1. ประเภทของระบบหมุนเวียนสาร
ระบบหมุนเวียนเลือด
Circulatory System
โดย
นางสาวพัชฎา บุตรยะถาวร
ครู ผู้สอน
โรงเรียนเตรีมอุดมศึกษาน้ อมเกล้า ปทุมธานี

2. จุดประสงค์ การเรียนรู้
1. นักเรียนสามารถอธิบายกลไกในการทํางานของระบบเลือดแบบเปิ ดได้
2. นักเรียนสามารถอธิบายกลไกในการทํางานของระบบเลือดแบบปิ ดได้
3. นักเรียนสามารถบอกส่ วนประกอบสําคัญของระบบหมุนเวียนเลือดมนุษย์ ได้
4. นักเรียนสามารถอธิบายกลไกการทํางานของระบบหมุนเวียนเลือดของมนุษย์ได้

3. เนือหา
1. ความหมายของระบบหมุนเวียนเลือด
2. ประเภทของระบบหมุนเวียนเลือด
1.1 ระบบเลือดแบบเปิ ด (Open Circulatory System)
1.2. ระบบเลือดแบบปิ ด (Close Circulatory System)
3. ระบบหมุนเวียนเลือดมนุษย์ (Human Circulatory System)

4. ความหมายของระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบการไหลเวียนเลือด คือ ระบบการส่ งของ
ร่ างกาย โดยนําออกซิเจน อาหาร นํา และ สิ งทีจําเป็ น
ไปส่ ง ให้ ทุ ก ๆ เซลล์ ในร่ า งกาย และนําเอาของเสี ย
(Waste products) ออกจากเซลล์ ไปยัง ส่ วนของ
ร่ างกาย ซึงมีหน้ าทีขับออก
กลับไปหน้ าหลัก

5. ประเภทของระบบเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือดมี 2 ประเภท คือ
1. ระบบเลือดแบบปิ ด (Close Circulatory System)
2. ระบบเลือดแบบปิ ด (Close Circulatory System)
กลับไปหน้ าหลัก

6. ระบบเลือดแบบเปิ ด (open circulation )
กลับไปหน้ าหลัก

7. ระบบเลือดแบบเปิ ด (open circulation )
กลับไปหน้ าหลัก

8. ระบบเลือดแบบปิ ด (Close circulation )
กลับไปหน้ าหลัก

9. เปรียบเทียบระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบระบบเลือดแบบเปิ ด
(Open Circulation )
ระบบระบบเลือดแบบปิ ด
(Close Circulation )
กลับไปหน้ าหลัก

10. Fish, Amphibians, Birds and Mammals
กลับไปหน้ าหลัก

11. ระบบหมุนเวียนเลือดมนุษย์ (Human Circulatory System)
ระบบหมุนเวียนเลือดของมนุษย์ประกอบด้วยส่ วนประกอบทีสําคัญ ดังนี
1. หัวใจ (Heart)
2. เส้นเลือด (Blood Vessel)
3. เลือด (Blood)
กลับไปหน้ าหลัก

12. หัวใจ (Heart)
หัวใจตังอยู่ภายในช่ องอก (Thoracic
cavity) ด้านหน้าระหว่างปอดทัง 2 ข้าง เหนื อกับ
บังลม (Diaphragm) โดยค่อนข้างซ้ายเล็กน้อย
หัวใจเป็ นอวัยวะทีประกอบด้วยกล้ามเนื อทังหมด
ภายในกลางทํา หน้ า ที เปรี ยบเสมื อ นปม 2 อัน
ทํา งานพร้ อ มกัน หั ว ใจจะวางตัว อยู่ใ นถุ ง ตัน ที
เรี ยกว่า เยือหุ้ มหัวใจ (Pericardial sac) เป็ น
Fibrous connective tissue หุ ้มหัวใจไว้ ภายใน
ถุงมีของเหลวหล่อลืนอยู่ เพือป้ องกันอันตรายจาก
การเสี ยดสี ก ับอวัยวะข้างเคี ยงขณะที หัวใจมี การ
บีบและคลายตัว
กลับไปหน้ าหลัก

13. The Heart
Pulmonary Artery
Superior venacava
Pulmonary Vale
Aorta
Pulmonary Vein
Aortic Vale
Right Atrium
Left Atrium
Tricuspid Valve
Bicuspid Valve
Right Ventricle
Left Ventricle
กลับไปหน้ าหลัก

14. The Heart
กลับไปหน้ าหลัก

15. Heart Sound
กลับไปหน้ าหลัก

16. Heart
กลับไปหน้ าหลัก

17. เส้ นเลือด (Blood Vessel)
การหมุนเวียนของเลือดภายในร่ างกาย
เป็ นระบบวงจรปิ ด (Closed circulatory system)
โดยมีหัวใจเป็ นอวัยวะสู บฉี ดเลือดให้ไหลเวียน
ไปตามเส้ น เลื อ ดและอยู่ ภ ายในเส้ น เลื อ ด
ตลอดเวลา เส้น เลื อดภายในร่ า งกายแบ่ งเป็ น 3
ชนิด คือ
1. เส้นเลือดแดง (Artery)
2. เส้นเลือดฝอย (Capillary)
3. เส้นเลือดดํา (Vein)
กลับไปหน้ าหลัก

18. เลือด (Blood)
เลือดมีคณสมบัติเป็ นเนือเยื อ (Tissue) ชนิดหนึงที ทําหน้ าที
ุ
ลําเลียงสารต่าง ๆ ภายในร่างกายโดยการไหลเวียนภายใน
ระบบเส้ นเลื อด (Vascular system) ด้ วยแรงบี บตัว ของ
หัวใจ ประกอบด้ วย
1. เซลล์เม็ดเลือดแดง (Red Blood Cell)
2. เซลล์เม็ดเลือดขาว (White Blood Cell)
3. นําเลือด (Plasma)
4. เกล็ดเลือด (Platelet)
กลับไปหน้ าหลัก

19. เส้ นเลือด (Blood Vessel)
กลับไปหน้ าหลัก

20. เซลล์เม็ดเลือดแดง (Red Blood Cell)
เซลล์เม็ดเลื อดแดง มี ลกษณะเป็ นเซลล์กลม
ั
แบน ตรงกลางเว้าเข้าหากันทัง 2 แต่ละเซลล์มีขนาดที
เท่ ากัน คื อ มี เ ส้นผ่ าศู นย์ก ลางประมาณ 7-8 ไมครอน
และหนาประมาณ 1-2 ไมครอน (1ไมครอน = 10-3
มิ ล ลิ เ มตร) ทํา หน้ า ที ลํ า เลี ย งออกซิ เจน จากการ
แลกเปลียนก๊าซ (Gas exchange) ที ปอดไปให้แก่เซลล์
ต่างๆทัวร่ างกายโดยปกติ ประมาณ 97 เปอร์ เ ซ็ นต์ข อง
ออกซิเจนทีได้รับจากปอด จะถูกลําเลียงในเลื อดโดยการ
จับ ตัว Hemoglobin ในเม็ ด เลื อ ดแดง ส่ ว นอี ก 3
เปอร์ เซ็นต์ทีเหลือจะถูกละลายในพลาสมา และทําหน้าที
ลํ า เ ลี ยงก๊ า ซคาร์ บอนไดออกไซด์ ใ นภาวะ ปก ติ
คาร์ บอนไดออกไซด์ที เกิดจากการหายใจของเนื อเยือเมือ
แพร่ เข้ามาในเลือดแล้วจะถูกลําเลียงให้แก่เซลล์
กลับไปหน้ าหลัก

21. เซลล์เม็ดเลือดแดง (Red Blood Cell)
กลับไปหน้ าหลัก

22. เซลล์เม็ดเลือดขาว (White Blood Cell)
เซลล์เม็ดเลือดขาวเป็ น Formed element ทีมี
จํานวนน้ อยกว่าเม็ดเลือดแดงมาก ลักษณะของ
เซลล์มีนิวเคลียสและไม่มี Hemoglobin เลย
ส่วนมากมีขนาดใหญ่ กว่าเม็ดเลือดแดง เมื อย้
อมดูด้วย Wright’s stain นิวเคลียสจะติดสีนํ
าเงินม่วง ส่วน Cytoplasm จะติดสีแตกต่างกัน
แล้ วแต่ชนิดของเม็ดเลือดขาว
กลับไปหน้ าหลัก

23. เซลล์เม็ดเลือดขาว (White Blood Cell)
กลับไปหน้ าหลัก

24. เกล็ดเลือด (Platelet)
คลิกเพือศึกษาเนือหาเพิมเติม
เกล็ดเลือดเป็ น Formed elements ทีมี
ขนาดเล็กทีสุดและมีรูปร่างได้ หลายแบบ แต่สวนใหญ่มกมี
่
ั
ลักษณะกลมหรื อยาวรี ไม่มีนิวเคลียส ย้ อมติดนําเงินม่วง
ขนาดเส้ นผ่านศูนย์ กลางประมาณ 2-4 ไมครอน อาจแยก
อยู่เดียวๆ หรื ออยู่รวมเป็ นกลุ่ม ในภาวะปกติ คนเราจะมี
ปริ ม าณเกล็ ด เลื อ ดที เกี ยวข้ อ งกั บ การแข็ ง ตัว ของเลื อ ด
250,000 เซลล์ต่อเลือด 1 ลูกบาศก์มิลลิลิตร ถ้ าปริ มาณ
เกล็ด เลือดตํากว่า นี เรี ยกว่า thrombocytopenia
ทําให้ เลือดเป็ นจําๆตามตัว
หน้ าทีของเกล็ดเลือด เกียวข้ องกับการแข็ งตัว
ของเลือด (Blood clotting) ซึงเป็ นกลไกอันหนึงที
ปองกันการเสียเลือดออกจากร่างกายขณะทีมีบาดแผล
้
กลับไปหน้ าหลัก

25. Bjarke Jensen and other.(2010). Anatomy of the python heart. http://rd.springer.com.
Bram Roosens and other. (2013). Animal models of organic heart valve disease.
www. Science.com.
Nima Milani and other. (2014). Small and large animal models in cardiac
contraction research: Advantages and disadvantages. www.science.com