การออกแบบและพัฒนาโปรแกรม Week4

1. การออกแบบและพัฒนาโปรแกรม
ธนสาร รุจิรา
kruarm@bicec.ac.th

2. Week 4
Concept of Programing

3. ทบทวนความหลัง Week 3

9. รูปแบบการเขียนโปรแกรม
1. ตามลาดับ (Sequence)
เป็นส่วนงานที่ต้องทาตามลาดับ ก่อน-หลัง
Command A
Command B
Command C
END

10. ตัวอย่าง
ตามลาดับ (Sequence)

11. รูปแบบการเขียนโปรแกรม
2. เลือกทา(Selection)
การเลือกทาแบบเลือกทาทางเดียว
เรียกว่า if-then
Command A
เงื่อนไข
จริง เท็จ

12. ตัวอย่าง
เลือกทา(Selection)
การเลือกทาแบบเลือกทาทางเดียว
เรียกว่า if-then

13. รูปแบบการเขียนโปรแกรม
2. เลือกทา(Selection)
การเลือกทาแบบเลือกทาสองทาง
เรียกว่า if-then-else
Command A
เงื่อนไข
จริง เท็จ
Command A

14. ตัวอย่าง
เลือกทา(Selection)
การเลือกทาแบบเลือกทาสองทาง
เรียกว่า if-then-else

15. เลือกแบบซับซ้อน

16. รูปแบบการเขียนโปรแกรม
2. เลือกทา(Selection)
การเลือกทาแบบเลือกทามากกว่าสองทาง เรียกว่า case
Command A Command D
Condition
Command B Command C

17. รูปแบบการเขียนโปรแกรม
3. การทาซา (LOOPING)
การทางานซาแบบตรวจสอบเงื่อนไขก่อนทา
เรียกว่า Do-While
(ทาในขณะที่ เช่น X<=10)
Command B
Condition
จริง
เท็จ
Command A

18. ตัวอย่าง
การทาซา
(LOOPING)
การทางานซาแบบตรวจสอบ
เงื่อนไขก่อนทา
เรียกว่า Do-While

19. รูปแบบการเขียนโปรแกรม
3. การทาซา (LOOPING)
การทางานซาแบบตรวจสอบเงื่อนไขหลังทา
เรียกว่า Repeat-Until
(ทาในขณะที่ เช่น X=10)
Command B
Condition
จริง
เท็จ
Command A

20. ตัวอย่าง
การทาซา
(LOOPING)
การทางานซาแบบตรวจสอบ
เงื่อนไขหลังทา เรียกว่า
Repeat-Until

21. ขันตอนการเขียนโปรแกรม
1. กาหนดและวิเคราะห์ปัญหา
2. เขียนผังงานและซูโดโค้ด
3. เขียนโปรแกรม
4. ทดสอบและแก้ไขโปรแกรม
5. ทาเอกสารและบารุงรักษาโปรแกรม

22. ตัวอย่าง 1
จงเขียนโปรแกรมรับค่าเลขจานวนเต็ม
2 จานวนและหาผลบวกของเลขทัง 2 จานวนนัน

23. 1 กาหนดและวิเคราะห์ปัญหา
1. ปัญหา คือ รับค่าเลขจานวนเต็ม 2 จานวนและหาผลบวก
ผลรวม
2. ตัวแปรที่ใช้ คือ
X ใช้เก็บเลขจานวนเต็มตัวที่ 1
Y ใช้เก็บเลขจานวนเต็มตัวที่ 2
SUM ใช้เก็บผลรวม
= เลขจานวนเต็มตัวที่ 1 + เลขจานวนเต็มตัวที่ 2

24. 1 กาหนดและวิเคราะห์ปัญหา
3. ข้อมูลนาเข้า คือ ค่าของ X และ Y
4. ผลลัพธ์ คือ คานวณหาผลบวก จากสูตร
SUM = X + Y

25. 1 กาหนดและวิเคราะห์ปัญหา
ขันตอนการทางาน
1. รับค่า X และ Y เข้ามาในโปรแกรม
2. คานวณหาผลบวก
จากสูตร SUM = X + Y

26. 2 เขียนผังงานและซูโดโค้ด
ซูโดโค้ด (Pseudocode)
START
READ X
READ Y
COMPUTE SUM=x + Y
PRINT SUM
STOP
เขียนลาดับการทางานของ
โปรแกรม โดยใช้ประโยค
ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษ ที่ สื่ อ
ความหมายง่าย ๆ

27. 2 เขียนผังงานและซูโดโค้ด
ผังงาน (Flowchart)
เขียนลาดับการทางานของ
การเขียนโปรแกรม โดย
แทนด้วยสัญลักษณ์เป็นตัว
สื่อความหมาย
START
INPUT X,Y
SUM=X+Y
PRINT SUM
STOP

28. ตัวอย่าง 2
จงเขียนโฟลวชาร์ตแสดงขันตอน
การหาพืนที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู

29. 1. ปัญหา คือ ต้องการคานวณหาพืนที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู จากสูตร
พืนที่สี่เหลี่ยมคางหมู = 1/2 x ผลบวกของด้านคู่ขนาน x สูง
2. ตัวแปรที่ใช้ คือ
w1 ใช้เก็บความยาวของด้านคู่ขนานด้านที่ 1
w2 ใช้เก็บความยาวของด้านคู่ขนานด้านที่ 2
h ใช้เก็บความสูงของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
Area ใช้เก็บพืนที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
ตัวอย่างที่ 1
จงเขียนโฟลวชาร์ตแสดงขันตอนการหาพืนที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
1 กาหนดและวิเคราะห์ปัญหา

30. ตัวอย่างที่ 1
จงเขียนโฟลวชาร์ตแสดงขันตอนการหาพืนที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
3. ข้อมูลนาเข้า คือ ค่าของ W1,W2 และh
4. ผลลัพธ์ คือ คานวณพืนที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู จากสูตร
Area= 1/2 x (w1+w2) x h
1 กาหนดและวิเคราะห์ปัญหา

31. ตัวอย่างที่ 1
จงเขียนโฟลวชาร์ตแสดงขันตอนการหาพืนที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
2 เขียนผังงานและซูโดโค้ด
START
INPUT w1,w2,h
Area = 1/2 x (w1+w2) x h
STOP

32. START
INPUT w1,w2,h
Area =1/2 x(w1+w2)x h
STOP
Area
INPUT w1,w2,h
START
Area =1/2 x(w1+w2)x h
STOP
Area

33. ตัวอย่างที่ 1
จงเขียนโฟลวชาร์ตแสดงขันตอนการหาพืนที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
3 เขียนโปรแกรม #include <stdio.h>
viod main(viod)
{
int x,y,sum;
printf(“Value of x is : ”);
scanf(“%d”,&x);
printf(“Value of y is : ”);
scanf(“%d”,&y);
sum=x+y;
printf(“Sum of %d+%d is %dn”,x,y,sum);
}

34. ตัวอย่างที่ 1
จงเขียนโฟลวชาร์ตแสดงขันตอนการหาพืนที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
3 เขียนโปรแกรม #include <stdio.h>
viod main(viod)
{
int x,y,sum;
printf(“Value of x is : ”);
scanf(“%d”,&x);
printf(“Value of y is : ”);
scanf(“%d”,&y);
sum=x+y;
printf(“Sum of %d+%d is %dn”,x,y,sum);
}
INPUT X
INPUTY
SUM X+Y
PRINT SUM

35. ตัวอย่างที่ 1
จงเขียนโฟลวชาร์ตแสดงขันตอนการหาพืนที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
4 ทดสอบและแก้ไขโปรแกรม
เป็นการนาผลลัพธ์จากขันตอนที่ 3 มาทาการ Run
แล้วทดสอบโดยการป้อนค่า x และ y เข้าไปในโปรแกรม
และตรวจสอบผลลัพธ์ที่ได้ว่าถูกต้องหรือไม่ หากไม่
ถูกต้องก็กลับไปทาการแก้ไขโปรแกรมอีกครัง

36. ตัวอย่างที่ 1
จงเขียนโฟลวชาร์ตแสดงขันตอนการหาพืนที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
5 ทาเอกสารและบารุงรักษาโปรแกรม
จุดประสงค์ที่สาคัญของการจัดทาคู่มือเพื่อช่วยให้ผู้อื่น
ศึกษาซอร์สโค้ดของโปรแกรมได้ง่ายขึน จะเป็นประโยชน์
สาหรับการพัฒนาเพิ่มเติมในอนาคต สิ่งที่สาคัญสาหรับการ
จัดทาคู่มือ คือ
“คู่มือมีรายละเอียดมากที่สุด”

37. แบบฝึกหัด การเขียนผังงาน

38. START
นำเข้ำคะแนน
เกรด 1
STOP
คะแนน < 50
เกรด 0
จริงเท็จ

46. Homework