พลังงาน
- 2. พลังงาน (Energy)
พลังงาน หมายถึง สิ่งที่ใช้เพื่อการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
หรือให้มีการเคลื่อนที่ของมวลสารจากสภาพหนึ่งไปอีกสภาพ
หนึ่ง
- 3. ประเภทของพลังงาน
1. พลังงานจากแร่เชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้แก่ ปิโตรเลียม
ถ่านหิน หินน้้ามัน สารกัมมันตรังสี เป็นต้น
2. พลังงานจากแร่ธรรมชาติ ได้แก่ พลังน้้า พลังงาน
แสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานความร้อนใต้พิภพ
3. พลังงานจากเชื้อเพลิงรูปอื่น เช่น ฟืน ถ่านไม้ ขี้เลื่อย แกลบ
ชานอ้อย เป็นต้น
- 4. • ถ่านหิน ( Coal )
ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิล ( Fossil fuel ) มีต้นกาเนิด มาจากการสะสม
ของอินทรียวัตถุ ( ซากพืช ) ที่ทับถมกันนานประมาณ 40 - 300 ล้านปี ถ่านหิน
มีส่วนประกอบของสารหลายชนิด โดยมีธาตุที่สาคัญ คือคาร์บอนถ่านหินชนิด
ใดมีเปอร์เซนต์ของธาตุคาร์บอนมากจะเป็นถ่านหินที่มีคุณภาพดี เผาไหม้แล้ว
ให้ความร้อนสูง ถ่านหินมี 4 ชนิด เรียงตามปริมาณคาร์บอนสูงไปต่า
ได้แก่ แอนทราไซต์ ( anthacite ) บิทูมินัส ( bituminous ) ลิกไนต์ ( lignite )
และถ่านพีท ( peat )
สาหรับถ่านหินที่พบในประเทศไทยเป็นถ่านหินที่พบว่ามีคุณภาพต่า อยู่ใน
ชั้นลิกไนต์และซับบิทูมินัส มีค่าความร้อนระหว่าง 2,800 - 5,200 กิโลแคลอรี่
ต่อกิโลกรัมหรืออาจกล่าวได้ว่าถ่านลิกไนต์ 2 - 3.7 ตันจะให้ค่าความร้อน
เท่ากับน้ามันเตา 1 ตัน
- 5. • ฟืนและถ่านไม้
ฟืนและถ่านไม้จัดเป็นเชื้อเพลิงเพื่อการยังชีพของมนุษย์ที่
เก่าแก่ที่สุด โดยเฉพาะประเทศด้อยพัฒนา ถึงแม้ประชาชนในเมือง
จะนิยมใช้พลังงานรูปอื่นๆ แทนไม้ฟืนและถ่านไม้แล้วก็ตาม แต่
ประชาชนในชนบทและในเมืองบางส่วนก็ยังนิยมใช้อยู่
การน้าไม้มาใช้เพื่อเป็นแหล่งความร้อนและพลังงานท้าให้ป่าไม้ปก
คลุมโลกอยู่ประมาณร้อยละ 20 ลดลงอย่างน่าเป็นห่วง ส่งผลกระทบ
ต่อสิ่งแวดล้อมมากมาย เป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มกับหน่วยความร้อนที่
ได้ จึงกล่าวได้ว่าฟืนและถ่านไม้เป็นแหล่งพลังงานที่ไม่น่าจะพัฒนา
ให้มีการใช้ในโลกปัจจุบัน
- 6. • วัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตร
ได้แก่ แกลบ ขี้เลื่อย ฟางข้าว ชานอ้อย ซังข้าวโพด
ฟางข้าวประมาณ 35 ล้านตัน และกากอ้อยประมาณ 7 ล้านตันมีศักยภาพ
ในเชิงความร้อนเทียบเท่าน้ามันดิบ 13.3 ล้านตันน้ามันดิบ
การนาวัสดุเหล่านี้มาเป็นเชื้อเพลิงสามารถกระทาได้หลายวิธี เช่น ใช้เป็น
เชื้อเพลิงโดยตรงในเตาเพื่อผลิตความร้อนในหม้อน้าหรือผลิตกระแสไฟฟ้า
และการทาเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่งแทนฟืน เป็นต้น ประโยชน์ที่ได้รับมีหลายทาง
เช่น ใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้มในครัวเรือนขับเคลื่อนเครื่องยนต์ ต้นกาลังสาหรับ
การสูบน้า ไถนา สีข้าว ผลิตกระแสไฟฟ้าและใช้ความร้อนในการอบพืช ใน
ปัจจุบันได้มีการวิจัย ค้นหาและพัฒนาให้สามารถนามาใช้ประโยชน์อย่างมี
ประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้จะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมทางด้านวิชาการ
เศรษฐกิจและสังคมด้านปัญหาสิ่งแวดล้อม ก่อนจะส่งเสริมให้มีการใช้กันอย่าง
แพร่หลายต่อไป