More Related Content
Similar to เมียนมาร์ (20)
More from Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
More from Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand (20)
เมียนมาร์
- 2. สมาชิกกลุ่ม
1. นาย ภัทรวิน เขื่อนล้อม เลขที่ 2
2. นาย วิชา อุ่ยอุทัย เลขที่ 5
3. น.ส. พิชญา ชาญพานิชกิจโชติ เลขที่ 20
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 6/1
โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เชียงราย
- 3. ความเป็ นมาและภูมหลังของความขัดแย้งทางชาติพนธุ์ในพม่า
ิ ั
ความขัดแย้ งภายในพม่า หมายถึง ความรุนแรงทีเ่ กิดขึนในประเทศพม่าปัจจุบน ซึงมี
้ ั ่
มาตังแต่ได้รบเอกราชจากอังกฤษใน พ.ศ. 2491 รัฐบาลกลางหลายชุดต่อกันมาได้สู้
้ ั
รบกับกบฏเชื้อชาติและการเมืองไม่จบสิ้น ความขัดแย้งระหว่างทหารรัฐบาลพม่าและกอง
กาลังชนกลุมน้อยกลุมต่างๆ เป็ นสงครามทียดเยือกินเวลาช้านาน
่ ่ ่ึ ้
ธงชาติรฐบาลทหารพม่า
ั
- 4. ปัญหาความขัดแย้งทางชาติพนธุ์ในประเทศพม่า ระหว่างรัฐบาลเผด็จการทหารกับชนกลุม
ั ่
น้อยมากมายหลายกลุม ไม่ว่าจะเป็ นชาวมอญ ไทยใหญ่ กะเหรียง กะฉิน และชนกลุมอืนๆ
่ ่ ่ ่ ่
เป็ นปัญหาทีสะสมมาเนินนานหลายสิบปี จนกลายเป็ นปัญหาทีซบซ้อนยุ่งเหยิง และไม่มทท่าว่า
่ ่ ่ั ีี
จะสามารถยุตความขัดแย้งลงได้ภายใต้ระบบเผด็จการทหาร ทีครองอานาจมาเกือบห้าสิบ
ิ ่
ปี ระบบเผด็จการในพม่าไม่เพียงส่งผลให้ความขัดแย้งยืดเยือยาวนานเท่านัน หากแต่ยงทา
้ ้ ั
ให้พลเมืองส่วนใหญ่ของพม่ามีระดับการศึกษาทีตกต่าลง อยู่ในสภาพยากจน แร้นแค้น
่
และถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพทางสังคมการเมืองมาโดยตลอด
- 5. หนึงในการก่อการกาเริบช่วงแรก ๆ เป็ นพวกนิยมซ้าย "หลายสี" ซึงส่วนใหญ่เป็ นชาว
่ ่
พม่า และโดยสหภาพแห่งชาติกะเหรียง (KNU) กบฏเชื้อชาติอนปะทุขนเฉพาะช่วง
่ ื่ ้ ึ
ต้นคริสต์ทศวรรษ 1960 หลังรัฐบาลกลางปฏิเสธรัฐบาลแบบสหพันธ์ อย่างไรก็ด ี
นับ แต่ ต้ น คริส ต์ ท ศวรรษ 1980 เป็ น ต้ น มา การก่ อ การก าเริบ ด้ ว ยอาวุ ธ ทีม ี
่
วัตถุประสงค์ทางการเมืองค่อย ๆ หมดไปเป็ นส่วนใหญ่ แต่การก่อการกาเริบด้านเชื้อ
ชาติยงคงอยู่
ั
ธงชาติทางการของสหภาพแห่งชาติกะเหรียง
่
- 6. สาเหตุความขัดแย้งในประเด็นต่างๆ
1. นายพล ออง ซาน ถูกสังหารพร้อมกับรัฐมนตรีอก 6 คน ขณะกาลังร่าง
ี
รัฐธรรมนูญในทีประชุ มรัฐบาลชัวคราว โดยฝี มือของ อู ซอ นักการเมืองคู่แข่ง ออง ซาน
่ ่
เกิดทีกรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์
่
ออง ซานเข้า เรีย นวิช าวรรณคดีอ ง กฤษ ประวัต ิศ าสตร์ และการเมือ งจาก
ั
มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง ระหว่างทีเ่ รียนอยู่นนได้รบเลือกให้เป็ นผู นาขบวนการเคลือนไหวทางการ
ั้ ั ้ ่
เมืองของนักศึกษา และเป็ นบรรณาธิการหนังสือ เขียนบทความวิพากษ์วจารณ์การเมือง จนใน
ิ
ทีสุดก็ถูกไล่ออกในเดือนกุมภาพนธ์ ปี 2479 หลังจากนันเขาก็เข้าร่วมกับกลุมเคลือนไหวทาง
่ ั ้ ่ ่
การเมืองระดับชาติ ขับไล่จกรวรรดินยมอังกฤษ และเรียกร้ องเอกราชให้ เมียนมาร์ โดยร่ วม
ั ิ
ก่อตัง "พรรคคอมมิวนิสต์พม่า”
้
- 7. พอเกิด สงครามโลกครั้ง ที่ 2 ญี่ปุ่ น ก็ไ ด้ ใ ห้ ก ารสนับ สนุ น ทัง การเงิน และอาวุ ธ ในการ
้
ก่อตัง "กองกาลังปลดปล่อยพม่า”
้ ในปี 2484 เมือญีปุ่นสามารถยึดพม่าได้จาก
่ ่
อังกฤษในวันที่ 1 สิงหาคม 2486 ก็ได้ประกาศให้พม่าเป็ นเอกราช และแต่ งตังนายพลออง ้
ซานให้เป็ นนายกรัฐมนตรี แต่ เมือพบว่าเอกราชทีญปุ่นสัญญาไว้ไม่เป็ นความจริง ในช่วงปลาย
่ ่ ี่
สงครามโลก จึงได้กลับไปเข้าร่ วมกับฝ่ ายสัมพันธมิตรเพือขับไล่ญปุ่นออกไปจากพม่าได้สาเร็จ ใน
่ ี่
วันที่ 27 มกราคม 2490 อองซานได้เซ็นต์สญญากับ คลีเมนต์ แอตท์ลี นายกรัฐมนตรี
ั
ของอังกฤษ โดยอังกฤษยินยอมจะมอบเอกราชให้พม่าภายใน 1 ปี
- 8. จากนันวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2490 ออง ซานก็ลงนามใน "สนธิ สัญญาปาง
้
โหลง” กับหัวหน้าชนกลุมชาติต่าง ๆ ในลุมน้าอิระวดี ในสนธิสญญาระบุว่า เมือพม่าได้รบ
่ ่ ั ่ ั
เอกราชครบ 10 ปี แต่ละชนชาติได้แก่ กะเหรียง คะเรนณี มอญ ไทยใหญ่ และคะฉิน จะ
่ ่
สถาปนาเอกราชของตนเอง สนธิสญญาฉบับนี้ ทาให้นกการเมืองและทหารบางกลุ่มไม่
ั ั
พอใจ เนืองจากทรัพยากรธรรมชาติจานวนมากอยู่ในดินแดนของชนชาติอน ดังนันหากมี
่ ื่ ้
การแยกตัวเป็ นอิสระแล้วพม่าจะมีปญหาในการพัฒนาเศรษฐกิจ
ั
ในทีสุดกองกาลังลึกลับจึงบุกเข้าสังหารนายพลออง ซาน เสียชีวตในวัยเพียง 32
่ ิ
ปี โดยทียงไม่ทนได้เห็นเอกราชของพม่า หลังจากนัน อู นุ (U Nu) ได้ขนเป็ น
่ั ั ้ ้ึ
นายกรัฐมนตรีแทน และอ้างว่าสัญญาปางโหลงเป็ นเพียงการทาสัญญาระห่วางชนกลุมน้อย ่
กับนายอองซานเท่านัน จึงฉีกสนธิสญญาทิ้ง ก่อให้เกิดการเคลือนไหวของกองกาลังของ
้ ั ่
ชนชาติอสระต่าง ๆ กลายเป็ นสงครามกลางเมืองทียงคงร้อนระอุ มาจนทุกวันนี้
ิ ่ั
- 9. ภายหลังจากออง ซานเสียชีวต ลูกสาวคือ ออง ซาน ซูจ ี ก็ได้เดินตามรอยเท้าพ่อ
ิ
ออกมาตัง พรรคสั น นิ บ าตแห่ ง ชาติ เ พื่ อ ประชาธิ ป ไตย (National
้
League for Democracy : NLD) และเป็ นผู นาการเรียกร้องเสรีภาพ้
และประชาธิปไตยด้วยสันติวธี แต่กถูกรัฐบาลเผด็จการทหารกักตัวไว้ตงแต่ ปี 2532
ิ ็ ั้
จนถึงทุกวันนี้ โดยไม่สนใจเสียงเรียกร้องของนานาชาติให้คนอิสรภาพแก่ออง ซาน ซู จี
ื
- 10. 2. "มูลเหตุ แห่งความร้ าวฉาน" ก่อนพม่าจะตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษอย่าง
สมบูรณ์ ในปี ค.ศ.1886 อังกฤษได้ผนวกพม่าและดินแดนของชนกลุ่มน้อยต่างๆ เข้า
เป็ นมณฑลหนึงของอินเดีย ซึงอังกฤษเป็ นเจ้าอาณานิคมในขณะนัน หลังจากนันอังกฤษได้
่ ่ ้ ้
ใช้ "นโยบายการแบ่งแยกและปกครอง" (divide and rule) กับชนชาติพม่า
และชนชาติอนๆ โดยแบ่งการปกครองพม่าเป็ น 2 ส่วน คือ
ื่
1. "เขตพม่าแท้" ซึงอังกฤษจะเข้ามาปกครองโดยตรง
่
2. "เขตภู เ ขา" หรือ เขตชายแดนจะใช้ ก ารปกครองโดยอ้ อ ม คือ ปล่ อ ยให้
ผู ปกครองเผ่า หรือแคว้นทีเ่ คยปกครองกันมาแต่เดิมปกครองต่อไป แต่มขอแม้ว่าต้อง
้ ี้
อยู่ภายใต้การดูแล และคาแนะนาของผู บริหารชาวอังกฤษ
้
- 11. กล่าวกันว่านโยบายแบ่งแยกและปกครองของอังกฤษ คือ มู ลเหตุ สาคัญทีสร้ าง ่
ความร้าวฉานระหว่างรัฐบาลพม่ากับชนกลุมน้อยมาจนถึงปัจจุบน เพราะไม่เพียงอังกฤษจะ
่ ั
ทาให้รฐพม่าทีเ่ คยมีอานาจเหนือรัฐชนกลุมน้อยอืนๆ กลายเป็ นเขตปกครองหนึง ทีมสถานะ
ั ่ ่ ่ ่ี
เทียบเท่ากับเขตชนกลุมน้อย และอังกฤษยังยกระดับกลุมชาติพนธุ์บางกลุมให้มสถานะเหนือ
่ ่ ั ่ ี
พม่า ซึงวิธการนี้ก่อให้เกิดความแตกร้าวและสร้ างศัตรูระหว่างชนกลุ่มน้อย และชนชาติ
่ ี
พม่า ทาให้ชาวพม่ารังเกียจ และถึงขันเกลียดชังชนกลุ่มน้อยทีเ่ ป็ นฝ่ ายเดียวกับอังกฤษ
้
มากยิงขึน และพยายามหาทาง "แก้แค้น" เมือมีโอกาส
่ ้ ่
- 13. กลุมประชากรหรือชาติพนธุ์ในพม่า
่ ั
ชาวพม่าซึงเป็ นประชากรส่วนใหญ่ (ประมาณร้อยละ 68) จะอาศัยอยู่ในบริเวณพม่าแท้หรือ
่
บริเวณราบริมแม่น้า นอกจากชาวพม่าแล้วยังประกอบด้วยชาวมอญและกะเหรียงทีอพยพ
่ ่
ลงมาจากภูเขาสูง ในขณะทีชนกลุมอืนจะอาศัยอยู่ในบริเวณทีราบสูงหรือเทือกเขาสูงบริเวณ
่ ่ ่ ่
ชายแดน ซึงประกอบด้วยกลุมชาติพนธุ์ต่างๆ อาทิ ไทยใหญ่ (Shan) กะเหรียง (Karen)
่ ่ ั ่
คะฉิน (Kachin) ฉิน (Chin) ว้า (Wa) ยะไข่ (Arakanist) และชาวเขาเผ่าต่างๆ เช่น
่ ่
มูเซอ อีก้อ ลีซอ ปะหล่อง จีนโกกัง เป็ นต้น ชนกลุ่มน้อยชนต่างๆ เหล่านี้รวมกัน
ประมาณร้อยละ 32 ของประชากรพม่า โดยมีกลุ่มไทยใหญ่ กลุ่มกะเหรียง กลุ่มมอญ และ
่
กลุมคะฉิน จะมีจานวนเป็ นรองลงมาจากชาติพนธุ์พม่าตามลาดับ
่ ่ ั
- 16. สมัยปัจจุบน ความขัดแย้งนันเป็ นไปเพือต่อต้านรัฐบาลทหารซึงปกครองประเทศตังแต่
ั ้ ่ ่ ้
พ.ศ. 2505 ถึง 2554 ความขัดแย้งนีเ้ ป็ นสงครามทีกาลังดาเนินอยู่เก่าแก่ทสุดในโลก
่ ี่
และได้รบความสนใจจากนานาชาติเป็ นอันมาก
ั
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555 รัฐบาลพม่าประกาศความตกลงหยุดยิงกับกบฏกะเหรียง ่
การหยุดยิงรวมถึงความตกลงซึงกาหนดการสือสารเปิ ดเผยระหว่างรัฐบาลกับกบฏ
่ ่
กะเหรียง เช่นเดียวกับเปิ ดช่องทางปลอดภัยแก่กบฏกะเหรียงในประเทศ รัฐบาลพม่าได้นร
่ ่ ิ
โทษกรรมนักโทษ KNU กว่า 6,000 คน และลดโทษนักโทษอีก 38,964 คน
- 17. เอกสารอ้างอิง
พรพิมล ตรีโชติ. ชนกลุ่มน้อยกับรัฐบาลพม่า. 2542. สานักงานกองทุน
สนับสนุนการวิจย: กรุงเทพฯ
ั
สืบค้นจาก http://guru.sanook.com/history/topic/1801/ ออนไลน์
[2-8-2011]
สืบค้นจาก http://www.ryt9.com/s/bmnd/1026282. ออนไลน์ [2-8-2011]
สืบค้นจาก http://prachatai.com/journal/2008/04/16490. ออนไลน์ [2-8-
2011]