2. อาณาจั ก รสุ โ ขทั ย ก่ อ ตั ้ ง ขึ ้ น
ประมาณ พ. ศ. ๑๗๙๒
โดย พ่ อ ขุ น บางกลางหาว กั บ
พ่ อ ขุ น ผาเมื อ ง

3. ๑ ) ขอมเสื ่ อ มอำ า นาจลง เนื ่ อ งจากพระเจ้ า ชั ย ว
รมั น ที ่ ๗ สวรรคต
๒ ) ความเข้ ม แข็ ง ของผู ้ น ำ า และความสามั ค คี
ของคนไทย
๓ ) ทำ า เลที ่ ต ั ้ ง กรุ ง สุ โ ขทั ย เหมาะสม อยู ่ บ นฝั ่ ง
แม่ น ำ ้ า ยม
การคมนาคมสะดวก

4. ๑ ) พ่ อ ขุ น ศรี อ ิ น ทราทิ ต ย์ ๖ ) พระมหาธรรมราชาที ่ ๑
ไทย )
๒ ) พ่ อ ขุ น บาลเมื อ ง ๗ ) พระมหาธรรมราชาที ่ ๒
๓ ) พ่ อ ขุ น รามคำ า แหงมหาราช ๘ ) พระมหาธรรมราช
๓ ( ไสยลื อ ไทย )
๔ ) พญาเลอไทย ๙ ) พระมหาธรรมราชาที ่ ๔
( บรมปาล )
๕ ) พญางั ่ ว นำ า ถุ ม

5. ปกครองแบบพ่อปกครองลูก กษัตริย์มี
คำำนำำหน้ำพระนำมว่ำ “พ่อขุน” ผู้คน
เดือดร้อนสั่นกระดิงที่หน้ำประตูวัง
่
พ่อขุนรำมคำำแหงมหำรำช จะเสด็จ
ออกตัดสินด้วยพระองค์เอง

6. เมือง
เมือง
ประเทศรำ เมือง
ช เมืองพระยำกหลวง
ลู
หลวง

7. ผมรูครับ ฮ่ะ ฮ่ะ
้
คุณยำยเคยเล่ำ
ให้ฟัง
เมืองหลวง ปกครองโดยพระมหำกษัตริย์
เมืองลูกหลวง ปกครองโดยรำชโอรส
เมืองพระยำมหำนคร ปกครองโดยขุนนำงชั้น
ผู้ใหญ่
เมืองประเทศรำช ปกครองโดยเจ้ำเมืองนั้นๆ แต่

8. กำรเมืองกำรปกครองช่วงนี้ได้รบอำรยธรรม
ั
ตะวันออกมำจำกแหล่งต่ำงๆ เช่น อินเดีย
ลังกำ มอญ เขมร จึงมีกำรปกครองแบบ “
ธรรมรำชำ ” คำำนำำหน้ำพระนำมพระมหำ
กษัตริย์เปลี่ยนจำก “พ่อขุน” มำเป็น
“พระยำ”(พญำ) หรือ“พระมหำธรรมรำชำ”

9. แผนทีแสดง
่
อำณำจักรสุโขทัยจีน
ล้ำน
นำ สมัยพ่อขุน
สุโข รำมคำำแหงมหำรำชญว
ทัย น
ขอม
นครศรีธร
รมรำช

10. อยู่ทำงด้ำนเหนือของสุโขทัย พญำ
เม็งรำยแห่งล้ำนนำนเป็นเพื่อนสนิทกับ
พ่อขุนรำมคำำแหงมหำรำช
พระเจ้ำฟ้ำรั่ว(มะกะโท) มีฐำนะเป็น
รำชบุตรเขยของพ่อขุนรำมมหำรำช
เมือสินสมัยพ่อขุนรำมฯ ก็แยกตัวเป็น
่ ้

11. พ่อขุนรำมคำำแหงมหำรำช ทรงนำำ
พระพุทธศำสนำนิกำยเถรวำทจำก
นครศรีธรรมรำชมำประดิษฐำนในกรุง
สุโขทัย
มีควำมสัมพันธ์กับสุโขทัยทำงด้ำน
วัฒนธรรมทำงพระพุทธศำสนำนิกำย
เถรวำท ลัทธิลงกำวงศ์
ั
มีควำมสัมพันธ์กับสุโขทัยในลักษณะกำร
ค้ำในระบบบรรณำกำร

13. 1. มีแม่นำ้ำ ปิง ยม และ น่ำน ไหลผ่ำน
2. มีกำรจัดระบบชลประทำน มี ทำำนบ
กักเก็บนำ้ำ(สรีดภงส์)
ขุดสระนำ้ำ(ตระพัง) รอบเมือง
สุโขทัย และเมืองสำำคัญ

14. 1. สินค้ำออกที่สำำคัญคือ เครื่องสังคโลก
พริกไทย นำ้ำตำล งำช้ำง
2. สินค้ำเข้ำทีสำำคัญ คือ ผ้ำไหม ผ้ำทอ
่
อัญมณี
3. ตลำดปสำน คือ ตลำดประจำำหมู่บ้ำน
4. จกอบ(จังกอบ) คือ ภำษีผ่ำนด่ำน ซึง ่
ไม่มกำรเก็บ ทำำให้มปริมำณสินค้ำ
ี ี
มำก รำคำถูก

15. งำนหัตถกรรมที่มชื่อเสียงของ
ี
สุโขทัยคือ กำรทำำเครื่องปั้นดินเผำ
เครื่องสังคโลกทีเผำโดยใช้เตำทุ
่ เตำทุ
เรียงซึ่งทีมีผลิตมำกคือ ถ้วยชำม
่
รองลงมำคือ แจกัน คนโฑ และ
ตุ๊กตำต่ำงๆ
เครื่อง
สังคโลก
เครื่อง
สังคโลก

17. 1.เจดีย์แบบสุโขไทยแท้ ฐำนเป็น
สีเหลียมสำมชัน ตังซ้อนกัน องค์
่ ่ ้ ้
เจดีย์เป็นทรงกลม ยอดเจดีย์พุ่ม
ข้ำวบิณฑ์(ดอกบัวตูม)
2.เจดีย์ทรงกลมแบบลังกำ( คล้ำย
ระฆัง)
3. เจดีย์แบบศรีวิชัย ฐำนเป็น
สีเหลียม องค์ระฆังสูง
่ ่

18. มีลักษณะเด่นคือ พระเกศมีรัศมีเปลว
เพลิง พระเกศำขมวดเป็นก้นหอย พระ
พักตร์รูปไข่ พระนำสิกแหลมงุ้ม
พระโอษฐ์ยิ้มเล็กน้อย พระอังสะใหญ่
ครองจีวรห่มเฉลียง ชำยจีวรยำวจรดพระ
นำภี

19. สมัยสุโขทัย พบภำพจิตกรรมทั้งลำย
เส้นและภำพสีฝุ่นตำมฝำผนัง สี่นยม ิ
ใช้เป็นสีกลุ่มดำำแดง ทีเรียกว่ำ “สี
่
เอกรงค์”

21. เป็นพระรำชนิพนธ์ ของ
พระมหำธรรมรำชำที่
1(ลิไท) ซึ่งเกี่ยวกับ
พระพุทธศำสนำ มุง ่

22. 1) ควำมไม่เข้มแข็งของกษัตริย์
สุโขทัยบำงพระองค์
2) กำรแย่งชิงอำำอำจกันเองใน
หมู่ผู้นำำของสุโขทัย
3) กำรประกำศตนเป็นอิสระของ

23. แม้ว่ำอำณำจักรสุโขทัย
จะเจริญรุงเรืองได้นำน
่
ถึง 200 ปี ด้วยเหตุ
ปัจจัยหลำยๆอย่ำงข้ำง
ต้น ทำำให้อำณำจักร
สุโขทัยต้องล่มสลำยลง
จำำไว้นะคะในฐำนะที่เรำเป็น
ในทีสุด
่
คนไทย ไม่ว่ำจะอยู่ในแผ่น
ดินของรำชวงศ์ไหนก็ขอให้
เรำปฏิบัติตนเป็นคนดีของ