SlideShare a Scribd company logo
1 of 28
Download to read offline
ro
ob
an
no
k.
co

w.
k

ww
ชุดที่ ๒

m
๑

คำนำ

ro
ob
an
no
k.
co

m

แบบฝึ กทักษะฉบับนี้จดทำขึ้น เพื่อพัฒนำกำรอ่ำน คิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำ
ั
ของนักเรี ยนระดับชั้นมัธยมศึกษำปี ที่ ๒ ซึ่งเป็ นนวัตกรรมประกอบกำรจัดกำรเรี ยนรู้ วิชำภำษำไทย
ท๒๒๑๐๑ เพื่อมุ่งปลูกฝังนิสัยให้รักกำรอ่ำนแก่นกเรี ยน โดยยึดหลักกำรจัดกำรเรี ยนรู้ที่เน้นผูเ้ รี ยน
ั
เป็ นสำคัญ ซึ่งได้นำงำนเขียนที่หลำกหลำย เช่น นิทำน บทควำม เรื่ องสั้น บทเพลง เป็ นต้น
นำมำให้นกเรี ยนอ่ำน แล้วโยงไปสู่ กระบวนกำรคิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำของเรื่ อง อันเป็ น
ั
กำรปลูกฝังให้นกเรี ยนมีนิสัยรักกำรอ่ำนอย่ำงแท้จริ ง ซึ่ งจะต้องทำต่อเนื่ องตลอดปี พร้อมทั้ง
ั
เพื่อเสริ มทักษะกำรเขียนเชิงสร้ำงสรรค์ของนักเรี ยนอีกด้วย
ั
ชุดแบบฝึ กทักษะฉบับนี้สำมำรถนำไปใช้กบนักเรี ยนหลำยระดับชั้น ซึ่งก่อนใช้ควรพิจำรณำ
ให้เหมำะสม จึงหวังว่ำจะเกิดประโยชน์สำหรับ นักเรี ยน ครู และผูที่สนใจ หำกมีขอเสนอแนะอันใด
้
้
ที่เป็ นประโยชน์ กรุ ณำได้แจ้งให้ทรำบเพื่อจะได้ปรับปรุ งให้ดีข้ ึนในโอกำสต่อไป

ww

w.
k

สวลี ชัยภัย
ครู วิทยฐำนะ ครู ชำนำญกำร
๒

m

สำรบัญ

ro
ob
an
no
k.
co

หน้ ำ

ww

w.
k

คำนำ
สำรบัญ
จุดประสงค์กำรเรี ยนรู ้ กำรอ่ำน คิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำ
คำแนะนำกำรใช้แบบฝึ กทักษะ กำรอ่ำน คิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำ
ใบควำมรู้ที่ ๑ กำรอ่ำนนิทำน
นิทำน ๑
แบบฝึ กทักษะที่ ๑
ใบควำมรู้ที่ ๒ กำรอ่ำนนิทำน
นิทำน ๒
แบบฝึ กทักษะที่ ๒
แบบทดสอบหลังเรี ยน เรื่ อง กำรอ่ำนนิทำน
บรรณำนุกรม
แนวคำตอบแบบฝึ กทักษะที่ ๑ นิทำน ๑
แนวคำตอบแบบฝึ กทักษะที่ ๒ นิทำน ๒
เฉลยแบบทดสอบหลังเรี ยน เรื่ อง กำรอ่ำนนิทำน

๑
๒
๓
๔
๕
๙
๑๑
๑๕
๑๕
๑๗
๒๑
๒๔
๒๕
๒๖
๒๗
ro
ob
an
no
k.
co

จุดประสงค์ กำรเรียนรู้

m

๓

๑. นักเรี ยนสำมำรถตอบคำถำมจำกเรื่ องที่อ่ำนได้
๒. นักเรี ยนสำมำรถสรุ ปใจควำมสำคัญของเรื่ องที่อ่ำนได้
๓. นักเรี ยนสำมำรถวิเครำะห์เนื้ อเรื่ องได้ถูกต้อง
๔. นักเรี ยนสำมำรถแสดงควำมคิดเห็นในบทเรี ยนได้อย่ำงมีเหตุผล
๕. นักเรี ยนสำมำรถประเมินค่ำเรื่ องที่อ่ำนได้
๖. นักเรี ยนสำมำรถเขียนแผนผังควำมคิด (Mind Mapping) จำกเรื่ องที่อ่ำนได้
๗. นักเรี ยนสำมำรถเขียนเรื่ องได้อย่ำงสร้ำงสรรค์
๘. นักเรี ยนสำมำรถวำดภำพประกอบเรื่ องได้อย่ำงเหมำะสม

ww

w.
k

ตั้งใจอ่ำน ให้ ดี นะครับผม...
๑
๒
๓
๔
๕
๖

แบบฝึ กทักษะฉบับนี้สร้ำงขึ้นเพื่อให้นกเรี ยนได้เรี ยนรู ้และลงมือปฏิบติดวยตนเอง
ั
ั ้
ในแต่ละหน้ำของแต่ละแบบฝึ กทักษะจะมีเนื้อหำและคำชี้ แจงให้นกเรี ยนได้ทรำบ
ั
นักเรี ยนอ่ำนเรื่ องให้จบ ๒ – ๓ รอบแล้วตอบคำถำมท้ำยเรื่ อง

นักเรี ยนเขียนแผนผังควำมคิด (Mind Mapping) จำกเรื่ องและตกแต่งให้สวยงำม
นักเรี ยนเรี ยบเรี ยงเรื่ องใหม่ดวยตนเองอย่ำงกระชับ
้

นักเรี ยนวำดภำพประกอบเรื่ องและตกแต่งให้สวยงำม
ถ้ำนักเรี ยนไม่เข้ำใจให้ถำมคุณครู ผสอนได้
ู้

ww

w.
k

๗

ro
ob
an
no
k.
co

m

๔

ตนเป็ นที่พงแห่ งตน ครับผม...
ึ่
ro
ob
an
no
k.
co

ใบควำมรู้ที่ ๑
กำรอ่ำนนิทำน

m

๕

กำรอ่ำน

กำรอ่ำนในชี วตประจำวัน มีท้ งกำรอ่ำนในใจและอ่ำนออกเสี ยง กำรอ่ำนจึงต้อง
ิ
ั
มีควำมระมัดระวังในกำรปฏิบติตน เช่น กำรจัดหำที่นงให้สะดวกสบำยและถูกสุ ขลักษณะ อ่ำนหนังสื อ
ั
ั่
ในระยะที่เหมำะสมกับสำยตำ นอกจำกนั้นจึงต้องคำนึงถึงมำรยำทในกำรอ่ำนอีกด้วย ข้อพึงปฏิบติ
ั
และมำรยำทกำรอ่ำนที่สำคัญมีดงนี้
ั

มำรยำทในกำรอ่ำน

ww

w.
k

(๑) ไม่อ่ำนออกเสี ยงดังจนรบกวนผูอื่น
้
(๒) ออกเสี ยงถูกต้องชัดเจน ตำมอักขรวิธี
(๓) กรณี อ่ำนหนังสื อในห้องสมุด ต้องไม่ส่งเสี ยงหรื อทำเสี ยงดังรบกวนผูอื่น
้
(๔) เลือกอ่ำนหนังสื อที่มีประโยชน์ต่อตนเองและสังคม
(๕) อ่ำนอย่ำงมีวิจำรณญำณ มีเหตุผล ไม่หลงเชื่ อในสิ่ งงมงำยไร้เหตุผล
(๖) ระมัดระวังในกำรถือหนังสื อมิให้เกิดควำมเสี ยหำย
(๗) ถ้ำต้องกำรเรื่ องหนึ่งเรื่ องใดจำกหนังสื อ อำจเพื่อนำไปเป็ นหลักฐำนอ้ำงอิง
ควรถ่ำยสำเนำไว้ ไม่ควรฉี กออกไปจำกเล่ม
(๘) กำรแสดงควำมคิดเห็นในกำรอ่ำนต้องมีเหตุผล ไม่มีอคติในกำรอ่ำน
(๙) เมื่อนำเนื้ อหำส่ วนหนึ่งส่ วนใดจำกเรื่ องที่อ่ำนไปใช้อำงอิงในงำนเขียน เช่น รำยงำน
้
ควรใส่ อำงอิงถูกต้องตำมหลักกำร เพื่อเป็ นกำรให้เกียรติผเู ้ ขียน
้
(๑๐) ถ้ำบังเอิญทำหนังสื อเสี ยหำย ควรซ่อมหนังสื อให้ถูกต้อง ซ่อมหนังสื อเพื่อมิให้
หนังสื อชำรุ ดยิงขึ้น
่
๖

ww

w.
k

ro
ob
an
no
k.
co

m

กำรสร้ำงนิสัยรักกำรอ่ำนกำรปลูกฝังนิสัยรักกำรอ่ำน ต้องเริ่ มตั้งแต่วยเด็ก โดยผูปกครอง
ั
้
ผูใหญ่ในบ้ำน ครู อำจำรย์ ตลอดจนกำรสื่ อต่ำงๆ ในสังคมควรช่วยส่ งเสริ ม กำรเลือกหนังสื อ
้
ที่เหมำะสมกับวัยของผูเ้ รี ยนแต่ละระดับ ย่อมมีส่วนจูงใจให้เด็กอยำกอ่ำนอยำกรู ้อยำกเห็นอยำกค้นคว้ำ
หำควำมรู ้เพิ่มเติมเพื่อจะได้เป็ นนักอ่ำนที่ดีตลอดไป ในวัยแรกที่เริ่ มหัดอ่ำนนั้นผูใหญ่อำจเร้ำควำมสนใจ
้
ด้วยหนังสื อที่มีภำพประกอบสวยๆ หนังสื อกำร์ตูน นิทำนที่สนุกสนำนมีภำพประกอบหรื อเมื่อเริ่ ม
โตขึ้นเริ่ มมีหนังสื อสำรคดี นวนิยำย เรื่ องสั้น ที่ตรงกับควำมสนใจ ทำให้เขำเกิดควำมรู ้สึกว่ำหนังสื อนั้นมี
ประโยชน์ มีคุณค่ำ และมีควำมหมำยต่อเขำมำก กำรเลือกหนังสื อเข้ำห้องสมุดให้เหมำะสมกับวัยผูเ้ รี ยน
จะมีส่วนอย่ำงมำกในกำรจูงใจให้เด็กเข้ำห้องสมุดและหยิบหนังสื อมำอ่ำนจนเกิดควำมเคยชิน
กับกำรอ่ำน หนังสื อที่เหมำะกับวัยและรสนิยมของเด็กจะช่วยให้เกิดควำมรักและมีควำมสุ ขกับ
กำรอ่ำนหนังสื อ เมื่อเขำเติบโตขึ้นก็ควรได้รับกำรปลูกฝังให้รักกำรอ่ำนด้วยตนเอง ดังนี้
(๑) ร่ วมกิจกรรมส่ งเสริ มกำรอ่ำน เช่น อ่ำนแล้วนำเรื่ องมำเล่ำต่อ ขณะที่อ่ำนควรบันทึก
ชื่อหนังสื อ ชื่ อผูแต่ง แนวคิดสำคัญของเรื่ องและคุณค่ำ ฯลฯ ลงในบัตรทุกครั้ง
้
(๒) จดบันทึกข้อควำม ถ้อยคำ เรื่ องรำว ข้อคิด ควำมรู ้ที่มีประโยชน์ หรื ออำจลืมได้ง่ำย เก็บ
ไว้เพื่อเตือนควำมจำหรื อแบบให้ศึกษำค้นคว้ำเพิ่มเติมได้
(๓) ใช้พจนำนุกรมและสำรำนุกรมช่วยในกรณี ที่พบถ้อยคำ สำนวน หรื อคำศัพท์ยำก
ที่ไม่เข้ำใจควำมหมำย หรื อต้องกำรตรวจสอบควำมถูกต้อง
(๔) สำรวมสมำธิ ในกำรอ่ำน เพื่อจับสำระสำคัญหรื อสำรประโยชน์อื่นๆ ตำมจุดประสงค์
ที่ต้ งไว้
ั
(๕) ปรับอำรมณ์ให้สอดคล้องกับข้อเขียนเพื่อสร้ำงจินตนำกำรและควำมเข้ำใจให้ลึกซึ้ งขึ้น
(๖) รู้จกลักษณะเฉพำะของวรรณกรรม เข้ำใจศิลปะของภำษำในคำประพันธ์ รวมทั้งถ้อยคำ
ั
โวหำรในงำนนั้น
(๗) สะสมประสบกำรณ์และควำมรู้เชิงภำษำให้กว้ำงขวำงและมำกพอจนสำมำรถเข้ำใจ
เรื่ องรำวที่อ่ำนได้อย่ำงรวดเร็ ว รับรสจำกกำรอ่ำนได้อย่ำงซำบซึ้ ง
่
กำรอ่ำนเป็ นสิ่ งที่ทำได้ไม่ยำก แต่คนเป็ นจำนวนมำกไม่ค่อยรักกำรอ่ำน นักเรี ยนซึ่ งอยูใน
วัยเรี ยน จะได้รับควำมรู ้จำกกำรอ่ำนเป็ นส่ วนใหญ่ จึงต้องฝึ กฝนตนให้เป็ นนักอ่ำนมีควำมอยำกอ่ำน จน
ติดเป็ นนิสัยรักกำรอ่ำนไปตลอดชีวิต
(ที่มำ : http://dekza๗๘.blogspot.com/๒๐๑๐/๐๑/blog-post.html วันที่ ๙ กันยำยน ๒๕๕๓)
๗

ประโยชน์ ของนิทำน

ww

w.
k

ro
ob
an
no
k.
co

m

เรำจะเห็นว่ำเวลำที่บอกเด็กๆ ว่ำจะเล่ำนิทำนให้ฟัง เด็กจะดีใจมำก และรู ้สึกตื่นเต้นไปกับเรื่ อง
ที่ฟัง ทั้งหมดนี้เป็ นเพรำะ นิทำน คือ เรื่ องเล่ำที่มีวตถุประสงค์หลัก คือ กำรสั่งสอนอย่ำงสนุกและ
ั
ไม่ให้เด็กรู ้สึกว่ำถูกสอน ซึ่ งเรำสำมำรถสรุ ปประโยชน์ของนิทำนได้ดงนี้
ั
่
๑. นิทำนช่ วยเสริมปัญญำเด็ก ในขณะที่พอแม่เล่ำนิทำน บรรยำกำศขณะเล่ำนิทำนที่เกิดขึ้น
เป็ นบรรยำกำศแห่งควำมสุ ขของทุกคน เป็ นบรรยำกำศแห่งควำมรัก ควำมอบอุ่น สร้ำงควำมผูกพัน
มันใจ เชื่อมันในตนเอง ซึ่ งจะเสริ มปั ญญำเด็กได้อย่ำงดี
่
่
๒. นิทำนช่ วยปลูกฝังให้ เด็กเป็ นคนช่ ำงคิด ช่ ำงถำมและช่ ำงสั งเกต นิทำนช่วยให้เด็กเป็ นเด็ก
กล้ำถำม เด็กจะมีควำมมันใจ ฉลำด แสดงควำมคิดเห็นถูกจังหวะ เรี ยกว่ำ มีควำมฉลำดทั้งทำงปั ญญำ
่
(IQ) และฉลำดทำงอำรมณ์ (EQ) ด้วย
๓. นิทำนทำให้ เด็กเรี ยนรู้ ภำษำได้ เร็ว กำรเล่ำนิทำนเปรี ยบเสมือนกำรสอนภำษำไปในตัว
เด็กจะได้ยนได้ฟังรู ปประโยค กำรใช้ภำษำ ทำให้เด็กเกิดทัศนคติที่ดีต่อกำรเรี ยนนั้นๆ
ิ
๔. นิทำนทำให้ เด็กจับประเด็นเก่ง วิเครำะห์ เก่ง กำรเล่ำนิ ทำนให้เด็กฟัง เล่ำซ้ ำๆ เด็กจะจำได้
ทั้งเรื่ อง เด็กจะมองภำพรวมของเรื่ อง ทำให้เด็กรู ้จกจับประเด็น ย่อควำมเป็ น รู ้จกมองสรรพสิ่ ง
ั
ั
เป็ นระบบ เข้ำใจเรื่ องได้อย่ำงรวดเร็ ว
่
๕. นิทำนสร้ ำงให้ เด็กมีจินตนำกำร ในขณะที่พอแม่เล่ำนิ ทำนนั้น น้ ำเสี ยงที่เล่ำเรื่ องนั้นจะ
กระตุนให้เด็กสร้ำงจินตนำกำรเป็ นภำพ จินตนำกำรยิงใหญ่กว่ำควำมรู ้ จินตนำกำรสร้ำงสรรค์สิ่งต่ำงๆ
้
่
ใหม่ๆ เกิดขึ้นในโลกของเรำนี้ กำรเล่ำนิทำนบ่อยๆ มำกๆ เรื่ อง จึงเป็ นกำรสร้ำงจินตนำกำรไปพร้อมๆ
กับกำรรับรู ้ถึงควำมใหม่ที่ลูกยังไม่เคยรู ้มำก่อน
๖. นิทำนช่ วยสร้ ำงคุณธรรมแก่ เด็กได้ ง่ำย นิทำนแต่งขึ้นเพื่อสอดแทรกคุณธรรม ทักษะชีวต
ิ
หรื อข้อคิดต่ำงๆ เป็ นอุทำหรณ์ให้ผรับฟังได้ตระหนักรับรู ้ คุณธรรมทั้งหลำยที่ลูกได้ฟังตั้งแต่ปฐมวัยจะ
ู้
่
จำฝังแน่นอยูในตัวเด็กและนำไปใช้ในวัยรุ่ น
๗. นิทำนช่ วยสร้ ำงสมำธิให้ เด็ก ช่วงของกำรเล่ำนิทำน เด็กมักจะฟังนิทำนอย่ำงใจจดใจจ่อ ยิง
่
่
เล่ำนิทำนที่เหมำะกับของเด็ก เด็กจะเข้ำใจและอยำกรู ้วำจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป และนี่เป็ นกำรสร้ำงสมำธิ
ั
ให้กบเด็กอีกวิธีหนึ่ง
๘. นิทำนช่ วยสร้ ำงเด็กให้ มีควำมรู้ ควำมฉลำดทำงอำรมณ์ เมื่อเด็กๆชอบฟังนิทำน ก็จะหำวิธี
ั ้
ปรับตัวและสร้ำงควำมสัมพันธ์กบผูใหญ่ เพื่อจะได้ฟังนิ ทำนบ่อยๆ โดยสิ่ งเหล่ำนี้ จะทำให้เด็กมีวธีกำร
ิ
่
พัฒนำปรับตัวเพื่อให้อยูในสังคมได้อย่ำงมีควำมสุ ข
๘

ro
ob
an
no
k.
co

m

๙. นิทำนช่ วยสร้ ำงเด็กให้ มีนิสัยรักกำรอ่ำน กำรเล่ำนิทำนหรื ออ่ำนนิทำนให้เด็กฟังบ่อยๆ
จะเป็ นกำรช่วยปลูกฝังนิสัยรักกำรเรี ยนรู ้ของเด็กทุกมิติ เด็กจะเป็ นคนรักกำรอ่ำนหนังสื อ อ่ำนหนังสื อ
ได้ไว มีสมำธิ
่
นอกจำกนี้ในด้ำนกำรเรี ยนกำรสอน ไม่วำจะเป็ นกำรสอนภำษำไทยหรื อภำษำต่ำงประเทศ
ต่ำงนิยมใช้นิทำนเป็ นตัวเชื่อมบทเรี ยนด้วยกันทั้งสิ้ น เพรำะนิทำนสำมำรถเปลี่ยนเรื่ องยำกให้เป็ นเรื่ อง
ง่ำยได้ เด็กจะมองเห็นและจดจำได้ง่ำยขึ้น และสุ ดท้ำยนี้ ใครที่มีปัญหำด้ำนกำรควบคุมชั้นเรี ยน
่
ก็สำมำรถนำนิทำนไปเล่ำเพื่อเป็ นกำรเรี ยกสติของเด็กๆกลับมำอยูจุดเดียวกันได้ ทำให้กำรเรี ยน
กำรสอนในชั้นเรี ยนง่ำยขึ้นด้วย

ww

w.
k

(ทีมำ : http://www.learners.in.th/blogs/posts/๓๐๙๔๖๑ วันที่ ๙ กันยำยน ๒๕๕๓)
่
๙

ro
ob
an
no
k.
co

m

เรำมำอ่ำนนิทำน
กันนะคะ ...

คำชี้แจง ให้นกเรี ยนอ่ำนนิทำนที่กำหนดให้ต่อไปนี้ แล้ว คิด วิเครำะห์ ประเมินค่ำ แล้วตอบคำถำม
ั

นิทำน (๑)

ww

w.
k

นกนำงแอ่นฝูงหนึ่ง อำศัยเกำะร้ำง กลำงมหำสมุทร กำลนั้น มรสุ มรุ นแรง กระแสคลื่น
กรำดเกรี้ ยวจนเกำะเกือบจมน้ ำ ฝูงนกตกใจหนีพลัดพรำกสิ้ น ร้ำงทุกรวงรัง ทิ้งไว้แต่ลูกนกกำพร้ำ
เพียงตัวเดียว เธอเกิดจำกไข่ฟองสุ ดท้ำยแห่งฤดูกำล
ลูกนกสลบไปตั้งแต่เช้ำ ล่วงกลำงคืนตกดึกดื่น ฟื้ นขึ้นด้วยเย็นหยำดน้ ำค้ำง อกเบำหวิว
หิวโหย อ่อนใจ จนหลงใหลเพ้อเจ้อ ทำไมแม่ไม่ทำรังกลำงปุยเมฆขำวนวลละออง เรำจะจิกกิน
เดือนดำวได้ ปำงใดเรำมีปีก ปำงนั้นเรำจะบินหนีไปสุ ดหล้ำฟ้ ำอื่น จนควำมทุกข์ทรมำนตำมไม่ถึง
เดือนหงำยแจ่มกระจ่ำง หมู่แมลงเล็ก ๆ พยำยำมบินขึ้นไปหำพระจันทร์ มันสิ้ นแรงดังร่ วง
กลำงหำวดึกลึก ซำกลิ่วลอยลงในรวงรัง พร้อมน้ ำค้ำงหยำด กระทบพืชอ่อนๆ พลอยตก
ในรวงรังด้วย ลูกนกประทังชีวตเพรำะสิ่ งเหล่ำนี้ ช้ำวันนำนคืน มันรำลึกถึงแต่แม่ เคยคำบเหยือป้ อน
ิ
่
ทุกเช้ำเย็น บัดนี้ แม่ทิ้งเหยื่อไว้ให้ลูกอันกล้ ำกลืนไม่รู้สิ้น คือควำมทุกข์ระทมถึงสุ ดโศกำดูร
อรุ โณทัย ลูกนกถำมสำยรุ ้งว่ำ ดูรำกำไลทองของขอบฟ้ ำ ท่ำนทรำบไหม มำรดำข้ำน้อย
่
อยูแห่งหนไหน ฉันไม่ทรำบ ฉันเป็ นเพียงอนุภำคไอน้ ำทอประกำยรังสี ใส รู ้เล็กน้อยว่ำ
บำงสิ่ งธรรมชำติสร้ำงแล้วสลำยเร็ วเกินไป จนไม่ทนรู ้จกตัวเอง เสมือนชัวครู่ ที่เกิดเป็ นสำยรุ ้ง กำลัง
ั ั
่
่
ทำลำยตัวเองอันบอดใบ้ไม่รู้วำจะหำยไปแห่งหนไหน ท่ำนลองถำมกระแสคลื่นเถิด
ลูกนกนิ่ง เสี ยใจ กระทังดึกดื่นก็ยงเกรงใจคลื่น ด้วยทุกระลอกคลื่น สะอึกสะอื้นครวญครำง
ั
่
ล้มฟำดตัวแตกกระจำยพรำย จนหำดทรำยขำวพรำวเพรำะฟองน้ ำตำ ท่ำนคงเสมือนเรำที่ทุกข์ระทม
่
ท้นหัวใจ สำยลมเจ้ำข้ำเอย มำรดำข้ำน้อยอยูแห่งหนไหน แต่ลมพัดแล้วไม่คอยใคร เจ้ำจะต้องรอคอย
ั
เรำฝำกคำตอบไว้กบเทพเจ้ำ ณ ดวงดำว บนสรวงสวรรค์
๑๐

ro
ob
an
no
k.
co

m

เวลำล่วงเลยไป ลูกนกเติบโต บินสู่ ฟำกฟ้ ำอันไพศำล วันนั้นตั้งแต่เช้ำ ยังหำเหยื่อไม่ได้
จนจวนโพล้เพล้รำไร ลูกนกจึงเหลือบเห็นหอยตัวหนึ่ง ประกำยแวววำม มันบินเวียนวนโฉบคำบได้
คำบเหิ นขึ้นสู ง ทิ้งหอยกระแทกหิ นโดยแรง เปลือกแตกฉี กเนื้อรำวคมมีดเฉื อน ร่ ำงหอย
บิดเป็ นเกลียวด้วยเจ็บปวดแสบที่สุด
บัดดลนั้น ฟำกฟ้ ำบันดำลให้ดวงดำวตกวูบกระจ่ำงวำว นฤมิตควำมสำนึกแห่งรักชัวนิ รันดร
่
บันดำลสัตว์ท้ งสองพูดและเข้ำใจกันได้ แม่นกบินกลับมำหำลูก วันสลำตันรุ นแรง แต่คลื่นสำด
ั
ฟำดร่ ำง นำงนกตกจมหำยใต้ทะเลลึก นำงฝำกวิญญำณควำมรักห่วงหำอำลัย เกิดในฝำหอยนั้น
กระจิริด ไม่ยอมพูดภำษำใดๆ สิ้ น นอกจำกห้วงดวงใจรู้สึกคิดถึงลูกตำมลำพัง เพื่อจะจดจำไป
ชัวกำลอวสำน ลูกนกนำงแอ่นเล่ำเรื่ องหนหลังให้แม่หอยฟังสิ้ น ทุกข์โศก เจ็บ จนนำงตื้นตัน
่
ในกลำงควำมแสบปวดรวดร้ำว
ลูกเอ๋ ย ชำติที่แล้ว แม่ตำยเสี ยไม่ทนป้ อนเหยื่อเจ้ำเมื่อมื้อค่ำ มำพบกันใหม่ในชำติน้ ี
ั
แม่มีตวเองเป็ นเหยื่อมำป้ อนเจ้ำพอดี ลูกรัก เรำไม่รู้จะกำหนดคุณค่ำอันลึกซึ้ งของควำมรักได้อย่ำงไร
ั
พอสิ้ นเสี ยงแล้วแม่หอยก็ขำดใจตำย
ลูกนกฟุบกลิ้งเกลือกจนสลบไสล หัวใจแตกสลำยตำยตำมไป กระทังคลื่นสำดสองซำก
่
เน่ำเปื่ อยเป็ นผงธุลี ปลงสังเวชผงธุ ลีเคยเป็ นแม่หอยและลูกนกนำงแอ่นตัวนั้น อันฝำกควำมรัก
เตือนแผ่นทรำยไว้รำลึก ตลอดอำยุขยแห่งกำลนำที เทอญ
ั

ww

w.
k

ถึงเวลำตอบคำถำม
กันแล้วเพือนๆ ...
่
๑๑

ro
ob
an
no
k.
co

๑. อ่ำนเรื่ องที่กำหนดให้ คิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำ แล้วตอบคำถำมต่อไปนี้

m

แบบฝึ กทักษะที่ ๑
กำรอ่ำนนิทำน

ww

w.
k

๑) นักเรี ยนควรตั้งชื่อเรื่ องว่ำอย่ำงไร จึงจะเหมำะสม สอดคล้องกับเนื้ อเรื่ อง เพรำะอะไร
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
๒) นักเรี ยนคิดว่ำตัวละครลูกนกนำงแอ่นมีนิสัยอย่ำงไร จงอธิ บำย
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
่
๓) นักเรี ยนมีควำมรู ้สึกอย่ำงไรกับคำกล่ำวที่วำ “ลูกเอ๋ ย ชำติที่แล้ว แม่ตำยเสี ยไม่ทนป้ อนเหยือเจ้ำ
ั
่
เมื่อมื้อค่ำ มำพบกันใหม่ในชำติน้ ี แม่มีตวเองเป็ นเหยือมำป้ อนเจ้ำพอดี”
ั
่
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
่
๔) ถ้ำนักเรี ยนพบเหตุกำรณ์คล้ำยลูกนกนำงแอ่นที่รู้วำแม่หอยคือแม่ของตน นักเรี ยนจะทำอย่ำงไร
จงอธิบำย
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
๕) นิทำนเรื่ องนี้ให้ขอคิดอย่ำงไรแก่ผอ่ำนบ้ำง
้
ู้
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
๖) คุณธรรมที่ปรำกฏในเรื่ องมีอะไรบ้ำง
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
๑๒

ww

w.
k

ro
ob
an
no
k.
co

เขียนแผนผังควำมคิด

m

๒. อ่ำนนิทำน ๑ สรุ ปเรื่ อง แล้วเขียนแผนผังควำมคิด (Mind Mapping)

ทำได้ สบำยมำกค่ ะ
๑๓

m

๓. ให้นกเรี ยนเขียนนิทำนขึ้นใหม่และตั้งชื่อให้เหมำะสม
ั

ro
ob
an
no
k.
co

นิ ทานเรื่อง...........................................

ww

w.
k

...............................................................................................................................................
…... .......................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………
๑๔

ww

w.
k

ro
ob
an
no
k.
co

วำดภำพประกอบ

m

๔. ให้นกเรี ยนอ่ำนนิทำนที่นกเรี ยนเขียนขึ้นใหม่ แล้ววำดภำพประกอบให้เหมำะสม
ั
ั
๑๕

ใบควำมรู้ที่ ๒
กำรอ่ำนนิทำน
๙vomuj

ro
ob
an
no
k.
co

m

คำชี้แจง ให้นกเรี ยนอ่ำนนิทำนที่กำหนดให้ คิด วิเครำะห์ ประเมินค่ำ แล้วตอบคำถำม
ั
เพือนๆ อ่ำนนิทำนเรื่องที่ ๒
่
กันดีกว่ำ นะคะ...

นิทำน (๒)

ww

w.
k

บรรดำบุคคลที่เฉลียวฉลำดและสำมำรถแก้ปัญหำเฉพำะหน้ำได้โดยคล่องแคล่วว่องไว
่
ในวรรณคดีของไทยแล้ว ทุกคนต้องยกให้เซี ยงเมี่ยง บำงคนถึงเติมสร้อยให้วำ เซี ยงเมี่ยงเจ้ำปัญญำ
มีชำงพังเชือกหนึ่งของเจ้ำผูครองประเทศข้ำงเคียง หลงทำงพลัดเข้ำในสวนของเซี ยงเมี่ยง เซี ยงเมี่ยง
้
้
สั่งให้ขำทำสของตนจับช้ำงนั้นไว้ เขำนำเอำช้ำงพังตัวนั้นไปรับจ้ำงชักลำกฟื น ตลอดจนบรรทุกของ
้
ต่ำงๆ ข่ำวกำรได้ชำงของเซี ยงเมี่ยงทรำบไปถึงพระกรรณของเจ้ำผูครองนคร พระองค์ให้เสนำมำเรี ยก
้
้
่
เซียงเมี่ยงไป เมื่อพบก็ตรัสถำมทันทีวำ “เออ เจ้ำเซี ยงเมี่ยง ข้ำทรำบว่ำเจ้ำจับช้ำงได้ใช่ไหม”
เซี ยงเมี่ยงกรำบทูลว่ำ “เป็ นควำมจริ งพระพุทธเจ้ำข้ำ” เจ้ำผูครองนครตรัสว่ำ “ดังนั้นก็แล้ว
้
ทรัพย์สินใด ๆ ที่พลัดเข้ำมำในเขตขัณฑสี มำของข้ำทรัพย์น้ นควรเป็ นของข้ำครึ่ งหนึ่งเสมอ
ั
เซียงเมี่ยงกรำบทูลว่ำ “เป็ นควำมจริ งพระพุทธเจ้ำข้ำ หำกพระองค์มีพระประสงค์ขำพระพุทธเจ้ำ
้
ขอแบ่งให้พระองค์ครึ่ งหนึ่ง” เจ้ำผูครองนครสรวลออกมำด้วยควำมพอพระทัย “ เออ …. เจ้ำนี่
้
รู้หลักกฎหมำยและขนบธรรมเนียมของบ้ำนเมืองดีนี่ เจ้ำจะแบ่งส่ วนไหนให้เรำล่ะ” เจ้ำผูครองนคร
้
ถำม เซี ยงเมี่ยงนิ่งคิดสักครู่ ก็กรำบทูลว่ำ “ข้ำพระพุทธเจ้ำเป็ นข้ำแผ่นดินของพระองค์ ดังนั้น
ข้ำพระพุทธเจ้ำจึงเปรี ยบเหมือนช้ำงเท้ำหลัง พระองค์เป็ นช้ำงเท้ำหน้ำ ดังนั้น ข้ำพระพุทธเจ้ำขอมอบ
ครึ่ งส่ วนหน้ำให้พระองค์ ส่ วนครึ่ งหลังเป็ นของข้ำพระพุทธเจ้ำเองพระพุทธเจ้ำข้ำ” เจ้ำผูครองนคร
้
ตบพระหัตถ์ดวยควำมพอพระทัย “ดีแล้ว ๆ เจ้ำพูดถูกต้อง เจ้ำคอยดูแลช้ำงให้ดีก็แล้วกัน” เซี ยงเมี่ยง
้
ก้มลงกรำบรับบัญชำแล้วบังคมลำกลับบ้ำน
นับแต่วนนั้นมำเซี ยงเมี่ยงยิงใช้งำนหนักขึ้น อำหำรต่ำง ๆ ที่ชำงกินนั้นเขำให้ชำงกินดีที่สุด
ั
้
้
่
ส่ วนค่ำอำหำรนั้นให้ไปคิดเอำที่เจ้ำผูครองนคร เวลำรับจ้ำงได้เงินทองมำ เขำก็เก็บรำยได้ท้ งหมดที่ใช้
้
ั
ช้ำงทำงำนตอนกลำงวันเป็ นของตนเสี ยผูเ้ ดียว พอเย็นลงก็ปล่อยช้ำงให้เข้ำไร่ เข้ำสวนกินกล้วยกิน
๑๖

ro
ob
an
no
k.
co

m

ต้นหมำก ต้นมะพร้ำวของชำวบ้ำน ชำวบ้ำนจับเรี ยกค่ำไถ่ เซี ยงเมี่ยงก็ให้ไปเบิกเอำจำกท้องพระคลัง
่ ้
เพรำะส่ วนหน้ำของช้ำงเป็ นผูนำ ดังนั้นเจ้ำผูครองนครจึงต้องเป็ นผูรับชดใช้ ส่ วนของตนอยูขำงหลัง
้
้
้
ต้องเดินตำมเท้ำหน้ำไปจึงไม่ได้รับผิดชอบ ต่อมำช้ำงนั้นได้คลอดลูก เซี ยงเมี่ยงก็รับค่ำจ้ำงทั้งหมด
เพรำะถือส่ วนที่ออกแรงที่สุดคือส่ วนข้ำงหลัง เจ้ำผูครองนครทรำบเรื่ องรำวเห็นว่ำ ถ้ำพระองค์ยงทรง
้
ั
ขืนรับส่ วนแบ่งเช่นนี้คงขำดทุนเรื่ อยไป ดังนั้น พระองค์จึงตรัสบอกเซี ยงเมี่ยงว่ำ “อ้ำยเซี ยงเมี่ยงเอ๋ ย
ช้ำงที่เจ้ำแบ่งส่ วนข้ำงหน้ำให้ขำนั้นข้ำขอคืนให้เจ้ำ ข้ำไม่ขอรับเอำอีกต่อไปแล้ว ขอยกให้เจ้ำทั้งหมด”
้
เซียงเมี่ยงก้มลงกรำบ กล่ำวคำขอบพระทัยที่พระองค์ทรงพระกรุ ณำเช่นนั้น

ww

w.
k

เพือนๆ อ่ำนจบแล้ว
่
มำตอบคำถำมกันเถอะครับ...
๑๗

ro
ob
an
no
k.
co

m

แบบฝึ กทักษะที่ ๒
กำรอ่ำนนิทำน

๑. อ่ำนนิทำนที่กำหนดให้ คิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำ แล้วตอบคำถำมต่อไปนี้

ww

w.
k

๑) นักเรี ยนควรตั้งชื่อเรื่ องว่ำอย่ำงไร จึงจะเหมำะสม สอดคล้องกับเนื้ อเรื่ อง เพรำะอะไร
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
๒) ตัวละคร “เซี ยงเมี่ยง” มีนิสัยอย่ำงไร ควรนำมำเป็ นแบบอย่ำงหรื อไม่ เพรำะอะไร
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
่
๓) นักเรี ยนมีควำมรู ้สึกอย่ำงไรกับคำกล่ำวที่วำ “อ้ำยเซี ยงเมี่ยงเอ๋ ย ช้ำงที่เจ้ำแบ่งส่ วนข้ำงหน้ำ
ให้ขำนั้นข้ำขอคืนให้เจ้ำ ข้ำไม่ขอรับเอำอีกต่อไปแล้ว ขอยกให้เจ้ำทั้งหมด”
้
.................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
๔) ถ้ำนักเรี ยนมีโอกำสได้อบรมสั่งสอน เซี ยงเมี่ยง จะสอนเรื่ องอะไรบ้ำง บอกมำ ๒ ข้อ
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
๕) นิทำนเรื่ องนี้ให้ขอคิดอย่ำงไรแก่ผอ่ำนบ้ำง
้
ู้
.................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
๖) นักเรี ยนคิดว่ำมีคำสำนวน โวหำรใดที่สอดคล้องกับนิทำนเรื่ องนี้บำง
้
.................................................................................................................................................................
................................................................................................................................... .............................

……………………………………………………………………………………………..
๑๘

ww

w.
k

ro
ob
an
no
k.
co

แผนผังควำมคิด

m

๒. อ่ำนนิทำน ๒ สรุ ปเรื่ อง แล้วเขียนเป็ นแผนผังควำมคิด (Mind Mapping)

จะทำได้
หรือเปล่ำนะ...
๑๙

m

๓. ให้นกเรี ยนเขียนนิทำนขึ้นใหม่ แล้วตั้งชื่ อให้เหมำะสม
ั

ro
ob
an
no
k.
co

นิ ทานเรื่อง..............................................

ww

w.
k

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………..
๒๐

ww

w.
k

ro
ob
an
no
k.
co

วำดภำพประกอบ

m

๔. ให้นกเรี ยนอ่ำนนิทำนที่นกเรี ยนเขียนขึ้นใหม่ แล้ววำดภำพประกอบให้เหมำะสม
ั
ั
๒๑

ro
ob
an
no
k.
co

คำชี้แจง : ให้นกเรี ยนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
ั

m

แบบทดสอบหลังเรียน
เรื่อง กำรอ่ำนนิทำน

๑) ข้อใด ไม่ ใช่ มำรยำทในกำรอ่ำน
ก. อ่ำนเสี ยงดัง
ข. ไม่อ่ำนออกเสี ยงดังจนรบกวนผูอื่น
้
ค. ออกเสี ยงถูกต้องชัดเจน ตำมอักขรวิธี
ง. ระมัดระวังในกำรถือหนังสื อมิให้เกิดควำมเสี ยหำย
๒) กำรสร้ำงนิสัยรักกำรอ่ำนควรเริ่ มเมื่อใด
ก. เริ่ มเมื่อโตเป็ นผูใหญ่แล้ว
้
ข. เริ่ มตั้งแต่เข้ำโรงเรี ยน
ค. เริ่ มตั้งแต่วยเด็ก
ั
ง. เริ่ มเมื่อแก่แล้ว

ww

w.
k

๓) ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ ใช่ ประโยชน์ของนิทำน
ก. ช่วยสร้ำงสมำธิ ให้เด็ก
ข. อ่ำนเพื่อรอเวลำไปเที่ยว
ค. ช่วยสร้ำงคุณธรรมแก่เด็กได้ง่ำย
ง. ทำให้เด็กจับประเด็นเก่ง วิเครำะห์เก่ง
่
๔) นกนำงแอ่น อำศัยอยูที่ไหน
ก. เกำะร้ำง กลำงมหำสมุทร
ข. กลำงป่ ำใหญ่
ค. บนต้นไม้ใหญ่
ง. กลำงป่ ำดงดิบ
๒๒

ro
ob
an
no
k.
co

m

๕) จำก นิทำน (๑) คำว่ำ “กำไลทองของขอบฟำ” หมำยถึงสิ่ งใด
้
ก. แสงแดดในยำมเย็น
ข. พระอำทิตย์ทรงกลด
ค. พระจันทร์ทรงกลด
ง. สำยรุ ้ง
๖) จำก นิทำน (๑) ลูกนกนำงแอ่น และแม่หอย พบกันที่ใด
ก. ริ มแม่น้ ำ
ข. กลำงป่ ำใหญ่
ค. ชำยหำดริ มทะเล
ง. ริ มแม่น้ ำในป่ ำดงดิบ
๗) จำก นิทำน (๒) เซียงเมี่ยงมีนิสัยอย่ำงไร
ก. ฉลำดและซื่อสัตย์
ข. ฉลำดแกมโกง
ค. คนดีมีคุณธรรม
ง. ก้ำวร้ำว

ww

w.
k

๘) จำก นิทำน (๒) เซี ยงเมี่ยง แบ่งอะไรกับผูครองนคร
้
ก. ช้ำง
ข. ม้ำ
ค. วัว
ง. ควำย

๙) จำก นิทำน (๒) เซียงเมี่ยง ขำดคุณธรรมข้อใดมำกที่สุด
ก. ควำมขยันหมันเพียร
่
ข. ควำมเมตตำกรุ ณำ
ค. ควำมสำมัคคี
ง. ควำมซื่อสัตย์
๒๓

ww

w.
k

ro
ob
an
no
k.
co

m

๑๐) จำก นิทำน (๒) เซี ยงเมี่ยงแบ่งช้ำงส่ วนใดให้ผครองนคร
ู้
ก. ส่ วนหลัง
ข. ส่ วนกลำง
ค. ส่ วนหน้ำ
ง. ยกให้ท้ งตัว
ั
๒๔

m

บรรณำนุกรม

ww

w.
k

ro
ob
an
no
k.
co

กระทรวงศึกษำธิกำร. หนังสื อเรียนรำยวิชำพืนฐำนภำษำไทย : วิวธภำษำ. โรงพิมพ์คุรุสภำลำดพร้ำว
้
ิ
: กรุ งเทพฯ, ๒๕๔๙.
ฟองจันทร์ สุ ขยิง ฯลฯ. หนังสื อเรียนรำยวิชำพืนฐำนภำษำไทย : หลักและกำรใช้ ภำษำ.
้
่
บ.อักษรเจริ ญทัศน์ จำกัด : กรุ งเทพฯ, ๒๕๕๔.
http://dekza)๗๘.blogspot.com/๒๐๑๐/๐๑/blog-post.html วันที่ ๙ กันยำยน ๒๕๕๓.
http://www.learners.in.th/blogs/posts/๓๐๙๔๖๑ วันที่ ๙ กันยำยน ๒๕๕๓.
แนวคำตอบแบบฝึ กทักษะที่ ๑
นิทำน (๑)

m

๒๕

w.
k

ro
ob
an
no
k.
co

๑. อ่ำนเรื่ องที่กำหนดให้ คิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำ แล้วตอบคำถำมต่อไปนี้
๑) นักเรี ยนควรตั้งชื่อเรื่ องว่ำอย่ำงไร จึงจะเหมำะสม สอดคล้องกับเนื้ อเรื่ อง เพรำะอะไร
ควำมรักของแม่นกนำงแอ่น เพรำะเนื้ อเรื่ องกล่ำวถึงแม่นกนำงแอ่นที่รักลูกยอมเป็ นเหยื่อ
ให้แก่ลูก
๒) นักเรี ยนคิดว่ำตัวละครลูกนกนำงแอ่นมีนิสัยอย่ำงไร จงอธิ บำย
่
ขำดควำมรักควำมอบอุ่นและมีควำมต้องกำรแม่อยูตลอดเวลำ
่
๓) นักเรี ยนมีควำมรู ้สึกอย่ำงไรกับคำกล่ำวที่วำ “ลูกเอ๋ ย ชำติที่แล้ว แม่ตำยเสี ยไม่ทนป้ อนเหยือ
ั
่
เจ้ำเมื่อมื้อค่ำ มำพบกันใหม่ในชำติน้ ี แม่มีตวเองเป็ นเหยื่อมำป้ อนเจ้ำพอดี”
ั
สงสำรและซำบซึ้ งใจในควำมรักของแม่นกนำงแอ่นมำก
่
๔). ถ้ำนักเรี ยนพบเหตุกำรณ์คล้ำยลูกนกนำงแอ่นที่รู้วำแม่หอยคือแม่ของตน นักเรี ยนจะทำอย่ำงไร
จงอธิบำย
ช่วยนำแม่ไปรักษำพยำบำลและดูแลให้หำยจำกกำรบำดเจ็บ
๕) นิทำนเรื่ องนี้ให้ขอคิดอย่ำงไรแก่ผอ่ำนบ้ำง
้
ู้
ควำมรักของแม่ยงใหญ่ที่สุด
ิ่
๖) คุณธรรมที่ปรำกฏในเรื่ องมีอะไรบ้ำง
ควำมเมตตำกรุ ณำ
๒) อ่ำนนิทำน ๑ สรุ ปเรื่อง แล้วเขียนเป็ นแผนผังควำมคิด (Mind Mapping)
่
อยูในดุลยพินิจของครู

ww

๓) ให้ นักเรียนเขียนนิทำนขึนใหม่ และตั้งชื่อให้ เหมำะสม
้
่
อยูในดุลยพินิจของครู

๔) ให้ นักเรียนอ่ำนนิทำนทีนักเรียนเขียนขึนใหม่ แล้ววำดภำพประกอบให้ เหมำะสม
่
้
่
อยูในดุลยพินิจของครู
๒๖

m

แนวคำตอบแบบฝึ กทักษะที่ ๒
นิทำน (๒)

ww

w.
k

ro
ob
an
no
k.
co

๑. อ่ำนนิทำนที่กำหนดให้ คิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำ แล้วตอบคำถำมต่อไปนี้
๑) นักเรี ยนควรตั้งชื่อเรื่ องว่ำอย่ำงไร จึงจะเหมำะสม สอดคล้องกับเนื้ อเรื่ อง เพรำะอะไร
เซี ยงเมียงแบ่งช้ำง, เพรำะในเรื่ องพูดถึงกำรแบ่งช้ำง
กลโกงของเซี ยงเมี่ยง และกล่ำวถึงวิธีที่โกงอย่ำงแยบยล
(ให้ครู พิจำรณำตำมเหตุผลของนักเรี ยน)
๒) ตัวละคร “เซี ยงเมี่ยง” มีนิสัยอย่ำงไร ควรนำมำเป็ นแบบอย่ำงหรื อไม่ เพรำะอะไร
มีนิสัยฉลำดแกมโกง, ขี้โกง ไม่ควรนำมำเป็ นแบบอย่ำง เพรำะเป็ นคนไม่มีควำมซื่ อสัตย์
ในคำพูด หรื อตีควำมเข้ำข้ำงตนเอง
่
๓) นักเรี ยนมีควำมรู ้สึกอย่ำงไรกับคำกล่ำวที่วำ “อ้ำยเซี ยงเมี่ยงเอ๋ ย ช้ำงที่เจ้ำแบ่งส่ วนข้ำงหน้ำ
ให้ขำนั้นข้ำขอคืนให้เจ้ำ ข้ำไม่ขอรับเอำอีกต่อไปแล้ว ขอยกให้เจ้ำทั้งหมด”
้
ท้อแท้ใจกับกลโกงของเซี ยงเมี่ยง
๔) ถ้ำนักเรี ยนมีโอกำสได้อบรมสั่งสอน เซี ยงเมี่ยง จะสอนเรื่ องอะไรบ้ำง บอกมำ ๒ ข้อ
๑. กำรไม่เอำเปรี ยบผูอื่น
้
๒. คุณธรรมควำมซื่อสัตย์
๕) นิทำนเรื่ องนี้ให้ขอคิดอย่ำงไรแก่ผอ่ำนบ้ำง
้
ู้
๑. กำรใดจะได้จะเสี ยพึงพิจำรณำให้รอบคอบ ไม่ควรด่วนตัดสิ นใจอะไรง่ำยๆ เพรำะมักจะ
นำควำมเสี ยหำยมำสู่ ตนได้
๒. กำรคบกับคนขี้โกงเยียงนี้จะทำให้เดือดร้อน
่
๖) นักเรี ยนคิดว่ำมีคำสำนวนโวหำรใดที่สอดคล้องกับนิทำนเรื่ องนี้บำง
้
่ ั
ปัญญำประดุจดังอำวุธ, มีปัญญำอยูกบตัวกลัวอะไร
๒. อ่ำนนิทำน ๒ สรุ ปเรื่ อง แล้วเขียนเป็ นแผนผังควำมคิด (Mind Mapping)
่
อยูในดุลยพินิจของครู
๓. ให้นกเรี ยนเขียนนิทำนขึ้นใหม่ แล้วตั้งชื่ อให้เหมำะสม
ั
่
อยูในดุลยพินิจของครู
๔. ให้นกเรี ยนอ่ำนนิทำนที่นกเรี ยนเขียนขึ้นใหม่ แล้ววำดภำพประกอบให้เหมำะสม
ั
ั
่
อยูในดุลยพินิจของครู
๒๗

ro
ob
an
no
k.
co

m

เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
เรื่อง กำรอ่ำนนิทำน

๑. ก

๒. ค

๓. ข

๔. ค

๕. ง

๖. ค

๘. ก

๙. ง

ww

w.
k

๗. ข

ตั้งใจเรี ยนนะครับ

๑๐. ค

More Related Content

Similar to แบบฝึกอ่านคิดจากนิทาน

คำซ้อน (งานกลุ่ม)
คำซ้อน (งานกลุ่ม)คำซ้อน (งานกลุ่ม)
คำซ้อน (งานกลุ่ม)Nongkran Jarurnphong
 
Unit1-2_คุณธรรมของครูและนักเรียน
Unit1-2_คุณธรรมของครูและนักเรียนUnit1-2_คุณธรรมของครูและนักเรียน
Unit1-2_คุณธรรมของครูและนักเรียนKasem S. Mcu
 
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑kroosomsri
 
หนังสือเล่มเล็ก
หนังสือเล่มเล็กหนังสือเล่มเล็ก
หนังสือเล่มเล็กNattasit Chumnarnkarn
 
หนังสือเล่มเล็ก
หนังสือเล่มเล็กหนังสือเล่มเล็ก
หนังสือเล่มเล็กBenz_benz2534
 
สุขฯ ม.2 หน่วย 3
สุขฯ ม.2 หน่วย 3สุขฯ ม.2 หน่วย 3
สุขฯ ม.2 หน่วย 3supap6259
 
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1Sivagon Soontong
 
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖baicha1006
 
นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52panneem
 
นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52panneem
 
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่านบทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่านKanjana Pothinam
 
คำสั่งบทักษะชีวิต 18 ก.ค.55
คำสั่งบทักษะชีวิต 18 ก.ค.55คำสั่งบทักษะชีวิต 18 ก.ค.55
คำสั่งบทักษะชีวิต 18 ก.ค.55krupornpana55
 
จุดเน้นที่ 7 ภาค1ปี55
จุดเน้นที่ 7 ภาค1ปี55จุดเน้นที่ 7 ภาค1ปี55
จุดเน้นที่ 7 ภาค1ปี55tassanee chaicharoen
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1Yota Bhikkhu
 

Similar to แบบฝึกอ่านคิดจากนิทาน (20)

Me and demon
Me and demonMe and demon
Me and demon
 
เรียงความ
เรียงความเรียงความ
เรียงความ
 
คำซ้อน (งานกลุ่ม)
คำซ้อน (งานกลุ่ม)คำซ้อน (งานกลุ่ม)
คำซ้อน (งานกลุ่ม)
 
Unit1-2_คุณธรรมของครูและนักเรียน
Unit1-2_คุณธรรมของครูและนักเรียนUnit1-2_คุณธรรมของครูและนักเรียน
Unit1-2_คุณธรรมของครูและนักเรียน
 
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
 
หนังสือเล่มเล็ก
หนังสือเล่มเล็กหนังสือเล่มเล็ก
หนังสือเล่มเล็ก
 
หนังสือเล่มเล็ก
หนังสือเล่มเล็กหนังสือเล่มเล็ก
หนังสือเล่มเล็ก
 
สุขฯ ม.2 หน่วย 3
สุขฯ ม.2 หน่วย 3สุขฯ ม.2 หน่วย 3
สุขฯ ม.2 หน่วย 3
 
กระบวนการค ด
กระบวนการค ดกระบวนการค ด
กระบวนการค ด
 
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
 
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖
 
Newsletter vol 9 5 may 55
Newsletter vol 9 5 may 55Newsletter vol 9 5 may 55
Newsletter vol 9 5 may 55
 
นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52
 
นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52
 
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่านบทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
 
คำสั่งบทักษะชีวิต 18 ก.ค.55
คำสั่งบทักษะชีวิต 18 ก.ค.55คำสั่งบทักษะชีวิต 18 ก.ค.55
คำสั่งบทักษะชีวิต 18 ก.ค.55
 
จุดเน้นที่ 7 ภาค1ปี55
จุดเน้นที่ 7 ภาค1ปี55จุดเน้นที่ 7 ภาค1ปี55
จุดเน้นที่ 7 ภาค1ปี55
 
จุดเน้นที่ 7
จุดเน้นที่ 7จุดเน้นที่ 7
จุดเน้นที่ 7
 
มาโซะยาวี
มาโซะยาวีมาโซะยาวี
มาโซะยาวี
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1
 

More from Prasong Somarat

ผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์ ชาติเจริญ
ผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์  ชาติเจริญผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์  ชาติเจริญ
ผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์ ชาติเจริญPrasong Somarat
 
ผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ พาณิชญ์กิจเจริญ
ผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ  พาณิชญ์กิจเจริญผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ  พาณิชญ์กิจเจริญ
ผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ พาณิชญ์กิจเจริญPrasong Somarat
 
เผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ พาณิชย์กิจเจริญ
เผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ  พาณิชย์กิจเจริญเผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ  พาณิชย์กิจเจริญ
เผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ พาณิชย์กิจเจริญPrasong Somarat
 
วรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮอง
วรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮองวรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮอง
วรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮองPrasong Somarat
 
Best01 ไม้เด็ดครู
Best01 ไม้เด็ดครูBest01 ไม้เด็ดครู
Best01 ไม้เด็ดครูPrasong Somarat
 
Best1 ไม้เด็ดของครู
Best1 ไม้เด็ดของครูBest1 ไม้เด็ดของครู
Best1 ไม้เด็ดของครูPrasong Somarat
 
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1  Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1 Prasong Somarat
 
0การพัฒนากระบวนการนิเทศ โรงเรียนสรินธร
0การพัฒนากระบวนการนิเทศ  โรงเรียนสรินธร0การพัฒนากระบวนการนิเทศ  โรงเรียนสรินธร
0การพัฒนากระบวนการนิเทศ โรงเรียนสรินธรPrasong Somarat
 
เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร สิรินธร สุรินทร์
เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร  สิรินธร สุรินทร์เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร  สิรินธร สุรินทร์
เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร สิรินธร สุรินทร์Prasong Somarat
 
การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์
การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์
การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์Prasong Somarat
 
การออกแบบอิงมฐ.สิรินธร
การออกแบบอิงมฐ.สิรินธรการออกแบบอิงมฐ.สิรินธร
การออกแบบอิงมฐ.สิรินธรPrasong Somarat
 
หลักสูตรสิรินธร 2555
หลักสูตรสิรินธร 2555หลักสูตรสิรินธร 2555
หลักสูตรสิรินธร 2555Prasong Somarat
 
หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555
หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555
หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555Prasong Somarat
 
การออกแบบอิงมฐ.สธ.
การออกแบบอิงมฐ.สธ.การออกแบบอิงมฐ.สธ.
การออกแบบอิงมฐ.สธ.Prasong Somarat
 
2การออกแบบอิงมฐ.
2การออกแบบอิงมฐ.2การออกแบบอิงมฐ.
2การออกแบบอิงมฐ.Prasong Somarat
 
psของกินถิ่นเรา
psของกินถิ่นเราpsของกินถิ่นเรา
psของกินถิ่นเราPrasong Somarat
 
Psประเพณีฮีตสิบสอง
PsประเพณีฮีตสิบสองPsประเพณีฮีตสิบสอง
PsประเพณีฮีตสิบสองPrasong Somarat
 
ตารางสอนครุประสงค์
ตารางสอนครุประสงค์ตารางสอนครุประสงค์
ตารางสอนครุประสงค์Prasong Somarat
 

More from Prasong Somarat (20)

ผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์ ชาติเจริญ
ผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์  ชาติเจริญผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์  ชาติเจริญ
ผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์ ชาติเจริญ
 
190071010142559is
190071010142559is190071010142559is
190071010142559is
 
ผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ พาณิชญ์กิจเจริญ
ผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ  พาณิชญ์กิจเจริญผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ  พาณิชญ์กิจเจริญ
ผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ พาณิชญ์กิจเจริญ
 
เผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ พาณิชย์กิจเจริญ
เผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ  พาณิชย์กิจเจริญเผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ  พาณิชย์กิจเจริญ
เผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ พาณิชย์กิจเจริญ
 
วรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮอง
วรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮองวรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮอง
วรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮอง
 
Best01 ไม้เด็ดครู
Best01 ไม้เด็ดครูBest01 ไม้เด็ดครู
Best01 ไม้เด็ดครู
 
Best1 ไม้เด็ดของครู
Best1 ไม้เด็ดของครูBest1 ไม้เด็ดของครู
Best1 ไม้เด็ดของครู
 
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1  Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1
 
0การพัฒนากระบวนการนิเทศ โรงเรียนสรินธร
0การพัฒนากระบวนการนิเทศ  โรงเรียนสรินธร0การพัฒนากระบวนการนิเทศ  โรงเรียนสรินธร
0การพัฒนากระบวนการนิเทศ โรงเรียนสรินธร
 
เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร สิรินธร สุรินทร์
เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร  สิรินธร สุรินทร์เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร  สิรินธร สุรินทร์
เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร สิรินธร สุรินทร์
 
การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์
การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์
การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์
 
การออกแบบอิงมฐ.สิรินธร
การออกแบบอิงมฐ.สิรินธรการออกแบบอิงมฐ.สิรินธร
การออกแบบอิงมฐ.สิรินธร
 
หลักสูตรสิรินธร 2555
หลักสูตรสิรินธร 2555หลักสูตรสิรินธร 2555
หลักสูตรสิรินธร 2555
 
หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555
หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555
หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555
 
การออกแบบอิงมฐ.สธ.
การออกแบบอิงมฐ.สธ.การออกแบบอิงมฐ.สธ.
การออกแบบอิงมฐ.สธ.
 
2การออกแบบอิงมฐ.
2การออกแบบอิงมฐ.2การออกแบบอิงมฐ.
2การออกแบบอิงมฐ.
 
psของกินถิ่นเรา
psของกินถิ่นเราpsของกินถิ่นเรา
psของกินถิ่นเรา
 
Psประเพณีฮีตสิบสอง
PsประเพณีฮีตสิบสองPsประเพณีฮีตสิบสอง
Psประเพณีฮีตสิบสอง
 
แบบฝึก
แบบฝึกแบบฝึก
แบบฝึก
 
ตารางสอนครุประสงค์
ตารางสอนครุประสงค์ตารางสอนครุประสงค์
ตารางสอนครุประสงค์
 

แบบฝึกอ่านคิดจากนิทาน

  • 2. ๑ คำนำ ro ob an no k. co m แบบฝึ กทักษะฉบับนี้จดทำขึ้น เพื่อพัฒนำกำรอ่ำน คิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำ ั ของนักเรี ยนระดับชั้นมัธยมศึกษำปี ที่ ๒ ซึ่งเป็ นนวัตกรรมประกอบกำรจัดกำรเรี ยนรู้ วิชำภำษำไทย ท๒๒๑๐๑ เพื่อมุ่งปลูกฝังนิสัยให้รักกำรอ่ำนแก่นกเรี ยน โดยยึดหลักกำรจัดกำรเรี ยนรู้ที่เน้นผูเ้ รี ยน ั เป็ นสำคัญ ซึ่งได้นำงำนเขียนที่หลำกหลำย เช่น นิทำน บทควำม เรื่ องสั้น บทเพลง เป็ นต้น นำมำให้นกเรี ยนอ่ำน แล้วโยงไปสู่ กระบวนกำรคิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำของเรื่ อง อันเป็ น ั กำรปลูกฝังให้นกเรี ยนมีนิสัยรักกำรอ่ำนอย่ำงแท้จริ ง ซึ่ งจะต้องทำต่อเนื่ องตลอดปี พร้อมทั้ง ั เพื่อเสริ มทักษะกำรเขียนเชิงสร้ำงสรรค์ของนักเรี ยนอีกด้วย ั ชุดแบบฝึ กทักษะฉบับนี้สำมำรถนำไปใช้กบนักเรี ยนหลำยระดับชั้น ซึ่งก่อนใช้ควรพิจำรณำ ให้เหมำะสม จึงหวังว่ำจะเกิดประโยชน์สำหรับ นักเรี ยน ครู และผูที่สนใจ หำกมีขอเสนอแนะอันใด ้ ้ ที่เป็ นประโยชน์ กรุ ณำได้แจ้งให้ทรำบเพื่อจะได้ปรับปรุ งให้ดีข้ ึนในโอกำสต่อไป ww w. k สวลี ชัยภัย ครู วิทยฐำนะ ครู ชำนำญกำร
  • 3. ๒ m สำรบัญ ro ob an no k. co หน้ ำ ww w. k คำนำ สำรบัญ จุดประสงค์กำรเรี ยนรู ้ กำรอ่ำน คิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำ คำแนะนำกำรใช้แบบฝึ กทักษะ กำรอ่ำน คิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำ ใบควำมรู้ที่ ๑ กำรอ่ำนนิทำน นิทำน ๑ แบบฝึ กทักษะที่ ๑ ใบควำมรู้ที่ ๒ กำรอ่ำนนิทำน นิทำน ๒ แบบฝึ กทักษะที่ ๒ แบบทดสอบหลังเรี ยน เรื่ อง กำรอ่ำนนิทำน บรรณำนุกรม แนวคำตอบแบบฝึ กทักษะที่ ๑ นิทำน ๑ แนวคำตอบแบบฝึ กทักษะที่ ๒ นิทำน ๒ เฉลยแบบทดสอบหลังเรี ยน เรื่ อง กำรอ่ำนนิทำน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๙ ๑๑ ๑๕ ๑๕ ๑๗ ๒๑ ๒๔ ๒๕ ๒๖ ๒๗
  • 4. ro ob an no k. co จุดประสงค์ กำรเรียนรู้ m ๓ ๑. นักเรี ยนสำมำรถตอบคำถำมจำกเรื่ องที่อ่ำนได้ ๒. นักเรี ยนสำมำรถสรุ ปใจควำมสำคัญของเรื่ องที่อ่ำนได้ ๓. นักเรี ยนสำมำรถวิเครำะห์เนื้ อเรื่ องได้ถูกต้อง ๔. นักเรี ยนสำมำรถแสดงควำมคิดเห็นในบทเรี ยนได้อย่ำงมีเหตุผล ๕. นักเรี ยนสำมำรถประเมินค่ำเรื่ องที่อ่ำนได้ ๖. นักเรี ยนสำมำรถเขียนแผนผังควำมคิด (Mind Mapping) จำกเรื่ องที่อ่ำนได้ ๗. นักเรี ยนสำมำรถเขียนเรื่ องได้อย่ำงสร้ำงสรรค์ ๘. นักเรี ยนสำมำรถวำดภำพประกอบเรื่ องได้อย่ำงเหมำะสม ww w. k ตั้งใจอ่ำน ให้ ดี นะครับผม...
  • 5. ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ แบบฝึ กทักษะฉบับนี้สร้ำงขึ้นเพื่อให้นกเรี ยนได้เรี ยนรู ้และลงมือปฏิบติดวยตนเอง ั ั ้ ในแต่ละหน้ำของแต่ละแบบฝึ กทักษะจะมีเนื้อหำและคำชี้ แจงให้นกเรี ยนได้ทรำบ ั นักเรี ยนอ่ำนเรื่ องให้จบ ๒ – ๓ รอบแล้วตอบคำถำมท้ำยเรื่ อง นักเรี ยนเขียนแผนผังควำมคิด (Mind Mapping) จำกเรื่ องและตกแต่งให้สวยงำม นักเรี ยนเรี ยบเรี ยงเรื่ องใหม่ดวยตนเองอย่ำงกระชับ ้ นักเรี ยนวำดภำพประกอบเรื่ องและตกแต่งให้สวยงำม ถ้ำนักเรี ยนไม่เข้ำใจให้ถำมคุณครู ผสอนได้ ู้ ww w. k ๗ ro ob an no k. co m ๔ ตนเป็ นที่พงแห่ งตน ครับผม... ึ่
  • 6. ro ob an no k. co ใบควำมรู้ที่ ๑ กำรอ่ำนนิทำน m ๕ กำรอ่ำน กำรอ่ำนในชี วตประจำวัน มีท้ งกำรอ่ำนในใจและอ่ำนออกเสี ยง กำรอ่ำนจึงต้อง ิ ั มีควำมระมัดระวังในกำรปฏิบติตน เช่น กำรจัดหำที่นงให้สะดวกสบำยและถูกสุ ขลักษณะ อ่ำนหนังสื อ ั ั่ ในระยะที่เหมำะสมกับสำยตำ นอกจำกนั้นจึงต้องคำนึงถึงมำรยำทในกำรอ่ำนอีกด้วย ข้อพึงปฏิบติ ั และมำรยำทกำรอ่ำนที่สำคัญมีดงนี้ ั มำรยำทในกำรอ่ำน ww w. k (๑) ไม่อ่ำนออกเสี ยงดังจนรบกวนผูอื่น ้ (๒) ออกเสี ยงถูกต้องชัดเจน ตำมอักขรวิธี (๓) กรณี อ่ำนหนังสื อในห้องสมุด ต้องไม่ส่งเสี ยงหรื อทำเสี ยงดังรบกวนผูอื่น ้ (๔) เลือกอ่ำนหนังสื อที่มีประโยชน์ต่อตนเองและสังคม (๕) อ่ำนอย่ำงมีวิจำรณญำณ มีเหตุผล ไม่หลงเชื่ อในสิ่ งงมงำยไร้เหตุผล (๖) ระมัดระวังในกำรถือหนังสื อมิให้เกิดควำมเสี ยหำย (๗) ถ้ำต้องกำรเรื่ องหนึ่งเรื่ องใดจำกหนังสื อ อำจเพื่อนำไปเป็ นหลักฐำนอ้ำงอิง ควรถ่ำยสำเนำไว้ ไม่ควรฉี กออกไปจำกเล่ม (๘) กำรแสดงควำมคิดเห็นในกำรอ่ำนต้องมีเหตุผล ไม่มีอคติในกำรอ่ำน (๙) เมื่อนำเนื้ อหำส่ วนหนึ่งส่ วนใดจำกเรื่ องที่อ่ำนไปใช้อำงอิงในงำนเขียน เช่น รำยงำน ้ ควรใส่ อำงอิงถูกต้องตำมหลักกำร เพื่อเป็ นกำรให้เกียรติผเู ้ ขียน ้ (๑๐) ถ้ำบังเอิญทำหนังสื อเสี ยหำย ควรซ่อมหนังสื อให้ถูกต้อง ซ่อมหนังสื อเพื่อมิให้ หนังสื อชำรุ ดยิงขึ้น ่
  • 7. ๖ ww w. k ro ob an no k. co m กำรสร้ำงนิสัยรักกำรอ่ำนกำรปลูกฝังนิสัยรักกำรอ่ำน ต้องเริ่ มตั้งแต่วยเด็ก โดยผูปกครอง ั ้ ผูใหญ่ในบ้ำน ครู อำจำรย์ ตลอดจนกำรสื่ อต่ำงๆ ในสังคมควรช่วยส่ งเสริ ม กำรเลือกหนังสื อ ้ ที่เหมำะสมกับวัยของผูเ้ รี ยนแต่ละระดับ ย่อมมีส่วนจูงใจให้เด็กอยำกอ่ำนอยำกรู ้อยำกเห็นอยำกค้นคว้ำ หำควำมรู ้เพิ่มเติมเพื่อจะได้เป็ นนักอ่ำนที่ดีตลอดไป ในวัยแรกที่เริ่ มหัดอ่ำนนั้นผูใหญ่อำจเร้ำควำมสนใจ ้ ด้วยหนังสื อที่มีภำพประกอบสวยๆ หนังสื อกำร์ตูน นิทำนที่สนุกสนำนมีภำพประกอบหรื อเมื่อเริ่ ม โตขึ้นเริ่ มมีหนังสื อสำรคดี นวนิยำย เรื่ องสั้น ที่ตรงกับควำมสนใจ ทำให้เขำเกิดควำมรู ้สึกว่ำหนังสื อนั้นมี ประโยชน์ มีคุณค่ำ และมีควำมหมำยต่อเขำมำก กำรเลือกหนังสื อเข้ำห้องสมุดให้เหมำะสมกับวัยผูเ้ รี ยน จะมีส่วนอย่ำงมำกในกำรจูงใจให้เด็กเข้ำห้องสมุดและหยิบหนังสื อมำอ่ำนจนเกิดควำมเคยชิน กับกำรอ่ำน หนังสื อที่เหมำะกับวัยและรสนิยมของเด็กจะช่วยให้เกิดควำมรักและมีควำมสุ ขกับ กำรอ่ำนหนังสื อ เมื่อเขำเติบโตขึ้นก็ควรได้รับกำรปลูกฝังให้รักกำรอ่ำนด้วยตนเอง ดังนี้ (๑) ร่ วมกิจกรรมส่ งเสริ มกำรอ่ำน เช่น อ่ำนแล้วนำเรื่ องมำเล่ำต่อ ขณะที่อ่ำนควรบันทึก ชื่อหนังสื อ ชื่ อผูแต่ง แนวคิดสำคัญของเรื่ องและคุณค่ำ ฯลฯ ลงในบัตรทุกครั้ง ้ (๒) จดบันทึกข้อควำม ถ้อยคำ เรื่ องรำว ข้อคิด ควำมรู ้ที่มีประโยชน์ หรื ออำจลืมได้ง่ำย เก็บ ไว้เพื่อเตือนควำมจำหรื อแบบให้ศึกษำค้นคว้ำเพิ่มเติมได้ (๓) ใช้พจนำนุกรมและสำรำนุกรมช่วยในกรณี ที่พบถ้อยคำ สำนวน หรื อคำศัพท์ยำก ที่ไม่เข้ำใจควำมหมำย หรื อต้องกำรตรวจสอบควำมถูกต้อง (๔) สำรวมสมำธิ ในกำรอ่ำน เพื่อจับสำระสำคัญหรื อสำรประโยชน์อื่นๆ ตำมจุดประสงค์ ที่ต้ งไว้ ั (๕) ปรับอำรมณ์ให้สอดคล้องกับข้อเขียนเพื่อสร้ำงจินตนำกำรและควำมเข้ำใจให้ลึกซึ้ งขึ้น (๖) รู้จกลักษณะเฉพำะของวรรณกรรม เข้ำใจศิลปะของภำษำในคำประพันธ์ รวมทั้งถ้อยคำ ั โวหำรในงำนนั้น (๗) สะสมประสบกำรณ์และควำมรู้เชิงภำษำให้กว้ำงขวำงและมำกพอจนสำมำรถเข้ำใจ เรื่ องรำวที่อ่ำนได้อย่ำงรวดเร็ ว รับรสจำกกำรอ่ำนได้อย่ำงซำบซึ้ ง ่ กำรอ่ำนเป็ นสิ่ งที่ทำได้ไม่ยำก แต่คนเป็ นจำนวนมำกไม่ค่อยรักกำรอ่ำน นักเรี ยนซึ่ งอยูใน วัยเรี ยน จะได้รับควำมรู ้จำกกำรอ่ำนเป็ นส่ วนใหญ่ จึงต้องฝึ กฝนตนให้เป็ นนักอ่ำนมีควำมอยำกอ่ำน จน ติดเป็ นนิสัยรักกำรอ่ำนไปตลอดชีวิต (ที่มำ : http://dekza๗๘.blogspot.com/๒๐๑๐/๐๑/blog-post.html วันที่ ๙ กันยำยน ๒๕๕๓)
  • 8. ๗ ประโยชน์ ของนิทำน ww w. k ro ob an no k. co m เรำจะเห็นว่ำเวลำที่บอกเด็กๆ ว่ำจะเล่ำนิทำนให้ฟัง เด็กจะดีใจมำก และรู ้สึกตื่นเต้นไปกับเรื่ อง ที่ฟัง ทั้งหมดนี้เป็ นเพรำะ นิทำน คือ เรื่ องเล่ำที่มีวตถุประสงค์หลัก คือ กำรสั่งสอนอย่ำงสนุกและ ั ไม่ให้เด็กรู ้สึกว่ำถูกสอน ซึ่ งเรำสำมำรถสรุ ปประโยชน์ของนิทำนได้ดงนี้ ั ่ ๑. นิทำนช่ วยเสริมปัญญำเด็ก ในขณะที่พอแม่เล่ำนิทำน บรรยำกำศขณะเล่ำนิทำนที่เกิดขึ้น เป็ นบรรยำกำศแห่งควำมสุ ขของทุกคน เป็ นบรรยำกำศแห่งควำมรัก ควำมอบอุ่น สร้ำงควำมผูกพัน มันใจ เชื่อมันในตนเอง ซึ่ งจะเสริ มปั ญญำเด็กได้อย่ำงดี ่ ่ ๒. นิทำนช่ วยปลูกฝังให้ เด็กเป็ นคนช่ ำงคิด ช่ ำงถำมและช่ ำงสั งเกต นิทำนช่วยให้เด็กเป็ นเด็ก กล้ำถำม เด็กจะมีควำมมันใจ ฉลำด แสดงควำมคิดเห็นถูกจังหวะ เรี ยกว่ำ มีควำมฉลำดทั้งทำงปั ญญำ ่ (IQ) และฉลำดทำงอำรมณ์ (EQ) ด้วย ๓. นิทำนทำให้ เด็กเรี ยนรู้ ภำษำได้ เร็ว กำรเล่ำนิทำนเปรี ยบเสมือนกำรสอนภำษำไปในตัว เด็กจะได้ยนได้ฟังรู ปประโยค กำรใช้ภำษำ ทำให้เด็กเกิดทัศนคติที่ดีต่อกำรเรี ยนนั้นๆ ิ ๔. นิทำนทำให้ เด็กจับประเด็นเก่ง วิเครำะห์ เก่ง กำรเล่ำนิ ทำนให้เด็กฟัง เล่ำซ้ ำๆ เด็กจะจำได้ ทั้งเรื่ อง เด็กจะมองภำพรวมของเรื่ อง ทำให้เด็กรู ้จกจับประเด็น ย่อควำมเป็ น รู ้จกมองสรรพสิ่ ง ั ั เป็ นระบบ เข้ำใจเรื่ องได้อย่ำงรวดเร็ ว ่ ๕. นิทำนสร้ ำงให้ เด็กมีจินตนำกำร ในขณะที่พอแม่เล่ำนิ ทำนนั้น น้ ำเสี ยงที่เล่ำเรื่ องนั้นจะ กระตุนให้เด็กสร้ำงจินตนำกำรเป็ นภำพ จินตนำกำรยิงใหญ่กว่ำควำมรู ้ จินตนำกำรสร้ำงสรรค์สิ่งต่ำงๆ ้ ่ ใหม่ๆ เกิดขึ้นในโลกของเรำนี้ กำรเล่ำนิทำนบ่อยๆ มำกๆ เรื่ อง จึงเป็ นกำรสร้ำงจินตนำกำรไปพร้อมๆ กับกำรรับรู ้ถึงควำมใหม่ที่ลูกยังไม่เคยรู ้มำก่อน ๖. นิทำนช่ วยสร้ ำงคุณธรรมแก่ เด็กได้ ง่ำย นิทำนแต่งขึ้นเพื่อสอดแทรกคุณธรรม ทักษะชีวต ิ หรื อข้อคิดต่ำงๆ เป็ นอุทำหรณ์ให้ผรับฟังได้ตระหนักรับรู ้ คุณธรรมทั้งหลำยที่ลูกได้ฟังตั้งแต่ปฐมวัยจะ ู้ ่ จำฝังแน่นอยูในตัวเด็กและนำไปใช้ในวัยรุ่ น ๗. นิทำนช่ วยสร้ ำงสมำธิให้ เด็ก ช่วงของกำรเล่ำนิทำน เด็กมักจะฟังนิทำนอย่ำงใจจดใจจ่อ ยิง ่ ่ เล่ำนิทำนที่เหมำะกับของเด็ก เด็กจะเข้ำใจและอยำกรู ้วำจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป และนี่เป็ นกำรสร้ำงสมำธิ ั ให้กบเด็กอีกวิธีหนึ่ง ๘. นิทำนช่ วยสร้ ำงเด็กให้ มีควำมรู้ ควำมฉลำดทำงอำรมณ์ เมื่อเด็กๆชอบฟังนิทำน ก็จะหำวิธี ั ้ ปรับตัวและสร้ำงควำมสัมพันธ์กบผูใหญ่ เพื่อจะได้ฟังนิ ทำนบ่อยๆ โดยสิ่ งเหล่ำนี้ จะทำให้เด็กมีวธีกำร ิ ่ พัฒนำปรับตัวเพื่อให้อยูในสังคมได้อย่ำงมีควำมสุ ข
  • 9. ๘ ro ob an no k. co m ๙. นิทำนช่ วยสร้ ำงเด็กให้ มีนิสัยรักกำรอ่ำน กำรเล่ำนิทำนหรื ออ่ำนนิทำนให้เด็กฟังบ่อยๆ จะเป็ นกำรช่วยปลูกฝังนิสัยรักกำรเรี ยนรู ้ของเด็กทุกมิติ เด็กจะเป็ นคนรักกำรอ่ำนหนังสื อ อ่ำนหนังสื อ ได้ไว มีสมำธิ ่ นอกจำกนี้ในด้ำนกำรเรี ยนกำรสอน ไม่วำจะเป็ นกำรสอนภำษำไทยหรื อภำษำต่ำงประเทศ ต่ำงนิยมใช้นิทำนเป็ นตัวเชื่อมบทเรี ยนด้วยกันทั้งสิ้ น เพรำะนิทำนสำมำรถเปลี่ยนเรื่ องยำกให้เป็ นเรื่ อง ง่ำยได้ เด็กจะมองเห็นและจดจำได้ง่ำยขึ้น และสุ ดท้ำยนี้ ใครที่มีปัญหำด้ำนกำรควบคุมชั้นเรี ยน ่ ก็สำมำรถนำนิทำนไปเล่ำเพื่อเป็ นกำรเรี ยกสติของเด็กๆกลับมำอยูจุดเดียวกันได้ ทำให้กำรเรี ยน กำรสอนในชั้นเรี ยนง่ำยขึ้นด้วย ww w. k (ทีมำ : http://www.learners.in.th/blogs/posts/๓๐๙๔๖๑ วันที่ ๙ กันยำยน ๒๕๕๓) ่
  • 10. ๙ ro ob an no k. co m เรำมำอ่ำนนิทำน กันนะคะ ... คำชี้แจง ให้นกเรี ยนอ่ำนนิทำนที่กำหนดให้ต่อไปนี้ แล้ว คิด วิเครำะห์ ประเมินค่ำ แล้วตอบคำถำม ั นิทำน (๑) ww w. k นกนำงแอ่นฝูงหนึ่ง อำศัยเกำะร้ำง กลำงมหำสมุทร กำลนั้น มรสุ มรุ นแรง กระแสคลื่น กรำดเกรี้ ยวจนเกำะเกือบจมน้ ำ ฝูงนกตกใจหนีพลัดพรำกสิ้ น ร้ำงทุกรวงรัง ทิ้งไว้แต่ลูกนกกำพร้ำ เพียงตัวเดียว เธอเกิดจำกไข่ฟองสุ ดท้ำยแห่งฤดูกำล ลูกนกสลบไปตั้งแต่เช้ำ ล่วงกลำงคืนตกดึกดื่น ฟื้ นขึ้นด้วยเย็นหยำดน้ ำค้ำง อกเบำหวิว หิวโหย อ่อนใจ จนหลงใหลเพ้อเจ้อ ทำไมแม่ไม่ทำรังกลำงปุยเมฆขำวนวลละออง เรำจะจิกกิน เดือนดำวได้ ปำงใดเรำมีปีก ปำงนั้นเรำจะบินหนีไปสุ ดหล้ำฟ้ ำอื่น จนควำมทุกข์ทรมำนตำมไม่ถึง เดือนหงำยแจ่มกระจ่ำง หมู่แมลงเล็ก ๆ พยำยำมบินขึ้นไปหำพระจันทร์ มันสิ้ นแรงดังร่ วง กลำงหำวดึกลึก ซำกลิ่วลอยลงในรวงรัง พร้อมน้ ำค้ำงหยำด กระทบพืชอ่อนๆ พลอยตก ในรวงรังด้วย ลูกนกประทังชีวตเพรำะสิ่ งเหล่ำนี้ ช้ำวันนำนคืน มันรำลึกถึงแต่แม่ เคยคำบเหยือป้ อน ิ ่ ทุกเช้ำเย็น บัดนี้ แม่ทิ้งเหยื่อไว้ให้ลูกอันกล้ ำกลืนไม่รู้สิ้น คือควำมทุกข์ระทมถึงสุ ดโศกำดูร อรุ โณทัย ลูกนกถำมสำยรุ ้งว่ำ ดูรำกำไลทองของขอบฟ้ ำ ท่ำนทรำบไหม มำรดำข้ำน้อย ่ อยูแห่งหนไหน ฉันไม่ทรำบ ฉันเป็ นเพียงอนุภำคไอน้ ำทอประกำยรังสี ใส รู ้เล็กน้อยว่ำ บำงสิ่ งธรรมชำติสร้ำงแล้วสลำยเร็ วเกินไป จนไม่ทนรู ้จกตัวเอง เสมือนชัวครู่ ที่เกิดเป็ นสำยรุ ้ง กำลัง ั ั ่ ่ ทำลำยตัวเองอันบอดใบ้ไม่รู้วำจะหำยไปแห่งหนไหน ท่ำนลองถำมกระแสคลื่นเถิด ลูกนกนิ่ง เสี ยใจ กระทังดึกดื่นก็ยงเกรงใจคลื่น ด้วยทุกระลอกคลื่น สะอึกสะอื้นครวญครำง ั ่ ล้มฟำดตัวแตกกระจำยพรำย จนหำดทรำยขำวพรำวเพรำะฟองน้ ำตำ ท่ำนคงเสมือนเรำที่ทุกข์ระทม ่ ท้นหัวใจ สำยลมเจ้ำข้ำเอย มำรดำข้ำน้อยอยูแห่งหนไหน แต่ลมพัดแล้วไม่คอยใคร เจ้ำจะต้องรอคอย ั เรำฝำกคำตอบไว้กบเทพเจ้ำ ณ ดวงดำว บนสรวงสวรรค์
  • 11. ๑๐ ro ob an no k. co m เวลำล่วงเลยไป ลูกนกเติบโต บินสู่ ฟำกฟ้ ำอันไพศำล วันนั้นตั้งแต่เช้ำ ยังหำเหยื่อไม่ได้ จนจวนโพล้เพล้รำไร ลูกนกจึงเหลือบเห็นหอยตัวหนึ่ง ประกำยแวววำม มันบินเวียนวนโฉบคำบได้ คำบเหิ นขึ้นสู ง ทิ้งหอยกระแทกหิ นโดยแรง เปลือกแตกฉี กเนื้อรำวคมมีดเฉื อน ร่ ำงหอย บิดเป็ นเกลียวด้วยเจ็บปวดแสบที่สุด บัดดลนั้น ฟำกฟ้ ำบันดำลให้ดวงดำวตกวูบกระจ่ำงวำว นฤมิตควำมสำนึกแห่งรักชัวนิ รันดร ่ บันดำลสัตว์ท้ งสองพูดและเข้ำใจกันได้ แม่นกบินกลับมำหำลูก วันสลำตันรุ นแรง แต่คลื่นสำด ั ฟำดร่ ำง นำงนกตกจมหำยใต้ทะเลลึก นำงฝำกวิญญำณควำมรักห่วงหำอำลัย เกิดในฝำหอยนั้น กระจิริด ไม่ยอมพูดภำษำใดๆ สิ้ น นอกจำกห้วงดวงใจรู้สึกคิดถึงลูกตำมลำพัง เพื่อจะจดจำไป ชัวกำลอวสำน ลูกนกนำงแอ่นเล่ำเรื่ องหนหลังให้แม่หอยฟังสิ้ น ทุกข์โศก เจ็บ จนนำงตื้นตัน ่ ในกลำงควำมแสบปวดรวดร้ำว ลูกเอ๋ ย ชำติที่แล้ว แม่ตำยเสี ยไม่ทนป้ อนเหยื่อเจ้ำเมื่อมื้อค่ำ มำพบกันใหม่ในชำติน้ ี ั แม่มีตวเองเป็ นเหยื่อมำป้ อนเจ้ำพอดี ลูกรัก เรำไม่รู้จะกำหนดคุณค่ำอันลึกซึ้ งของควำมรักได้อย่ำงไร ั พอสิ้ นเสี ยงแล้วแม่หอยก็ขำดใจตำย ลูกนกฟุบกลิ้งเกลือกจนสลบไสล หัวใจแตกสลำยตำยตำมไป กระทังคลื่นสำดสองซำก ่ เน่ำเปื่ อยเป็ นผงธุลี ปลงสังเวชผงธุ ลีเคยเป็ นแม่หอยและลูกนกนำงแอ่นตัวนั้น อันฝำกควำมรัก เตือนแผ่นทรำยไว้รำลึก ตลอดอำยุขยแห่งกำลนำที เทอญ ั ww w. k ถึงเวลำตอบคำถำม กันแล้วเพือนๆ ... ่
  • 12. ๑๑ ro ob an no k. co ๑. อ่ำนเรื่ องที่กำหนดให้ คิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำ แล้วตอบคำถำมต่อไปนี้ m แบบฝึ กทักษะที่ ๑ กำรอ่ำนนิทำน ww w. k ๑) นักเรี ยนควรตั้งชื่อเรื่ องว่ำอย่ำงไร จึงจะเหมำะสม สอดคล้องกับเนื้ อเรื่ อง เพรำะอะไร ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ๒) นักเรี ยนคิดว่ำตัวละครลูกนกนำงแอ่นมีนิสัยอย่ำงไร จงอธิ บำย ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ่ ๓) นักเรี ยนมีควำมรู ้สึกอย่ำงไรกับคำกล่ำวที่วำ “ลูกเอ๋ ย ชำติที่แล้ว แม่ตำยเสี ยไม่ทนป้ อนเหยือเจ้ำ ั ่ เมื่อมื้อค่ำ มำพบกันใหม่ในชำติน้ ี แม่มีตวเองเป็ นเหยือมำป้ อนเจ้ำพอดี” ั ่ ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ่ ๔) ถ้ำนักเรี ยนพบเหตุกำรณ์คล้ำยลูกนกนำงแอ่นที่รู้วำแม่หอยคือแม่ของตน นักเรี ยนจะทำอย่ำงไร จงอธิบำย ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ๕) นิทำนเรื่ องนี้ให้ขอคิดอย่ำงไรแก่ผอ่ำนบ้ำง ้ ู้ ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ๖) คุณธรรมที่ปรำกฏในเรื่ องมีอะไรบ้ำง ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................................
  • 13. ๑๒ ww w. k ro ob an no k. co เขียนแผนผังควำมคิด m ๒. อ่ำนนิทำน ๑ สรุ ปเรื่ อง แล้วเขียนแผนผังควำมคิด (Mind Mapping) ทำได้ สบำยมำกค่ ะ
  • 14. ๑๓ m ๓. ให้นกเรี ยนเขียนนิทำนขึ้นใหม่และตั้งชื่อให้เหมำะสม ั ro ob an no k. co นิ ทานเรื่อง........................................... ww w. k ............................................................................................................................................... …... ....................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………
  • 15. ๑๔ ww w. k ro ob an no k. co วำดภำพประกอบ m ๔. ให้นกเรี ยนอ่ำนนิทำนที่นกเรี ยนเขียนขึ้นใหม่ แล้ววำดภำพประกอบให้เหมำะสม ั ั
  • 16. ๑๕ ใบควำมรู้ที่ ๒ กำรอ่ำนนิทำน ๙vomuj ro ob an no k. co m คำชี้แจง ให้นกเรี ยนอ่ำนนิทำนที่กำหนดให้ คิด วิเครำะห์ ประเมินค่ำ แล้วตอบคำถำม ั เพือนๆ อ่ำนนิทำนเรื่องที่ ๒ ่ กันดีกว่ำ นะคะ... นิทำน (๒) ww w. k บรรดำบุคคลที่เฉลียวฉลำดและสำมำรถแก้ปัญหำเฉพำะหน้ำได้โดยคล่องแคล่วว่องไว ่ ในวรรณคดีของไทยแล้ว ทุกคนต้องยกให้เซี ยงเมี่ยง บำงคนถึงเติมสร้อยให้วำ เซี ยงเมี่ยงเจ้ำปัญญำ มีชำงพังเชือกหนึ่งของเจ้ำผูครองประเทศข้ำงเคียง หลงทำงพลัดเข้ำในสวนของเซี ยงเมี่ยง เซี ยงเมี่ยง ้ ้ สั่งให้ขำทำสของตนจับช้ำงนั้นไว้ เขำนำเอำช้ำงพังตัวนั้นไปรับจ้ำงชักลำกฟื น ตลอดจนบรรทุกของ ้ ต่ำงๆ ข่ำวกำรได้ชำงของเซี ยงเมี่ยงทรำบไปถึงพระกรรณของเจ้ำผูครองนคร พระองค์ให้เสนำมำเรี ยก ้ ้ ่ เซียงเมี่ยงไป เมื่อพบก็ตรัสถำมทันทีวำ “เออ เจ้ำเซี ยงเมี่ยง ข้ำทรำบว่ำเจ้ำจับช้ำงได้ใช่ไหม” เซี ยงเมี่ยงกรำบทูลว่ำ “เป็ นควำมจริ งพระพุทธเจ้ำข้ำ” เจ้ำผูครองนครตรัสว่ำ “ดังนั้นก็แล้ว ้ ทรัพย์สินใด ๆ ที่พลัดเข้ำมำในเขตขัณฑสี มำของข้ำทรัพย์น้ นควรเป็ นของข้ำครึ่ งหนึ่งเสมอ ั เซียงเมี่ยงกรำบทูลว่ำ “เป็ นควำมจริ งพระพุทธเจ้ำข้ำ หำกพระองค์มีพระประสงค์ขำพระพุทธเจ้ำ ้ ขอแบ่งให้พระองค์ครึ่ งหนึ่ง” เจ้ำผูครองนครสรวลออกมำด้วยควำมพอพระทัย “ เออ …. เจ้ำนี่ ้ รู้หลักกฎหมำยและขนบธรรมเนียมของบ้ำนเมืองดีนี่ เจ้ำจะแบ่งส่ วนไหนให้เรำล่ะ” เจ้ำผูครองนคร ้ ถำม เซี ยงเมี่ยงนิ่งคิดสักครู่ ก็กรำบทูลว่ำ “ข้ำพระพุทธเจ้ำเป็ นข้ำแผ่นดินของพระองค์ ดังนั้น ข้ำพระพุทธเจ้ำจึงเปรี ยบเหมือนช้ำงเท้ำหลัง พระองค์เป็ นช้ำงเท้ำหน้ำ ดังนั้น ข้ำพระพุทธเจ้ำขอมอบ ครึ่ งส่ วนหน้ำให้พระองค์ ส่ วนครึ่ งหลังเป็ นของข้ำพระพุทธเจ้ำเองพระพุทธเจ้ำข้ำ” เจ้ำผูครองนคร ้ ตบพระหัตถ์ดวยควำมพอพระทัย “ดีแล้ว ๆ เจ้ำพูดถูกต้อง เจ้ำคอยดูแลช้ำงให้ดีก็แล้วกัน” เซี ยงเมี่ยง ้ ก้มลงกรำบรับบัญชำแล้วบังคมลำกลับบ้ำน นับแต่วนนั้นมำเซี ยงเมี่ยงยิงใช้งำนหนักขึ้น อำหำรต่ำง ๆ ที่ชำงกินนั้นเขำให้ชำงกินดีที่สุด ั ้ ้ ่ ส่ วนค่ำอำหำรนั้นให้ไปคิดเอำที่เจ้ำผูครองนคร เวลำรับจ้ำงได้เงินทองมำ เขำก็เก็บรำยได้ท้ งหมดที่ใช้ ้ ั ช้ำงทำงำนตอนกลำงวันเป็ นของตนเสี ยผูเ้ ดียว พอเย็นลงก็ปล่อยช้ำงให้เข้ำไร่ เข้ำสวนกินกล้วยกิน
  • 17. ๑๖ ro ob an no k. co m ต้นหมำก ต้นมะพร้ำวของชำวบ้ำน ชำวบ้ำนจับเรี ยกค่ำไถ่ เซี ยงเมี่ยงก็ให้ไปเบิกเอำจำกท้องพระคลัง ่ ้ เพรำะส่ วนหน้ำของช้ำงเป็ นผูนำ ดังนั้นเจ้ำผูครองนครจึงต้องเป็ นผูรับชดใช้ ส่ วนของตนอยูขำงหลัง ้ ้ ้ ต้องเดินตำมเท้ำหน้ำไปจึงไม่ได้รับผิดชอบ ต่อมำช้ำงนั้นได้คลอดลูก เซี ยงเมี่ยงก็รับค่ำจ้ำงทั้งหมด เพรำะถือส่ วนที่ออกแรงที่สุดคือส่ วนข้ำงหลัง เจ้ำผูครองนครทรำบเรื่ องรำวเห็นว่ำ ถ้ำพระองค์ยงทรง ้ ั ขืนรับส่ วนแบ่งเช่นนี้คงขำดทุนเรื่ อยไป ดังนั้น พระองค์จึงตรัสบอกเซี ยงเมี่ยงว่ำ “อ้ำยเซี ยงเมี่ยงเอ๋ ย ช้ำงที่เจ้ำแบ่งส่ วนข้ำงหน้ำให้ขำนั้นข้ำขอคืนให้เจ้ำ ข้ำไม่ขอรับเอำอีกต่อไปแล้ว ขอยกให้เจ้ำทั้งหมด” ้ เซียงเมี่ยงก้มลงกรำบ กล่ำวคำขอบพระทัยที่พระองค์ทรงพระกรุ ณำเช่นนั้น ww w. k เพือนๆ อ่ำนจบแล้ว ่ มำตอบคำถำมกันเถอะครับ...
  • 18. ๑๗ ro ob an no k. co m แบบฝึ กทักษะที่ ๒ กำรอ่ำนนิทำน ๑. อ่ำนนิทำนที่กำหนดให้ คิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำ แล้วตอบคำถำมต่อไปนี้ ww w. k ๑) นักเรี ยนควรตั้งชื่อเรื่ องว่ำอย่ำงไร จึงจะเหมำะสม สอดคล้องกับเนื้ อเรื่ อง เพรำะอะไร ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ๒) ตัวละคร “เซี ยงเมี่ยง” มีนิสัยอย่ำงไร ควรนำมำเป็ นแบบอย่ำงหรื อไม่ เพรำะอะไร ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ่ ๓) นักเรี ยนมีควำมรู ้สึกอย่ำงไรกับคำกล่ำวที่วำ “อ้ำยเซี ยงเมี่ยงเอ๋ ย ช้ำงที่เจ้ำแบ่งส่ วนข้ำงหน้ำ ให้ขำนั้นข้ำขอคืนให้เจ้ำ ข้ำไม่ขอรับเอำอีกต่อไปแล้ว ขอยกให้เจ้ำทั้งหมด” ้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ๔) ถ้ำนักเรี ยนมีโอกำสได้อบรมสั่งสอน เซี ยงเมี่ยง จะสอนเรื่ องอะไรบ้ำง บอกมำ ๒ ข้อ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ๕) นิทำนเรื่ องนี้ให้ขอคิดอย่ำงไรแก่ผอ่ำนบ้ำง ้ ู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๖) นักเรี ยนคิดว่ำมีคำสำนวน โวหำรใดที่สอดคล้องกับนิทำนเรื่ องนี้บำง ้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................... ............................. ……………………………………………………………………………………………..
  • 19. ๑๘ ww w. k ro ob an no k. co แผนผังควำมคิด m ๒. อ่ำนนิทำน ๒ สรุ ปเรื่ อง แล้วเขียนเป็ นแผนผังควำมคิด (Mind Mapping) จะทำได้ หรือเปล่ำนะ...
  • 20. ๑๙ m ๓. ให้นกเรี ยนเขียนนิทำนขึ้นใหม่ แล้วตั้งชื่ อให้เหมำะสม ั ro ob an no k. co นิ ทานเรื่อง.............................................. ww w. k ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………..
  • 21. ๒๐ ww w. k ro ob an no k. co วำดภำพประกอบ m ๔. ให้นกเรี ยนอ่ำนนิทำนที่นกเรี ยนเขียนขึ้นใหม่ แล้ววำดภำพประกอบให้เหมำะสม ั ั
  • 22. ๒๑ ro ob an no k. co คำชี้แจง : ให้นกเรี ยนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ั m แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง กำรอ่ำนนิทำน ๑) ข้อใด ไม่ ใช่ มำรยำทในกำรอ่ำน ก. อ่ำนเสี ยงดัง ข. ไม่อ่ำนออกเสี ยงดังจนรบกวนผูอื่น ้ ค. ออกเสี ยงถูกต้องชัดเจน ตำมอักขรวิธี ง. ระมัดระวังในกำรถือหนังสื อมิให้เกิดควำมเสี ยหำย ๒) กำรสร้ำงนิสัยรักกำรอ่ำนควรเริ่ มเมื่อใด ก. เริ่ มเมื่อโตเป็ นผูใหญ่แล้ว ้ ข. เริ่ มตั้งแต่เข้ำโรงเรี ยน ค. เริ่ มตั้งแต่วยเด็ก ั ง. เริ่ มเมื่อแก่แล้ว ww w. k ๓) ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ ใช่ ประโยชน์ของนิทำน ก. ช่วยสร้ำงสมำธิ ให้เด็ก ข. อ่ำนเพื่อรอเวลำไปเที่ยว ค. ช่วยสร้ำงคุณธรรมแก่เด็กได้ง่ำย ง. ทำให้เด็กจับประเด็นเก่ง วิเครำะห์เก่ง ่ ๔) นกนำงแอ่น อำศัยอยูที่ไหน ก. เกำะร้ำง กลำงมหำสมุทร ข. กลำงป่ ำใหญ่ ค. บนต้นไม้ใหญ่ ง. กลำงป่ ำดงดิบ
  • 23. ๒๒ ro ob an no k. co m ๕) จำก นิทำน (๑) คำว่ำ “กำไลทองของขอบฟำ” หมำยถึงสิ่ งใด ้ ก. แสงแดดในยำมเย็น ข. พระอำทิตย์ทรงกลด ค. พระจันทร์ทรงกลด ง. สำยรุ ้ง ๖) จำก นิทำน (๑) ลูกนกนำงแอ่น และแม่หอย พบกันที่ใด ก. ริ มแม่น้ ำ ข. กลำงป่ ำใหญ่ ค. ชำยหำดริ มทะเล ง. ริ มแม่น้ ำในป่ ำดงดิบ ๗) จำก นิทำน (๒) เซียงเมี่ยงมีนิสัยอย่ำงไร ก. ฉลำดและซื่อสัตย์ ข. ฉลำดแกมโกง ค. คนดีมีคุณธรรม ง. ก้ำวร้ำว ww w. k ๘) จำก นิทำน (๒) เซี ยงเมี่ยง แบ่งอะไรกับผูครองนคร ้ ก. ช้ำง ข. ม้ำ ค. วัว ง. ควำย ๙) จำก นิทำน (๒) เซียงเมี่ยง ขำดคุณธรรมข้อใดมำกที่สุด ก. ควำมขยันหมันเพียร ่ ข. ควำมเมตตำกรุ ณำ ค. ควำมสำมัคคี ง. ควำมซื่อสัตย์
  • 24. ๒๓ ww w. k ro ob an no k. co m ๑๐) จำก นิทำน (๒) เซี ยงเมี่ยงแบ่งช้ำงส่ วนใดให้ผครองนคร ู้ ก. ส่ วนหลัง ข. ส่ วนกลำง ค. ส่ วนหน้ำ ง. ยกให้ท้ งตัว ั
  • 25. ๒๔ m บรรณำนุกรม ww w. k ro ob an no k. co กระทรวงศึกษำธิกำร. หนังสื อเรียนรำยวิชำพืนฐำนภำษำไทย : วิวธภำษำ. โรงพิมพ์คุรุสภำลำดพร้ำว ้ ิ : กรุ งเทพฯ, ๒๕๔๙. ฟองจันทร์ สุ ขยิง ฯลฯ. หนังสื อเรียนรำยวิชำพืนฐำนภำษำไทย : หลักและกำรใช้ ภำษำ. ้ ่ บ.อักษรเจริ ญทัศน์ จำกัด : กรุ งเทพฯ, ๒๕๕๔. http://dekza)๗๘.blogspot.com/๒๐๑๐/๐๑/blog-post.html วันที่ ๙ กันยำยน ๒๕๕๓. http://www.learners.in.th/blogs/posts/๓๐๙๔๖๑ วันที่ ๙ กันยำยน ๒๕๕๓.
  • 26. แนวคำตอบแบบฝึ กทักษะที่ ๑ นิทำน (๑) m ๒๕ w. k ro ob an no k. co ๑. อ่ำนเรื่ องที่กำหนดให้ คิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำ แล้วตอบคำถำมต่อไปนี้ ๑) นักเรี ยนควรตั้งชื่อเรื่ องว่ำอย่ำงไร จึงจะเหมำะสม สอดคล้องกับเนื้ อเรื่ อง เพรำะอะไร ควำมรักของแม่นกนำงแอ่น เพรำะเนื้ อเรื่ องกล่ำวถึงแม่นกนำงแอ่นที่รักลูกยอมเป็ นเหยื่อ ให้แก่ลูก ๒) นักเรี ยนคิดว่ำตัวละครลูกนกนำงแอ่นมีนิสัยอย่ำงไร จงอธิ บำย ่ ขำดควำมรักควำมอบอุ่นและมีควำมต้องกำรแม่อยูตลอดเวลำ ่ ๓) นักเรี ยนมีควำมรู ้สึกอย่ำงไรกับคำกล่ำวที่วำ “ลูกเอ๋ ย ชำติที่แล้ว แม่ตำยเสี ยไม่ทนป้ อนเหยือ ั ่ เจ้ำเมื่อมื้อค่ำ มำพบกันใหม่ในชำติน้ ี แม่มีตวเองเป็ นเหยื่อมำป้ อนเจ้ำพอดี” ั สงสำรและซำบซึ้ งใจในควำมรักของแม่นกนำงแอ่นมำก ่ ๔). ถ้ำนักเรี ยนพบเหตุกำรณ์คล้ำยลูกนกนำงแอ่นที่รู้วำแม่หอยคือแม่ของตน นักเรี ยนจะทำอย่ำงไร จงอธิบำย ช่วยนำแม่ไปรักษำพยำบำลและดูแลให้หำยจำกกำรบำดเจ็บ ๕) นิทำนเรื่ องนี้ให้ขอคิดอย่ำงไรแก่ผอ่ำนบ้ำง ้ ู้ ควำมรักของแม่ยงใหญ่ที่สุด ิ่ ๖) คุณธรรมที่ปรำกฏในเรื่ องมีอะไรบ้ำง ควำมเมตตำกรุ ณำ ๒) อ่ำนนิทำน ๑ สรุ ปเรื่อง แล้วเขียนเป็ นแผนผังควำมคิด (Mind Mapping) ่ อยูในดุลยพินิจของครู ww ๓) ให้ นักเรียนเขียนนิทำนขึนใหม่ และตั้งชื่อให้ เหมำะสม ้ ่ อยูในดุลยพินิจของครู ๔) ให้ นักเรียนอ่ำนนิทำนทีนักเรียนเขียนขึนใหม่ แล้ววำดภำพประกอบให้ เหมำะสม ่ ้ ่ อยูในดุลยพินิจของครู
  • 27. ๒๖ m แนวคำตอบแบบฝึ กทักษะที่ ๒ นิทำน (๒) ww w. k ro ob an no k. co ๑. อ่ำนนิทำนที่กำหนดให้ คิด วิเครำะห์ และประเมินค่ำ แล้วตอบคำถำมต่อไปนี้ ๑) นักเรี ยนควรตั้งชื่อเรื่ องว่ำอย่ำงไร จึงจะเหมำะสม สอดคล้องกับเนื้ อเรื่ อง เพรำะอะไร เซี ยงเมียงแบ่งช้ำง, เพรำะในเรื่ องพูดถึงกำรแบ่งช้ำง กลโกงของเซี ยงเมี่ยง และกล่ำวถึงวิธีที่โกงอย่ำงแยบยล (ให้ครู พิจำรณำตำมเหตุผลของนักเรี ยน) ๒) ตัวละคร “เซี ยงเมี่ยง” มีนิสัยอย่ำงไร ควรนำมำเป็ นแบบอย่ำงหรื อไม่ เพรำะอะไร มีนิสัยฉลำดแกมโกง, ขี้โกง ไม่ควรนำมำเป็ นแบบอย่ำง เพรำะเป็ นคนไม่มีควำมซื่ อสัตย์ ในคำพูด หรื อตีควำมเข้ำข้ำงตนเอง ่ ๓) นักเรี ยนมีควำมรู ้สึกอย่ำงไรกับคำกล่ำวที่วำ “อ้ำยเซี ยงเมี่ยงเอ๋ ย ช้ำงที่เจ้ำแบ่งส่ วนข้ำงหน้ำ ให้ขำนั้นข้ำขอคืนให้เจ้ำ ข้ำไม่ขอรับเอำอีกต่อไปแล้ว ขอยกให้เจ้ำทั้งหมด” ้ ท้อแท้ใจกับกลโกงของเซี ยงเมี่ยง ๔) ถ้ำนักเรี ยนมีโอกำสได้อบรมสั่งสอน เซี ยงเมี่ยง จะสอนเรื่ องอะไรบ้ำง บอกมำ ๒ ข้อ ๑. กำรไม่เอำเปรี ยบผูอื่น ้ ๒. คุณธรรมควำมซื่อสัตย์ ๕) นิทำนเรื่ องนี้ให้ขอคิดอย่ำงไรแก่ผอ่ำนบ้ำง ้ ู้ ๑. กำรใดจะได้จะเสี ยพึงพิจำรณำให้รอบคอบ ไม่ควรด่วนตัดสิ นใจอะไรง่ำยๆ เพรำะมักจะ นำควำมเสี ยหำยมำสู่ ตนได้ ๒. กำรคบกับคนขี้โกงเยียงนี้จะทำให้เดือดร้อน ่ ๖) นักเรี ยนคิดว่ำมีคำสำนวนโวหำรใดที่สอดคล้องกับนิทำนเรื่ องนี้บำง ้ ่ ั ปัญญำประดุจดังอำวุธ, มีปัญญำอยูกบตัวกลัวอะไร ๒. อ่ำนนิทำน ๒ สรุ ปเรื่ อง แล้วเขียนเป็ นแผนผังควำมคิด (Mind Mapping) ่ อยูในดุลยพินิจของครู ๓. ให้นกเรี ยนเขียนนิทำนขึ้นใหม่ แล้วตั้งชื่ อให้เหมำะสม ั ่ อยูในดุลยพินิจของครู ๔. ให้นกเรี ยนอ่ำนนิทำนที่นกเรี ยนเขียนขึ้นใหม่ แล้ววำดภำพประกอบให้เหมำะสม ั ั ่ อยูในดุลยพินิจของครู
  • 28. ๒๗ ro ob an no k. co m เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง กำรอ่ำนนิทำน ๑. ก ๒. ค ๓. ข ๔. ค ๕. ง ๖. ค ๘. ก ๙. ง ww w. k ๗. ข ตั้งใจเรี ยนนะครับ ๑๐. ค