Successfully reported this slideshow.
Your SlideShare is downloading. ×

Luangpor intawai 18

Ad
Ad
Ad
Ad
Ad
Ad
Ad
Ad
Ad
Ad
Ad

Check these out next

1 of 11 Ad

Luangpor intawai 18

Download to read offline

คำสอนของหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย อุดรธานี

คำสอนของหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย อุดรธานี

Advertisement
Advertisement

More Related Content

Slideshows for you (19)

More from MI (20)

Advertisement

Luangpor intawai 18

  1. 1. พุทธศาสนาไม่ใช่ศาสนาของเราคนเดียว เเต่พุทธศาสนาเป็นศาสนาของทุกคน ผู้ที่นับถือพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ผู้ใดอยู่ในกลุ่มพุทธบริษัท ๔ เขาก็ต้องมองดูกันว่าการกระทาเหล่านี้มันถูกต้องหรือไม่ ถ้าเกิดพูดหรือแสดงกิริยานักเลงอะไรออกไป ทีนี้ถึงตัวเองจะว่าตัวเองถูก แต่มันเสียหายเป็นวงกว้างออกไปแล้ว เพราะถ้าญาติโยมเขามาเห็นเเล้วเกิดเสื่อมศรัทธา ทีนี้จะมาบอกว่านั่นมันเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา แบบนั้นมันไม่ได้ เพราะมันเกี่ยวเนื่องกัน เพราะพุทธศาสนาไม่ใช่ศาสนาของเราเพียงคนเดียว หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
  2. 2. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก ในครั้งพุทธกาล พระพุทธองค์ไม่ให้พระรับเงินรับทองจริง เพราะเงิน และทองเป็นอันตรายกับพระ ถ้าพระมีเงินแล้วไปอยู่ใน ป่าดงพงไพร ไปเที่ยวธุดงค์ ขโมย โจร นักเลงเห็นว่าพระมีเงินมี ทอง ก็จะมาทาร้ายพระได้ ขนาดผ้าจีวร ทาไมต้องตัดเป็นขันธ์ๆ ให้ยุ่งยาก ผ้าจีวรในครั้งพุทธกาล สมัยก่อนมีผ้ามาก็เย็บให้ได้ ขนาด พระก็ได้ใช้ ต่อมาโจรผู้ร้ายเห็นว่าผ้าของพระคงใช้ได้ดี ก็ไปขโมยผ้าพระ พระพุทธเจ้าจึงให้พระอานนท์ออกแบบผ้าให้ลด คุณค่าลง วันหนึ่งพระอานนท์ขึ้นไปบนหลังเนินเขามองลงมาที่ ท้องนา เห็นท้องนาเป็นผืนนาท้องนามีคลองส่งน้าตรงกลาง ท่านจึงคิดว่าผ้าจีวรของพระน่าจะตัดแบบนี้ ท่านจึงออกแบบผ้า จีวรเป็นเหมือนมีถนนล้อมรอบเรียกว่า "อนุวาต“ ที่เป็นช่อง ๆ เหมือนคันนาเรียกว่า "กุสิ" ผืนนาเรียก "ขันธ์ " ผ้า ๕ ขันธ์บ้าง ๗ ขันธ์บ้าง ๙ ขันธ์บ้าง ๑๑ ขันธ์บ้าง สุดแท้แต่ผู้ตัด แต่ต้องมี กุสิ คือคลองส่งน้า เป็นการหนีขโมยไม่ให้ขโมยผ้าของพระนี่คือ ความเป็นมาของผ้าจีวร
  3. 3. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก เลี้ยงบุตร สุดแสน จะลาบาก แต่ไม่แทนมือพ่อได้ เหมือนใจหมาย คุณไม้เท้า พ่อนี้ มีมากมาย ได้ค้ากาย ย่างย่อง จ้องจดจุน จะเดินทางไปข้างไหนไกลสถาน เมื่อพบพานสัตว์ร้ายจะวายวุ่น เอาไม้เท้าปัดวัดเหวี่ยงไปตามบุญ คงมีคุณกว่าลูกที่ปละละเลย แสดงว่าลูกทั้ง ๙ คน สู้คุณไม้เท้าอันเดียวไม่ได้ พ่อไปหาขอทานที่ไหน หมาจะมากัดวัวควายอะไรจะมา ไม้เท้าชี้ไปเหวี่ยงไปแกว่งไป ยกไม้เท้าขึ้นมา พวกสัตว์เหล่านั้นก็วิ่งหนี แต่ลูกทั้ง ๙ คนที่เลี้ยงมาด้วยความยากลาบาก กว่าที่จะใหญ่ขึ้นมา ไม่มีใครแยแส ไม่มีใครดูแลเลย คาว่าบุญคุณของพ่อระลึกไม่ได้เลย สู้ไม้เท่าพ่อไม่ได้
  4. 4. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก อย่าตั้งอยู่ในความประมาท ให้สร้างบุญกุศลเข้าสู่จิตใจเอาไว้ ถ้าเมื่อเรามีบุญกุศลในจิตใจแล้ว บุญกุศลนั้นจะเป็นผู้พานาเราไปสู่ความสุข แต่ถ้าเรามีบาป ถ้าเราทาแต่บาป บาปมันไม่เอื้ออานวยนะ มีแต่พาชักตกนรกหลุมลึกๆ ถ้าทาบาปหนักนะ ถ้าทาบาปเบาขึ้นมาก็ มาเป็นเปรต มาเป็นสัตว์เดรัจฉาน มาเป็นคนบ้าใบ้ หูหนวก ตาบอดเป็นได้ทั้งนั้นอันนี้คือบาปอกุศล เป็นเพื่อนสอง นาจิตใจของเรา ไปเกิดในภพภูมิต่างๆ
  5. 5. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก เพราะฉะนั้นให้พวกเราท่านทั้งหลาย ให้ประกอบคุณงามความดี สร้างบุญกุศล ให้เป็นเพื่อนสองของเรา อย่าตั้งอยู่ในความประมาท หากินเป็นวันๆอยู่เป็นวันๆ แล้วก็หาเงินคาทรัพย์สมบัติ ใครได้เงินมาก ก็แปลว่าผู้นั้นฉลาด ยกยอปอปั้นกัน เชิดชูบูชากัน เป็นหน้าเป็นตาในชุมชนสังคม แต่ถ้าหากว่าคนนั้น หาแต่เงินอย่างเดียว ไม่ได้หาคุณงามความดี ไม่ได้เสาะแสวงหาบุญเข้าสู่จิตใจแล้ว หลักของพุทธศาสนาไม่ได้ยกย่องนะ ถึงจะรวยก็รวยไปเถอะ รวยก็เงินทั้งหลายทั้งปวง ส่งร่างกายของเราเข้าไปโรงพยาบาลเท่านั้นเอง ให้หมอดูแลรักษา ห้องดีที่สุด ยาดีที่สุด หมอดีที่สุด
  6. 6. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก เงิน..ส่งถึงโรงพยาบาล ไม่เกินนั้น “ ตาย ” จากนั้นญาติพี่น้อง ลูกของข้าดี หลานของข้าดี สามีภรรยาของข้า..ดีที่สุด ญาติพี่น้องที่ว่าดีที่สุดนั้นก็ส่งถึงเมรุ พอวางดอกไม้จันทน์แล้ว ก็เดินหันหลังออกมา ไม่มีใครจะไปเป็นเพื่อนอีกละทีนี้ นี่แหล่ะ...คราวนั้นแหละ อัตตา หิ อัตตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งของตน โก หิ นา โถ ปโร สิยา คนอื่นใครเลยจะเป็นที่พึ่งเราได้นอกจากตัวของเรา นอกจากใจของ เรา ใจของเราเท่านั้นละ ที่ได้สั่งสมบุญกุศลเอาไว้ บุญกุศลแลจะเป็นเพื่อนสอง ของเรา เดินเคียงข้างเราไปหละ ถ้าหากว่าเราไม่ได้สร้างบุญสร้างกุศล มีแต่บาป อกุศล บาปอกุศลนั้นแหละ จะเดินเคียงข้างเรา
  7. 7. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก เพราะฉะนั้นให้พวกเรา มองดูสิว่า ในชีวิตของเราตั้งแต่บัดนั้นมา ถึงบัดนี้เป็นที่อุ่นใจรึยัง เป็นที่พอใจรึยัง ในการสั่งสมบุญกุศล เข้าสู่จิตใจของพวกเรา ถ้าหากว่าพวกเรายังห่างเหินอยู่ก็ควร พยายามประกอบคุณงามความดีเข้าสู่จิตใจเราไว้ให้มาก เตรียม ไว้ให้ดีนะ คณะศรัทธาญาติโยมลูกหลานนะ
  8. 8. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก ถ้าเรามีสติ สติของเราดี ปัญญาของเราดี สติกับปัญญาดูที่ใจของ เรา เราจะเห็นได้ชัดว่า ใจของเรานี้เป็นตัวอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มันไม่ใช่ตัวอื่น มันอยู่ที่นี่หมด สุภะหรืออสุภะ มันก็รวมอยู่ที่นี่ ทั้งหมด โลภ โกรธ หลง มันอยู่ที่นี่ทั้งหมด ใจดวงนี้แหละเป็นเจ้า เรื่องทั้งหลาย เป็นเจ้ากี้เจ้าการ เจ้าวัฏฏสงสาร พระพุทธเจ้าท่านให้ ปฏิเสธใจของเราอีกตะหาก ปฏิเสธกระทั่งผู้รู้ในใจของเราเอง นี่ แหละใจของเราไม่ใช่ของเราอีก เพราะเหตุใด เพราะมันอยู่ในกฎไตร ลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ให้ปฏิเสธ กระทั่งตัวใจอีกตะหาก
  9. 9. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก การถ่ายภาพ อย่าไปถ่ายสิ่งที่ไม่เหมาะ ขณะที่พระฉันอาหารไปหา ถ่ายรูป หลวงตามหาบัวท่านดุมาก ขณะที่พระฉันอาหารแล้วไป ถ่ายรูป ถ่ายทาไม เป็นช่วงที่ท่านปล่อยวางอิริยาบถ อย่าไปหา ถ่ายรูปในขณะที่พระกาลังฉันอาหาร บางทีท่านอ้าปากเอาอะไรเข้า ปาก เพราะท่านฉันตามปกติ ภาพออกไปก็เสียหาย อากัปกิริยา อย่างนี้ ไม่ควรจะถ่าย ... เพราะฉะนั้น การถ่ายรูปก็ต้องระวัง ถ้า ถ่ายแล้วกิริยาเขาไม่ดี นักถ่ายรูปทั้งหลาย จะถ่ายรูปก็อย่าให้มี ปัญหา อย่าสร้างปัญหา อย่าทาให้ผู้อื่นเดือดร้อนกับรูปของเรา ตัวเองเป็นคนไปทาแล้วคนอื่นเดือดร้อน มันไม่ดีทั้งนั้นล่ะ
  10. 10. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก ธรรมแล ย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม เรื่องราวของ'คุณยายห่อ'น่าอัศจรรย์ คุณยายห่อไปเก็บเห็ด เพื่อจะเอาไปทาอาหารถวายพระ แต่อยากได้เยอะๆ ยายจึงเดินเก็บไปเรื่อยๆ จนค่า ฝนตกหลงทางกลับบ้านไม่ได้ ส่วนลูกหลานก็พากันตามหา มีชาวบ้าน หลายหมู่บ้าน เจ้าหน้าตารวจพื้นที่ช่วยค้นหาแต่ไม่พบ ลูกหลานทุกคนหมดหนทาง จึงได้ไปกราบขอความช่วยเหลือจาก' หลวงตาอินทร์ ‘ วัดป่านาคาน้อย หลวงตาท่านไหว้พระประธาน กราบรูปหลวงปู่มั่น หลวงตาบัว แม่ชีแก้ว แล้วนั่งภาวนาสักครู่ จึงบอกลูกหลานว่า..ยายยังไม่ตาย ให้ไปหาที่บริเวณถ้าปลาห้วยเสือ ทุกคนต่างรีบตามหา ไปตามที่หลวงตาบอก เเล้วปรากฏว่าพบเจอคุณยายห่อจริงๆ 1/2
  11. 11. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก ระหว่างทาง ทุกคนถามคุณยายว่าอยู่อย่างไรไม่ได้ทานอะไรเลย ตั้ง3วัน คุณยาย จึงเล่าว่า.. ไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง แล้วยกมือไหว้พระ ตั้งจิต อธิษฐานถึงพระ รัตนตรัย บิดามารดา เทพเทวดาทั้งหลายให้ช่วยคุ้มครองช่วยให้กลับบ้านได้ แล้วนั่งภาวนาตลอดคืนจนสว่าง วันแรกมีคนมานั่งเป็นเพื่อนอยู่ 3 คนแต่งชุด ธรรมดาไม่รู้จักใครสักคน คุณยายคิดว่าคงเป็นเทพเทวดามารักษา ......วันที่ 2 ตอนกลางคืน มีคนมานั่งเป็นเพื่อน 10 คนไม่รู้จักใครสักคน เจอปู่ ย่าพ่อแม่ ที่ เสียชีวิตแล้วเดินมาคุยด้วยแล้วเดินจากไป แล้วคุณยายก็นั่งภาวนาต่อตลอดทั้ง คืนอีก คนทั้ง 10 ยังคงนั่งเป็นเพื่อนอยู่จนสว่าง คุณยายเล่าต่ออีกว่า ใบไม้ที่ อยู่ในป่าสว่างมีแสง เห็นเเล้วแปลกใจ จึงหยิบขึ้นมาดูมันเป็นปกติ แต่พอวางลง กลับมีแสงขึ้นมาอีก เมื่อมาถึงบ้าน หลวงตาอินทร์เมตตาไปสวดเจริญพุทธมนต์ และฉันอาหารที่บ้านคุณยายห่อ.. นี่คือตัวอย่างของผู้ปฏิบัติธรรมบาเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เทวดาทั้งหลายย่อมคุ้มครองเสมอ 2/2

×