SlideShare a Scribd company logo
1 of 18
Download to read offline
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้   42




สื่อการเรียนรู้
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้   43



สื่อการเรียนรู้                                                       บทที่ 4
โครงร่างเนื้อหาของบท                                               คาสาคัญ
   1. ความหมายของสื่อการสอนและสื่อการเรียนรู้                       สื่อการสอน
    2. ประเภทของสื่อการเรียนรู้                                     สื่อการเรียนรู้
    3. หลักการเลือกและใช้สื่อการเรียนรู้                            เครื่องมือทางปัญญา
                                                                    แหล่งเรียนรู้
วัตถุประสงค์การเรียนรู้                                             สิ่งแวดล้อมทางการ
    1. อธิบายความคิดรวบยอดของสื่อการสอนและสื่อการเรียนรู้            เรียนรู้
       ได้                                                          คุณลักษณะของผูเ้ รียน
    2. วิเคราะห์ประเภทและสามารถเลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ได้
    3. ออกแบบสื่อการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญได้             Assure Model

กิจกรรมการเรียนรู้
    1. ผู้สอนให้มโนทัศน์เชิงทฤษฎี หลักการ เรื่อง สื่อการเรียนรู้
    2. นักศึกษาแบ่งเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 3 คน ศึกษาจาก
       สิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้บนเครือข่าย
       http://ednet.kku.ac.th/~sumcha/web-230301/ โดย
       ศึกษาสถานการณ์ปัญหาบทที่ 4 วิเคราะห์ทาความเข้าใจ
       ค้นหาคาตอบจากเอกสารประกอบการสอนและแหล่ง
       เรียนรู้บนเครือข่ายและร่วมกันสรุปคาตอบ และนาเสนอใน
       รูปแบบ Power point
    3. นักศึกษาร่วมกันสะท้อนผลงานและสรุปองค์ความรู้ โดยแต่
       ละกลุมต้องสลับทาหน้าที่กันสะท้อนผลได้แก่ ถามคาถาม
             ่
       ควบคุม ชมเชย ข้อควรปรับปรุง และประเมิน ) ผูสอน  ้
       ขยายกรอบความคิดของผู้เรียนโดยการตั้งประเด็นถึงการ
       นาไปใช้ในสภาพบริบทจริง


สถานการณ์ปัญหา(Problem-based learning)
         สมมติว่าในขณะนี้คุณเป็นนักศึกษาฝึกสอนโดยทาการสอนที่โรงเรียนสาระวิทยา หลังจาก
ที่คุณสอนมาได้ระยะหนึ่งแล้ว คุณก็สังเกตเห็นว่านักเรียนมีลักษณะต่างๆ ดังนี้
         ด.ญ.ปนัดดา เป็นคนขยัน ชอบอ่านหนังสือมาก เธอบอกว่าชอบทาความเข้าใจเนื้อหา
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้   44



จากการอ่านหนังสือ หรือเอกสารมากกว่า ฟังครูอธิบาย
             ด.ช.เรียงชัย เป็นคนที่ชอบเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ ชอบค้นคว้า ชอบสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจและท้า
ทายความสามารถ เพราะยิ่งท้าทายและตื่นตามากเท่าไหร่ ยิ่งจดจ่อกับสิ่งนั้นมากและทาให้เกิดการ
เรียนรู้สิ่งเหล่านั้นได้ดี
             ด.ช. มรกต เป็นคนที่ขาดจินตนาการ ถ้าไม่ได้เรียนจากการมองเห็นภาพหรือของจริง
เวลาครูสอนในชั้นนึกภาพตามไม่ทัน ส่งผลทาให้เขาเรียนรู้ได้ช้าและไม่ทันเพื่อน
             ด.ญ. สะรีรัตน์ เป็นคนที่ไม่ชอบศึกษาจากหนังสือที่ เป็นข้อความหรือตัวอักษร เพราะใน
เวลาเรียนเขาจะตั้งใจฟังครูอธิบายเนื้อหา ทาความเข้าใจและพยายามจับประเด็นที่สาคัญให้ได้ ใน
ขณะที่เรียน เช่น กระบวนการในการแก้โจทย์ เขาจะต้องเข้าใจตอนนั้น โดยไม่ต้องกลับไปอ่าน
หนังสืออีก เป็นต้น
ภารกิจ
           1. นักศึกษาจะนาความรู้เรื่องสื่อการสอน ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้อย่างไรเพื่อสนับสนุน
วิธีการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของนักเรียนแต่ละคนให้มีประสิทธิภาพโดยสื่อที่นามาใช้นั้นต้อง
สนองตอบต่อการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยให้นักเรียนเป็นผู้สร้างความรู้เองด้วย
           2. ในปัจจุบันนีจะพบคาว่า "สื่อการสอน" กับคาว่า "สื่อการเรียนรู้" ในฐานะที่นักศึกษาจะ
                          ้
ก้าวออกไปเป็นครูยุคใหม่ที่มีคุณภาพ ให้อธิบายว่า สองคานี้ เหมือนหรือมีความแตกต่างกันอย่างไร
           3. ออกแบบสื่อการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ของท่าน




    ความหมายของสื่อการ
    สอนและสื่อการเรียนรู้                                        ประเภทของสื่อการเรียนรู้




                                    สื่อการเรียนรู้
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้    45




                                หลักการเลือกและใช้สื่อการเรียนรู้




               เมื่อกระบวนทัศน์ (Paradigm) เกี่ยวกับการสอนเปลี่ย นมาเป็นการเรีย นรู้ มาสู่การ
เน้น ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ดังนั้น เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา ตลอดจนสื่อ จาเป็นต้องปรับ
กระบวนทัศน์เพื่อให้สอดคล้องกับ ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จากเดิมที่เป็นสื่อการสอนมาเป็นสื่อ
การเรียนรู้ และนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ เพื่อที่จะนามาใช้ในการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการจัดการ
เรียนรู้ที่ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางที่ไม่ได้มุ่งเพียง เพื่อให้ผู้เรียนสามารถจดจาสิ่งที่เรียนรู้ได้เท่านั้น แต่ยัง
มุ่งพัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของสังคมไทย ได้แก่ ความสามารถคิดแบบองค์รวม เรียนรู้
ร่วมกันและทางานเป็นทีม ตลอดจนความสามารถในการแสวงหาความรู้ และสร้างความรู้ด้วย
ตนเอง เพื่อทาให้เป็นสังคมที่มีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต เพื่อที่สามารถแข่งขัน และร่วมมือ
อย่างสร้างสรรค์ในสังคมและโลกต่อไป
               ดังนั้นสื่อการเรียนรู้จึงรวมหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวผู้เรียนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการ
เรียนรู้ เช่น วัสดุ อุปกรณ์ วิธีการ ตลอดจน คน สัตว์ สิ่งของ ธรรมชาติ รวมถึงเหตุการณ์ หรือ
แนวความคิด อาจอยู่ในลักษณะที่ถ่ายทอด ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก เพิ่มพูนทักษะและ
ประสบการณ์ หรือเป็นเครื่องมือที่กระตุ้นให้เกิดศักยภาพทางความคิด (Cognitive tools)
ตลอดจนสิ่งที่กระตุ้นให้เป็นผู้แสวงหาความรู้และมีทักษะในการสร้างความรู้ด้วยตนเอง เพื่อมุ่ง
ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีโอกาสเรียนรู้ด้วยตนเอง
ความหมายของสื่อการสอนและสื่อการเรียนรู้

ความหมายของสื่อการสอน
          ได้มีนักวิชาการ และนักเทคโนโลยีการศึกษา ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ใ ห้
ความหมายของ “สื่อการสอน” ไว้หลายท่าน พอสรุปได้ ดังนี้
          บราวน์ และคนอื่น ๆ (Brown and other, 1985) ให้ความหมายของสื่อการสอนว่า เป็น
อุปกรณ์ทั้งหลาย รวมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ ไม่เฉพาะที่เป็นวัสดุหรือเครื่องมือเท่านั้น เพื่อใช้ในการ
นาเสนอข้อความรู้จากครูให้แก่ผู้เรียน จนเกิดผลการเรียนที่ดี
          เกอร์ลัช และอีลี (Gerlach and Ely, 1980) ได้ให้คาจากัดความของสื่อการสอนไว้ว่า สื่อ
การสอน คือ บุคคล วัสดุหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งทาให้นักเรียนได้รับความรู้ ทักษะ ทัศนคติ ครู
หนังสือ และสิ่งแวดล้อมของโรงเรียนจัดเป็นสื่อการสอนทั้งสิ้น
          ไฮนิคส์ โมเลนดาและรัสเซล (Heinich, Molenda and Russel, 1985) ให้ความหมาย
ของสื่อการสอนไว้ว่า คือ สื่อชนิดใดก็ตามไม่ว่าจะเป็นสไลด์โทรทัศน์ วิทยุเทปบันทึกเสียงภาพถ่าย
วัสดุฉายและวัตถุสิ่งตีพิมพ์ซึ่งเป็นพาหนะในการนาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลไปยังผู้รับ เมื่อนามาใช้กับ
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้   46


การเรียนการสอน หรือส่งเนื้อหาความรู้ไปยังผู้เรียนในกระบวนการเรียนการสอน เรียกว่า สื่อการ
สอน
            เปรื่อง กุมุท (2519) กล่าวว่า สื่อการสอน หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องมือ หรือ
ช่องทางสาหรับทาให้การสอนของครูถึงผู้เรียน และทาให้ผู้เรียนเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์หรือ
จุดมุ่งหมายที่วางไว้อย่างดี
            ไชยยศ เรืองสุวรรณ (2526) กล่าวว่า สื่อการสอน หมายถึง สิ่งที่ช่วยให้การเรียนรู้ ซึ่งครู
และนักเรียนเป็นผู้ใช้เพื่อให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
            ชัยยงค์ พรหมวงศ์ (2529) ให้ความหมายของสื่อการสอนว่า คือ วัสดุ อุปกรณ์ และ
วิธีการที่ใช้สื่อกลางให้ผู้สอนสามารถส่ง หรือถ่ายทอดความรู้ เจตคติ และทักษะไปยังผู้เรียน ได้
อย่างมีประสิทธิภาพ
            สื่อการสอน หมายถึง ตัวกลางที่ถ่ายทอดสารสนเทศไปสู่ผู้เรียน ในกรณีใดกรณีหนึ่ง การ
เลือกสื่ออาจจะใช้วีดิทัศน์ ในกรณีอื่นอาจจะเลือกใช้สื่ออื่นๆ เช่น คอมพิวเตอร์ ซึ่งสื่อแต่ละชนิดจะ
นาเสนอ หรือเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้เรียน ครู และการสอน ผู้ที่
ต้องการใช้สื่อการสอนอาจพิจารณาเกี่ยวกับ การรับสารสนเทศ ของผู้เรียนจากประเด็นต่างดังนี้
       สื่อที่สามารถจัดหาได้
       ผลของสื่อที่แตกต่างกันที่ส่งผลต่อการเรียนรู้
       ภายใต้เงื่อนไขใดที่จะมีผลต่อความมีศักยภาพที่เปลี่ยนแปลงไป
       สื่อแต่ละชนิดจะสามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพของสื่อสูงสุดได้อย่างไร
      เมื่อมีการสารวจคาตอบของประเด็นคาถามดังกล่าว การวิจัยในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ การรับรู้
(Perception) การรู้ คิ ด (Cognition) การสื่ อ สาร (Communication) ทฤษฏี ก ารสอน
(Instructional Theories) เข้ามาเกี่ยวข้อง สาหรับผู้เรีย น ครูเข้ามาเกี่ยวข้องกับ “วิธีการที่ จัด
โครงสร้างของสารสนเทศ และการรับรู้และประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละคน” ผลการวิจัย แสดง
ให้เห็นว่า สื่อประเภทต่าง ๆ และการเลือก และกระบวนการใช้มีผลโดยตรงต่อ การรับรู้ของผู้เรียน
และวิธีการที่ผู้เรียนจะเก็บรักษา และระลึกเกี่ยวกับสารสนเทศนั้นได้ (Kozma, 1991)
            สรุปได้ว่า สื่อการสอน หมายถึงวัสดุ เครื่องมือและเทคนิควิธีการที่ผู้สอนนามาใช้
ประกอบการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
            จากนิยามความหมายของสื่อการสอนที่กล่าวมาข้างต้น อาจจะยังไม่สอดคล้อง กับความ
เปลี่ยนแปลงของกระบวนทัศน์เกี่ยวกับการศึกษาที่เปลี่ยนไป เพราะความสาคัญ ของสื่อการสอน
ยังเป็นเพียงตัวกลางที่ถ่ายทอดเนื้อหาหรือความรู้เท่านั้น ดังนั้นนิยาม ความหมายของสื่อการสอน
ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีพุทธศักราช 2544 จะปรับเปลี่ยนเป็น “สื่อการเรียนรู้” ซึ่งได้
นิยามความหมายไว้ดังนี้ (สุมาลี ชัยเจริญ, 2547)
ความหมายของสื่อการเรียนรู้
          นั บ ตั้ ง แต่ ที่ ป ระเทศไทยได้ ป ฏิ รู ป แนวคิ ด
เกี่ยวกับการศึกษาของประเทศตั้งแต่มีการประกาศใช้
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 เป็น
ต้ น มา แนวคิ ด เกี่ ย วกั บ การศึ ก ษามามุ่ ง เน้ น ที่ ก าร
พัฒนาศักยภาพของผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยเฉพาะอย่าง
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้   47


ยิ่งการสร้างความรู้และพัฒนากระบวนการคิด ดังนั้นแนวคิดเกี่ยวกับ”การสอนหรือการถ่ายทอด”
จึงเปลี่ยนมาเป็น “การเรียนรู้” ที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้ขึ้นมาด้วยตนเองโดยอาศัยแหล่ง
การเรียนรู้ต่างๆ ด้วยเหตุนี้ “สื่อการเรียนรู้” เป็นเครื่องมือของการเรียนรู้ ที่ทาให้ผู้เรียนสามารถ
เรียนรู้ด้วยตนเองเป็นสิ่งสาคัญเนื่องจากในยุคปัจจุบันข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ การใช้เทคโนโลยีและ
การสื่อสารทาให้ผู้เรียนจาเป็นต้องพัฒนาตนเองให้สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆด้วยตนเอง ตลอดจน
พัฒนาศักยภาพการคิด ได้แก่ การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดอย่าง
อย่างมีเหตุผล นอกจากนี้ควรเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
            สื่อการเรียนรู้ หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวผู้เรียนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ เช่น
คน สัตว์ สิ่งของ ธรรมชาติ รวมถึงเหตุการณ์ หรือ แนวความคิด โดยมุ่งเน้นส่งเสริมการค้นคว้า
หรือ การแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
(กรมวิชาการ, 2545: คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ)
สื่อการเรียนรู้ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเรียนรู้
ของผู้เรียน อาจทาหน้าที่
       ถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ
            ความรูสึก เพิ่มพูนทักษะและ
                     ้
            ประสบการณ์
       สร้างสถานการณ์การเรียนรู้ให้แก่
            ผู้เรียน
       กระตุ้นให้เกิดศักยภาพทางความคิด
            ได้แก่ คิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ คิด
            อย่างมีวิจารณญาณ เป็นต้น
       กระตุ้นให้เป็นผู้แสวงหาความรู้และมีทักษะในการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (กรมวิชาการ
            2544)
        สื่อการเรียนรู้ เป็นเครื่องมือที่ใช้ถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจความรู้สึก เพิ่มพูนทักษะและ
ประสบการณ์ สร้างสถานการณ์การเรียนรู้กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพทางการคิด เสริมสร้าง
คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมแก่ผู้เรียน และมุ่งเน้นการส่งเสริมผู้เรียนทางด้านการแสวงหา
ความรู้ด้วยตนเอง (กรมวิชาการ, 2545)
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้    48


          ภาพที่ 4-1 แสดงการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของสื่อการสอนมาเป็นสือการเรียนรู้
                                                                   ่
         จากที่กล่าวมาข้างต้น อาจสรุปได้ว่า สื่อการเรียนรู้ หมายถึง เครื่องมือที่ออกแบบโดยบูรณา
การกับวิธีการจัดการเรียนรู้ ที่กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพทางปัญญา (Cognitive tools)
ตลอดจนกระตุ้นให้เป็นผู้แสวงหาความรู้และมีทักษะในการสร้างความรู้ด้วยตนเอง เพื่อมุ่งส่งเสริม
ให้ผู้เรียนมีโอกาสเรียนรู้ด้วยตนเอง ส่งเสริมการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก เพิ่มพูนทักษะ
และประสบการณ์โดยเครื่องมือเหล่านั้นอาจเป็นทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวผู้เรียนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิด
การเรียนรู้ เช่น วัสดุ อุปกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศ วิธีการ ตลอดจน คน สัตว์ สิ่งของ ธรรมชาติ
ภูมิปัญญา รวมถึงเหตุการณ์ หรือ แนวความคิด เป็นต้น
คุณลักษณะของสื่อการเรียนรู้
       1. ช่วยส่งเสริมการสร้างความรู้ของ
           ผู้เรียน
       2. ช่วยส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าด้วย
           ตนเอง
       3. มุ่งเน้นการพัฒนาการคิดของผู้เรียน
       4. เป็นสื่อที่หลากหลาย ได้แก่ วัสดุ
           อุปกรณ์ วิธีการ ตลอดจน สิ่งที่มีตาม
           ธรรมชาติ
       5. เป็นสื่อที่อยู่ตามแหล่งความรู้ในระบบ
           เทคโนโลยีสารสนเทศ
       6. ช่วยพัฒนาการร่วมทางานเป็นทีม
ความสาคัญของสื่อการเรียนรู้
    1.    ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจและสร้างความคิดรวบยอดในเรื่องที่เรียนได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
    2.    ช่วยให้ผู้เรียนมองเห็นสิ่งที่กาลังเรียนรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม
    3.    ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง
    4.    สร้างสภาพแวดล้อมและประสบการณ์การเรียนรู้ที่แปลกใหม่
    5.    ส่งเสริมการมีกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้เรียน
    6.    เกื้อหนุนผู้เรียนที่มีความสนใจและความสามารถในการเรียนรู้ที่แตกต่างกันให้สามารถ
          เรียนรู้ได้ทัดเทียมกัน
    7.    ช่วยเชื่อมโยงสิ่งที่ไกลตัวผู้เรียนให้เข้ามาสู่การเรียนรู้ของผู้เรียน
    8.    ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิธีการแสวงหาความรู้จากแหล่งข้อมูลต่างๆตลอดจนการศึกษา
          ค้นคว้าด้วยตนเอง
    9.    ช่วยให้ผู้เรียนได้รับการเรียนรู้ในหลายมิติจากสื่อที่หลาหลาย
    10.   ช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในเชิงเนื้อหา กระบวนการ และความรู้เชิงประจักษ์
    11.   ส่งเสริมให้เกิดทักษะ ได้แก่ ทักษะการคิด ทักษะการสื่อสาร
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้   49




     ตารางที่ 4.1 แสดงการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสื่อการสอนและสื่อการเรียนรู้
         ประเด็น                           สื่อการสอน                       สื่อการเรียนรู้
ลักษณะ                        วั ส ดุ อุ ป กรณ์ เ ทคโ นโล ยี วั ส ดุ อุ ป กรณ์ เ ทคโ นโล ยี
                              สารสนเทศ วิธีการ                  สารสนเทศ วิธีการ
บทบาทต่อการเรียนรู้           มุ่ ง เน้ น การถ่ า ยทอดเนื้ อ หา มุ่ ง เ น้ น ก า ร ใ ห้ ผู้ เ รี ย น มี
                              ความรู้จากผู้สอนไปยังผู้เรียน ป ฏิ สั ม พั น ธ์ เ พื่ อ ส ร้ า ง
                                                                กระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง
การออกแบบ                     บรรจุ เ นื้ อ หา ความรู้ และ ส่ ง เสริ ม การคิ ด การแสร้ า ง
                              ทักษะ รวมทั้งประสบการณ์           ความรู้และการแก้ปัญหา

ประเภทของสื่อการเรียนรู้

กรมวิชาการ (2545) ได้จาแนกประเภทของสื่อการเรียนรู้ ไว้ดังนี้
สื่อสิ่งพิมพ์
            สื่อสิ่งพิมพ์ เป็น สิ่งที่พิมพ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแผ่นกระดาษหรือวัตถุใด ๆ ด้วยวิธีการต่าง ๆ
อันเกิดเป็นชิ้นงานที่มีลักษณะเหมือน ต้นฉบับขึ้นหลายสาเนาในปริมาณมากเพื่อเป็นสิ่งที่ทาการ
ติดต่อ หรือชักนาให้บุคคลอื่นได้เห็นหรือทราบ ข้อความต่าง ๆ ซึ่งมีหลายลักษณะเช่น เอกสาร
หนังสือ ตารา หนังสือพิมพ์ นิ ตยสาร วารสาร จุลสาร ฯลฯ กระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยสื่อ
สิ่งพิมพ์ คือการอ่านและพยายามสร้า งความเข้า ใจจากสารสนเทศที่นาเสนอ ประโยชน์ ของสื่ อ
สิ่งพิมพ์มีดังนี้
            - ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เพราะว่าสื่อสิ่งพิมพ์มีการวางหัวข้อ เรื่องราวและรูปแบบที่จัดวาง
ไว้เป็นระเบียบ
            - มีความยืดหยุ่นในการใช้ สื่อสิ่งพิมพ์สามารถใช้ได้กับทุกสภาพแวดล้อมที่มีแสง สามารถ
พกพาติดตัวผู้ใช้ได้สะดวก
            - ประหยัด สื่อสิ่งพิมพ์สามารถนากลับมาใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ได้ตลอด แม้ว่าจะมี
ผู้เรียนใช้มาหลายคนแล้วก็ตาม
สื่อเทคโนโลยี
         สื่อเทคโนโลยี เป็น สื่อที่นาศักยภาพของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้ามาใช้ใน
การนาเสนอเนื้อหาบทเรียน เช่น แถบบันทึกภาพ วีดิทัศน์ เทปเสียง สไลด์ คอมพิวเตอร์ มัลติมีเดีย
สื่อบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ต การศึกษาผ่านดาวเทียม กระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยสื่อ สื่อ
เทคโนโลยีผู้เรียนสามารถมีปฏิสัมพันธ์ และสร้างการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง สื่อจาพวกมัลติมีเดียยัง
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้    50


สามารถนาเสนอภาพเคลื่อนไหว ภาพจริง ที่แสดงความเปลี่ยนแปลง ตลอดจนเสียงประกอบที่ช่วย
ให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นเทคโนโลยีสารสนเทศยังสนองต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ทุก
ที ทุกเวลา ประโยชน์ของสื่อเทคโนโลยีมีดังนี้
            - ผู้เรียนสามารถมีปฏิสัมพันธ์และโต้ตอบกับสื่อได้
            - ให้ความเหมือนจริง โดยเฉพาะวีดิทัศน์ เทปเสียง สไลด์
            - ค้นหาสารสนเทศ ความรู้ได้อย่างไร้ขีดจากัด
            - สนองตอบการเรียนรู้ระยะไกล
สื่อที่เป็นกิจกรรม/กระบวนการ
         สื่อกิจกรรม เป็น สื่อในลักษณะที่เป็นกระบวนการ กิจกรรมที่จัดเพื่อฝึกกระบวนการคิด
และการปฏิบัติ ตลอดจนทักษะต่างๆให้กับผู้เรียน เช่น การร่วมมือกันแก้ปัญหา การใช้ปัญหาเป็น
ฐาน โครงงาน การสืบเสาะความรู้ การค้นพบความรู้ การแก้ปัญหา เกม การอภิปราย การทดลอง
เป็นต้น ประโยชน์ของสื่อกิจกรรมมีดังนี้
         - ส่งเสริมการคิดขั้นสูง เพราะผู้เรียนจะได้ใช้ทั้งการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินและ
ตัดสินใจเกี่ยวกับสารสนเทศมากกว่าการจดจาข้อมูลหรือข้อเท็จจริงต่างๆ
         - พัฒนาทักษะและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน
         - ส่งเสริมการเรียนรู้แบบตื่นตัว (Active learning)
         - พัฒนากระบวนทางสังคมและการสื่อสาร
         - ฝึ ก การปฏิ บั ติ เ พื่ อ เพิ่ ม ทั ก ษะเฉพาะด้ า น เช่ น ทั ก ษะการท างานกลุ่ ม ทั ก ษะทาง
วิทยาศาสตร์ ทักษะการใช้เครื่องมือ
สื่อบุคคล รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น
           สื่อบุคคล คือ ตัวบุคคลที่ทาหน้าที่เป็นผู้ส่งสาร อยู่ในระบบการสื่อสารระหว่างบุคคล และ
การสื่ อ สารระดั บ กลุ่ ม ภู มิ ปั ญ ญาเป็ น ความรู้ ค วามสามารถ วิ ธี ก ารผลงานที่ ค นไทยได้ ค้ น คว้ า
รวบรวม และจัดเป็นความรู้ ถ่ายทอด ปรับปรุง จากคนรุ่นหนึ่งมาสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง จนเกิดผลิตผลที่ดี
งดงาม มีคุณค่า มีประโยชน์ สามารถนามาแก้ปัญหาและพัฒนาวิถีชีวิตได้แต่ละหมูบ้าน แต่ละชุมชน
                                                                                     ่
ไทย ล้วนมีการทามาหากินที่สอดคล้องกับภูมิประเทศ มีผู้นาที่มีความรู้ มีฝีมือทางช่าง สามารถคิด
ประดิษฐ์ ตัดสินใจแก้ปัญหาของชาวบ้านได้ ผู้นาเหล่านี้ เรียกว่า ปราชญ์ชาวบ้าน หรือผู้ทรงภูมิ
ปัญญาไทย ประโยชน์ของสื่อบุคคล และภูมิปัญญาท้องถิ่นมีดังนี้
           - การเรียนจากประสบการณ์จริง
           - พัฒนา ต่อยอดองค์ความรู้ในชุมชนท้องถิ่น
           - มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น
           - สร้างความสัมพันธ์ให้กับชุมชนท้องถิ่น
สื่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
          ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ชิดตัวผู้เรียนตั้งแต่ตื่นเช้าจนกระทั่ง ช่วงชีวิตทั้ง
วัน จึงถือเป็นสื่อการเรียนรู้ที่สาคัญอย่างยิ่ง ตามแนวคิดการจัดการเรียนรู้ตาม พ.ร.บ.การศึกษา
แห่งชาติ พ.ศ.2542 เน้นการเรียนรู้ตามสภาพจริง อันเนื่องมาจากต้องการให้ผู้เรียนสามารถ
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้   51


เชื่อมโยงองค์ความรู้ต่างๆที่เผชิญหรือพบเจอ มาใช้ในการแก้ปัญหาสาหรับตนเองและสังคมได้
ธรรมชาติจึงถือเป็นแหล่งเรียนรู้ขนาดใหญ่ที่ผู้เรียนจะต้องแสวงหาความจริง ข้อเท็จและนามา
ประมวลเป็นความรู้ของตนเอง ประโยชน์ของสื่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีดังนี้
         - ให้ความเป็นจริง
         - ประหยัด ไม่ต้องลงทุนในการผลิต
         - บูรณาการลงสู่ชีวิตประจาวัน
         - มีความหลากหลายสนองต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
สื่อวัสดุอุปกรณ์
          สื่อวัสดุอุปกรณ์หมายถึง วัสดุที่ประดิษฐ์ขึ้นใช้เพื่อประกอบการเรียนรู้ เช่น หุ่นจาลอง
แผนภูมิ แผนที่ ตาราง สถิติ รวมถึงสื่ อประเภทเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ จาเป็นต้องใช้ในการ
ปฏิบัติงานต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ทดลองวิทยาศาสตร์ เครื่องมือช่าง เป็นต้น

หลักในการเลือกและใช้สื่อการเรียนรู้

            ในโลกปัจจุบันพบว่าความต้องการเกี่ยวกับตัวผู้เรียนเพิ่มมากขึ้น เพราะว่าที่ผ่านมาอาจจะ
มีการตอบสนองต่อการเรียนแบบท่องจามามากแล้ว แต่ในปัจจุบันในสภาพชีวิตจริงต้องการบุคคล
ในสังคมที่มีความสามารถในการใช้ทักษะการให้เหตุผลในระดับที่สูงขึ้นในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
ซึ่งพบว่าความสามารถในทักษะดังกล่าวที่จะนามาใช้ในการแก้ปัญหาไม่ค่อยปรากฏให้เห็นหรือมีอยู่
น้อยมาก ในปัจจุบันจะพบว่าทุก ๆ คนไม่ว่าจะเป็นผู้ที่
ทางานในโรงงานประกอบเครื่องจักรตามสายพานหรือ
ทางานที่ต้องร่วมกันคิดเป็นทีม ต่างล้วนต้องมีทักษะ
การแก้ปัญหาด้วยกันทั้งหมด ซึ่งนั่นหมายความว่า
แนวความคิดเกี่ยวกับการจัดการศึกษาต้องเปลี่ยนไป
ดังที่ Driscoll (1994) กล่าวว่า อาจจะต้องเปลี่ยนจาก
แนวคิดที่ว่า ผู้เรียนเป็นภาชนะที่ว่างเปล่าที่รอรับการ
เติมให้เต็ม มาคิดว่า ผู้เรียนเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความตื่นตัว กระฉับกระเฉงและค้นหาความหมายของสิ่ง
ต่างๆ ซึ่งขณะนี้ผู้เรียนจะถูกมองว่าเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมอย่างตื่นตัวในการเรียนรู้ คิดค้นหาวิธีที่จะ
วิเคราะห์ ตั้งคาถาม อธิบายและทาความเข้าใจต่อสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
             ในปัจจุบันเป็นยุคที่การส่งข้อมูลที่รวดเร็วมาก เทคโนโลยีเปิดโอกาสให้แต่ละบุคคลได้รับ
รวบรวม วิเคราะห์และสื่อสารข้อมูลข่าวสารได้อย่างละเอียดและรวดเร็วมากกว่าที่ผ่านมา เป็นผลที่
ทาให้ความต้องการและขอบเขตเกี่ยวกับการศึกษาขยายเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะช่วยผู้เรียนทุกคน
ได้รับทักษะที่เพิ่มมากขึ้น ที่จะทาให้ผู้เรียนเกิดความพร้อมในการวิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ไข
ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงที่ซับซ้อน ดังที่ Bruner (1983) กล่าวว่า "ผู้เรียนต้องยกระดับการ
เรียนที่เพิ่ มจาก "การจดจา" ข้ อเท็ จจริง ไปสู่ การเริ่ม ต้นที่ จะคิดอย่า งมีวิจารณญาณและ
สร้างสรรค์" ความจาเป็นที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ นามาสู่การเปลี่ยนแปลงวิธีการที่ครูผู้สอนจะมีปฏิสัมพันธ์
กับผู้เรียน จากเดิมจะเป็นการบอก ถ่ายทอด ความรู้จากครูไปสู่ ผู้เรียน มาเป็น การจัดสิ่งแวดล้อมที่
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้   52


เอื้อต่อการเรียนรู้ การยิ่งไปกว่านั้นความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจาเป็นที่ครูผู้สอนต้องมีพื้นฐานของ
ความเข้าใจอย่างดีเกี่ยวกับผู้เรียนแต่ละคนมีวิธีการเรียนรู้อย่างไร
             ผู้สอนจึงควรศึกษาเทคนิค วิธีการ และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะนามาใช้เพื่อช่วยให้ผู้เรียน
ได้รับความรู้ใหม่ ซึ่งแต่เดิมมักเป็นการสอนให้ผู้เรียนเรียนโดยเน้นการท่องจา และปรับเปลี่ยนมาสู่
การใช้เทคนิควิธีการที่จะช่วยผู้เรียนได้รับข้อเท็จจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ การใช้เทคนิค
ช่วยการจา เช่น Mnemonics เป็นต้น รวมทั้งการ
จัดการสอนที่เน้นครูเป็นศูนย์กลางอาจนาไปใช้ให้เกิด
ประโยชน์ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่สาคัญและเป็น
ความต้องการของการศึกษาในปัจจุบัน การสอนที่
ผู้ เ รี ย นควรได้ รั บ คื อ ทั ก ษะการคิ ด ในระดั บ สู ง
(Higher-order thinking skills) ได้แก่ การคิด
วิเคราะห์ สังเคราะห์ ตลอดจนการแก้ปัญหา และ
การถ่ายโอน (Transfer) โดยเน้นการใช้วิธีการต่าง ๆ
อาทิ สถานการณ์จาลอง การค้นพบ การแก้ปัญหา และการเรียนแบบร่วมมือ สาหรับผู้เรียนจะ
ได้รับประสบการณ์การแก้ปัญหาที่สอดคล้องกับสภาพชีวิตจริง
             ในปัจจุบันได้เปลี่ยนจากการสอน หรือการถ่ายทอดโดยครูผสอน หรือสื่อการสอนมาสู่การ
                                                                    ู้
เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ที่ให้ความสาคัญต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยผ่านการปฏิบัติ ลงมือ
กระทาด้วยตนเอง การพัฒนาศักยภาพทางการคิด ตลอดจนการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ดังนั้น
ควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียน วางแผน ดาเนินการและการประเมินด้วยตนเอง ดัง แสดงในภาพที่ 2
ผู้เรียนจะเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ ซึ่งจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับแหล่งข้อมูลที่มีศักยภาพ ได้แก่
ครู เทคโนโลยี พ่อแม่ ภูมิปัญญาชาวบ้าน และบุคคลอื่น ๆ ตลอดจน สื่อต่างๆ เพื่อที่จะนามาสู่
การหยั่งรู้ในปัญหาและการแก้ปัญหา หรือการได้มาซึ่งความรู้ที่ตนเองสร้างขึ้น บทบาทของครูได้
เปลี่ยนแปลงมาสู่การแนะแนวทางและเป็นผู้อานวยการ และช่วยเหลือผู้เรียนให้สามารถบรรลุ
เป้าหมายการเรียนรู้ ดังแสดงในภาพข้างล่าง




            ภาพที่ 4-2 แสดงการเปลี่ยนบทบาทของครู สื่อและผู้เรียนจากการถ่ายทอดมาเป็น
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้   53


                         ให้ผู้เรียนสร้างความรู้จากแหล่งเรียนรู้

           จากภาพจะเห็นได้ว่า ได้มีแนวคิดเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ครูผู้สอนเป็นผู้ที่วางแผน และ
ถ่ายทอดความรู้ต่างๆไปสู่ผู้เรียนโดยตรง ต่อมาเมื่อมีการพัฒนาทางด้านสื่อการสอนต่างๆ จึงมีการ
ใช้สื่อการสอนถ่ายทอดเนื้อหาความรู้ต่างๆ ไปยังผู้เรียน เช่น แผ่นภาพโปร่งใส ภาพยนตร์ สไลด์
วิดีทัศน์ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เพื่อช่วยเปลี่ยนสิ่งที่เป็นนามธรรม ให้เป็นรูปธรรมเพิ่มขึ้น อีกทั้ง ยัง
แก้ปัญหาเกี่ยวกับจานวนผู้เรียนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยตอบสนองด้านความแตกต่า ง
ระหว่างบุคคล
           ในปัจจุบันได้เปลี่ยนจากการสอน หรือการ
ถ่ายทอดโดยครูผู้สอน หรือสื่อการสอนมาสู่การเน้น
ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางที่ให้ความสาคัญต่อการเรียนรู้
ของผู้เรียน โดยผ่านการปฏิบัติ ลงมือกระทาด้วย
ตนเอง การพัฒนาศักยภาพทางการคิด ตลอดจนการ
แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ดังนั้น ควรเปิดโอกาสให้
ผู้เรียนวางแผน ดาเนินการ และการประเมินด้วย
ตนเอง
           เมื่อมีการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ การสอน มาสู่ การเรียนรู้ ดังนั้นเทคโนโลยีหรือนวัตกรรม
ที่นามาเพิ่มประสิทธิภาพก็ต้องสอดรับกับแนวคิดดังกล่าว คือ มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการ
เรียนรู้ของผู้เรียน ลักษณะของการนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม หรือสื่อมาใช้ที่สอดคล้องกับการ
ปฏิรูปการเรียนรู้ เป็น "Media + Methods" หรือ "สื่อ ร่วมกับ วิธีการ" เช่น การใช้เว็บร่วมกับ
การเรียนแบบร่วมมือเพื่อเปิดโอกาสให้ลงมือกระทาอย่างตื่นตัวในกระบวนการเรียนรู้ของตนเอง
และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับเพื่อน รวมทั้งการขยายมุมมอง แนวคิดให้กว้ างขวางขึ้น อันนาไปสู่
การสร้างความรู้ที่มีความหมายของตนเองขึ้นมา ซึ่งจะเป็นความรู้ที่อยู่คงทน และสามารถถ่ายโอน
ไปใช้ ในสถานการณ์ อื่น หรือ นาไปใช้ ในการแก้ปั ญหาต่ างๆในสภาพชี วิต จริ งได้ ส่ว นวิ ธีก าร
(Methods) ที่สอดรับกับสภาพปัจจุบัน ได้แก่
        การเรียนแบบค้นพบ (Discovery)
        การเรียนแบบสืบเสาะ(Inquiry)
        การเรียนแบบแก้ปัญหา (Problem Solving)
        การเรียนแบบร่วมมือ (Cooperative Learning)
        การเรียนโดยการสร้างความรู้ (Constructivism)
        สถานการณ์จาลอง (Simulation)
        การสร้างโครงงาน (Project base)
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้   54




     ภาพที่ 4-3 แสดงแนวทางการออกแบบการเรียนรู้ที่ต้องประสานร่วมกันทั้งสื่อและวิธีการ

            นอกจากจะใช้สื่อร่วมกับวิธีการ ดังกล่าวมาข้างต้น อาจออกแบบการจัดการเรียนรู้ โดย
เปลี่ยนเป็น "การจัดสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้" ซึ่งจะนาพื้นฐานทางทฤษฎีการเรียนรู้ หลักการ หรือ
วิธีการ มาเป็นพื้นฐานในการออกแบบสื่ อ เช่น การจัดสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ บนเครือข่าย
(Web-base learning) หรื อ การจัด สิ่ งแวดล้ อ มทางการเรีย นรู้ต ามแนวคอนสตรั ค ติวิ ส ต์
(Constructivism)
            ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ประสบผลสาเร็จนั้น ครูผู้สอนจะต้องทาการวางแผนการ
จัดกิจกรรมการเรียนรู้ พร้อมๆไปกับการผลิตและการใช้สื่อการเรียนรู้ แนวทางในการพัฒนาสื่อการ
เรียนรู้ มีดังต่อไปนี้
                       1. วิเคราะห์วัตถุประสงค์ เนื้อหา
                       2. วิเคราะห์กิจกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ เนื้อหา
                       3. ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
ควรพิจารณาลักษณะของกิจกรรม ดังต่อไปนี้
                               ผู้เรียนต้องลงมือปฏิบติอย่างตื่นตัว
                                                       ั
                               เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ
                               เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีอสระในการคิดแก้ปัญหา หรือพัฒนาชิ้นงาน
                                                         ิ
หรือ โครงการ
                               ต้องคานึงให้ผู้เรียนร่วมเรียนรู้ หรือทางานเป็นกลุ่ม
            4. วิเคราะห์กิจกรรมการเรียนรู้ดังกล่าวข้างต้น จะต้องสื่อการเรียนรู้ประเภทใดที่ช่วย
สร้างความเข้าใจในความคิดรวบยอดนั้นได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเน้นกิจกรรมที่ผ่านกระบวนการที่ผู้เรียน
ต้องลงมือค้นหาคาตอบ ทาความเข้าใจด้วยตนเอง หรือสะท้อนการเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้   55


         5. จัดเตรียม สื่อการเรียนรู้ อาจจะผลิตขึ้นมาใหม่ หรือปรับปรุงจากของเดิม อาจอยู่ใน
รูปของ
                            ชุดการทดลอง
                            ชุดกิจกรรม
                            สิ่งตีพิมพ์ เช่น เอกสาร ตารา วารสาร
                            เทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ เช่น อินเตอร์เน็ ต อีเลิร์นนิ่ง มัลติมีเดีย
การเรียนรู้บนเครือข่าย
                         แหล่งตามธรรมชาติ
                         
                        แหล่งการเรียนรู้อื่นๆ
         6. นาไปใช้ตามแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ
                        ผู้เรียน
                        ครูผสอนู้
                        สถานที่และสิ่งอานวยความสะดวก
รูปแบบการใช้สื่อการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
          ในการใช้สื่อการเรียนรู้นั้น ผู้สอนควรมีการวางแผนการใช้สื่ออย่างเป็นระบบ สอดคล้อง
กับวิธีการจัดการเรียนรู้ที่วางไว้ และบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายของการเรียนรู้ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ ซึ่ง Heinich and other (2002) ได้เสนอกระบวนที่แนะแนวทางในการวางแผนการ
จัดการเรียนรู้ที่มีบูรณาการเทคโนโลยีและสื่อลงในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ที่เรียกว่า ASSURE
MODEL ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
                Analyze Learner
                State Objectives
                Select, modify, design Methods, Media, & Materials
                Utilize Methods, Media, & Materials
                Require Learner Participation
                Evaluation and Revise
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้   56




     ภาพที่ 4-4 แสดงองค์ประกอบของ Assure Model ของ Heinich and other (2002)

การวิเคราะห์ผู้เรียน (Analyze Leaner Characteristics)
         ผู้สอนควรวิเคราะห์ผู้เรียนเพื่อเลือกใช้สื่อการเรียนรู้ให้สอดคล้องและเหมาะสม โดย
พิจารณาในประเด็นดังต่อไปนี้
    1) คุณลักษณะทั่วไป – จานวนผู้เรียน ระดับชั้น อายุ เพศ สถานภาพทางสังคมและ
         เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ชาติพันธุ์ ฯลฯ
    2) สมรรถนะเฉพาะที่มีมาก่อน – ความรู้เดิมของผู้เรียน ทักษะทางปัญญา ความเข้าใจที่
         คลาดเคลื่อนที่เกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียน
    3) แบบการเรียน (Learning Styles) – ผู้สอนควรตรวจสอบเกี่ยวกับ
          การรับรู้ของผู้เรียน ในลักษณะต่างๆ เช่น รับรู้ด้วยการฟัง การมองเห็น การสัมผัส
              และการเคลื่อนไหว
          กระบวนการประมวลสารสนเทศของผู้เรียนว่ามีลักษณะอย่างไร
          การสร้างปัจจัยทางด้านแรงจูงใจภายในและทางด้านกายภาพ เช่น ความวิตกกังวล
              แรงจูงใจทางด้านผลสัมฤทธิ์ ทางด้านสังคมหรือการแข่งขัน
การกาหนดวัตถุประสงค์ (State Objectives)
         เป็นการอธิบายสิ่งที่ผู้จะต้องทาการเรียนรู้ สิ่งที่ผสอนต้องตระหนัก คือ
                                                            ู้
     1) มุ่งเน้นผู้เรียน(ไม่ใช่ผู้สอน)
     2) วัตถุประสงค์เป็นการอธิบายผลการเรียนรู้
 การเลือกวิธีการ สื่อ และวัสดุ (Select method, media and Materials)
    1) เลือกวิธีการสอนที่สามารถทาให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างเหมาะสม
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้   57


       2) สื่อการเรียนรู้จะต้องสอดคล้องกับวิธีการสอน วัตถุประสงค์และผู้เรียน อาจจะอยู่เป็น
            ข้อความ ภาพนิ่ง วีดิทัศน์ เสียง และคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย
การเลือก ปรับ ออกแบบวิธีการ สื่อ และวัสดุ (Select, modify, Design Methods, Media,
& Materials) มีหลักในการพิจารณาดังนี้
       1) เลือกสื่อโดยคานึงถึงความต้องการของผู้เรียน
       2) เลือกสื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการเรียน
       3) เลือกสื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้
       4) เลือกสื่อให้สอดคล้องกับแบบการเรียนและคุณลักษณะของผู้เรียน
       5) เลือกใช้สื่อที่หลากหลายลักษณะ/รูปแบบ
การใช้วิธีการ สื่อและวัสดุ (Utilize method, Media and Materials)
            การวางแผนเกี่ยวกับวิธีการนาสื่อและวัสดุไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ ตามแผนการจัดการ
เรียนรู้ที่กาหนดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเรียน เพื่อที่จะใช้สื่อได้อย่างถูกต้องและสอดคล้อง
กับการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ควรพิจารณาตามรายละเอียดต่อไปนี้
        1) ตรวจสอบสื่อ เปิดดูก่อน (Preview the material)
        2) เตรียมสื่อให้พร้อมใช้งาน (Prepare the material)
        3) เตรียมห้องเรียนและสภาพแวดล้อม (Prepare the environment)
        4) แนะนาวิธีการใช้สาหรับผู้เรียน (Prepare the learners)
        5) การให้ประสบการณ์เกี่ยวกับสื่อแก่ผู้เรียน (Provide the learning experience)
สิ่งที่ต้องการให้ผู้เรียนตอบสนอง (Require Learner Response)
       1) อธิบายวิธีการที่ผู้เรียนต้องมีส่วนร่วมหรือทาการเรียนรู้อย่างตื่นตัว (actively)
       2) บทบาทของผู้เรียนในชั้นเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้เทคโนโลยีในการสร้างประสบ
            การเรียนรู้
       3) กิจกรรมต่างๆควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้จัดกระทากับสารสนเทศและมีเวลาเพียงพอ
            สาหรับการลงมือปฏิบัติ
การประเมินและการปรับ (Evaluation and revise)
            แนวทางการประเมินเกี่ยวกับสื่อมีลักษณะสาคัญดังนี้
       1) การประเมินความสามารถของผู้เรียน (Evaluate student performance) เพื่อ
            ตรวจสอบว่าผู้เรียนสามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์หรือไม่ การประเมินควรจะสอดคล้อง
            กับวัตถุประสงค์ (อาจเป็น Assess หรือ Evaluation)
       2) การประเมินสมรรถนะของสื่อ (Evaluate media components) เพื่อตรวจสอบว่าสื่อมี
            ประสิทธิภาพหรือไม่
       3) การประเมินความสามารถของผู้สอน (Evaluate instructor performance) เพื่อ
            ตรวจสอบว่าผู้สอน จัดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่

คาถามสะท้อนความคิด
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้   58


     ท่านคิดว่าลักษณะสาคัญที่แสดงถึงความแตกต่างระหว่างสื่อการสอนกับสื่อการเรียนรู้คือ
      อะไร
     สื่อการเรียนรู้แต่ละประเภทมีจุดเด่นที่สามารถนาไปใช้ในการจัดการเรียนรู้อย่างไร
     หลักการสาคัญในการเลือกใช้สื่อการเรียนรู้เป็นอย่างไร

กิจกรรมเสนอแนะ

ให้ท่านลองนาหลั กการเลือกใช้สื่อการเรียนรู้มาเป็นพื้นฐานเพื่อพิจารณา
ความเหมาะสมของสื่อที่สอดคล้องกับสาระวิชาเอกของท่าน


บรรณานุกรม

กรมวิชาการ. (2545). เอกสารประกอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544 คู่มือ
         การจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ. กรุงเทพฯ : องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุ
         ภัณฑ์
ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2521). เอกสารการสอนชุดวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา, หน่วยที่ 1-
         15. กรุเทพฯ: สหมิตร.
ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2529). เอกสารการสอนชุดวิชาการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษา หน่วยที่ 11-
         15 พิมพ์ครั้งที่ 5 นนทบุรี สานักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ไชยยศ เรืองสุวรรณ (2526). เทคโนโลยีทางการศึกษา: หลักการและแนวปฏิบัติ. กรุงเทพฯ :
         วัฒนาพานิช.
เปรื่ อง กุมุ ท . (2519). เทคนิค การเขีย นบทเรีย นโปรแกรม. คณะศึก ษาศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย
         ศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร.
สุมาลี ชัยเจริญ. (2547). การพัฒนารูปแบบการสร้างความรู้โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ. คณะ
         ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
Brown, James W., Lewis, Richard B., and Harcleroad, Fred F. (1985). AV
         Instructional Technology, Media, and Methods. 6th ed. New York: McGraw-
         Hill Book Company, Inc.
Bruner, J. S. (1983). In search of mind: Essays in autobiography. New York: Harper
         & Row.
Driscoll, M. P. (1994). Psychology of learning for instruction. Boston: Allyn and
         Bacon.
Gerlach, V. S. & Ely, D. P. (1980). Teaching & Media: A Systematic Approach (2nd
         ed.). Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall Incorporated.
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้   59


Heinich, Molenda and Russell. (1985). Instructional media and the new
       technologies of instruction. Wiley : New York.
Heinich, R., Molenda, M., Russell, J., & Smaldino, S. (2001). Instructional media and
       technologies for learning. Journal of Marketing Education, (7th ed.).
       Englewood Cliffs, NJ: Prentice Hall.
Heinich, R., Molenda, M., Russel, J.D., Smaldino, S.E. (2002). Instructional Media
       and Technologies for learning, 7th edition. Merrill Prentice Hall.
Honey, M., & Moeller, B. (1990). Teachers’ beliefs and technology integration:
       Different values, different understanding. New York: Center for
       Technology in Education.
Kozma, R.B. (1991). The impact of computer-based tools and embedded prompts
       on writing processes and products of novice and advanced college writers."
       Cognition and Instruction, 8 (1), 1-27.
Levin, T., & Wadmany, R. (2006). Teachers' beliefs and practices in technology-
       based classrooms: A developmental view. Journal of Research on
       Technology in Education, 39(2), 157-181.

More Related Content

What's hot

บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้Pennapa Kumpang
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้Nat Thida
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd a
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd aสื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd a
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd ajaacllassic
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Dddสื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Dddjaacllassic
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd a
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd aสื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd a
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd ajaacllassic
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้.
สื่อและแหล่งการเรียนรู้.สื่อและแหล่งการเรียนรู้.
สื่อและแหล่งการเรียนรู้.Nkidsana
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้Nat Thida
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้yuapawan
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้yuapawan
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7yuapawan
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7yuapawan
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7yuapawan
 
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอรรถกร ใจชาย
 

What's hot (16)

บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd a
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd aสื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd a
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd a
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Dddสื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd a
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd aสื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd a
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd a
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้.
สื่อและแหล่งการเรียนรู้.สื่อและแหล่งการเรียนรู้.
สื่อและแหล่งการเรียนรู้.
 
บทที่ ๗ สื่อและแหล่งการเรียนรู้
บทที่ ๗ สื่อและแหล่งการเรียนรู้บทที่ ๗ สื่อและแหล่งการเรียนรู้
บทที่ ๗ สื่อและแหล่งการเรียนรู้
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
 
ซิก
ซิกซิก
ซิก
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 

Viewers also liked (17)

บทที่ 4 new
บทที่ 4 newบทที่ 4 new
บทที่ 4 new
 
บทที่ 6
บทที่ 6บทที่ 6
บทที่ 6
 
Story board
Story boardStory board
Story board
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
บทที่ 4 new
บทที่ 4 newบทที่ 4 new
บทที่ 4 new
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
บทที่ 10
บทที่ 10บทที่ 10
บทที่ 10
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
บทที่ 6new
บทที่ 6newบทที่ 6new
บทที่ 6new
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
Constructivist theories
Constructivist  theoriesConstructivist  theories
Constructivist theories
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
ทฤษฎีการเรียนรู้010-015-030-036
ทฤษฎีการเรียนรู้010-015-030-036ทฤษฎีการเรียนรู้010-015-030-036
ทฤษฎีการเรียนรู้010-015-030-036
 

Similar to บทที่ 4

สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้Sujitra ComEdu
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้Sujitra ComEdu
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้Sujitra ComEdu
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้Sujitra ComEdu
 
บทที่ 7 สื่อและแหล่งการเรียนรู้
บทที่ 7 สื่อและแหล่งการเรียนรู้บทที่ 7 สื่อและแหล่งการเรียนรู้
บทที่ 7 สื่อและแหล่งการเรียนรู้onnichabee
 
ภารกิจในบทที่ 4 เรื่องสื่อการเรียนรู้
ภารกิจในบทที่ 4 เรื่องสื่อการเรียนรู้ภารกิจในบทที่ 4 เรื่องสื่อการเรียนรู้
ภารกิจในบทที่ 4 เรื่องสื่อการเรียนรู้B'nust Thaporn
 
สรุปบทที่ 7
สรุปบทที่ 7สรุปบทที่ 7
สรุปบทที่ 7Tsheej Thoj
 
งานเมย์บทที่7นะ (1)
งานเมย์บทที่7นะ (1)งานเมย์บทที่7นะ (1)
งานเมย์บทที่7นะ (1)nwichunee
 
นำเสนอนวัตกรรม4
นำเสนอนวัตกรรม4นำเสนอนวัตกรรม4
นำเสนอนวัตกรรม4Kanlayanee Thongthab
 
บทที่7
บทที่7บทที่7
บทที่7josodaza
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗jaacllassic
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗jaacllassic
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd a
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd aสื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd a
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd ajaacllassic
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้yuapawan
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้yuapawan
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้Sarawut Tikummul
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้Sarawut Tikummul
 
บทที่7ใหม่
บทที่7ใหม่บทที่7ใหม่
บทที่7ใหม่panisaae
 
บทที่7new
บทที่7newบทที่7new
บทที่7newpanisaae
 

Similar to บทที่ 4 (20)

สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
 
บทที่ 7 สื่อและแหล่งการเรียนรู้
บทที่ 7 สื่อและแหล่งการเรียนรู้บทที่ 7 สื่อและแหล่งการเรียนรู้
บทที่ 7 สื่อและแหล่งการเรียนรู้
 
ภารกิจในบทที่ 4 เรื่องสื่อการเรียนรู้
ภารกิจในบทที่ 4 เรื่องสื่อการเรียนรู้ภารกิจในบทที่ 4 เรื่องสื่อการเรียนรู้
ภารกิจในบทที่ 4 เรื่องสื่อการเรียนรู้
 
สรุปบทที่ 7
สรุปบทที่ 7สรุปบทที่ 7
สรุปบทที่ 7
 
งานเมย์บทที่7นะ (1)
งานเมย์บทที่7นะ (1)งานเมย์บทที่7นะ (1)
งานเมย์บทที่7นะ (1)
 
นำเสนอนวัตกรรม4
นำเสนอนวัตกรรม4นำเสนอนวัตกรรม4
นำเสนอนวัตกรรม4
 
บทที่7
บทที่7บทที่7
บทที่7
 
08chap6
08chap608chap6
08chap6
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd a
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd aสื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd a
สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บทที่๗Ddd a
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
 
บทที่7ใหม่
บทที่7ใหม่บทที่7ใหม่
บทที่7ใหม่
 
บทที่7new
บทที่7newบทที่7new
บทที่7new
 

บทที่ 4

  • 1. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 42 สื่อการเรียนรู้
  • 2. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 43 สื่อการเรียนรู้ บทที่ 4 โครงร่างเนื้อหาของบท คาสาคัญ 1. ความหมายของสื่อการสอนและสื่อการเรียนรู้  สื่อการสอน 2. ประเภทของสื่อการเรียนรู้  สื่อการเรียนรู้ 3. หลักการเลือกและใช้สื่อการเรียนรู้  เครื่องมือทางปัญญา  แหล่งเรียนรู้ วัตถุประสงค์การเรียนรู้  สิ่งแวดล้อมทางการ 1. อธิบายความคิดรวบยอดของสื่อการสอนและสื่อการเรียนรู้ เรียนรู้ ได้  คุณลักษณะของผูเ้ รียน 2. วิเคราะห์ประเภทและสามารถเลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ได้ 3. ออกแบบสื่อการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญได้  Assure Model กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ผู้สอนให้มโนทัศน์เชิงทฤษฎี หลักการ เรื่อง สื่อการเรียนรู้ 2. นักศึกษาแบ่งเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 3 คน ศึกษาจาก สิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้บนเครือข่าย http://ednet.kku.ac.th/~sumcha/web-230301/ โดย ศึกษาสถานการณ์ปัญหาบทที่ 4 วิเคราะห์ทาความเข้าใจ ค้นหาคาตอบจากเอกสารประกอบการสอนและแหล่ง เรียนรู้บนเครือข่ายและร่วมกันสรุปคาตอบ และนาเสนอใน รูปแบบ Power point 3. นักศึกษาร่วมกันสะท้อนผลงานและสรุปองค์ความรู้ โดยแต่ ละกลุมต้องสลับทาหน้าที่กันสะท้อนผลได้แก่ ถามคาถาม ่ ควบคุม ชมเชย ข้อควรปรับปรุง และประเมิน ) ผูสอน ้ ขยายกรอบความคิดของผู้เรียนโดยการตั้งประเด็นถึงการ นาไปใช้ในสภาพบริบทจริง สถานการณ์ปัญหา(Problem-based learning) สมมติว่าในขณะนี้คุณเป็นนักศึกษาฝึกสอนโดยทาการสอนที่โรงเรียนสาระวิทยา หลังจาก ที่คุณสอนมาได้ระยะหนึ่งแล้ว คุณก็สังเกตเห็นว่านักเรียนมีลักษณะต่างๆ ดังนี้ ด.ญ.ปนัดดา เป็นคนขยัน ชอบอ่านหนังสือมาก เธอบอกว่าชอบทาความเข้าใจเนื้อหา
  • 3. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 44 จากการอ่านหนังสือ หรือเอกสารมากกว่า ฟังครูอธิบาย ด.ช.เรียงชัย เป็นคนที่ชอบเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ ชอบค้นคว้า ชอบสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจและท้า ทายความสามารถ เพราะยิ่งท้าทายและตื่นตามากเท่าไหร่ ยิ่งจดจ่อกับสิ่งนั้นมากและทาให้เกิดการ เรียนรู้สิ่งเหล่านั้นได้ดี ด.ช. มรกต เป็นคนที่ขาดจินตนาการ ถ้าไม่ได้เรียนจากการมองเห็นภาพหรือของจริง เวลาครูสอนในชั้นนึกภาพตามไม่ทัน ส่งผลทาให้เขาเรียนรู้ได้ช้าและไม่ทันเพื่อน ด.ญ. สะรีรัตน์ เป็นคนที่ไม่ชอบศึกษาจากหนังสือที่ เป็นข้อความหรือตัวอักษร เพราะใน เวลาเรียนเขาจะตั้งใจฟังครูอธิบายเนื้อหา ทาความเข้าใจและพยายามจับประเด็นที่สาคัญให้ได้ ใน ขณะที่เรียน เช่น กระบวนการในการแก้โจทย์ เขาจะต้องเข้าใจตอนนั้น โดยไม่ต้องกลับไปอ่าน หนังสืออีก เป็นต้น ภารกิจ 1. นักศึกษาจะนาความรู้เรื่องสื่อการสอน ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้อย่างไรเพื่อสนับสนุน วิธีการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของนักเรียนแต่ละคนให้มีประสิทธิภาพโดยสื่อที่นามาใช้นั้นต้อง สนองตอบต่อการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยให้นักเรียนเป็นผู้สร้างความรู้เองด้วย 2. ในปัจจุบันนีจะพบคาว่า "สื่อการสอน" กับคาว่า "สื่อการเรียนรู้" ในฐานะที่นักศึกษาจะ ้ ก้าวออกไปเป็นครูยุคใหม่ที่มีคุณภาพ ให้อธิบายว่า สองคานี้ เหมือนหรือมีความแตกต่างกันอย่างไร 3. ออกแบบสื่อการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ของท่าน ความหมายของสื่อการ สอนและสื่อการเรียนรู้ ประเภทของสื่อการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้
  • 4. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 45 หลักการเลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ เมื่อกระบวนทัศน์ (Paradigm) เกี่ยวกับการสอนเปลี่ย นมาเป็นการเรีย นรู้ มาสู่การ เน้น ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ดังนั้น เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา ตลอดจนสื่อ จาเป็นต้องปรับ กระบวนทัศน์เพื่อให้สอดคล้องกับ ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จากเดิมที่เป็นสื่อการสอนมาเป็นสื่อ การเรียนรู้ และนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ เพื่อที่จะนามาใช้ในการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการจัดการ เรียนรู้ที่ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางที่ไม่ได้มุ่งเพียง เพื่อให้ผู้เรียนสามารถจดจาสิ่งที่เรียนรู้ได้เท่านั้น แต่ยัง มุ่งพัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของสังคมไทย ได้แก่ ความสามารถคิดแบบองค์รวม เรียนรู้ ร่วมกันและทางานเป็นทีม ตลอดจนความสามารถในการแสวงหาความรู้ และสร้างความรู้ด้วย ตนเอง เพื่อทาให้เป็นสังคมที่มีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต เพื่อที่สามารถแข่งขัน และร่วมมือ อย่างสร้างสรรค์ในสังคมและโลกต่อไป ดังนั้นสื่อการเรียนรู้จึงรวมหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวผู้เรียนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการ เรียนรู้ เช่น วัสดุ อุปกรณ์ วิธีการ ตลอดจน คน สัตว์ สิ่งของ ธรรมชาติ รวมถึงเหตุการณ์ หรือ แนวความคิด อาจอยู่ในลักษณะที่ถ่ายทอด ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก เพิ่มพูนทักษะและ ประสบการณ์ หรือเป็นเครื่องมือที่กระตุ้นให้เกิดศักยภาพทางความคิด (Cognitive tools) ตลอดจนสิ่งที่กระตุ้นให้เป็นผู้แสวงหาความรู้และมีทักษะในการสร้างความรู้ด้วยตนเอง เพื่อมุ่ง ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีโอกาสเรียนรู้ด้วยตนเอง ความหมายของสื่อการสอนและสื่อการเรียนรู้ ความหมายของสื่อการสอน ได้มีนักวิชาการ และนักเทคโนโลยีการศึกษา ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ใ ห้ ความหมายของ “สื่อการสอน” ไว้หลายท่าน พอสรุปได้ ดังนี้ บราวน์ และคนอื่น ๆ (Brown and other, 1985) ให้ความหมายของสื่อการสอนว่า เป็น อุปกรณ์ทั้งหลาย รวมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ ไม่เฉพาะที่เป็นวัสดุหรือเครื่องมือเท่านั้น เพื่อใช้ในการ นาเสนอข้อความรู้จากครูให้แก่ผู้เรียน จนเกิดผลการเรียนที่ดี เกอร์ลัช และอีลี (Gerlach and Ely, 1980) ได้ให้คาจากัดความของสื่อการสอนไว้ว่า สื่อ การสอน คือ บุคคล วัสดุหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งทาให้นักเรียนได้รับความรู้ ทักษะ ทัศนคติ ครู หนังสือ และสิ่งแวดล้อมของโรงเรียนจัดเป็นสื่อการสอนทั้งสิ้น ไฮนิคส์ โมเลนดาและรัสเซล (Heinich, Molenda and Russel, 1985) ให้ความหมาย ของสื่อการสอนไว้ว่า คือ สื่อชนิดใดก็ตามไม่ว่าจะเป็นสไลด์โทรทัศน์ วิทยุเทปบันทึกเสียงภาพถ่าย วัสดุฉายและวัตถุสิ่งตีพิมพ์ซึ่งเป็นพาหนะในการนาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลไปยังผู้รับ เมื่อนามาใช้กับ
  • 5. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 46 การเรียนการสอน หรือส่งเนื้อหาความรู้ไปยังผู้เรียนในกระบวนการเรียนการสอน เรียกว่า สื่อการ สอน เปรื่อง กุมุท (2519) กล่าวว่า สื่อการสอน หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องมือ หรือ ช่องทางสาหรับทาให้การสอนของครูถึงผู้เรียน และทาให้ผู้เรียนเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์หรือ จุดมุ่งหมายที่วางไว้อย่างดี ไชยยศ เรืองสุวรรณ (2526) กล่าวว่า สื่อการสอน หมายถึง สิ่งที่ช่วยให้การเรียนรู้ ซึ่งครู และนักเรียนเป็นผู้ใช้เพื่อให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ชัยยงค์ พรหมวงศ์ (2529) ให้ความหมายของสื่อการสอนว่า คือ วัสดุ อุปกรณ์ และ วิธีการที่ใช้สื่อกลางให้ผู้สอนสามารถส่ง หรือถ่ายทอดความรู้ เจตคติ และทักษะไปยังผู้เรียน ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อการสอน หมายถึง ตัวกลางที่ถ่ายทอดสารสนเทศไปสู่ผู้เรียน ในกรณีใดกรณีหนึ่ง การ เลือกสื่ออาจจะใช้วีดิทัศน์ ในกรณีอื่นอาจจะเลือกใช้สื่ออื่นๆ เช่น คอมพิวเตอร์ ซึ่งสื่อแต่ละชนิดจะ นาเสนอ หรือเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้เรียน ครู และการสอน ผู้ที่ ต้องการใช้สื่อการสอนอาจพิจารณาเกี่ยวกับ การรับสารสนเทศ ของผู้เรียนจากประเด็นต่างดังนี้  สื่อที่สามารถจัดหาได้  ผลของสื่อที่แตกต่างกันที่ส่งผลต่อการเรียนรู้  ภายใต้เงื่อนไขใดที่จะมีผลต่อความมีศักยภาพที่เปลี่ยนแปลงไป  สื่อแต่ละชนิดจะสามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพของสื่อสูงสุดได้อย่างไร เมื่อมีการสารวจคาตอบของประเด็นคาถามดังกล่าว การวิจัยในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ การรับรู้ (Perception) การรู้ คิ ด (Cognition) การสื่ อ สาร (Communication) ทฤษฏี ก ารสอน (Instructional Theories) เข้ามาเกี่ยวข้อง สาหรับผู้เรีย น ครูเข้ามาเกี่ยวข้องกับ “วิธีการที่ จัด โครงสร้างของสารสนเทศ และการรับรู้และประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละคน” ผลการวิจัย แสดง ให้เห็นว่า สื่อประเภทต่าง ๆ และการเลือก และกระบวนการใช้มีผลโดยตรงต่อ การรับรู้ของผู้เรียน และวิธีการที่ผู้เรียนจะเก็บรักษา และระลึกเกี่ยวกับสารสนเทศนั้นได้ (Kozma, 1991) สรุปได้ว่า สื่อการสอน หมายถึงวัสดุ เครื่องมือและเทคนิควิธีการที่ผู้สอนนามาใช้ ประกอบการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนิยามความหมายของสื่อการสอนที่กล่าวมาข้างต้น อาจจะยังไม่สอดคล้อง กับความ เปลี่ยนแปลงของกระบวนทัศน์เกี่ยวกับการศึกษาที่เปลี่ยนไป เพราะความสาคัญ ของสื่อการสอน ยังเป็นเพียงตัวกลางที่ถ่ายทอดเนื้อหาหรือความรู้เท่านั้น ดังนั้นนิยาม ความหมายของสื่อการสอน ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีพุทธศักราช 2544 จะปรับเปลี่ยนเป็น “สื่อการเรียนรู้” ซึ่งได้ นิยามความหมายไว้ดังนี้ (สุมาลี ชัยเจริญ, 2547) ความหมายของสื่อการเรียนรู้ นั บ ตั้ ง แต่ ที่ ป ระเทศไทยได้ ป ฏิ รู ป แนวคิ ด เกี่ยวกับการศึกษาของประเทศตั้งแต่มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 เป็น ต้ น มา แนวคิ ด เกี่ ย วกั บ การศึ ก ษามามุ่ ง เน้ น ที่ ก าร พัฒนาศักยภาพของผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยเฉพาะอย่าง
  • 6. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 47 ยิ่งการสร้างความรู้และพัฒนากระบวนการคิด ดังนั้นแนวคิดเกี่ยวกับ”การสอนหรือการถ่ายทอด” จึงเปลี่ยนมาเป็น “การเรียนรู้” ที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้ขึ้นมาด้วยตนเองโดยอาศัยแหล่ง การเรียนรู้ต่างๆ ด้วยเหตุนี้ “สื่อการเรียนรู้” เป็นเครื่องมือของการเรียนรู้ ที่ทาให้ผู้เรียนสามารถ เรียนรู้ด้วยตนเองเป็นสิ่งสาคัญเนื่องจากในยุคปัจจุบันข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ การใช้เทคโนโลยีและ การสื่อสารทาให้ผู้เรียนจาเป็นต้องพัฒนาตนเองให้สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆด้วยตนเอง ตลอดจน พัฒนาศักยภาพการคิด ได้แก่ การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดอย่าง อย่างมีเหตุผล นอกจากนี้ควรเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง สื่อการเรียนรู้ หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวผู้เรียนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ เช่น คน สัตว์ สิ่งของ ธรรมชาติ รวมถึงเหตุการณ์ หรือ แนวความคิด โดยมุ่งเน้นส่งเสริมการค้นคว้า หรือ การแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต (กรมวิชาการ, 2545: คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ) สื่อการเรียนรู้ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเรียนรู้ ของผู้เรียน อาจทาหน้าที่  ถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ ความรูสึก เพิ่มพูนทักษะและ ้ ประสบการณ์  สร้างสถานการณ์การเรียนรู้ให้แก่ ผู้เรียน  กระตุ้นให้เกิดศักยภาพทางความคิด ได้แก่ คิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ คิด อย่างมีวิจารณญาณ เป็นต้น  กระตุ้นให้เป็นผู้แสวงหาความรู้และมีทักษะในการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (กรมวิชาการ 2544) สื่อการเรียนรู้ เป็นเครื่องมือที่ใช้ถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจความรู้สึก เพิ่มพูนทักษะและ ประสบการณ์ สร้างสถานการณ์การเรียนรู้กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพทางการคิด เสริมสร้าง คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมแก่ผู้เรียน และมุ่งเน้นการส่งเสริมผู้เรียนทางด้านการแสวงหา ความรู้ด้วยตนเอง (กรมวิชาการ, 2545)
  • 7. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 48 ภาพที่ 4-1 แสดงการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของสื่อการสอนมาเป็นสือการเรียนรู้ ่ จากที่กล่าวมาข้างต้น อาจสรุปได้ว่า สื่อการเรียนรู้ หมายถึง เครื่องมือที่ออกแบบโดยบูรณา การกับวิธีการจัดการเรียนรู้ ที่กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพทางปัญญา (Cognitive tools) ตลอดจนกระตุ้นให้เป็นผู้แสวงหาความรู้และมีทักษะในการสร้างความรู้ด้วยตนเอง เพื่อมุ่งส่งเสริม ให้ผู้เรียนมีโอกาสเรียนรู้ด้วยตนเอง ส่งเสริมการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก เพิ่มพูนทักษะ และประสบการณ์โดยเครื่องมือเหล่านั้นอาจเป็นทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวผู้เรียนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิด การเรียนรู้ เช่น วัสดุ อุปกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศ วิธีการ ตลอดจน คน สัตว์ สิ่งของ ธรรมชาติ ภูมิปัญญา รวมถึงเหตุการณ์ หรือ แนวความคิด เป็นต้น คุณลักษณะของสื่อการเรียนรู้ 1. ช่วยส่งเสริมการสร้างความรู้ของ ผู้เรียน 2. ช่วยส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าด้วย ตนเอง 3. มุ่งเน้นการพัฒนาการคิดของผู้เรียน 4. เป็นสื่อที่หลากหลาย ได้แก่ วัสดุ อุปกรณ์ วิธีการ ตลอดจน สิ่งที่มีตาม ธรรมชาติ 5. เป็นสื่อที่อยู่ตามแหล่งความรู้ในระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ 6. ช่วยพัฒนาการร่วมทางานเป็นทีม ความสาคัญของสื่อการเรียนรู้ 1. ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจและสร้างความคิดรวบยอดในเรื่องที่เรียนได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น 2. ช่วยให้ผู้เรียนมองเห็นสิ่งที่กาลังเรียนรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม 3. ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง 4. สร้างสภาพแวดล้อมและประสบการณ์การเรียนรู้ที่แปลกใหม่ 5. ส่งเสริมการมีกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้เรียน 6. เกื้อหนุนผู้เรียนที่มีความสนใจและความสามารถในการเรียนรู้ที่แตกต่างกันให้สามารถ เรียนรู้ได้ทัดเทียมกัน 7. ช่วยเชื่อมโยงสิ่งที่ไกลตัวผู้เรียนให้เข้ามาสู่การเรียนรู้ของผู้เรียน 8. ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิธีการแสวงหาความรู้จากแหล่งข้อมูลต่างๆตลอดจนการศึกษา ค้นคว้าด้วยตนเอง 9. ช่วยให้ผู้เรียนได้รับการเรียนรู้ในหลายมิติจากสื่อที่หลาหลาย 10. ช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในเชิงเนื้อหา กระบวนการ และความรู้เชิงประจักษ์ 11. ส่งเสริมให้เกิดทักษะ ได้แก่ ทักษะการคิด ทักษะการสื่อสาร
  • 8. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 49 ตารางที่ 4.1 แสดงการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสื่อการสอนและสื่อการเรียนรู้ ประเด็น สื่อการสอน สื่อการเรียนรู้ ลักษณะ วั ส ดุ อุ ป กรณ์ เ ทคโ นโล ยี วั ส ดุ อุ ป กรณ์ เ ทคโ นโล ยี สารสนเทศ วิธีการ สารสนเทศ วิธีการ บทบาทต่อการเรียนรู้ มุ่ ง เน้ น การถ่ า ยทอดเนื้ อ หา มุ่ ง เ น้ น ก า ร ใ ห้ ผู้ เ รี ย น มี ความรู้จากผู้สอนไปยังผู้เรียน ป ฏิ สั ม พั น ธ์ เ พื่ อ ส ร้ า ง กระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง การออกแบบ บรรจุ เ นื้ อ หา ความรู้ และ ส่ ง เสริ ม การคิ ด การแสร้ า ง ทักษะ รวมทั้งประสบการณ์ ความรู้และการแก้ปัญหา ประเภทของสื่อการเรียนรู้ กรมวิชาการ (2545) ได้จาแนกประเภทของสื่อการเรียนรู้ ไว้ดังนี้ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อสิ่งพิมพ์ เป็น สิ่งที่พิมพ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแผ่นกระดาษหรือวัตถุใด ๆ ด้วยวิธีการต่าง ๆ อันเกิดเป็นชิ้นงานที่มีลักษณะเหมือน ต้นฉบับขึ้นหลายสาเนาในปริมาณมากเพื่อเป็นสิ่งที่ทาการ ติดต่อ หรือชักนาให้บุคคลอื่นได้เห็นหรือทราบ ข้อความต่าง ๆ ซึ่งมีหลายลักษณะเช่น เอกสาร หนังสือ ตารา หนังสือพิมพ์ นิ ตยสาร วารสาร จุลสาร ฯลฯ กระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยสื่อ สิ่งพิมพ์ คือการอ่านและพยายามสร้า งความเข้า ใจจากสารสนเทศที่นาเสนอ ประโยชน์ ของสื่ อ สิ่งพิมพ์มีดังนี้ - ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เพราะว่าสื่อสิ่งพิมพ์มีการวางหัวข้อ เรื่องราวและรูปแบบที่จัดวาง ไว้เป็นระเบียบ - มีความยืดหยุ่นในการใช้ สื่อสิ่งพิมพ์สามารถใช้ได้กับทุกสภาพแวดล้อมที่มีแสง สามารถ พกพาติดตัวผู้ใช้ได้สะดวก - ประหยัด สื่อสิ่งพิมพ์สามารถนากลับมาใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ได้ตลอด แม้ว่าจะมี ผู้เรียนใช้มาหลายคนแล้วก็ตาม สื่อเทคโนโลยี สื่อเทคโนโลยี เป็น สื่อที่นาศักยภาพของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้ามาใช้ใน การนาเสนอเนื้อหาบทเรียน เช่น แถบบันทึกภาพ วีดิทัศน์ เทปเสียง สไลด์ คอมพิวเตอร์ มัลติมีเดีย สื่อบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ต การศึกษาผ่านดาวเทียม กระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยสื่อ สื่อ เทคโนโลยีผู้เรียนสามารถมีปฏิสัมพันธ์ และสร้างการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง สื่อจาพวกมัลติมีเดียยัง
  • 9. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 50 สามารถนาเสนอภาพเคลื่อนไหว ภาพจริง ที่แสดงความเปลี่ยนแปลง ตลอดจนเสียงประกอบที่ช่วย ให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นเทคโนโลยีสารสนเทศยังสนองต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ทุก ที ทุกเวลา ประโยชน์ของสื่อเทคโนโลยีมีดังนี้ - ผู้เรียนสามารถมีปฏิสัมพันธ์และโต้ตอบกับสื่อได้ - ให้ความเหมือนจริง โดยเฉพาะวีดิทัศน์ เทปเสียง สไลด์ - ค้นหาสารสนเทศ ความรู้ได้อย่างไร้ขีดจากัด - สนองตอบการเรียนรู้ระยะไกล สื่อที่เป็นกิจกรรม/กระบวนการ สื่อกิจกรรม เป็น สื่อในลักษณะที่เป็นกระบวนการ กิจกรรมที่จัดเพื่อฝึกกระบวนการคิด และการปฏิบัติ ตลอดจนทักษะต่างๆให้กับผู้เรียน เช่น การร่วมมือกันแก้ปัญหา การใช้ปัญหาเป็น ฐาน โครงงาน การสืบเสาะความรู้ การค้นพบความรู้ การแก้ปัญหา เกม การอภิปราย การทดลอง เป็นต้น ประโยชน์ของสื่อกิจกรรมมีดังนี้ - ส่งเสริมการคิดขั้นสูง เพราะผู้เรียนจะได้ใช้ทั้งการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินและ ตัดสินใจเกี่ยวกับสารสนเทศมากกว่าการจดจาข้อมูลหรือข้อเท็จจริงต่างๆ - พัฒนาทักษะและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน - ส่งเสริมการเรียนรู้แบบตื่นตัว (Active learning) - พัฒนากระบวนทางสังคมและการสื่อสาร - ฝึ ก การปฏิ บั ติ เ พื่ อ เพิ่ ม ทั ก ษะเฉพาะด้ า น เช่ น ทั ก ษะการท างานกลุ่ ม ทั ก ษะทาง วิทยาศาสตร์ ทักษะการใช้เครื่องมือ สื่อบุคคล รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น สื่อบุคคล คือ ตัวบุคคลที่ทาหน้าที่เป็นผู้ส่งสาร อยู่ในระบบการสื่อสารระหว่างบุคคล และ การสื่ อ สารระดั บ กลุ่ ม ภู มิ ปั ญ ญาเป็ น ความรู้ ค วามสามารถ วิ ธี ก ารผลงานที่ ค นไทยได้ ค้ น คว้ า รวบรวม และจัดเป็นความรู้ ถ่ายทอด ปรับปรุง จากคนรุ่นหนึ่งมาสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง จนเกิดผลิตผลที่ดี งดงาม มีคุณค่า มีประโยชน์ สามารถนามาแก้ปัญหาและพัฒนาวิถีชีวิตได้แต่ละหมูบ้าน แต่ละชุมชน ่ ไทย ล้วนมีการทามาหากินที่สอดคล้องกับภูมิประเทศ มีผู้นาที่มีความรู้ มีฝีมือทางช่าง สามารถคิด ประดิษฐ์ ตัดสินใจแก้ปัญหาของชาวบ้านได้ ผู้นาเหล่านี้ เรียกว่า ปราชญ์ชาวบ้าน หรือผู้ทรงภูมิ ปัญญาไทย ประโยชน์ของสื่อบุคคล และภูมิปัญญาท้องถิ่นมีดังนี้ - การเรียนจากประสบการณ์จริง - พัฒนา ต่อยอดองค์ความรู้ในชุมชนท้องถิ่น - มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น - สร้างความสัมพันธ์ให้กับชุมชนท้องถิ่น สื่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ชิดตัวผู้เรียนตั้งแต่ตื่นเช้าจนกระทั่ง ช่วงชีวิตทั้ง วัน จึงถือเป็นสื่อการเรียนรู้ที่สาคัญอย่างยิ่ง ตามแนวคิดการจัดการเรียนรู้ตาม พ.ร.บ.การศึกษา แห่งชาติ พ.ศ.2542 เน้นการเรียนรู้ตามสภาพจริง อันเนื่องมาจากต้องการให้ผู้เรียนสามารถ
  • 10. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 51 เชื่อมโยงองค์ความรู้ต่างๆที่เผชิญหรือพบเจอ มาใช้ในการแก้ปัญหาสาหรับตนเองและสังคมได้ ธรรมชาติจึงถือเป็นแหล่งเรียนรู้ขนาดใหญ่ที่ผู้เรียนจะต้องแสวงหาความจริง ข้อเท็จและนามา ประมวลเป็นความรู้ของตนเอง ประโยชน์ของสื่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีดังนี้ - ให้ความเป็นจริง - ประหยัด ไม่ต้องลงทุนในการผลิต - บูรณาการลงสู่ชีวิตประจาวัน - มีความหลากหลายสนองต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต สื่อวัสดุอุปกรณ์ สื่อวัสดุอุปกรณ์หมายถึง วัสดุที่ประดิษฐ์ขึ้นใช้เพื่อประกอบการเรียนรู้ เช่น หุ่นจาลอง แผนภูมิ แผนที่ ตาราง สถิติ รวมถึงสื่ อประเภทเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ จาเป็นต้องใช้ในการ ปฏิบัติงานต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ทดลองวิทยาศาสตร์ เครื่องมือช่าง เป็นต้น หลักในการเลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ ในโลกปัจจุบันพบว่าความต้องการเกี่ยวกับตัวผู้เรียนเพิ่มมากขึ้น เพราะว่าที่ผ่านมาอาจจะ มีการตอบสนองต่อการเรียนแบบท่องจามามากแล้ว แต่ในปัจจุบันในสภาพชีวิตจริงต้องการบุคคล ในสังคมที่มีความสามารถในการใช้ทักษะการให้เหตุผลในระดับที่สูงขึ้นในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ซึ่งพบว่าความสามารถในทักษะดังกล่าวที่จะนามาใช้ในการแก้ปัญหาไม่ค่อยปรากฏให้เห็นหรือมีอยู่ น้อยมาก ในปัจจุบันจะพบว่าทุก ๆ คนไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ ทางานในโรงงานประกอบเครื่องจักรตามสายพานหรือ ทางานที่ต้องร่วมกันคิดเป็นทีม ต่างล้วนต้องมีทักษะ การแก้ปัญหาด้วยกันทั้งหมด ซึ่งนั่นหมายความว่า แนวความคิดเกี่ยวกับการจัดการศึกษาต้องเปลี่ยนไป ดังที่ Driscoll (1994) กล่าวว่า อาจจะต้องเปลี่ยนจาก แนวคิดที่ว่า ผู้เรียนเป็นภาชนะที่ว่างเปล่าที่รอรับการ เติมให้เต็ม มาคิดว่า ผู้เรียนเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความตื่นตัว กระฉับกระเฉงและค้นหาความหมายของสิ่ง ต่างๆ ซึ่งขณะนี้ผู้เรียนจะถูกมองว่าเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมอย่างตื่นตัวในการเรียนรู้ คิดค้นหาวิธีที่จะ วิเคราะห์ ตั้งคาถาม อธิบายและทาความเข้าใจต่อสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในปัจจุบันเป็นยุคที่การส่งข้อมูลที่รวดเร็วมาก เทคโนโลยีเปิดโอกาสให้แต่ละบุคคลได้รับ รวบรวม วิเคราะห์และสื่อสารข้อมูลข่าวสารได้อย่างละเอียดและรวดเร็วมากกว่าที่ผ่านมา เป็นผลที่ ทาให้ความต้องการและขอบเขตเกี่ยวกับการศึกษาขยายเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะช่วยผู้เรียนทุกคน ได้รับทักษะที่เพิ่มมากขึ้น ที่จะทาให้ผู้เรียนเกิดความพร้อมในการวิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ไข ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงที่ซับซ้อน ดังที่ Bruner (1983) กล่าวว่า "ผู้เรียนต้องยกระดับการ เรียนที่เพิ่ มจาก "การจดจา" ข้ อเท็ จจริง ไปสู่ การเริ่ม ต้นที่ จะคิดอย่า งมีวิจารณญาณและ สร้างสรรค์" ความจาเป็นที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ นามาสู่การเปลี่ยนแปลงวิธีการที่ครูผู้สอนจะมีปฏิสัมพันธ์ กับผู้เรียน จากเดิมจะเป็นการบอก ถ่ายทอด ความรู้จากครูไปสู่ ผู้เรียน มาเป็น การจัดสิ่งแวดล้อมที่
  • 11. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 52 เอื้อต่อการเรียนรู้ การยิ่งไปกว่านั้นความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจาเป็นที่ครูผู้สอนต้องมีพื้นฐานของ ความเข้าใจอย่างดีเกี่ยวกับผู้เรียนแต่ละคนมีวิธีการเรียนรู้อย่างไร ผู้สอนจึงควรศึกษาเทคนิค วิธีการ และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะนามาใช้เพื่อช่วยให้ผู้เรียน ได้รับความรู้ใหม่ ซึ่งแต่เดิมมักเป็นการสอนให้ผู้เรียนเรียนโดยเน้นการท่องจา และปรับเปลี่ยนมาสู่ การใช้เทคนิควิธีการที่จะช่วยผู้เรียนได้รับข้อเท็จจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ การใช้เทคนิค ช่วยการจา เช่น Mnemonics เป็นต้น รวมทั้งการ จัดการสอนที่เน้นครูเป็นศูนย์กลางอาจนาไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่สาคัญและเป็น ความต้องการของการศึกษาในปัจจุบัน การสอนที่ ผู้ เ รี ย นควรได้ รั บ คื อ ทั ก ษะการคิ ด ในระดั บ สู ง (Higher-order thinking skills) ได้แก่ การคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ ตลอดจนการแก้ปัญหา และ การถ่ายโอน (Transfer) โดยเน้นการใช้วิธีการต่าง ๆ อาทิ สถานการณ์จาลอง การค้นพบ การแก้ปัญหา และการเรียนแบบร่วมมือ สาหรับผู้เรียนจะ ได้รับประสบการณ์การแก้ปัญหาที่สอดคล้องกับสภาพชีวิตจริง ในปัจจุบันได้เปลี่ยนจากการสอน หรือการถ่ายทอดโดยครูผสอน หรือสื่อการสอนมาสู่การ ู้ เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ที่ให้ความสาคัญต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยผ่านการปฏิบัติ ลงมือ กระทาด้วยตนเอง การพัฒนาศักยภาพทางการคิด ตลอดจนการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ดังนั้น ควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียน วางแผน ดาเนินการและการประเมินด้วยตนเอง ดัง แสดงในภาพที่ 2 ผู้เรียนจะเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ ซึ่งจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับแหล่งข้อมูลที่มีศักยภาพ ได้แก่ ครู เทคโนโลยี พ่อแม่ ภูมิปัญญาชาวบ้าน และบุคคลอื่น ๆ ตลอดจน สื่อต่างๆ เพื่อที่จะนามาสู่ การหยั่งรู้ในปัญหาและการแก้ปัญหา หรือการได้มาซึ่งความรู้ที่ตนเองสร้างขึ้น บทบาทของครูได้ เปลี่ยนแปลงมาสู่การแนะแนวทางและเป็นผู้อานวยการ และช่วยเหลือผู้เรียนให้สามารถบรรลุ เป้าหมายการเรียนรู้ ดังแสดงในภาพข้างล่าง ภาพที่ 4-2 แสดงการเปลี่ยนบทบาทของครู สื่อและผู้เรียนจากการถ่ายทอดมาเป็น
  • 12. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 53 ให้ผู้เรียนสร้างความรู้จากแหล่งเรียนรู้ จากภาพจะเห็นได้ว่า ได้มีแนวคิดเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ครูผู้สอนเป็นผู้ที่วางแผน และ ถ่ายทอดความรู้ต่างๆไปสู่ผู้เรียนโดยตรง ต่อมาเมื่อมีการพัฒนาทางด้านสื่อการสอนต่างๆ จึงมีการ ใช้สื่อการสอนถ่ายทอดเนื้อหาความรู้ต่างๆ ไปยังผู้เรียน เช่น แผ่นภาพโปร่งใส ภาพยนตร์ สไลด์ วิดีทัศน์ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เพื่อช่วยเปลี่ยนสิ่งที่เป็นนามธรรม ให้เป็นรูปธรรมเพิ่มขึ้น อีกทั้ง ยัง แก้ปัญหาเกี่ยวกับจานวนผู้เรียนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยตอบสนองด้านความแตกต่า ง ระหว่างบุคคล ในปัจจุบันได้เปลี่ยนจากการสอน หรือการ ถ่ายทอดโดยครูผู้สอน หรือสื่อการสอนมาสู่การเน้น ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางที่ให้ความสาคัญต่อการเรียนรู้ ของผู้เรียน โดยผ่านการปฏิบัติ ลงมือกระทาด้วย ตนเอง การพัฒนาศักยภาพทางการคิด ตลอดจนการ แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ดังนั้น ควรเปิดโอกาสให้ ผู้เรียนวางแผน ดาเนินการ และการประเมินด้วย ตนเอง เมื่อมีการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ การสอน มาสู่ การเรียนรู้ ดังนั้นเทคโนโลยีหรือนวัตกรรม ที่นามาเพิ่มประสิทธิภาพก็ต้องสอดรับกับแนวคิดดังกล่าว คือ มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการ เรียนรู้ของผู้เรียน ลักษณะของการนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม หรือสื่อมาใช้ที่สอดคล้องกับการ ปฏิรูปการเรียนรู้ เป็น "Media + Methods" หรือ "สื่อ ร่วมกับ วิธีการ" เช่น การใช้เว็บร่วมกับ การเรียนแบบร่วมมือเพื่อเปิดโอกาสให้ลงมือกระทาอย่างตื่นตัวในกระบวนการเรียนรู้ของตนเอง และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับเพื่อน รวมทั้งการขยายมุมมอง แนวคิดให้กว้ างขวางขึ้น อันนาไปสู่ การสร้างความรู้ที่มีความหมายของตนเองขึ้นมา ซึ่งจะเป็นความรู้ที่อยู่คงทน และสามารถถ่ายโอน ไปใช้ ในสถานการณ์ อื่น หรือ นาไปใช้ ในการแก้ปั ญหาต่ างๆในสภาพชี วิต จริ งได้ ส่ว นวิ ธีก าร (Methods) ที่สอดรับกับสภาพปัจจุบัน ได้แก่  การเรียนแบบค้นพบ (Discovery)  การเรียนแบบสืบเสาะ(Inquiry)  การเรียนแบบแก้ปัญหา (Problem Solving)  การเรียนแบบร่วมมือ (Cooperative Learning)  การเรียนโดยการสร้างความรู้ (Constructivism)  สถานการณ์จาลอง (Simulation)  การสร้างโครงงาน (Project base)
  • 13. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 54 ภาพที่ 4-3 แสดงแนวทางการออกแบบการเรียนรู้ที่ต้องประสานร่วมกันทั้งสื่อและวิธีการ นอกจากจะใช้สื่อร่วมกับวิธีการ ดังกล่าวมาข้างต้น อาจออกแบบการจัดการเรียนรู้ โดย เปลี่ยนเป็น "การจัดสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้" ซึ่งจะนาพื้นฐานทางทฤษฎีการเรียนรู้ หลักการ หรือ วิธีการ มาเป็นพื้นฐานในการออกแบบสื่ อ เช่น การจัดสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ บนเครือข่าย (Web-base learning) หรื อ การจัด สิ่ งแวดล้ อ มทางการเรีย นรู้ต ามแนวคอนสตรั ค ติวิ ส ต์ (Constructivism) ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ประสบผลสาเร็จนั้น ครูผู้สอนจะต้องทาการวางแผนการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ พร้อมๆไปกับการผลิตและการใช้สื่อการเรียนรู้ แนวทางในการพัฒนาสื่อการ เรียนรู้ มีดังต่อไปนี้ 1. วิเคราะห์วัตถุประสงค์ เนื้อหา 2. วิเคราะห์กิจกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ เนื้อหา 3. ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ควรพิจารณาลักษณะของกิจกรรม ดังต่อไปนี้  ผู้เรียนต้องลงมือปฏิบติอย่างตื่นตัว ั  เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ  เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีอสระในการคิดแก้ปัญหา หรือพัฒนาชิ้นงาน ิ หรือ โครงการ  ต้องคานึงให้ผู้เรียนร่วมเรียนรู้ หรือทางานเป็นกลุ่ม 4. วิเคราะห์กิจกรรมการเรียนรู้ดังกล่าวข้างต้น จะต้องสื่อการเรียนรู้ประเภทใดที่ช่วย สร้างความเข้าใจในความคิดรวบยอดนั้นได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเน้นกิจกรรมที่ผ่านกระบวนการที่ผู้เรียน ต้องลงมือค้นหาคาตอบ ทาความเข้าใจด้วยตนเอง หรือสะท้อนการเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
  • 14. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 55 5. จัดเตรียม สื่อการเรียนรู้ อาจจะผลิตขึ้นมาใหม่ หรือปรับปรุงจากของเดิม อาจอยู่ใน รูปของ  ชุดการทดลอง  ชุดกิจกรรม  สิ่งตีพิมพ์ เช่น เอกสาร ตารา วารสาร  เทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ เช่น อินเตอร์เน็ ต อีเลิร์นนิ่ง มัลติมีเดีย การเรียนรู้บนเครือข่าย แหล่งตามธรรมชาติ   แหล่งการเรียนรู้อื่นๆ 6. นาไปใช้ตามแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ  ผู้เรียน  ครูผสอนู้  สถานที่และสิ่งอานวยความสะดวก รูปแบบการใช้สื่อการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ในการใช้สื่อการเรียนรู้นั้น ผู้สอนควรมีการวางแผนการใช้สื่ออย่างเป็นระบบ สอดคล้อง กับวิธีการจัดการเรียนรู้ที่วางไว้ และบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายของการเรียนรู้ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ซึ่ง Heinich and other (2002) ได้เสนอกระบวนที่แนะแนวทางในการวางแผนการ จัดการเรียนรู้ที่มีบูรณาการเทคโนโลยีและสื่อลงในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ที่เรียกว่า ASSURE MODEL ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้  Analyze Learner  State Objectives  Select, modify, design Methods, Media, & Materials  Utilize Methods, Media, & Materials  Require Learner Participation  Evaluation and Revise
  • 15. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 56 ภาพที่ 4-4 แสดงองค์ประกอบของ Assure Model ของ Heinich and other (2002) การวิเคราะห์ผู้เรียน (Analyze Leaner Characteristics) ผู้สอนควรวิเคราะห์ผู้เรียนเพื่อเลือกใช้สื่อการเรียนรู้ให้สอดคล้องและเหมาะสม โดย พิจารณาในประเด็นดังต่อไปนี้ 1) คุณลักษณะทั่วไป – จานวนผู้เรียน ระดับชั้น อายุ เพศ สถานภาพทางสังคมและ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ชาติพันธุ์ ฯลฯ 2) สมรรถนะเฉพาะที่มีมาก่อน – ความรู้เดิมของผู้เรียน ทักษะทางปัญญา ความเข้าใจที่ คลาดเคลื่อนที่เกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียน 3) แบบการเรียน (Learning Styles) – ผู้สอนควรตรวจสอบเกี่ยวกับ  การรับรู้ของผู้เรียน ในลักษณะต่างๆ เช่น รับรู้ด้วยการฟัง การมองเห็น การสัมผัส และการเคลื่อนไหว  กระบวนการประมวลสารสนเทศของผู้เรียนว่ามีลักษณะอย่างไร  การสร้างปัจจัยทางด้านแรงจูงใจภายในและทางด้านกายภาพ เช่น ความวิตกกังวล แรงจูงใจทางด้านผลสัมฤทธิ์ ทางด้านสังคมหรือการแข่งขัน การกาหนดวัตถุประสงค์ (State Objectives) เป็นการอธิบายสิ่งที่ผู้จะต้องทาการเรียนรู้ สิ่งที่ผสอนต้องตระหนัก คือ ู้ 1) มุ่งเน้นผู้เรียน(ไม่ใช่ผู้สอน) 2) วัตถุประสงค์เป็นการอธิบายผลการเรียนรู้ การเลือกวิธีการ สื่อ และวัสดุ (Select method, media and Materials) 1) เลือกวิธีการสอนที่สามารถทาให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างเหมาะสม
  • 16. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 57 2) สื่อการเรียนรู้จะต้องสอดคล้องกับวิธีการสอน วัตถุประสงค์และผู้เรียน อาจจะอยู่เป็น ข้อความ ภาพนิ่ง วีดิทัศน์ เสียง และคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย การเลือก ปรับ ออกแบบวิธีการ สื่อ และวัสดุ (Select, modify, Design Methods, Media, & Materials) มีหลักในการพิจารณาดังนี้ 1) เลือกสื่อโดยคานึงถึงความต้องการของผู้เรียน 2) เลือกสื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการเรียน 3) เลือกสื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 4) เลือกสื่อให้สอดคล้องกับแบบการเรียนและคุณลักษณะของผู้เรียน 5) เลือกใช้สื่อที่หลากหลายลักษณะ/รูปแบบ การใช้วิธีการ สื่อและวัสดุ (Utilize method, Media and Materials) การวางแผนเกี่ยวกับวิธีการนาสื่อและวัสดุไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ ตามแผนการจัดการ เรียนรู้ที่กาหนดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเรียน เพื่อที่จะใช้สื่อได้อย่างถูกต้องและสอดคล้อง กับการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ควรพิจารณาตามรายละเอียดต่อไปนี้ 1) ตรวจสอบสื่อ เปิดดูก่อน (Preview the material) 2) เตรียมสื่อให้พร้อมใช้งาน (Prepare the material) 3) เตรียมห้องเรียนและสภาพแวดล้อม (Prepare the environment) 4) แนะนาวิธีการใช้สาหรับผู้เรียน (Prepare the learners) 5) การให้ประสบการณ์เกี่ยวกับสื่อแก่ผู้เรียน (Provide the learning experience) สิ่งที่ต้องการให้ผู้เรียนตอบสนอง (Require Learner Response) 1) อธิบายวิธีการที่ผู้เรียนต้องมีส่วนร่วมหรือทาการเรียนรู้อย่างตื่นตัว (actively) 2) บทบาทของผู้เรียนในชั้นเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้เทคโนโลยีในการสร้างประสบ การเรียนรู้ 3) กิจกรรมต่างๆควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้จัดกระทากับสารสนเทศและมีเวลาเพียงพอ สาหรับการลงมือปฏิบัติ การประเมินและการปรับ (Evaluation and revise) แนวทางการประเมินเกี่ยวกับสื่อมีลักษณะสาคัญดังนี้ 1) การประเมินความสามารถของผู้เรียน (Evaluate student performance) เพื่อ ตรวจสอบว่าผู้เรียนสามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์หรือไม่ การประเมินควรจะสอดคล้อง กับวัตถุประสงค์ (อาจเป็น Assess หรือ Evaluation) 2) การประเมินสมรรถนะของสื่อ (Evaluate media components) เพื่อตรวจสอบว่าสื่อมี ประสิทธิภาพหรือไม่ 3) การประเมินความสามารถของผู้สอน (Evaluate instructor performance) เพื่อ ตรวจสอบว่าผู้สอน จัดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ คาถามสะท้อนความคิด
  • 17. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 58  ท่านคิดว่าลักษณะสาคัญที่แสดงถึงความแตกต่างระหว่างสื่อการสอนกับสื่อการเรียนรู้คือ อะไร  สื่อการเรียนรู้แต่ละประเภทมีจุดเด่นที่สามารถนาไปใช้ในการจัดการเรียนรู้อย่างไร  หลักการสาคัญในการเลือกใช้สื่อการเรียนรู้เป็นอย่างไร กิจกรรมเสนอแนะ ให้ท่านลองนาหลั กการเลือกใช้สื่อการเรียนรู้มาเป็นพื้นฐานเพื่อพิจารณา ความเหมาะสมของสื่อที่สอดคล้องกับสาระวิชาเอกของท่าน บรรณานุกรม กรมวิชาการ. (2545). เอกสารประกอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544 คู่มือ การจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ. กรุงเทพฯ : องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุ ภัณฑ์ ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2521). เอกสารการสอนชุดวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา, หน่วยที่ 1- 15. กรุเทพฯ: สหมิตร. ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2529). เอกสารการสอนชุดวิชาการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษา หน่วยที่ 11- 15 พิมพ์ครั้งที่ 5 นนทบุรี สานักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ไชยยศ เรืองสุวรรณ (2526). เทคโนโลยีทางการศึกษา: หลักการและแนวปฏิบัติ. กรุงเทพฯ : วัฒนาพานิช. เปรื่ อง กุมุ ท . (2519). เทคนิค การเขีย นบทเรีย นโปรแกรม. คณะศึก ษาศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย ศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร. สุมาลี ชัยเจริญ. (2547). การพัฒนารูปแบบการสร้างความรู้โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ. คณะ ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. Brown, James W., Lewis, Richard B., and Harcleroad, Fred F. (1985). AV Instructional Technology, Media, and Methods. 6th ed. New York: McGraw- Hill Book Company, Inc. Bruner, J. S. (1983). In search of mind: Essays in autobiography. New York: Harper & Row. Driscoll, M. P. (1994). Psychology of learning for instruction. Boston: Allyn and Bacon. Gerlach, V. S. & Ely, D. P. (1980). Teaching & Media: A Systematic Approach (2nd ed.). Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall Incorporated.
  • 18. บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้ 59 Heinich, Molenda and Russell. (1985). Instructional media and the new technologies of instruction. Wiley : New York. Heinich, R., Molenda, M., Russell, J., & Smaldino, S. (2001). Instructional media and technologies for learning. Journal of Marketing Education, (7th ed.). Englewood Cliffs, NJ: Prentice Hall. Heinich, R., Molenda, M., Russel, J.D., Smaldino, S.E. (2002). Instructional Media and Technologies for learning, 7th edition. Merrill Prentice Hall. Honey, M., & Moeller, B. (1990). Teachers’ beliefs and technology integration: Different values, different understanding. New York: Center for Technology in Education. Kozma, R.B. (1991). The impact of computer-based tools and embedded prompts on writing processes and products of novice and advanced college writers." Cognition and Instruction, 8 (1), 1-27. Levin, T., & Wadmany, R. (2006). Teachers' beliefs and practices in technology- based classrooms: A developmental view. Journal of Research on Technology in Education, 39(2), 157-181.