More Related Content
More from คนที่แปดด' ซิปปี้ (6)
ปริศนาคำสาปแห่งราชวงศ์โรมานอฟ
- 2. ปี ค.ศ. 1896 นิโคลาสที2 และอเล็กซานดรา ทรงราชาภิเษก
่
ขึ้นเป็นซาร์และซาริน่าปกครองอาณาจักร อันไพศาลของรัสเซีย
มีการดื่มเฉลิมฉลองกันทั่วทั้งเมือง และระหว่างที่ผู้คนแก่งแย่ง
เบียร์และขนมปังที่นามาแจกกันอย่างชุลมุน กลายเป็นจลาจล
ราษฎรทั้งชายหญิงและเด็กโดนเหยียบตายไปกว่าพันคน
- 8. รัสเซียได้เข้าร่วม ในสงครามโลกครั้งที่ 1 พระเจ้าซาร์(นิ
โคลาสที2)ทรงออกร่วมในการบัญชาการ เป็นเหตุให้ต้องเหิน
่
ห่างพระราชวัง เปิดโอกาสให้รัสปูตินได้กระทาการบัดสีต่างๆ
ได้ตามอาเภอใจ ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นที่โปรดปรานของ ซาริน่า
(อเล็กซานดรา)อย่างยิ่ง อีกทั้งพลังสายตาอันแข็งกล้าของเขา
ก็ยังสยบผู้คนให้ตกอยู่ใต้ อานาจได้อีกด้วย
- 12. ความเหิมเกริมของรัสปูตินทาให้เชื้อพระวงศ์และข้าราชบริพารกลุ่ม
หนึ่งไม่อาจทนต่อไปได้ โดยเฉพาะเจ้าชาย ยูสโซปอฟ ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ผู้
มั่งคั่งที่สุดองค์หนึ่ง เจ้าชายจึงทรงวางแผนกับผูใกล้ชิด ลวงรัสปูตินให้มา
้
เยือนวังของพระองค์ใน นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แล้วล่อให้เขาลงไปยังห้อง
ใต้ดิน จากนั้น ก็ให้รัสปูตินดื่มไวน์และอาหาร หากทว่าทั้งอาหารและไวน์นี้
ได้เจือปนไซยาไนด์ ขนาดฆ่าคนธรรมดาได้อย่างสบาย แต่รัสปูตินยังมีทีท่า
ปกติ เจ้าชายจึงชักปืนออกมากระหน่ายิงรัสปูตินจนล้มคว่า แต่สักพักร่าง
นั้นกลับลืมตาและลุกขึ้นเดินอย่างโซซัดโซเซออกไป พร้อมมีผู้วางแผนไล่ยิง
ตามหลัง แต่กระสุนปืนไม่อาจปลิดชีพเขาผู้นี้ได้ สุดท้ายเหล่าเพชฌฆาต
จาเป็นจึงจับร่างของรัสปูตินโยนลง ในแม่น้าเนวา อากาศที่หนาวจัดทาให้
น้า บางส่วนกลายเป็นน้าแข็ง เขาจึงตายในที่สุด
- 16. ก่อนหน้าการตายไม่นานนัก รัสปูตินได้มีจดหมายถึงซารี
นา(อเล็กซานดรา) ว่า "หากกระหม่อมตายด้วยน้ามือของ
ปุถุชนทั่วไป ราชวงค์โรมานอฟไม่กระทบกระเทือนอันใด และ
จะเกิดไปอีกเป็น100ปี แต่หากกระหม่อมตายด้วยน้ามือของเชื้อ
พระวงศ์องค์ใดก็ตาม พระองค์และครอบครัวจะต้อง
สิ้นพระชนม์ภายในสองปี จากฝีมือของประชาชนรัสเซีย” จาก
เหตุการตายของรัสปูติน จึงสร้างความโศกศัลย์แก่อเล็กซานด
รายิ่งนัก พร้อมกับทรงหวั่นไหวอย่างยิ่ง กับคาสาปแช่งใน
จดหมายนั้น
- 17. ไม่ถึง 3 เดือนหลังการตายของรัสปูติน กระแสแห่งการ
ปฏิวัติหลั่งไหลเข้ามาสู่นครหลวงของรัสเซีย ขบวนชาวนาและ
คนงานอุตสาหกรรมแห่กันเข้ามาถวายฎีกาปรับปรุงระบบการ
บริหารประเทศ แต่องครักษ์วังหลวงกลับต่อต้านด้วยอาวุธปืน
ความจลาจลวุ่นวายบังเกิดขึ้น และผลสุดท้ายพระเจ้าซาร์(นิโค
ลาสที2)ก็จาต้องสละราชบัลลังก์ พระองค์และเชื้อพระวงศ์ถูก
่
ควบคุมตัวและถูกนาไปกักขังไว้ ณ ไซบีเรียอันห่างไกลและ
กันดาร
- 18. ยามดึกของคืนวันที่ 16 กรกฎาคม 1918 ครอบครัวโรมา
นอฟกับบริพาร และแพทย์ผู้ดูแล รักษา ทั้งหมดถูกปลุกขึ้นและ
นาตัวลงไปยังห้องใต้ดิน นายทหารผู้ควบคุมได้อ่านประกาศ
“ด้วยเหตุที่วงศาคณาญาติของท่านดาเนินการโจมตีโซเวีย
ตรัสเซีย คณะกรรมการบริหารแห่งอูรัล จึงตัดสินประหารท่าน”
แถวทหารเพชฌฆาต 12 นาย ประทับปืนขึ้นยิงกราด ผู้คุม
ก้าวเดินสารวจพบ เจ้าชายน้อยอเล็กไซยังไม่สิ้นพระชนม์ จึงยก
ปืนพกขึ้นยิงองค์รัชทายาท 2-3 นัด ก็เป็นอันปิดฉากราชวงศ์โร
มานอฟ