More Related Content
Similar to นาฬิกาชีวิต (Biological clock)
Similar to นาฬิกาชีวิต (Biological clock) (6)
นาฬิกาชีวิต (Biological clock)
- 1. นาฬิกาชีวิต (Biological Clock)
คุณทราบไหมวา รางกายของคุณทํางานตาม
ชวงเวลา ขณะที่เราทํากิจวัตรประจําวันอยูนั้นรางกายและอวัยวะ
ของเราก็ทํางานอยูเหมือนกันแตหากเราไมไดใสใจ กินนอน
ตามแตใจชอบ รางกายก็อาจเกิดความผิดปกติเล็กๆนอยๆนาน
วันเขาก็อาจกลายเปนโรคขึ้นได
ดังนั้นเราจึงควรปรับเปลี่ยนการดําเนินชีวิตใหสอดคลอง
กับแตละชวงเวลาของวัน ดังนี้
5.00-6.00 น. เปนชวงเวลาที่นาตื่นนอนที่สุดเพราะเปน
ชวงเวลาที่รางกายจะเริ่มหลั่งสารคอรติซอลและจะเพิ่มสูงสุดใน
เวลา 8.00 น. ซึ่งสารคอรติซอลเปนสเตรอยดตามธรรมชาติใน
รางกาย เพื่อตานการอักเสบ ควบคุมระดับความเครียด และชวย
ใหสมองปลอดโปรง มีชีวิตชีวา
ถาไมตื่นชวงนี้เราจะไมไดรับประโยชนจากสารนี้เลย
เพราะฉะนั้นไมวาทานจะหลับกี่โมงก็ควรตื่นในเวลานี้
และในตอนเชาจะเปนเวลาการทํางานของลําไสใหญดวย
มันจะบีบตัวแรงสุดในชวงนี้ซึ่งเหมาะมากกับการขับถายอุจจาระ
การไมถายอุจจาระในตอนเชาจะทําใหของเสียคั่งคางถูกดูดซึม
กลับมาใหม ฉะนั้นการถายอุจจาระทุกวัน ยังไมสําคัญเทา
ถายทุกเชา
6.00-8.00 น. ถือเปนชวงที่เหมาะกับการออกกําลังกาย
มากที่สุด แนะนําใหออกกําลังกายติดตอกันอยางนอย 30นาที
และเคล็ดลับสําหรับผูทีอยากลดความอวน ควรออกกําลังกาย
ตอไปอีก 30 นาที เนื่องจาก 30 นาทีแรก รางกายจะดึงน้ําตาล
ในเลือดกับในตับมาใช แตหลังจากนั้นถือวาเปนนาทีทอง ที่
รางกายจะเผาผลาญไขมันที่สะสมอยูเดิมตามรางกาย ดังนั้นผูที่
ตองการลดน้ําหนักตองกําลังกายเบาๆติดตอกันประมาณ 1
ชั่วโมง และแนะนําใหงดทานอาหารหลังจากออกกําลังกายอีก
- 2. ประมาณ 1 ชั่วโมง อาจดื่มน้ําเปลาไดบาง ที่ทําเชนนี้กเพื่อ
ปลอยใหรางกายนําไขมันที่สะสมออกมาใชอยางเต็มที่ หลัง
ออกกําลังกายเสร็จก็ควรอาบน้ํา ซึ่งน้ําที่อาบควรเปนน้ําเย็นหรือ
อุณหภูมิปกติ เพื่อชวยในการเผาผลาญ และทําใหสดชื่น
กระปรี้กระเปราพรอมที่จะเผชิญความเครียดตลอดวัน
พอสายหนอยควรเติมพลังดวยอาหารมื้อที่สําคัญที่สุดคือ
มื้อเชา ซึ่งควรทานมื้เชาทุกเชา ถาเราไมรับประทานอาหาร
รางกายจะคิดวาเราขาดอาหาร โดยจะไปดึงอาหารที่คางไวเมื่อ
คืนนํากลับมาใชใหม ซึ่งผลเสียคือของเสียและสารพิษจะคั่งคาง
อยูในรางกายสงผลถึงการมีกลิ่นตัว สิว และโรค อวน ตามมาได
08.00-13.00 น. ชวงนี้หันมาทํางานกันดีกวา เพราะชวง
นี้เปนชวงที่รางกายสามารถทํางานไดมีประสิทธิภาพสูงสุด
เพราะตั้งแตเที่ยงวันเปนตนไปนั้น สมาธิของเราจะเริ่มลดลง
และการทํางานไมดีนัก นั่นเปนเพราะวาไดเวลาของอาหารมื้อที่
2 แลว (ในมื้อกลางวันสําหรับผูที่อยากมีหุนสวยก็ขอแนะนําให
เลี่ยงอาหารประเภทแปง อยางอื่นทานไดตามสมควร)
13.00-17.00 น. เปนชวงเวลาเผาผลาญของรางกายทํา
ใหความรอนสูง จึงควนดื่มน้ําเยอะๆหรืออาจทานผลไมเติม
พลังงานไดเล็กนอย แตไมควรทานอาหารมื้อหนัก เนื่องดวย
เวลานี้เปนเวลาการทํางานของลําไสเล็ก การทานอาหารมื้อ
หนักจะทําใหเลือดไปเลี้ยงกระเพาะอาหารแทนที่จะไปเลี้ยงที่
ลําไสเล็ก ทําใหอาหารที่เราทานเขาไปในตอนเชาถูกดูดซึมได
ไมคอยดี
17.00-21.00 น. ชวงนี้รางกายจะเรื่มซอมแซมตัวเอง
ดังนั้นเราควรพัก งดกิน งดออกกําลังกายไดมีเวลาฟนฟูตัวเอง
เพราะถามีกิจกรรมที่รางกายตองใชพลังงาน แรธาตุตางๆที่ควร
จะเขาไปชวยซอมแซมรางกายก็กลายมาเปนพลังงานแทน
แตกาในชวงเวลานี้จําเปนตองกินจริงๆ เชน ตองไปปารตี้กับ
- 3. เพื่อนฝูงก็ขอแนะนําใหทานอะไรก็ไดที่ไมใชแปงและน้ําตาล
เพราะมันจะไปสะสมทําใหเราอวนได
21.00-23.00 น. เปนชวงที่ตองการใหความอบอุนแก
รางกาย ถาเปนไปไดอยาอาบน้ําเย็นเพราะอาจทําใหปนหวัด
งาย จําไวงายๆคือตอนเชาอาบน้ําเย็น ตอนเย็นอาบ
น้ําอุน แลวเวลานี้ยังเปนเวลาที่ควรเขานอนที่สุด ดวย
23.00-01.00 น. เปนชวงเวลาของถุงน้ําดี อวัยวะใดใน
รางกายเมื่อขาดน้ํา จะดึงน้ําในถุงน้ําดี ทําให ถุงน้ําดีขน เปนผล
ใหอารมณฉุนเฉียว สายตาเสื่อม เหงือกบวม ปวดฟน นอนไม
หลับตื่นกลางดึกหรือตอนเชาจะจาม ฉะนั้นแนะนําใหทานน้ํา
เยอะๆกอนนอน
01.00-03.00 น. รางกายก็ยังคงทํางานอยู ชวงที่หลับอยู
นี้ตับจะทําหนาที่ขจัดสารพิษ ฆาเชื้อโรคเพราะฉะนั้นถาใครนอน
ดึกไขมันจะไปพอกตัวที่ตับซึ่งจะทําใหติดเชื้องาย แตถาใคร
นอนหลับไดดีเปนประจําในชวงเวลานี้ จะทําใหหนาออน
กวาวัย
03.00-05.00 น. เปนชวงเวลาของปอด จะตื่นหรือหลับก็
ได แตหากได อยากใหลุกขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ในยามเชา
ลองสูดหายใจ เขา-ออกลึกๆ สัก 3-4 รอบ เพื่อเปนการกระตุน
การทํางานของปอดไดเปนอยางดี
* เอกสารอางอิง
http://en.wikipedia.org/wiki/circadian_rhythm