SlideShare a Scribd company logo
1 of 37
Download to read offline
N E W Y O R K T I M E S
B E S T S E L L E R
AI SUPERPOWERS
จีน อเมริกา มหาอ�านาจ Technology เงินตรา อนาคต
COPYRIGHT NOTICE EXACTLY AS IN USA EDITION
Copyright © 2018 by Kai-Fu Lee.
Published by arrangement with Brockman, Inc.
Thai language translation copyright © 2020 by Superposition Co., Ltd.
All right reserved.
เลขมาตรฐานสากลประจ�าหนังสือ
ผู้เขียน: Kai-Fu Lee
ผู้แปล: วิญญู กิ่งหิรัญวัฒนา
กองบรรณาธิการ: จิรวรรณ วงค�าเสา, ปิยะพงษ์ ศิริสุทธานันท์,
ธีร์ มีนสุข, ธีพร บรรจงเปลี่ยน
ออกแบบปก: สมเกียรติ ภูผาสิทธิ์
จัดรูปเล่ม: อรณัญช์ สุขเกษม
ราคา 450 บาท
จัดพิมพ์และจัดจ�าหน่ายโดย ส�านักพิมพ์บิงโก
ภายในเครือ บริษัท ซุปเปอร์โพซิชั่น จ�ากัด (Superposition Co., Ltd.)
18 ซอยดุลิยา ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. 10170
อีเมล superposition.books@gmail.com
โทรศัพท์ 094-810-7272
เว็บไซต์ www.bingobook.co เฟซบุ๊ก www.facebook.com/bingobooks
พิมพ์ที่ Pimdee โทรศัพท์ 02-401-9401
สารบัญ
บทที่ 1	 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
บทที่ 2	 นักก๊อปในโคลอสเซียม
บทที่ 3	 จักรวาลอินเทอร์เน็ตที่แตกต่างของจีน
บทที่ 4	 เรื่องเล่าของสองประเทศ
บทที่ 5	 คลื่น	AI	ทั้งสี่
บทที่ 6	 แดนสวรรค์	แดนนรก	และวิกฤติใหญ่
บทที่ 7	 ปัญญาจากมะเร็ง
บทที่ 8	 โลกที่มนุษย์อยู่ร่วมกับ	AI
บทที่ 9	 เรื่องราวจากทั่วโลก
15
45
91
137
173
227
275
307
341
- ค�านิยม -
4
ในหนังสือเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์(AI,ArtificialIntelligence)
ที่มีขายอยู่มากมายในร้านหนังสือ หนังสือ AI Superpowers ที่เขียน
โดย Dr. Kai-Fu Lee นั้น เป็นหนังสือ AI ที่ผมชอบในล�าดับต้นๆ
หนังสือเล่มนี้อ่านไม่ยากไม่ต้องการความรู้พื้นฐานด้านAIแต่อ่านแล้ว
ท�าให้เราเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงส�าคัญในอนาคตที่ก�าลังเกิดขึ้นได้
เป็นอย่างดี
Dr.Kai-FuLeeเป็นคนไต้หวันที่ไปเรียนหนังสือที่อเมริกาตั้งแต่
อายุ11ปีเรียนจบปริญญาเอกด้านAIจากมหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอน
เคยท�างานที่Apple,SGI,Microsoftเป็นประธานบริษัทGoogleChina
และปัจจุบันเป็นประธานและ CEO ของ Sinovation Ventures บริษัท
ลงทุนที่เน้นการพัฒนาบริษัทเทคโนโลยีแห่งอนาคตของจีน น่าจะเป็น
ผู้ทรงอิทธิพลด้าน AI ล�าดับต้นๆ ของจีน
Dr.Kai-Fu Lee เขียนหนังสือเล่มนี้แบบคนที่เข้าใจ AI ลึกใน
ทุกด้าน ทั้งด้านเทคโนโลยี ด้านธุรกิจ การมองอนาคต และ ที่ส�าคัญ
ที่สุดมุมมองในแง่ของความเป็นมนุษย์
เรื่องที่ผมประทับใจมากที่สุดคือ ตอนที่เขาเขียนเล่าถึง
การแข่งขันหมากล้อม (โกะ) ในปี 2017 ระหว่างแชมป์โลกโกะชาวจีน
เค่อเจี๋ย กับ AlphaGo ซึ่งเป็น AI ที่พัฒนาโดย Google ในการแข่งขัน
ระหว่างเค่อเจี๋ยกับ AlphaGo ปรากฎว่า AI เอาชนะแชมป์โลกได้
5
ทั้งสามกระดาน โดยแต่ละกระดานใช้เวลาเล่นนานกว่าสามชั่วโมง
เค่อเจี๋ยพยายามทุกวิถีทาง แต่ AI ไม่เปิดช่องโหว่และค่อยๆ บดขยี้
เขาลง
ดูเหมือนAIจะเป็นผู้ชนะมนุษย์อย่างราบคาบแต่Dr.Kai-FuLee
เล่าว่าเขาได้ดูการถ่ายทอดสดการแข่งหมากล้อมในครั้งนั้น และเขา
ยังคงมองเห็นความหวังและทางรอดของมนุษยชาติในยุคของ AI
“อะไรคือความหวังและทางรอดของมนุษยชาติ (ซึ่งอาจจะ
รวมถึงประเทศไทย) ที่ Dr. Kai-Fu Lee กล่าวถึง?”
ลองพลิกไปหาค�าตอบในหนังสือเล่มนี้ได้เลยครับ
ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธ์
- ค�านิยม -
6
หากต้องการรู้เกี่ยวกับปัจจุบันและอนาคตของเทคโนโลยีไฮเทค
อะไรสักอย่าง เช่น ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence)
คุณจะท�าอย่างไร?หากคุณต้องการรู้ว่าคนต่างเชื้อชาติต่างวัฒนธรรม
กันที่แข่งขันกันเอาชัยกันในเทคโนโลยีด้านใดด้านหนึ่ง(อีกครั้งเช่นAI)
ปัจจัยอะไรแน่จะเป็นตัวตัดสิน?
มีหลายวิธีที่จะตอบค�าถามทั้งหมดข้างต้น แต่เชื่อแน่ว่าคงจะ
มีหลายคนเชื่อว่าน่าจะหาหนังสือสักเล่มที่พอจะช่วยตอบค�าถามเหล่า
นั้นได้
หนังสือแบบนี้ต้องการผู้เขียนแบบไหนกัน?
หากเป็นผม ก็คงต้องมองหาคนหนังสือที่คนเขียนมีพื้นฐาน
ความรู้ในสาขาวิชาดังกล่าว ยิ่งมีประสบการณ์ที่ตรงและหลากหลาย
ก็ยิ่งน่าสนใจ และหากเป็นคนที่เข้าไปซึมซับอยู่ในวัฒนธรรมทั้งสองที่
ก�าลังห�้าหั่นกันอยู่ก็ย่อมมีโอกาสที่จะได้เห็นมุมมองวิธีคิดจนสามารถ
ให้เหตุผลหรือค�าอธิบายเบื้องหลังเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งบาง
ครั้งเราอาจจะคิดไม่ถึงทีเดียวว่า ท�าไมจึงเป็นเช่นนั้น
Dr.Kai-FuLeeผู้แต่งหนังสือ“AI Superpowers จีน อเมริกา
มหาอ�านาจ เทคโนโลยี เงินตรา อนาคต” เกิดที่ไต้หวัน ก่อนจะ
ย้ายไปอยูที่สหรัฐอเมริกา จนเรียนจบได้ปริญญาตรีวิทยาศาสตร์
คอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และปริญญาเอกด้าน AI
7
จากมหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอน หลังจากท�างานเป็นอาจารย์สักพัก
เขาก็ลาออกไปท�างานเป็นนักวิจัยที่ Apple และ Microsoft ก่อนที่
Google จะซื้อตัวไปเป็นประธานบริษัท Google China ปัจจุบันเขา
เป็นผู้เชี่ยวชาญ AI และเจ้าของ Sinovation Ventures บริษัทที่ลงทุน
เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ
จากชีวประวัติของ Dr. Kai-Fu Lee ดังกล่าว ก็ย่อมจะเห็นได้
ว่าเขาเป็นหนึ่งในคนที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะเขียนเกี่ยวกับ
สงคราม AI ระหว่างมหาอ�านาจสองชาติคือ สหรัฐอเมริกาและจีน
ไม่เพียงเท่านั้น หากได้ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ จะต้องประทับใจ
ในความรู้ และความสามารถในการเล่าเรื่อง รวมไปถึงเกร็ดเล็กเกร็ด
น้อยต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี อุปนิสัยและมุมมองของผู้เกี่ยวข้อง
ในสงครามครั้งนี้ ตลอดไปจนถึงวัฒนธรรมที่ขับดันอยู่เบื้องหลังการ
แข่งขันทางการค้าของคนทั้งสองชาติ ขณะที่คุณวิญญู กิ่งหิรัญวัฒนา
ผู้แปลก็ท�าหน้าที่ถ่ายทอดเนื้อหาได้ดี
โดยสรุปแล้ว นอกจากจะเป็นหนังสือที่อ่านได้ความรู้แล้ว ยัง
อ่านง่าย และอ่านเพลินอย่างไม่น่าเชื่อ แนะน�าครับ
ดร.น�าชัย ชีววิวรรธน์
8
- ค�านิยม -
ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ก�าลังพลิก
โลกครั้งมโหฬาร เหมือนที่เครื่องจักรไอน�้า ไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์ได้
เปลี่ยนแปลงโลกและสังคมมนุษย์อย่างก้าวกระโดดมาถึง 3 ครั้งแล้ว
ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัยคนที่อยู่ในใจกลางพายุ
ของการเปลี่ยนแปลงล้วนมีบทบาทที่น่าตื่นใจเสมอทั้งเจมส์วัตต์แห่ง
ยุคเครื่องจักรไอน�้า, โธมัส อัลวา เอดิสัน และนิโคลา เทสลา แห่งยุค
ไฟฟ้า, บิลล์ เกตส์ และสตีฟ จ็อบส์ แห่งยุคคอมพิวเตอร์
แล้วยุค AI เล่า เรานึกถึงใครที่ใจกลางพายุ?
AI ผ่านยุคที่รุ่งเรืองและตกต�่าหลายรอบ ผ่านนักวิทยาศาสตร์
หลายรุ่นตั้งแต่ทศวรรษ1950แต่ล้มลุกคลุกคลานอย่างยาวนานเพราะ
การถกเถียงข้อโต้แย้งทางทฤษฎี 2 สาย และความไม่พร้อมของระบบ
นิเวศทางด้านดิจิทัล
จนผ่านมาถึงอีก 50 ปี เมื่อเจฟฟรีย์ ฮินตัน นักจิตวิทยาและ
นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอังกฤษค้นพบเทคนิคใหม่ของ
Neural Networks เรียกว่า Deep Learning พร้อมๆ กับเวลานั้น มี
การพัฒนาคอมพิวเตอร์ที่สามารถประมวลผลข้อมูลจ�านวนมหาศาล
ในชั่วพริบตา ยุคสมัยของ AI จึงก�าเนิดขึ้น
และถ้าเราเพ่งมองกลุ่มคนที่อยู่ใจกลางพายุของAIเราต้องเห็น
หนุ่มใหญ่เชื้อสายไต้หวันชื่อ Dr.Kai-Fu Lee ยืนเด่นอยู่ตรงนั้นด้วย
Dr.Kai-Fu Lee เกิดในไต้หวัน เขาจบปริญญาเอกด้าน AI จาก
มหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอน และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ที่ได้รับ
9
การยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งของโลก จนได้รับเลือกเป็น 1 ใน 100
ผู้ทรงอิทธิพลของโลกประจ�าปี 2556
เขามีชีวิตที่แตกต่างอย่างสมดุล 2 ด้านอย่างน่าประหลาด
เขาเคยท�างานเป็นนักบริหารมืออาชีพกับยักษ์ใหญ่ในวงการ
ดิจิทัลทั้ง Apple, Microsoft และ Google แต่วันนี้เขาเป็นนักลงทุน
นักเขียน ครู และบล็อกเกอร์ที่มีคนติดตามกว่า 50 ล้านคน
เขาเติบโต เรียนหนังสือ และเริ่มท�างานที่สหรัฐอเมริกา แต่เขา
เคยเป็นประธานบริษัทGoogleChinaอยู่4ปีก่อนผันตัวเป็นนักลงทุน
สนับสนุนสตาร์ทอัพในจีน
เขาเคยท�างานหามรุ่งหามค�่าเพราะเชื่อว่าเขาจะเปลี่ยนแปลง
โลก แต่เมื่อพบว่าตนเป็นมะเร็ง เขาจึงรู้ว่า ครอบครัว แม่ ภรรยา และ
ลูกสาวสองคนส�าคัญที่สุด และความรักส�าคัญกว่าตัวเลขใดๆ
ความรู้ที่ได้จากหนังสือ AI Superpowers เล่มนี้จึงมั่นใจได้ว่า
เป็นความรู้จากผู้รู้จริง ผู้ที่คลุกคลีระดับวงในของผู้น�าอุตสาหกรรม AI
และผู้ที่เข้าใจความสามารถในการแข่งขันด้าน AI ของสหรัฐอเมริกา
และจีนอย่างถ่องแท้ แม้มีผู้ค่อนขอดว่า เขาดูจะเข้าข้างจีนมากกว่า
ข้อคิดที่ผมชอบที่สุดจากหนังสือ ไม่ใช่เรื่อง AI จะเปลี่ยนวิถี
ชีวิตของเราไปมากมายเพียงใด แต่เป็นประโยคในหน้าสุดท้ายที่
Dr.Kai-Fu Lee ได้รู้แจ้งถึง “ปัญญาที่แท้” ว่า
“AIท�ำให้เรำเข้ำใจตัวเองอย่ำงแท้จริงไม่ใช่เพรำะAIเลียนแบบ
มนุษย์ส�ำเร็จแต่เป็นเพรำะมันปลดปล่อยเรำให้พ้นจำกกำรหมกมุ่นกับ
วัตถุ และท�ำให้เรำจดจ่อกับสิ่งที่ท�ำให้เรำเป็นมนุษย์
นั่นคือ กำรแสดงควำมรัก และกำรได้ควำมรักตอบกลับมำ”
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
10
หน้าที่อย่างหนึ่งของผมในฐานะนักลงทุน คือการกล่าวบรรยาย
เรื่อง AI ให้นักธุรกิจข้ามชาติและนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลฟัง
ความสนุกอย่างหนึ่งของงานนี้อยู่ตรงที่บางครั้งผมก็ต้องไปพูด
เรื่องเดียวกันนี้ให้เด็กอนุบาลฟังด้วย
น่าประหลาดที่คนฟังทั้งสองกลุ่มที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
มักถามค�าถามคล้ายๆ กัน อย่างตอนที่ผมไปเยือนโรงเรียนอนุบาล
ที่ปักกิ่งเมื่อเร็วๆ นี้ เสียงเซ็งแซ่ของกลุ่มเด็ก 5 ขวบกระหน�่าผมด้วย
ค�าถามเกี่ยวกับอนาคตของ AI
“เราจะมีครูที่เป็นหุ่นยนต์หรือเปล่า?”
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้ารถหุ่นยนต์คันหนึ่งไปชนรถหุ่นยนต์อีกคัน
แล้วเราได้รับบาดเจ็บ?”
“คนจะแต่งงานและมีลูกกับหุ่นยนต์หรือเปล่า?”
“คอมพิวเตอร์จะฉลาดจนกลายเป็นนายเราหรือไม่?”
“ถ้าหุ่นยนต์ท�าได้ทุกอย่างจริง แล้วเราจะท�างานอะไร?”
ค�าถามของเด็กอนุบาลเหล่านี้ไม่แตกต่างจากของบุคคล
ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกหลายๆ คน และมันบอกอะไรได้หลายอย่าง
ประการแรกคือมันแสดงให้เห็นว่าAIก�าลังอยู่ในความสนใจของผู้คน
- ค�าน�า -
11
แค่ไม่กี่ปีก่อน AI ยังเป็นสาขาวิชาที่ถูกกล่าวถึงอยู่แต่ในห้องวิจัยและ
ในหนังวิทยาศาสตร์อยู่เลย ถึงแม้คนทั่วไปอาจพอรู้ว่า AI เป็นเรื่อง
เกี่ยวกับการสร้างหุ่นยนต์ที่คิดได้เหมือนมนุษย์ แต่แทบนึกไม่ออกเลย
ว่ามันจะมาเกี่ยวโยงกับชีวิตประจ�าวันของเราอย่างไร
แต่ทั้งหมดนั้นเปลี่ยนไปแล้ว หน้าหนังสือพิมพ์ที่เราอ่าน
เต็มไปด้วยข่าวนวัตกรรมAIแทบทุกวันมีการสัมมนาทางธุรกิจที่พูดถึง
การใช้ AI เพิ่มผลก�าไร อีกทั้งรัฐบาลของประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็
ก�าลังประกาศแผนการที่จะใช้เทคโนโลยีนี้ให้เป็นประโยชน์ จู่ๆ AI
ก็กลายเป็นข้อถกเถียงในวงกว้าง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
การค้นคว้าในเชิงทฤษฎีของAIที่ส�าคัญๆในที่สุดก็เอามาใช้จริง
ได้แล้วและมันพร้อมจะมาเปลี่ยนแปลงชีวิตเราปัจจุบันAIอยู่เบื้องหลัง
แอพและเว็บไซต์ยอดนิยมจ�านวนมาก ในอนาคต AI จะขับรถของเรา
จัดการพอร์ตการลงทุนของเรา ผลิตสินค้าส่วนใหญ่ที่เราซื้อ และอาจ
ท�าให้เราตกงาน การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เต็มไปด้วยโอกาสและวิกฤติ
ซึ่งเราต้องเตรียมตัวเองให้พร้อม
การพูดคุยระหว่างผมกับเด็กอนุบาลสะท้อนบางอย่างออกมา
เมื่อไม่นานมานี้ จีนยังล้าหลังสหรัฐอเมริกาในเรื่อง AI อยู่หลายปี
หรือหลายสิบปี แต่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมามีกระแสคลั่ง AI เกิดขึ้น
ในจีน ความตื่นตัวในเรื่องนี้พุ่งสูงขึ้นชนิดที่ไม่มีที่ใดในโลกนี้เทียบได้
ความตื่นเต้นเรื่อง AI ลามไปทั่ว ตั้งแต่ในแวดวงเทคโนโลยีและธุรกิจ
การก�าหนดนโยบายของรัฐบาล ไปจนถึงห้องเรียนอนุบาลในปักกิ่ง
เลยทีเดียว
12
แรงสนับสนุนในวงกว้างแสดงให้เห็นว่าสาขา AI ในจีนเข้มแข็ง
มาก บริษัทและนักวิจัย AI ของจีนก�าลังตีตื้นคู่แข่งอย่างอเมริกาขึ้นมา
ทั้งภาคธุรกิจและภาควิชาการได้ร่วมมือกันเปลี่ยนจีนให้กลายเป็น
มหาอ�านาจ AI ตัวจริง จีนจึงกลายเป็นชาติเดียวที่ต่อกรกับอเมริกาใน
สาขานี้ได้ เศรษฐกิจและการเมืองในโลกนี้จะเดินหน้าไปทางไหนต่อก็
ขึ้นอยู่กับว่าทั้ง 2 ประเทศนี้เลือกแข่งขันหรือร่วมมือกันอย่างไร
หลังจากพูดคุยกับนักเรียนตัวน้อยกลุ่มนั้นผมก็พบกับสัจธรรมที่อยู่ลึก
ลงไปอีกว่า เราทุกคนก็เป็นเหมือนเด็กอนุบาล เราทุกคนล้วนมีค�าถาม
ที่ไม่มีค�าตอบ
เราพยายามเพ่งมองไปในอนาคตด้วยความวิตกกังวลเหมือน
ผู้ใหญ่ แต่ก็อยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็ก
เราอยากรู้ว่าระบบอัตโนมัติของ AI จะมีผลกระทบอย่างไร
ต่องานและอนาคตของเรา
เราอยากรู้ว่าใครและประเทศไหนจะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี
อันยิ่งใหญ่นี้
เราอยากรู้ว่าAIจะพาเราไปสู่โลกที่อุดมสมบูรณ์ได้หรือไม่และ
มนุษย์จะยังมีที่ยืนในโลกที่เต็มไปด้วย AI หรือเปล่า
ไม่มีใครมีลูกแก้ววิเศษที่ตอบค�าถามเราได้ทุกอย่าง แต่ความ
ไม่แน่นอนก็ท�าให้เรายังต้องถามพวกเราก็พยายามหาค�าตอบอย่างสุด
ความสามารถ และหนังสือเล่มนี้ก็คือความพยายามในการหาค�าตอบ
13
ของผม ผมไม่ใช่หมอดูที่จะบอกอนาคตได้อย่างชัดเจน แต่ผมจะใช้
ประสบการณ์ของผมทั้งจากฝั่งจีนและฝั่งอเมริกา ในฐานะนักวิจัย AI
ผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยี และนักลงทุนในปัจจุบัน เพื่อมาวิเคราะห์
หาค�าตอบให้ได้
ผมหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะให้ความกระจ่างพอสมควรว่าเรามา
ถึงจุดนี้ได้อย่างไร และจะสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดข้อถกเถียงใหม่ๆ
เกี่ยวกับที่ที่เราจะไปต่อจากนี้
เหตุผลหนึ่งที่ท�าให้การท�านายบทสรุปของเรื่องราว AI ยากมาก
เพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับหุ่นยนต์อย่างเดียว แต่เกี่ยวกับมนุษย์ด้วย
มนุษย์ที่มีอิสระทางความคิด จะเลือกสิ่งที่ต้องการและก�าหนด
ชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรก็ได้อนาคตAIจะเกิดขึ้นด้วยน�้ามือของเรา
มันจะสะท้อนทางเลือกที่เราเลือกและการกระท�าที่เราท�าลงไปผมหวังว่า
เราจะมองลึกลงไปในตัวเราเองและในตัวเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพื่อ
ค้นหาคุณค่าและความรู้ที่จะน�าทางเราได้
และนั่นคือภาพรวมทั้งหมด เรามาเริ่มการเดินทางกันได้แล้ว
ณ บัดนี้
AI SUPERPOWERS_Sample
บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
15
-1-
จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
วั ยรุ่นจีน สวมแว่นกรอบสี่เหลี่ยมผู้นี้ ดูไม่เหมือนปราการด่าน
สุดท้ายของมนุษยชาติเลย เค่อเจี๋ยที่มาในชุดสูทสีด�าเสื้อเชิ้ต
สีขาวและเน็คไทด�า ก�าลังนั่งจมอยู่ในที่นั่งของตัวเอง เขาถูขมับ
ขณะก�าลังครุ่นคิดปัญหาตรงหน้า เด็กหนุ่มวัย 19 ปีผู้นี้ ปกติมี
ความมั่นใจสูงลิ่วจนเกือบถึงขั้นหยิ่งยโส มาตอนนี้กลับนั่งอึดอัด
บนเก้าอี้หนังของเขา ถ้าไปอยู่ในสถานการณ์อื่น เขาก็คงเป็นแค่เด็ก
มัธยมปลายที่ก�าลังหน้านิ่วคิ้วขมวดกับโจทย์เรขาคณิตที่แก้ไม่ออก
เท่านั้นเอง
แต่ในสถานการณ์เมื่อบ่ายของเดือนพฤษภาคมปี 2017 นั้น
เขาก�าลังต่อสู้แบบทุ่มสุดตัวกับหนึ่งในสุดยอด AI ที่ฉลาดที่สุดในโลก
นามว่า AlphaGo ที่กูเกิลเป็นผู้สร้าง โดยมีสมรภูมิเป็นกระดานขนาด
19x19 ช่อง และมีตัวหมากสีด�าและสีขาววางอยู่
โกะเป็นเกมที่ดูเรียบง่ายแต่จริงๆซับซ้อนผู้เล่น2คนจะผลัดกัน
วางตัวหมากบนกระดานเพื่อล้อมตัวหมากของฝ่ายตรงข้าม ไม่มี
มนุษย์โลกคนใดเก่งโกะกว่าเค่อเจี๋ย แต่วันนี้ เขาถูกจับให้มาเจอกับ
ผู้เล่นโกะที่มีฝีมือในระดับที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน
บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
15
AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา
16
เชื่อกันว่าโกะมีมานานกว่า 2,500 ปีแล้ว มันมีประวัติศาสตร์
ยาวนานกว่าเกมกระดานใดๆ ในโลก สมัยจีนโบราณ โกะเป็นหนึ่งในสี่
รูปแบบของศิลปะที่นักปราชญ์จีนทุกคนต้องเชี่ยวชาญเชื่อกันว่าเกมนี้
จะปลูกฝังความคิดที่ละเอียดอ่อนและภูมิปัญญาตามแบบฉบับเซ็นแก่
ผู้เล่นในขณะที่หมากรุกของตะวันตกมุ่งเน้นการวางกลยุทธ์อย่างตรงไป
ตรงมาแต่เกมโกะมีพื้นฐานอยู่บนการปักหลักอย่างอดทนและการล้อม
อย่างค่อยเป็นค่อยไป มันจึงเป็นศิลปะทางความคิดที่ลึกซึ้ง
ประวัติศาสตร์โกะลึกล�้าพอๆ กับการเล่นที่ซับซ้อนของมัน
เราอธิบายกฎการเล่นพื้นฐานจบได้ภายใน 9 ประโยค แต่ต�าแหน่ง
การวางหมากกลับมีไม่สิ้นสุด ท�าให้วงการ AI รู้สึกว่าการจะเอาชนะ
แชมป์โลกโกะให้ได้นั้น เปรียบเสมือนการพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์
หลายคนเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะ AI ไม่มีความรู้สึกให้กับโกะเหมือน
คนเราส่วนวิศวกรก็คิดว่ารูปแบบการเดินหมากมีมากเกินคอมพิวเตอร์
จะค�านวณได้
ในวันนั้น AlphaGo ไม่เพียงชนะเค่อเจี๋ย แต่ยังถล่มเขาจน
ย่อยยับ ตลอดการแข่งขัน 3 ยก ยกละนานกว่า 3 ชั่วโมง เค่อเจี๋ย
ใช้ทุกอย่างที่มีเข้าห�้าหั่นเจ้าAIตัวนี้เขาลองทุกรูปแบบการเล่นทั้งแบบ
รัดกุม แบบเชิงรุก แบบเชิงรับ และแบบไร้รูปแบบ แต่ไม่มีวิธีใดได้ผล
AlphaGo ไม่เปิดช่องให้เค่อเจี๋ยเลย ตรงกันข้าม มันค่อยๆ บีบเขา
มากขึ้นเรื่อยๆ
บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
17
มุมมองจากปักกิ่ง
คุณมองเห็นอะไรจากการแข่งขันครั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกมองมุมไหน
ส�าหรับผู้ติดตามข่าวสารในอเมริกา ชัยชนะของ AlphaGo ไม่เพียง
ส่งสัญญาณบ่งบอกถึงชัยชนะของ AI เหนือมนุษย์ แต่ยังเป็นชัยชนะ
ของบริษัทเทคโนโลยีจากตะวันตกเหนือทุกคนในโลกด้วย
บริษัททั้งหลายจากซิลิคอนวัลเลย์ครองตลาดเทคโนโลยีโลก
ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เฟซบุ๊กและกูเกิลกลายเป็นมาตรฐาน
อินเทอร์เน็ตส�าหรับการเข้าสังคมและค้นหาข้อมูลซึ่งระหว่างทางบริษัท
เหล่านี้ก็ได้บดขยี้สตาร์ทอัพท้องถิ่นในประเทศต่างๆ ตั้งแต่ฝรั่งเศส
ไปจนถึงอินโดนีเซีย
ยักษ์ใหญ่ในอินเทอร์เน็ตเหล่านี้ท�าให้สหรัฐอเมริกาครองโลก
ดิจิทัล เช่นเดียวกับที่อเมริกาครองอ�านาจทางทหารและทางเศรษฐกิจ
และเพราะ AlphaGo เป็นผลงานของบริษัทสตาร์ทอัพในอังกฤษที่ชื่อ
ดีพมายด์(ถูกกูเกิลซื้อกิจการไปในปี2014)โลกตะวันตกจึงมีแนวโน้ม
ที่จะครองความเป็นเจ้าแห่งยุค AI ต่อไป
แต่ถ้ามองจากมุมของผม ในช่วงเวลาที่เค่อเจี๋ยแข่งขันอยู่ ผมเห็น
สิ่งที่ต่างไปโดยสิ้นเชิง
ส�านักงานใหญ่ของไซโนเวชันเวนเจอร์ส(บริษัทของผม)ตั้งอยู่ที่
ย่านจงกวนชุนในปักกิ่งหรือชื่อเล่นว่า“ซิลิคอนวัลเลย์แห่งประเทศจีน”
AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา
18
ปัจจุบันจงกวนชุนเป็นชีพจรของกระแสAIในจีนส�าหรับคนที่นี่ชัยชนะ
ของAlphaGoเป็นความท้าทายและเป็นแรงบันดาลใจพวกเขาได้เข้าสู่
“ช่วงเวลาสปุตนิก” ในโลกแห่ง AI แล้ว
ตอนที่สหภาพโซเวียตส่งดาวเทียมดวงแรกขึ้นสู่วงโคจรได้ส�าเร็จ
ในเดือนตุลาคม 1957 มันส่งผลต่อความรู้สึกและการท�างานของรัฐ
ในอเมริกาอย่างรวดเร็วและรุนแรง เหตุการณ์นี้กระตุ้นความกลัว
ในสังคมอเมริกันอย่างกว้างขวาง กังวลเรื่องความเหนือชั้นกว่าของ
เทคโนโลยีรัสเซีย
ชาวอเมริกันเฝ้าติดตามดาวเทียมสปุตนิกดวงนั้นของโซเวียตใน
ท้องฟ้ายามค�่าคืน และปรับคลื่นวิทยุเพื่อหาช่องสัญญาณของสปุตนิก
องค์การนาซา (NASA) ได้ถือก�าเนิดขึ้น บวกกับแรงหนุนจาก
รัฐบาลกลางที่เพิ่มงบประมาณด้านการศึกษาคณิตศาสตร์และ
วิทยาศาสตร์ เท่ากับเปิดฉากการแข่งขันด้านอวกาศอย่างเป็นทางการ
ความตื่นตัวของชาวอเมริกันประสบผลในอีก 12 ปีต่อมา เมื่อนีล
อาร์มสตรอง กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ไปเหยียบดวงจันทร์ได้ส�าเร็จ
ย้อนไปในเดือนมีนาคม 2016 AlphaGo ประกาศชัยชนะครั้งแรก
ในการแข่งขัน5ยกกับผู้เล่นระดับต�านานชาวเกาหลีชื่ออีเซดลโดยชนะ
4 ต่อ 1 ชาวอเมริกันส่วนใหญ่แทบไม่ทราบเรื่องนี้เลย แต่การแข่งขัน
ทั้ง 5 ยกมีคนจีนติดตามชมมากกว่า 280 ล้านคน แล้วกระแส AI ก็เริ่ม
ระบาดไปทั่วประเทศจีนในชั่วข้ามคืน
บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
19
จริงอยู่ที่ระดับความตื่นเต้นนี้ยังไม่เท่ากับตอนที่ชาวอเมริกัน
ตื่นเต้นกับสปุตนิก แต่มันคือตัวจุดประกายของจีนที่ลุกโชนอย่าง
ต่อเนื่อง
เมื่อนักลงทุน ผู้ประกอบการ และรัฐบาลจีนพร้อมใจกันให้
ความส�าคัญกับอะไรทั้งโลกต้องสั่นสะเทือนตอนนี้จีนก�าลังเร่งพัฒนา
AI ด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง ทั้งบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ นักลงทุน
และรัฐบาลจีนต่างเทเงินอุดหนุน นักศึกษาจีนก�าลังแห่เรียนคอร์ส
AI ชั้นสูง หรือกระทั่งดาวน์โหลดคอร์ส AI จากตะวันตกมาดูใน
โทรศัพท์มือถือ ส่วนบริษัทสตาร์ทอัพก็ก�าลังคิดค้นธุรกิจใหม่ๆ เพื่อ
ตามกระแส AI
หลังเค่อเจี๋ยพ่ายแพ้ต่อ AlphaGo ได้ไม่ถึง 2 เดือน รัฐบาล
จีนได้ประกาศแผนพัฒนา AI ชุดใหญ่ ทั้งเพิ่มการลงทุน สนับสนุน
ด้านนโยบายและระดมก�าลังทั้งชาติเพื่อพัฒนาAIโดยมีเป้าหมายยาว
ถึงปี 2025 และจะเป็นศูนย์กลางโลกด้าน AI ให้ได้ภายในปี 2030 ทั้ง
ในด้านทฤษฎี เทคโนโลยี และการประยุกต์ใช้
นักลงทุนจีนตอบรับกระแสนั้นตั้งแต่ก่อนปี 2017 แล้ว เม็ดเงิน
ลงทุนที่เทในสตาร์ทอัพ AI มากขึ้นเป็น 48% ของการลงทุนด้าน AI
ทั่วโลก ซึ่งมากกว่าการลงทุนของสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก
AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา
20
เกมใหม่ที่จะเปลี่ยนโฉมโลก
เหตุผลที่รัฐบาลจีนสนับสนุน AI เสียใหญ่โต ก็เพราะ AI จะมีผลกับ
เศรษฐกิจในอนาคตระดับมโหฬารเดิมทีAIก้าวหน้าอย่างช้าๆมาหลาย
ทศวรรษแต่มันก�าลังเริ่มรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วเมื่อเราเริ่มน�าสูตรยากๆ
ในทฤษฎี มาเปลี่ยนเป็นธุรกิจที่สร้างเงินและจับต้องได้
ผมคุ้นชินกับการเห็นคอมพิวเตอร์แข่งโกะชนะมนุษย์อยู่แล้ว
ตอนเป็นนักศึกษาปริญญาเอกสาขาAIที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอน
ผมเป็นลูกศิษย์ของราช เรดดี นักวิจัย AI รุ่นบุกเบิก ตอนปี 1986
ผมสร้างซอฟต์แวร์ที่เอาชนะแชมป์โลกในเกมโอเธลโลได้เป็นตัวแรก
โอเธลโลเป็นเกมกระดานคล้ายโกะแต่ง่ายกว่าบนกระดานขนาด8x8ช่อง
มันเป็นความส�าเร็จพอตัวเลยในขณะนั้นแต่เทคโนโลยีนั้นก็ยังไม่พร้อม
ที่จะแก้ปัญหาอื่นใดนอกจากแข่งขันเกมง่ายๆ
จากนั้นในปี1997คอมพิวเตอร์DeepBlueของบริษัทไอบีเอ็ม
ได้ชนะแกร์รี คาสปารอฟ แชมป์โลกหมากรุก ผู้ได้รับสมญานามว่า
“ปราการด่านสุดท้ายของสมอง”เหตุการณ์นั้นได้ก่อให้เกิดความกังวลว่า
หุ่นยนต์ที่ฉลาดมากๆ อาจเข้าปกครองมนุษย์… แต่นั่นก็ไม่ได้ท�าให้
ราคาหุ้นของ IBM เพิ่มสูงขึ้นแต่อย่างใด AI ยังคงถูกน�าไปประยุกต์ใช้
น้อยมาก
ผ่านไปหลายสิบปีนักวิจัยก็ยังไม่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงชนิด
พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ออกมา
บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
21
Deep Blue ใช้วิธี “หักดิบ” เพื่อเอาชนะมนุษย์ โดยอาศัย
คอมพิวเตอร์ราคาแพงมาก อีกทั้งมีแชมป์หมากรุกมาช่วยใส่แนว
ค�าตอบเข้าไปในซอฟต์แวร์ด้วย
แน่นอนว่าชัยชนะครั้งนี้เป็นผลงานอันน่าภาคภูมิใจในวงการ
วิศวกรรม แต่เอาจริงๆ มันก็แค่ใช้เทคโนโลยีที่มีมานานแล้วมาท�างาน
ภายใต้กรอบที่จ�ากัดอย่างมากก็เท่านั้น ถ้า Deep Blue ไม่ได้ถูกใช้
วิเคราะห์เกมหมากรุก 8x8 ช่องนี้แล้ว ความฉลาดของมันก็จะไม่
หลงเหลืออยู่เลย อาชีพเดียวที่มันจะแย่งได้ก็คือแชมป์โลกหมากรุก
เท่านั้นเอง
แต่ปัจจุบันทุกสิ่งเปลี่ยนไป การแข่งขันของเค่อเจี๋ยเกิดขึ้น
บนกระดานโกะก็จริง แต่มันเชื่อมโยงถึงการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวง
ในโลกแห่งความเป็นจริง ทั้งกระแส AI จีนที่ลุกโชนขึ้นทั้งเทคโนโลยี
ที่อยู่เบื้องหลังความส�าเร็จของมัน
AlphaGo มีการท�างานแบบดีพเลิร์นนิ่ง (Deep Learning)
ดีพเลิร์นนิ่งเป็น AI ชนิดใหม่ที่เก่งกว่าเดิมแบบก้าวกระโดด ทุกวันนี้ AI
ที่ท�างานแบบดีพเลิร์นนิ่งมีความล�้าหน้ากว่ามนุษย์ในการแยกแยะ
ใบหน้า จดจ�าเสียง และอนุมัติเงินกู้ ตอนนี้ยุค AI ที่ดูจะอยู่ไกล
เกินเอื้อมเสมอได้มาถึงแล้ว มันจะท�าให้เศรษฐกิจเติบโตอย่าง
ก้าวกระโดดพร้อมส่งผลต่อผู้คนอย่างลึกซึ้งเพราะAIก�าลังเข้ามาแย่ง
งานเราในทุกธุรกิจ
ในระหว่างการแข่งขันของเค่อเจี๋ย สิ่งที่ผมกลัวไม่ใช่หุ่นยนต์
นักฆ่าเหมือนในหนัง แต่เป็นปีศาจในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งจะถูก
ปลุกขึ้นมาในรูปของคนตกงานมหาศาลและความวุ่นวายในสังคม
AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา
22
การแย่งงานจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดการณ์มันจะ
ไม่แบ่งแยกคนรวยหรือจน แต่จะส่งผลกระทบทั้งแรงงานที่มีฝีมือ
และไม่มีฝีมืออย่างถ้วนหน้า
ในวันที่ AlphaGo ปะทะกับเค่อเจี๋ยนั้น ดีพเลิร์นนิ่งได้โค่น
ผู้เล่นโกะที่เก่งที่สุดของมนุษยชาติ และมันก็ก�าลังคืบคลานเข้าไปใน
โรงงานและในออฟฟิศของคุณ
จิตวิญญาณในเกมโกะ
แต่ในการแข่งขันเดียวกันนั้นผมก็ยังเห็นความหวังอยู่ผ่านไป2ชั่วโมง
กับ 51 นาที เค่อเจี๋ยเจอทางตัน เขางัดทุกอย่างออกมาใช้แล้ว แต่เขา
รู้ว่ามันยังไม่พอ ขณะโน้มตัวอยู่เหนือกระดาน เขาท�าปากจู๋ คิ้วของเขา
เริ่มกระตุก เพราะรู้ตัวว่าไม่สามารถเก็บอารมณ์ไว้ได้อีกต่อไป
เขาถอดแว่นตาออก แล้วใช้หลังมือปาดน�้าตาจากดวงตาทั้ง
สองข้าง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเสี้ยววินาที แต่ทุกคนก็รับรู้ถึงอารมณ์ของ
เค่อเจี๋ยได้
หยาดน�้าตานั้นช่วยดึงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจและการเอาใจ
ช่วยออกมาให้เค่อเจี๋ยอย่างท่วมท้น ตลอดการแข่งขัน 3 ยกที่ผ่านมา
อารมณ์ความรู้สึกของเค่อเจี๋ยขึ้นสุดลงสุดอยู่หลายรอบ ทั้งมั่นใจ วิตก
กลัว มีความหวัง และผิดหวัง ทั้งหมดนั้นสะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่ง
บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
23
การต่อสู้ของเขาแต่สิ่งที่ผมเห็นคือความรักโกะอย่างสุดหัวใจแม้จะรู้ว่า
เอาชนะคู่ต่อสู้ไม่ได้ ฝ่ายคนที่เฝ้าดูเค่อเจี๋ยก็ให้ใจเขากลับคืนเช่นกัน
AlphaGo อาจชนะการแข่งขัน แต่เค่อเจี๋ยชนะใจผู้ชม แล้วผม
ก็เริ่มมองเห็นว่ามนุษย์จะค้นพบงานและความหมายของชีวิตในยุค
แห่ง AI ได้อย่างไร
ผมเชื่อว่าการประยุกต์ใช้ AI อย่างมีชั้นเชิงจะเป็นโอกาสส�าคัญ
ที่สุดของจีนในการไล่ตามอเมริกาหรืออาจแซงหน้าด้วยซ�้าแต่ที่ส�าคัญ
กว่านั้นคือการเปลี่ยนแปลงนี้จะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้กลับมาค้นพบว่า
“อะไรที่ท�าให้เราเป็นมนุษย์”
แต่ก่อนอื่นเราต้องรู้จักพื้นฐานของเทคโนโลยีนี้ และรู้ว่า
มันจะมาเปลี่ยนโลกของเราได้อย่างไร
ประวัติโดยย่อของดีพเลิร์นนิ่ง
นับตั้งแต่AIถือก�าเนิดขึ้นมามันได้ผ่านยุครุ่งเรืองและตกต�่าหลายรอบ
มีทั้งการค้นพบที่ใหญ่ยิ่ง ตามติดมาด้วย “ฤดูหนาวอันเยือกเย็น”
ที่ท�าให้การลงทุนใน AI หยุดชะงัก เพราะผิดหวังว่ามันใช้จริงไม่ได้
หลังจากนั้นจึงมีดีพเลิร์นนิ่งเกิดขึ้นในที่สุด
ย้อนกลับไปช่วงกลางปี 1950 บรรดาผู้บุกเบิก AI ได้ตั้งภารกิจ
ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา นั่นก็คือ การใช้จักรกลเลียนแบบสมองของมนุษย์
AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา
24
มันดึงดูดเหล่ายอดฝีมือในวงการคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่
ให้เข้ามามีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นมาร์วิน มินสกี, จอห์น แมคคาร์ธี และ
เฮอร์เบิร์ต ไซมอน
ตอนที่ผมเรียนปริญญาตรีสาขาคอมพิวเตอร์อยู่ที่มหาวิทยาลัย
โคลัมเบียในนิวยอร์ก เรื่องของ AI ทั้งหมดที่กล่าวมาท�าให้จินตนาการ
ของผมบรรเจิดผมเกิดในไต้หวันช่วงต้นทศวรรษที่1960แต่ย้ายไปอยู่
รัฐเทนเนสซีตอนอายุ 11 ขวบและเรียนจบชั้นมัธยมที่นั่น
พอผมเรียนจบมหาวิทยาลัย ผมรู้ตัวว่าผมอยากศึกษาเรื่อง AI
ให้กระจ่างตอนผมสมัครเรียนปริญญาเอกด้านคอมพิวเตอร์เมื่อปี1983
ผมเขียนบรรยายไว้ใหญ่โตว่า
AI	คือการรู้แจ้งกระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์
คือการท�าให้กระบวนการคิดของมนุษย์จับต้องได้
คือการอธิบายพฤติกรรมมนุษย์	และคือการท�าความ
เข้าใจสติปัญญา	มันคือก้าวสุดท้ายของการรู้จักตัวเอง
ของเรา	และผมอยากมีส่วนร่วมกับเทคโนโลยีน้องใหม่
แต่มีศักยภาพนี้
ข้อเขียนนี้ท�าให้ผมได้เข้าไปเรียนในภาควิชาคอมพิวเตอร์ชั้น
แนวหน้าที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอนที่นี่เป็นแหล่งรวมงานวิจัยAI
ที่ทันสมัย และยังเป็นที่ที่เผยความไร้เดียงสาของผมแบบเต็มๆ
ผมประเมินความสามารถของเราในการสร้าง AI เหนือมนุษย์สูงไป
และประเมินพลังของ AI ในการเปลี่ยนโลกต�่าเกินไป
บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
25
ตอนที่ผมเรียนปริญญาเอก ศาสตร์ของ AI แบ่งออกเป็น 2 สาย
ได้แก่
	สายตั้งกฎ
สาย Neural Networks
นักวิจัยในสายตั้งกฎ จะสอนคอมพิวเตอร์ให้คิดโดยบอก
“กฎการคิด” เข้าไปเลยว่าถ้าเกิด A ก็ให้ท�า B วิธีนี้ใช้ได้ผลดีกับ
งานง่ายๆ และมีขอบเขตแน่นอน แต่จะไม่ได้ผลถ้าความเป็นไปได้
หรือทางเลือกมีมากมายมหาศาลนักวิจัยสายนี้จะคอยถามผู้เชี่ยวชาญ
ด้านต่างๆ เพื่อใส่กฎเข้าไป ให้คอมพิวเตอร์มีวิธีคิดใกล้เคียงกับ
สถานการณ์ในโลกจริงมากที่สุด
แต่นักวิจัยสาย Neural Networks ใช้อีกวิธี แทนที่จะสอนกฎ
ต่างๆ ที่มนุษย์คิดขึ้นให้คอมพิวเตอร์ พวกเขากลับพยายามสร้างสมอง
มนุษย์ขึ้นมาเลย เนื่องด้วยเครือข่ายอันซับซ้อนของเซลล์สมองคือ
ต้นก�าเนิดของความฉลาด นักวิจัยสายนี้จึงคิดว่าจัดการที่ต้นตอเลย
ดีกว่า พวกเขาออกแบบคอมพิวเตอร์เป็นชั้นๆ ที่รับส่งข้อมูลได้เหมือน
เซลล์สมองตามธรรมชาติของมนุษย์เรา
แนวทางนี้ไม่เหมือนสายตั้งกฎตรงที่เราจะไม่บอกวิธีตัดสินใจ
ให้คอมพิวเตอร์ แต่จะป้อนข้อมูลมหาศาลให้ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ
การเดินหมาก หรือเสียงเข้าไป แล้วปล่อยให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้จาก
ข้อมูลเหล่านั้นเอง พูดอีกอย่างหนึ่งคือ ยิ่งมนุษย์แทรกแซงการท�างาน
ของมันน้อยเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น
AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา
26
สมมติเราอยากรู้ว่า“ภาพนี้มีแมวไหม?”ถ้าเป็นสายตั้งกฎเราก็
จะใส่กฎ“ถ้า-แล้ว”เข้าไปเพื่อช่วยตัดสินใจเช่น“ถ้ามีสามเหลี่ยม2รูป
อยู่บนวงกลมก็น่าจะมีแมวในรูปภาพ”แต่ถ้าเป็นวิธีNeuralNetworks
เราก็จะป้อนรูปภาพทั้งที่ “มีแมว” และ “ไม่มีแมว” เป็นล้านๆ ภาพ
เพื่อให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้ด้วยตัวเองว่า ภาพแบบไหนถือว่า “มีแมว”
ช่วงแรกๆ Neural Networks ให้ผลลัพธ์ที่ดูดีและสร้างความตื่นเต้น
แต่แล้วนักวิจัยสายตั้งกฎก็โต้กลับ โดยบอกว่ามันใช้งานจริงไม่ได้
แนวทางนี้จึงเสื่อมความนิยมและถูก “แช่แข็ง” ไปในปี 1970 ตลอด
หลายสิบปีหลังจากนั้น Neural Networks ได้รับความสนใจเป็นพักๆ
ก่อนจะแทบถูกลืมเลือนไป
สิ่งที่ท�าให้ Neural Networks ฟื้นคืนชีพ และจุดประกายความ
รุ่งเรืองของ AI ในปัจจุบันขึ้นมา คือการเปลี่ยนแปลงของปัจจัย 2 ข้อ
ที่ถูกป้อนให้NeuralNetworksร่วมกับการค้นพบครั้งใหญ่อีกหนึ่งอย่าง
โดยปัจจัย 2 ข้อแรกที่ว่าคือ
	ข้อมูล
คอมพิวเตอร์ที่รวดเร็ว
คอมพิวเตอร์เรียนรู้จากข้อมูลยิ่งข้อมูลมากมันยิ่งฉลาดขึ้นและ
ยิ่งถ้าตัวคอมพิวเตอร์รวดเร็วมันยิ่งประมวลผลข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง
ทั้งข้อมูลและความเร็วของคอมพิวเตอร์ไม่ได้มีมากมายในช่วง
ปี1950แต่ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้วปัจจุบันสมาร์ทโฟนของคุณมีพลัง
บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
27
ประมวลผลที่เหนือกว่าคอมพิวเตอร์ล�้ายุคที่นาซาใช้ส่งนีลอาร์มสตรอง
ขึ้นไปเดินบนดวงจันทร์เมื่อปี 1969 เสียอีก
ในอีกด้านอินเทอร์เน็ตได้สร้างข้อมูลดิจิทัลทุกชนิดทั้งข้อความ
รูปภาพ วิดีโอ คลิก การซื้อสินค้า ทวีต และอื่นๆ ซึ่งเมื่อน�าทั้งหมดนั้น
มารวมกัน เราก็จะมีข้อมูลที่หลากหลายส�าหรับสอน AI อีกทั้งยังมี
คอมพิวเตอร์คุณภาพสูงราคาถูกจ�านวนมากไว้ประมวลผล
แต่นั่นยังไม่เพียงพอครับ เพราะ Neural Networks ในอดีตมี
ความสามารถที่จ�ากัดมากค�าตอบที่แม่นย�าส�าหรับปัญหาที่ซับซ้อนต้อง
อาศัยเซลล์สมองประดิษฐ์หลายต่อหลายชั้นแต่นักวิจัยยังไม่รู้วิธีสร้าง
เครือข่าย Neural Networks ที่ซับซ้อนอย่างมีประสิทธิภาพ
จนกระทั่งกลางช่วงปี 2000 เจฟฟรีย์ ฮินตัน ได้ค้นพบเทคนิค
สร้าง Neural Networks ที่ซับซ้อนและทรงพลัง เขาเรียกเทคนิคใหม่นี้
ว่า “ดีพเลิร์นนิ่ง” มันเป็น AI รุ่นใหม่ที่เก่งกว่าเดิมหลายเท่า มันเรียนรู้
ค�าพูดได้ มันแยกแยะภาพวัตถุออกมันฉลาดเหลือเชื่อในแทบทุกด้าน
ที่เอาไปใช้
หลังจากหลบอยู่ในมุมมืดของการวิจัย AI อยู่นานหลายสิบปี
NeuralNetworksในรูปของดีพเลิร์นนิ่งก็ได้รับความสนใจในชั่วข้ามคืน
การพลิกโฉมครั้งนี้ได้น�าAIออกจากยุคน�้าแข็งและเป็นการน�าพลังAI
มาใช้ในโลกจริงได้เป็นครั้งแรก
นักวิจัย นักอนาคต และซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยีเริ่มพูดถึง
ความเป็นไปได้มหาศาลของศาสตร์นี้ส�าหรับการถอดรหัสค�าพูดมนุษย์
แปลเอกสารแยกแยะรูปภาพท�านายพฤติกรรมผู้บริโภคตรวจจับการ
AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา
28
ปลอมแปลงตัดสินใจปล่อยกู้ท�าให้หุ่นยนต์“มองเห็น”หรือแม้แต่ขับรถ
ผู้คนตื่นเต้นกับดีพเลิร์นนิ่ง เพราะมันสามารถน�าไปประยุกต์ใช้
ในชีวิตประจ�าวันได้มากมายนั่นคือเหตุผลที่กูเกิลและเฟซบุ๊กเร่งรีบคว้า
ตัวผู้เชี่ยวชาญดีพเลิร์นนิ่งที่มีอยู่หยิบมือมาอยู่กับตนด้วยค่าจ้างหลาย
ล้านดอลลาร์ เพื่อมาท�าโครงการวิจัยสุดท้าทาย
ในปี 2013 กูเกิลซื้อสตาร์ทอัพที่ก่อตั้งโดยเจฟฟรีย์ ฮินตัน และ
ปีต่อมาก็ซื้อสตาร์ทอัพสัญชาติอังกฤษชื่อ ดีพมายด์ (ที่เป็นผู้สร้าง
AlphaGo ในภายหลัง) ด้วยเงินมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ สิ่งที่ได้
จากโครงการเหล่านี้สร้างความตื่นเต้นแก่ผู้ติดตามและเป็นข่าวพาดหัว
อยู่ตลอดเวลามันเปลี่ยนวัฒนธรรมแห่งยุคสมัยและท�าให้เราสัมผัส
ได้ถึงยุคใหม่ที่ใกล้เข้ามา อันเป็นยุคที่ AI จะส่งเสริมมนุษย์ ...หรือ
ทดแทนมนุษย์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
29
ผู้น�าที่แท้จริงในด้าน AI
แล้วจีนมีบทบาทในเรื่องนี้อย่างไร?เรื่องราวการถือก�าเนิดของดีพเลิร์นนิ่ง
เกิดขึ้นในอเมริกา แคนาดา และอังกฤษเกือบทั้งหมด นอกนั้นก็มี
นักธุรกิจและนักลงทุนจีนกลุ่มเล็กๆ อย่างผม แต่ชุมชนเทคโนโลยีจีน
ส่วนใหญ่ไม่ได้ตื่นตัวกับการปฏิวัติดีพเลิร์นนิ่งจนกระทั่งเกิดช่วงเวลา
สปุตนิกในปี 2016
มหาวิทยาลัยและบริษัทเทคโนโลยีอเมริกันได้ประโยชน์จากการที่
อเมริกาสามารถดึงดูดคนเก่งๆจากทั่วโลกมาท�างานมานานหลายสิบปี
แล้วความก้าวหน้าในด้านAIก็ไม่ต่างกันอเมริกาตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะ
เป็นผู้น�าในเรื่องนี้ ซึ่งคงไม่หนีไปไหน เพราะอเมริกามีทั้งเหล่านักวิจัย
หัวกะทิ ความพร้อมเรื่องเงินทุน วัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร และบริษัท
เทคโนโลยียักษ์ใหญ่คอยสนับสนุน
ในสายตาของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ เทคโนโลยีจีนคงจะเล่น
บทบาทเดิมในโลก AI เหมือนที่เคยท�ามาหลายสิบปีที่ผ่านมา นั่นคือ
เป็นนักก๊อปปี้ที่ไล่ตามหลังความทันสมัยของตะวันตก
ผมจะเล่าในบทต่อๆไปว่านักวิเคราะห์เหล่านั้นคิดผิดพวกเขาคาดการณ์
บนความเชื่อที่ล้าสมัยเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีของจีน
รวมถึงเข้าใจผิดเกี่ยวกับพลังที่ผลักดันการปฏิวัติ AI ที่ก�าลังด�าเนินอยู่
โลกตะวันตกอาจจุดประกายดีพเลิร์นนิ่งขึ้นมาแต่จีนจะได้รับประโยชน์
จากไฟที่ลุกโชนนี้มากที่สุด เหตุผลเกิดจาก 2 สิ่ง คือ
AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา
30
การเปลี่ยนจากยุคทฤษฎีเป็นยุคแห่งการประยุกต์ใช้
จุดจบของ“ยุคแห่งผู้เชี่ยวชาญ”มาเข้าสู่ยุคสมัยของ
ข้อมูล
ต้นตอของความเชื่อผิดๆ ว่าอเมริกายังได้เปรียบด้าน AI คือ
หลายคนยังคิดว่าเราอยู่ในยุคทฤษฎี(ข้อ1)ซึ่งต้องการนักวิจัยอัจฉริยะ
มาไขปริศนาลี้ลับสื่อต่างๆชอบประโคมข่าวความสามารถล่าสุดของAI
อย่างไม่ขาดสายเช่นAIวินิจฉัยมะเร็งได้เก่งกว่าหมอ,AIเล่นโป๊กเกอร์
ชนะเซียนไพ่จอมบลั๊ฟ,AIเรียนรู้เองได้โดยมนุษย์ไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ฯลฯ
ด้วยข่าวดังท�านองนี้ ผู้เสพข่าวทั่วไป หรือแม้แต่นักวิเคราะห์
ที่มีประสบการณ์ จึงยังคงเชื่อว่าเราก�าลังค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่ส�าคัญๆ ใน
การวิจัย AI อยู่ตลอดเวลา
ไม่ใช่เลย ความส�าเร็จที่เป็นข่าวพวกนั้น เป็นแค่การ
ประยุกต์ใช้การค้นพบที่ส�าคัญเมื่อสิบปีก่อน (ดีพเลิร์นนิ่ง) กับ
ปัญหาใหม่ๆ เท่านั้นเอง จริงอยู่คุณต้องใช้คนจบปริญญาเอกที่เก่งเลข
มาวิเคราะห์ข้อมูล แต่มันก็เท่านั้น มันไม่ใช่การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่
อีกแล้ว มันคือการประยุกต์ใช้ทฤษฎีกับปัญหาต่างๆ ในโลกจริงต่างหาก
บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
31
ยุคแห่งการประยุกต์ใช้
โลกของเราก�าลังจะเข้าสู่การประยุกต์ใช้ AI ชนิดดีพเลิร์นนิ่งตั้งแต่
วินิจฉัยโรคเลือกประกันให้ลูกค้าขับรถไปจนถึงแปลประโยคภาษาจีน
เป็นอังกฤษที่อ่านเข้าใจได้ มันไม่ใช่การคิดค้น “สุดยอด AI อัจฉริยะ”
หรือการพลิกโฉมวงการในระดับเดียวกับดีพเลิร์นนิ่ง
ยุคนี้คือยุคแห่งการประยุกต์ใช้และบริษัทที่ท�าเงินในยุคนี้จ�าเป็น
ต้องมีผู้ประกอบการ วิศวกร และผู้จัดการที่มีความสามารถ
แอนดรูว์ อึ้ง ผู้บุกเบิกดีพเลิร์นนิ่ง เคยเปรียบเทียบ AI กับการ
ประยุกต์ใช้ไฟฟ้าของโธมัสเอดิสันว่ามันคือเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลก
ครั้งใหญ่ และปฏิวัติวงการธุรกิจต่างๆ อีกเป็นสิบ
เช่นเดียวกับที่คนในศตวรรษที่ 19 เริ่มประยุกต์ใช้ไฟฟ้ากับ
การท�าอาหาร การสร้างแสงสว่างในห้อง และการเป็นพลังขับเคลื่อน
เครื่องจักรอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ AI ในปัจจุบันก็เดินตามรอย
เดียวกันโดยใช้ดีพเลิร์นนิ่ง ยุคของงานวิจัย AI ที่ยากและจับต้อง
ไม่ได้สิ้นสุดลงแล้ว และตอนนี้ก็ได้เวลาที่นักธุรกิจหัวใสจะลงมือ
เปลี่ยนสูตรเลขยากๆ ให้เป็นธุรกิจที่ยั่งยืน
แต่นั่นไม่ได้ลดทอนความตื่นเต้นกับ AI ในปัจจุบันลงเลย การ
ประยุกต์ใช้คือการท�าให้ความก้าวหน้าทางวิชาการมีความหมายขึ้นมา
ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจ�าวันของพวกเราไปอย่างถาวร ยุค
แห่งการประยุกต์ใช้จะท�าให้เราได้เห็นคุณค่าจริงของ AI หลังการวิจัย
หลายสิบปี นี่คือสิ่งที่ผมเฝ้ารอมาตลอดชีวิต
AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา
32
โลกได้เปลี่ยนจากยุคแห่งทฤษฎีเป็นยุคแห่งการประยุกต์ใช้แล้ว
นี่คือหัวใจส�าคัญของการเข้าใจว่าAIจะเปลี่ยนแปลงชีวิตเราไปอย่างไร
และใครหรือประเทศไหนจะเป็นผู้ขับเคลื่อนความก้าวหน้าที่ส�าคัญ
ในยุคแห่งทฤษฎี ความก้าวหน้าถูกผลักดันโดยอัจฉริยะกลุ่ม
เล็กๆ เท่านั้น ซึ่งทุกคนอยู่ในอเมริกาหรือไม่ก็แคนาดา พวกเขาใช้
สติปัญญาที่ลึกล�้าสร้างนวัตกรรมทางปัญญาที่เพิ่มพูนศักยภาพให้กับ
คอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็วและรุนแรง นับตั้งแต่มีดีพเลิร์นนิ่งเกิดขึ้น
เป็นต้นมา ก็ไม่มีกลุ่มนักวิจัยหรือวิศวกรกลุ่มใดที่สร้างนวัตกรรมใน
ระดับที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นอีกเลย
ยุคสมัยแห่งข้อมูล
มาถึงการเปลี่ยนแปลงที่ส�าคัญอย่างที่สองนั่นคือการเปลี่ยนจากยุคของ
ผู้เชี่ยวชาญมาเป็นยุคของข้อมูลโดยAIที่จะประสบความส�าเร็จในทุก
วันนี้ต้องอาศัย 3 สิ่ง
	ข้อมูลจ�านวนมหาศาล
คอมพิวเตอร์ที่รวดเร็ว
วิศวกรที่เก่งแต่ไม่ต้องถึงขั้นอัจฉริยะ
บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
33
การน�าพลังของดีพเลิร์นนิ่งมาแก้ปัญหาใหม่ๆ จ�าเป็นต้องใช้
ทั้ง 3 สิ่ง แต่ข้อมูลคือแกนหลัก เพราะเมื่อคอมพิวเตอร์และวิศวกรดี
พอใช้ได้ระดับหนึ่ง ปริมาณข้อมูลจะเป็นตัวตัดสินประสิทธิภาพและ
ความแม่นย�าโดยรวมของตัว AI
ไม่มีค�าว่าข้อมูลมากเกินไปส�าหรับดีพเลิร์นนิ่ง ยิ่งมากยิ่งดี
มันจะยิ่งช่วยให้ AI เก่งกาจและแม่นย�าขึ้น ขอแค่มีข้อมูลมหาศาล
วิศวกรระดับกลางๆก็สร้างAIที่ดีกว่าอัจฉริยะระดับโลกได้การที่คุณมี
ผู้เชี่ยวชาญชั้นน�าอยู่ในมือไม่ใช่สิ่งส�าคัญอีกต่อไปแล้ว
นักวิจัย AI อัจฉริยะยังคงมีศักยภาพในการยกระดับวงการต่อ
ไปอีกขั้นแต่ความก้าวหน้าในระดับนั้นจะเกิดขึ้นหนึ่งครั้งในรอบหลาย
สิบปีซึ่งในระหว่างรอปรากฎการณ์อันยิ่งใหญ่ครั้งใหม่ดีพเลิร์นนิ่งก็จะ
ส่งผลเปลี่ยนแปลงธุรกิจนับไม่ถ้วนทั่วโลก ด้วยข้อมูลที่มากขึ้นเรื่อยๆ
กลับเป็นจีนที่เหนือกว่า
เมื่อ100ปีก่อนการน�าไฟฟ้าที่เพิ่งถูกค้นพบใหม่มาใช้ต้องอาศัยปัจจัย
4 ประการ
	น�้ามันหรือถ่านหินเพื่อผลิตไฟฟ้า
นักธุรกิจที่กล้าลุย
AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา
34
วิศวกรไฟฟ้า
รัฐบาลที่คอยสนับสนุน
ตอนนี้การใช้ AI หรือ “ไฟฟ้าแห่งศตวรรษที่ 21” ก็ต้องอาศัย
ปัจจัย 4 ประการเช่นกัน
	ข้อมูลมหาศาล
นักธุรกิจที่กล้าลุย
วิศวกรซอฟต์แวร์
รัฐบาลที่คอยสนับสนุน
ซึ่งเมื่อดูจุดแข็งในปัจจัยทั้งสี่ดังกล่าวของจีนและอเมริกา เราก็
ท�านายถึงสมดุลแห่งอ�านาจที่ก�าลังจะเกิดขึ้นในโลกใหม่ได้
การเปลี่ยนแปลงทั้งสองด้านที่เราคุยกันไปท�าให้ความได้เปรียบเอนเอียง
ไปทางจีน เพราะมันทั้งช่วยกลบจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งให้จีน
การที่ยุคสมัยของ AI เปลี่ยนจากทฤษฎีเป็นการประยุกต์ใช้
ช่วยปิดจุดอ่อนที่คนจีนมักไม่คิดตั้งค�าถามวิจัยนอกกรอบและผลักดัน
“นักธุรกิจข้างถนน”ที่เป็นจุดแข็งของจีนให้ขึ้นมาสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้การที่โลกเปลี่ยนจากยุคผู้เชี่ยวชาญเป็นยุคของข้อมูลท�าให้
จีนไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีนักวิจัยหัวกะทิระดับโลก และยังช่วยเสริม
น�้าหนักสิ่งที่จีนมีอยู่เหลือล้น นั่นคือ “ข้อมูล”
ธุรกิจสตาร์ทอัพในซิลิคอนวัลเลย์ได้ชื่อว่าเป็นพวกท�างานหนัก
ติดอันดับของอเมริกา พวกเขาคือผู้ก่อตั้งบริษัทรุ่นหนุ่มสาวที่มีความ
บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
35
หลงใหล ท�างานโต้รุ่งเพื่อเข็นผลิตภัณฑ์ออกมา จากนั้นก็พัฒนา
ผลิตภัณฑ์นั้นไม่หยุด แล้วก็ยังคงมองหาโอกาสทองครั้งต่อไป
จริงอยู่ที่คนที่นั่นท�างานหนัก แต่จากที่ผมเคยใช้เวลาหลายสิบ
ปีอยู่ทั้งในซิลิคอนวัลเลย์และจีนท�างานกับแอปเปิลไมโครซอฟท์และ
กูเกิล ก่อนจะมาลงทุนในสตาร์ทอัพจีนหลายสิบแห่ง ผมว่าคนใน
ซิลิคอนวัลเลย์ดูจะเป็นคนขี้เกียจเมื่อเทียบกับที่จีน
นักธุรกิจอินเทอร์เน็ตของจีนที่ขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ล้วนไม่ธรรมดา
พวกเขาอยู่ภายใต้บรรยากาศการแข่งขันที่รุนแรงที่สุดในโลก มันคือ
สมรภูมิที่ความเร็วคือหัวใจการก๊อปปี้คือเรื่องปกติและคู่แข่งตามไล่ล่า
คุณไม่ปล่อย
ทุกวันในสตาร์ทอัพของจีนคือการลุยไฟพิสูจน์ตัวเอง เหมือน
นักรบกลาดิเอเตอร์ในสนามประลองการต่อสู้นั้นมีชีวิตเป็นเดิมพันและ
คู่ต่อสู้ของคุณไม่มีค�าว่าจริยธรรมในหัวใจ
ทางเดียวที่จะอยู่รอดในการห�้าหั่นดังกล่าว คือการพัฒนาธุรกิจ
อย่างต่อเนื่อง สร้างนวัตกรรม ปรับเปลี่ยนไอเดีย และสร้างปราการ
ป้องกันบริษัทของคุณ ถ้าข้อได้เปรียบอย่างเดียวของคุณคือไอเดีย
พริบตาเดียวไอเดียนั้นก็จะถูกลอก พนักงานของคุณจะถูกคู่แข่งซื้อตัว
และคุณจะถูกเขี่ยทิ้งออกจากธุรกิจโดยคู่แข่งที่มีเงินทุนเหนือกว่า
บรรยากาศที่ดุเดือดเลือดพล่านเช่นนี้ตรงข้ามโดยสิ้นเชิงกับ
ซิลิคอนวัลเลย์ ที่การลอกเลียนแบบเป็นเรื่องน่าอาย และหลายบริษัท
อยู่ได้ด้วยไอเดียเดียวที่คิดขึ้นได้โดยบังเอิญ สภาพที่ไร้คู่แข่งท�าให้
พวกเขานิ่งนอนใจ ผู้ประกอบการจึงไม่คิดปรับปรุงธุรกิจ หรือต่อยอด
AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา
36
จากไอเดียดั้งเดิมของตน
ตลาดที่สับสนวุ่นวายกับกลวิธีสกปรกในยุค “จอมเลียนแบบ”
ของจีนก่อให้เกิดบริษัทที่น่ากังขา แต่มันก็ได้บ่มเพาะนักธุรกิจที่ว่องไว
เฉลียวฉลาด และท�างานหนักที่สุดในโลก พวกเขาเหล่านี้จะกลายมา
เป็นอาวุธลับที่ช่วยให้จีนเป็นประเทศแรกที่ท�าเงินได้ในยุคสมัยแห่ง
การประยุกต์ใช้ AI
นักธุรกิจเหล่านี้จะเข้าถึง“ทรัพยากร”ของโลกเทคโนโลยีจีนนั่นคือ
ข้อมูลมหาศาลจีนแซงหน้าอเมริกาไปแล้วในฐานะผู้ผลิตข้อมูลอันดับหนึ่ง
ของโลก และไม่ใช่แค่ปริมาณนะครับ จีนยังมีรูปแบบเทคโนโลยีที่
ไม่เหมือนใคร (เหมือนอีกโลกหนึ่งที่มีสินค้าและบริการซึ่งที่อื่นในโลก
ไม่มี) ท�าให้ข้อมูลถูกออกแบบมาไว้เพื่อให้บรรดาบริษัท AI ได้น�าไป
หาเงินโดยเฉพาะ
ถ้าเป็นไม่กี่ปีก่อนการเปรียบเทียบความก้าวหน้าของบริษัทอินเทอร์เน็ต
จีนกับอเมริกาโดยตรงถือเป็นเรื่องปกติแล้วอเมริกาก็จะน�าหน้าจีนเล็ก
น้อย
แต่พอถึงประมาณปี 2013 อินเทอร์เน็ตของจีนก็เริ่มมีการ
เปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่ง คือแทนที่จะเดินตามรอยหรือก๊อปปี้บริษัท
อเมริกันดื้อๆ บรรดานักธุรกิจจีนกลับเริ่มสร้างสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นใน
ซิลิคอนวัลเลย์
นักวิเคราะห์ที่พูดถึงจีนมักยกชื่อบริษัทในซิลิคอนวัลเลย์เวลา
อธิบายถึงบริษัทจีน อย่าง “เฟซบุ๊กของประเทศจีน” หรือ “ทวิตเตอร์
บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
37
ของประเทศจีน” เป็นต้น แต่มาในปีหลังๆ นี้ ค�าท�านองนั้นเริ่มใช้ไม่ได้
ในหลายกรณีอินเทอร์เน็ตของจีนได้แปรเปลี่ยนไปเป็นอีกจักรวาลหนึ่ง
เรียบร้อยแล้ว
คนในเขตเมืองของจีนเริ่มจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจ�าวันโดยใช้
QR Code ในโทรศัพท์มือถือ นี่คือการปฏิวัติวิธีช�าระเงินด้วยโทรศัพท์
มือถือแห่งเดียวในโลก เมืองต่างๆ ของจีนมีกองทัพคนส่งอาหารและ
พนักงานนวดตามสั่งขี่สกูตเตอร์ไฟฟ้าอยู่เต็มท้องถนน
คนเหล่านี้มาจากกระแสสตาร์ทอัพ“ออนไลน์สู่ออฟไลน์”(O2O)
ที่น�าความสะดวกสบายของอีคอมเมิร์ซมาใช้กับบริการในโลกจริงอย่าง
การขายอาหารหรือการเสริมสวยจากนั้นไม่นานก็ตามมาด้วยจักรยาน
ให้เช่าสีสันสดใสนับล้านๆ คัน ที่ผู้ใช้สามารถจอดหรือน�าไปใช้ได้ทุกที่
ขอแค่สแกน QR Code จากโทรศัพท์มือถือของพวกเขาเท่านั้น
ผู้ครองโลกที่เปลี่ยนไป
การพัฒนาอันทรงพลังที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ก�าลังดึงสมดุลอ�านาจให้เอนเอียง
ไปทางจีน แต่นั่นยังไม่พอ รัฐบาลจีนยังท�าทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดความ
ได้เปรียบยิ่งขึ้นไปอีกรัฐบาลจีนต้องการเป็นมหาอ�านาจด้านAIพวกเขา
จึงสนับสนุนและให้ทุนเพื่อวิจัย AI อย่างกว้างขวาง และที่ส�าคัญที่สุด
คือ มันจะถูกใช้เป็นแนวทางให้รัฐบาลท้องถิ่นทั่วจีนด�าเนินตาม

More Related Content

What's hot

Fishbone Diagram for Energy Conservation
Fishbone Diagram for Energy ConservationFishbone Diagram for Energy Conservation
Fishbone Diagram for Energy ConservationDenpong Soodphakdee
 
การนำเสนอผลการวิจัย
การนำเสนอผลการวิจัยการนำเสนอผลการวิจัย
การนำเสนอผลการวิจัยNU
 
Summarizing การย่อความ
Summarizing การย่อความSummarizing การย่อความ
Summarizing การย่อความAj Muu
 
บทที่ 11 การจัดการโซ่อุปทาน
บทที่ 11 การจัดการโซ่อุปทานบทที่ 11 การจัดการโซ่อุปทาน
บทที่ 11 การจัดการโซ่อุปทานDr.Krisada [Hua] RMUTT
 
บทที่ 3 การจัดการโครงการ
บทที่ 3 การจัดการโครงการบทที่ 3 การจัดการโครงการ
บทที่ 3 การจัดการโครงการDr.Krisada [Hua] RMUTT
 
การวางแผนและการควบคุมการผลิต
การวางแผนและการควบคุมการผลิตการวางแผนและการควบคุมการผลิต
การวางแผนและการควบคุมการผลิตKitipan Kitbamroong Ph.D. CISA
 
นำเสนอวิทยานิพนธ์
นำเสนอวิทยานิพนธ์นำเสนอวิทยานิพนธ์
นำเสนอวิทยานิพนธ์Jutatip Ni
 
เทคนิคการจัดการเรียนรู้ด้วยเกมมิฟิเคชั่น (Gamification)
เทคนิคการจัดการเรียนรู้ด้วยเกมมิฟิเคชั่น (Gamification)เทคนิคการจัดการเรียนรู้ด้วยเกมมิฟิเคชั่น (Gamification)
เทคนิคการจัดการเรียนรู้ด้วยเกมมิฟิเคชั่น (Gamification)Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai
 
ชุดที่ 13แผนที่ เข็มทิศ
ชุดที่ 13แผนที่  เข็มทิศชุดที่ 13แผนที่  เข็มทิศ
ชุดที่ 13แผนที่ เข็มทิศmungmat
 
เรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง Transformative Learning
เรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง Transformative Learningเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง Transformative Learning
เรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง Transformative LearningUtai Sukviwatsirikul
 
บทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุน
บทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุนบทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุน
บทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุนOrnkapat Bualom
 
รูปตัวอย่าง สด.8 และ สด.3 และเลขที่ใบสำคัญทางทหาร
รูปตัวอย่าง สด.8 และ สด.3 และเลขที่ใบสำคัญทางทหารรูปตัวอย่าง สด.8 และ สด.3 และเลขที่ใบสำคัญทางทหาร
รูปตัวอย่าง สด.8 และ สด.3 และเลขที่ใบสำคัญทางทหารปริญญา สุโพธิ์
 
การจัดองค์กร organizing
การจัดองค์กร organizing  การจัดองค์กร organizing
การจัดองค์กร organizing Aor's Sometime
 
ภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจการบิน
ภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจการบินภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจการบิน
ภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจการบินMint NutniCha
 
การจัดการห้องเรียนออนไลน์ด้วย Google Classroom
การจัดการห้องเรียนออนไลน์ด้วย Google Classroomการจัดการห้องเรียนออนไลน์ด้วย Google Classroom
การจัดการห้องเรียนออนไลน์ด้วย Google ClassroomDr.Kridsanapong Lertbumroongchai
 

What's hot (20)

หลักการจัดการ.
หลักการจัดการ.หลักการจัดการ.
หลักการจัดการ.
 
4.Oop
4.Oop4.Oop
4.Oop
 
Fishbone Diagram for Energy Conservation
Fishbone Diagram for Energy ConservationFishbone Diagram for Energy Conservation
Fishbone Diagram for Energy Conservation
 
การนำเสนอผลการวิจัย
การนำเสนอผลการวิจัยการนำเสนอผลการวิจัย
การนำเสนอผลการวิจัย
 
Organization diagnosis
Organization diagnosisOrganization diagnosis
Organization diagnosis
 
Summarizing การย่อความ
Summarizing การย่อความSummarizing การย่อความ
Summarizing การย่อความ
 
บทที่ 5 การแปลง er diagram ให้เป็น table
บทที่ 5 การแปลง er diagram ให้เป็น tableบทที่ 5 การแปลง er diagram ให้เป็น table
บทที่ 5 การแปลง er diagram ให้เป็น table
 
บทที่ 11 การจัดการโซ่อุปทาน
บทที่ 11 การจัดการโซ่อุปทานบทที่ 11 การจัดการโซ่อุปทาน
บทที่ 11 การจัดการโซ่อุปทาน
 
บทที่ 3 การจัดการโครงการ
บทที่ 3 การจัดการโครงการบทที่ 3 การจัดการโครงการ
บทที่ 3 การจัดการโครงการ
 
การวางแผนและการควบคุมการผลิต
การวางแผนและการควบคุมการผลิตการวางแผนและการควบคุมการผลิต
การวางแผนและการควบคุมการผลิต
 
นำเสนอวิทยานิพนธ์
นำเสนอวิทยานิพนธ์นำเสนอวิทยานิพนธ์
นำเสนอวิทยานิพนธ์
 
เทคนิคการจัดการเรียนรู้ด้วยเกมมิฟิเคชั่น (Gamification)
เทคนิคการจัดการเรียนรู้ด้วยเกมมิฟิเคชั่น (Gamification)เทคนิคการจัดการเรียนรู้ด้วยเกมมิฟิเคชั่น (Gamification)
เทคนิคการจัดการเรียนรู้ด้วยเกมมิฟิเคชั่น (Gamification)
 
ชุดที่ 13แผนที่ เข็มทิศ
ชุดที่ 13แผนที่  เข็มทิศชุดที่ 13แผนที่  เข็มทิศ
ชุดที่ 13แผนที่ เข็มทิศ
 
เรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง Transformative Learning
เรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง Transformative Learningเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง Transformative Learning
เรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง Transformative Learning
 
ภาพฉายมุมที่1 3
ภาพฉายมุมที่1 3ภาพฉายมุมที่1 3
ภาพฉายมุมที่1 3
 
บทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุน
บทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุนบทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุน
บทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุน
 
รูปตัวอย่าง สด.8 และ สด.3 และเลขที่ใบสำคัญทางทหาร
รูปตัวอย่าง สด.8 และ สด.3 และเลขที่ใบสำคัญทางทหารรูปตัวอย่าง สด.8 และ สด.3 และเลขที่ใบสำคัญทางทหาร
รูปตัวอย่าง สด.8 และ สด.3 และเลขที่ใบสำคัญทางทหาร
 
การจัดองค์กร organizing
การจัดองค์กร organizing  การจัดองค์กร organizing
การจัดองค์กร organizing
 
ภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจการบิน
ภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจการบินภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจการบิน
ภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจการบิน
 
การจัดการห้องเรียนออนไลน์ด้วย Google Classroom
การจัดการห้องเรียนออนไลน์ด้วย Google Classroomการจัดการห้องเรียนออนไลน์ด้วย Google Classroom
การจัดการห้องเรียนออนไลน์ด้วย Google Classroom
 

More from Piyapong Sirisutthanant

ตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdfตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdfPiyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdfตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdfPiyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdfตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdfPiyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdfตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdfPiyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdfตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdfPiyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdfตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdfPiyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdfตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdfPiyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdfตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdfPiyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_คิดอย่างไรไม่ให้คิดไปเอง.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_คิดอย่างไรไม่ให้คิดไปเอง.pdfตัวอย่างหนังสือ_คิดอย่างไรไม่ให้คิดไปเอง.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_คิดอย่างไรไม่ให้คิดไปเอง.pdfPiyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_Blitzscaling.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_Blitzscaling.pdfตัวอย่างหนังสือ_Blitzscaling.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_Blitzscaling.pdfPiyapong Sirisutthanant
 
ฉันหมด Passion หรือแค่ยังหามันไม่เจอ_Sample.pdf
ฉันหมด Passion หรือแค่ยังหามันไม่เจอ_Sample.pdfฉันหมด Passion หรือแค่ยังหามันไม่เจอ_Sample.pdf
ฉันหมด Passion หรือแค่ยังหามันไม่เจอ_Sample.pdfPiyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่าง หนังสือ คนเก่งคิดแบบนี้ไง พูดอะไรก็รู้เรื่อง
ตัวอย่าง หนังสือ คนเก่งคิดแบบนี้ไง พูดอะไรก็รู้เรื่องตัวอย่าง หนังสือ คนเก่งคิดแบบนี้ไง พูดอะไรก็รู้เรื่อง
ตัวอย่าง หนังสือ คนเก่งคิดแบบนี้ไง พูดอะไรก็รู้เรื่องPiyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ อยากขายดี สตอรี่ต้องโดน Stories that stick
ตัวอย่างหนังสือ อยากขายดี สตอรี่ต้องโดน Stories that stickตัวอย่างหนังสือ อยากขายดี สตอรี่ต้องโดน Stories that stick
ตัวอย่างหนังสือ อยากขายดี สตอรี่ต้องโดน Stories that stickPiyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ The Compound Effect
ตัวอย่างหนังสือ The Compound Effect ตัวอย่างหนังสือ The Compound Effect
ตัวอย่างหนังสือ The Compound Effect Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ Everything is f*cked คู่มือแห่งความหวัง ในโลกสุดเฮงซวย
ตัวอย่างหนังสือ Everything is f*cked คู่มือแห่งความหวัง ในโลกสุดเฮงซวยตัวอย่างหนังสือ Everything is f*cked คู่มือแห่งความหวัง ในโลกสุดเฮงซวย
ตัวอย่างหนังสือ Everything is f*cked คู่มือแห่งความหวัง ในโลกสุดเฮงซวยPiyapong Sirisutthanant
 
How to be better at (almost) everything sample
How to be better at (almost) everything sampleHow to be better at (almost) everything sample
How to be better at (almost) everything samplePiyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ Productivity คิดแบบเยอรมัน ลงมือทำแบบญี่ปุ่น
ตัวอย่างหนังสือ Productivity คิดแบบเยอรมัน ลงมือทำแบบญี่ปุ่นตัวอย่างหนังสือ Productivity คิดแบบเยอรมัน ลงมือทำแบบญี่ปุ่น
ตัวอย่างหนังสือ Productivity คิดแบบเยอรมัน ลงมือทำแบบญี่ปุ่นPiyapong Sirisutthanant
 

More from Piyapong Sirisutthanant (20)

ตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdfตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdfตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdfตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdfตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdfตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdfตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdfตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdfตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_คิดอย่างไรไม่ให้คิดไปเอง.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_คิดอย่างไรไม่ให้คิดไปเอง.pdfตัวอย่างหนังสือ_คิดอย่างไรไม่ให้คิดไปเอง.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_คิดอย่างไรไม่ให้คิดไปเอง.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_Blitzscaling.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_Blitzscaling.pdfตัวอย่างหนังสือ_Blitzscaling.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_Blitzscaling.pdf
 
ฉันหมด Passion หรือแค่ยังหามันไม่เจอ_Sample.pdf
ฉันหมด Passion หรือแค่ยังหามันไม่เจอ_Sample.pdfฉันหมด Passion หรือแค่ยังหามันไม่เจอ_Sample.pdf
ฉันหมด Passion หรือแค่ยังหามันไม่เจอ_Sample.pdf
 
LHTL_Sample.pdf
LHTL_Sample.pdfLHTL_Sample.pdf
LHTL_Sample.pdf
 
ตัวอย่าง หนังสือ คนเก่งคิดแบบนี้ไง พูดอะไรก็รู้เรื่อง
ตัวอย่าง หนังสือ คนเก่งคิดแบบนี้ไง พูดอะไรก็รู้เรื่องตัวอย่าง หนังสือ คนเก่งคิดแบบนี้ไง พูดอะไรก็รู้เรื่อง
ตัวอย่าง หนังสือ คนเก่งคิดแบบนี้ไง พูดอะไรก็รู้เรื่อง
 
ตัวอย่างหนังสือ อยากขายดี สตอรี่ต้องโดน Stories that stick
ตัวอย่างหนังสือ อยากขายดี สตอรี่ต้องโดน Stories that stickตัวอย่างหนังสือ อยากขายดี สตอรี่ต้องโดน Stories that stick
ตัวอย่างหนังสือ อยากขายดี สตอรี่ต้องโดน Stories that stick
 
ตัวอย่างหนังสือ The Compound Effect
ตัวอย่างหนังสือ The Compound Effect ตัวอย่างหนังสือ The Compound Effect
ตัวอย่างหนังสือ The Compound Effect
 
ตัวอย่างหนังสือ Everything is f*cked คู่มือแห่งความหวัง ในโลกสุดเฮงซวย
ตัวอย่างหนังสือ Everything is f*cked คู่มือแห่งความหวัง ในโลกสุดเฮงซวยตัวอย่างหนังสือ Everything is f*cked คู่มือแห่งความหวัง ในโลกสุดเฮงซวย
ตัวอย่างหนังสือ Everything is f*cked คู่มือแห่งความหวัง ในโลกสุดเฮงซวย
 
You canlearnanything sample
You canlearnanything sampleYou canlearnanything sample
You canlearnanything sample
 
Successful peopleact sample
Successful peopleact sampleSuccessful peopleact sample
Successful peopleact sample
 
How to be better at (almost) everything sample
How to be better at (almost) everything sampleHow to be better at (almost) everything sample
How to be better at (almost) everything sample
 
ตัวอย่างหนังสือ Productivity คิดแบบเยอรมัน ลงมือทำแบบญี่ปุ่น
ตัวอย่างหนังสือ Productivity คิดแบบเยอรมัน ลงมือทำแบบญี่ปุ่นตัวอย่างหนังสือ Productivity คิดแบบเยอรมัน ลงมือทำแบบญี่ปุ่น
ตัวอย่างหนังสือ Productivity คิดแบบเยอรมัน ลงมือทำแบบญี่ปุ่น
 

AI SUPERPOWERS_Sample

  • 1. N E W Y O R K T I M E S B E S T S E L L E R
  • 2. AI SUPERPOWERS จีน อเมริกา มหาอ�านาจ Technology เงินตรา อนาคต COPYRIGHT NOTICE EXACTLY AS IN USA EDITION Copyright © 2018 by Kai-Fu Lee. Published by arrangement with Brockman, Inc. Thai language translation copyright © 2020 by Superposition Co., Ltd. All right reserved. เลขมาตรฐานสากลประจ�าหนังสือ ผู้เขียน: Kai-Fu Lee ผู้แปล: วิญญู กิ่งหิรัญวัฒนา กองบรรณาธิการ: จิรวรรณ วงค�าเสา, ปิยะพงษ์ ศิริสุทธานันท์, ธีร์ มีนสุข, ธีพร บรรจงเปลี่ยน ออกแบบปก: สมเกียรติ ภูผาสิทธิ์ จัดรูปเล่ม: อรณัญช์ สุขเกษม ราคา 450 บาท จัดพิมพ์และจัดจ�าหน่ายโดย ส�านักพิมพ์บิงโก ภายในเครือ บริษัท ซุปเปอร์โพซิชั่น จ�ากัด (Superposition Co., Ltd.) 18 ซอยดุลิยา ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. 10170 อีเมล superposition.books@gmail.com โทรศัพท์ 094-810-7272 เว็บไซต์ www.bingobook.co เฟซบุ๊ก www.facebook.com/bingobooks พิมพ์ที่ Pimdee โทรศัพท์ 02-401-9401
  • 3. สารบัญ บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ บทที่ 2 นักก๊อปในโคลอสเซียม บทที่ 3 จักรวาลอินเทอร์เน็ตที่แตกต่างของจีน บทที่ 4 เรื่องเล่าของสองประเทศ บทที่ 5 คลื่น AI ทั้งสี่ บทที่ 6 แดนสวรรค์ แดนนรก และวิกฤติใหญ่ บทที่ 7 ปัญญาจากมะเร็ง บทที่ 8 โลกที่มนุษย์อยู่ร่วมกับ AI บทที่ 9 เรื่องราวจากทั่วโลก 15 45 91 137 173 227 275 307 341
  • 4. - ค�านิยม - 4 ในหนังสือเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์(AI,ArtificialIntelligence) ที่มีขายอยู่มากมายในร้านหนังสือ หนังสือ AI Superpowers ที่เขียน โดย Dr. Kai-Fu Lee นั้น เป็นหนังสือ AI ที่ผมชอบในล�าดับต้นๆ หนังสือเล่มนี้อ่านไม่ยากไม่ต้องการความรู้พื้นฐานด้านAIแต่อ่านแล้ว ท�าให้เราเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงส�าคัญในอนาคตที่ก�าลังเกิดขึ้นได้ เป็นอย่างดี Dr.Kai-FuLeeเป็นคนไต้หวันที่ไปเรียนหนังสือที่อเมริกาตั้งแต่ อายุ11ปีเรียนจบปริญญาเอกด้านAIจากมหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอน เคยท�างานที่Apple,SGI,Microsoftเป็นประธานบริษัทGoogleChina และปัจจุบันเป็นประธานและ CEO ของ Sinovation Ventures บริษัท ลงทุนที่เน้นการพัฒนาบริษัทเทคโนโลยีแห่งอนาคตของจีน น่าจะเป็น ผู้ทรงอิทธิพลด้าน AI ล�าดับต้นๆ ของจีน Dr.Kai-Fu Lee เขียนหนังสือเล่มนี้แบบคนที่เข้าใจ AI ลึกใน ทุกด้าน ทั้งด้านเทคโนโลยี ด้านธุรกิจ การมองอนาคต และ ที่ส�าคัญ ที่สุดมุมมองในแง่ของความเป็นมนุษย์ เรื่องที่ผมประทับใจมากที่สุดคือ ตอนที่เขาเขียนเล่าถึง การแข่งขันหมากล้อม (โกะ) ในปี 2017 ระหว่างแชมป์โลกโกะชาวจีน เค่อเจี๋ย กับ AlphaGo ซึ่งเป็น AI ที่พัฒนาโดย Google ในการแข่งขัน ระหว่างเค่อเจี๋ยกับ AlphaGo ปรากฎว่า AI เอาชนะแชมป์โลกได้
  • 5. 5 ทั้งสามกระดาน โดยแต่ละกระดานใช้เวลาเล่นนานกว่าสามชั่วโมง เค่อเจี๋ยพยายามทุกวิถีทาง แต่ AI ไม่เปิดช่องโหว่และค่อยๆ บดขยี้ เขาลง ดูเหมือนAIจะเป็นผู้ชนะมนุษย์อย่างราบคาบแต่Dr.Kai-FuLee เล่าว่าเขาได้ดูการถ่ายทอดสดการแข่งหมากล้อมในครั้งนั้น และเขา ยังคงมองเห็นความหวังและทางรอดของมนุษยชาติในยุคของ AI “อะไรคือความหวังและทางรอดของมนุษยชาติ (ซึ่งอาจจะ รวมถึงประเทศไทย) ที่ Dr. Kai-Fu Lee กล่าวถึง?” ลองพลิกไปหาค�าตอบในหนังสือเล่มนี้ได้เลยครับ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธ์
  • 6. - ค�านิยม - 6 หากต้องการรู้เกี่ยวกับปัจจุบันและอนาคตของเทคโนโลยีไฮเทค อะไรสักอย่าง เช่น ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence) คุณจะท�าอย่างไร?หากคุณต้องการรู้ว่าคนต่างเชื้อชาติต่างวัฒนธรรม กันที่แข่งขันกันเอาชัยกันในเทคโนโลยีด้านใดด้านหนึ่ง(อีกครั้งเช่นAI) ปัจจัยอะไรแน่จะเป็นตัวตัดสิน? มีหลายวิธีที่จะตอบค�าถามทั้งหมดข้างต้น แต่เชื่อแน่ว่าคงจะ มีหลายคนเชื่อว่าน่าจะหาหนังสือสักเล่มที่พอจะช่วยตอบค�าถามเหล่า นั้นได้ หนังสือแบบนี้ต้องการผู้เขียนแบบไหนกัน? หากเป็นผม ก็คงต้องมองหาคนหนังสือที่คนเขียนมีพื้นฐาน ความรู้ในสาขาวิชาดังกล่าว ยิ่งมีประสบการณ์ที่ตรงและหลากหลาย ก็ยิ่งน่าสนใจ และหากเป็นคนที่เข้าไปซึมซับอยู่ในวัฒนธรรมทั้งสองที่ ก�าลังห�้าหั่นกันอยู่ก็ย่อมมีโอกาสที่จะได้เห็นมุมมองวิธีคิดจนสามารถ ให้เหตุผลหรือค�าอธิบายเบื้องหลังเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งบาง ครั้งเราอาจจะคิดไม่ถึงทีเดียวว่า ท�าไมจึงเป็นเช่นนั้น Dr.Kai-FuLeeผู้แต่งหนังสือ“AI Superpowers จีน อเมริกา มหาอ�านาจ เทคโนโลยี เงินตรา อนาคต” เกิดที่ไต้หวัน ก่อนจะ ย้ายไปอยูที่สหรัฐอเมริกา จนเรียนจบได้ปริญญาตรีวิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และปริญญาเอกด้าน AI
  • 7. 7 จากมหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอน หลังจากท�างานเป็นอาจารย์สักพัก เขาก็ลาออกไปท�างานเป็นนักวิจัยที่ Apple และ Microsoft ก่อนที่ Google จะซื้อตัวไปเป็นประธานบริษัท Google China ปัจจุบันเขา เป็นผู้เชี่ยวชาญ AI และเจ้าของ Sinovation Ventures บริษัทที่ลงทุน เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ จากชีวประวัติของ Dr. Kai-Fu Lee ดังกล่าว ก็ย่อมจะเห็นได้ ว่าเขาเป็นหนึ่งในคนที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะเขียนเกี่ยวกับ สงคราม AI ระหว่างมหาอ�านาจสองชาติคือ สหรัฐอเมริกาและจีน ไม่เพียงเท่านั้น หากได้ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ จะต้องประทับใจ ในความรู้ และความสามารถในการเล่าเรื่อง รวมไปถึงเกร็ดเล็กเกร็ด น้อยต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี อุปนิสัยและมุมมองของผู้เกี่ยวข้อง ในสงครามครั้งนี้ ตลอดไปจนถึงวัฒนธรรมที่ขับดันอยู่เบื้องหลังการ แข่งขันทางการค้าของคนทั้งสองชาติ ขณะที่คุณวิญญู กิ่งหิรัญวัฒนา ผู้แปลก็ท�าหน้าที่ถ่ายทอดเนื้อหาได้ดี โดยสรุปแล้ว นอกจากจะเป็นหนังสือที่อ่านได้ความรู้แล้ว ยัง อ่านง่าย และอ่านเพลินอย่างไม่น่าเชื่อ แนะน�าครับ ดร.น�าชัย ชีววิวรรธน์
  • 8. 8 - ค�านิยม - ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ก�าลังพลิก โลกครั้งมโหฬาร เหมือนที่เครื่องจักรไอน�้า ไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์ได้ เปลี่ยนแปลงโลกและสังคมมนุษย์อย่างก้าวกระโดดมาถึง 3 ครั้งแล้ว ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัยคนที่อยู่ในใจกลางพายุ ของการเปลี่ยนแปลงล้วนมีบทบาทที่น่าตื่นใจเสมอทั้งเจมส์วัตต์แห่ง ยุคเครื่องจักรไอน�้า, โธมัส อัลวา เอดิสัน และนิโคลา เทสลา แห่งยุค ไฟฟ้า, บิลล์ เกตส์ และสตีฟ จ็อบส์ แห่งยุคคอมพิวเตอร์ แล้วยุค AI เล่า เรานึกถึงใครที่ใจกลางพายุ? AI ผ่านยุคที่รุ่งเรืองและตกต�่าหลายรอบ ผ่านนักวิทยาศาสตร์ หลายรุ่นตั้งแต่ทศวรรษ1950แต่ล้มลุกคลุกคลานอย่างยาวนานเพราะ การถกเถียงข้อโต้แย้งทางทฤษฎี 2 สาย และความไม่พร้อมของระบบ นิเวศทางด้านดิจิทัล จนผ่านมาถึงอีก 50 ปี เมื่อเจฟฟรีย์ ฮินตัน นักจิตวิทยาและ นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอังกฤษค้นพบเทคนิคใหม่ของ Neural Networks เรียกว่า Deep Learning พร้อมๆ กับเวลานั้น มี การพัฒนาคอมพิวเตอร์ที่สามารถประมวลผลข้อมูลจ�านวนมหาศาล ในชั่วพริบตา ยุคสมัยของ AI จึงก�าเนิดขึ้น และถ้าเราเพ่งมองกลุ่มคนที่อยู่ใจกลางพายุของAIเราต้องเห็น หนุ่มใหญ่เชื้อสายไต้หวันชื่อ Dr.Kai-Fu Lee ยืนเด่นอยู่ตรงนั้นด้วย Dr.Kai-Fu Lee เกิดในไต้หวัน เขาจบปริญญาเอกด้าน AI จาก มหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอน และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ที่ได้รับ
  • 9. 9 การยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งของโลก จนได้รับเลือกเป็น 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลของโลกประจ�าปี 2556 เขามีชีวิตที่แตกต่างอย่างสมดุล 2 ด้านอย่างน่าประหลาด เขาเคยท�างานเป็นนักบริหารมืออาชีพกับยักษ์ใหญ่ในวงการ ดิจิทัลทั้ง Apple, Microsoft และ Google แต่วันนี้เขาเป็นนักลงทุน นักเขียน ครู และบล็อกเกอร์ที่มีคนติดตามกว่า 50 ล้านคน เขาเติบโต เรียนหนังสือ และเริ่มท�างานที่สหรัฐอเมริกา แต่เขา เคยเป็นประธานบริษัทGoogleChinaอยู่4ปีก่อนผันตัวเป็นนักลงทุน สนับสนุนสตาร์ทอัพในจีน เขาเคยท�างานหามรุ่งหามค�่าเพราะเชื่อว่าเขาจะเปลี่ยนแปลง โลก แต่เมื่อพบว่าตนเป็นมะเร็ง เขาจึงรู้ว่า ครอบครัว แม่ ภรรยา และ ลูกสาวสองคนส�าคัญที่สุด และความรักส�าคัญกว่าตัวเลขใดๆ ความรู้ที่ได้จากหนังสือ AI Superpowers เล่มนี้จึงมั่นใจได้ว่า เป็นความรู้จากผู้รู้จริง ผู้ที่คลุกคลีระดับวงในของผู้น�าอุตสาหกรรม AI และผู้ที่เข้าใจความสามารถในการแข่งขันด้าน AI ของสหรัฐอเมริกา และจีนอย่างถ่องแท้ แม้มีผู้ค่อนขอดว่า เขาดูจะเข้าข้างจีนมากกว่า ข้อคิดที่ผมชอบที่สุดจากหนังสือ ไม่ใช่เรื่อง AI จะเปลี่ยนวิถี ชีวิตของเราไปมากมายเพียงใด แต่เป็นประโยคในหน้าสุดท้ายที่ Dr.Kai-Fu Lee ได้รู้แจ้งถึง “ปัญญาที่แท้” ว่า “AIท�ำให้เรำเข้ำใจตัวเองอย่ำงแท้จริงไม่ใช่เพรำะAIเลียนแบบ มนุษย์ส�ำเร็จแต่เป็นเพรำะมันปลดปล่อยเรำให้พ้นจำกกำรหมกมุ่นกับ วัตถุ และท�ำให้เรำจดจ่อกับสิ่งที่ท�ำให้เรำเป็นมนุษย์ นั่นคือ กำรแสดงควำมรัก และกำรได้ควำมรักตอบกลับมำ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
  • 10. 10 หน้าที่อย่างหนึ่งของผมในฐานะนักลงทุน คือการกล่าวบรรยาย เรื่อง AI ให้นักธุรกิจข้ามชาติและนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลฟัง ความสนุกอย่างหนึ่งของงานนี้อยู่ตรงที่บางครั้งผมก็ต้องไปพูด เรื่องเดียวกันนี้ให้เด็กอนุบาลฟังด้วย น่าประหลาดที่คนฟังทั้งสองกลุ่มที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มักถามค�าถามคล้ายๆ กัน อย่างตอนที่ผมไปเยือนโรงเรียนอนุบาล ที่ปักกิ่งเมื่อเร็วๆ นี้ เสียงเซ็งแซ่ของกลุ่มเด็ก 5 ขวบกระหน�่าผมด้วย ค�าถามเกี่ยวกับอนาคตของ AI “เราจะมีครูที่เป็นหุ่นยนต์หรือเปล่า?” “จะเกิดอะไรขึ้นถ้ารถหุ่นยนต์คันหนึ่งไปชนรถหุ่นยนต์อีกคัน แล้วเราได้รับบาดเจ็บ?” “คนจะแต่งงานและมีลูกกับหุ่นยนต์หรือเปล่า?” “คอมพิวเตอร์จะฉลาดจนกลายเป็นนายเราหรือไม่?” “ถ้าหุ่นยนต์ท�าได้ทุกอย่างจริง แล้วเราจะท�างานอะไร?” ค�าถามของเด็กอนุบาลเหล่านี้ไม่แตกต่างจากของบุคคล ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกหลายๆ คน และมันบอกอะไรได้หลายอย่าง ประการแรกคือมันแสดงให้เห็นว่าAIก�าลังอยู่ในความสนใจของผู้คน - ค�าน�า -
  • 11. 11 แค่ไม่กี่ปีก่อน AI ยังเป็นสาขาวิชาที่ถูกกล่าวถึงอยู่แต่ในห้องวิจัยและ ในหนังวิทยาศาสตร์อยู่เลย ถึงแม้คนทั่วไปอาจพอรู้ว่า AI เป็นเรื่อง เกี่ยวกับการสร้างหุ่นยนต์ที่คิดได้เหมือนมนุษย์ แต่แทบนึกไม่ออกเลย ว่ามันจะมาเกี่ยวโยงกับชีวิตประจ�าวันของเราอย่างไร แต่ทั้งหมดนั้นเปลี่ยนไปแล้ว หน้าหนังสือพิมพ์ที่เราอ่าน เต็มไปด้วยข่าวนวัตกรรมAIแทบทุกวันมีการสัมมนาทางธุรกิจที่พูดถึง การใช้ AI เพิ่มผลก�าไร อีกทั้งรัฐบาลของประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็ ก�าลังประกาศแผนการที่จะใช้เทคโนโลยีนี้ให้เป็นประโยชน์ จู่ๆ AI ก็กลายเป็นข้อถกเถียงในวงกว้าง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี การค้นคว้าในเชิงทฤษฎีของAIที่ส�าคัญๆในที่สุดก็เอามาใช้จริง ได้แล้วและมันพร้อมจะมาเปลี่ยนแปลงชีวิตเราปัจจุบันAIอยู่เบื้องหลัง แอพและเว็บไซต์ยอดนิยมจ�านวนมาก ในอนาคต AI จะขับรถของเรา จัดการพอร์ตการลงทุนของเรา ผลิตสินค้าส่วนใหญ่ที่เราซื้อ และอาจ ท�าให้เราตกงาน การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เต็มไปด้วยโอกาสและวิกฤติ ซึ่งเราต้องเตรียมตัวเองให้พร้อม การพูดคุยระหว่างผมกับเด็กอนุบาลสะท้อนบางอย่างออกมา เมื่อไม่นานมานี้ จีนยังล้าหลังสหรัฐอเมริกาในเรื่อง AI อยู่หลายปี หรือหลายสิบปี แต่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมามีกระแสคลั่ง AI เกิดขึ้น ในจีน ความตื่นตัวในเรื่องนี้พุ่งสูงขึ้นชนิดที่ไม่มีที่ใดในโลกนี้เทียบได้ ความตื่นเต้นเรื่อง AI ลามไปทั่ว ตั้งแต่ในแวดวงเทคโนโลยีและธุรกิจ การก�าหนดนโยบายของรัฐบาล ไปจนถึงห้องเรียนอนุบาลในปักกิ่ง เลยทีเดียว
  • 12. 12 แรงสนับสนุนในวงกว้างแสดงให้เห็นว่าสาขา AI ในจีนเข้มแข็ง มาก บริษัทและนักวิจัย AI ของจีนก�าลังตีตื้นคู่แข่งอย่างอเมริกาขึ้นมา ทั้งภาคธุรกิจและภาควิชาการได้ร่วมมือกันเปลี่ยนจีนให้กลายเป็น มหาอ�านาจ AI ตัวจริง จีนจึงกลายเป็นชาติเดียวที่ต่อกรกับอเมริกาใน สาขานี้ได้ เศรษฐกิจและการเมืองในโลกนี้จะเดินหน้าไปทางไหนต่อก็ ขึ้นอยู่กับว่าทั้ง 2 ประเทศนี้เลือกแข่งขันหรือร่วมมือกันอย่างไร หลังจากพูดคุยกับนักเรียนตัวน้อยกลุ่มนั้นผมก็พบกับสัจธรรมที่อยู่ลึก ลงไปอีกว่า เราทุกคนก็เป็นเหมือนเด็กอนุบาล เราทุกคนล้วนมีค�าถาม ที่ไม่มีค�าตอบ เราพยายามเพ่งมองไปในอนาคตด้วยความวิตกกังวลเหมือน ผู้ใหญ่ แต่ก็อยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็ก เราอยากรู้ว่าระบบอัตโนมัติของ AI จะมีผลกระทบอย่างไร ต่องานและอนาคตของเรา เราอยากรู้ว่าใครและประเทศไหนจะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี อันยิ่งใหญ่นี้ เราอยากรู้ว่าAIจะพาเราไปสู่โลกที่อุดมสมบูรณ์ได้หรือไม่และ มนุษย์จะยังมีที่ยืนในโลกที่เต็มไปด้วย AI หรือเปล่า ไม่มีใครมีลูกแก้ววิเศษที่ตอบค�าถามเราได้ทุกอย่าง แต่ความ ไม่แน่นอนก็ท�าให้เรายังต้องถามพวกเราก็พยายามหาค�าตอบอย่างสุด ความสามารถ และหนังสือเล่มนี้ก็คือความพยายามในการหาค�าตอบ
  • 13. 13 ของผม ผมไม่ใช่หมอดูที่จะบอกอนาคตได้อย่างชัดเจน แต่ผมจะใช้ ประสบการณ์ของผมทั้งจากฝั่งจีนและฝั่งอเมริกา ในฐานะนักวิจัย AI ผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยี และนักลงทุนในปัจจุบัน เพื่อมาวิเคราะห์ หาค�าตอบให้ได้ ผมหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะให้ความกระจ่างพอสมควรว่าเรามา ถึงจุดนี้ได้อย่างไร และจะสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดข้อถกเถียงใหม่ๆ เกี่ยวกับที่ที่เราจะไปต่อจากนี้ เหตุผลหนึ่งที่ท�าให้การท�านายบทสรุปของเรื่องราว AI ยากมาก เพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับหุ่นยนต์อย่างเดียว แต่เกี่ยวกับมนุษย์ด้วย มนุษย์ที่มีอิสระทางความคิด จะเลือกสิ่งที่ต้องการและก�าหนด ชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรก็ได้อนาคตAIจะเกิดขึ้นด้วยน�้ามือของเรา มันจะสะท้อนทางเลือกที่เราเลือกและการกระท�าที่เราท�าลงไปผมหวังว่า เราจะมองลึกลงไปในตัวเราเองและในตัวเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพื่อ ค้นหาคุณค่าและความรู้ที่จะน�าทางเราได้ และนั่นคือภาพรวมทั้งหมด เรามาเริ่มการเดินทางกันได้แล้ว ณ บัดนี้
  • 15. บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ 15 -1- จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ วั ยรุ่นจีน สวมแว่นกรอบสี่เหลี่ยมผู้นี้ ดูไม่เหมือนปราการด่าน สุดท้ายของมนุษยชาติเลย เค่อเจี๋ยที่มาในชุดสูทสีด�าเสื้อเชิ้ต สีขาวและเน็คไทด�า ก�าลังนั่งจมอยู่ในที่นั่งของตัวเอง เขาถูขมับ ขณะก�าลังครุ่นคิดปัญหาตรงหน้า เด็กหนุ่มวัย 19 ปีผู้นี้ ปกติมี ความมั่นใจสูงลิ่วจนเกือบถึงขั้นหยิ่งยโส มาตอนนี้กลับนั่งอึดอัด บนเก้าอี้หนังของเขา ถ้าไปอยู่ในสถานการณ์อื่น เขาก็คงเป็นแค่เด็ก มัธยมปลายที่ก�าลังหน้านิ่วคิ้วขมวดกับโจทย์เรขาคณิตที่แก้ไม่ออก เท่านั้นเอง แต่ในสถานการณ์เมื่อบ่ายของเดือนพฤษภาคมปี 2017 นั้น เขาก�าลังต่อสู้แบบทุ่มสุดตัวกับหนึ่งในสุดยอด AI ที่ฉลาดที่สุดในโลก นามว่า AlphaGo ที่กูเกิลเป็นผู้สร้าง โดยมีสมรภูมิเป็นกระดานขนาด 19x19 ช่อง และมีตัวหมากสีด�าและสีขาววางอยู่ โกะเป็นเกมที่ดูเรียบง่ายแต่จริงๆซับซ้อนผู้เล่น2คนจะผลัดกัน วางตัวหมากบนกระดานเพื่อล้อมตัวหมากของฝ่ายตรงข้าม ไม่มี มนุษย์โลกคนใดเก่งโกะกว่าเค่อเจี๋ย แต่วันนี้ เขาถูกจับให้มาเจอกับ ผู้เล่นโกะที่มีฝีมือในระดับที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ 15
  • 16. AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา 16 เชื่อกันว่าโกะมีมานานกว่า 2,500 ปีแล้ว มันมีประวัติศาสตร์ ยาวนานกว่าเกมกระดานใดๆ ในโลก สมัยจีนโบราณ โกะเป็นหนึ่งในสี่ รูปแบบของศิลปะที่นักปราชญ์จีนทุกคนต้องเชี่ยวชาญเชื่อกันว่าเกมนี้ จะปลูกฝังความคิดที่ละเอียดอ่อนและภูมิปัญญาตามแบบฉบับเซ็นแก่ ผู้เล่นในขณะที่หมากรุกของตะวันตกมุ่งเน้นการวางกลยุทธ์อย่างตรงไป ตรงมาแต่เกมโกะมีพื้นฐานอยู่บนการปักหลักอย่างอดทนและการล้อม อย่างค่อยเป็นค่อยไป มันจึงเป็นศิลปะทางความคิดที่ลึกซึ้ง ประวัติศาสตร์โกะลึกล�้าพอๆ กับการเล่นที่ซับซ้อนของมัน เราอธิบายกฎการเล่นพื้นฐานจบได้ภายใน 9 ประโยค แต่ต�าแหน่ง การวางหมากกลับมีไม่สิ้นสุด ท�าให้วงการ AI รู้สึกว่าการจะเอาชนะ แชมป์โลกโกะให้ได้นั้น เปรียบเสมือนการพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ หลายคนเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะ AI ไม่มีความรู้สึกให้กับโกะเหมือน คนเราส่วนวิศวกรก็คิดว่ารูปแบบการเดินหมากมีมากเกินคอมพิวเตอร์ จะค�านวณได้ ในวันนั้น AlphaGo ไม่เพียงชนะเค่อเจี๋ย แต่ยังถล่มเขาจน ย่อยยับ ตลอดการแข่งขัน 3 ยก ยกละนานกว่า 3 ชั่วโมง เค่อเจี๋ย ใช้ทุกอย่างที่มีเข้าห�้าหั่นเจ้าAIตัวนี้เขาลองทุกรูปแบบการเล่นทั้งแบบ รัดกุม แบบเชิงรุก แบบเชิงรับ และแบบไร้รูปแบบ แต่ไม่มีวิธีใดได้ผล AlphaGo ไม่เปิดช่องให้เค่อเจี๋ยเลย ตรงกันข้าม มันค่อยๆ บีบเขา มากขึ้นเรื่อยๆ
  • 17. บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ 17 มุมมองจากปักกิ่ง คุณมองเห็นอะไรจากการแข่งขันครั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกมองมุมไหน ส�าหรับผู้ติดตามข่าวสารในอเมริกา ชัยชนะของ AlphaGo ไม่เพียง ส่งสัญญาณบ่งบอกถึงชัยชนะของ AI เหนือมนุษย์ แต่ยังเป็นชัยชนะ ของบริษัทเทคโนโลยีจากตะวันตกเหนือทุกคนในโลกด้วย บริษัททั้งหลายจากซิลิคอนวัลเลย์ครองตลาดเทคโนโลยีโลก ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เฟซบุ๊กและกูเกิลกลายเป็นมาตรฐาน อินเทอร์เน็ตส�าหรับการเข้าสังคมและค้นหาข้อมูลซึ่งระหว่างทางบริษัท เหล่านี้ก็ได้บดขยี้สตาร์ทอัพท้องถิ่นในประเทศต่างๆ ตั้งแต่ฝรั่งเศส ไปจนถึงอินโดนีเซีย ยักษ์ใหญ่ในอินเทอร์เน็ตเหล่านี้ท�าให้สหรัฐอเมริกาครองโลก ดิจิทัล เช่นเดียวกับที่อเมริกาครองอ�านาจทางทหารและทางเศรษฐกิจ และเพราะ AlphaGo เป็นผลงานของบริษัทสตาร์ทอัพในอังกฤษที่ชื่อ ดีพมายด์(ถูกกูเกิลซื้อกิจการไปในปี2014)โลกตะวันตกจึงมีแนวโน้ม ที่จะครองความเป็นเจ้าแห่งยุค AI ต่อไป แต่ถ้ามองจากมุมของผม ในช่วงเวลาที่เค่อเจี๋ยแข่งขันอยู่ ผมเห็น สิ่งที่ต่างไปโดยสิ้นเชิง ส�านักงานใหญ่ของไซโนเวชันเวนเจอร์ส(บริษัทของผม)ตั้งอยู่ที่ ย่านจงกวนชุนในปักกิ่งหรือชื่อเล่นว่า“ซิลิคอนวัลเลย์แห่งประเทศจีน”
  • 18. AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา 18 ปัจจุบันจงกวนชุนเป็นชีพจรของกระแสAIในจีนส�าหรับคนที่นี่ชัยชนะ ของAlphaGoเป็นความท้าทายและเป็นแรงบันดาลใจพวกเขาได้เข้าสู่ “ช่วงเวลาสปุตนิก” ในโลกแห่ง AI แล้ว ตอนที่สหภาพโซเวียตส่งดาวเทียมดวงแรกขึ้นสู่วงโคจรได้ส�าเร็จ ในเดือนตุลาคม 1957 มันส่งผลต่อความรู้สึกและการท�างานของรัฐ ในอเมริกาอย่างรวดเร็วและรุนแรง เหตุการณ์นี้กระตุ้นความกลัว ในสังคมอเมริกันอย่างกว้างขวาง กังวลเรื่องความเหนือชั้นกว่าของ เทคโนโลยีรัสเซีย ชาวอเมริกันเฝ้าติดตามดาวเทียมสปุตนิกดวงนั้นของโซเวียตใน ท้องฟ้ายามค�่าคืน และปรับคลื่นวิทยุเพื่อหาช่องสัญญาณของสปุตนิก องค์การนาซา (NASA) ได้ถือก�าเนิดขึ้น บวกกับแรงหนุนจาก รัฐบาลกลางที่เพิ่มงบประมาณด้านการศึกษาคณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ เท่ากับเปิดฉากการแข่งขันด้านอวกาศอย่างเป็นทางการ ความตื่นตัวของชาวอเมริกันประสบผลในอีก 12 ปีต่อมา เมื่อนีล อาร์มสตรอง กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ไปเหยียบดวงจันทร์ได้ส�าเร็จ ย้อนไปในเดือนมีนาคม 2016 AlphaGo ประกาศชัยชนะครั้งแรก ในการแข่งขัน5ยกกับผู้เล่นระดับต�านานชาวเกาหลีชื่ออีเซดลโดยชนะ 4 ต่อ 1 ชาวอเมริกันส่วนใหญ่แทบไม่ทราบเรื่องนี้เลย แต่การแข่งขัน ทั้ง 5 ยกมีคนจีนติดตามชมมากกว่า 280 ล้านคน แล้วกระแส AI ก็เริ่ม ระบาดไปทั่วประเทศจีนในชั่วข้ามคืน
  • 19. บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ 19 จริงอยู่ที่ระดับความตื่นเต้นนี้ยังไม่เท่ากับตอนที่ชาวอเมริกัน ตื่นเต้นกับสปุตนิก แต่มันคือตัวจุดประกายของจีนที่ลุกโชนอย่าง ต่อเนื่อง เมื่อนักลงทุน ผู้ประกอบการ และรัฐบาลจีนพร้อมใจกันให้ ความส�าคัญกับอะไรทั้งโลกต้องสั่นสะเทือนตอนนี้จีนก�าลังเร่งพัฒนา AI ด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง ทั้งบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ นักลงทุน และรัฐบาลจีนต่างเทเงินอุดหนุน นักศึกษาจีนก�าลังแห่เรียนคอร์ส AI ชั้นสูง หรือกระทั่งดาวน์โหลดคอร์ส AI จากตะวันตกมาดูใน โทรศัพท์มือถือ ส่วนบริษัทสตาร์ทอัพก็ก�าลังคิดค้นธุรกิจใหม่ๆ เพื่อ ตามกระแส AI หลังเค่อเจี๋ยพ่ายแพ้ต่อ AlphaGo ได้ไม่ถึง 2 เดือน รัฐบาล จีนได้ประกาศแผนพัฒนา AI ชุดใหญ่ ทั้งเพิ่มการลงทุน สนับสนุน ด้านนโยบายและระดมก�าลังทั้งชาติเพื่อพัฒนาAIโดยมีเป้าหมายยาว ถึงปี 2025 และจะเป็นศูนย์กลางโลกด้าน AI ให้ได้ภายในปี 2030 ทั้ง ในด้านทฤษฎี เทคโนโลยี และการประยุกต์ใช้ นักลงทุนจีนตอบรับกระแสนั้นตั้งแต่ก่อนปี 2017 แล้ว เม็ดเงิน ลงทุนที่เทในสตาร์ทอัพ AI มากขึ้นเป็น 48% ของการลงทุนด้าน AI ทั่วโลก ซึ่งมากกว่าการลงทุนของสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก
  • 20. AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา 20 เกมใหม่ที่จะเปลี่ยนโฉมโลก เหตุผลที่รัฐบาลจีนสนับสนุน AI เสียใหญ่โต ก็เพราะ AI จะมีผลกับ เศรษฐกิจในอนาคตระดับมโหฬารเดิมทีAIก้าวหน้าอย่างช้าๆมาหลาย ทศวรรษแต่มันก�าลังเริ่มรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วเมื่อเราเริ่มน�าสูตรยากๆ ในทฤษฎี มาเปลี่ยนเป็นธุรกิจที่สร้างเงินและจับต้องได้ ผมคุ้นชินกับการเห็นคอมพิวเตอร์แข่งโกะชนะมนุษย์อยู่แล้ว ตอนเป็นนักศึกษาปริญญาเอกสาขาAIที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอน ผมเป็นลูกศิษย์ของราช เรดดี นักวิจัย AI รุ่นบุกเบิก ตอนปี 1986 ผมสร้างซอฟต์แวร์ที่เอาชนะแชมป์โลกในเกมโอเธลโลได้เป็นตัวแรก โอเธลโลเป็นเกมกระดานคล้ายโกะแต่ง่ายกว่าบนกระดานขนาด8x8ช่อง มันเป็นความส�าเร็จพอตัวเลยในขณะนั้นแต่เทคโนโลยีนั้นก็ยังไม่พร้อม ที่จะแก้ปัญหาอื่นใดนอกจากแข่งขันเกมง่ายๆ จากนั้นในปี1997คอมพิวเตอร์DeepBlueของบริษัทไอบีเอ็ม ได้ชนะแกร์รี คาสปารอฟ แชมป์โลกหมากรุก ผู้ได้รับสมญานามว่า “ปราการด่านสุดท้ายของสมอง”เหตุการณ์นั้นได้ก่อให้เกิดความกังวลว่า หุ่นยนต์ที่ฉลาดมากๆ อาจเข้าปกครองมนุษย์… แต่นั่นก็ไม่ได้ท�าให้ ราคาหุ้นของ IBM เพิ่มสูงขึ้นแต่อย่างใด AI ยังคงถูกน�าไปประยุกต์ใช้ น้อยมาก ผ่านไปหลายสิบปีนักวิจัยก็ยังไม่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงชนิด พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ออกมา
  • 21. บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ 21 Deep Blue ใช้วิธี “หักดิบ” เพื่อเอาชนะมนุษย์ โดยอาศัย คอมพิวเตอร์ราคาแพงมาก อีกทั้งมีแชมป์หมากรุกมาช่วยใส่แนว ค�าตอบเข้าไปในซอฟต์แวร์ด้วย แน่นอนว่าชัยชนะครั้งนี้เป็นผลงานอันน่าภาคภูมิใจในวงการ วิศวกรรม แต่เอาจริงๆ มันก็แค่ใช้เทคโนโลยีที่มีมานานแล้วมาท�างาน ภายใต้กรอบที่จ�ากัดอย่างมากก็เท่านั้น ถ้า Deep Blue ไม่ได้ถูกใช้ วิเคราะห์เกมหมากรุก 8x8 ช่องนี้แล้ว ความฉลาดของมันก็จะไม่ หลงเหลืออยู่เลย อาชีพเดียวที่มันจะแย่งได้ก็คือแชมป์โลกหมากรุก เท่านั้นเอง แต่ปัจจุบันทุกสิ่งเปลี่ยนไป การแข่งขันของเค่อเจี๋ยเกิดขึ้น บนกระดานโกะก็จริง แต่มันเชื่อมโยงถึงการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวง ในโลกแห่งความเป็นจริง ทั้งกระแส AI จีนที่ลุกโชนขึ้นทั้งเทคโนโลยี ที่อยู่เบื้องหลังความส�าเร็จของมัน AlphaGo มีการท�างานแบบดีพเลิร์นนิ่ง (Deep Learning) ดีพเลิร์นนิ่งเป็น AI ชนิดใหม่ที่เก่งกว่าเดิมแบบก้าวกระโดด ทุกวันนี้ AI ที่ท�างานแบบดีพเลิร์นนิ่งมีความล�้าหน้ากว่ามนุษย์ในการแยกแยะ ใบหน้า จดจ�าเสียง และอนุมัติเงินกู้ ตอนนี้ยุค AI ที่ดูจะอยู่ไกล เกินเอื้อมเสมอได้มาถึงแล้ว มันจะท�าให้เศรษฐกิจเติบโตอย่าง ก้าวกระโดดพร้อมส่งผลต่อผู้คนอย่างลึกซึ้งเพราะAIก�าลังเข้ามาแย่ง งานเราในทุกธุรกิจ ในระหว่างการแข่งขันของเค่อเจี๋ย สิ่งที่ผมกลัวไม่ใช่หุ่นยนต์ นักฆ่าเหมือนในหนัง แต่เป็นปีศาจในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งจะถูก ปลุกขึ้นมาในรูปของคนตกงานมหาศาลและความวุ่นวายในสังคม
  • 22. AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา 22 การแย่งงานจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดการณ์มันจะ ไม่แบ่งแยกคนรวยหรือจน แต่จะส่งผลกระทบทั้งแรงงานที่มีฝีมือ และไม่มีฝีมืออย่างถ้วนหน้า ในวันที่ AlphaGo ปะทะกับเค่อเจี๋ยนั้น ดีพเลิร์นนิ่งได้โค่น ผู้เล่นโกะที่เก่งที่สุดของมนุษยชาติ และมันก็ก�าลังคืบคลานเข้าไปใน โรงงานและในออฟฟิศของคุณ จิตวิญญาณในเกมโกะ แต่ในการแข่งขันเดียวกันนั้นผมก็ยังเห็นความหวังอยู่ผ่านไป2ชั่วโมง กับ 51 นาที เค่อเจี๋ยเจอทางตัน เขางัดทุกอย่างออกมาใช้แล้ว แต่เขา รู้ว่ามันยังไม่พอ ขณะโน้มตัวอยู่เหนือกระดาน เขาท�าปากจู๋ คิ้วของเขา เริ่มกระตุก เพราะรู้ตัวว่าไม่สามารถเก็บอารมณ์ไว้ได้อีกต่อไป เขาถอดแว่นตาออก แล้วใช้หลังมือปาดน�้าตาจากดวงตาทั้ง สองข้าง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเสี้ยววินาที แต่ทุกคนก็รับรู้ถึงอารมณ์ของ เค่อเจี๋ยได้ หยาดน�้าตานั้นช่วยดึงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจและการเอาใจ ช่วยออกมาให้เค่อเจี๋ยอย่างท่วมท้น ตลอดการแข่งขัน 3 ยกที่ผ่านมา อารมณ์ความรู้สึกของเค่อเจี๋ยขึ้นสุดลงสุดอยู่หลายรอบ ทั้งมั่นใจ วิตก กลัว มีความหวัง และผิดหวัง ทั้งหมดนั้นสะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่ง
  • 23. บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ 23 การต่อสู้ของเขาแต่สิ่งที่ผมเห็นคือความรักโกะอย่างสุดหัวใจแม้จะรู้ว่า เอาชนะคู่ต่อสู้ไม่ได้ ฝ่ายคนที่เฝ้าดูเค่อเจี๋ยก็ให้ใจเขากลับคืนเช่นกัน AlphaGo อาจชนะการแข่งขัน แต่เค่อเจี๋ยชนะใจผู้ชม แล้วผม ก็เริ่มมองเห็นว่ามนุษย์จะค้นพบงานและความหมายของชีวิตในยุค แห่ง AI ได้อย่างไร ผมเชื่อว่าการประยุกต์ใช้ AI อย่างมีชั้นเชิงจะเป็นโอกาสส�าคัญ ที่สุดของจีนในการไล่ตามอเมริกาหรืออาจแซงหน้าด้วยซ�้าแต่ที่ส�าคัญ กว่านั้นคือการเปลี่ยนแปลงนี้จะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้กลับมาค้นพบว่า “อะไรที่ท�าให้เราเป็นมนุษย์” แต่ก่อนอื่นเราต้องรู้จักพื้นฐานของเทคโนโลยีนี้ และรู้ว่า มันจะมาเปลี่ยนโลกของเราได้อย่างไร ประวัติโดยย่อของดีพเลิร์นนิ่ง นับตั้งแต่AIถือก�าเนิดขึ้นมามันได้ผ่านยุครุ่งเรืองและตกต�่าหลายรอบ มีทั้งการค้นพบที่ใหญ่ยิ่ง ตามติดมาด้วย “ฤดูหนาวอันเยือกเย็น” ที่ท�าให้การลงทุนใน AI หยุดชะงัก เพราะผิดหวังว่ามันใช้จริงไม่ได้ หลังจากนั้นจึงมีดีพเลิร์นนิ่งเกิดขึ้นในที่สุด ย้อนกลับไปช่วงกลางปี 1950 บรรดาผู้บุกเบิก AI ได้ตั้งภารกิจ ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา นั่นก็คือ การใช้จักรกลเลียนแบบสมองของมนุษย์
  • 24. AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา 24 มันดึงดูดเหล่ายอดฝีมือในวงการคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่ ให้เข้ามามีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นมาร์วิน มินสกี, จอห์น แมคคาร์ธี และ เฮอร์เบิร์ต ไซมอน ตอนที่ผมเรียนปริญญาตรีสาขาคอมพิวเตอร์อยู่ที่มหาวิทยาลัย โคลัมเบียในนิวยอร์ก เรื่องของ AI ทั้งหมดที่กล่าวมาท�าให้จินตนาการ ของผมบรรเจิดผมเกิดในไต้หวันช่วงต้นทศวรรษที่1960แต่ย้ายไปอยู่ รัฐเทนเนสซีตอนอายุ 11 ขวบและเรียนจบชั้นมัธยมที่นั่น พอผมเรียนจบมหาวิทยาลัย ผมรู้ตัวว่าผมอยากศึกษาเรื่อง AI ให้กระจ่างตอนผมสมัครเรียนปริญญาเอกด้านคอมพิวเตอร์เมื่อปี1983 ผมเขียนบรรยายไว้ใหญ่โตว่า AI คือการรู้แจ้งกระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์ คือการท�าให้กระบวนการคิดของมนุษย์จับต้องได้ คือการอธิบายพฤติกรรมมนุษย์ และคือการท�าความ เข้าใจสติปัญญา มันคือก้าวสุดท้ายของการรู้จักตัวเอง ของเรา และผมอยากมีส่วนร่วมกับเทคโนโลยีน้องใหม่ แต่มีศักยภาพนี้ ข้อเขียนนี้ท�าให้ผมได้เข้าไปเรียนในภาควิชาคอมพิวเตอร์ชั้น แนวหน้าที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอนที่นี่เป็นแหล่งรวมงานวิจัยAI ที่ทันสมัย และยังเป็นที่ที่เผยความไร้เดียงสาของผมแบบเต็มๆ ผมประเมินความสามารถของเราในการสร้าง AI เหนือมนุษย์สูงไป และประเมินพลังของ AI ในการเปลี่ยนโลกต�่าเกินไป
  • 25. บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ 25 ตอนที่ผมเรียนปริญญาเอก ศาสตร์ของ AI แบ่งออกเป็น 2 สาย ได้แก่ สายตั้งกฎ สาย Neural Networks นักวิจัยในสายตั้งกฎ จะสอนคอมพิวเตอร์ให้คิดโดยบอก “กฎการคิด” เข้าไปเลยว่าถ้าเกิด A ก็ให้ท�า B วิธีนี้ใช้ได้ผลดีกับ งานง่ายๆ และมีขอบเขตแน่นอน แต่จะไม่ได้ผลถ้าความเป็นไปได้ หรือทางเลือกมีมากมายมหาศาลนักวิจัยสายนี้จะคอยถามผู้เชี่ยวชาญ ด้านต่างๆ เพื่อใส่กฎเข้าไป ให้คอมพิวเตอร์มีวิธีคิดใกล้เคียงกับ สถานการณ์ในโลกจริงมากที่สุด แต่นักวิจัยสาย Neural Networks ใช้อีกวิธี แทนที่จะสอนกฎ ต่างๆ ที่มนุษย์คิดขึ้นให้คอมพิวเตอร์ พวกเขากลับพยายามสร้างสมอง มนุษย์ขึ้นมาเลย เนื่องด้วยเครือข่ายอันซับซ้อนของเซลล์สมองคือ ต้นก�าเนิดของความฉลาด นักวิจัยสายนี้จึงคิดว่าจัดการที่ต้นตอเลย ดีกว่า พวกเขาออกแบบคอมพิวเตอร์เป็นชั้นๆ ที่รับส่งข้อมูลได้เหมือน เซลล์สมองตามธรรมชาติของมนุษย์เรา แนวทางนี้ไม่เหมือนสายตั้งกฎตรงที่เราจะไม่บอกวิธีตัดสินใจ ให้คอมพิวเตอร์ แต่จะป้อนข้อมูลมหาศาลให้ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ การเดินหมาก หรือเสียงเข้าไป แล้วปล่อยให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้จาก ข้อมูลเหล่านั้นเอง พูดอีกอย่างหนึ่งคือ ยิ่งมนุษย์แทรกแซงการท�างาน ของมันน้อยเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น
  • 26. AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา 26 สมมติเราอยากรู้ว่า“ภาพนี้มีแมวไหม?”ถ้าเป็นสายตั้งกฎเราก็ จะใส่กฎ“ถ้า-แล้ว”เข้าไปเพื่อช่วยตัดสินใจเช่น“ถ้ามีสามเหลี่ยม2รูป อยู่บนวงกลมก็น่าจะมีแมวในรูปภาพ”แต่ถ้าเป็นวิธีNeuralNetworks เราก็จะป้อนรูปภาพทั้งที่ “มีแมว” และ “ไม่มีแมว” เป็นล้านๆ ภาพ เพื่อให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้ด้วยตัวเองว่า ภาพแบบไหนถือว่า “มีแมว” ช่วงแรกๆ Neural Networks ให้ผลลัพธ์ที่ดูดีและสร้างความตื่นเต้น แต่แล้วนักวิจัยสายตั้งกฎก็โต้กลับ โดยบอกว่ามันใช้งานจริงไม่ได้ แนวทางนี้จึงเสื่อมความนิยมและถูก “แช่แข็ง” ไปในปี 1970 ตลอด หลายสิบปีหลังจากนั้น Neural Networks ได้รับความสนใจเป็นพักๆ ก่อนจะแทบถูกลืมเลือนไป สิ่งที่ท�าให้ Neural Networks ฟื้นคืนชีพ และจุดประกายความ รุ่งเรืองของ AI ในปัจจุบันขึ้นมา คือการเปลี่ยนแปลงของปัจจัย 2 ข้อ ที่ถูกป้อนให้NeuralNetworksร่วมกับการค้นพบครั้งใหญ่อีกหนึ่งอย่าง โดยปัจจัย 2 ข้อแรกที่ว่าคือ ข้อมูล คอมพิวเตอร์ที่รวดเร็ว คอมพิวเตอร์เรียนรู้จากข้อมูลยิ่งข้อมูลมากมันยิ่งฉลาดขึ้นและ ยิ่งถ้าตัวคอมพิวเตอร์รวดเร็วมันยิ่งประมวลผลข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง ทั้งข้อมูลและความเร็วของคอมพิวเตอร์ไม่ได้มีมากมายในช่วง ปี1950แต่ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้วปัจจุบันสมาร์ทโฟนของคุณมีพลัง
  • 27. บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ 27 ประมวลผลที่เหนือกว่าคอมพิวเตอร์ล�้ายุคที่นาซาใช้ส่งนีลอาร์มสตรอง ขึ้นไปเดินบนดวงจันทร์เมื่อปี 1969 เสียอีก ในอีกด้านอินเทอร์เน็ตได้สร้างข้อมูลดิจิทัลทุกชนิดทั้งข้อความ รูปภาพ วิดีโอ คลิก การซื้อสินค้า ทวีต และอื่นๆ ซึ่งเมื่อน�าทั้งหมดนั้น มารวมกัน เราก็จะมีข้อมูลที่หลากหลายส�าหรับสอน AI อีกทั้งยังมี คอมพิวเตอร์คุณภาพสูงราคาถูกจ�านวนมากไว้ประมวลผล แต่นั่นยังไม่เพียงพอครับ เพราะ Neural Networks ในอดีตมี ความสามารถที่จ�ากัดมากค�าตอบที่แม่นย�าส�าหรับปัญหาที่ซับซ้อนต้อง อาศัยเซลล์สมองประดิษฐ์หลายต่อหลายชั้นแต่นักวิจัยยังไม่รู้วิธีสร้าง เครือข่าย Neural Networks ที่ซับซ้อนอย่างมีประสิทธิภาพ จนกระทั่งกลางช่วงปี 2000 เจฟฟรีย์ ฮินตัน ได้ค้นพบเทคนิค สร้าง Neural Networks ที่ซับซ้อนและทรงพลัง เขาเรียกเทคนิคใหม่นี้ ว่า “ดีพเลิร์นนิ่ง” มันเป็น AI รุ่นใหม่ที่เก่งกว่าเดิมหลายเท่า มันเรียนรู้ ค�าพูดได้ มันแยกแยะภาพวัตถุออกมันฉลาดเหลือเชื่อในแทบทุกด้าน ที่เอาไปใช้ หลังจากหลบอยู่ในมุมมืดของการวิจัย AI อยู่นานหลายสิบปี NeuralNetworksในรูปของดีพเลิร์นนิ่งก็ได้รับความสนใจในชั่วข้ามคืน การพลิกโฉมครั้งนี้ได้น�าAIออกจากยุคน�้าแข็งและเป็นการน�าพลังAI มาใช้ในโลกจริงได้เป็นครั้งแรก นักวิจัย นักอนาคต และซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยีเริ่มพูดถึง ความเป็นไปได้มหาศาลของศาสตร์นี้ส�าหรับการถอดรหัสค�าพูดมนุษย์ แปลเอกสารแยกแยะรูปภาพท�านายพฤติกรรมผู้บริโภคตรวจจับการ
  • 28. AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา 28 ปลอมแปลงตัดสินใจปล่อยกู้ท�าให้หุ่นยนต์“มองเห็น”หรือแม้แต่ขับรถ ผู้คนตื่นเต้นกับดีพเลิร์นนิ่ง เพราะมันสามารถน�าไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจ�าวันได้มากมายนั่นคือเหตุผลที่กูเกิลและเฟซบุ๊กเร่งรีบคว้า ตัวผู้เชี่ยวชาญดีพเลิร์นนิ่งที่มีอยู่หยิบมือมาอยู่กับตนด้วยค่าจ้างหลาย ล้านดอลลาร์ เพื่อมาท�าโครงการวิจัยสุดท้าทาย ในปี 2013 กูเกิลซื้อสตาร์ทอัพที่ก่อตั้งโดยเจฟฟรีย์ ฮินตัน และ ปีต่อมาก็ซื้อสตาร์ทอัพสัญชาติอังกฤษชื่อ ดีพมายด์ (ที่เป็นผู้สร้าง AlphaGo ในภายหลัง) ด้วยเงินมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ สิ่งที่ได้ จากโครงการเหล่านี้สร้างความตื่นเต้นแก่ผู้ติดตามและเป็นข่าวพาดหัว อยู่ตลอดเวลามันเปลี่ยนวัฒนธรรมแห่งยุคสมัยและท�าให้เราสัมผัส ได้ถึงยุคใหม่ที่ใกล้เข้ามา อันเป็นยุคที่ AI จะส่งเสริมมนุษย์ ...หรือ ทดแทนมนุษย์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
  • 29. บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ 29 ผู้น�าที่แท้จริงในด้าน AI แล้วจีนมีบทบาทในเรื่องนี้อย่างไร?เรื่องราวการถือก�าเนิดของดีพเลิร์นนิ่ง เกิดขึ้นในอเมริกา แคนาดา และอังกฤษเกือบทั้งหมด นอกนั้นก็มี นักธุรกิจและนักลงทุนจีนกลุ่มเล็กๆ อย่างผม แต่ชุมชนเทคโนโลยีจีน ส่วนใหญ่ไม่ได้ตื่นตัวกับการปฏิวัติดีพเลิร์นนิ่งจนกระทั่งเกิดช่วงเวลา สปุตนิกในปี 2016 มหาวิทยาลัยและบริษัทเทคโนโลยีอเมริกันได้ประโยชน์จากการที่ อเมริกาสามารถดึงดูดคนเก่งๆจากทั่วโลกมาท�างานมานานหลายสิบปี แล้วความก้าวหน้าในด้านAIก็ไม่ต่างกันอเมริกาตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะ เป็นผู้น�าในเรื่องนี้ ซึ่งคงไม่หนีไปไหน เพราะอเมริกามีทั้งเหล่านักวิจัย หัวกะทิ ความพร้อมเรื่องเงินทุน วัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร และบริษัท เทคโนโลยียักษ์ใหญ่คอยสนับสนุน ในสายตาของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ เทคโนโลยีจีนคงจะเล่น บทบาทเดิมในโลก AI เหมือนที่เคยท�ามาหลายสิบปีที่ผ่านมา นั่นคือ เป็นนักก๊อปปี้ที่ไล่ตามหลังความทันสมัยของตะวันตก ผมจะเล่าในบทต่อๆไปว่านักวิเคราะห์เหล่านั้นคิดผิดพวกเขาคาดการณ์ บนความเชื่อที่ล้าสมัยเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีของจีน รวมถึงเข้าใจผิดเกี่ยวกับพลังที่ผลักดันการปฏิวัติ AI ที่ก�าลังด�าเนินอยู่ โลกตะวันตกอาจจุดประกายดีพเลิร์นนิ่งขึ้นมาแต่จีนจะได้รับประโยชน์ จากไฟที่ลุกโชนนี้มากที่สุด เหตุผลเกิดจาก 2 สิ่ง คือ
  • 30. AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา 30 การเปลี่ยนจากยุคทฤษฎีเป็นยุคแห่งการประยุกต์ใช้ จุดจบของ“ยุคแห่งผู้เชี่ยวชาญ”มาเข้าสู่ยุคสมัยของ ข้อมูล ต้นตอของความเชื่อผิดๆ ว่าอเมริกายังได้เปรียบด้าน AI คือ หลายคนยังคิดว่าเราอยู่ในยุคทฤษฎี(ข้อ1)ซึ่งต้องการนักวิจัยอัจฉริยะ มาไขปริศนาลี้ลับสื่อต่างๆชอบประโคมข่าวความสามารถล่าสุดของAI อย่างไม่ขาดสายเช่นAIวินิจฉัยมะเร็งได้เก่งกว่าหมอ,AIเล่นโป๊กเกอร์ ชนะเซียนไพ่จอมบลั๊ฟ,AIเรียนรู้เองได้โดยมนุษย์ไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว ฯลฯ ด้วยข่าวดังท�านองนี้ ผู้เสพข่าวทั่วไป หรือแม้แต่นักวิเคราะห์ ที่มีประสบการณ์ จึงยังคงเชื่อว่าเราก�าลังค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่ส�าคัญๆ ใน การวิจัย AI อยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่เลย ความส�าเร็จที่เป็นข่าวพวกนั้น เป็นแค่การ ประยุกต์ใช้การค้นพบที่ส�าคัญเมื่อสิบปีก่อน (ดีพเลิร์นนิ่ง) กับ ปัญหาใหม่ๆ เท่านั้นเอง จริงอยู่คุณต้องใช้คนจบปริญญาเอกที่เก่งเลข มาวิเคราะห์ข้อมูล แต่มันก็เท่านั้น มันไม่ใช่การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ อีกแล้ว มันคือการประยุกต์ใช้ทฤษฎีกับปัญหาต่างๆ ในโลกจริงต่างหาก
  • 31. บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ 31 ยุคแห่งการประยุกต์ใช้ โลกของเราก�าลังจะเข้าสู่การประยุกต์ใช้ AI ชนิดดีพเลิร์นนิ่งตั้งแต่ วินิจฉัยโรคเลือกประกันให้ลูกค้าขับรถไปจนถึงแปลประโยคภาษาจีน เป็นอังกฤษที่อ่านเข้าใจได้ มันไม่ใช่การคิดค้น “สุดยอด AI อัจฉริยะ” หรือการพลิกโฉมวงการในระดับเดียวกับดีพเลิร์นนิ่ง ยุคนี้คือยุคแห่งการประยุกต์ใช้และบริษัทที่ท�าเงินในยุคนี้จ�าเป็น ต้องมีผู้ประกอบการ วิศวกร และผู้จัดการที่มีความสามารถ แอนดรูว์ อึ้ง ผู้บุกเบิกดีพเลิร์นนิ่ง เคยเปรียบเทียบ AI กับการ ประยุกต์ใช้ไฟฟ้าของโธมัสเอดิสันว่ามันคือเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลก ครั้งใหญ่ และปฏิวัติวงการธุรกิจต่างๆ อีกเป็นสิบ เช่นเดียวกับที่คนในศตวรรษที่ 19 เริ่มประยุกต์ใช้ไฟฟ้ากับ การท�าอาหาร การสร้างแสงสว่างในห้อง และการเป็นพลังขับเคลื่อน เครื่องจักรอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ AI ในปัจจุบันก็เดินตามรอย เดียวกันโดยใช้ดีพเลิร์นนิ่ง ยุคของงานวิจัย AI ที่ยากและจับต้อง ไม่ได้สิ้นสุดลงแล้ว และตอนนี้ก็ได้เวลาที่นักธุรกิจหัวใสจะลงมือ เปลี่ยนสูตรเลขยากๆ ให้เป็นธุรกิจที่ยั่งยืน แต่นั่นไม่ได้ลดทอนความตื่นเต้นกับ AI ในปัจจุบันลงเลย การ ประยุกต์ใช้คือการท�าให้ความก้าวหน้าทางวิชาการมีความหมายขึ้นมา ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจ�าวันของพวกเราไปอย่างถาวร ยุค แห่งการประยุกต์ใช้จะท�าให้เราได้เห็นคุณค่าจริงของ AI หลังการวิจัย หลายสิบปี นี่คือสิ่งที่ผมเฝ้ารอมาตลอดชีวิต
  • 32. AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา 32 โลกได้เปลี่ยนจากยุคแห่งทฤษฎีเป็นยุคแห่งการประยุกต์ใช้แล้ว นี่คือหัวใจส�าคัญของการเข้าใจว่าAIจะเปลี่ยนแปลงชีวิตเราไปอย่างไร และใครหรือประเทศไหนจะเป็นผู้ขับเคลื่อนความก้าวหน้าที่ส�าคัญ ในยุคแห่งทฤษฎี ความก้าวหน้าถูกผลักดันโดยอัจฉริยะกลุ่ม เล็กๆ เท่านั้น ซึ่งทุกคนอยู่ในอเมริกาหรือไม่ก็แคนาดา พวกเขาใช้ สติปัญญาที่ลึกล�้าสร้างนวัตกรรมทางปัญญาที่เพิ่มพูนศักยภาพให้กับ คอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็วและรุนแรง นับตั้งแต่มีดีพเลิร์นนิ่งเกิดขึ้น เป็นต้นมา ก็ไม่มีกลุ่มนักวิจัยหรือวิศวกรกลุ่มใดที่สร้างนวัตกรรมใน ระดับที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นอีกเลย ยุคสมัยแห่งข้อมูล มาถึงการเปลี่ยนแปลงที่ส�าคัญอย่างที่สองนั่นคือการเปลี่ยนจากยุคของ ผู้เชี่ยวชาญมาเป็นยุคของข้อมูลโดยAIที่จะประสบความส�าเร็จในทุก วันนี้ต้องอาศัย 3 สิ่ง ข้อมูลจ�านวนมหาศาล คอมพิวเตอร์ที่รวดเร็ว วิศวกรที่เก่งแต่ไม่ต้องถึงขั้นอัจฉริยะ
  • 33. บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ 33 การน�าพลังของดีพเลิร์นนิ่งมาแก้ปัญหาใหม่ๆ จ�าเป็นต้องใช้ ทั้ง 3 สิ่ง แต่ข้อมูลคือแกนหลัก เพราะเมื่อคอมพิวเตอร์และวิศวกรดี พอใช้ได้ระดับหนึ่ง ปริมาณข้อมูลจะเป็นตัวตัดสินประสิทธิภาพและ ความแม่นย�าโดยรวมของตัว AI ไม่มีค�าว่าข้อมูลมากเกินไปส�าหรับดีพเลิร์นนิ่ง ยิ่งมากยิ่งดี มันจะยิ่งช่วยให้ AI เก่งกาจและแม่นย�าขึ้น ขอแค่มีข้อมูลมหาศาล วิศวกรระดับกลางๆก็สร้างAIที่ดีกว่าอัจฉริยะระดับโลกได้การที่คุณมี ผู้เชี่ยวชาญชั้นน�าอยู่ในมือไม่ใช่สิ่งส�าคัญอีกต่อไปแล้ว นักวิจัย AI อัจฉริยะยังคงมีศักยภาพในการยกระดับวงการต่อ ไปอีกขั้นแต่ความก้าวหน้าในระดับนั้นจะเกิดขึ้นหนึ่งครั้งในรอบหลาย สิบปีซึ่งในระหว่างรอปรากฎการณ์อันยิ่งใหญ่ครั้งใหม่ดีพเลิร์นนิ่งก็จะ ส่งผลเปลี่ยนแปลงธุรกิจนับไม่ถ้วนทั่วโลก ด้วยข้อมูลที่มากขึ้นเรื่อยๆ กลับเป็นจีนที่เหนือกว่า เมื่อ100ปีก่อนการน�าไฟฟ้าที่เพิ่งถูกค้นพบใหม่มาใช้ต้องอาศัยปัจจัย 4 ประการ น�้ามันหรือถ่านหินเพื่อผลิตไฟฟ้า นักธุรกิจที่กล้าลุย
  • 34. AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา 34 วิศวกรไฟฟ้า รัฐบาลที่คอยสนับสนุน ตอนนี้การใช้ AI หรือ “ไฟฟ้าแห่งศตวรรษที่ 21” ก็ต้องอาศัย ปัจจัย 4 ประการเช่นกัน ข้อมูลมหาศาล นักธุรกิจที่กล้าลุย วิศวกรซอฟต์แวร์ รัฐบาลที่คอยสนับสนุน ซึ่งเมื่อดูจุดแข็งในปัจจัยทั้งสี่ดังกล่าวของจีนและอเมริกา เราก็ ท�านายถึงสมดุลแห่งอ�านาจที่ก�าลังจะเกิดขึ้นในโลกใหม่ได้ การเปลี่ยนแปลงทั้งสองด้านที่เราคุยกันไปท�าให้ความได้เปรียบเอนเอียง ไปทางจีน เพราะมันทั้งช่วยกลบจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งให้จีน การที่ยุคสมัยของ AI เปลี่ยนจากทฤษฎีเป็นการประยุกต์ใช้ ช่วยปิดจุดอ่อนที่คนจีนมักไม่คิดตั้งค�าถามวิจัยนอกกรอบและผลักดัน “นักธุรกิจข้างถนน”ที่เป็นจุดแข็งของจีนให้ขึ้นมาสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้การที่โลกเปลี่ยนจากยุคผู้เชี่ยวชาญเป็นยุคของข้อมูลท�าให้ จีนไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีนักวิจัยหัวกะทิระดับโลก และยังช่วยเสริม น�้าหนักสิ่งที่จีนมีอยู่เหลือล้น นั่นคือ “ข้อมูล” ธุรกิจสตาร์ทอัพในซิลิคอนวัลเลย์ได้ชื่อว่าเป็นพวกท�างานหนัก ติดอันดับของอเมริกา พวกเขาคือผู้ก่อตั้งบริษัทรุ่นหนุ่มสาวที่มีความ
  • 35. บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ 35 หลงใหล ท�างานโต้รุ่งเพื่อเข็นผลิตภัณฑ์ออกมา จากนั้นก็พัฒนา ผลิตภัณฑ์นั้นไม่หยุด แล้วก็ยังคงมองหาโอกาสทองครั้งต่อไป จริงอยู่ที่คนที่นั่นท�างานหนัก แต่จากที่ผมเคยใช้เวลาหลายสิบ ปีอยู่ทั้งในซิลิคอนวัลเลย์และจีนท�างานกับแอปเปิลไมโครซอฟท์และ กูเกิล ก่อนจะมาลงทุนในสตาร์ทอัพจีนหลายสิบแห่ง ผมว่าคนใน ซิลิคอนวัลเลย์ดูจะเป็นคนขี้เกียจเมื่อเทียบกับที่จีน นักธุรกิจอินเทอร์เน็ตของจีนที่ขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ล้วนไม่ธรรมดา พวกเขาอยู่ภายใต้บรรยากาศการแข่งขันที่รุนแรงที่สุดในโลก มันคือ สมรภูมิที่ความเร็วคือหัวใจการก๊อปปี้คือเรื่องปกติและคู่แข่งตามไล่ล่า คุณไม่ปล่อย ทุกวันในสตาร์ทอัพของจีนคือการลุยไฟพิสูจน์ตัวเอง เหมือน นักรบกลาดิเอเตอร์ในสนามประลองการต่อสู้นั้นมีชีวิตเป็นเดิมพันและ คู่ต่อสู้ของคุณไม่มีค�าว่าจริยธรรมในหัวใจ ทางเดียวที่จะอยู่รอดในการห�้าหั่นดังกล่าว คือการพัฒนาธุรกิจ อย่างต่อเนื่อง สร้างนวัตกรรม ปรับเปลี่ยนไอเดีย และสร้างปราการ ป้องกันบริษัทของคุณ ถ้าข้อได้เปรียบอย่างเดียวของคุณคือไอเดีย พริบตาเดียวไอเดียนั้นก็จะถูกลอก พนักงานของคุณจะถูกคู่แข่งซื้อตัว และคุณจะถูกเขี่ยทิ้งออกจากธุรกิจโดยคู่แข่งที่มีเงินทุนเหนือกว่า บรรยากาศที่ดุเดือดเลือดพล่านเช่นนี้ตรงข้ามโดยสิ้นเชิงกับ ซิลิคอนวัลเลย์ ที่การลอกเลียนแบบเป็นเรื่องน่าอาย และหลายบริษัท อยู่ได้ด้วยไอเดียเดียวที่คิดขึ้นได้โดยบังเอิญ สภาพที่ไร้คู่แข่งท�าให้ พวกเขานิ่งนอนใจ ผู้ประกอบการจึงไม่คิดปรับปรุงธุรกิจ หรือต่อยอด
  • 36. AI SUPERPOWERS จีน อ กา หาอานาจ งน า อนา 36 จากไอเดียดั้งเดิมของตน ตลาดที่สับสนวุ่นวายกับกลวิธีสกปรกในยุค “จอมเลียนแบบ” ของจีนก่อให้เกิดบริษัทที่น่ากังขา แต่มันก็ได้บ่มเพาะนักธุรกิจที่ว่องไว เฉลียวฉลาด และท�างานหนักที่สุดในโลก พวกเขาเหล่านี้จะกลายมา เป็นอาวุธลับที่ช่วยให้จีนเป็นประเทศแรกที่ท�าเงินได้ในยุคสมัยแห่ง การประยุกต์ใช้ AI นักธุรกิจเหล่านี้จะเข้าถึง“ทรัพยากร”ของโลกเทคโนโลยีจีนนั่นคือ ข้อมูลมหาศาลจีนแซงหน้าอเมริกาไปแล้วในฐานะผู้ผลิตข้อมูลอันดับหนึ่ง ของโลก และไม่ใช่แค่ปริมาณนะครับ จีนยังมีรูปแบบเทคโนโลยีที่ ไม่เหมือนใคร (เหมือนอีกโลกหนึ่งที่มีสินค้าและบริการซึ่งที่อื่นในโลก ไม่มี) ท�าให้ข้อมูลถูกออกแบบมาไว้เพื่อให้บรรดาบริษัท AI ได้น�าไป หาเงินโดยเฉพาะ ถ้าเป็นไม่กี่ปีก่อนการเปรียบเทียบความก้าวหน้าของบริษัทอินเทอร์เน็ต จีนกับอเมริกาโดยตรงถือเป็นเรื่องปกติแล้วอเมริกาก็จะน�าหน้าจีนเล็ก น้อย แต่พอถึงประมาณปี 2013 อินเทอร์เน็ตของจีนก็เริ่มมีการ เปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่ง คือแทนที่จะเดินตามรอยหรือก๊อปปี้บริษัท อเมริกันดื้อๆ บรรดานักธุรกิจจีนกลับเริ่มสร้างสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นใน ซิลิคอนวัลเลย์ นักวิเคราะห์ที่พูดถึงจีนมักยกชื่อบริษัทในซิลิคอนวัลเลย์เวลา อธิบายถึงบริษัทจีน อย่าง “เฟซบุ๊กของประเทศจีน” หรือ “ทวิตเตอร์
  • 37. บทที่ 1 จีนทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ 37 ของประเทศจีน” เป็นต้น แต่มาในปีหลังๆ นี้ ค�าท�านองนั้นเริ่มใช้ไม่ได้ ในหลายกรณีอินเทอร์เน็ตของจีนได้แปรเปลี่ยนไปเป็นอีกจักรวาลหนึ่ง เรียบร้อยแล้ว คนในเขตเมืองของจีนเริ่มจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจ�าวันโดยใช้ QR Code ในโทรศัพท์มือถือ นี่คือการปฏิวัติวิธีช�าระเงินด้วยโทรศัพท์ มือถือแห่งเดียวในโลก เมืองต่างๆ ของจีนมีกองทัพคนส่งอาหารและ พนักงานนวดตามสั่งขี่สกูตเตอร์ไฟฟ้าอยู่เต็มท้องถนน คนเหล่านี้มาจากกระแสสตาร์ทอัพ“ออนไลน์สู่ออฟไลน์”(O2O) ที่น�าความสะดวกสบายของอีคอมเมิร์ซมาใช้กับบริการในโลกจริงอย่าง การขายอาหารหรือการเสริมสวยจากนั้นไม่นานก็ตามมาด้วยจักรยาน ให้เช่าสีสันสดใสนับล้านๆ คัน ที่ผู้ใช้สามารถจอดหรือน�าไปใช้ได้ทุกที่ ขอแค่สแกน QR Code จากโทรศัพท์มือถือของพวกเขาเท่านั้น ผู้ครองโลกที่เปลี่ยนไป การพัฒนาอันทรงพลังที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ก�าลังดึงสมดุลอ�านาจให้เอนเอียง ไปทางจีน แต่นั่นยังไม่พอ รัฐบาลจีนยังท�าทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดความ ได้เปรียบยิ่งขึ้นไปอีกรัฐบาลจีนต้องการเป็นมหาอ�านาจด้านAIพวกเขา จึงสนับสนุนและให้ทุนเพื่อวิจัย AI อย่างกว้างขวาง และที่ส�าคัญที่สุด คือ มันจะถูกใช้เป็นแนวทางให้รัฐบาลท้องถิ่นทั่วจีนด�าเนินตาม