3.ภาคพิเศษแผนผังกลุ่มสิกขาดัชนีหน้า473 516
- 1. ภาคพิเศษ
เพือช่วยในการศึกษาค้นคว้านำมาปฏิบติ
่ ั
สวนสรุปหลักเกณฑ์วธการระงับอธิกรณ์
่ ิี
แผนผังที่ ๑ สรุปวิธการทางสงฆ์เพือจัดการอธิกรณ์
ี ่
ตารางอธิบายอธิกรณ์ ๔ และอธิกรณสมถะ ๗
แผนผังที่ ๒ วธการลงโทษ ทีเ่ กิดเพราะเหตุอาชีวะหรือปาติโมกข์
ิี
แผนผังที่ ๓ วธการลงโทษ ทเกิดเพราะเหตุมรรคหรือปฏิปทา
ิี ่ี
สวนช่วยศึกษาค้นคว้าสิกขาบททีมลกษณะเดียวกัน
่ ่ ีั
สวนดัชนี (ชวยค้นหาคำ โดยเรียงตามลำดับอักษร)
่ ่
ดชนีเนือเรืองพระวินย
ั ้ ่ ั
ดชนีเนือเรืองพระธรรม
ั ้ ่
ดชนีชอเฉพาะ (อสาธารณนาม)
ั ่ื
- 2. ถุงลม
“ภิกษุ! ภิกษุในกรณีน้ี ย่อมเล่าเรียนปริยตธรรม (นานาชนิด)ั ิ
คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ
อัพภูตธัมมะ เวทัลละ; เธอใช้เวลาทั้งวันให้เปลืองไปด้วยการเรียน
ธรรมนั้น ต้องเลิกร้างจากการหลีกเร้น ไม่ประกอบซึ่งธรรมเป็นเครื่อง
สงบใจในภายใน. ภิกษุน้ี เราเรียกว่า ผมากไปด้วยปริยติ (นกเรียน)
ู้ ั ั
ยังมิใช่ธรรมวิหารี (ผอยูด้วยธรรม).
ู้ ่
อี ก อย่ า งหนึ ่ ง , ภิ ก ษุ แสดงธรรมตามที ่ ไ ด้ ฟ ั ง ได้ เ รี ย นมา
แก่คนอืนโดยพิสดาร, เธอใช้เวลาทังวันให้เปลืองไปด้วยการบัญญัติ ธรรมนัน
่ ้ ้
ต้ อ งเลิ ก ร้ า งจากการหลี ก เร้ น ไม่ ป ระกอบซึ ่ ง ธรรมเป็ น เครื ่ อ ง
สงบใจในภายใน. ภิกษุน้ี เราเรียกว่า ผมากไปด้วยบัญญัติ (นกแต่ง)
ู้ ั
ยังมิใช่ธรรมวิหารี (ผอยูด้วยธรรม).
ู้ ่
ี
อกอย่างหนึง, ภิกษุ ทำการสาธยายธรรมตามทีได้ฟง ได้เรียน
่ ่ ั
มาโดยพิสดาร,เธอใช้เวลาทั้งวันให้เปลืองไปด้วยการสาธยาย ธรรมนั้น
ต้ อ งเลิ ก ร้ า งจากการหลี ก เร้ น ไม ่ ประกอบซึ ่ ง ธรรม เป็ น เครื ่ อ ง
สงบใจในภายใน. ภกษุน้ี เราเรียกว่า ผมากไปด้วยการสวด (นักสวด)
ิ ู้
ู้ ่ ้
ยังมิใช่ ธรรมวิหารี (ผอยูดวยธรรม).
ี
อกอย่างหนึง, ภิกษุ คิดพล่านไปในธรรมตามทีได้ฟง ได้เรียนมา,
่ ่ ั
เธอใช้ เ วลาทั ้ ง วั น ให้ เ ปลื อ งไป ด้ ว ยการคิ ด พล่ า นใน
ธรรมนั้น ต้องเลิกร้างจากการหลีกเร้น ไม่ประกอบซึ่งธรรมเป็นเครื่อง
ิ
สงบใจ ในภายใน. ภกษุน้ี เราเรียกว่า ผมากไปด้วยการคิด (นกคิด) ู้ ั
ู้ ่
ยังมิใช่ธรรมวิหารี (ผอยูด้วยธรรม).
(พระไตรปิฎกบาลี สยามรัฐ ๒๒ / ๙๘ / ๗๓ )
ซือสัตย์ตอพระพุทธองค์
่ ่
ซอตรงต่อพระธรรมวินย
่ื ั
ให้พระสงฆ์เป็นใหญ่
ใฝ่ใจพระนิพพาน ฯ .
- 3. ๔๗๕
ส่วนสรุปหลักเกณฑ์วธการระงับอธิกรณ์
ิ ี
เพื่อให้ผู้ศึกษามองเห็นภาพโดยรวมของระบบอธิกรณ์ทั้งหมด
คือ ตงแต่การเกิดอธิกรณ์ จนถึงอธิกรณ์ระงับ อย่างย่อ ๆ
้ั
(ซึ่งเป็นภาพโดยรวมของแผนผังที่ ๑, ๒ และ ๓ นั่นเอง)
สามารถทีจะบรรยายออกเป็นแผนภาพได้ดงนี้
่ ั
แผนภาพรวมโดยย่อ ของ อธิกรณ์และการระงับอธิกรณ์
ข้อสังเกต จากพระพุทธดำรัสใน สามคามสูตร (ดูหน้า ๓๘๙) มีการแบ่งเหตุความวิวาทเป็น ๒ ส่วน ซึ่งจะระงับ
โดยไม่ตองอาบัตและต้องอาบัติ ในการต้องอาบัตจงสามารถจัดกลุมได้จากเหตุตามเรืองทีเกิดขึน ๒ สวนนี้ คอ ๑.เรือง
้ ิ ิึ ่ ่ ่ ้ ่ ื ่
ที่เกิดเพราะเหตุ อาชีวะอันยิ่งหรือปาติโมกข์อันยิ่ง และ ๒.เรื่องอันเกิดในสงฆ์ที่เกิดเพราะเหตุ มรรคหรือปฏิปทา.
- 6. , , ,
, - -
.
. .
. .
. ( -
. ) ( )
.
.
. .
.
.
.
,
,
, ,
.
, , , , ,
, . , . , .
.
. .
. .
. (
,
,
,
,
- 7. ๔๗๙
( )
, , ,
, ,
,
, ,
:- :- , ,
, , , ,
( )
( )
,
.
, , ( )
)
.
- 10. . . .
( ) ( , ) (
, , , ,
, , , ,
( ) ( ) ( )+
. . .
( )
.
.
-
-
- 11. ๔๘๓
. .
) ( ) ( )
, ,
, , , ,
,
( ) ( ) ( )
.
( )
, ,
( . ) ( )
( )
( )
( , )
( , )
- 12. รักษาพรหมจรรย์ไว้ดวยน้ำตา
้
“ภิกษุ ทั้งหลาย ! บรรพชิตรูปใด จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม,
แม้จะทุกข์กายทุกข์ใจ ถึงน้ำตานองหน้า รองไห้อยู่ กยังสูประพฤติพรหมจรรย์
้ ็ ้
ให้บรสุทธิ์บรบูรณอยู่ไดก็มี ข้อที่น่าสรรเสริญเธอให้เหมาะสมแก่ธรรมที่เธอได้มี
ิ ิ ์ ้
ในบัดนี้ มอยูหาอย่าง. หาอย่างอะไรบ้างเล่า ? หาอย่างคือ :-
ี ่ ้ ้ ้
(๑) ธรรมทีชอว่า ศรัทธา ในกุศลธรรมทังหลาย กได้มแล้วแก่เธอ.
่ ่ื ้ ็ ี
(๒) ธรรมทีชอว่า หริ ในกุศลธรรมทังหลาย กได้มแล้วแก่เธอ.
่ ่ื ิ ้ ็ ี
(๓) ธรรมทีชอว่า โอตตัปปะ ในกุศลธรรมทังหลาย กได้มแล้วแก่เธอ.
่ ่ื ้ ็ ี
(๔) ธรรมทีชอว่า วรยะ ในกุศลธรรมทังหลาย กได้มแล้วแก่เธอ.
่ ่ื ิิ ้ ็ ี
(๕) ธรรมทีชอว่า ปญญา ในกุศลธรรมทังหลาย ก็ได้มแล้วแก่เธอ.
่ ่ื ั ้ ี
ภิกษุ ทั้งหลาย ! บรรพชิตรูปใด จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม,
แม้จะทุกข์กายทุกข์ใจ ถงน้ำตานองหน้า รองไห้อยู่ กยงสูประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสทธิ์
ึ ้ ็ั ้ ุ
บริบูรณ์อยู่ได้ก็มี ข้อที่น่าสรรเสริญเธอให้เหมาะสมแก่ธรรมที่เธอได้มีในบัดนี้
หาอย่างเหล่านีแล.”
้ ้
(พระไตรปิฎกบาลี สยามรัฐ ๒๒ / ๕ / ๔ )
- 13. ภาคพิเศษ : ส่วนช่วยศึกษาค้นคว้าสิกขาบททีมลกษณะเดียวกัน
่ ีั ๔๘๕
ส่วนช่วยศึกษาค้นคว้าสิกขาบททีมลกษณะเดียวกัน
่ ีั
จัดกลุมสิกขาบทเพือการศึกษาค้นคว้า ตามลักษณะดังนี้ คอ :-
่ ่ ื
ก. กลุมสิกขาบทเกียวกับนิสสัย ๔ (ปจจัยเครืองอาศัยของบรรพชิต)
่ ่ ั ่
ข. กลุมสิกขาบทเกียวกับอกรณียกิจ ๔ (กจทีบรรพชิตไม่ควรทำ)
่ ่ ิ ่
ค. กลุมสิกขาบทเกียวกับอาจารวิบติ (ผดจรรยามารยาทของสมณะ)
่ ่ ั ิ
ง. กลุมสิกขาบทเกียวกับทิฏฐิวบติ (ความเห็นผิด)
่ ่ ิ ั
จ. กลุมสิกขาบทเกียวกับอาชีววิบติ (การเลียงชีพทีผดของบรรพชิต)
่ ่ ั ้ ่ ิ
ฉ. กลุมสิกขาบทเกียวกับสังฆสามัคคี (ความพร้อมเพรียงในหมูสงฆ์)
่ ่ ่
ก. กลุมสิกขาบทเกียวกับนิสสัย ๔
่ ่
(ปัจจัยเครืองอาศัยของบรรพชิต)
่
๑. สกขาบทเกียวกับอาหารการขบฉัน
ิ ่
“บรรพชาอาศัยโภชนะ คือคำข้าวที่พึงได้ด้วยกำลังปลีแข้ง
เธอพึงทำความอุตสาหะในโภชนะ คือคำข้าวที่พึงได้ด้วยกำลังปลีแข้งจนตลอดชีวิต
อติเรกลาภ คือ ภตถวายสงฆ์ ภตเฉพาะสงฆ์ การนิมนต์ ภตถวายตามสลาก
ั ั ั
ภัตถวายในปักษ์ ภัตถวายในวันอุโบสถ ภัตถวายในวันปาฎิบท”
(นิสสัย ๔ มหาวรรค ภาค.๑/ ดูหน้า ๒๒๒)
- ภกษุฉนอาหารทีเขายังไม่ได้ให้ ลวงช่องปาก(ปาจิตตีย์ วรรคที่ ๔, ขอ๑๐/ หน้า ๑๒๓)
ิ ั ่ ่ ้
- ภกษุไม่อาพาธฉันอาหารประณีตทีขอมาเพือประโยชน์ตน (ปาจิตตีย์ ว.๔, ๙/ ๑๒๒)
ิ ่ ่
ิ
- ภกษุไม่อาพาธขอแกงหรือข้าวสุกเพือประโยชนตน (ทุกกฏ เสขิยะ ว.๒, ๑๑/ ๑๘๖)
่ ์
ิ ั ้ ้ ุ ้
- ภกษุรบ และฉันบิณฑบาต โดยไม่เอือเฟือ (ทกกฏ เสขิยะ ว.๒, ขอ๑,๕ /๑๘๔, ๑๘๕)
ิ ั
- ภกษุรบบิณฑบาตจนล้น (ขอบบาตร) (ทุกกฏ เสขิยะ วรรค ๒, ๔ /๑๘๕)
- เขาปวารณาให้นำไปตามปรารถนาภิกษุรบยิงกว่า ๓ บาตร (ปาจิตตีย์ ว. ๔, ๔/ ๑๑๗)
ั ่
ิ ึ ั ุ
- ภกษุพงศึกษาว่า จกรับบิณฑบาตพอเหมาะกับแกง (ทกกฏ เสขิยะ ว.๒, ๓/ ๑๘๕)
หมายเหตุ (-) เป็นสิกขาบททีเป็นขอห้าม โดยจะแสดง : (ประเภทของโทษ คมภีรหรือวรรคที,่ ขอที่ / หน้าของหนังสือนี)
่ ้ ั ์ ้ ้
(-)ทตนบรรทัดเป็นระดับ อาทิพรหมจาริยาสิกขา, (-)ทยอเข้ามาเป็นบางส่วนของ อภิสมาจาริกาสิกขา
่ี ้ ่ี ่
(-)อกษรเอน เป็นลกษณะพฤติกรรมทีควรถูกสงฆ์ลงโทษ, หรือขอห้ามทีมในพระไตรปิฎกทีอนๆ
ั ั ่ ้ ่ ี ่ ่ื
(*) อกษรเอนเป็นขอทีทรงอนุญาต โดยจะแสดง : (ชอคัมภีร์ / หน้าของหนังสือเล่มนี) ควรจะดูใจความเต็ม..
ั ้ ่ ่ื ้
- 14. ๔๘๖ ประมวลพระพุทธบัญญัติ อริยวินย จากพระไตรปิฎก
ั
- ภิกษุไม่ได้รบนิมนต์รบอาหารในสกุลทีสงฆ์สมมติวาเป็นเสกขะ(ปาฏิเทสนียะ ๓/๑๗๘)
ั ั ่ ่
- ภกษุฉนอาหารทีทำการสังสม (เก็บไว้คางคืน) (ปาจิตตีย์ วรรค ๔, ขอ ๘ / หน้า๑๒๑)
ิ ั ่ ่ ้ ้
* ทรงอนุญาตแสวงหาเสบียงเดินทางได้, แต่ไม่อนุญาตเงิน (เภสัชชขันธ์ มหา.๒/ ๒๕๓)
- ภกษุเก็บอาหารค้างคืนในทีอยู่ (ทุกกฏ เภสัชชขันธ์ มหา.๒/ ๒๕๑)
ิ ่
- ภกษุหงต้มอาหารในทีอยู่ (ทุกกฏ เภสัชชขันธ์ มหา.๒/ ๒๕๑)
ิ ุ ่
- ภกษุหงต้มอาหารด้วยตนเอง (ทกกฏ เภสัชชขันธ์ มหา.๒/ ๒๕๑)
ิ ุ ุ
- ฉนผลไม้ทเก็บมาเองโดยให้คนประเคนทีหลัง (ทุกกฏ เภสัช. มหา.๒/ ๒๕๒)
ั ่ี
* ทรงอนุญาตฉันภัต ๖ อย่าง มฉนในทีนมนต์ เป็นต้น (เภสัช. มหา.๒/ ๓๒๗)
ี ั ่ ิ
- ภกษุฉนเป็นหมู่ เว้นแต่ในสมัยทีทรงอนุญาต (ปาจิตตีย์ วรรค ๔, ขอ๒/ หน้า๑๑๔)
ิ ั ่ ้
- ภกษุรับนิมนต์แล้ว เว้นโภชนะนัน ฉนโภชนะอืน (ปาจิตตีย์ ว. ๔, ๓/ ๑๑๖)
ิ ้ ั ่
ั ั ่ ิ
- ฉนเสร็จแล้วห้ามภัตแล้ว ฉนอาหารทีมใช่เดน(ปาจิตตีย์ ว.๔, ๕/๑๑๙; เภสัช. มหา. ๒/ ๒๕๒)
- ภกษุมใช่ผอาพาธฉันอาหารในโรงทานยิงกว่าครังหนึง (ปาจิตตีย์ ว.๔, ๑/ ๑๑๓)
ิ ิ ู้ ่ ้ ่
ิ ่ ี ั
- ภกษุอยูในป่าทีมภยฉันอาหารทีเขาไม่ได้บอกให้รไว้กอน (ปาฏิเทสนียะ ๔/ ๑๗๙)
่ ่ ู้ ่
- ภกษุฉนอาหารในเวลาวิกาล (คอหลังเทียงไป) (ปาจิตตีย์ วรรค ๔, ขอ๗/ หน้า๑๒๑)
ิ ั ื ่ ้
๒. สกขาบทเกียวกับเครืองนุงห่ม และบริขารอืนๆ
ิ ่ ่ ่ ่
“บรรพชาอาศัยผ้าบังสุกล
ุ
เธอพึงทำความอุตสาหะในผ้าบังสุกลนันจนตลอดชีวต
ุ ้ ิ
อติเรกลาภ คือ ผ้าเปลือกไม้ ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าป่าน ผ้าเจือกัน”
(นสสัย ๔ มหาวรรค ภาค ๑/ ดูหน้า ๒๒๒)
ิ
สกขาบทเกียวกับเครืองนุมห่ม
ิ ่ ่ ่
ี ี
* ทรงอนุญาตคหบดีจวร, และอนุญาตผ้าจีวร ๖ ชนิด (จวรขันธ์ มหา.๒ /๒๖๐)
้
* ทรงอนุญาตสียอมจีวรทีทำจากรากลำต้นเปลือกใบดอกผลต้นไม้ (จวรขันธ์ มหา.๒ /๒๖๑)
่ ี
- ภกษุใช้จวรมีสท่ีไม่สมควร (ทุกกฏ จวรขันธ์ มหา.๒ /๒๖๖)
ิ ี ี ี
- 15. ภาคพิเศษ : ส่วนช่วยศึกษาค้นคว้าสิกขาบททีมลกษณะเดียวกัน
่ ีั ๔๘๗
* ทรงอนุญาตให้ใช้ไตรจีวร (จีวรขันธ์ มหาวรรค ภาค ๒ / ดูหน้า ๒๖๑)
- ภกษุอยูปราศจากไตรจีวร แม้สนราตรีหนึง (นสสัคคิยปาจิตตีย์ วรรค๑, ขอ๒/ หน้า๕๓)
ิ ่ ้ิ ่ ิ ้
ิ
- ภกษุอยูในป่าทีมภยเก็บจีวรไว้ในบ้านเกิน ๖ ราตรี (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๓, ๙/ ๘๔)
่ ่ ี ั ิ
- ภกษุมแต่จวร กบสบงเข้าบ้าน เว้นมีเหตุจำเป็น ๕ (ทกกฏ จวร. มหา.๒/ ๒๖๓)
ิ ี ี ั ุ ี
- ภกษุขอจีวรต่อคฤหัสถ์ผมใช่ญาติ นอกจากสมัยฯ (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๑, ๖/ ๕๗)
ิ ู้ ิ ิ
- ภกษุจวรฉิบหายรับจีวรจากผูทมใช่ญาติเกินกำหนด (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๑, ๗/ ๕๙)
ิ ี ้ ่ี ิ ิ
- ผทมใช่ญาติเตรียมจ่ายจีวรแก่ภกษุๆไปกำหนดจีวร (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๑, ๘/ ๖๐)
ู้ ่ี ิ ิ ิ
ู้ ิ ิ
- ผมใช่ญาติ๒คนเตรียมจ่ายจีวรแก่ภกษุๆให้รวมกันจ่ายจีวรดี(นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๑, ๙/ ๖๑)
ิ
- ภกษุทวงจีวรจากผูรบฝากผูอนให้จายจีวร เกิน ๖ครัง(นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๑, ๑๐/ ๖๒)
ิ ้ั ้ ่ื ่ ้ ิ
- ภกษุขอด้ายมาเองแล้ว ยงช่างหูกให้ทอจีวร (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๓, ๖/ ๘๐)
ิ ั ิ
- ผมใช่ญาติให้ชางหูกทอจีวรแก่ภกษุๆสังช่างให้ทอให้ดี(นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๓, ๗/ ๘๑)
ู้ ิ ่ ิ ่ ิ
- ภกษุทำจีวรมีประมาณเท่าสุคตจีวร หรือยิงกว่า (ปาจิตตีย์ ว.๙, ๑๐/ ๑๗๕)
ิ ่
- ภกษุไม่ทำให้เสียสีอย่างใดอย่างหนึงก่อน ใช้จวรใหม่ (ปาจิตตีย์ ว.๖, ๘/ ๑๔๓)
ิ ่ ี
้ ั ึ ุ ี
- ผาทุกผืนทีไม่ได้ตดภิกษุไม่พงใช้ (ทกกฏ จวร. มหา.๒/ หน้า๒๖๑ และ๒๖๓)
่
- ภกษุทรงอติเรกจีวรไว้ยงกว่า ๑๐ วน (นสสัคคิยปาจิตตีย์ วรรค๑, ขอ ๑/ ดูหน้า๕๓)
ิ ่ิ ั ิ ้
- ภกษุวกปจีวรเองแก่สหธรรมิก แล้วใช้จวรทียงไม่ให้เขาถอน (ปาจิตตีย์ ว.๖, ๙/ ๑๔๔)
ิ ิ ั ี ่ั
- ภกษุเก็บอกาลจีวรไว้เกิน ๑ เดือน (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๑, ๓/ ๕๕)
ิ ิ
- ภกษุเก็บอัจเจกจีวรไว้เกินสมัยทีเป็นจีวรกาล (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๓, ๘/ ๘๒)
ิ ่ ิ
ี
* ทรงอนุญาตผ้าต่างๆ (จวรขันธ์ มหาวรรค ภาค๒/ ดูหน้า ๒๖๓)
- ภกษุแสวงหา-ทำผ้าอาบน้ำฝนเกินเวลาทีทรงกำหนด(นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๓, ๔/ ๗๙)
ิ ่ ิ
- ทำผ้าปูนง,ผาปิดฝี,ผาอาบน้ำฝนมีขนาดเกินกำหนด(ปาจิตตีย์ ว.๙, ๗-๙/ ๑๗๒-๑๗๔)
่ั ้ ้
ิ ่ ่ี ี
- ภกษุหมผ้าขนสัตว์ทมขนอยูดานนอก (ทุกกฏ ขททกวัตถุ. จล.๒/ ๓๐๖)
่ ้ ุ ุ
- ภกษุถอขนเจียมไปด้วยมือตนเองเกิน ๓ โยชน์ (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๒, ๖/ ๗๐)
ิ ื ิ
- 16. ๔๘๘ ประมวลพระพุทธบัญญัติ อริยวินย จากพระไตรปิฎก
ั
- สิกขาบทเกียวกับการหล่อสันถัต ๕ เรือง (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๒, ขอ๑-๕/ ๖๕-๖๘)
่ ่ ิ ้
ิ ่ ั
- ภกษุใช้ประคตเอวทีถกสวยงามมีทรวดทรงต่างๆ (ทกกฏ ขททกวัตถุ. จล.๒/ ๓๑๕)
ุ ุ ุ
- ภกษุเข้าบ้านโดยไม่มประคตเอว (ทกกฏ ขททกวัตถุ. จลวรรค ภาค๒/ ๓๑๕)
ิ ี ุ ุ ุ
สกขาบทเรืองบริขารอืนๆ
ิ ่ ่
ุ
* ทรงอนุญาตบาตร ๒ชนิดคือ บาตรเหล็กและบาตรดิน (ขททกวัตถุขนธ์ จล.๒/ ๓๐๗)ั ุ
- ใช้กะโหลกน้ำเต้า,หม้อกระเบือง,กะโหลกหัวผีเป็นบาตร(ทกกฏ ขททก. จล.๒/ ๓๐๗)
้ ุ ุ ุ
- ภกษุทรงอติเรกบาตรไว้เกิน ๑๐ วน (นสสัคคิยปาจิตตีย์ วรรค ๓, ขอ๑/ ดูหน้า ๗๖)
ิ ั ิ ้
- ภกษุบาตรมีแผลหย่อน ๕ ให้จายบาตรใหม่ (นสสัคคิยปาจิตตีย์ วรรค๓,ขอ๒/หน้า๗๖)
ิ ่ ิ ้
* ทรงอนุญาตถุงบาตร ,สายโยก,บงเวียน,เชิงรองบาตร (ขุททกวัตถุ. จล. ๒/ ๓๐๗)
ั ุ
ิ
- ภกษุเก็บหรือผึงแดดบาตรทังทีเปียกน้ำ, ผงบาตรในทีรอนนาน, วางบาตรริมตังไม้,
่ ้ ่ ่ึ ่้ ่
วางบาตรบนเตียงตังบนตักบนร่ม, ผลักประตูเมือมือถือบาตร, แขวนบาตร , ใช้บาตร
่ ่
รองรับเศษอาหารบ้างน้ำบ้วนปากบ้าง (ทุกกฏ ขททกวัตถุ. จล.๒/ ดูหน้า ๓๐๗)
ุ ุ
* ทรงอนุญาตและห้ามต่างๆ เกียวกับรองเท้า (จมมขันธ์ มหาวรรค ภาค๒/ หน้า๒๔๐)
่ ั
- ภกษุสวมรองเท้าเข้าบ้าน เว้นแต่อาพาธ (ทกกฏ จมมขันธ์. มหา.๒/ หน้า๒๔๓)
ิ ุ ั
* ทรงอนุญาตและห้ามเกียวกับการใช้รม (ขททกวัตถุ. จล.๒/ ๓๑๓)
่ ่ ุ ุ
* ทรงอนุญาตมีดตัดผ้า, ปลอกมีด, เข็ม, กล่องเข็ม ฯลฯ (ขททกวัตถุ. จล.๒/ ๓๐๘)
ุ ุ
- ภกษุให้ทำกล่องเข็มแล้วด้วยกระดูก, งา, เขาสัตว์ (ปาจิตตีย์ วรรค ๙, ขอ ๔/ ๑๖๙)
ิ ้
ุ ุ้ ุ ุ
* ทรงอนุญาตผ้ากรองน้ำ, ถงใส่ของ, มง ฯลฯ (ขททกวัตถุ. จล.๒/ หน้า๓๐๙)
ิ ี ้ ุ ุ ุ
- ภกษุเดินทางไกลโดยไม่มผากรองน้ำ (ทกกฏ ขททกวัตถุ. จล.๒/ ๓๐๙)
๓. สกขาบทเกียวกับเสนาสนะ ทอยูอาศัย
ิ ่ ่ี ่
“บรรพชาอาศัยเสนาสนะโคนไม้
เธอพึงทำความอุตสาหะในเสนาสนะ คือโคนไม้นนจนตลอดชีวต
ั้ ิ
อติเรกลาภ คือ วิหาร เรือนมุงแถบเดียว ปราสาท เรือนโล้น ถ้ำ”
(นสสัย ๔ มหาวรรค ภาค๑ / ดูหน้า ๒๒๒)
ิ
- 17. ภาคพิเศษ : ส่วนช่วยศึกษาค้นคว้าสิกขาบททีมลกษณะเดียวกัน
่ ีั ๔๘๙
* ทรงอนุญาตรุกขมูลเสนาสนะ(อยูโคนไม้)ตลอด๘เดือน (ภิกขุวภงค์ ภาค๑/ ดหน้า ๓๘)
่ ิ ั ู
ิั ู้ ่ ่ ั ุ
* ทรงบัญญัตวตรของภิกษุผอยูปา ฯลฯ (วตตขันธ์ จลวรรค ภาค ๒/ ดูหน้า๓๔๐)
ุ
* ทรงอนุญาตเสนาสนะ (ที่อยู่อาศัย) ๕ ชนิด (เสนาสนะขันธ์ จล.๒/ ๓๑๙)
้
* ทรงอนุญาตวัจกุฎี (หองส้วม) และส่วนประกอบอืนๆ (ขททกวัตถุ. จล.๒/ ๓๑๘)
่ ุ ุ
ุ
* ทรงอนุญาตชันตาฆร (เรือนไฟ) และส่วนประกอบอืนๆ (ขททกวัตถุ. จล.๒/ ๓๐๙)
่ ุ
* ทรงอนุญาตกัปปยภูมิ และส่วนประกอบอืนๆ (เภสัชชขันธ์ มหาวรรค ภาค๒/ ๒๕๒)
ิ ่
่ ่ ่ั ุ
* ทรงอนุญาตให้ใช้ปราสาท สวนทีนงนอนให้ทำให้ควรก่อน(ขททกวัตถุ. จล.๒/ ๓๒๕) ุ
* ทรงอนุญาตหอฉัน ศาลาตังเตา และส่วนประกอบอืนๆ (เสนาสน. จล.๒/ ๓๒๐)
้ ่ ุ
ุ
* ทรงอนุญาตโรงไม้แบบ (กฐินศาลา) และส่วนประกอบอืนๆ (ขททกวัตถุ. จล.๒/ ๓๐๙)
่ ุ
* ทรงอนุญาตสมมติสมา และรายละเอียดอืนๆ (อโบสถ. มหา. ๒/ ๒๒๕)
ี ่ ุ
ิ ู้ ู ุ
* ทรงอนุญาตสมมติให้นวกรรม (สมมติภกษุผดแลการก่อสร้าง)(เสนาสน. จล.๒/ ๓๒๖)
ิ ิ ่ ั
- ภกษุสร้างกุฏเพือตนด้วยการขอ ใหญ่เกิน หรือไม่ให้สงฆ์แสดงที่ (สงฆาทิเสส ๖/๓๑)
ิ
- ภกษุสร้างวิหารมีเจ้าภาพสร้างถวายเพือตน ไม่ได้ให้สงฆ์แสดงที่ (สงฆาทิเสส ๖/๓๓)
่ ั
- ภกษุอำนวยให้พอกหลังคาวิหารเกิน ๓ ชน (ปาจิตตีย์ วรรค ๒, ขอ ๙/ หน้า ๑๐๔)
ิ ้ั ้
ิ ิ ิ ุ ุ ุ
- ภกษุสร้างกุฏดนเผา (ทกกฏ ขททกวัตถุ. จล. ๒/ ๓๑๘)
่ั
* ทรงอนุญาตเตียง, ตงสำหรับนัง หลายชนิด (เสนาสนะขันธ์ จลวรรค ภาค ๒/ ๓๑๙)
่ ุ
- ภกษุให้ทำเตียง, ตงใหม่มเท้าสูงเกิน ๘ นวด้วยนิวพระสุคต (ปาจิตตีย์ ว.๙, ๕/ ๑๗๐)
ิ ่ั ี ้ิ ้
- ภกษุใหัทำเตียง, ตงเป็นของหุมนุน(ยดด้วยนุน)(ปาจิตตีย์ ว. ๙, ขอ ๖/ ดหน้า ๑๗๑)
ิ ่ั ้ ่ ั ่ ้ ู
ิ
- ภกษุวางเตียงตังฟูกเก้าอีของสงฆ์ไว้กลางแจ้ง หลีกไปไม่เก็บ (ปาจิตตีย์ ว.๒, ๔/ ๙๙)
่ ้
- ภกษุปลาดทีนอนไว้ในวิหารของสงฆ์ หลีกไปไม่เก็บ (ปาจิตตีย์ ว.๒, ๕/ ๑๐๐)
ิ ู ่
ิ ้
- ภกษุยายของใช้ประจำอยูเสนาสนะหนึงไปใช้ทอน (ทุกกฏ เสนาสนะ. จล. ๒/ ๓๒๖)
่ ่ ่ี ่ื ุ
* ทรงบัญญตขอวัตรในการรักษาเสนาสนะ (เสนาสนะ. จล. ๒/ ๓๒๖, วตตขันธ์. จล.๒/๓๔๑)
ั ิ้ ุ ั ุ
- 18. ๔๙๐ ประมวลพระพุทธบัญญัติ อริยวินย จากพระไตรปิฎก
ั
๔. สิกขาบทเกียวกับเภสัช ยารักษาโรค
่
“บรรพชาอาศัยยา คือ น้ำมูตรเน่า
เธอพึงทำความอุตสาหะในยา คือ น้ำมูตรเน่านั้นจนตลอดชีวิต
อติเรกลาภ คือ เนยข้น เนยใส น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย”
(นิสสัย ๔ มหาวรรค ภาค๑ / ดูหน้า ๒๒๒)
* ทรงอนุญาตใช้และเก็บเภสัชต่างๆได้ตลอดชีพ (เภสัชชขันธ์ มหาวรรค ภาค๒/ ๒๔๕)
* ทรงอนุญาตฉันเภสัช ๕ ได้ท้งในกาลและในวิกาล (เภสัชชขันธ์ มหา.๒/ ๒๔๕)
ั
* ทรงอนุญาตน้ำปานะ (เภสัชชขันธ์ มหา.๒/ ๒๕๓)(ควรชัววันหนึงคืนหนึง ดหน้า๒๕๕)
่ ่ ่ ู
- ภกษุรบเภสัช ๕ เก็บไว้เกิน ๗ วน (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๓, ๓/ ๗๘)
ิ ั ั ิ
ข.กลุมสิกขาบทเกียวกับอกรณียกิจ ๔
่ ่
(สงทีบรรพชิตไม่ควรทำ)
่ิ ่
๑. สกขาบทเกียวกับการประพฤติผดในกาม
ิ ่ ิ
“ภกษุผอปสมบทแล้วไม่พงเสพเมถุนธรรม โดยทีสุดแม้กบสัตว์เดรัชฉานตัวเมีย
ิ ู้ ุ ึ ่ ั
ภิกษุใดเสพเมถุนธรรม ย่อมไม่เป็นสมณะ ไม่เป็นเชื้อสายพระศากบุตร...
เปรียบเหมือนคนถูกตัดศีรษะ ไม่อาจมีชวิตอยู่ได้ โดยการต่อศีรษะเข้ากับร่างกายนั้น
ี
การเสพเมถุนธรรมนัน อนเธอไม่พงกระทำจนตลอดชีวต”
้ ั ึ ิ
(อกรณียกิจ มหาวรรค ภาค ๑/ ดูหน้า ๒๒๒)
สกขาบทเนืองด้วยกาย
ิ ่
ิ
- ภกษุเสพเมถุนโดยทีสดแม้ในดิรจฉานตัวเมีย (ปาราชิก ขอ ๑/ ดูหน้า ๗)
ุ่ ั ้
ิ ้ ิ ้ ั ั ้
- ภกษุปล่อยสุกกะ(นำอสุจ)ดวยความจงใจ เว้นไว้แต่ฝน (สงฆาทิเสส ขอ๑/ หน้า ๒๔)
ิ ู้ ิ ั
- ภกษุกำหนัดแล้วจับต้องกาย(อวัยวะใดๆ) ของมาตุคาม(ผหญง) (สงฆาทิเสส ๒/ ๒๕)
ิ ู
- ภกษุ ถกต้ององค์กำเนิดโคตัวเมียด้วยจิตกำหนัด (ถลลัจจัย จมม. มหา.๒/ ๒๔๒)
ุ ั
- ภกษุผเดียวนังในทีลบคืออาสนะกำบังกับมาตุคามผูเดียว (อนิยต ขอ๑/ หน้า๔๗)
ิ ู้ ่ ่ั ้ ้
ิ ู้
- ภกษุผเดียวนังในอาสนะหากำบังไม่เลยทีเดียวกับมาตุคามผูเดียว (อนิยต ขอ ๒/ ๔๙)
่ ้ ้
- 19. ภาคพิเศษ : ส่วนช่วยศึกษาค้นคว้าสิกขาบททีมลกษณะเดียวกัน
่ ีั ๔๙๑
- ภิกษุนงในทีลบคือในอาสนะกำบังกับมาตุคาม(ผหญง) (ปาจิตตีย์ ว.๕, ๔/ หน้า๑๒๘)
่ั ่ ั ู้ ิ
- ภกษุผเดียวนังในทีลบกับมาตุคาม(ผหญิง)ผเดียว (ปาจิตตีย์ วรรค ๕, ขอ๕/ ๑๒๙)
ิ ู้ ่ ่ั ู้ ู้ ้
ิ ่ั ้ ิ ุ ุ
- ภกษุนงบนม้ายาวเดียวกับผูหญงหรือกระเทย (ทกกฏ เสนาสนะ. จล. ๒/ ๓๒๕)
- ภกษุสำเร็จการนอนร่วมกับมาตุคาม(ผหญิง) (ปาจิตตีย์ วรรค ๑, ขอ ๖/ ดูหน้า ๙๑)
ิ ู้ ้
- ภกษุชกชวนแล้วเดินทางไกลด้วยกันกับมาตุคาม ฯ (ปาจิตตีย์ ว.๗, ๗/ ๑๕๑)
ิ ั
ิ
- ภกษุกราบไหว้ลกรับอัญชลีกรรมสามีจกรรมแก่มาตุคาม( ทกกฏ ภกขุน.จล.๒/๓๕๕)
ุ ิ ุ ิ ี ุ
- ภกษุทำกิจกรรมทีไม่สมควรต่างๆ กับผูหญิง ( > ดูหน้า ๔๕, ๒๘๐, ๓๑๘)
ิ ่ ้
- ภกษุมอาบัติมาก ไม่ฉลาด มารยาทไม่สมควร: ลงนิยสกรรม (กมม. จล. ๑/๒๗๙)
ิ ี ั ุ
สกขาบทเนืองด้วยวาจา
ิ ่
ิ ิ
- ภกษุกำหนัดมีจตแปรปรวนพูดเคาะมาตุคามด้วยวาจาชัวหยาบ (สงฆาทิเสส ๓/ ๒๖)
่ ั
ิ ้ ั
- ภกษุกำหนัดพูดให้หญิงบำเรอตนด้วยกาม ดวยคำพาดพิงเมถุน (สงฆาทิเสส ๔/ ๒๘)
- ภกษุแสดงธรรมแก่มาตุคามเกิน๖คำ เว้นแต่มบรษรูเดียงสาอยู่ (ปาจิตตีย์ ๑,๗/ ๙๒)
ิ ี ุุ ้
- สกขาบททีเกียวกับภิกษุณี (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๑, ๔-๕/ ๕๖-๕๗; ว.๒, ๗/ ๗๑; ปาจิตตีย์
ิ ่ ่ ิ
ว.๓/ ๑๐๖-๑๑๒; ปาฏิเทสนียะ ๑-๒/ ๑๗๖-๑๗๘; ภกขุนขนธ์ จล. ๒/๓๕๔-๓๕๗)
ิ ีั ุ
๒. สกขาบทเกียวกับถือเอาสิงของทีเจ้าของมิได้ให้
ิ ่ ่ ่
“ภกษุผ้อปสมบทแล้วไม่พึงถือเอาสิ่งของทีเจ้าของมิได้ให้ โดยส่วนแห่งจิตคิดจะลัก
ิ ูุ ่
ภิกษุใดถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้ โดยส่วนแห่งจิตคิดจะลัก ๑ บาทบ้าง ควรแก่
๑ บาทบ้าง เกินกว่า ๑ บาทบ้าง ย่อมไม่เป็นสมณะ ไม่เป็นเชื้อสายพระศากบุตร...
เปรียบเหมือนใบไม้เหยวเหลืองหลุดจากขั้วแล้ว ไม่อาจเป็นของเขียวสดต่อไปได้
ี่
การถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้นั้น อันเธอไม่พึงกระทำจนตลอดชีวิต”
(อกรณียกิจ มหาวรรค ภาค ๑/ ดูหน้า ๒๒๒)
- ภกษุถอเอาทรัพย์อนเจ้าของไม่ได้ให้ โดยส่วนแห่งความเป็นขโมย (ปาราชิก ๒/ ๑๒)
ิ ื ั
- ภกษุนอมลาภทีเขาน้อมไว้จะถวายสงฆ์มาเพือตน (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๓, ๑๐/ ๘๕)
ิ ้ ่ ่ ิ
- ภกษุรอยูนอมลาภทีเขาน้อมไปจะถวายสงฆ์มาเพือบุคคล (ปาจิตตีย์ ว.๘, ๑๒/ ๑๖๔)
ิ ู้ ่ ้ ่ ่
ิ ุ
- ภกษุสละของสงฆ์ให้แก่บคคล (ถลลัจจัย เสนาสนะ. จุล.๒/ ๓๒๕, มหาโจร ๕ หน้า๒๒)
ุ
- ภกษุ เก็บ,ให้เก็บของมีคาทีตกอยู่ เว้นแต่ในวัดทีอยูในทีอยูพก(ปาจิตตีย์ ว.๙, ๒/ ๑๖๗)
ิ ่ ่ ่ ่ ่ ่ ั
- 20. ๔๙๒ ประมวลพระพุทธบัญญัติ อริยวินย จากพระไตรปิฎก
ั
๓. สิกขาบทเกียวกับการจงใจพรากสัตว์เสียจากชีวต
่ ิ
“ภิกษุผู้อุปสมบทแล้ว ไม่พึงจงใจพรากสัตว์เสียจากชีวิต โดยที่สุดกระทั่งมดดำมดแดง
ภกษุใดจงใจพรากกายมนุษย์จากชีวตโดยทีสดกระทังยังครรภ์ให้ตกไป
ิ ิ ุ่ ่
ย่อมไม่เป็นสมณะ ไม่เป็นเชื้อสาย พระศากบุตร...เปรียบเหมือนแผ่นศิลาหนา
แตกออกเป็น ๒ เสี่ยงจะประสานให้สนิทเป็นแผ่นเดียวกันอีกไม่ได้
การจงใจพรากกายมนุษย์เสียจากชีวิต อนเธอไม่พึงกระทำจนตลอดชีวิต”
ั
(อกรณียกิจ มหาวรรค ภาค ๑/ ดูหน้า ๒๒๒)
- ภกษุจงใจพรากกายมนุษย์จากชีวต ฯลฯ (ปาราชิก ขอ ๓/ ดหน้า ๑๖)
ิ ิ ้ ู
- ภกษุแกล้งพรากสัตว์เสียจากชีวต (ปาจิตตีย์ วรรค ๗, ขอ ๑/ ดูหน้า ๑๔๖)
ิ ิ ้
- ภกษุรอยูบริโภคน้ำมีตวสัตว์ (ปาจิตตีย์ วรรค ๗, ขอ ๒/ ดูหน้า ๑๔๗)
ิ ู้ ่ ั ้
- ภกษุรอยูวาน้ำมีตวสัตว์ รดหรือให้รด ซงหญ้าหรือดิน (ปาจิตตีย์ ว.๒, ๑๐/ ๑๐๕)
ิ ู้ ่ ่ ั ่ึ
- ภกษุพรากภูตคาม (ตดทำลายต้นไม้) (ปาจิตตีย์ วรรค ๒, ขอ ๑/ ๙๖)
ิ ั ้
- ภกษุขดหรือให้ขด ซงปฐพี (ปาจิตตีย์ วรรค ๑, ขอ ๑๐/ ดหน้า ๙๕)
ิ ุ ุ ่ึ ้ ู
ิ ุ ุ ั ุ ู
- ภกษุเผากองหญ้า (ทกกฏ ขททกวัตถุขนธ์ จลวรรค ภาค ๒/ ดหน้า ๓๑๖)
ั
* ทรงอนุญาตจำพรรษาเพราะภิกษุเหยียบต้นข้าว,สตว์ตาย (วสสูปนายิกา. มหา. ๑/ ๒๓๒)
ั
- ภกษุฉนเนือสัตว์ทเขาฆ่าเจาะจงเพือถวายภิกษุ (ทกกฏ เภสัชช. มหา.๒/ ๒๕๑)
ิ ั ้ ่ี ่ ุ
๔. สิกขาบทเกียวกับการพูดเท็จ, ส่อเสียด, หยาบ, เพ้อเจ้อ
่
“ภกษุผ้อปสมบทแล้ว ไม่พึงกล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม
ิ ูุ
โดยที่สุดพูดว่าข้าพเจ้ายินดีในเรือนว่าง ภกษุใดมีความปรารถนาชั่ว
ิ
ถกความอยากครอบงำ กล่าวอวดอุตริมนุสสธรรมที่ไม่มอยู่ ไม่เป็นจริง
ู ี
คือ ฌานก็ดี วิโมกข์ก็ดี สมาธิก็ดี สมาบัติก็ดี มรรคก็ดี ผลก็ดี ย่อมไม่เป็นสมณะ
ไม่เป็นเชื้อสายพระศากบุตร... เปรียบเหมือนต้นตาลยอดด้วนที่ไม่อาจงอกได้ตอไป ่
การกล่าวอวดอุตริมนุสสธรรมนั้น อนเธอไม่พึงกระทำจนตลอดชีวิต”
ั
(อกรณียกิจ มหาวรรค ภาค ๑/ ดูหน้า ๒๒๒)
- ภกษุใดไม่รเฉพาะ กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมฯ นอมเข้ามาในตน (ปาราชิก ๔/ ๑๙)
ิ ู้ ้
- ภกษุจงใจจะพูดให้คลาดจากความจริง (ปาจิตตีย์ วรรค๑,ขอ๑/หน้า๘๖)
ิ ้
ั
- รบคำจะจำพรรษาทีใดแล้วไม่จำพรรษาในทีนน (ทกกฏ วสสูปนายิกา. มหา.๑/ ๒๓๕)
่ ่ ้ั ุ ั
- 21. ภาคพิเศษ : ส่วนช่วยศึกษาค้นคว้าสิกขาบททีมลกษณะเดียวกัน
่ ีั ๔๙๓
- ภิกษุพดส่อเสียดภิกษุ (พดให้ภิกษุทะเลาะกัน) (ปาจิตตีย์ ว.๑, ๓/ ๘๗)
ู ู
- ภกษุพดโอมสวาท (พดคำเสียดแทงให้เจ็บใจ) (ปาจิตตีย์ ว.๑, ๒/ ๘๗)
ิ ู ู
ิ ่
- ภกษุดาปริภาษคฤหัสถ์: ลงปฏิสารณียกรรม (จมปยย. มหา.๒/ ๒๖๘, กมมขันธ์ จล.๑/ ๒๘๑)
ั ั ุ
- พดล้อเล่นอุปสัมบัน,อนุปสัมบันด้วยอักโกสวัตถุ (ทพภาสิต วภงค์ปาจิตตีย์ ว.๑, ๒/๘๘)
ู ุ ิ ั
- ภกษุพดคุยเดรัชฉานกถา, พดแก่งแย่ง, ลอลวงฯ ( > ดู มชฌิมศีล มหาศีล หน้า ๓๗๒)
ิ ู ู ่ ั
ค.กลุมสิกขาบทเกียวกับอาจารวิบติ
่ ่ ั
(ผดจรรยามารยาทของสมณะ)
ิ
- ภกษุขดหรือให้ผอนขุด ซงปฐพี (ปาจิตตีย์ วรรค. ๑, ขอ ๑๐/ หน้า ๙๕)
ิ ุ ู้ ่ื ่ึ ้
- ภกษุพรากภูตคาม (ตดทำลายต้นไม้) (ปาจิตตีย์ วรรค ๒, ขอ๑/ หน้า๙๖)
ิ ั ้
- ภกษุมใช่ผอาพาธ มงการผิง ตดหรือให้ตดซึงไฟ เว้นมีปจจัย(ปาจิตตีย์ ว. ๖, ๖/ ๑๔๑)
ิ ิ ู้ ุ่ ิ ิ ่ ั
- ภกษุดมสุราและเมรัย (ปาจิตตีย์ วรรค ๖, ขอ ๑/ หน้า ๑๓๕)
ิ ่ื ้
- ภกษุหวเราะในน้ำ (ปาจิตตีย์ วรรค ๖, ขอ ๓/ หน้า ๑๓๗)
ิ ั ้
- ภกษุข้นต้นไม้ มกิจขึนได้สงชัวบุรษฯ (ทุกกฏ ขททกวัตถุ. จล.๒/ หน้า ๓๑๖)
ิ ึ ี ้ ู ่ ุ ุ ุ
- ภกษุยงหย่อนกึงเดือนอาบน้ำเว้นแต่สมัย, เว้นปจจันตชนบท (ปาจิตตีย์ ว.๖,๗/๑๔๒)
ิ ั ่ ั
- ภกษุไม่ได้รบบอกก่อนก้าวล่วงธรณีเข้าไปในห้องของกษัตริย์ (ปาจิตตีย์ ว.๙, ๑/ ๑๖๖)
ิ ั
- ภกษุนงแทรกแซงในตระกูลทีมคน ๒ คน (คอสตรีกบบุรษ) (ปาจิตตีย์ ว. ๕, ๓/ ๑๒๗)
ิ ่ั ่ ี ื ั ุ
ิ ั
- ภกษุชกชวนแล้วเดินทางไกลกับผูเป็นโจรหรือมาตุคาม(ปาจิตตีย์ ว. ๗, ๖-๗/๑๕๐-๑๕๑)
้
- ภกษุไปเพือดูเสนาอันยกออกแล้ว เว้นแต่มปจจัย (ปาจิตตีย์ ว. ๕, ๘/ ๑๓๒)
ิ ่ ี ั
- ถาปัจจัยบางอย่างเพือจะไปสูเสนามี, อยูในเสนาเกิน ๓ คน (ปาจิตตีย์ ว. ๕, ๙/ ๑๓๓)
้ ่ ่ ่ ื
- ภกษุอยูในเสนา ไปสูสนามรบ, ทีพกพล, ทีจดขบวนทัพ (ปาจิตตีย์ ว. ๕, ๑๐/ ๑๓๔)
ิ ่ ่ ่ ั ่ั
- ภกษุรอยูยงบุคคลมีปหย่อน ๒๐ ให้อปสมบท (ปาจิตตีย์ วรรค ๗, ขอ ๕/ หน้า๑๔๙)
ิ ู้ ่ ั ี ุ ้
- ภกษุนอนร่วมกับอนุปสัมบัน(ผไม่ได้อปสมบท)เกิน ๓ คืน (ปาจิตตีย์ ว. ๑, ๕/ ๙๐)
ิ ู้ ุ
- ภกษุยงอนุปสัมบัน(ผไม่ได้อปสมบท)ให้กล่าวธรรมโดยบท (ปาจิตตีย์ ว. ๑, ๔/ ๘๙)
ิ ั ู้ ุ
- 22. ๔๙๔ ประมวลพระพุทธบัญญัติ อริยวินย จากพระไตรปิฎก
ั
- ภิกษุให้ของเคียวของกินแก่นกบวชอืนด้วยมือของตน (ปาจิตตีย์ วรรค ๕, ขอ๑/ ๑๒๔)
้ ั ่ ้
- ภกษุสมาทานการเปลือยกายแบบเดียรถีย์ (ถลลัจจัย จวรขันธ์ มหา. ๒/ ๒๖๕)
ิ ุ ี
- ภกษุตดองคชาติ (ถลลัจจย ขททกวัตถุขันธ์ จลวรรค ภาค ๒/ หน้า ๓๐๗)
ิ ั ุ ั ุ ุ
- ภกษุไม่ลาภิกษุ เข้าสูบานในเวลาวิกาล เว้นมีกิจรีบด่วน (ปาจิตตีย์ ว. ๙, ๓/ ๑๖๘)
ิ ่ ้
- ภกษุรบนิมนต์แล้วไม่บอกลาภิกษุ เป็นผูเทียวไปในตระกูล (ปาจิตตีย์ ว. ๕, ๖/ ๑๓๐)
ิ ั ้ ่
ิ ุ่ ุ ุ
- ภกษุนงห่มผ้าแบบคฤหัสถ์ (ทุกกฏ ขททกวัตถุ. จลวรรค ภาค ๒/ หน้า ๓๑๖)
ิ ุ ุ ุ
- ภกษุใช้เครืองประดับแบบคฤหัสถ์ (ทกกฏ ขททกวัตถุ. จล. ๒/ ดหน้า ๓๐๔)
่ ู
ิ ู ้ ั ุ ุ
- ภกษุดฟอนรำ, ขบร้อง, บรรเลงดนตรี (ทกกฏ ขททกวัตถุ. จล. ๒/ ๓๐๕) ุ
ิ ั ้ ุ ุ
- ภกษุขบธรรม (สวดมนต์) ดวยเสียงอันยาว (ทกกฏ ขททกวัตถุ. จล. ๒/ ๓๐๕) ุ
ิ ั ู
- ภกษุเว้นขาดจากการฟ้อนรำ ขบร้อง ประโคม ดการเล่น (นยาย, เพลง, ชกมวยิ
กฬาฯ) เล่นการพนัน, นอนทีนอนสูงใหญ่, ประดับตกแต่งร่างกาย, รบเงินทอง,
ี ่ ั
ขาวเปลือกเนือดิบ,หญง,ทาส, แพะแกะไก่สกรช้างโคม้า,ทนาทีสวน,พดเดรัชฉานกถา
้ ้ ิ ุ ่ี ่ ู
กล่าวคำแก่งแย่งกัน ฯลฯ ( > ดู จลศีล มชฌิมศีล มหาศีล หน้า ๓๖๘-๓๗๘)
ุ ั
- สิกขาบทในเสขิยวัตรทัง ๗๕ ขอ (ทุกกฏ ภกขุวิภงค์ ภาค ๒/ ดูหน้า ๑๘๑ - ๑๙๑)
้ ้ ิ ั
* ทรงบัญญัตการบริหารสรีระ (ผม,ขน,เล็บ,การอาบน้ำฯลฯ) (ขททกวัตถุ. จล.๒/๓๐๔-๓๑๘)
ิ ุ ุ
* ทรงบัญญตวตร ๑๔ (ขอปฏิบตทีพงกระทำ) (วตตักขันธ์ จล. ๒/ ๓๓๕-๓๔๙)
ัิั ้ ั ิ ่ ึ ั ุ
ง. กลุมสิกขาบทเกียวกับทิฏฐิวบติ
่ ่ ิ ั
(ความเห็นผิด)
- กล่าวว่าธรรมทีตรัสว่าอันตรายไม่อาจทำอันตรายแก่ผเสพได้จริง(ปาจิตตีย์ ว.๗,๘/๑๕๒)
่ ู้
- ภกษุรอยูกนร่วม,อยูรวม,นอนด้วยกันกับภิกษุผกล่าวอย่างนัน(ปาจิตตีย์ ว.๗,๙/ ๑๕๓)
ิ ู้ ่ ิ ่่ ู้ ้
ิ ู้ ่
- ภกษุรอยูให้สามเณรผูกล่าวอย่างนันอุปฏฐาก,กนร่วม,นอนร่วม(ปาจิตตีย์ ว.๗,๙/ ๑๕๔)
้ ้ ั ิ
- ภกษุกนสิกขาบท (ปาจิตตีย์ วรรค ๘, ขอ ๒/ ดูหน้า ๑๕๖)
ิ ่ ้
- 23. ภาคพิเศษ : ส่วนช่วยศึกษาค้นคว้าสิกขาบททีมลกษณะเดียวกัน
่ ีั ๔๙๕
- ภิกษุแสดงความไม่เอือเฟือ (ปาจิตตีย์ วรรค ๖, ขอ ๔/ หน้า ๑๓๘)
้ ้ ้
ู ึ
- ถกว่ากล่าวโดยชอบธรรมกลับพูดว่าจะยังไม่ศกษาในสิกขาบทนี้(ปาจิตตีย์ ว.๘,๑/๑๕๕)
- เคยฟังปาติโมกข์แต่พดว่าเพิงรูวามีขอนี,้ ปาจิตตียเพราะแสร้งหลง(ปาจิตตีย์ ว.๘,๓ /๑๕๗)
ู ่ ้่ ้ ์
- ภกษุผตองอาบัตแล้วไม่เห็นอาบัตไม่ทำคืนอาบัต,ิ หรือภิกษุผมความเห็นผิดว่า
ิ ู้ ้ ิ ิ ู้ ี
ธรรมทีตรัสว่าอันตรายไม่อาจอันตรายแก่ผเสพ : ลงอุกเขปนียกรรม(กมม. จล.๑/๒๘๓)
่ ู้ ั ุ
* ทรงให้ถอนิสยในอุปชฌาย์อาจารย์ ๕ปี,ประฌาม,ขอขมา (มหาขันธ์ มหา.๑/๒๐๕-๒๑๔)
ื ั ั
จ.กลุมสิกขาบทเกียวกับอาชีววิบติ
่ ่ ั
(การเลียงชีพทีผดของบรรพชิต)
้ ่ ิ
สกขาบทเกียวกับการซือขายแลกเปลียนใช้เงินทอง
ิ ่ ้ ่
- ภกษุรบ ให้รบ หรือยินดีเงินทองอันเขาเก็บไว้ให้ (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๒, ๘/ ๗๓)
ิ ั ั ิ
- ภกษุซอขายด้วยรูปยะ(เงินตรา)มประการต่างๆ (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๒, ๙/ ๗๓)
ิ ้ื ิ ี ิ
- ภกษุถงการแลกเปลียนมีประการต่างๆ (นสสัคคิยปาจิตตีย์ วรรค ๒, ขอ ๑๐/หน้า๗๔)
ิ ึ ่ ิ ้
ิ ิ ิ
* ให้ยนดีของกัปปิยะจากกัปปิยภัณฑ์ แต่มให้ยนดี,แสวงหาทองเงิน(เภสัช. มหา.๒/ ๒๕๓)
* ทรงอนุญาตทวงจีวรจากไวยาวัจจกรผูรบฝากทรัพย์ (> นสสัคคิยปาจิตตีย์ ๑,๑๐/ ๖๒)
้ั ิ
สกขาบทเกียวกับการแสดงคุณพิเศษ
ิ ่
- ภกษุใดไม่รเฉพาะ กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมฯ นอมเข้ามาในตน (ปาราชิก ๔/ ๑๙)
ิ ู้ ้
- ภกษุบอกอุตตริมนุสสธรรมทีมจริงแก่อนุปสัมบัน(ผมได้บวช) (ปาจิตตีย์ ว.๑, ๘/ ๙๓)
ิ ่ ี ู้ ิ
ิ ุ ุ ั ุ
- ภกษุแสดงอิทธิปาฏิหารย์แก่คฤหัสถ์ (ทกกฏ ขททกวัตถุขนธ์ จล. ๒/ ๓๐๗)
สิกขาบทเกียวกับการประจบ, ประพฤติอนาจาร, ลอลวง
่ ่
- ภกษุประทุษร้ายตระกูลประจบคฤหัสถ์สงฆ์สวดห้าม ๓ ครัง (สงฆาทิเสส ๑๓/ /๔๒)
ิ ้ ั
- ภกษุชกสือชายหญิงในความเป็นเมีย,เป็นชู,้ หรือแก่หญิงแพศยา(สงฆาทิเสส ๕ /๒๙)
ิ ั ่ ั
ิ
- ภกษุประพฤติอนาจารประจบคฤหัสถ์(ทกกฏ ขททกวัตถุ. จล. ๓๑๘ ด๔๔, ๒๘๐)
ุ ุ ุ ู
- 24. ๔๙๖ ประมวลพระพุทธบัญญัติ อริยวินย จากพระไตรปิฎก
ั
- ไม่ละอายประพฤติเลวทรามประจบคฤหัสถ์ : ลงปัพพชนียกรรม(กัมมขันธ์.จล.๒/๒๘๐)
ุ
- ภกษุรบใช้เป็นทูตนำข่าว,ลอลวงชาวบ้าน,หมอทายโชคลาง, ทายลักษณะสิงของ
ิ ั ่ ่
ู
ทายแพ้ชนะ, โหราศาสตร์, ทายดินฟ้าอากาศ, ดฤกษ์ยาม, หมอผี หมอยา ฯลฯ
ั ั ิ
( > ดูลกษณะในจุลศีล มชฌมศีล มหาศีล หน้า ๓๗๓-๓๗๗)
ิ ุ ุ ุ
- ภกษุเรียน,สอนโลกายตะ หรือเดรัชฉานวิชา (ทกกฏ ขททกวัตถุ. จล. ๒/ ๓๑๗)
สิกขาบทเกียวกับการขอ และการสังให้ผอนทำ
่ ่ ู้ ่ื
- ภกษุขอเกินกว่าทีเขากำหนดปวารณา หรือเกิน ๔ เดือน (ปาจิตตีย์ ว.๕, ๗/ ๑๓๑)
ิ ่
- ภกษุมากไปด้วยการขอแรงและวัสดุกอสร้าง(> ดตนบัญญัตสงฆาทิเสส ขอ๖/หน้า ๓๑)
ิ ่ ู ้ ิั ้
- ภกษุขอจีวรต่อคฤหัสถ์ทมใช่ญาติ (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๑, ขอ ๖-๑๐/ ๕๗-๖๓)
ิ ่ี ิ ิ ้
- ภกษุขอด้ายมาเองแล้วให้ชางหูกทอจีวร (นสสัคคิยปาจิตตีย์ วรรค ๓, ขอ ๖/หน้า๘๐)
ิ ่ ิ ้
- ภกษุบาตรมีแผลหย่อน ๕ ให้จายบาตรใหม่ (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๓, ๒/ ๗๗)
ิ ่ ิ
- ภกษุมใช่ผอาพาธขออาหารปราณีตเพือประโยชน์ตนแล้วฉัน (ปาจิตตีย์ ว.๔, ๙/ ๑๒๒)
ิ ิ ู้ ่
- ภกษุส่งให้ผอนรับทองเงิน แทนตน (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๓, ขอ ๘/ ๗๒)
ิ ั ู้ ่ื ิ ้
- ภกษุรอยูวาน้ำมีตัวสัตว์ สั่งให้ผ้อนรดหญ้าหรือดิน (ปาจิตตีย์ ว.๒, ๑๐/ ๑๐๕)
ิ ู้ ่ ่ ู ่ื
* กัปปิยโวหารให้ผอนขุดดิน ( > ดูท่อนาบัตปาจิตตีย์ ว.๑, ๑๐/ ๙๕)
ู้ ่ื ี ิ
* กัปปิยโวหารให้ผอนพรากต้นไม้ ( > ดูที่อนาบัตปาจิตตีย์ ว.๒, ๑/ ๙๖)
ู้ ่ื ิ
ฉ. กลุมสิกขาบทเกียวกับสังฆสามัคคี
่ ่
(ความพร้อมเพรียงในหมูสงฆ์)
่
สกขาบทเกียวกับการไม่ทำสงฆ์ให้แตกกัน
ิ ่
- ภกษุพยายามทำลายสงฆ์ให้แตก สงฆ์หาม ๓ ครัง ยงไม่เลิก (สงฆาทิเสส ๑๐/ ๓๗)
ิ ้ ้ ั ั
- ภกษุผประพฤติตามภิกษุผทำลายสงฆ์ สงฆ์หาม ๓ ครัง (สังฆาทิเสส ขอ ๑๑/ ๓๙)
ิ ู้ ู้ ้ ้ ้
ิ ู้ ุ
- ภกษุประพฤติตามภิกษุผทำสงฆ์ให้แตกกัน (ถลลัจจัย สงฆเภทขันธ์ จล. ๒/ ๓๓๒)
ั ุ
- 25. ภาคพิเศษ : ส่วนช่วยศึกษาค้นคว้าสิกขาบททีมลกษณะเดียวกัน
่ ีั ๔๙๗
- ภิกษุฉนเป็นหมู่ (ปาจิตตีย์ วรรค ๔, ขอ ๒/ หน้า ๑๑๔ ดเชิงอรรถหน้า ๑๑๖ประกอบ)
ั ้ ู
สกขาบทเกียวกับการไม่ให้เกิดการวิวาทกัน
ิ ่
- ภกษุมโทสะตามกำจัดภิกษุดวยอาบัตปาราชิกทีไม่มมล (สงฆาทิเสส ๘/ หน้า ๓๔)
ิ ี ้ ิ ่ ี ู ั
- ภกษุมโทสะถือเอาเลสตามกำจัดภิกษุดวยอาบัตปาราชิกทีไม่มมล(สงฆาทิเสส ๙/ ๓๖)
ิ ี ้ ิ ่ ี ู ั
- ภกษุกำจัดภิกษุดวยอาบัตสงฆาทิเสสทีไม่มมล (ปาจิตตีย์ วรรค๘, ขอ ๖/ หน้า ๑๕๙)
ิ ้ ิั ่ ี ู ้
ิ ิ
- ภกษุโจทอาบัตโดยไม่ขอโอกาสก่อน(ทกกฏ อโบสถขันธ์ มหา.๑/หน้า ๒๒๗ข้อ๒๒)
ุ ุ
- ภกษุกอความรำคาญ(สงสัยว่าเป็นอาบัต)แก่ภกษุอน (ปาจิตตีย์ ว. ๘, ขอ๗/ หน้า๑๖๐)
ิ ่ ิ ิ ่ื ้
ูุ ิ ู้ ้ ู ุ ้
> ดคณสมบัตผโจทและผูถกโจท (ปาฏิโมกขฐปนขันธ์ จลวรรค ขอ ๒/ หน้า ๓๕๓)
- ภกษุบอกอาบัตชวหยาบของภิกษุแก่ผไม่ได้บวช (ปาจิตตีย์ วรรค ๑, ๙/ หน้า ๙๔)
ิ ิ ่ั ู้
- ภกษุรอยูปกปิดอาบัตชวหยาบของภิกษุ (ปาจิตตีย์ วรรค ๗, ขอ ๔/ หน้า ๑๔๘)
ิ ู้ ่ ิ ่ั ้
* ทรงอนุญาตให้สวดปาติโมกข์ทกกึงเดือน (อโบสถ. มหาวรรค ๑ / หน้า๒๒๔-๒๒๕)
ุ ่ ุ
- ภกษุพดส่อเสียด (ยให้ทะเลาะกัน) (ปาจิตตีย์ วรรค ๑, ขอ ๓/ หน้า ๘๘)
ิ ู ุ ้
- ภกษุแอบฟังความของภิกษุผทะเลาะกัน (ปาจิตตีย์ วรรค ๘, ขอ ๘/ หน้า ๑๖๑)
ิ ู้ ้
- ภกษุโพนทะนาบ่นว่า(ภกษุททำหน้าทีโดยธรรมทีสงฆ์สมมติ) (ปาจิตตีย์ ๒, ๓/๙๘)
ิ ิ ่ี ่ ่
- ภกษุตเตียนภิกษุวาสอนภิกษุณเพราะเห็นแก่ลาภ (ปาจิตตีย์ ว.๓, ขอ ๔/ หน้า ๑๐๘)
ิ ิ ่ ี ้
ิ ่ ั ุ
- ภกษุกอการทะเลาะวิวาทก่ออธิกรณ์: ลงตัชชนียกรรม (กมม. จล. ๑/ หน้า๒๗๗)
สกขาบทเกียวกับการเคารพซึงกันและกัน
ิ ่ ่
- ภกษุเป็นผูวายากสอนยาก สงฆ์หาม๓ ครังไม่ละเลิก (สงฆาทิเสส ขอ ๑๒/ หน้า ๔๑)
ิ ้่ ้ ้ ั ้
- ภกษุเป็นผูให้ลำบาก(คอ พดเฉไฉเมือถูกสอบสวน) (ปาจิตตีย์ ว.๒, ขอ ๒/ หน้า ๙๗)
ิ ้ ื ู ่ ้
* ทรงอนุญาตปวารณากันและกัน(คอให้ภกษุอนว่ากล่าวตักเตือนได้) (ปวารณา. มหา.๑/๒๓๖)
ื ิ ่ื
- ภกษุรอยูฟนอธิกรณ์ททำเสร็จแล้วตามธรรม (ปาจิตตีย์ วรรค ๗, ขอ ๓/ หน้า ๑๔๗)
ิ ู้ ่ ้ื ่ี ้
- มอบฉันทะเพือกรรมอันเป็นธรรมแล้วพูดบ่นว่าในภายหลัง (ปาจิตตีย์ ว. ๘, ๙/ ๑๖๒)
่
ิ
- กำลังวินจฉัยเรืองในสงฆ์อยูไม่ให้ฉนทะลุกจากอาสนะหลีกไปเสีย(ปาจิตตีย์ ว.๘,๑๐/๑๖๓)
่ ่ ั
- 26. ๔๙๘ ประมวลพระพุทธบัญญัติ อริยวินย จากพระไตรปิฎก
ั
- ภิกษุรวมกับสงฆ์ให้จวรแก่ภกษุแล้วติเตียนภายหลัง (ปาจิตตีย์ ว.๘, ๑๑/ หน้า ๑๖๔)
่ ี ิ
ั ิั ้ ั ิ ่ ่ ่
* ทรงบัญญตวตร ๑๔ ขอปฏิบตตอกัน, ตอสิงต่างๆ (วตตักขันธ์ จล.๒/๓๓๕-๓๔๙)
ั ุ
- ภกษุไม่ให้กราบไหว้,ลกรับ,การทำอัญชลีกรรม,การทำสามีจกรรม,อาสนะทีเลิศ
ิ ุ ิ ่
นำอันเลิศ,บณฑบาตอันเลิศ ตามลำดับผูแก่กว่า(ทกกฏ เสนาสน. จล.๒/๓๒๑-๓๒๓)
้ ิ ้ ุ ุ
* ทรงอนุญาตผูสอนธรรมวินยอ่อนกว่านังอาสนะเสมอหรือสูงกว่าผูฟง และให้
้ ั ่ ้ ั
ภกษุผมอาสนะเสมอกันระหว่าง๒พรรษานังรวมกันได้ (เสนาสน. จล. ๒/ ๓๒๔)
ิ ู้ ี ่ ุ
- ภกษุสงฆ์ ไม่พยาบาลภิกษุอาพาธ (ทกกฏ จวรขันธ์ มหา.๒/ ๒๖๔)
ิ ุ ี
สกขาบทเกียวกับการไม่ทำตัวให้เป็นทีรงเกียจ
ิ ่ ่ั
- ภกษุโกรธน้อยใจให้ประหาร(ทำร้าย)ภกษุ (ปาจิตตีย์ วรรค ๘, ขอ ๔/ หน้า ๑๕๘)
ิ ิ ้
- ภกษุโกรธน้อยใจเงือหอกคือฝ่ามือแก่ภกษุ (ปาจิตตีย์ วรรค ๘, ขอ ๕/ หน้า ๑๕๙)
ิ ้ ิ ้
- เป็นปาจิตตียในเพราะจีด้วยนิวมือ (ปาจิตตีย์ วรรค ๖, ขอ ๒/ หน้า ๑๓๖)
์ ้ ้ ้
- ภกษุโกรธขัดใจฉุดคร่าให้ฉดคร่าภิกษุจากวิหารของสงฆ์ (ปาจิตตีย์ ว.๒, ๙/ หน้า๑๐๒)
ิ ุ
- ภกษุรอยูนอนแทรกภิกษุผเข้าไปอยูกอนในวิหารสงฆ์ฯ (ปาจิตตีย์ ว. ๒, ๖/ หน้า๑๐๑)
ิ ู้ ่ ู้ ่ ่
- ภกษุนงนอนทับเตียงตังทีอยูบนร้านในวิหารสงฆ์ (ปาจิตตีย์ ว. ๒, ขอ ๘/ หน้า ๑๐๓)
ิ ่ั ่ ่ ่ ้
- ภกษให้จวรแก่ภกษุเองแล้วโกรธน้อยใจชิงเอามา (นสสัคคิยปาจิตตีย์ ว.๓, ๕/ หน้า๘๐)
ิ ุ ี ิ ิ
- ภกษุชวนภิกษุไปบิณฑบาตด้วยกันแล้วไล่กลับ (ปาจิตตีย์ วรรค๕, ขอ ๒/ หน้า ๑๒๖)
ิ ้
ิ ู้ ่ ิ ่ี ้ ั
- ภกษุรอยูเพ่งจะหาโทษพูดให้ภกษุทหามภัตแล้ว ฉนของมิใช่เดน(ปาจิตตีย์ ว.๔, ๖/๑๒๐)
- ภกษุใดหลอนซึงภิกษุ เป็นปาจิตตีย์ (ปาจิตตีย์ วรรค ๖, ขอ ๕/ หน้า ๑๓๙)
ิ ่ ้
- ภกษุซอนหรือให้ซอนบริขารของภิกษุแม้เพือจะหัวเราะ (ปาจิตตีย์ ว.๖,๑๐/ หน้า๑๔๕)
ิ ่ ่ ่
ิ ้ ่ื ้
- ภกษุเพ่งโพนทะนาแลดูบาตรของผูอน (ทุกกฏ เสขิยะ วรรค๒, ขอ ๑๒/ หน้า ๑๘๖)
ิ ั ุ ุ ุ
- มใช่เพราะเหตุอาพาธ ฉนกระเทียม (ทกกฏ ขททกวัตถุ. จล.๒/ หน้า ๓๑๗)
ิ ั
- ภกษุฉนหรือดืมในภาชนะเดียวกัน, นอนร่วมเตียง,รวมเครืองลาด,หรือ
่ ่ ่
้ ุ
ผาห่มผืนเดียวกัน (ทกกฏ ขททกวัตถุขนธ์ จลวรรค ภาค ๒/ หน้า ๓๑๑)
ุ ั ุ