SlideShare a Scribd company logo
1 of 4
Blogคืออะไร
Blogเป็นคำรวมมำจำกศัพท์คำว่ำเว็บล็อก(WeBlog)สำมำรถอ่ำนได้ว่ำWe Blog หรือ
Web Logไม่ว่ำจะอ่ำนได้อย่ำงไรทั้งสองคำนี้ก็บ่งบอกถึงควำมหมำยเดียวกันว่ำคือบล็อก(Blog)
คำว่ำ"บล็อก"สำมำรถใช้เป็นคำกริยำได้ซึ่งหมำยถึงกำรเขียนบล็อก
และนอกจำกนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอำชีพก็จะถูกเรียกว่ำ"บล็อกเกอร์"
ความหมายของคาว่าBlog
คือกำรบันทึกบทควำมของตนเอง(PersonalJournal) ลงบนเว็บไซต์โดยเนื้อหำของ
blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่องไม่ว่ำจะเป็นเรื่องรำวส่วนตัว หรือเป็นบทควำมเฉพำะด้ำนต่ำง
ๆ เช่น เรื่องกำรเมือง เรื่องกล้องถ่ำยรูปเรื่องกีฬำ เรื่องธุรกิจ เป็นต้น
โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือผู้เขียนบล็อก จะมีกำรแสดงควำมคิดเห็นของตนเอง
ใส่ลงไปในบทควำมนั้นๆ โดยบล็อกบำงแห่ง จะมีอิทธิพลในกำรโน้มน้ำวจิตใจผู้อ่ำนสูงมำก
แต่ในขณะเดียวกันบำงบล็อกก็จะเขียนขึ้นมำเพื่อให้อ่ำนกันในกลุ่มเฉพำะเช่นกลุ่มเพื่อนๆ
หรือครอบครัวตนเอง
มีหลำยครั้งที่เกิดควำมเข้ำใจกันผิดว่ำBlogเป็นได้แค่ไดอำรี่ออนไลน์
แต่ในควำมเป็นจริงแล้ว ไดอารี่ออนไลน์เปรียบเสมือน เนื้อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น
เพรำะบล็อกมีเนื้อหำที่หลำกหลำยประเภทตั้งแต่กำรบันทึกเรื่องส่วนตัวอย่ำงเช่นไดอำรี่
หรือกำรบันทึกบทควำมที่ผู้เขียนบล็อกสนใจในด้ำนอื่นด้วยที่เห็นชัดเจนคือ
เนื้อหำบล็อกประเภทวิจำรณ์กำรเมืองหรือกำรรีวิวผลิตภัณฑ์ต่ำงๆที่ตัวเองเคยใช้
หรือซื้อมำนั่นเอง อีกทั้งยังสำมำรถแตกแขนงไปในเนื้อหำในประเภทต่ำงๆอีกมำกมำย
ตำมแต่ควำมถนัดของเจ้ำของบล็อกซึ่งมักจะเขียนบทควำมเรื่องที่ตนเองถนัดหรือสนใจเป็นต้น
จุดเด่นที่สุดของ Blogก็คือมันสำมำรถเป็นเครื่องมือสื่อสำรชนิดหนึ่ง
ที่สำมำรถสื่อถึงควำมเป็นกันเองระหว่ำงผู้เขียนบล็อก และผู้อ่ำนบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้ ำหมำย
ที่ชัดเจนของบล็อกนั้นๆผ่ำนทำงระบบcomment ของบล็อกนั่นเอง
ประโยชน์ของ web blog
Blog มีไว้เพื่อตอบสนองตัณหำของเจ้ำของ blog ถึงแม้ว่ำblog
จะมีลักษณะหน้ำตำคล้ำยกันแต่blogแต่ละแห่งจะมีบุคลิกเฉพำะตัว
แตกต่ำงกันไปเหมือนบุคลิกบำง blogแค่เล่ำเรื่องชีวิตประจำวันบำง blogเกำะติดข่ำวบำง blog
คุยเรื่องกำรเมืองหรือปรัชญำ จงนั้นอำจแบ่งประโยชน์ได้หลำยแบบด้วยกัน
ซึ่งอำจจะแจกแจงได้ดังนี้
1.เปิ ดตัวเองให้โลกรู้ เรื่องของ blog มักเป็นเรื่องรำวของเจ้ำของ blog
เป็นกำรเล่ำประสบกำรณ์หรือควำมคิดของเจ้ำของ
เป็นกำรถ่ำยทอดควำมคิดควำมรู้สึกของเจ้ำของ blogเป็นกำรระบำยควำมเคลียดอีกทำงหนึ่ง
2.ทันข่าวทันเหตุการณ์ ประสบกำรณ์บำงคนก็เป็นข่ำวเห็นอีกหลำยคนได้ ข่ำวจำก blog
หลำยแห่งเป็นข่ำววงในบำงคนเล่ำเหตุกำรณ์หรืออุบัติเหตุที่เจอมำหลำย blog
พูดถึงแนวโน้มหรือควำมเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ
3.กลั่นกรองข้อมูล blog บำง blog จะมีกำรกลั่นกรองข้อมูลก่อนนำลง blogทำให้ผู้อ่ำน
blog ไม่ต้องเสียเวลำในกำรกลั่นกรองข้อมูล
เพรำะมีกำรนำเสนอข้อมูลหรือมีไกด์ในกำรท่องเว็บ
4.รายงานการท่องเว็บ เป็นวัตถุประสงค์หลักที่เป็นต้นกำเนิดของกำรทำ blogหลำยblog
มีกำรลิงก์ไปยังเว็บที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหำในblogซึ่งเป็นกำรแนะนำว่ำเว็บไหนดีก็ไปที่เว็บนั้น
5.การแสดงความคิดเห็น ไม่ว่ำจะเป็นควำมในใจของเรื่องต่ำงๆควำมคิดเชิงสร้ำงสรรค์
หรือกำรบ่นที่ทุกคนมีอยู่ในใจ กำรทำblog เป็นช่องทำงถ่ำยทอดควำมคิดเห็นให้คนอื่นรับรู้
6.ถ่ายทอดประสบการณ์ หรือไดอะรี่ออนไลน์
เป็นกำรถ่ำยทอดเรื่องรำวในชีวิตประจำวันหรือเป็นกำรเล่ำเรื่องกำรเดินทำงท่องเที่ยว เช่น
www.terrystrek.com
7.โน้มน้าวใจผู้อ่าน ลักษณะนี้เป็นกำรโฆษณำชวนเชื่อ
แต่กรณีแบบนี้เป็นกำรขำยควำมคิดอย่ำง blogสำหรับคอกำรเมืองอำจจะมีฝ่ำยซ้ำย -
ฝ่ำยขวำ,สำยเหยี่ยว - สำยพิรำบ จะพบว่ำเนื้อหำจะเป็นกำรโพสต์โจมตีฝ่ำยตรงข้ำม
แล้วก็สนับสนุนแนวควำมคิดของตนเอง
ความเป็นมาของบล็อก
“Weblog” ถูกใช้งำนเป็นครั้งแรกโดยJornBarger ในเดือนธันวำคมปี ค.ศ. 1997
เริ่มแรกคนที่เขียนบล็อกนั้นยังทำกันในระบบManualคือเขียนเว็บเพจขึ้นเองทีละหน้ำ
เขียนเป็นงำนอดิเรกของกลุ่มสื่ออิสระต่ำงๆหลำยๆ
แห่งกลำยเป็นแหล่งข่ำวสำคัญให้กับหนังสือพิมพ์หรือสำนักข่ำวชั้นนำ
แต่ในปัจจุบันนี้ผู้คนหลำยล้ำนคนจำกทั่วทุกมุมโลกหันมำเขียนบล็อกกันอย่ำงแพร่หลำย
ตั้งแต่นักเรียนนักศึกษำอำจำรย์นักเขียนตลอดจนผู้บริหำรบริษัทยักษ์ใหญ่
อีกทั้งยังมีเครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ให้เรำใช้ในกำรเขียนบล็อกได้มำกมำยเช่น Drupal,
WordPress, Movable Typeเป็นต้น ต่อมำมีฝรั่งที่ชอบเรียกสั้นๆ ชื่อนำย Peter Merholz
จับมำเรียกย่อเหลือแต่“Blog” แทนในเดือนเมษำยน ปี ค.ศ.1999
และคำคำนี้เริ่มใช้เป็นครั้งแรกๆผ่ำนทำงหน้ำหนังสือพิมพ์และนิตยสำรจนมำถึงวันที่ 13
มีนำคม ค.ศ.2003 ทำง Oxford English Dictionary จึงได้บรรจุคำว่ำblogในพจนำนุกรม
แสดงว่ำได้รับกำรยอมรับอย่ำงเป็นทำงกำรบล็อก(Blog) ขึ้นแท่นศัพท์ยอดฮิตอันดับหนึ่ง
ซึ่งถูกเสำะแสวงหำควำมหมำยทำงพจนำนุกรมออนไลน์มำกที่สุดประจำปี 2004
และคนเขียนบล็อกก็ได้รับกำรยอมรับจำกสื่อและสำนักข่ำวต่ำงๆ
ถึงควำมรวดเร็วในกำรให้ข้อมูลตั้งแต่เรื่องกำรเมืองไปจนกระทั่งเรื่องรำวของกำรประชุมระดับช
ำติ และจำกเหตุกำรณ์เหล่ำนี้ นับได้ว่ำบล็อกเป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่ำงจำกวีดีโอ,สิ่งพิมพ์,
โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งวิทยุ
เรำสำมำรถเรียกได้ว่ำบล็อกได้เข้ำมำเป็นสื่อชนิดใหม่ที่สำคัญอย่ำงแท้จริง
สำนักข่ำวเอพีรำยงำนว่ำ “เว็บไซต์ดิกชั่นนำรีหรือพจนำนุกรมออนไลน์ “เมอร์เรียม-
เว็บสเตอร์” ได้ประกำศรำยชื่อคำศัพท์ซึ่งถูกคลิกเข้ำไปค้นหำควำมหมำยผ่ำน
ระบบออนไลน์มำกที่สุด 10อันดับแรกประจำปีนี้ ซึ่งอันดับหนึ่งตกเป็นของคำว่ำ “บล็อก”
(blog) ซึ่งเป็นคำย่อของ “เว็บบล็อก”(web log) โดยนำยอำเธอร์ บิคเนล
โฆษกสำนักพิมพ์พจนำนุกรมฉบับเมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ กล่ำวว่ำ
สำนักพิมพ์ได้เตรียมที่จะนำคำว่ำ “บล็อก”บรรจุลงในพจนำนุกรมฉบับล่ำสุดทั้งที่เป็นเล่มและ
ฉบับออนไลน์แล้ว แต่จำกควำมต้องกำรของผู้ใช้ที่หลั่งไหลเข้ำมำทำให้เมอร์เรียม-
เว็บสเตอร์ตัดสินใจบรรจุคำว่ำ “บล็อก”ลงในเว็บไซต์ในสังกัดบำงแห่งไปก่อน
โดยให้คำจำกัดควำมไว้ว่ำ “เว็บไซต์ที่บรรจุเรื่องรำวเกี่ยวกับบันทึกส่วนตัวประจำวัน
ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองควำมคิดเห็นของบุคคลโดยอำจรวมลิงค์เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นๆ
ตำมควำมประสงค์ของเจ้ำของเว็บบล็อกเองด้วย”
โดยทั่วไปคำศัพท์ที่ถูกบรรจุลงในพจนำนุกรมนั้นจะต้องผ่ำนกำรใช้งำนอย่ำงแพร่หลำย
มำไม่น้อยกว่ำ 20 ปี ซึ่งหมำยควำมว่ำคำคำนั้นจะต้องถูกนำมำใช้โดยทั่วไปในระยะเวลำหนึ่ง
อย่ำงไรก็ตำม ปัจจุบันคำศัพท์ทำงเทคโนโลยีรวมไปถึงโรคภัยไข้เจ็บใหม่ๆอย่ำงเช่นโรคเอดส์
โรคไข้หวัดซำร์สถูกบรรจุลงในพจนำนุกรมภำยในระยะเวลำอันสั้น
บล็อกมีบทบำทมำกขึ้นในปัจจุบันในวงกำรสื่อมวลชนในหลำยประเทศ
เนื่องจำกระบบแก้ไขที่เรียบง่ำย
และสำมำรถตีพิมพ์เรื่องรำวได้โดยไม่ต้องใช้ควำมรู้ในกำรเขียนเว็บไซต์
เป็นอีกช่องทำงหนึ่งในกำรเผยแพร่ข้อมูลหรือแนวควำมคิด
โดยกำรเขียนบล็อกสำมำรถเผยแพร่ข้อมูลสู่ประชำชนได้รวดเร็วและเสียค่ำใช้จ่ำยน้อยกว่ำสื่อใ
นด้ำนอื่นจำกควำมนิยมที่มำกขึ้น
ทำให้หลำยเว็บไซต์เปิดให้มีส่วนกำรใช้งำนบล็อกเพิ่มขึ้นมำในเว็บของตนเอง
เพื่อเรียกให้มีกำรเข้ำสู่เว็บไซต์มำกขึ้นทั้งผู้เขียนและผู้อ่ำน
ส่วนประกอบของBlog
บล็อกประกอบไปด้วยส่วนประกอบ3ส่วนคือ
1.หัวข้อ(Title)
2.เนื้อหำ (Post หรือContent)
3.วันเวลำที่เขียน(Date/Time)

More Related Content

More from fahsrisakul

เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญfahsrisakul
 
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญfahsrisakul
 
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญfahsrisakul
 
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญfahsrisakul
 
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญfahsrisakul
 
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญfahsrisakul
 
สังคม 7 วิชาสามัญ
สังคม 7 วิชาสามัญสังคม 7 วิชาสามัญ
สังคม 7 วิชาสามัญfahsrisakul
 
เฉลยข้อสอบภาษาไทย 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบภาษาไทย 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบภาษาไทย 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบภาษาไทย 7 วิชาสามัญfahsrisakul
 
ภาษาไทย 7 วิชาสามัญ
ภาษาไทย 7 วิชาสามัญ ภาษาไทย 7 วิชาสามัญ
ภาษาไทย 7 วิชาสามัญ fahsrisakul
 
เฉลยข้อสอบชีววิทยา 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบชีววิทยา 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบชีววิทยา 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบชีววิทยา 7 วิชาสามัญfahsrisakul
 
ชีววิทยา 7 วิชาสามัญ
ชีววิทยา 7 วิชาสามัญชีววิทยา 7 วิชาสามัญ
ชีววิทยา 7 วิชาสามัญfahsrisakul
 
Biology เฉลย
Biology เฉลยBiology เฉลย
Biology เฉลยfahsrisakul
 
ภาษาอังกฤษ 7 วิชาสามัญ
ภาษาอังกฤษ 7 วิชาสามัญภาษาอังกฤษ 7 วิชาสามัญ
ภาษาอังกฤษ 7 วิชาสามัญfahsrisakul
 
ฟิสิกส์ 7 วิชาสามัญ
ฟิสิกส์ 7 วิชาสามัญฟิสิกส์ 7 วิชาสามัญ
ฟิสิกส์ 7 วิชาสามัญfahsrisakul
 
คณิตศาสตร์ 7 วิชาสามัญ พร้อมเฉลย
คณิตศาสตร์ 7 วิชาสามัญ พร้อมเฉลยคณิตศาสตร์ 7 วิชาสามัญ พร้อมเฉลย
คณิตศาสตร์ 7 วิชาสามัญ พร้อมเฉลยfahsrisakul
 

More from fahsrisakul (15)

เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
 
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
 
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
 
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
 
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
 
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบเคมี 7 วิชาสามัญ
 
สังคม 7 วิชาสามัญ
สังคม 7 วิชาสามัญสังคม 7 วิชาสามัญ
สังคม 7 วิชาสามัญ
 
เฉลยข้อสอบภาษาไทย 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบภาษาไทย 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบภาษาไทย 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบภาษาไทย 7 วิชาสามัญ
 
ภาษาไทย 7 วิชาสามัญ
ภาษาไทย 7 วิชาสามัญ ภาษาไทย 7 วิชาสามัญ
ภาษาไทย 7 วิชาสามัญ
 
เฉลยข้อสอบชีววิทยา 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบชีววิทยา 7 วิชาสามัญเฉลยข้อสอบชีววิทยา 7 วิชาสามัญ
เฉลยข้อสอบชีววิทยา 7 วิชาสามัญ
 
ชีววิทยา 7 วิชาสามัญ
ชีววิทยา 7 วิชาสามัญชีววิทยา 7 วิชาสามัญ
ชีววิทยา 7 วิชาสามัญ
 
Biology เฉลย
Biology เฉลยBiology เฉลย
Biology เฉลย
 
ภาษาอังกฤษ 7 วิชาสามัญ
ภาษาอังกฤษ 7 วิชาสามัญภาษาอังกฤษ 7 วิชาสามัญ
ภาษาอังกฤษ 7 วิชาสามัญ
 
ฟิสิกส์ 7 วิชาสามัญ
ฟิสิกส์ 7 วิชาสามัญฟิสิกส์ 7 วิชาสามัญ
ฟิสิกส์ 7 วิชาสามัญ
 
คณิตศาสตร์ 7 วิชาสามัญ พร้อมเฉลย
คณิตศาสตร์ 7 วิชาสามัญ พร้อมเฉลยคณิตศาสตร์ 7 วิชาสามัญ พร้อมเฉลย
คณิตศาสตร์ 7 วิชาสามัญ พร้อมเฉลย
 

ความรู้เรื่อง Blog

  • 1. Blogคืออะไร Blogเป็นคำรวมมำจำกศัพท์คำว่ำเว็บล็อก(WeBlog)สำมำรถอ่ำนได้ว่ำWe Blog หรือ Web Logไม่ว่ำจะอ่ำนได้อย่ำงไรทั้งสองคำนี้ก็บ่งบอกถึงควำมหมำยเดียวกันว่ำคือบล็อก(Blog) คำว่ำ"บล็อก"สำมำรถใช้เป็นคำกริยำได้ซึ่งหมำยถึงกำรเขียนบล็อก และนอกจำกนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอำชีพก็จะถูกเรียกว่ำ"บล็อกเกอร์" ความหมายของคาว่าBlog คือกำรบันทึกบทควำมของตนเอง(PersonalJournal) ลงบนเว็บไซต์โดยเนื้อหำของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่องไม่ว่ำจะเป็นเรื่องรำวส่วนตัว หรือเป็นบทควำมเฉพำะด้ำนต่ำง ๆ เช่น เรื่องกำรเมือง เรื่องกล้องถ่ำยรูปเรื่องกีฬำ เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือผู้เขียนบล็อก จะมีกำรแสดงควำมคิดเห็นของตนเอง ใส่ลงไปในบทควำมนั้นๆ โดยบล็อกบำงแห่ง จะมีอิทธิพลในกำรโน้มน้ำวจิตใจผู้อ่ำนสูงมำก แต่ในขณะเดียวกันบำงบล็อกก็จะเขียนขึ้นมำเพื่อให้อ่ำนกันในกลุ่มเฉพำะเช่นกลุ่มเพื่อนๆ หรือครอบครัวตนเอง มีหลำยครั้งที่เกิดควำมเข้ำใจกันผิดว่ำBlogเป็นได้แค่ไดอำรี่ออนไลน์ แต่ในควำมเป็นจริงแล้ว ไดอารี่ออนไลน์เปรียบเสมือน เนื้อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพรำะบล็อกมีเนื้อหำที่หลำกหลำยประเภทตั้งแต่กำรบันทึกเรื่องส่วนตัวอย่ำงเช่นไดอำรี่ หรือกำรบันทึกบทควำมที่ผู้เขียนบล็อกสนใจในด้ำนอื่นด้วยที่เห็นชัดเจนคือ เนื้อหำบล็อกประเภทวิจำรณ์กำรเมืองหรือกำรรีวิวผลิตภัณฑ์ต่ำงๆที่ตัวเองเคยใช้ หรือซื้อมำนั่นเอง อีกทั้งยังสำมำรถแตกแขนงไปในเนื้อหำในประเภทต่ำงๆอีกมำกมำย ตำมแต่ควำมถนัดของเจ้ำของบล็อกซึ่งมักจะเขียนบทควำมเรื่องที่ตนเองถนัดหรือสนใจเป็นต้น จุดเด่นที่สุดของ Blogก็คือมันสำมำรถเป็นเครื่องมือสื่อสำรชนิดหนึ่ง ที่สำมำรถสื่อถึงควำมเป็นกันเองระหว่ำงผู้เขียนบล็อก และผู้อ่ำนบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้ ำหมำย ที่ชัดเจนของบล็อกนั้นๆผ่ำนทำงระบบcomment ของบล็อกนั่นเอง
  • 2. ประโยชน์ของ web blog Blog มีไว้เพื่อตอบสนองตัณหำของเจ้ำของ blog ถึงแม้ว่ำblog จะมีลักษณะหน้ำตำคล้ำยกันแต่blogแต่ละแห่งจะมีบุคลิกเฉพำะตัว แตกต่ำงกันไปเหมือนบุคลิกบำง blogแค่เล่ำเรื่องชีวิตประจำวันบำง blogเกำะติดข่ำวบำง blog คุยเรื่องกำรเมืองหรือปรัชญำ จงนั้นอำจแบ่งประโยชน์ได้หลำยแบบด้วยกัน ซึ่งอำจจะแจกแจงได้ดังนี้ 1.เปิ ดตัวเองให้โลกรู้ เรื่องของ blog มักเป็นเรื่องรำวของเจ้ำของ blog เป็นกำรเล่ำประสบกำรณ์หรือควำมคิดของเจ้ำของ เป็นกำรถ่ำยทอดควำมคิดควำมรู้สึกของเจ้ำของ blogเป็นกำรระบำยควำมเคลียดอีกทำงหนึ่ง 2.ทันข่าวทันเหตุการณ์ ประสบกำรณ์บำงคนก็เป็นข่ำวเห็นอีกหลำยคนได้ ข่ำวจำก blog หลำยแห่งเป็นข่ำววงในบำงคนเล่ำเหตุกำรณ์หรืออุบัติเหตุที่เจอมำหลำย blog พูดถึงแนวโน้มหรือควำมเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ 3.กลั่นกรองข้อมูล blog บำง blog จะมีกำรกลั่นกรองข้อมูลก่อนนำลง blogทำให้ผู้อ่ำน blog ไม่ต้องเสียเวลำในกำรกลั่นกรองข้อมูล เพรำะมีกำรนำเสนอข้อมูลหรือมีไกด์ในกำรท่องเว็บ 4.รายงานการท่องเว็บ เป็นวัตถุประสงค์หลักที่เป็นต้นกำเนิดของกำรทำ blogหลำยblog มีกำรลิงก์ไปยังเว็บที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหำในblogซึ่งเป็นกำรแนะนำว่ำเว็บไหนดีก็ไปที่เว็บนั้น 5.การแสดงความคิดเห็น ไม่ว่ำจะเป็นควำมในใจของเรื่องต่ำงๆควำมคิดเชิงสร้ำงสรรค์ หรือกำรบ่นที่ทุกคนมีอยู่ในใจ กำรทำblog เป็นช่องทำงถ่ำยทอดควำมคิดเห็นให้คนอื่นรับรู้ 6.ถ่ายทอดประสบการณ์ หรือไดอะรี่ออนไลน์ เป็นกำรถ่ำยทอดเรื่องรำวในชีวิตประจำวันหรือเป็นกำรเล่ำเรื่องกำรเดินทำงท่องเที่ยว เช่น www.terrystrek.com
  • 3. 7.โน้มน้าวใจผู้อ่าน ลักษณะนี้เป็นกำรโฆษณำชวนเชื่อ แต่กรณีแบบนี้เป็นกำรขำยควำมคิดอย่ำง blogสำหรับคอกำรเมืองอำจจะมีฝ่ำยซ้ำย - ฝ่ำยขวำ,สำยเหยี่ยว - สำยพิรำบ จะพบว่ำเนื้อหำจะเป็นกำรโพสต์โจมตีฝ่ำยตรงข้ำม แล้วก็สนับสนุนแนวควำมคิดของตนเอง ความเป็นมาของบล็อก “Weblog” ถูกใช้งำนเป็นครั้งแรกโดยJornBarger ในเดือนธันวำคมปี ค.ศ. 1997 เริ่มแรกคนที่เขียนบล็อกนั้นยังทำกันในระบบManualคือเขียนเว็บเพจขึ้นเองทีละหน้ำ เขียนเป็นงำนอดิเรกของกลุ่มสื่ออิสระต่ำงๆหลำยๆ แห่งกลำยเป็นแหล่งข่ำวสำคัญให้กับหนังสือพิมพ์หรือสำนักข่ำวชั้นนำ แต่ในปัจจุบันนี้ผู้คนหลำยล้ำนคนจำกทั่วทุกมุมโลกหันมำเขียนบล็อกกันอย่ำงแพร่หลำย ตั้งแต่นักเรียนนักศึกษำอำจำรย์นักเขียนตลอดจนผู้บริหำรบริษัทยักษ์ใหญ่ อีกทั้งยังมีเครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ให้เรำใช้ในกำรเขียนบล็อกได้มำกมำยเช่น Drupal, WordPress, Movable Typeเป็นต้น ต่อมำมีฝรั่งที่ชอบเรียกสั้นๆ ชื่อนำย Peter Merholz จับมำเรียกย่อเหลือแต่“Blog” แทนในเดือนเมษำยน ปี ค.ศ.1999 และคำคำนี้เริ่มใช้เป็นครั้งแรกๆผ่ำนทำงหน้ำหนังสือพิมพ์และนิตยสำรจนมำถึงวันที่ 13 มีนำคม ค.ศ.2003 ทำง Oxford English Dictionary จึงได้บรรจุคำว่ำblogในพจนำนุกรม แสดงว่ำได้รับกำรยอมรับอย่ำงเป็นทำงกำรบล็อก(Blog) ขึ้นแท่นศัพท์ยอดฮิตอันดับหนึ่ง ซึ่งถูกเสำะแสวงหำควำมหมำยทำงพจนำนุกรมออนไลน์มำกที่สุดประจำปี 2004 และคนเขียนบล็อกก็ได้รับกำรยอมรับจำกสื่อและสำนักข่ำวต่ำงๆ ถึงควำมรวดเร็วในกำรให้ข้อมูลตั้งแต่เรื่องกำรเมืองไปจนกระทั่งเรื่องรำวของกำรประชุมระดับช ำติ และจำกเหตุกำรณ์เหล่ำนี้ นับได้ว่ำบล็อกเป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่ำงจำกวีดีโอ,สิ่งพิมพ์, โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งวิทยุ เรำสำมำรถเรียกได้ว่ำบล็อกได้เข้ำมำเป็นสื่อชนิดใหม่ที่สำคัญอย่ำงแท้จริง สำนักข่ำวเอพีรำยงำนว่ำ “เว็บไซต์ดิกชั่นนำรีหรือพจนำนุกรมออนไลน์ “เมอร์เรียม- เว็บสเตอร์” ได้ประกำศรำยชื่อคำศัพท์ซึ่งถูกคลิกเข้ำไปค้นหำควำมหมำยผ่ำน ระบบออนไลน์มำกที่สุด 10อันดับแรกประจำปีนี้ ซึ่งอันดับหนึ่งตกเป็นของคำว่ำ “บล็อก” (blog) ซึ่งเป็นคำย่อของ “เว็บบล็อก”(web log) โดยนำยอำเธอร์ บิคเนล
  • 4. โฆษกสำนักพิมพ์พจนำนุกรมฉบับเมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ กล่ำวว่ำ สำนักพิมพ์ได้เตรียมที่จะนำคำว่ำ “บล็อก”บรรจุลงในพจนำนุกรมฉบับล่ำสุดทั้งที่เป็นเล่มและ ฉบับออนไลน์แล้ว แต่จำกควำมต้องกำรของผู้ใช้ที่หลั่งไหลเข้ำมำทำให้เมอร์เรียม- เว็บสเตอร์ตัดสินใจบรรจุคำว่ำ “บล็อก”ลงในเว็บไซต์ในสังกัดบำงแห่งไปก่อน โดยให้คำจำกัดควำมไว้ว่ำ “เว็บไซต์ที่บรรจุเรื่องรำวเกี่ยวกับบันทึกส่วนตัวประจำวัน ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองควำมคิดเห็นของบุคคลโดยอำจรวมลิงค์เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ตำมควำมประสงค์ของเจ้ำของเว็บบล็อกเองด้วย” โดยทั่วไปคำศัพท์ที่ถูกบรรจุลงในพจนำนุกรมนั้นจะต้องผ่ำนกำรใช้งำนอย่ำงแพร่หลำย มำไม่น้อยกว่ำ 20 ปี ซึ่งหมำยควำมว่ำคำคำนั้นจะต้องถูกนำมำใช้โดยทั่วไปในระยะเวลำหนึ่ง อย่ำงไรก็ตำม ปัจจุบันคำศัพท์ทำงเทคโนโลยีรวมไปถึงโรคภัยไข้เจ็บใหม่ๆอย่ำงเช่นโรคเอดส์ โรคไข้หวัดซำร์สถูกบรรจุลงในพจนำนุกรมภำยในระยะเวลำอันสั้น บล็อกมีบทบำทมำกขึ้นในปัจจุบันในวงกำรสื่อมวลชนในหลำยประเทศ เนื่องจำกระบบแก้ไขที่เรียบง่ำย และสำมำรถตีพิมพ์เรื่องรำวได้โดยไม่ต้องใช้ควำมรู้ในกำรเขียนเว็บไซต์ เป็นอีกช่องทำงหนึ่งในกำรเผยแพร่ข้อมูลหรือแนวควำมคิด โดยกำรเขียนบล็อกสำมำรถเผยแพร่ข้อมูลสู่ประชำชนได้รวดเร็วและเสียค่ำใช้จ่ำยน้อยกว่ำสื่อใ นด้ำนอื่นจำกควำมนิยมที่มำกขึ้น ทำให้หลำยเว็บไซต์เปิดให้มีส่วนกำรใช้งำนบล็อกเพิ่มขึ้นมำในเว็บของตนเอง เพื่อเรียกให้มีกำรเข้ำสู่เว็บไซต์มำกขึ้นทั้งผู้เขียนและผู้อ่ำน ส่วนประกอบของBlog บล็อกประกอบไปด้วยส่วนประกอบ3ส่วนคือ 1.หัวข้อ(Title) 2.เนื้อหำ (Post หรือContent) 3.วันเวลำที่เขียน(Date/Time)