Experiential Family Therapy การให้การปรึกษาครอบครัวแบบประสบการณ์นิยม

1. EXPERIENTIA
L MODELS
การให้การปรึกษา
ครอบครัวแบบ
ประสบการณ์นิยม

2. EXPERIENCE หมายถึง
ประสบการณ์
----------------------------------
ประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้รับจากครอบครัวมี
ผลต่อสมาชิกในครอบครัวนั้นๆ

3. ผู้นำของทฤษฎีกำรให้
กำรปรึกษำแบบ
ประสบกำรณ์นิยม
Carl Whitaker
(1912 – 1995)
 ผู้นำของกำรให้กำรปรึกษำครอบครัวแบบ
ประสบกำรณ์นิยม (Family therapist)
 ผู้นำของกำรทำจิตบำบัดรำยบุคคล
(Individual psychotherapy)
 ใช้วิธีกำรให้คำปรึกษำเชิงรุก (Active
therapy)
 เน้นที่ควำมเจริญงอกงำมส่วนบุคคล
(Personal growth)
 กำรบำบัดครอบครัวแบบประสบกำรณ์นิยมเชิง
สัญลักษณ์ (Symbolic –
Experiential Family Therapy)

4. ผู้นำของทฤษฎีกำรให้
กำรปรึกษำแบบ
ประสบกำรณ์นิยม
Walter Kempler
(1923 – Died)
 ผู้เชี่ยวชำญกำรให้กำรปรึกษำครอบครัวแบบ
ประสบกำรณ์นิยม
 ผู้ร่วมก่อตั้ง Kempler Institute of
the Development Family
 เน้นที่ควำมต้องกำรของสมำชิกในครอบครัว แต่
ละคนต้องกำรอะไร และต้องกำรจำกใคร
 Existential (ภวนิยม) + Gestalt
Therapy
 Self-exploration / Self-
discovery / Self-discloser

5. THE FAMILY HOLDS THE
KEY TO THE PERSONAL
DEVELOPMENT OF IT
MEMBERS.ครอบครัวเป็ นกุญแจ หรือหัวใจสาคัญที่จะช่วยพัฒนาชีวิตของสมาชิกของครอบครัวของตน

6. ผู้นำของทฤษฎีกำรให้
กำรปรึกษำแบบ
ประสบกำรณ์นิยม
Virginia Satir
(1923 – 1988)
 นักสังคมสงเครำะห์หญิงชำวอเมริกำ
 เน้นกำรรักษำที่เรียกว่ำ “ครอบครัวบำบัด”
(Family Therapy)
 เน้นแบบแผนกำรสื่อสำรในครอบครัว
(Family communication
patterns)
 ผู้พัฒนำโมเดลกระบวนกำรกำรประเมินควำม
ตรงของกำรแสดงออกของมนุษย์ (The
Human Validation Process
Model)
 เป้ ำหมำยคือกำรพัฒนำจิตใจ, กำรเสริมสร้ำง
ควำมผำสุก (Wellness)

7. HEALI
NG
POWE
R OF
LOVEการบาบัดด้วย
พลังแห่งรัก

8. W e n e e d 4 h u g s a d a y f o r s u r v i v a l
W e n e e d 8 h u g s a d a y f o r m a i n t e n a n c e
W e n e e d 1 2 h u g s a d a y f o r g r o w t h
- V i r g i n i a S a t i r -

9. DYSFUNCTION
AL FAMILY
ครอบครัวที่มี
ปัญหา

10. แนวคิดของการให้การปรึกษาแบบ
EXPERIENTIAL FAMILY
THERAPY
เพราะแต่ละครอบครัวต่างมีลักษณะเฉพาะตัว มีประสบการณ์
ชีวิต และประสบปัญหาที่แตกต่างกันหรือคล้ายคลึงกัน
EFT
เข้ำใจและเข้ำถึง
ศักยภำพของ
ตนเอง
เรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนชีวิต
ตนเอง และพร้อมรับกำร
เปลี่ยนแปลง
เป็นตัวของตัวเอง
กำหนดชีวิตตัวเองได้

11. เป้ าหมายของการให้การปรึกษาแบบ
EXPERIENTIAL FAMILY
THERAPY
1. การแสดงความรู้สึก (Expression of feeling) และการสื่อสาร
ภายในครอบครัว (Communication)
2. การพัฒนาตนเอง (Self-development) และการมีวุฒิภาวะ
เพิ่มขึ้น รู้จักการจัดการกับปัญหา
3. การมีเป้ าหมายในชีวิต (Purpose in life) และการมี
ความสามารถในการตัดสินใจเลือกที่เหมาะสมและรู้จักรับผิดชอบ
4. การเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกันของสมาชิกในครอบครัวอย่างน้อย 3 รุ่น และ
สมาชิกแต่ละคนสามารถเข้าใจบทบาทและหน้าที่ของตนเอง

12. ขั้นตอนของการให้การปรึกษาแบบ
EXPERIENTIAL FAMILY
THERAPY
แบ่งออกเป็ น 4 ขั้นตอน ดังนี้
I. ระยะก่อนการบาบัดหรือระยะนัดหมายเพื่อขอรับการ
บาบัด (A pretreatment phase)
II. ระยะกลาง (The middle phase)
III. ระยะหลัง (A late phase)
IV. ระยะแยกจากกัน (A separation phase)

13. ระยะก่อนบาบัด (PRE-
TREATMENT PHASE)
• Make a
commitme
nt
สร้างข้อตกลงร่วมกัน
• Make its
own life
decisionสมาชิก
ในครอบครัวเป็ นผู้
ตัดสินใจชีวิตตนเอง

14. ระยะกลาง (THE MIDDLE
PHASE)
 ผู้บาบัดต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกครอบครัวครอบงา
 ผู้บาบัดทาหน้าที่ชี้แจงให้ครอบครัวเห็นภาพรวมทั้งเรื่องราว
 ผู้บาบัดต้องจริงใจ ตรงไปตรงมา เป็ นกลาง ใส่ใจความรู้สึก
 ใช้เทคนิคลาดับเหตุการณ์ของชีวิตครอบครัว แผนที่ครอบครัว
เผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆ การใช้เส้นเชือก การปั้น และ
การพัฒนาการสื่อสาร

15. ระยะหลัง (A LATE PHASE)
 ครอบครัวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
 ผู้บาบัดไม่ต้องช่วยเหลือมากนัก แค่ให้การ
ปรึกษาในบางเรื่อง หรือเฉพาะเรื่องที่จาเป็ น

16. ระยะแยกจากกัน (A
SEPARATION PHASE)
 ปัญหาคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
 ครอบครัวสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ พึ่งตัวเองได้
สามารถดาเนินชีวิตของตนเองได้
 ยุติการบาบัด

17. เทคนิคในการให้การปรึกษาแบบ
EXPERIENTIAL FAMILY
THERAPY
 Family – life fact chronology
 Family map
 Ropes
 Sculpture
 Joining
 Communication stances
 The Personal Iceberg Metaphor

18. การใช้เส้นเชือก
(Ropes
Technique)
 ระยะห่ำงของเส้น
เชือก
 ควำมตึงควำม
หย่อน
 เงื่อนปมของเส้น
เชือก
Family – life
fact
chronology
ประวัติศาสตร์ของ
ครอบครัว
Family Map

19. การปั้น
(Sculpture)
ขอให้ปั้นสมาชิกทุกคนใน
ครอบครัว รวมทั้งตัว
ผู้รับบริการด้วย และให้ปั้น
ด้วยว่าแต่ละคนกาลังทา
อะไร?
ผู้ให้บริการจะแปรผลจาก....
• ลักษณะของรูปปั้น
• ระยะห่างระหว่างรูปที่ปั้น
• สีหน้า ท่าทาง สายตาและกิจกรรมที่
แสดงออก

20. การเข้าร่วม
(Joining)
การติดตามร่องรอย
(Tracking)
• รวบรวม สำรวจปัญหำ
• ใช้เทคนิค คำถำมปลำยเปิด, กำร
สะท้อนควำมรู้สึก, กำรทวนคำ,
กำรให้ข้อมูลย้อนกลับ, กำรให้
กำลังใจ
การยืนยัน (Confirmatory)
หรือ การให้การสนับสนุน
(Supporting)
• ยืนยันควำมสำมำรถ ศักยภำพและข้อดี
ของผู้รับบริกำร
• กระตุ้นให้เขำมีพลังในกำรปรับเปลี่ยน
ตัวเองเพื่อครอบครัว

21. COMMUNICATION STANCES BY
SATIR
ท่าทีการสื่อสาร
INCONGRUENCE VS CONGRUENCE
Distractor
สายแบ๊ว
Super Reasonable
Person
มนุษย์หิน
Blamer
เจ๊ตลาดแตก
Placator
หนุ่มใบ้
ฝึกให้ผู้รับบริกำร รู้จักแสดงออกทั้งกำรใช้คำพูด สีหน้ำ
ท่ำทำง และจะสัมภำษณ์ควำมรู้สึกที่เกิดขึ้นภำยใน
จิตใจหลังกำรฝึก เพื่อให้ผู้รับบริกำรรู้จักปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงท่ำทีกำรสื่อสำรให้เหมำะสมยิ่งขึ้น
Leveler
คนกลาง

22. The Personal Iceberg Metaphor by
Virginia Satirเป้ าหมายของหลักจิต
บาบัดแบบซาเทียร์
1. ให้ผู้รับบริกำรยอมรับและ
ภูมิใจในตนเองมำกขึ้น
2. ให้ผู้รับบริกำรมีสติ คิดเป็น
มองให้ลึกลงไปถึงควำม
ต้องกำรที่แท้จริงภำยใน
จิตใจของตนเองได้
3. ใ ห้ ผู้ รั บ บ ริ ก ำ ร รู้ จั ก
รับผิดชอบต่ออำรมณ์ของ
ตนเอง ไม่หมกมุ่น ฟุ้ งซ่ำน
จมอยู่กับควำมทุกข์

23. PERSONAL ICEBERG
METAPHOR + STANCES
TECHNIQUESเทคนิคการตั้งคาถามเพื่อให้เข้าถึงผู้รับบริการ
Stance Personal Iceberg
1. พวกสมยอม (Placator) อำรมณ์ ควำมรู้สึก
(Feelings)
2. พวกชอบโทษผู้อื่น
(Blamer)
ควำมคำดหวัง
(Expectations)
3. พวกใช้เหตุใช้ผล (Super
Reasonable Person)
ควำมคิด ควำมเชื่อ ค่ำนิยม โดย
ผ่ำนกำรรับรู้
(Perceptions)
4. พวกเฉไฉ ไม่อยู่กับร่องกับรอย ควำมรู้สึกภำยในร่ำงกำย กำร

24. แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
EXPERIENTIAL FAMILY
THERAPY
 เอกสำรประกอบกำรเรียน ศ.ดร.ผ่องพรรณ เกิดพิทักษ์
 กำรทำจิตบำบัดโดยใช้ Satir Model โดย นงพงำ และ
นิดำ ลิ้มสุวรรณ
 เว็บไซด์สถำบันครอบครัวบำบัดซำเทียร์
http://www.satirpacific.org/therapy
 เสมสิกขำลัย http://semsikkha.org

25. BEING A FAMILY
MEANS YOU ARE PART
OF SOMETHING
VERY WONDERFUL.
MEANS YOU WILL LOVE
AND BE LOVED
FOR THE REST OF
YOUR LIFE
NO MATTER WHAT.