส สงา งามนัก ทั้งยังมีเด็กนอยเดินตามเหมือนหนึ่งศิษยเดินตามอาจารยก็สําคัญวาเปนขงเบงจึง
รีบลงจากหลังมาเดินตรงเขาไปคํานับแลววา ทานอาจารยเดินทางฝาลมหนาวจากแหงหนไหน ตัวขาพเจาชื่อ
เลาปไดอุตสาหพยายามมาพบทานสองครั้ง เปนบุญแลวที่ไดพบในวันนี้
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 2
ชายนั้นไดฟงวาแขกแปลกหนาชื่อเลาปซึ่งเปนเชื้อพระวงศผูสูงศักดิ์ก็ลนลานรับคํานับ แตยังมิทันที่จะพูดจา
ประการใด เสียงจูกัดกิ๋นรองดังมาจากดานหลังวานั่นมิใชขงเบงดอก หากเปนพอตาของขงเบงชื่ออุยสิงาน
เลาปไดฟงดังนั้นก็ละอายใจ แตก็ขมใจถามขึ้นวาเนื้อเพลงซึ่งทานรองเมื่อสักครูนี้มีความหมายล้ําลึกนัก ใคร
ทราบวาใครเปนผูแตงเพลงนี้
อุยสิงานจึงวา เนื้อเพลงนี้ขงเบงแตงขึ้นแตยังไมไดเผยแพร ขาพเจาเห็นวามีความหมายล้ําลึกและมีความ
ไพเราะจึงเอามารองเลน เลาปไดฟงดังนั้นก็กลาวคําอําลาอุยสิงานแลวขึ้นมาพากวนอู เตียวหุย กลับไปเมือง
ซินเอี๋ย
เลาปมาหาขงเบงที่เขาโงลังกั๋งทั้งสองครั้ง ไดรับความอัปยศเพราะทักคนผิดหลายครั้งหลายหน ดูไปแลวหา
ใชเหตุการณที่เปนไปตามปกติไม แตนาจะเปนกลอุบายของขงเบงที่วางขึ้นเพื่อลองใจเลาปวามีน้ําใจสุจริต
และภักดีตอตัวมั่นคงหรือไม เพราะขงเบงนั้นยอมรูดีวาการที่จะไปทําราชการดวยเลาป "เปนการใหญหลวงนัก"
และคงรูเหมือนกับที่สุมาเตกโชรูวา "ฮกหลงจะไดนายบัดนี้ก็สมควรอยูแลว" และ "ชีซีจะไปแตตัวนั้นไมได จะ
ใหขงเบงไดความระกําใจ รากโลหิตออกมาเมื่อภายหลัง"
เพราะเหตุนี้กลวิธีลองน้ําใจเลาปจึงสาหัสนัก เริ่มตั้งแตครั้งแรกที่รูวาเลาปจะมาพบ ขงเบงก็แสรงซอนตัวเสีย
ในบาน แลวสอนศิษยนอยใหโตตอบถอยคํากับเลาป ลวงเลาปใหทอใจกลับไปกอน พอเลาปกลับออกไปก็ได
พบกับเพื่อนที่ชื่อซุยเปงเดินสวนมา แลวทองโคลงเปนปริศนาจนเลาปสําคัญผิดหลงคํานับวาเปนขงเบงทําให
ไดรับความอัปยศเปนครั้งแรก พอครั้งที่สองก็แสรงใหเด็กนอยลวงวาอาจารยอยูในบาน ทําใหเลาปสําคัญผิด
วาจูกัดกิ๋นผูนองคือขงเบง ไดรับความอัปยศเปน หนสอง ครั้นขากลับเด็กนอยก็ยังรองบอกเปนเชิงลวงวา
"อาจารยผูเฒามาโนนแลว" ซึ่งเปนการลอใหหลงวาขงเบงกําลังเดินทางกลับบาน ทําใหเลาปไดรับความ
อัปยศเปนหนสาม
การที่เลาปไมระยอทอถอยตอความอัปยศอดสูทั้งปวง ไมระยอทอถอยตอความยากลําบากในการฝาลมหนาว
และหิมะจากเมืองซินเอี๋ยมาที่เขาโงลังกั๋ง และโดยไมถือตัววาเปนเชื้อพระวงศชั้นพระเจาอาของระมหากษัตริย
ดังนี้ แมเลาปจะยังไมมีโอกาสไดพบขงเบง แตมหายุทธนาการที่ขงเบงไดสรางปอมปราการเพื่อคุมครองตัว
ไมใหตองออกไปวุนวายกับบานเมืองจนตองถึงกับ "รากเลือดตายในภายหลัง" กําลังถูกพลังแหงความศรัทธา
ความเพียร ความสุจริตและความภักดีมั่นคงของเลาปโจมตีจนโยกคลอน แมไมมีผูใดรูใจของขงเบงในยามนี้
แตหากแมนมองขงเบง ดวยน้ําใจของมหาบัณฑิตผูแจงฟาจบดินแลว คนลักษณะนี้ไมมีอํานาจใดไปสั่นไหว
จิตใจใหโยกคลอนเปนประการอื่นไปจากความรักที่จะปลีกวิเวกอยูกับธรรมชาติอันสงบตามวิถีแหงลัทธิเตาได
คงมีอํานาจเดียวเทานั้นที่อาจสามารถโจมตีจิตใจของยอดคนผูซอนกายได นั่นคืออํานาจแหงธรรม คือความ
ศรัทธา ความสุจริต ความเพียร และความภักดีมั่นคง ดังนั้น น้ําใจของขงเบงในยามนี้นาที่จะไมเปนปกติดังเดิม
คงตองสั่นไหวไปดวยพลังอํานาจดังกลาวนั้น
เลาปกลับถึงเมืองซินเอี๋ยในหัวใจเต็มไปดวยความทุกขรอน ไมเปนอันกินอันนอน ครุนคิดถึงแตเรื่องที่จะเชิญ
ขงเบงมาทําราชการ กําจัดยุคเข็ญ ทํานุบํารุงแผนดินใหเปนสุข แตเนื่องดวยเปนเทศกาล ฤดูหนาว อากาศ
หนาวจัด ไมสามารถเดินทางออกจากเมืองซินเอี๋ยไปเขาโงลังกั๋งได เลาปจึงสูเก็บความทุกขรอนไวในอก รอ
วันเวลาใหฤดูหนาวผานพนไป ขึ้นเจี้ยนอันศกปที่สิบสอง เดือนสามขางแรม ฤดูหนาวกําลังผานพนไป ฤดู
ใบไมผลิกําลังเขามาเยือน อากาศเริ่มอบอุนขึ้น เลาปไดสั่งใหโหรประจําเมืองซินเอี๋ยเขามาตรวจชะตาวาจะ
ออกไปเชิญ ขงเบงอีกครั้งหนึ่งจะเปนผลประการใด
โหรประจําเมืองซินเอี๋ยตรวจดูดวงชะตาเลาปและฤกษผานาทีที่เลาปถามความแลวพยากรณวาชะตาทานใน
บัดนี้จะไดที่ปรึกษาคนสําคัญ มีปญญานุภาพพลิกฟาพลิกแผนดินได แลบัดนี้ถึงเวลาที่ทานจะไดพบกับคนผูนี้
แลว จงเตรียมตัวออกไปเชิญก็จะสําเร็จดังปรารถนา เลาปไดฟงดังนั้นก็ดีใจ ทั้งเห็นวาขึ้นปใหมแลวจึงเปลี่ยน
เสื้อคลุมตัวใหมเพื่อความเปนสิริมงคล แลตัวเลาปเห็นวาการนี้ใหญหลวงนักเกรงวาอุปสรรคจะขวางกั้น จึง
อาบน้ําชําระกาย ทําใจใหผองใสบริสุทธิ์ และกินเจอยูถึงสามวัน ครั้นถวนสามวันแลวจึงจัดแจงสิ่งของกํานัลจะ
ออกไปหาขงเบงเปนครั้งที่สาม
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
กวนอูเห็นอาการของเลาปตลอดชวงปลายฤดูหนาวที่ไมเปนอันทําการอยางอื่นนอกจากพะวาพะวงอยูดวยเรื่อง
จะไปเชิญขงเบง ครั้นแลเห็นเลาปถือศีลกินเจเปลี่ยนเสื้อใหมเพื่อจะไปหาขงเบงอีกจึงกลาวกับเลาปวา พี่ใหญ
ถอมตัวไมเห็นแกความเปนเชื้อพระวงศออกไปเยือนขงเบงที่บานปาดวยตนเองถึงสองครั้ง แตขงเบงก็ไมให
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 3
พบ เปนการเสียมารยาทยิ่ง ขาพเจาคิดวาขงเบงผูนี้มีแตชื่อเสียงอันจอมปลอม หาใชผูมีสติปญญาที่แทจริงไม
จึงเกรงกลัวความจริงจะปรากฏแลวหลีกเรนเสียไมใหพบ แลววาคนผูนี้จะเปนใคร มีความรูแลสติปญญา
ประการใดก็ไมเคยปรากฏ เหตุไฉนพี่ใหญจึงตองหลงเชื่อคําคน สาละวนอยูกับคนที่ไมเคยรูจักถึงเพียงนี้
เลาปไดฟงดังนั้นก็ไมตอบคํากวนอู ยังคงเตรียมการเพื่อจะออก ไปพบขงเบงตามความตั้งใจเดิม เตียวหุยเห็น
เชนนั้นจึงหนุนคํากวนอูโดยกลาวขึ้นบางวา คํากวนอูนั้นเหมือนน้ําใจขาพเจา พี่ใหญแมนอยากไดตัวขงเบงก็
ไมจําเปนที่จะตองออกไปหาดวยตัวเอง ขาพเจาจะใชทหารใหออกไปเชิญขงเบงมาพบทานจงได หากแมนขง
เบงไมยอมมาขาพเจาก็อาสาเอาแตเชือกเสนเดียวไปผูกจูงขงเบง มัดกลับมาใหทาน พี่ใหญอยาไดเดินทางไป
อีกเลย
เลาปเห็นสองนองรวมสาบานรุมเรากันทักทวงดังนั้นก็โกรธ หันมาตวาดใสกวนอู เตียวหุย แลววาเจาทั้งสองคน
พูดจาหยาบชาลวงเกินขงเบงนัก ประหนึ่งไมรูจักน้ําใจแลความคิดเรา ประวัติศาสตรเปนแบบอยางก็มีมาให
เห็น เจาทั้งสองลืมไปแลวหรือวาแตครั้งพระเจาจิ๋วบุนอองผูเปนพระมหากษัตริยอันประเสริฐ มีกฤษดานุภาพ
ยิ่งใหญกองฟาเกริกดิน ก็ยังทรงนับถือผูมีสติปญญา ทรงอุตสาหเสด็จจากพระนครออกไปเชิญเกงสงเขามาทํา
ราชการ และยังทรงถอมพระองคเสด็จออกไปรับเกงสงเขาพระนครดวยพระองคเอง
พระมหากษัตริยอันประเสริฐยังเคารพบูชาบัณฑิตผูเปนปราชญถึงเพียงนี้ สํามะหาอะไรกับตัวเราซึ่งอาภัพอับ
วาสนา เปนแคเจาเมืองซินเอี๋ยเล็กๆ เทานี้ ยอมสมควรที่เราจะตองออกไปเชิญขงเบงมาทําราชการดวยตนเอง
จึงจะชอบ หากพวกเจาไมเต็มใจไปดวย เราก็จงอยูที่เมืองซินเอี๋ยนี้เถิด
กวนอู เตียวหุย ไดฟงเลาปยืนยันขันแข็งเด็ดเดี่ยวนักก็คลอยตามใจเลาป แลววาเมื่อพี่ใหญจะออกไปเชิญขง
เบง ขาพเจาทั้งสองก็พรอมใจติดตามพี่ใหญไปดวย เลาปไดฟงดังนั้นจึงวาเมื่อพวกเจาจะตามเราไปก็ตามใจ
พวกเจา แตอยาไดกลาวความอันใดที่ลบหลูลวงเกินขงเบงอีกเปนอันขาด กวนอู เตียวหุย ก็รับคํา เมื่อเปน
เชนนี้เลาปจึงพากวนอู เตียวหุย และคนติดตามจึงออกจากเมืองซินเอี๋ยไปเขาโงลังกั๋ง ครั้นเดินทางมาใกลเขา
โงลังกั๋งยี่สิบเสนสวนกับจูกัดกิ๋นนองของขงเบง เลาปจึงคํานับแลวถามวาขาพเจาจะมาคํานับขงเบง วันนี้พี่ชาย
ของทานอยูที่บานหรือไม
จูกัดกิ๋นจึงวาพี่ชายของขาพเจาไปทองเที่ยวกับเพื่อนเพิ่งกลับมาแตวานนี้ วันนี้อยูที่บาน ทานมาคราวนี้ไมเสีย
ทีเปลาคงจะไดพบขงเบง จงรีบเขาไปเถิด กลาวสิ้นคําแลวจูกัดกิ๋นก็คํานับลาเลาปเดินทางตอไป
เลาปทราบวาขงเบงอยูที่บานก็มีความยินดี หันมากําชับกวนอู เตียวหุย วาเจาทั้งสองอยาไดลืมคําแลวพูดจา
ลบหลูสติปญญาของขงเบงอีก สองนองรวมสาบานเห็นอาการกิริยาผูเปนพี่ใหญขึงขังก็รับคําวาพี่ใหญอยาได
กังวลใจ เลาปขี่มาพากวนอู เตียวหุย ตรงเขาไปถึงซุมประตูหนาบริเวณ ลานกระทอมของขงเบงจึงลงจากหลัง
มา เห็นเด็กนอยคนเดิมเดินออกมาจากประตูกระทอมตรงเขามาหาเลาปแลวยิ้มใหเปนการทักทาย เลาปเห็น
ดังนั้นจึงวาไดทราบจากจูกัดกิ๋นวาวันนี้อาจารยฮกหลงอยูบาน วานเจาชวยเขาไปรายงานวาเลาปมาคํานับ
เด็กนอยตอบกลับมาวา วันนี้อาจารยขาพเจาอยูบานก็จริงอยู แตกําลังนอนหลับ ขาพเจาไมกลาที่จะปลุก
อาจารยดอก
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
ยุทธศาสตรสามกก (ตอนที่ 202)
ขึ้นปใหมแลวเลาปถือศีลกินเจ ทํากายใจใหสะอาดบริสุทธิ์ เปลี่ยนเสื้อใหมแลวออกไปเขาโงลังกั๋งเปนครั้งที่
สามเพื่อจะเชิญขงเบงใหละวิเวกออกมาทําราชการ กําจัดทุกขเข็ญของแผนดิน แตเมื่อไปถึงบานขงเบง ขง
เบงก็แสรงนอนหลับ ทดสอบเลาปเปนครั้งสุดทาย
ครั้นเลาปไดยินวาขงเบงอยูในบานแตนอนหลับอยูก็มีความยินดีเปนลนพน ใบหนาเบิกบานสดใส กลาวกับเด็ก
นอยวาเมื่ออาจารยฮกหลงนอนหลับพักผอนอยู ก็ใหนอนหลับตามสบาย อยาไดวุนวายไปรบกวน ปลอยใหตื่น
ตามใจชอบเถิด วาแลวเลาปสั่งกวนอู เตียวหุย ใหรออยูขางนอก ตัวเลาปเดินเขาไปที่กระทอม พอขามธรณี
ประตูเห็นที่ดานบนฝาผนังของหองโถงมีอักษรแบบโบราณเปนใจความวา
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 4
"ภูเขาไมสําคัญที่ความสูง ความสําคัญอยูที่มีเทพสิงสถิตหรือไม ถามีคนก็นับถือ แมน้ําไมสําคัญที่ความลึก
ความสําคัญอยูที่มีมังกรสิงสถิตหรือไม ถามีคนก็ยําเกรง บานไมสําคัญที่ความใหญโตอัครฐาน ความสําคัญอยู
ที่มีปราชญ สิงสถิตหรือไม ถามีฮองเตผานมาก็ทรงแวะ"
ภายในกระทอมหางจากธรณีประตูไมมากนัก ยกพื้นสูงระดับ หัวเขา มีหนังสือเรียงรายโดยทั่วไป บนโตะยาวที่
วางอยูบนพื้นสูงนั้นมีกระดานหมากลอมทําดวยไมสีดํา ลายเสนฝงไวดวยไมสีขาว ชิดกับฝาผนังมีโตะสูง ตรง
กลางมีพิณโบราณวางอยู คลุมดวยผืนผาสีแดงเปลือกมังคุด ขางผนังแขวนรูปแผนที่เปนวิถีโคจรของดวงดาว
ในจักรวาล ภายในตัวบานมีสายลมโชยมาเย็นสบาย
เลาปเดินยองเขาหองโถงแลวมองไปที่หองขางใน เห็นขงเบงนอนหนุนหมอนไม ผินหนาเขาทางฝาเห็นแต
ดานหลัง เลาปกุมมือทั้งสองไวเบื้องหนา ยืนอยางสํารวมอยู ณ พื้นเบื้องต่ําดวยความเคารพ จนเที่ยงวันผาน
พนไป
กวนอู และเตียวหุยยืนรอเลาปอยูนอกบานนานชา เห็นเงียบหายไปก็เริ่มกระวนกระวายใจ เดินไปเดินมาอยูพัก
หนึ่งจึงยองเขาไปดู เห็นอาการเลาปยืนสํารวมอยูเบื้องลางในขณะที่ขงเบงนอนอยูบนพื้นที่ยกสูงในหองขางใน
ก็โกรธ ถอยกลับออกมาหากวนอูแลววา ขงเบงคนนี้กิริยามารยาทหยาบชา ดูหมิ่นเลาปพี่ใหญของเรานัก รู
แลววาพี่ใหญของเรามาหาก็แกลงนอนหลับ ทรมานใหพี่ใหญยืนรอคอยอยูเบื้องลาง ชางไมสมควรเลย
เตียวหุยฮึดฮัดขึ้นมาแลว ความโกรธก็พลุงตาม แลวกลาวกับกวนอูวาขงเบงดูหมิ่นพี่ใหญฉะนี้ ขาพเจาจะแกลง
เอาไฟไปจุดหลังบานใหขงเบงตกใจตื่นขึ้นมาใหจงได วาแลวก็ทําทาจะผละไปดานหลังบาน
กวนอูเห็นดังนั้นก็รั้งแขนเสื้อเตียวหุยไวแลววา เจาจะทําดังนี้ไมชอบเหมือนทําลายความคิดและความพยายาม
ของพี่ใหญ เราสูอุตสาหมาถึงสามครั้งแลว จงอดรนทนรออีกสักหนอยจะเปนไรไป เตียวหุยถูกกวนอูรั้งเสื้อ
และทักทวง ดังนั้นก็คอยสงบลง แตอารมณฮึดฮัดฉุนเฉียวยังหนักอยู จึงปลีกออกไปนั่งเสียที่ใตรมไม
ฝายหนึ่งแสรงนอนหลับ เพื่อทรมานและลองใจอีกฝายหนึ่งวามีศรัทธา วิริยะอุตสาหะสุจริตใจภักดีตอตัวแนน
แฟนสักเพียงไหน ในขณะที่ใจก็หวั่นไหวไปพรอมกัน สวนอีกฝายหนึ่งนั้นยืนสํารวมสงบ นิ่งประหนึ่งศิษยรอ
คอยปรนนิบัติอาจารยผูใหญ ไดความทรมานกายนัก แตในใจกลับปรีดาปราโมทยดวยเชื่อมั่นวาคนผูนี้นี่แลวที่
จะไขประตูแหงฟาพาตัวเขาถึงบัลลังกมังกรในวันหนา ทํานุบํารุงอาณาประชาราษฎรไดดังปณิธาน
มหายุทธนาการครั้งที่สามในลักษณาการที่วานี้ไดดําเนินไปตั้งแต เวลาพระอาทิตยยังไมคลอยถึงศีรษะจนละ
ลับไปทางตะวันตก จนกระทั่งยามเย็นเขามาเยือน ขงเบงก็พลิกตัวคลายประหนึ่งจะลุกตื่นขึ้น แตก็แสรงทํา
หลับตอไป
ศิษยตัวนอยของขงเบงเห็นเลาปยืนสํารวมนิ่งเปนเวลาชานานทรมานนักแลวก็สงสาร เขามากระซิบเลาปวา
ขาพเจาจะปลุกอาจารย ทานจะเห็นประการใด เลาปยกมือขึ้นปรามวาเจาอยาเพิ่งวุนวาย ปลอยใหอาจารยนอน
หลับใหสบายเถิด มหายุทธนาการของฝายหลับกับฝายรอจึงดําเนินตอไป ขงเบงแสรงนอนหลับตอมาจนตะวัน
บายคลอยใกลจะพลบจึงพลิกตัวตื่น รําพึงความเปนกลอนซึ่งยาขอบไดถอดความจากฉบับภาษาอังกฤษของบ
ริวิทเทเลอรวา "ยากจะหาผูใดรูโชคตน แตขามีกังวลเพราะเชื่อวา ที่สุดวันวันหนึ่งคงจะมา ใหขาลาวิเวกสุขเขา
คลุกงาน"
สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) พรรณนาวาเมื่อขงเบงตื่นขึ้นไดวาโคลงสี่บทเปนใจความวา "ผูใดนอน
หลับใจก็มิรูสัญญา จักษุอันหลับอยูนั้นจะดูสิ่งใดก็มิไดเห็น หอนอยเรานี้ก็เปนที่สําราญ ถึงเทศกาลฝนก็นอน
อุน พระอาทิตยเจาเอย อยาเพอคลอยคลับใหลับหนาตาง หยุดสองแสงอยูกอนจะไดนอนใหสบาย"
สวนสามกกฉบับสมบูรณระบุวา ขงเบงตื่นขึ้นแลวปากก็ทองโคลงวา "ความฝนอันยาวนาน ผูใดรูกอนบาง
ตลอดชีวิตขายอมรูดี กระทอมยามวสันตนอนหลับสนิท แสงตะวันนอกหนาตางชางแชเชือน" ครั้นสิ้นความลง
ขงเบงจึงเรียกศิษยนอยเขาไปถามวาเวลาวันนี้มีใครมาหาเราบาง ศิษยนอยตอบวาเลาปมาหาทานแตกอน
เที่ยง ยืนคอยทาอาจารยอยูชานานแลว
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ขงเบงไดฟงดังนั้นก็ทําทีดุศิษยนอยวาเมื่อมีแขกมาเยือนถึงกระทอม ไฉนเจาจึงไมปลุกเรา ปลอยใหแขกตอง
รอคอยนานถึงปานนี้ วาแลวขงเบงก็เดินเขาไปขางใน หวีผมใสเสื้อแตงตัวอีกครูใหญ แลวเดินกลับออกมาที่
หองโถง เลาปแลเห็นขงเบง "รูปรางใหญโต สูงถึงหกศอก สีหนาขาวเหมือนหยวก แตงตัวโอโถง ทวงทีเปน
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 5
อาจารยผูใหญ" จึงเขาไปคํานับแลววา "ขาพเจาตั้งใจมาหาทานบัดนี้เพราะมีความปรารถนาจะขอสติปญญา
ทาน ดวยแผนดินทุกวันนี้เปนจลาจลจวนจะสาบสูญอยูแลว ตัวขาพเจานี้เปนเชื้อวงศพระเจาเหี้ยนเต แตทวามี
สติปญญานอยแลวก็เปนชาวบานนอกอยูเมืองตุนกวน แจงวาทานเปนคนดีมีสติปญญา ปรากฏเอิกเกริกเสมือน
เสียงฟา ขาพเจามีความ ยินดี มาคํานับทานถึงสองครั้งแลวก็มิไดพบจึงเขียนหนังสือฝากไวหวังจะใหทาน
แจง"
ขงเบงรับคํานับเลาปแลวตอบวาความอันทานมาเยือนกระทอมนอยนี้แลหนังสือของทานนั้นขาพเจาไดรับแลรู
สิ้นแลว แตวิตกวาตัวขาพเจายังหนุมออนวัยนัก เปนคนบานนอกชาวปามีสติปญญาอันนอย ผิวาจะไปทํา
ราชการดวยทานแลวเกรงวาราชการทานจะเสียไป
เลาปจึงวาอาจารยอยาไดถอมตัวเลย สุมาเตกโชและชีซีไดเลาความเกียรติประวัติแลสติปญญาความรูของ
ทานใหขาพเจาไดรูแจงทุกประการแลว ขอทานไดเมตตาอยาไดบิดพลิ้ว ชวยขาพเจา ทํานุบํารุงแผนดินให
เปนสุข เพื่อใหปรากฏอานุภาพแหงสติปญญาความคิดทานสืบไปในเบื้องหนาโนนเถิด ขงเบงเชิญเลาปนั่งลง
บนพื้นที่ยกสูงในหองโถงขางโตะยาว ตัวขงเบงก็นั่งลงที่อีกดานหนึ่งของโตะ แลวสั่งศิษยนอยใหยกชุดน้ําชา
ออกมาตอนรับเลาป จากนั้นจึงถามวา "ซึ่งทานจะใหขาพเจาไปชวยคิดอานทําราชการนั้น ความคิดทานจะทํา
ประการใด จงชี้แจงใหขาพเจาแจงกอน"
เลาปขยับตัวเขาไปใกลขงเบงแลววา แผนดินพระเจาเหี้ยนเตเปนจลาจลใกลสาบสูญ ศัตรูราชสมบัติฮึกเหิม
กําเริบ ทํารายบานเมืองแลราษฎร เดือดรอนทุกหยอมหญา ตัวขาพเจาเปนเชื้อพระวงศฮั่น มีน้ําใจเจ็บรอนดวย
แผนดิน ตั้งหนาแสวงหาผูมีสติปญญามาชวยคิดอานทําการเพื่อกําจัดศัตรูราชสมบัติ ทํานุบํารุงอาณาประชา
ราษฎรใหเปนสุข แตยังไมสมความคิด อันผูคนทั้งปวงนั้นขาพเจาเตรียมพรอมอยูแลว ขาดแตผูมีสติปญญา
ชวยคิดอานบัญชาการ ดังนั้นขาพเจาจึงมาคํานับทานหวังเชิญทานไปทําราชการชวยทํานุบํารุงใหบรรลุ
ปณิธาน ขอทานจงเมตตาชวยขาพเจาดวย
ขงเบงจึงวา นับแตตั๋งโตะครองอํานาจเปนใหญในเมืองหลวงไดกบฏตอแผนดิน ขมเหงรังแกขุนนางขาราชการ
แลราษฎรทั้งปวง หัวเมืองตางๆ จึงพรอมใจกันลุกขึ้นสูกับอํานาจรัฐเพื่อกําจัดอํานาจของตั๋งโตะเสีย แต
แตกแยกแตกสามัคคี แกงแยงแขงดีกัน ทําลายลางกันจนดับสูญ บรรดาหัวเมืองที่เหลือก็ตั้งตัวขึ้นเปนใหญ
สิ้นตั๋งโตะแลว ลิฉุย กุยกีก็ทําหยาบชาแกบานเมืองแลราษฎรจนกระทั่งอํานาจตกอยูแกโจโฉ โจโฉครอง
อํานาจในเมืองหลวงแลวซองสุมกําลังทหารไวเปนอันมาก แตกระนั้นกําลังทหารก็ยังนอยกวาอวนเสี้ยว การ
ที่โจโฉกําจัดอวนเสี้ยวเสียไดนั้นมิใชวาจะสําเร็จไดเพราะกําลังทหารที่มากกวา ดวยทหารโจโฉมีนอยกวาอวน
เสี้ยวถึงสิบเทา แตทําการใหญหลวงสําเร็จลุลวงไดก็ดวยอาศัยความคิดสติปญญาตัว โจโฉนั้นแมโฉดชั่วเปน
ศัตรูราชสมบัติ ขมเหงพระเจาเหี้ยนเต ทําการชั่วชาตอบานเมืองแลราษฎรถึงปานนี้แลวก็ดี แตไมอาจที่จะ
กําจัดโจโฉไดโดยงาย
สวนซุนกวนนั้นเลา เปนเจาเมืองกังตั๋ง แมมีกําลังอันนอยแตอํานาจของซุนกวนไดสืบทอดมาแลวถึงสามชั่ว
อายุคน ไดซองสุมกําลังผูคน นักปราชญ แลบัณฑิตไวเปนอันมาก แผนดินแดนกังตั๋งสงบรมเย็น ฝายครอง
อํานาจและฝายอาณาประชาราษฎรสามัคคีสมานฉันทเปนน้ําหนึ่งใจเดียวกัน กําลังนอยจึงเหมือนหนึ่งกําลัง
มาก ยอมประมาทมิได ทั้งภูมิประเทศยังมีแมน้ําแยงซีเปนปราการขวางกั้นปองกันการบุกรุกคุกคามจากขาศึก
เปนแข็งแรง ชอบที่ทานจะผูกมิตรไมตรีกับซุนกวน สวนเมืองเกงจิ๋วเปนเมืองใหญแตอยูหนาศึก เหมือนหนึ่งมี
ศัตรูรายเรียงรอบทั้งสี่ดาน หากแมนผูใดไมมีสติปญญาก็หาอาจที่จะปองกันรักษาเมืองเกงจิ๋วไวไดไม เมืองนี้
ในภายหนาจะตกเปนสิทธิแกทาน สวนเมืองเสฉวนนั้นเลาเปนหัวเมืองใหญมั่งคั่งสมบูรณ ทั้งภักษาหาร
ธัญญาหารและมังสาหารก็อุดม แตบัดนี้เลาเจี้ยงผูเปนเจาเมืองเปนคนไรสติปญญา มีน้ําใจโลเล มิไดเลี้ยงดู
ทหารโดยยุติธรรม แลราษฎรก็ไมเปนน้ําหนึ่งใจเดียวกัน "ถึงจะมีสมบัติดังเมืองฟาก็นับวันจะสาบสูญ" เพราะ
บรรดาเหลาทหารไมพอใจ คิดเอาใจออกหากอยู เมืองเสฉวนนี้จะเปนสิทธิ์แกทานในวันหนาเชนเดียวกัน ตัว
ทานก็เปนเชื้อพระวงศของพระเจาเหี้ยนเต มีสติปญญาแลน้ําใจโอบออมอารีเปนอันมาก ถาคิดอานไดเมืองเกง
จิ๋วแลวก็จะไดเมืองเสฉวนดวย อันพระเจาฮั่นโกโจปฐมกษัตริยแหงราชวงศฮั่นก็ตั้งตัวไดที่เมืองเสฉวนนี้ เมื่อ
ทานไดเมืองเกงจิ๋วแลเมืองเสฉวนสรางไมตรีเปนพันธมิตรกับหัวเมืองโดยรอบ จับมือเปนพันธมิตรกับซุนกวน
แหงกังตั๋งไวมั่นคงแลว แผนดินระส่ําระสายขึ้นเมื่อใดคงไดทีคิดอานทําการยึดครองตงงวนไดโดยสะดวก
อาณาประชาราษฎร ก็จะมีความสุขสืบไป ซึ่งทานขอใหขาพเจาคิดอานชวยทํานุบํารุงบาน เมืองนั้นขาพเจาก็
ชวยคิดอานสั่งสอนไดแตเพียงเทานี้ ทานจงมีอุตสาหะวิริยะตั้งหนาทําการไปตามแผนการแลความคิดนี้ก็จัก
สําเร็จลุลวงบรรลุปณิธานเปนมั่นคง
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 6
นี่คือแผนยุทธศาสตรสามกกที่ขงเบงกําหนดยุทธศาสตรใหถือเอาโจโฉเปนกกหนึ่งซึ่งถึงแมโจโฉจะเปนศัตรู
ราชสมบัติ ขมเหง ย่ํายีฮองเตตลอดจนขุนนางแลราษฎร แตมีกําลังอํานาจใหญหลวงนัก ยังไมอาจกําจัดได
โดยงาย ซุนกวนก็เปนอีกกกหนึ่งซึ่งถึงแมมีกําลัง นอยแตความมีน้ําหนึ่งใจเดียวกันและความอุดมพรอมมูลดวย
ผูคนแลเสบียงอาหาร ทั้งมีแมน้ําแยงซีเปนปราการอันสําคัญก็ประมาทมิได เลาปก็จะตองตั้งตัวเปนอีกกกหนึ่ง
โดยตองยึดเกงจิ๋วและเสฉวนไวเปนฐานอํานาจ ผูกพันธมิตรไวกับซุนกวนใหแนนแฟน ไดทีเมื่อใดแลวจึงคอย
ยึดครองเมืองหลวงหรือแผนดินตงงวน ยุทธศาสตรที่วานี้ยาขอบไดสรุปเปนหลักยุทธศาสตรวา "เหนือรบโจโฉ
ใตจับมือซุนกวน" ซึ่งนับเปนหลักยุทธศาสตรที่ลือลั่นในประวัติศาสตรจีนและประวัติศาสตรการสงครามของ
โลก
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
วิพากษยุทธศาสตรสามกก (ตอนที่ 203)
มหายุทธนาการระหวางฝายหนึ่งซึ่งตองการปลีกวิเวกอยูกับธรรมชาติตามวิถีแหงเตา กับอีกฝายหนึ่งซึ่งมี
ปณิธานมั่นในอันที่จะกอบกูฟนฟูพระราชวงศฮั่น ทํานุบํารุงประชาราษฎรใหเปนสุขใกลยุติลง ขงเบงตื่นขึ้นแลว
ยังคงดิ้นรนเปนครั้งสุดทายไมยอมเลื้อยลงจากโงลังกั๋ง ไดแตเสนอยุทธศาสตรสามกกใหเลาปไปปฏิบัติ
หลังจากเสนอยุทธศาสตรสามกกแลว ขงเบงสั่งใหศิษยนอยเขาไปหยิบแผนที่เมืองจีนซึ่งแสดงอาณาเขต
เมืองเสฉวนอันมีหัวเมืองขึ้น 50 หัวเมืองมาแขวนที่ผนังหองโถง ชี้ใหเลาปดูแลววาทางใตฝงแมน้ําแยงซี ซุน
กวนไดครองอํานาจเปนใหญ เปนปกแผนไพบูลยมาถึงสามชั่วอายุคน แผนดินสงบรมเย็นเปนสุข กําลังนอยจึง
เหมือนหนึ่งกําลังมาก ทางฝงเหนือของแมน้ําแยงซีดานตะวันออกจดทะเลหลวง ดานตะวันตกติดตอกับแดน
เมืองเสฉวนนั้นอยูในอํานาจของโจโฉ ซึ่งมีกําลังใหญหลวงนัก สวนทางเมืองเกงจิ๋วนั้นอยูหนาศึก ดานเหนือ
ติดกับแดนในอํานาจของโจโฉ ดานใตติดกับแดนเมืองกังตั๋ง ไปทางตะวันตกมีอาณาเขตเชื่อมตอกับแดนเมือง
เสฉวน หากไมมีสติปญญาแทจริงแลวก็ไมอาจรักษาเมืองเกงจิ๋วไวได แตเมืองเกงจิ๋วนี้เมื่อรวมเขากับแดน
เมืองเสฉวนแลวก็จะมีอาณาเขต กวางใหญ เมื่อใดที่ทานไดเมืองเกงจิ๋วแลวก็จะไดเมืองเสฉวนดวย และเมื่อ
นั้นทานก็จะเปนใหญสมความปรารถนา
เลาปไดฟงคําขงเบงและดูแผนที่ตามที่ขงเบงไดชี้แจงแสดงดังนั้นแลวจึงวา "ซึ่งทานมีความเมตตาสั่งสอน
แนะนําให ขาพเจามีความยินดีนัก สวางในดวงใจดุจวาพระอาทิตยมีปริมณฑลอันปราศจากเมฆ สองสวางไป
ทั่วโลก"
แลววาขาพเจาวิตกอยูตรงที่เมืองเกงจิ๋วนั้นเลาเปยวเปนเจาเมือง สวนเมืองเสฉวนเลาเจี้ยงเปนเจาเมือง ทั้ง
สองเมืองนี้ปกครองดวยคนแซเลาซึ่งเปนแซเดียวกับขาพเจาและตางก็เปนเชื้อพระวงศ หากขาพเจาจะคิดอาน
แยงชิงเอาเมืองเกงจิ๋วและเมืองเสฉวนเปนสิทธิแกตัว ก็เหมือนหนึ่งเปนกบฏตอพระราชวงศฮั่น ทรยศตอเชื้อ
พระวงศแซเดียวกัน กลายเปนคนไรความกตัญู ขาพเจาไมอาจตัดใจทําการดังนี้ได
ขงเบงจึงวาทานกลาวความดังนี้ก็ชอบดวยประเพณีที่มีมาแตกอน แตการณบนพื้นแผนดินนี้ยอมเปนไปตามวิถี
อันสวรรคไดลิขิต ขาพเจาไดตรองดูเหตุการณอยางถี่ถวนแลวเห็นวาเลาเปยวเจาเมืองเกงจิ๋วอายุจะไมยืนยาว
สืบไป สวนเลาเจี้ยงก็เปนคนไรแกนสาร ครองแดนเสฉวนไดอีกไมนาน แมวาทานจะมีความกตัญูตอแผนดิน
ไมประสงคจะแยงชิงเอาทั้งสองเมืองนี้ แตที่สุดแลวทั้งสอง เมืองนี้ก็จะมีอันเปนไปเองแลวจะตกเปนสิทธิแก
ทานเปนมั่นคง
ความแลแผนที่อันขงเบงนําแสดงแกเลาป ณ บัดนี้ ยอมไมใชสิ่งที่เพิ่งทําเพิ่งพูดในวันที่พบกับเลาป แต
ประจักษชัดวาเปนการบานที่ขงเบงไดจัดแจงคิดอานจบสิ้นในชวงเวลานับแตเลาปไปเยือนแดนมังกรหลับครั้ง
แรก จึงสามารถสรุปกําหนดขึ้นเปนหลักยุทธศาสตรสามกกอันหลักแหลมลึกซึ้งได ดังนั้นการเยือนโงลังกั๋งสอง
ครั้งกอนของเลาปแมจะมิไดพบขงเบงแตไดกอเกิดภาระอันหนักอึ้งแกขงเบงในการพิเคราะหความทั้งปวงที่
เปนไปในแผนดิน แลวคิดอานกําหนดขึ้นเปนยุทธศาสตรเข็มมุงแลยุทธวิธี ทั้งทางการเมือง การทูต และ
การทหาร จนเลาปฟงแลวก็เห็นหนทางขางหนาสวางไสววาจะสามารถตั้งตัวขึ้นเปนใหญไดตามแผนการนั้น
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ยุทธศาสตรสามกกอันขงเบงไดนําเสนอแกเลาปนี้ประกอบขึ้นดวยสองสวน คือสวนที่เปนยุทธศาสตรและสวน
ที่เปนเข็มมุงที่พึงปฏิบัติใหสําเร็จจึงจะบรรลุถึงยุทธศาสตรดังกลาว ดังนั้นการทํา ความเขาใจในยุทธศาสตร
และเข็มมุงดังกลาวจึงเปนเรื่องจําเปนตอความเขาใจในวิถีดําเนินของสามกก และเปนที่ตั้งแหงขอสังเกต วาวัน
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 7
เวลาใดที่มุงมั่นดําเนินตามยุทธศาสตรและเข็มมุงนี้อยางถูกตองก็จะเกิดอานุภาพและผลอยางหนึ่ง แตถา
เมื่อใดที่ลังเลหรือกาวพลั้งพลาดไปจากยุทธศาสตรและเข็มมุงดั่งนี้แลวก็จะเกิดผลอีกอยางหนึ่ง
ยุทธศาสตรสามกกแบงออกเปนสองระยะคือ
ระยะแรก จะตองทําแผนดินจีนใหกลายเปนสามกก คือโจโฉกกหนึ่ง ซุนกวนกกหนึ่ง และเลาปเปนอีกกกหนึ่ง
เพราะสถานการณ ที่เลาปมีกําลังเล็กและออนแอที่สุดยอมไมอาจตานทานรับมือ และเอาชัยชนะแกโจโฉได
โดยงาย ในขณะที่ซุนกวนแหงเมืองกังตั๋งนั้นก็ตั้งอยูในชัยภูมิอันมั่นคงปลอดภัยและอุดม ยอมไมอาจเอาชนะ
ไดเชนเดียวกัน ดังนั้น การกําหนดยุทธศาสตรใหเปนสามกกจึงเปนแต ยุทธศาสตรเดียวเทานั้นที่จะสามารถทํา
ใหเลาปตั้งตัวได เปาหมายของยุทธศาสตรขั้นนี้คือเลาปจะตองไดเมืองเกงจิ๋วและเมืองเสฉวนไวเปนฐานกําลัง
ใหสําเร็จ
ระยะที่สอง เมื่อเปนสามกกแลวจะตองสรางสัมพันธไมตรีกับหัวเมืองทั้งปวง รอคอยโอกาสเปนทีแลวจึงคอย
เขายึดแผนดินตงงวน คือแผนดินที่อยูในอํานาจครอบครองของโจโฉ และเมื่อทําการสําเร็จ แลวก็เหมือนหนึ่ง
ไดเมืองกังตั๋งดวย ดังนี้การรวบรวมแผนดินจีนใหเปนหนึ่งก็จะบรรลุผลสําเร็จ
เพื่อบรรลุถึงยุทธศาสตรดังกลาว ขงเบงไดกําหนดเข็มมุงทั้งทางการเมือง การทูต และการทหารไวเปนสาม
ประการคือ
ประการแรก จะตองยึดเมืองเกงจิ๋วใหไดกอน แลวจึงยึดเมืองเสฉวนตอไป ซึ่งขงเบงมั่นใจวาเข็มมุงประการนี้จะ
สามารถบรรลุผลอยางแนนอน เพราะไดคํานวณสถานการณแลว ทั้งสองเมืองนี้จะตกไดแกเลาป
ประการที่สอง จะตองดําเนินการทางการทูต ทางการเมืองและทางการทหาร "เหนือรบโจโฉ ใตจับมือซุนกวน"
นั่นคือการผูกสัมพันธมิตรกับซุนกวนรับมือกับโจโฉ
ประการที่สาม จะตองสรางไมตรีผูกมิตรกับหัวเมืองโดยรอบเมืองเสฉวน และตองรักษาเมืองเกงจิ๋วไวใหสําเร็จ
คอยโอกาสที่แผนดินวุนวายแลวจึงคอยยึดเอาแผนดินตงงวน เมื่อสําเร็จแลวก็เหมือนไดแผนดินกังตั๋งดวย เมื่อ
นั้นแผนดินจีนก็จะเปนหนึ่งเดียว
ยุทธศาสตรและเข็มมุงดังกลาวนี้ เปนความจําเปนและเปนความถูกตองที่จะตองกําหนดในเบื้องแรก มิฉะนั้น
แลวการดําเนินการทั้งปวงก็เสมือนหนึ่งไรทิศทาง ไมอาจบรรลุผลสําเร็จได
อิทธิพลทางความคิดจากยุทธศาสตรนี้ไดสงผลตออิทธิพลทาง ความคิดทางยุทธศาสตรในชั้นหลัง และมี
อิทธิพลตอการคนควากฎแหงสงครามและทฤษฎีวาดวยความสัมพันธระหวางการเมืองกับสงครามในชั้นหลัง
ดวย
เหมาเจอตงไดสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้วา "สงครามเปนเครื่องมือทางการเมือง และเพื่อบรรลุเปาหมายทาง
การเมือง" เพราะเหตุนี้จึงสรุปตอไปวา "สงครามคือการเมืองที่หลั่งเลือด และการเมืองก็คือสงครามที่ไมหลั่ง
เลือด"
เหมาเจอตงผูนําพรรคคอมมิวนิสตจีนและนักคิดผูยิ่งใหญแหง ลัทธิมารกซเลนิน ไดกลาวตอไปวา "เมื่อจะ
ดําเนินการทางการเมือง ขอแรกตองรูวา ใครเปนศัตรู ใครเปนมิตร จะตองรูวาจะสามัคคีกับใคร ไปรบกับใคร"
นักการเมืองบางจําพวกดําเนินงานทางการเมืองโดยไรทิศทาง ไรเปาหมาย และไรอนาคต นักการเมืองเหลานี้
ความจริงหาใชนักการเมืองไม หากเปนเพียงนักเลือกตั้งมีเปาหมายเพียงเพื่อการแสวงหาประโยชนสวนตัว
สวนพรรคหรือสวนพวกเทานั้น วิถีดําเนิน ของคนเหลานี้ไมเปนไปเพื่อประโยชนของบานเมือง ไมเปนไปเพื่อ
ประโยชนของปวงชน ความสําเร็จของคนเหลานี้ก็คือความพินาศยอยยับของบานเมือง และความยากไรของ
ปวงชน
นักการเมืองจําพวกนี้จึงมักถือหลักคติวา "การเมืองไมมีมิตรแท และไมมีศัตรูถาวร" นั่นก็คือใครก็ไดตอใหเลว
ทรามต่ําชาสักเพียงไหน หากมีผลประโยชนรวมกันแลวก็สามารถรวมมือรวมการกันได แตหากผลประโยชน
ขัดกันแลวตอใหเปนมิตรรวมสาบาน ก็พรอมที่จะทําลายลางใหวายวอดไดลงคอ
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 8
บานใด เมืองใด ประเทศใดมีนักการเมืองถอยต่ําชาแบบนี้ ยอมมีอนาคตที่บานเมืองจะตองกลายเปนทาสของ
ชาติอื่น ยอมมีอนาคต ที่ปวงชนจะตองกลายเปนทาสของชาติอื่น หรือมิฉะนั้นก็จะเกิดกลียุคขึ้นในบานเมือง
เพราะเมื่อใดที่ราษฎรเดือดรอนทุกขเข็ญ ไมเห็นทางออกก็ยอมพรอมเพรียงกันปฏิเสธอํานาจและการปกครอง
นั้น แลวลุกขึ้นสูเพื่อกอบกูฟนฟูบานเมืองของตน กอตั้งอํานาจรัฐของประชาชนขึ้นสักวันหนึ่ง
เลาปไดฟงขงเบงยืนยันมั่นเหมาะวาในที่สุดเมืองเกงจิ๋วและเมืองเสฉวนจะตองตกไดแกเลาป และเมื่อดําเนิน
ตามยุทธศาสตรสามกกแลวก็จะเปนหนทางที่จะบรรลุถึงปณิธานของตัวก็มีความยินดียิ่งนัก คํานับขงเบงแลววา
แผนการยุทธศาสตรของทานนี้เลอเลิศนัก ขอเชิญทานออกไปชวยทําราชการดวยขาพเจา ทํานุบํารุงสั่งสอน
ใหขาพเจาดําเนินการตามแผนการยุทธศาสตรนี้สืบไป
ขงเบงจึงวาตัวขาพเจาเปนชาวปาบานนอกคอกนา มีสติปญญาอันนอย การทั้งปวงที่เคยทําก็เปนการหยาบ
ตามประสาชาวปา แตกตางจากการแผนดินซึ่งละเอียดออนลึกซึ้งนัก ซึ่งจะไปอยูทําราชการ ดวยทานนั้นเกรง
วาจะทําใหราชการของทานเสียไป
เลาปจึงวาขอทานอยาไดบิดพลิ้ว จงเมตตาขาพเจาและอาณาประชาราษฎรทั้งปวง หากแมนวาทานไมออกไป
ชวยคิดอานทําการแลว คงไมอาจปราบปรามยุคเข็ญใหแผนดินเปนสุขได อาณาประชาราษฎรจะไดรับความ
เดือดรอนไมมีที่สิ้นสุด
เลาปกลาวความสิ้นคําแลว ความอัดอั้นตื้นตันประดังขึ้นในอกมิรูที่จะกลาวความใดตอไปได จึงกมหนาลงจรด
พื้น รองไหสะอึกสะอื้นอยูกับที่
ขงเบงเห็นดังนั้นก็เวทนานัก ทั้งประจักษวาเลาปมีศรัทธา วิริยะ อุตสาหะ ภักดีตอตัวโดยสุจริตก็สงสาร น้ําใจที่
คิดอานจะเสนอเพียง แผนการแตตัวไมยอมออกจากโงลังกั๋งก็สิ้นสุดสะบั้นลง ณ บัดนั้น จึงกลาวกับเลาปวา
"ถาทานมีความรักใครขาพเจามั่นคงอยูแลว ก็อยารองไหวิตกไปเลย ตัวขาพเจาก็จะไปทําราชการดวยทาน ถึง
มาตรวาขาพเจาจะเปนประการใดก็ดี ก็จะชวยทํานุบํารุงตามสติปญญา"
คําขงเบงที่วา "ถึงมาตรวาขาพเจาจะเปนประการใดก็ดี" เปนความที่จะขามไปมิไดเปนอันขาด ดวยภูมิปญญา
ความรูความสามารถ หยั่งคาดการณในเบื้องหนาไดกระจางไมตางกับสุมาเตกโช มีหรือที่ขงเบงจะไมรูวาการ
ออกไปชวยเลาปคนไรวาสนาเปนการใหญหลวง
สุมาเตกโชไดเห็นการณเบื้องหนาวา "ขงเบงไดความระกําใจ รากโลหิตออกเมื่อภายหลัง" สิ่งที่สุมาเตกโช
เห็นดังนี้ ขงเบงก็ยอมแลเห็นดุจเดียวกัน แตแมกระนั้นถึงจะเห็นอนาคตขางหนาดังนี้แลวก็ยังยอมรับชะตา
กรรมนั้น ทั้งนี้เหตุผลก็คงมีอยูประการเดียวเทานั้นคือเปนผลจากอํานาจแหงธรรม คือศรัทธา วิริยะ อุตสาหะ
และความภักดีโดยสุจริต
หรือแมหากพิจารณาอีกนัยยะหนึ่งก็เปนไปไดวาแมจะรูวาสวรรคลิขิตชะตาเลาปไวเปนประการใด แตก็จะอาศัย
ภูมิปญญาแหงตัวแกลิขิตสวรรคนั้นไดสําเร็จ แลเมื่อพิเคราะหอัธยาศัยน้ําใจของขงเบงที่ทระนงในความคิดแล
สติปญญาตัวแลว ก็เล็งเห็นไดวาความประการนี้ก็มีเหตุผลหนักหนวงอยูเปนอันมาก
เลาปไดฟงขงเบงรับคําเชิญจะออกไปชวยทําราชการดวยก็มีน้ําใจยินดีนัก เรียกกวนอู เตียวหุย เขาไปใน
กระทอมแลวใหคํานับขงเบง กวนอู เตียวหุย แมขุนเคืองขงเบงจนเห็นอาการไดชัดแตก็ขัดใจเลาปไมได จําใจ
ตองเขาไปคํานับ ขงเบงเห็นอาการสองนองรวมสาบานของเลาปก็รูทีแลวรับคํานับตามธรรมเนียม
เลาปสั่งใหทหารติดตามเอาแพรพรรณสิ่งของทั้งปวงที่เตรียมไป แลวมอบแกขงเบงเปนการคํานับ ขงเบงก็รับ
เอาสิ่งของทั้งนั้น แลววาเวลาวันนี้ค่ําแลว ทานจงพักคางคืนเสียที่นี่ราตรีหนึ่งกอน วันรุงพรุงนี้คอยเดินทาง
กลับไปเมืองซินเอี๋ย
เลาปก็รับคํา ขงเบงจึงสั่งใหศิษยนอยจัดแจงที่พักแลวจัดหาอาหารเลี้ยงดูเลาป กวนอู เตียวหุย และทหาร
ติดตาม
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ขงเบง เลาป กวนอู เตียวหุย และจูกัดกิ๋น กินอาหารรวมโตะสนทนาถึงความเปนไปในบานปาจนเวลาลวงยาม
แรกของราตรีจึงเสร็จสิ้น แตเลาปยังไมเต็มใจที่จะเขาหลับนอนดวยบรรยากาศบานปายามนี้เปนที่เบิกบาน
สําราญใจนัก จึงบอกใหกวนอู เตียวหุย เขานอนกอนตามอัธยาศัย
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 9
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
ขงเบงดูดาว (ตอนที่ 204)
ขงเบงเห็นอาการเลาปดังนั้นก็แจงวาเลาปยังไมประสงคจะเขานอนหากตองการสนทนาตอไป จึงชวนเลาป
ออกไปนั่งดื่มน้ําชาที่เกงหนากระทอม สนทนาเกี่ยวกับสถานการณบานเมือง จนผานยามแรกและเขาสูยาม
สองราตรีนั้นเปนขางแรม บนอากาศดวงดาวพราวพรางกระจางเต็มทองฟา แวววาววับวามงามตายิ่งนัก ดู
ประหนึ่งอยูใกลคลายกับจะเอื้อมควาไดถึง สายลมราตรีปลายฤดูหนาวตนฤดูใบไมผลิโชยมาเปนที่สบาย กลิ่น
ดอกไมปานานาพันธุโชยมาตามสายลมหอมระรื่นชื่นใจ เสียงนกกลางคืนรองกองในแนวปาขณะออกหากิน
ตามประสาขงเบงเห็นดาวเดนตาพรายพรางเต็มทองฟา จึงชวนเลาปออกมาจากเกงหนากระทอม ทอดตาขึ้น
ไปในอากาศแลวชี้ใหเลาปดูไปบนทองฟาขางทิศเหนือ แลววานั่นเปนกลุมดาวจระเข เปนดาวประจําขางทิศ
อุดร เปนกลุมดาวที่บงบอกเวลาในยามราตรี มีทั้งสิ้นสิบเอ็ดดวง สี่ดวงตรงกลางคือขาหนาหลังทั้งสี่ จาก
ตําแหนงดาว ที่เปนขาหลังเบื้องลางไปทางทิศตะวันออกมีสามดวงเปนหางของจระเข ดานหนามีสี่ดวงเปนตา
สองดวงและจมูกอีกสองดวง ตําแหนงดาวที่เปนจมูกดวงบนนั้นเปนดาวประจําพระองคพระมหากษัตริยคือพระ
เจาเหี้ยนเต บัดนี้เศราหมองนัก มีเหตุแตเบื้องบนมีดาวอีกดวงหนึ่งสีเหลืองปนแดงสวางไสว รัศมีรุงโรจนนั่น
คือดาวประจําตัวของโจโฉ ขมดาวประจําพระองคพระเจาเหี้ยนเตอยู ลักษณะดังนี้บงชี้วาวาสนาโจโฉยัง
รุงเรือง ประกอบดวยกําลังเปนอันมาก แลววาพระเจาเหี้ยนเตเปนชาวราศีธาตุไฟ ธาตุไฟเปนตนกําเนิดธาตุดิน
ตัวโจโฉเปนชาวธาตุดิน ครองอํานาจในเมืองฮูโตซึ่งเปนปูมธาตุดินดังนี้ยอมแสดงวาโจโฉไดใชและอาศัยอิง
อํานาจของฮองเตตั้งฐานอํานาจอยูในชัยภูมิอันสมพงศแกตัว อํานาจของโจโฉจึงปราบ ใหสิ้นไปไดโดยยาก
ขงเบงชี้ไปทางทองฟาเบื้องทิศใตแลววา ดาวดวงที่มีรัศมีสีฟาแกมแสดรุงเรืองสวางไสวอยูนั้นคือดาว
ประจําตัวซุนกวนซึ่งครองอํานาจเปนใหญในแควนกังตั๋งเปนปูมธาตุทอง โจโฉขมซุนกวนไมไดและซุนกวนก็
ทํารายโจโฉไมไดดุจกัน ขงเบงชี้มือไปบนทองฟาขางทิศตะวันตกแลววา นั่นคือดาวประจําตัวเลาเจี้ยงเจา
เมืองเสฉวน อับแสงใกลจะรวงโรย เมืองเสฉวนตกอยูในปูมธาตุไม ตัวทานก็เปนชาวราศีธาตุไม เมืองเสฉวนจึง
สมพงศกับทาน ทานจะตั้งตัวไดที่เมืองเสฉวนนี้เฉกเดียวกับพระเจาฮั่นโกโจในครั้งกระโนนพระเจาฮั่นโกโจ
พายแพศึกแกฌอปาอองแลวไดเคลื่อนกองทัพเขาไปปกหลักเปนฐานที่มั่นกอตั้งอํานาจขึ้นในดินแดนเสฉวน
และตั้งตัวเปนใหญไดที่เมืองเสฉวนนี้
เลาปมองตามมือของขงเบงไปดวยความสนใจเปนอยางยิ่ง ผงกศีรษะยอมรับความอันขงเบงไดแสดงมาทุก
ประการ ขงเบงเห็นอาการเลาปดังนั้นแลวจึงชี้ไปที่ดาวอีกดวงหนึ่งซึ่งอยูใกลกับดาวประจําตัวของเลาเจี้ยง มีสี
ฟาแกมเขียวสดใสแตยังไมรุงโรจนนัก และวาดาวดวงนี้คือดาวประจําตัวทาน บัดนี้แมยังไมมีรัศมีอันสวาง ไสว
รุงเรืองแตขาพเจาไดสังเกตการปรากฏของดาวดวงนี้มาชั่วเวลาหนึ่งแลว ประจักษวามีรัศมีสดใสเพิ่มขึ้นโดย
ลําดับ แสดงวาเมืองเสฉวนนี้จะตกเปนของทาน อันดาวประจําตัวเลาเจี้ยงนั้นอับแสงลงโดยลําดับ ในขณะที่
ดาวประจําตัวของทานรุงเรืองสวางขึ้นโดยลําดับเชนเดียวกัน ขาพเจาคาดการณวาวันใดที่ดาวประจําตัวเลาเจี้ย
งออนแสงแรงลาลงแลว ดาวประจําตัวของทานก็จะรุงเรืองขึ้นแทนที่ ทานจะตั้งหลักไดที่เมืองนี้เปนมั่นคง ขง
เบงชี้ใหเลาปดูแถบสีขาวคลายกลุมเมฆที่ทอดทาบทองฟาขางทิศตะวันตก พาดผานมายังจุดที่ขงเบงและเลา
ปยืนอยูแลววา แถบทางสีขาวที่ทอดทาบดังนี้คือทางชางเผือก ผันแปรเคลื่อนไปตามเวลา หาคงที่ไม ในยาม
นี้ทางชางเผือกทอดทาบทองฟาขางเมือง เสฉวนผานเมืองซงหยงตรงไปยังเมืองเกงจิ๋ว นี่คือเสนทางแหงการ
กาวสูอํานาจของทาน บงชี้วาทานจะตั้งตนอํานาจจากเมืองเกงจิ๋ว กอนแลวเขาสูเมืองเสฉวนดังที่ขาพเจาได
กลาวแกทานเมื่อพลบค่ําวันนี้
ขงเบงชี้ขึ้นไปที่ดาวดวงหนึ่งซึ่งอยูบนทองฟาเหนือศีรษะคอนไปขางทิศใตแลววาดาวดวงนี้เปนดาวประจําตัว
เลาเปยวเจาเมืองเกงจิ๋ว สีแดงคล้ําเศราหมองริบหรี่ใกลดับสูญแลว สุขภาพของเลาเปยวกําลังสุกงอมเต็มที่
ใกลลาโลก อิทธิพลของดาวประจําตัวทานที่ทอดกระแสผานทางชางเผือกจรดอยูใกลดาวประจําตัวของเลา
เปยว บงบอกวาเลาเปยวรวงลับลงเมื่อใด เมืองเกงจิ๋วก็จะตกไดแกทานเมื่อนั้น ดวยเหตุฉะนี้ขาพเจาจึงกลาว
คาดคะเนกับทานเมื่อยามพลบวาเมืองเกงจิ๋วและเมืองเสฉวนจะตองตกเปนของทาน
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
เลาปยืนมองทองฟาดวยอารมณปลอดโปรงโลงใจเบิกบานเปนพิเศษ ในขณะที่สายตาก็ทอดตามมือของขง
เบงที่ชี้ไปยังดาวตามทิศตางๆ และฟงคําวิจารณการในเบื้องนภากาศอยางใจจดใจจอ เห็น กวางขวางลึกซึ้งยิ่ง
นัก ลวนเปนสิ่งที่เลาปไมเคยไดยิน ไมเคยไดฟงมาแตกาลกอนลวนเปนเรื่องเหนือคิด เหนือคนทั้งสิ้น จิตใจ
เลาปในยามนี้จึงเปยมดวยความศรัทธาในภูมิปญญาอันแจงฟาจบดินของขงเบง และเชื่อมั่นวาดวยภูมิปญญา
ความรูของขงเบงนี้นี่แลวที่จะทําใหปณิธานของตัวที่มุงมั่นกอบกูฟนฟูพระราชวงศฮั่น ทํานุบํารุงแผนดินใหเปน
สุข จักสําเร็จสมดังปรารถนาเปนแนแท เลาปก็มีใจยินดีปรีดาปราโมทยหาที่ประมาณมิไดเลาปฟงคําขงเบงสิ้น
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)
Samkok05 (201-250)

More Related Content

More from sornblog2u

5. Wing Energy
5. Wing Energy5. Wing Energy
5. Wing Energysornblog2u
 
4. Passive Cooling
4. Passive Cooling4. Passive Cooling
4. Passive Coolingsornblog2u
 
3. Charcoal : Small Scale Production and Use
3. Charcoal : Small Scale Production and Use3. Charcoal : Small Scale Production and Use
3. Charcoal : Small Scale Production and Usesornblog2u
 
2. Heat and Electricity from Solar Energy
2. Heat and Electricity from Solar Energy2. Heat and Electricity from Solar Energy
2. Heat and Electricity from Solar Energysornblog2u
 
1. Gas Producer Engine System from Biomass
1. Gas Producer Engine System from Biomass1. Gas Producer Engine System from Biomass
1. Gas Producer Engine System from Biomasssornblog2u
 
6. Biogas : Design and Construction Small Digester
6. Biogas : Design and Construction Small Digester6. Biogas : Design and Construction Small Digester
6. Biogas : Design and Construction Small Digestersornblog2u
 
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)sornblog2u
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงsornblog2u
 
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นsornblog2u
 
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)sornblog2u
 
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชหลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชsornblog2u
 
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)sornblog2u
 
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2sornblog2u
 
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1sornblog2u
 
Money101 giftversion
Money101 giftversionMoney101 giftversion
Money101 giftversionsornblog2u
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11sornblog2u
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10sornblog2u
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8sornblog2u
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9sornblog2u
 

More from sornblog2u (20)

5. Wing Energy
5. Wing Energy5. Wing Energy
5. Wing Energy
 
4. Passive Cooling
4. Passive Cooling4. Passive Cooling
4. Passive Cooling
 
3. Charcoal : Small Scale Production and Use
3. Charcoal : Small Scale Production and Use3. Charcoal : Small Scale Production and Use
3. Charcoal : Small Scale Production and Use
 
2. Heat and Electricity from Solar Energy
2. Heat and Electricity from Solar Energy2. Heat and Electricity from Solar Energy
2. Heat and Electricity from Solar Energy
 
1. Gas Producer Engine System from Biomass
1. Gas Producer Engine System from Biomass1. Gas Producer Engine System from Biomass
1. Gas Producer Engine System from Biomass
 
6. Biogas : Design and Construction Small Digester
6. Biogas : Design and Construction Small Digester6. Biogas : Design and Construction Small Digester
6. Biogas : Design and Construction Small Digester
 
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
 
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
 
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)
 
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชหลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช
 
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)
 
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2
 
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1
 
Money101 giftversion
Money101 giftversionMoney101 giftversion
Money101 giftversion
 
New species
New speciesNew species
New species
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9
 

Samkok05 (201-250)

  • 1. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 1 สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม เยือนโงลังกั๋งครั้งที่สาม (ตอนที่ 201) เลาปกําลังจะขึ้นมากลับเมืองซินเอี๋ยเพราะเสียน้ําใจในความผิดหวังจากการเดินทางมาเยือนโงลังกั๋งถึงสอง ครั้งแลวก็ไมพบขงเบง มิหนําซ้ําไดรับความอัปยศอดสูน้ําใจที่หลงทักคนผิดมาโดยลําดับ แตพลันที่ไดยินคํา ของเด็กนอยวา "อาจารยผูเฒามาโนนแลว" ความผิดหวังก็สรางสิ้นไป กลับกระชุมกระชวยขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพราะเหตุที่ในใจเลาปรุมรอนอยูดวยความรูสึกที่ใครไดพบขงเบง ดังนั้นพอไดยินคําของเด็กนอยก็สําคัญวาขง เบงกําลังกลับมาบาน ก็ยินดีเหลียวหลังไปมองเห็นชายคนหนึ่งขี่ลากําลังเดินทางตรงมาที่กระทอมนอย ชายผู นี้สวมหมวกปดหนากันหิมะ ใสเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอก ในมือถือไมเทากิ่งไมสาลี่ ดานหลังมีเด็กนอยในชุด อาภรณสีเขียวหิ้วน้ําเตาใสสุราเดินตามมาติดๆ แลวไดยินเสียงชายนั้นรองเพลงในทํานองโบราณเปนเนื้อความ วา "จิตมนุษยใชวาสุดจะหยั่งคาด สรรพสิ่งสามารถคนศึกษา เพราะมนุษยมีอุตตมะปญญา ตางจากสัตวสาราโดยทั่วไป อยากรูวาบายึดในอํานาจ ลองใหอํานาจก็สิ้นซึ่งสงสัย อยากรูจิตคิดโลภประการใด พอใหตองเงินตราก็รูกล อยากรูวามั่นคงในศักดิ์ศรี ใหใกลชิดสตรีก็เห็นผล ใครรูวาจิตใจใชหรือคน กลอมสุราแลวจะดลใหเห็นจริง ใครรูน้ําใจซื่อหรือวาคด ใหลองบทพนันเลนเห็นทุกสิ่ง หาประการกลหยั่งใจไดตามจริง รูใหยิ่งกระจางไวเพื่อใชคน" ความตอนนี้เปนบทหนึ่งในกวีนิพนธของขงเบงที่ไดมีการรวบ รวมและปรากฏในชั้นหลัง ในสามกกฉบับ เจาพระยาพระคลัง (หน) ไมไดกลาวถึงความนี้ แตไดพรรณนาวา ชายผูนี้ขี่อูฐจะมาที่กระทอม นอยของขงเบง ซึ่งไมเห็นสมเพราะในแผนดินตงงวนใชลาเปนพื้น ไมไดใชอูฐเปนพาหนะ ตางกับดินแดนซินเกียงซึ่งหลาย ทองที่เปนทะเลทรายจึงตองใชอูฐ สวนในสามกกฉบับสมบูรณนั้นระบุวาพอตาของขงเบงขี่ลาและไดทองบท กวีมีเนื้อความวา "หนึ่งราตรีที่ลมหนาวทิศอุดรพัดมา พาใหเกิดเมฆินทรแดงหนาทึบถึงหมื่นลี้ หิมะกลางเวหาปลิววะวอน เปลี่ยนโฉมขุนเขาสายน้ําเกา ไดแหงนหนาพิเคราะหอากาศ สงสัยเปนมังกรหยกฟาดฟนตอสู เกล็ดมังกรปรอยๆ ปลิวบินวอน บัดดลกระจายทั่วจักรวาล ขี่ลาขามสะพานเล็ก ขาผูโดดเดี่ยวตองถอนใจดวยดอกเหมยชรา" All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด เลาปไดยินเสียงเพลงมีเนื้อความเกี่ยวกับหลักการหยั่งรูน้ําใจคนนาพิสดารยิ่ง ประกอบทั้งเห็นกิริยาอาการของ ชายผูนี้แจมใส สงา งามนัก ทั้งยังมีเด็กนอยเดินตามเหมือนหนึ่งศิษยเดินตามอาจารยก็สําคัญวาเปนขงเบงจึง รีบลงจากหลังมาเดินตรงเขาไปคํานับแลววา ทานอาจารยเดินทางฝาลมหนาวจากแหงหนไหน ตัวขาพเจาชื่อ เลาปไดอุตสาหพยายามมาพบทานสองครั้ง เปนบุญแลวที่ไดพบในวันนี้
  • 2. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 2 ชายนั้นไดฟงวาแขกแปลกหนาชื่อเลาปซึ่งเปนเชื้อพระวงศผูสูงศักดิ์ก็ลนลานรับคํานับ แตยังมิทันที่จะพูดจา ประการใด เสียงจูกัดกิ๋นรองดังมาจากดานหลังวานั่นมิใชขงเบงดอก หากเปนพอตาของขงเบงชื่ออุยสิงาน เลาปไดฟงดังนั้นก็ละอายใจ แตก็ขมใจถามขึ้นวาเนื้อเพลงซึ่งทานรองเมื่อสักครูนี้มีความหมายล้ําลึกนัก ใคร ทราบวาใครเปนผูแตงเพลงนี้ อุยสิงานจึงวา เนื้อเพลงนี้ขงเบงแตงขึ้นแตยังไมไดเผยแพร ขาพเจาเห็นวามีความหมายล้ําลึกและมีความ ไพเราะจึงเอามารองเลน เลาปไดฟงดังนั้นก็กลาวคําอําลาอุยสิงานแลวขึ้นมาพากวนอู เตียวหุย กลับไปเมือง ซินเอี๋ย เลาปมาหาขงเบงที่เขาโงลังกั๋งทั้งสองครั้ง ไดรับความอัปยศเพราะทักคนผิดหลายครั้งหลายหน ดูไปแลวหา ใชเหตุการณที่เปนไปตามปกติไม แตนาจะเปนกลอุบายของขงเบงที่วางขึ้นเพื่อลองใจเลาปวามีน้ําใจสุจริต และภักดีตอตัวมั่นคงหรือไม เพราะขงเบงนั้นยอมรูดีวาการที่จะไปทําราชการดวยเลาป "เปนการใหญหลวงนัก" และคงรูเหมือนกับที่สุมาเตกโชรูวา "ฮกหลงจะไดนายบัดนี้ก็สมควรอยูแลว" และ "ชีซีจะไปแตตัวนั้นไมได จะ ใหขงเบงไดความระกําใจ รากโลหิตออกมาเมื่อภายหลัง" เพราะเหตุนี้กลวิธีลองน้ําใจเลาปจึงสาหัสนัก เริ่มตั้งแตครั้งแรกที่รูวาเลาปจะมาพบ ขงเบงก็แสรงซอนตัวเสีย ในบาน แลวสอนศิษยนอยใหโตตอบถอยคํากับเลาป ลวงเลาปใหทอใจกลับไปกอน พอเลาปกลับออกไปก็ได พบกับเพื่อนที่ชื่อซุยเปงเดินสวนมา แลวทองโคลงเปนปริศนาจนเลาปสําคัญผิดหลงคํานับวาเปนขงเบงทําให ไดรับความอัปยศเปนครั้งแรก พอครั้งที่สองก็แสรงใหเด็กนอยลวงวาอาจารยอยูในบาน ทําใหเลาปสําคัญผิด วาจูกัดกิ๋นผูนองคือขงเบง ไดรับความอัปยศเปน หนสอง ครั้นขากลับเด็กนอยก็ยังรองบอกเปนเชิงลวงวา "อาจารยผูเฒามาโนนแลว" ซึ่งเปนการลอใหหลงวาขงเบงกําลังเดินทางกลับบาน ทําใหเลาปไดรับความ อัปยศเปนหนสาม การที่เลาปไมระยอทอถอยตอความอัปยศอดสูทั้งปวง ไมระยอทอถอยตอความยากลําบากในการฝาลมหนาว และหิมะจากเมืองซินเอี๋ยมาที่เขาโงลังกั๋ง และโดยไมถือตัววาเปนเชื้อพระวงศชั้นพระเจาอาของระมหากษัตริย ดังนี้ แมเลาปจะยังไมมีโอกาสไดพบขงเบง แตมหายุทธนาการที่ขงเบงไดสรางปอมปราการเพื่อคุมครองตัว ไมใหตองออกไปวุนวายกับบานเมืองจนตองถึงกับ "รากเลือดตายในภายหลัง" กําลังถูกพลังแหงความศรัทธา ความเพียร ความสุจริตและความภักดีมั่นคงของเลาปโจมตีจนโยกคลอน แมไมมีผูใดรูใจของขงเบงในยามนี้ แตหากแมนมองขงเบง ดวยน้ําใจของมหาบัณฑิตผูแจงฟาจบดินแลว คนลักษณะนี้ไมมีอํานาจใดไปสั่นไหว จิตใจใหโยกคลอนเปนประการอื่นไปจากความรักที่จะปลีกวิเวกอยูกับธรรมชาติอันสงบตามวิถีแหงลัทธิเตาได คงมีอํานาจเดียวเทานั้นที่อาจสามารถโจมตีจิตใจของยอดคนผูซอนกายได นั่นคืออํานาจแหงธรรม คือความ ศรัทธา ความสุจริต ความเพียร และความภักดีมั่นคง ดังนั้น น้ําใจของขงเบงในยามนี้นาที่จะไมเปนปกติดังเดิม คงตองสั่นไหวไปดวยพลังอํานาจดังกลาวนั้น เลาปกลับถึงเมืองซินเอี๋ยในหัวใจเต็มไปดวยความทุกขรอน ไมเปนอันกินอันนอน ครุนคิดถึงแตเรื่องที่จะเชิญ ขงเบงมาทําราชการ กําจัดยุคเข็ญ ทํานุบํารุงแผนดินใหเปนสุข แตเนื่องดวยเปนเทศกาล ฤดูหนาว อากาศ หนาวจัด ไมสามารถเดินทางออกจากเมืองซินเอี๋ยไปเขาโงลังกั๋งได เลาปจึงสูเก็บความทุกขรอนไวในอก รอ วันเวลาใหฤดูหนาวผานพนไป ขึ้นเจี้ยนอันศกปที่สิบสอง เดือนสามขางแรม ฤดูหนาวกําลังผานพนไป ฤดู ใบไมผลิกําลังเขามาเยือน อากาศเริ่มอบอุนขึ้น เลาปไดสั่งใหโหรประจําเมืองซินเอี๋ยเขามาตรวจชะตาวาจะ ออกไปเชิญ ขงเบงอีกครั้งหนึ่งจะเปนผลประการใด โหรประจําเมืองซินเอี๋ยตรวจดูดวงชะตาเลาปและฤกษผานาทีที่เลาปถามความแลวพยากรณวาชะตาทานใน บัดนี้จะไดที่ปรึกษาคนสําคัญ มีปญญานุภาพพลิกฟาพลิกแผนดินได แลบัดนี้ถึงเวลาที่ทานจะไดพบกับคนผูนี้ แลว จงเตรียมตัวออกไปเชิญก็จะสําเร็จดังปรารถนา เลาปไดฟงดังนั้นก็ดีใจ ทั้งเห็นวาขึ้นปใหมแลวจึงเปลี่ยน เสื้อคลุมตัวใหมเพื่อความเปนสิริมงคล แลตัวเลาปเห็นวาการนี้ใหญหลวงนักเกรงวาอุปสรรคจะขวางกั้น จึง อาบน้ําชําระกาย ทําใจใหผองใสบริสุทธิ์ และกินเจอยูถึงสามวัน ครั้นถวนสามวันแลวจึงจัดแจงสิ่งของกํานัลจะ ออกไปหาขงเบงเปนครั้งที่สาม All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด กวนอูเห็นอาการของเลาปตลอดชวงปลายฤดูหนาวที่ไมเปนอันทําการอยางอื่นนอกจากพะวาพะวงอยูดวยเรื่อง จะไปเชิญขงเบง ครั้นแลเห็นเลาปถือศีลกินเจเปลี่ยนเสื้อใหมเพื่อจะไปหาขงเบงอีกจึงกลาวกับเลาปวา พี่ใหญ ถอมตัวไมเห็นแกความเปนเชื้อพระวงศออกไปเยือนขงเบงที่บานปาดวยตนเองถึงสองครั้ง แตขงเบงก็ไมให
  • 3. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 3 พบ เปนการเสียมารยาทยิ่ง ขาพเจาคิดวาขงเบงผูนี้มีแตชื่อเสียงอันจอมปลอม หาใชผูมีสติปญญาที่แทจริงไม จึงเกรงกลัวความจริงจะปรากฏแลวหลีกเรนเสียไมใหพบ แลววาคนผูนี้จะเปนใคร มีความรูแลสติปญญา ประการใดก็ไมเคยปรากฏ เหตุไฉนพี่ใหญจึงตองหลงเชื่อคําคน สาละวนอยูกับคนที่ไมเคยรูจักถึงเพียงนี้ เลาปไดฟงดังนั้นก็ไมตอบคํากวนอู ยังคงเตรียมการเพื่อจะออก ไปพบขงเบงตามความตั้งใจเดิม เตียวหุยเห็น เชนนั้นจึงหนุนคํากวนอูโดยกลาวขึ้นบางวา คํากวนอูนั้นเหมือนน้ําใจขาพเจา พี่ใหญแมนอยากไดตัวขงเบงก็ ไมจําเปนที่จะตองออกไปหาดวยตัวเอง ขาพเจาจะใชทหารใหออกไปเชิญขงเบงมาพบทานจงได หากแมนขง เบงไมยอมมาขาพเจาก็อาสาเอาแตเชือกเสนเดียวไปผูกจูงขงเบง มัดกลับมาใหทาน พี่ใหญอยาไดเดินทางไป อีกเลย เลาปเห็นสองนองรวมสาบานรุมเรากันทักทวงดังนั้นก็โกรธ หันมาตวาดใสกวนอู เตียวหุย แลววาเจาทั้งสองคน พูดจาหยาบชาลวงเกินขงเบงนัก ประหนึ่งไมรูจักน้ําใจแลความคิดเรา ประวัติศาสตรเปนแบบอยางก็มีมาให เห็น เจาทั้งสองลืมไปแลวหรือวาแตครั้งพระเจาจิ๋วบุนอองผูเปนพระมหากษัตริยอันประเสริฐ มีกฤษดานุภาพ ยิ่งใหญกองฟาเกริกดิน ก็ยังทรงนับถือผูมีสติปญญา ทรงอุตสาหเสด็จจากพระนครออกไปเชิญเกงสงเขามาทํา ราชการ และยังทรงถอมพระองคเสด็จออกไปรับเกงสงเขาพระนครดวยพระองคเอง พระมหากษัตริยอันประเสริฐยังเคารพบูชาบัณฑิตผูเปนปราชญถึงเพียงนี้ สํามะหาอะไรกับตัวเราซึ่งอาภัพอับ วาสนา เปนแคเจาเมืองซินเอี๋ยเล็กๆ เทานี้ ยอมสมควรที่เราจะตองออกไปเชิญขงเบงมาทําราชการดวยตนเอง จึงจะชอบ หากพวกเจาไมเต็มใจไปดวย เราก็จงอยูที่เมืองซินเอี๋ยนี้เถิด กวนอู เตียวหุย ไดฟงเลาปยืนยันขันแข็งเด็ดเดี่ยวนักก็คลอยตามใจเลาป แลววาเมื่อพี่ใหญจะออกไปเชิญขง เบง ขาพเจาทั้งสองก็พรอมใจติดตามพี่ใหญไปดวย เลาปไดฟงดังนั้นจึงวาเมื่อพวกเจาจะตามเราไปก็ตามใจ พวกเจา แตอยาไดกลาวความอันใดที่ลบหลูลวงเกินขงเบงอีกเปนอันขาด กวนอู เตียวหุย ก็รับคํา เมื่อเปน เชนนี้เลาปจึงพากวนอู เตียวหุย และคนติดตามจึงออกจากเมืองซินเอี๋ยไปเขาโงลังกั๋ง ครั้นเดินทางมาใกลเขา โงลังกั๋งยี่สิบเสนสวนกับจูกัดกิ๋นนองของขงเบง เลาปจึงคํานับแลวถามวาขาพเจาจะมาคํานับขงเบง วันนี้พี่ชาย ของทานอยูที่บานหรือไม จูกัดกิ๋นจึงวาพี่ชายของขาพเจาไปทองเที่ยวกับเพื่อนเพิ่งกลับมาแตวานนี้ วันนี้อยูที่บาน ทานมาคราวนี้ไมเสีย ทีเปลาคงจะไดพบขงเบง จงรีบเขาไปเถิด กลาวสิ้นคําแลวจูกัดกิ๋นก็คํานับลาเลาปเดินทางตอไป เลาปทราบวาขงเบงอยูที่บานก็มีความยินดี หันมากําชับกวนอู เตียวหุย วาเจาทั้งสองอยาไดลืมคําแลวพูดจา ลบหลูสติปญญาของขงเบงอีก สองนองรวมสาบานเห็นอาการกิริยาผูเปนพี่ใหญขึงขังก็รับคําวาพี่ใหญอยาได กังวลใจ เลาปขี่มาพากวนอู เตียวหุย ตรงเขาไปถึงซุมประตูหนาบริเวณ ลานกระทอมของขงเบงจึงลงจากหลัง มา เห็นเด็กนอยคนเดิมเดินออกมาจากประตูกระทอมตรงเขามาหาเลาปแลวยิ้มใหเปนการทักทาย เลาปเห็น ดังนั้นจึงวาไดทราบจากจูกัดกิ๋นวาวันนี้อาจารยฮกหลงอยูบาน วานเจาชวยเขาไปรายงานวาเลาปมาคํานับ เด็กนอยตอบกลับมาวา วันนี้อาจารยขาพเจาอยูบานก็จริงอยู แตกําลังนอนหลับ ขาพเจาไมกลาที่จะปลุก อาจารยดอก สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ยุทธศาสตรสามกก (ตอนที่ 202) ขึ้นปใหมแลวเลาปถือศีลกินเจ ทํากายใจใหสะอาดบริสุทธิ์ เปลี่ยนเสื้อใหมแลวออกไปเขาโงลังกั๋งเปนครั้งที่ สามเพื่อจะเชิญขงเบงใหละวิเวกออกมาทําราชการ กําจัดทุกขเข็ญของแผนดิน แตเมื่อไปถึงบานขงเบง ขง เบงก็แสรงนอนหลับ ทดสอบเลาปเปนครั้งสุดทาย ครั้นเลาปไดยินวาขงเบงอยูในบานแตนอนหลับอยูก็มีความยินดีเปนลนพน ใบหนาเบิกบานสดใส กลาวกับเด็ก นอยวาเมื่ออาจารยฮกหลงนอนหลับพักผอนอยู ก็ใหนอนหลับตามสบาย อยาไดวุนวายไปรบกวน ปลอยใหตื่น ตามใจชอบเถิด วาแลวเลาปสั่งกวนอู เตียวหุย ใหรออยูขางนอก ตัวเลาปเดินเขาไปที่กระทอม พอขามธรณี ประตูเห็นที่ดานบนฝาผนังของหองโถงมีอักษรแบบโบราณเปนใจความวา All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 4. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 4 "ภูเขาไมสําคัญที่ความสูง ความสําคัญอยูที่มีเทพสิงสถิตหรือไม ถามีคนก็นับถือ แมน้ําไมสําคัญที่ความลึก ความสําคัญอยูที่มีมังกรสิงสถิตหรือไม ถามีคนก็ยําเกรง บานไมสําคัญที่ความใหญโตอัครฐาน ความสําคัญอยู ที่มีปราชญ สิงสถิตหรือไม ถามีฮองเตผานมาก็ทรงแวะ" ภายในกระทอมหางจากธรณีประตูไมมากนัก ยกพื้นสูงระดับ หัวเขา มีหนังสือเรียงรายโดยทั่วไป บนโตะยาวที่ วางอยูบนพื้นสูงนั้นมีกระดานหมากลอมทําดวยไมสีดํา ลายเสนฝงไวดวยไมสีขาว ชิดกับฝาผนังมีโตะสูง ตรง กลางมีพิณโบราณวางอยู คลุมดวยผืนผาสีแดงเปลือกมังคุด ขางผนังแขวนรูปแผนที่เปนวิถีโคจรของดวงดาว ในจักรวาล ภายในตัวบานมีสายลมโชยมาเย็นสบาย เลาปเดินยองเขาหองโถงแลวมองไปที่หองขางใน เห็นขงเบงนอนหนุนหมอนไม ผินหนาเขาทางฝาเห็นแต ดานหลัง เลาปกุมมือทั้งสองไวเบื้องหนา ยืนอยางสํารวมอยู ณ พื้นเบื้องต่ําดวยความเคารพ จนเที่ยงวันผาน พนไป กวนอู และเตียวหุยยืนรอเลาปอยูนอกบานนานชา เห็นเงียบหายไปก็เริ่มกระวนกระวายใจ เดินไปเดินมาอยูพัก หนึ่งจึงยองเขาไปดู เห็นอาการเลาปยืนสํารวมอยูเบื้องลางในขณะที่ขงเบงนอนอยูบนพื้นที่ยกสูงในหองขางใน ก็โกรธ ถอยกลับออกมาหากวนอูแลววา ขงเบงคนนี้กิริยามารยาทหยาบชา ดูหมิ่นเลาปพี่ใหญของเรานัก รู แลววาพี่ใหญของเรามาหาก็แกลงนอนหลับ ทรมานใหพี่ใหญยืนรอคอยอยูเบื้องลาง ชางไมสมควรเลย เตียวหุยฮึดฮัดขึ้นมาแลว ความโกรธก็พลุงตาม แลวกลาวกับกวนอูวาขงเบงดูหมิ่นพี่ใหญฉะนี้ ขาพเจาจะแกลง เอาไฟไปจุดหลังบานใหขงเบงตกใจตื่นขึ้นมาใหจงได วาแลวก็ทําทาจะผละไปดานหลังบาน กวนอูเห็นดังนั้นก็รั้งแขนเสื้อเตียวหุยไวแลววา เจาจะทําดังนี้ไมชอบเหมือนทําลายความคิดและความพยายาม ของพี่ใหญ เราสูอุตสาหมาถึงสามครั้งแลว จงอดรนทนรออีกสักหนอยจะเปนไรไป เตียวหุยถูกกวนอูรั้งเสื้อ และทักทวง ดังนั้นก็คอยสงบลง แตอารมณฮึดฮัดฉุนเฉียวยังหนักอยู จึงปลีกออกไปนั่งเสียที่ใตรมไม ฝายหนึ่งแสรงนอนหลับ เพื่อทรมานและลองใจอีกฝายหนึ่งวามีศรัทธา วิริยะอุตสาหะสุจริตใจภักดีตอตัวแนน แฟนสักเพียงไหน ในขณะที่ใจก็หวั่นไหวไปพรอมกัน สวนอีกฝายหนึ่งนั้นยืนสํารวมสงบ นิ่งประหนึ่งศิษยรอ คอยปรนนิบัติอาจารยผูใหญ ไดความทรมานกายนัก แตในใจกลับปรีดาปราโมทยดวยเชื่อมั่นวาคนผูนี้นี่แลวที่ จะไขประตูแหงฟาพาตัวเขาถึงบัลลังกมังกรในวันหนา ทํานุบํารุงอาณาประชาราษฎรไดดังปณิธาน มหายุทธนาการครั้งที่สามในลักษณาการที่วานี้ไดดําเนินไปตั้งแต เวลาพระอาทิตยยังไมคลอยถึงศีรษะจนละ ลับไปทางตะวันตก จนกระทั่งยามเย็นเขามาเยือน ขงเบงก็พลิกตัวคลายประหนึ่งจะลุกตื่นขึ้น แตก็แสรงทํา หลับตอไป ศิษยตัวนอยของขงเบงเห็นเลาปยืนสํารวมนิ่งเปนเวลาชานานทรมานนักแลวก็สงสาร เขามากระซิบเลาปวา ขาพเจาจะปลุกอาจารย ทานจะเห็นประการใด เลาปยกมือขึ้นปรามวาเจาอยาเพิ่งวุนวาย ปลอยใหอาจารยนอน หลับใหสบายเถิด มหายุทธนาการของฝายหลับกับฝายรอจึงดําเนินตอไป ขงเบงแสรงนอนหลับตอมาจนตะวัน บายคลอยใกลจะพลบจึงพลิกตัวตื่น รําพึงความเปนกลอนซึ่งยาขอบไดถอดความจากฉบับภาษาอังกฤษของบ ริวิทเทเลอรวา "ยากจะหาผูใดรูโชคตน แตขามีกังวลเพราะเชื่อวา ที่สุดวันวันหนึ่งคงจะมา ใหขาลาวิเวกสุขเขา คลุกงาน" สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) พรรณนาวาเมื่อขงเบงตื่นขึ้นไดวาโคลงสี่บทเปนใจความวา "ผูใดนอน หลับใจก็มิรูสัญญา จักษุอันหลับอยูนั้นจะดูสิ่งใดก็มิไดเห็น หอนอยเรานี้ก็เปนที่สําราญ ถึงเทศกาลฝนก็นอน อุน พระอาทิตยเจาเอย อยาเพอคลอยคลับใหลับหนาตาง หยุดสองแสงอยูกอนจะไดนอนใหสบาย" สวนสามกกฉบับสมบูรณระบุวา ขงเบงตื่นขึ้นแลวปากก็ทองโคลงวา "ความฝนอันยาวนาน ผูใดรูกอนบาง ตลอดชีวิตขายอมรูดี กระทอมยามวสันตนอนหลับสนิท แสงตะวันนอกหนาตางชางแชเชือน" ครั้นสิ้นความลง ขงเบงจึงเรียกศิษยนอยเขาไปถามวาเวลาวันนี้มีใครมาหาเราบาง ศิษยนอยตอบวาเลาปมาหาทานแตกอน เที่ยง ยืนคอยทาอาจารยอยูชานานแลว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ขงเบงไดฟงดังนั้นก็ทําทีดุศิษยนอยวาเมื่อมีแขกมาเยือนถึงกระทอม ไฉนเจาจึงไมปลุกเรา ปลอยใหแขกตอง รอคอยนานถึงปานนี้ วาแลวขงเบงก็เดินเขาไปขางใน หวีผมใสเสื้อแตงตัวอีกครูใหญ แลวเดินกลับออกมาที่ หองโถง เลาปแลเห็นขงเบง "รูปรางใหญโต สูงถึงหกศอก สีหนาขาวเหมือนหยวก แตงตัวโอโถง ทวงทีเปน
  • 5. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 5 อาจารยผูใหญ" จึงเขาไปคํานับแลววา "ขาพเจาตั้งใจมาหาทานบัดนี้เพราะมีความปรารถนาจะขอสติปญญา ทาน ดวยแผนดินทุกวันนี้เปนจลาจลจวนจะสาบสูญอยูแลว ตัวขาพเจานี้เปนเชื้อวงศพระเจาเหี้ยนเต แตทวามี สติปญญานอยแลวก็เปนชาวบานนอกอยูเมืองตุนกวน แจงวาทานเปนคนดีมีสติปญญา ปรากฏเอิกเกริกเสมือน เสียงฟา ขาพเจามีความ ยินดี มาคํานับทานถึงสองครั้งแลวก็มิไดพบจึงเขียนหนังสือฝากไวหวังจะใหทาน แจง" ขงเบงรับคํานับเลาปแลวตอบวาความอันทานมาเยือนกระทอมนอยนี้แลหนังสือของทานนั้นขาพเจาไดรับแลรู สิ้นแลว แตวิตกวาตัวขาพเจายังหนุมออนวัยนัก เปนคนบานนอกชาวปามีสติปญญาอันนอย ผิวาจะไปทํา ราชการดวยทานแลวเกรงวาราชการทานจะเสียไป เลาปจึงวาอาจารยอยาไดถอมตัวเลย สุมาเตกโชและชีซีไดเลาความเกียรติประวัติแลสติปญญาความรูของ ทานใหขาพเจาไดรูแจงทุกประการแลว ขอทานไดเมตตาอยาไดบิดพลิ้ว ชวยขาพเจา ทํานุบํารุงแผนดินให เปนสุข เพื่อใหปรากฏอานุภาพแหงสติปญญาความคิดทานสืบไปในเบื้องหนาโนนเถิด ขงเบงเชิญเลาปนั่งลง บนพื้นที่ยกสูงในหองโถงขางโตะยาว ตัวขงเบงก็นั่งลงที่อีกดานหนึ่งของโตะ แลวสั่งศิษยนอยใหยกชุดน้ําชา ออกมาตอนรับเลาป จากนั้นจึงถามวา "ซึ่งทานจะใหขาพเจาไปชวยคิดอานทําราชการนั้น ความคิดทานจะทํา ประการใด จงชี้แจงใหขาพเจาแจงกอน" เลาปขยับตัวเขาไปใกลขงเบงแลววา แผนดินพระเจาเหี้ยนเตเปนจลาจลใกลสาบสูญ ศัตรูราชสมบัติฮึกเหิม กําเริบ ทํารายบานเมืองแลราษฎร เดือดรอนทุกหยอมหญา ตัวขาพเจาเปนเชื้อพระวงศฮั่น มีน้ําใจเจ็บรอนดวย แผนดิน ตั้งหนาแสวงหาผูมีสติปญญามาชวยคิดอานทําการเพื่อกําจัดศัตรูราชสมบัติ ทํานุบํารุงอาณาประชา ราษฎรใหเปนสุข แตยังไมสมความคิด อันผูคนทั้งปวงนั้นขาพเจาเตรียมพรอมอยูแลว ขาดแตผูมีสติปญญา ชวยคิดอานบัญชาการ ดังนั้นขาพเจาจึงมาคํานับทานหวังเชิญทานไปทําราชการชวยทํานุบํารุงใหบรรลุ ปณิธาน ขอทานจงเมตตาชวยขาพเจาดวย ขงเบงจึงวา นับแตตั๋งโตะครองอํานาจเปนใหญในเมืองหลวงไดกบฏตอแผนดิน ขมเหงรังแกขุนนางขาราชการ แลราษฎรทั้งปวง หัวเมืองตางๆ จึงพรอมใจกันลุกขึ้นสูกับอํานาจรัฐเพื่อกําจัดอํานาจของตั๋งโตะเสีย แต แตกแยกแตกสามัคคี แกงแยงแขงดีกัน ทําลายลางกันจนดับสูญ บรรดาหัวเมืองที่เหลือก็ตั้งตัวขึ้นเปนใหญ สิ้นตั๋งโตะแลว ลิฉุย กุยกีก็ทําหยาบชาแกบานเมืองแลราษฎรจนกระทั่งอํานาจตกอยูแกโจโฉ โจโฉครอง อํานาจในเมืองหลวงแลวซองสุมกําลังทหารไวเปนอันมาก แตกระนั้นกําลังทหารก็ยังนอยกวาอวนเสี้ยว การ ที่โจโฉกําจัดอวนเสี้ยวเสียไดนั้นมิใชวาจะสําเร็จไดเพราะกําลังทหารที่มากกวา ดวยทหารโจโฉมีนอยกวาอวน เสี้ยวถึงสิบเทา แตทําการใหญหลวงสําเร็จลุลวงไดก็ดวยอาศัยความคิดสติปญญาตัว โจโฉนั้นแมโฉดชั่วเปน ศัตรูราชสมบัติ ขมเหงพระเจาเหี้ยนเต ทําการชั่วชาตอบานเมืองแลราษฎรถึงปานนี้แลวก็ดี แตไมอาจที่จะ กําจัดโจโฉไดโดยงาย สวนซุนกวนนั้นเลา เปนเจาเมืองกังตั๋ง แมมีกําลังอันนอยแตอํานาจของซุนกวนไดสืบทอดมาแลวถึงสามชั่ว อายุคน ไดซองสุมกําลังผูคน นักปราชญ แลบัณฑิตไวเปนอันมาก แผนดินแดนกังตั๋งสงบรมเย็น ฝายครอง อํานาจและฝายอาณาประชาราษฎรสามัคคีสมานฉันทเปนน้ําหนึ่งใจเดียวกัน กําลังนอยจึงเหมือนหนึ่งกําลัง มาก ยอมประมาทมิได ทั้งภูมิประเทศยังมีแมน้ําแยงซีเปนปราการขวางกั้นปองกันการบุกรุกคุกคามจากขาศึก เปนแข็งแรง ชอบที่ทานจะผูกมิตรไมตรีกับซุนกวน สวนเมืองเกงจิ๋วเปนเมืองใหญแตอยูหนาศึก เหมือนหนึ่งมี ศัตรูรายเรียงรอบทั้งสี่ดาน หากแมนผูใดไมมีสติปญญาก็หาอาจที่จะปองกันรักษาเมืองเกงจิ๋วไวไดไม เมืองนี้ ในภายหนาจะตกเปนสิทธิแกทาน สวนเมืองเสฉวนนั้นเลาเปนหัวเมืองใหญมั่งคั่งสมบูรณ ทั้งภักษาหาร ธัญญาหารและมังสาหารก็อุดม แตบัดนี้เลาเจี้ยงผูเปนเจาเมืองเปนคนไรสติปญญา มีน้ําใจโลเล มิไดเลี้ยงดู ทหารโดยยุติธรรม แลราษฎรก็ไมเปนน้ําหนึ่งใจเดียวกัน "ถึงจะมีสมบัติดังเมืองฟาก็นับวันจะสาบสูญ" เพราะ บรรดาเหลาทหารไมพอใจ คิดเอาใจออกหากอยู เมืองเสฉวนนี้จะเปนสิทธิ์แกทานในวันหนาเชนเดียวกัน ตัว ทานก็เปนเชื้อพระวงศของพระเจาเหี้ยนเต มีสติปญญาแลน้ําใจโอบออมอารีเปนอันมาก ถาคิดอานไดเมืองเกง จิ๋วแลวก็จะไดเมืองเสฉวนดวย อันพระเจาฮั่นโกโจปฐมกษัตริยแหงราชวงศฮั่นก็ตั้งตัวไดที่เมืองเสฉวนนี้ เมื่อ ทานไดเมืองเกงจิ๋วแลเมืองเสฉวนสรางไมตรีเปนพันธมิตรกับหัวเมืองโดยรอบ จับมือเปนพันธมิตรกับซุนกวน แหงกังตั๋งไวมั่นคงแลว แผนดินระส่ําระสายขึ้นเมื่อใดคงไดทีคิดอานทําการยึดครองตงงวนไดโดยสะดวก อาณาประชาราษฎร ก็จะมีความสุขสืบไป ซึ่งทานขอใหขาพเจาคิดอานชวยทํานุบํารุงบาน เมืองนั้นขาพเจาก็ ชวยคิดอานสั่งสอนไดแตเพียงเทานี้ ทานจงมีอุตสาหะวิริยะตั้งหนาทําการไปตามแผนการแลความคิดนี้ก็จัก สําเร็จลุลวงบรรลุปณิธานเปนมั่นคง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 6. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 6 นี่คือแผนยุทธศาสตรสามกกที่ขงเบงกําหนดยุทธศาสตรใหถือเอาโจโฉเปนกกหนึ่งซึ่งถึงแมโจโฉจะเปนศัตรู ราชสมบัติ ขมเหง ย่ํายีฮองเตตลอดจนขุนนางแลราษฎร แตมีกําลังอํานาจใหญหลวงนัก ยังไมอาจกําจัดได โดยงาย ซุนกวนก็เปนอีกกกหนึ่งซึ่งถึงแมมีกําลัง นอยแตความมีน้ําหนึ่งใจเดียวกันและความอุดมพรอมมูลดวย ผูคนแลเสบียงอาหาร ทั้งมีแมน้ําแยงซีเปนปราการอันสําคัญก็ประมาทมิได เลาปก็จะตองตั้งตัวเปนอีกกกหนึ่ง โดยตองยึดเกงจิ๋วและเสฉวนไวเปนฐานอํานาจ ผูกพันธมิตรไวกับซุนกวนใหแนนแฟน ไดทีเมื่อใดแลวจึงคอย ยึดครองเมืองหลวงหรือแผนดินตงงวน ยุทธศาสตรที่วานี้ยาขอบไดสรุปเปนหลักยุทธศาสตรวา "เหนือรบโจโฉ ใตจับมือซุนกวน" ซึ่งนับเปนหลักยุทธศาสตรที่ลือลั่นในประวัติศาสตรจีนและประวัติศาสตรการสงครามของ โลก สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม วิพากษยุทธศาสตรสามกก (ตอนที่ 203) มหายุทธนาการระหวางฝายหนึ่งซึ่งตองการปลีกวิเวกอยูกับธรรมชาติตามวิถีแหงเตา กับอีกฝายหนึ่งซึ่งมี ปณิธานมั่นในอันที่จะกอบกูฟนฟูพระราชวงศฮั่น ทํานุบํารุงประชาราษฎรใหเปนสุขใกลยุติลง ขงเบงตื่นขึ้นแลว ยังคงดิ้นรนเปนครั้งสุดทายไมยอมเลื้อยลงจากโงลังกั๋ง ไดแตเสนอยุทธศาสตรสามกกใหเลาปไปปฏิบัติ หลังจากเสนอยุทธศาสตรสามกกแลว ขงเบงสั่งใหศิษยนอยเขาไปหยิบแผนที่เมืองจีนซึ่งแสดงอาณาเขต เมืองเสฉวนอันมีหัวเมืองขึ้น 50 หัวเมืองมาแขวนที่ผนังหองโถง ชี้ใหเลาปดูแลววาทางใตฝงแมน้ําแยงซี ซุน กวนไดครองอํานาจเปนใหญ เปนปกแผนไพบูลยมาถึงสามชั่วอายุคน แผนดินสงบรมเย็นเปนสุข กําลังนอยจึง เหมือนหนึ่งกําลังมาก ทางฝงเหนือของแมน้ําแยงซีดานตะวันออกจดทะเลหลวง ดานตะวันตกติดตอกับแดน เมืองเสฉวนนั้นอยูในอํานาจของโจโฉ ซึ่งมีกําลังใหญหลวงนัก สวนทางเมืองเกงจิ๋วนั้นอยูหนาศึก ดานเหนือ ติดกับแดนในอํานาจของโจโฉ ดานใตติดกับแดนเมืองกังตั๋ง ไปทางตะวันตกมีอาณาเขตเชื่อมตอกับแดนเมือง เสฉวน หากไมมีสติปญญาแทจริงแลวก็ไมอาจรักษาเมืองเกงจิ๋วไวได แตเมืองเกงจิ๋วนี้เมื่อรวมเขากับแดน เมืองเสฉวนแลวก็จะมีอาณาเขต กวางใหญ เมื่อใดที่ทานไดเมืองเกงจิ๋วแลวก็จะไดเมืองเสฉวนดวย และเมื่อ นั้นทานก็จะเปนใหญสมความปรารถนา เลาปไดฟงคําขงเบงและดูแผนที่ตามที่ขงเบงไดชี้แจงแสดงดังนั้นแลวจึงวา "ซึ่งทานมีความเมตตาสั่งสอน แนะนําให ขาพเจามีความยินดีนัก สวางในดวงใจดุจวาพระอาทิตยมีปริมณฑลอันปราศจากเมฆ สองสวางไป ทั่วโลก" แลววาขาพเจาวิตกอยูตรงที่เมืองเกงจิ๋วนั้นเลาเปยวเปนเจาเมือง สวนเมืองเสฉวนเลาเจี้ยงเปนเจาเมือง ทั้ง สองเมืองนี้ปกครองดวยคนแซเลาซึ่งเปนแซเดียวกับขาพเจาและตางก็เปนเชื้อพระวงศ หากขาพเจาจะคิดอาน แยงชิงเอาเมืองเกงจิ๋วและเมืองเสฉวนเปนสิทธิแกตัว ก็เหมือนหนึ่งเปนกบฏตอพระราชวงศฮั่น ทรยศตอเชื้อ พระวงศแซเดียวกัน กลายเปนคนไรความกตัญู ขาพเจาไมอาจตัดใจทําการดังนี้ได ขงเบงจึงวาทานกลาวความดังนี้ก็ชอบดวยประเพณีที่มีมาแตกอน แตการณบนพื้นแผนดินนี้ยอมเปนไปตามวิถี อันสวรรคไดลิขิต ขาพเจาไดตรองดูเหตุการณอยางถี่ถวนแลวเห็นวาเลาเปยวเจาเมืองเกงจิ๋วอายุจะไมยืนยาว สืบไป สวนเลาเจี้ยงก็เปนคนไรแกนสาร ครองแดนเสฉวนไดอีกไมนาน แมวาทานจะมีความกตัญูตอแผนดิน ไมประสงคจะแยงชิงเอาทั้งสองเมืองนี้ แตที่สุดแลวทั้งสอง เมืองนี้ก็จะมีอันเปนไปเองแลวจะตกเปนสิทธิแก ทานเปนมั่นคง ความแลแผนที่อันขงเบงนําแสดงแกเลาป ณ บัดนี้ ยอมไมใชสิ่งที่เพิ่งทําเพิ่งพูดในวันที่พบกับเลาป แต ประจักษชัดวาเปนการบานที่ขงเบงไดจัดแจงคิดอานจบสิ้นในชวงเวลานับแตเลาปไปเยือนแดนมังกรหลับครั้ง แรก จึงสามารถสรุปกําหนดขึ้นเปนหลักยุทธศาสตรสามกกอันหลักแหลมลึกซึ้งได ดังนั้นการเยือนโงลังกั๋งสอง ครั้งกอนของเลาปแมจะมิไดพบขงเบงแตไดกอเกิดภาระอันหนักอึ้งแกขงเบงในการพิเคราะหความทั้งปวงที่ เปนไปในแผนดิน แลวคิดอานกําหนดขึ้นเปนยุทธศาสตรเข็มมุงแลยุทธวิธี ทั้งทางการเมือง การทูต และ การทหาร จนเลาปฟงแลวก็เห็นหนทางขางหนาสวางไสววาจะสามารถตั้งตัวขึ้นเปนใหญไดตามแผนการนั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ยุทธศาสตรสามกกอันขงเบงไดนําเสนอแกเลาปนี้ประกอบขึ้นดวยสองสวน คือสวนที่เปนยุทธศาสตรและสวน ที่เปนเข็มมุงที่พึงปฏิบัติใหสําเร็จจึงจะบรรลุถึงยุทธศาสตรดังกลาว ดังนั้นการทํา ความเขาใจในยุทธศาสตร และเข็มมุงดังกลาวจึงเปนเรื่องจําเปนตอความเขาใจในวิถีดําเนินของสามกก และเปนที่ตั้งแหงขอสังเกต วาวัน
  • 7. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 7 เวลาใดที่มุงมั่นดําเนินตามยุทธศาสตรและเข็มมุงนี้อยางถูกตองก็จะเกิดอานุภาพและผลอยางหนึ่ง แตถา เมื่อใดที่ลังเลหรือกาวพลั้งพลาดไปจากยุทธศาสตรและเข็มมุงดั่งนี้แลวก็จะเกิดผลอีกอยางหนึ่ง ยุทธศาสตรสามกกแบงออกเปนสองระยะคือ ระยะแรก จะตองทําแผนดินจีนใหกลายเปนสามกก คือโจโฉกกหนึ่ง ซุนกวนกกหนึ่ง และเลาปเปนอีกกกหนึ่ง เพราะสถานการณ ที่เลาปมีกําลังเล็กและออนแอที่สุดยอมไมอาจตานทานรับมือ และเอาชัยชนะแกโจโฉได โดยงาย ในขณะที่ซุนกวนแหงเมืองกังตั๋งนั้นก็ตั้งอยูในชัยภูมิอันมั่นคงปลอดภัยและอุดม ยอมไมอาจเอาชนะ ไดเชนเดียวกัน ดังนั้น การกําหนดยุทธศาสตรใหเปนสามกกจึงเปนแต ยุทธศาสตรเดียวเทานั้นที่จะสามารถทํา ใหเลาปตั้งตัวได เปาหมายของยุทธศาสตรขั้นนี้คือเลาปจะตองไดเมืองเกงจิ๋วและเมืองเสฉวนไวเปนฐานกําลัง ใหสําเร็จ ระยะที่สอง เมื่อเปนสามกกแลวจะตองสรางสัมพันธไมตรีกับหัวเมืองทั้งปวง รอคอยโอกาสเปนทีแลวจึงคอย เขายึดแผนดินตงงวน คือแผนดินที่อยูในอํานาจครอบครองของโจโฉ และเมื่อทําการสําเร็จ แลวก็เหมือนหนึ่ง ไดเมืองกังตั๋งดวย ดังนี้การรวบรวมแผนดินจีนใหเปนหนึ่งก็จะบรรลุผลสําเร็จ เพื่อบรรลุถึงยุทธศาสตรดังกลาว ขงเบงไดกําหนดเข็มมุงทั้งทางการเมือง การทูต และการทหารไวเปนสาม ประการคือ ประการแรก จะตองยึดเมืองเกงจิ๋วใหไดกอน แลวจึงยึดเมืองเสฉวนตอไป ซึ่งขงเบงมั่นใจวาเข็มมุงประการนี้จะ สามารถบรรลุผลอยางแนนอน เพราะไดคํานวณสถานการณแลว ทั้งสองเมืองนี้จะตกไดแกเลาป ประการที่สอง จะตองดําเนินการทางการทูต ทางการเมืองและทางการทหาร "เหนือรบโจโฉ ใตจับมือซุนกวน" นั่นคือการผูกสัมพันธมิตรกับซุนกวนรับมือกับโจโฉ ประการที่สาม จะตองสรางไมตรีผูกมิตรกับหัวเมืองโดยรอบเมืองเสฉวน และตองรักษาเมืองเกงจิ๋วไวใหสําเร็จ คอยโอกาสที่แผนดินวุนวายแลวจึงคอยยึดเอาแผนดินตงงวน เมื่อสําเร็จแลวก็เหมือนไดแผนดินกังตั๋งดวย เมื่อ นั้นแผนดินจีนก็จะเปนหนึ่งเดียว ยุทธศาสตรและเข็มมุงดังกลาวนี้ เปนความจําเปนและเปนความถูกตองที่จะตองกําหนดในเบื้องแรก มิฉะนั้น แลวการดําเนินการทั้งปวงก็เสมือนหนึ่งไรทิศทาง ไมอาจบรรลุผลสําเร็จได อิทธิพลทางความคิดจากยุทธศาสตรนี้ไดสงผลตออิทธิพลทาง ความคิดทางยุทธศาสตรในชั้นหลัง และมี อิทธิพลตอการคนควากฎแหงสงครามและทฤษฎีวาดวยความสัมพันธระหวางการเมืองกับสงครามในชั้นหลัง ดวย เหมาเจอตงไดสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้วา "สงครามเปนเครื่องมือทางการเมือง และเพื่อบรรลุเปาหมายทาง การเมือง" เพราะเหตุนี้จึงสรุปตอไปวา "สงครามคือการเมืองที่หลั่งเลือด และการเมืองก็คือสงครามที่ไมหลั่ง เลือด" เหมาเจอตงผูนําพรรคคอมมิวนิสตจีนและนักคิดผูยิ่งใหญแหง ลัทธิมารกซเลนิน ไดกลาวตอไปวา "เมื่อจะ ดําเนินการทางการเมือง ขอแรกตองรูวา ใครเปนศัตรู ใครเปนมิตร จะตองรูวาจะสามัคคีกับใคร ไปรบกับใคร" นักการเมืองบางจําพวกดําเนินงานทางการเมืองโดยไรทิศทาง ไรเปาหมาย และไรอนาคต นักการเมืองเหลานี้ ความจริงหาใชนักการเมืองไม หากเปนเพียงนักเลือกตั้งมีเปาหมายเพียงเพื่อการแสวงหาประโยชนสวนตัว สวนพรรคหรือสวนพวกเทานั้น วิถีดําเนิน ของคนเหลานี้ไมเปนไปเพื่อประโยชนของบานเมือง ไมเปนไปเพื่อ ประโยชนของปวงชน ความสําเร็จของคนเหลานี้ก็คือความพินาศยอยยับของบานเมือง และความยากไรของ ปวงชน นักการเมืองจําพวกนี้จึงมักถือหลักคติวา "การเมืองไมมีมิตรแท และไมมีศัตรูถาวร" นั่นก็คือใครก็ไดตอใหเลว ทรามต่ําชาสักเพียงไหน หากมีผลประโยชนรวมกันแลวก็สามารถรวมมือรวมการกันได แตหากผลประโยชน ขัดกันแลวตอใหเปนมิตรรวมสาบาน ก็พรอมที่จะทําลายลางใหวายวอดไดลงคอ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 8. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 8 บานใด เมืองใด ประเทศใดมีนักการเมืองถอยต่ําชาแบบนี้ ยอมมีอนาคตที่บานเมืองจะตองกลายเปนทาสของ ชาติอื่น ยอมมีอนาคต ที่ปวงชนจะตองกลายเปนทาสของชาติอื่น หรือมิฉะนั้นก็จะเกิดกลียุคขึ้นในบานเมือง เพราะเมื่อใดที่ราษฎรเดือดรอนทุกขเข็ญ ไมเห็นทางออกก็ยอมพรอมเพรียงกันปฏิเสธอํานาจและการปกครอง นั้น แลวลุกขึ้นสูเพื่อกอบกูฟนฟูบานเมืองของตน กอตั้งอํานาจรัฐของประชาชนขึ้นสักวันหนึ่ง เลาปไดฟงขงเบงยืนยันมั่นเหมาะวาในที่สุดเมืองเกงจิ๋วและเมืองเสฉวนจะตองตกไดแกเลาป และเมื่อดําเนิน ตามยุทธศาสตรสามกกแลวก็จะเปนหนทางที่จะบรรลุถึงปณิธานของตัวก็มีความยินดียิ่งนัก คํานับขงเบงแลววา แผนการยุทธศาสตรของทานนี้เลอเลิศนัก ขอเชิญทานออกไปชวยทําราชการดวยขาพเจา ทํานุบํารุงสั่งสอน ใหขาพเจาดําเนินการตามแผนการยุทธศาสตรนี้สืบไป ขงเบงจึงวาตัวขาพเจาเปนชาวปาบานนอกคอกนา มีสติปญญาอันนอย การทั้งปวงที่เคยทําก็เปนการหยาบ ตามประสาชาวปา แตกตางจากการแผนดินซึ่งละเอียดออนลึกซึ้งนัก ซึ่งจะไปอยูทําราชการ ดวยทานนั้นเกรง วาจะทําใหราชการของทานเสียไป เลาปจึงวาขอทานอยาไดบิดพลิ้ว จงเมตตาขาพเจาและอาณาประชาราษฎรทั้งปวง หากแมนวาทานไมออกไป ชวยคิดอานทําการแลว คงไมอาจปราบปรามยุคเข็ญใหแผนดินเปนสุขได อาณาประชาราษฎรจะไดรับความ เดือดรอนไมมีที่สิ้นสุด เลาปกลาวความสิ้นคําแลว ความอัดอั้นตื้นตันประดังขึ้นในอกมิรูที่จะกลาวความใดตอไปได จึงกมหนาลงจรด พื้น รองไหสะอึกสะอื้นอยูกับที่ ขงเบงเห็นดังนั้นก็เวทนานัก ทั้งประจักษวาเลาปมีศรัทธา วิริยะ อุตสาหะ ภักดีตอตัวโดยสุจริตก็สงสาร น้ําใจที่ คิดอานจะเสนอเพียง แผนการแตตัวไมยอมออกจากโงลังกั๋งก็สิ้นสุดสะบั้นลง ณ บัดนั้น จึงกลาวกับเลาปวา "ถาทานมีความรักใครขาพเจามั่นคงอยูแลว ก็อยารองไหวิตกไปเลย ตัวขาพเจาก็จะไปทําราชการดวยทาน ถึง มาตรวาขาพเจาจะเปนประการใดก็ดี ก็จะชวยทํานุบํารุงตามสติปญญา" คําขงเบงที่วา "ถึงมาตรวาขาพเจาจะเปนประการใดก็ดี" เปนความที่จะขามไปมิไดเปนอันขาด ดวยภูมิปญญา ความรูความสามารถ หยั่งคาดการณในเบื้องหนาไดกระจางไมตางกับสุมาเตกโช มีหรือที่ขงเบงจะไมรูวาการ ออกไปชวยเลาปคนไรวาสนาเปนการใหญหลวง สุมาเตกโชไดเห็นการณเบื้องหนาวา "ขงเบงไดความระกําใจ รากโลหิตออกเมื่อภายหลัง" สิ่งที่สุมาเตกโช เห็นดังนี้ ขงเบงก็ยอมแลเห็นดุจเดียวกัน แตแมกระนั้นถึงจะเห็นอนาคตขางหนาดังนี้แลวก็ยังยอมรับชะตา กรรมนั้น ทั้งนี้เหตุผลก็คงมีอยูประการเดียวเทานั้นคือเปนผลจากอํานาจแหงธรรม คือศรัทธา วิริยะ อุตสาหะ และความภักดีโดยสุจริต หรือแมหากพิจารณาอีกนัยยะหนึ่งก็เปนไปไดวาแมจะรูวาสวรรคลิขิตชะตาเลาปไวเปนประการใด แตก็จะอาศัย ภูมิปญญาแหงตัวแกลิขิตสวรรคนั้นไดสําเร็จ แลเมื่อพิเคราะหอัธยาศัยน้ําใจของขงเบงที่ทระนงในความคิดแล สติปญญาตัวแลว ก็เล็งเห็นไดวาความประการนี้ก็มีเหตุผลหนักหนวงอยูเปนอันมาก เลาปไดฟงขงเบงรับคําเชิญจะออกไปชวยทําราชการดวยก็มีน้ําใจยินดีนัก เรียกกวนอู เตียวหุย เขาไปใน กระทอมแลวใหคํานับขงเบง กวนอู เตียวหุย แมขุนเคืองขงเบงจนเห็นอาการไดชัดแตก็ขัดใจเลาปไมได จําใจ ตองเขาไปคํานับ ขงเบงเห็นอาการสองนองรวมสาบานของเลาปก็รูทีแลวรับคํานับตามธรรมเนียม เลาปสั่งใหทหารติดตามเอาแพรพรรณสิ่งของทั้งปวงที่เตรียมไป แลวมอบแกขงเบงเปนการคํานับ ขงเบงก็รับ เอาสิ่งของทั้งนั้น แลววาเวลาวันนี้ค่ําแลว ทานจงพักคางคืนเสียที่นี่ราตรีหนึ่งกอน วันรุงพรุงนี้คอยเดินทาง กลับไปเมืองซินเอี๋ย เลาปก็รับคํา ขงเบงจึงสั่งใหศิษยนอยจัดแจงที่พักแลวจัดหาอาหารเลี้ยงดูเลาป กวนอู เตียวหุย และทหาร ติดตาม All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ขงเบง เลาป กวนอู เตียวหุย และจูกัดกิ๋น กินอาหารรวมโตะสนทนาถึงความเปนไปในบานปาจนเวลาลวงยาม แรกของราตรีจึงเสร็จสิ้น แตเลาปยังไมเต็มใจที่จะเขาหลับนอนดวยบรรยากาศบานปายามนี้เปนที่เบิกบาน สําราญใจนัก จึงบอกใหกวนอู เตียวหุย เขานอนกอนตามอัธยาศัย
  • 9. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 5 ตอนที่ 201-250 หนาที่ 9 สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ขงเบงดูดาว (ตอนที่ 204) ขงเบงเห็นอาการเลาปดังนั้นก็แจงวาเลาปยังไมประสงคจะเขานอนหากตองการสนทนาตอไป จึงชวนเลาป ออกไปนั่งดื่มน้ําชาที่เกงหนากระทอม สนทนาเกี่ยวกับสถานการณบานเมือง จนผานยามแรกและเขาสูยาม สองราตรีนั้นเปนขางแรม บนอากาศดวงดาวพราวพรางกระจางเต็มทองฟา แวววาววับวามงามตายิ่งนัก ดู ประหนึ่งอยูใกลคลายกับจะเอื้อมควาไดถึง สายลมราตรีปลายฤดูหนาวตนฤดูใบไมผลิโชยมาเปนที่สบาย กลิ่น ดอกไมปานานาพันธุโชยมาตามสายลมหอมระรื่นชื่นใจ เสียงนกกลางคืนรองกองในแนวปาขณะออกหากิน ตามประสาขงเบงเห็นดาวเดนตาพรายพรางเต็มทองฟา จึงชวนเลาปออกมาจากเกงหนากระทอม ทอดตาขึ้น ไปในอากาศแลวชี้ใหเลาปดูไปบนทองฟาขางทิศเหนือ แลววานั่นเปนกลุมดาวจระเข เปนดาวประจําขางทิศ อุดร เปนกลุมดาวที่บงบอกเวลาในยามราตรี มีทั้งสิ้นสิบเอ็ดดวง สี่ดวงตรงกลางคือขาหนาหลังทั้งสี่ จาก ตําแหนงดาว ที่เปนขาหลังเบื้องลางไปทางทิศตะวันออกมีสามดวงเปนหางของจระเข ดานหนามีสี่ดวงเปนตา สองดวงและจมูกอีกสองดวง ตําแหนงดาวที่เปนจมูกดวงบนนั้นเปนดาวประจําพระองคพระมหากษัตริยคือพระ เจาเหี้ยนเต บัดนี้เศราหมองนัก มีเหตุแตเบื้องบนมีดาวอีกดวงหนึ่งสีเหลืองปนแดงสวางไสว รัศมีรุงโรจนนั่น คือดาวประจําตัวของโจโฉ ขมดาวประจําพระองคพระเจาเหี้ยนเตอยู ลักษณะดังนี้บงชี้วาวาสนาโจโฉยัง รุงเรือง ประกอบดวยกําลังเปนอันมาก แลววาพระเจาเหี้ยนเตเปนชาวราศีธาตุไฟ ธาตุไฟเปนตนกําเนิดธาตุดิน ตัวโจโฉเปนชาวธาตุดิน ครองอํานาจในเมืองฮูโตซึ่งเปนปูมธาตุดินดังนี้ยอมแสดงวาโจโฉไดใชและอาศัยอิง อํานาจของฮองเตตั้งฐานอํานาจอยูในชัยภูมิอันสมพงศแกตัว อํานาจของโจโฉจึงปราบ ใหสิ้นไปไดโดยยาก ขงเบงชี้ไปทางทองฟาเบื้องทิศใตแลววา ดาวดวงที่มีรัศมีสีฟาแกมแสดรุงเรืองสวางไสวอยูนั้นคือดาว ประจําตัวซุนกวนซึ่งครองอํานาจเปนใหญในแควนกังตั๋งเปนปูมธาตุทอง โจโฉขมซุนกวนไมไดและซุนกวนก็ ทํารายโจโฉไมไดดุจกัน ขงเบงชี้มือไปบนทองฟาขางทิศตะวันตกแลววา นั่นคือดาวประจําตัวเลาเจี้ยงเจา เมืองเสฉวน อับแสงใกลจะรวงโรย เมืองเสฉวนตกอยูในปูมธาตุไม ตัวทานก็เปนชาวราศีธาตุไม เมืองเสฉวนจึง สมพงศกับทาน ทานจะตั้งตัวไดที่เมืองเสฉวนนี้เฉกเดียวกับพระเจาฮั่นโกโจในครั้งกระโนนพระเจาฮั่นโกโจ พายแพศึกแกฌอปาอองแลวไดเคลื่อนกองทัพเขาไปปกหลักเปนฐานที่มั่นกอตั้งอํานาจขึ้นในดินแดนเสฉวน และตั้งตัวเปนใหญไดที่เมืองเสฉวนนี้ เลาปมองตามมือของขงเบงไปดวยความสนใจเปนอยางยิ่ง ผงกศีรษะยอมรับความอันขงเบงไดแสดงมาทุก ประการ ขงเบงเห็นอาการเลาปดังนั้นแลวจึงชี้ไปที่ดาวอีกดวงหนึ่งซึ่งอยูใกลกับดาวประจําตัวของเลาเจี้ยง มีสี ฟาแกมเขียวสดใสแตยังไมรุงโรจนนัก และวาดาวดวงนี้คือดาวประจําตัวทาน บัดนี้แมยังไมมีรัศมีอันสวาง ไสว รุงเรืองแตขาพเจาไดสังเกตการปรากฏของดาวดวงนี้มาชั่วเวลาหนึ่งแลว ประจักษวามีรัศมีสดใสเพิ่มขึ้นโดย ลําดับ แสดงวาเมืองเสฉวนนี้จะตกเปนของทาน อันดาวประจําตัวเลาเจี้ยงนั้นอับแสงลงโดยลําดับ ในขณะที่ ดาวประจําตัวของทานรุงเรืองสวางขึ้นโดยลําดับเชนเดียวกัน ขาพเจาคาดการณวาวันใดที่ดาวประจําตัวเลาเจี้ย งออนแสงแรงลาลงแลว ดาวประจําตัวของทานก็จะรุงเรืองขึ้นแทนที่ ทานจะตั้งหลักไดที่เมืองนี้เปนมั่นคง ขง เบงชี้ใหเลาปดูแถบสีขาวคลายกลุมเมฆที่ทอดทาบทองฟาขางทิศตะวันตก พาดผานมายังจุดที่ขงเบงและเลา ปยืนอยูแลววา แถบทางสีขาวที่ทอดทาบดังนี้คือทางชางเผือก ผันแปรเคลื่อนไปตามเวลา หาคงที่ไม ในยาม นี้ทางชางเผือกทอดทาบทองฟาขางเมือง เสฉวนผานเมืองซงหยงตรงไปยังเมืองเกงจิ๋ว นี่คือเสนทางแหงการ กาวสูอํานาจของทาน บงชี้วาทานจะตั้งตนอํานาจจากเมืองเกงจิ๋ว กอนแลวเขาสูเมืองเสฉวนดังที่ขาพเจาได กลาวแกทานเมื่อพลบค่ําวันนี้ ขงเบงชี้ขึ้นไปที่ดาวดวงหนึ่งซึ่งอยูบนทองฟาเหนือศีรษะคอนไปขางทิศใตแลววาดาวดวงนี้เปนดาวประจําตัว เลาเปยวเจาเมืองเกงจิ๋ว สีแดงคล้ําเศราหมองริบหรี่ใกลดับสูญแลว สุขภาพของเลาเปยวกําลังสุกงอมเต็มที่ ใกลลาโลก อิทธิพลของดาวประจําตัวทานที่ทอดกระแสผานทางชางเผือกจรดอยูใกลดาวประจําตัวของเลา เปยว บงบอกวาเลาเปยวรวงลับลงเมื่อใด เมืองเกงจิ๋วก็จะตกไดแกทานเมื่อนั้น ดวยเหตุฉะนี้ขาพเจาจึงกลาว คาดคะเนกับทานเมื่อยามพลบวาเมืองเกงจิ๋วและเมืองเสฉวนจะตองตกเปนของทาน All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด เลาปยืนมองทองฟาดวยอารมณปลอดโปรงโลงใจเบิกบานเปนพิเศษ ในขณะที่สายตาก็ทอดตามมือของขง เบงที่ชี้ไปยังดาวตามทิศตางๆ และฟงคําวิจารณการในเบื้องนภากาศอยางใจจดใจจอ เห็น กวางขวางลึกซึ้งยิ่ง นัก ลวนเปนสิ่งที่เลาปไมเคยไดยิน ไมเคยไดฟงมาแตกาลกอนลวนเปนเรื่องเหนือคิด เหนือคนทั้งสิ้น จิตใจ เลาปในยามนี้จึงเปยมดวยความศรัทธาในภูมิปญญาอันแจงฟาจบดินของขงเบง และเชื่อมั่นวาดวยภูมิปญญา ความรูของขงเบงนี้นี่แลวที่จะทําใหปณิธานของตัวที่มุงมั่นกอบกูฟนฟูพระราชวงศฮั่น ทํานุบํารุงแผนดินใหเปน สุข จักสําเร็จสมดังปรารถนาเปนแนแท เลาปก็มีใจยินดีปรีดาปราโมทยหาที่ประมาณมิไดเลาปฟงคําขงเบงสิ้น