More Related Content
Similar to Chapter 5 ec_law
Similar to Chapter 5 ec_law (20)
Chapter 5 ec_law
- 41. พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สาระสำคัญของ พ . ร . บ . ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ . ศ . 2544 เหตุผลในการประกาศใช้ “พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ . ศ . 2544” คือเพื่อรับรองสถานะทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการทำธุรกรรม หรือสัญญา ให้มีผลเช่นเดียวกับการทำสัญญาตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายปัจจุบัน ( ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ) กำหนดไว้ ได้แก่ การทำเป็นหนังสือ หลักฐานเป็นหนังสือ การลงลายมือชื่อ กล่าวคือถ้ามีการทำสัญญาระหว่างบุคคลที่ใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือลายมือ ชื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามความหมายของกฎหมายแล้ว กฎหมายนี้ถือว่าการทำสัญญานั้นได้ทำตามหลักเกณฑ์ข้างต้นของกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์แล้ว เป็นผลทำให้สัญญานั้นมีผลสมบูรณ์หรือใช้บังคับได้ตามกฎหมาย ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์กำหนด
- 42. พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบัญญัติ ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ . ศ . 2544 ภูมิพลอดุลยเดช ป . ร . ให้ไว้ ณ วันที่ 2 ธันวาคม พ . ศ . 2544 และมีผล บังคับใช้ตั้งแต่ เมษายน พ . ศ . 2545 โดย คณะกรรมการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์จะเป็นผู้ดูแลการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ โดย มีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับการค้าของกฎหมายดังนี้
- 43. เนื้อหาสำคัญ ของ พ . ร . บ . ว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ 1. มาตรา 7 ระบุไว้ว่า “ ห้ามมิให้ปฏิเสธความมีผลผูกพัน และการบังคับใช้ทาง กฏหมายของข้อความใด เพียงเพราะเหตุที่ข้อความนั้นอยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ” 2. มาตรา 9 ระบุไว้ว่า “ ในกรณีที่ บุคคลพึงลงลายมือชื่อในหนังสือ ให้ถือว่า ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นมีการลงลายมือชื่อแล้ว ถ้า (1) ใช้วิธีการที่สามารถระบุตัวเจ้าของลายมือชื่อ และสามารถแสดงได้ว่าเจ้าของลายมือชื่อรับรอง ข้อความในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นว่าเป็นของตน ”
- 44. เนื้อหาสำคัญ ของ พ . ร . บ . ว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ 3. มาตรา 10 ระบุไว้ว่า “ ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้นำเสนอหรือเก็บรักษาข้อความใดในสภาพที่เป็นมาแต่เดิมอย่างเอกสารต้นฉบับ ถ้าได้นำเสนอหรือ เก็บรักษาในรูปข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าได้มีการนำเสนอหรือเก็บรักษาเป็นเอกสาร ต้นฉบับตามกฎหมายแล้ว (1) ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ได้ใช้วิธีการที่เชื่อถือได้ในการรักษาความถูกต้อง ของข้อความตั้งแต่การสร้างข้อความเสร็จสมบูรณ์ และ (2) สามารถแสดงข้อความนั้นในภายหลังได้ ความถูกต้องของ ข้อความตาม (1) ให้พิจารณาถึงความครบถ้วนและไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดของข้อความ เว้นแต่การรับรอง หรือบันทึกเพิ่มเติม … ”
- 45. 4. มาตรา 23 ระบุไว้ว่า “ การรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้ถือว่ามีผลนับแต่เวลาที่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้เข้าสู่ระบบข้อมูลของผู้รับข้อมูล หากผู้รับข้อมูลได้กำหนดระบบข้อมูลที่ประสงค์จะใช้ในการรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ไว้โดยเฉพาะ ให้ถือว่าการรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มีผลนับแต่เวลาที่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้เข้าสู่ระบบข้อมูลที่ผู้รับข้อมูลได้กำหนดไว้นั้น แต่ถ้าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวได้ส่งไปยังระบบข้อมูลอื่นของผู้รับข้อมูล ซึ่งมิใช่ระบบข้อมูลที่ผู้รับข้อมูลกำหนดไว้ ให้ถือว่าการรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มีผลนับแต่เวลาที่ได้เรียกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์จากระบบข้อมูลนั้น ” เนื้อหาสำคัญ ของ พ . ร . บ . ว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์
- 46. 5. มาตรา 25 ระบุถึงบทบาทของภาครัฐในการให้บริการประชาชนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้อำนาจหน่วยงานรัฐบาลสามารถสร้างระบบรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) ในการให้บริการประชาชนได้ โดยต้องออกประกาศ หรือกฎกระทรวงเพิ่มเติม เนื้อหาสำคัญ ของ พ . ร . บ . ว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์
- 47. 6. มาตรา 27 ได้กำหนดหน้าที่ของเจ้าของใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ดังนี้ “ (1) ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อมิให้มีการใช้ข้อมูลสำหรับใช้สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาต (2) แจ้งให้บุคคลที่คาดหมายได้โดยมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะกระทำการใดโดยขึ้นอยู่กับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือให้บริการเกี่ยวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทราบโดยมิชักช้า เมื่อ ( ก ) เจ้าของลายมือชื่อรู้หรือควรได้รู้ว่าข้อมูลสำหรับใช้สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้น สูญหาย ถูกทำลาย ถูกแก้ไข ถูกเปิดเผย โดยมิชอบ หรือถูกล่วงรู้โดยไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ( ข ) เจ้าของลายมือชื่อรู้จากสภาพการณ์ที่ปรากฏว่ากรณีมีความเสี่ยงมากพอที่ข้อมูลสำหรับใช้สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ สูญ หาย ถูกทำลาย ถูกแก้ไข ถูกเปิดเผยโดยมิชอบ หรือถูกล่วงรู้โดยไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ... ” เนื้อหาสำคัญ ของ พ . ร . บ . ว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์
- 53. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ . ศ .2550 มาตรา ฐานความผิด โทษจำคุก สูงสุด โทษปรับสูงสุด ( บาท ) 5 เข้าถึงคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ 6 เดือน 1 0 ,000 บาท 6 การเปิดเผยมาตรการป้องกันการเข้าถึง 1 เดือน 10,000 บาท 7 เข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ 2 ปี 4 0,000 บาท 8 การดักข้อมูลคอมพิวเตอร์ 3 ปี 60,000 บาท 9 การรบกวนข้อมูลคอมพิวเตอร์ 5 ปี 100,000 บาท 10 การรบกวนระบบคอมพิวเตอร์ 5 ปี 100,000 บาท
- 54. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ . ศ .2550 มาตรา ฐานความผิด โทษจำคุก สูงสุด โทษปรับสูงสุด ( บาท ) 11 การส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์รบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของคนอื่นโดยปกติสุข ( Spam Mail) 100,000 ไม่เกิน 100,000 บาท 12 การจำหน่าย / เผยแพร่ชุดคำสั่ง 1 ปี 2 หมื่นบาท 1 3,17 การกระทำต่อความมั่นคง - ก่อความเสียหายแก่ข้อมูลฯ 1 ปี – 10 ปี 2 หมื่นบาท – 2 แสนบาท - กระทบต่อความมั่นคง 3 ปี – 15 ปี 6 หมื่นบาท - 3 แสนบาท - อันตรายแก่ร่างกายหรือชีวิต ประหารชีวิต / จำคุกตลอดชีวิต / 10 ปี -20 ปี
- 58. ลิขสิทธิ์ หมายถึง สิทธิของผู้สร้างสรรค์แต่เพียงผู้เดียวที่จะกระทำได้ ( เช่นการทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่ ให้เช่า หรืออนุญาตให้ใช้สิทธิ์ ) เกี่ยวกับงานลิขสิทธิ์ที่ได้สร้างสรรค์ขึ้น ลิขสิทธิ์ เป็นผลงานที่เกิดจากการใช้สติปัญญา ความรู้ความสามารถ และความวิริยะอุตสาหะในการสร้างสรรค์งานให้เกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็น " ทรัพย์สินทางปัญญา " ลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร
- 65. ลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร สิทธิบัตร มีด้วยกัน 2 ความหมาย คือ 1. สิทธิบัตร หมายถึง หนังสือสำคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์คิดค้น หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด 2. สิทธิบัตร หมายถึง สิทธิพิเศษที่กฎหมายบัญญัติให้เจ้าของสิทธิบัตรมีสิทธิเด็ดขาดหรือสิทธิแต่เพียงผู้เดียว ในการแสวงหาผลประโยชน์จากการประดิษฐ์ หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสิทธิบัตรนั้น เช่น การผลิตและจำหน่าย เป็นต้น และสิทธิที่ว่านี้จะมีอยู่เพียงช่วงระยะเวลาที่จำกัดช่วงหนึ่งเท่านั้น
- 66. ลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร สิทธิบัตร แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. สิทธิบัตรการประดิษฐ์ หมายถึง ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับลักษณะองค์ประกอบโครงสร้าง หรือกลไกของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งกรรมวิธีในการผลิต การรักษา หรือการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น หรือทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ขึ้นใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม 2. สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ หมายถึง ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับรูปร่าง ลักษณะภายนอกของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างไปจากเดิม
- 68. ความแตกต่างระหว่างลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ เป็นสิทธิที่เกิดขึ้นทันทีที่มีการสร้างสรรค์ผลงาน และมิต้องจดทะเบียน ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด ลิขสิทธิ์ เป็นทรัพย์สินประเภทที่สามารถซื้อขาย หรือโอนสิทธิกันได้ทั้งทางมรดก หรือ โดยวิธีอื่น ๆ การโอนลิขสิทธิ์ควรที่จะทำเป็นลายลักษณ์อักษร หรือทำเป็นสัญญาให้ชัดเจน จะโอนสิทธิทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนก็ได้ สิทธิบัตร จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สิทธิบัตรการประดิษฐ์ และสิทธิบัตรการออกแบบ ทั้งสองประเภทจะต้องเป็นผลงานที่คิดขึ้นมาใหม่ ยังไม่เคยมีและเผยแพร่ที่ไหนมาก่อนทั้งในประเทศ และต่างประเทศจะต้องมีการจดทะเบียน และเสียค่าธรรมเนียม จนถึงกำหนดอายุในการคุ้มครอง