More Related Content
More from wattana072 (20)
WillPower
- 2. **1.บริษัท
Unilever เป็นบริษัทที่ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ระดับ Global ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นบริษัทที่มีคุณธรรม
เป็นที่รู้จักทั่วโลกมากว่า 100 ปีที่ตัดสินใจลงทุนทาเครือข่ายเพื่อขยายช่องทางการจัดจาหน่ายในประเทศไทย
เป็นครั้งแรกและด้วยความมั่นคงยิ่งใหญ่ของบริษัทซึ่งเน้นให้ความสาคัญกับการให้ความรู้เพื่อพัฒนา
คุณลักษณะและความรู้ด้านธุรกิจที่ถูกวิธีกับผู้คน จึงเป็นที่มั่นใจว่านี่แหล่ะคือองค์กรที่จะพาเราขยายธุรกิจได้
ทั่วโลกจริง ด้วยศักยภาพที่ถึงพร้อมทุกด้านของความเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Unilever
- 3. **2.สินค้า
Unilever Network เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จาเป็น เพราะต้องใช้ในชีวิตประจาวันที่มีการทุ่มงบประมาณ
ในการวิจัยเพื่อหานวัตกรรมใหม่ๆปีละกว่า 50,000 ล้านบาท จากศูนย์วิจัยกว่า 100 แห่งทั่วโลกทุกปีมีการ
จดสิทธิบัตรนวัตกรรมใหม่ๆ ปีละกว่า 300 สิทธิบัตรจนได้รับการขนานนามว่าเป็นเจ้าแห่งการวิจัย ที่มีทีม
ดร.ผู้เชี่ยวชาญ,ศาสตราจารย์ทางานในศูนย์วิจัยมากยิ่งกว่ามหาวิทยาลัยดังๆ อีก ทาให้นวัตกรรมมากมาย
ได้รับรางวัลระดับโลก เช่น รางวัลโนเบล ฯลฯ สินค้าเราจึงล้วนแต่เป็น Winning Products ในท้องตลาด
เพราะถ้าไม่ชนะ ก็ไม่นาออกขายจึงเป็นสุดยอดสินค้าที่วิจัยจากความต้องการผู้บริโภค Trend ของโลก เหมาะ
กับอากาศ สุขภาพปัญหาของผู้บริโภคเฉพาะคน ในราคาที่สมเหตุผล เมื่อผู้บริโภคเปิดใจใช้ก็ล้วนแต่กลับมา
ซื้อซ้าทาให้เกิดธุรกิจที่ยั่งยืนเพราะสินค้าขายตัวเอง ไม่ใช่ยัดเยียดให้ซื้อเป็นล๊อตแล้วคนไม่ประทับใจ ทาให้
ต้องหาคนใหม่ไปเรื่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้น Unilever มีแผนงานขยายยอดขายเติบโตเป็น 2 เท่า แต่ต้องการลด
มลภาวะสิ่งแวดล้อมให้เป็น 0 ให้ได้จึงมั่นใจว่าทุกครั้งที่มีการผลิตสินค้า วัตถุดิบ แพคเกจ หรือแม้แต่ขยะ
ล้วนเป็นสิ่งที่ถูกคิดค้นมาอย่างดีก่อนถึงมือผู้บริโภคและเพื่อยืนยันถึงการเป็นบริษัทต้นแบบในการอนุรักษ์
ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมให้ถึงรุ่นลูกหลานเรา กล่าวได้ว่า แม้เป็นขยะจากสินค้า Unilever ก็ยังเป็นมิตรต่อ
โลกใบนี้
- 4. **3.แผนการตลาด
Unilever I12 Compensation plan เป็นธรรมชาติ ยั่งยืนและที่สาคัญคือบริษัทจ่ายได้จริง ไม่มีเพดานที่จากัด จ่าย
ได้มาก, เร็ว และแรง หากเราสปีดทางานตั้งแต่ต้น ใครทางานมากก็ได้มาก ใครทางานได้น้อยแม้ว่าเป็นอัพไลน์ก็ใช่
จะรวยกกว่าทีมงานเสมอไปอยู่บนความยุติธรรม คนใหม่ ๆ เข้าก็มีรายได้และโบนัสต่างๆ ทาให้เห็นรายได้หลัก
หมื่นได้ไวไม่ต้องอดทนทาแบบไม่เห็นอะไรเลยเป็น 10 ปีกว่าจะเห็นรายได้หรือหากต้องการมีรายได้ 6 หลัก ก็มีคน
มากมายใช้ระยะเวลาไม่ถึง 1 ปีก็มีรายได้ 6 หลัก รายได้หลักล้านก็มีผู้นามากมายได้รายได้ 1,000,000 บาทขึ้นไป
อย่างเสถียรๆ ไม่ใช่การทาธุรกิจแบบบริษัทไบนารี่ที่ร่ารวยโชว์รายได้เฉพาะคนบนๆ หรือบนยอดสุดของปิรามิด
เพราะคนข้างล่างถูกทาให้หลงเชื่อว่า ทาง่ายๆ ลงทุนๆ หาคนมาลงแต่เงิน เอาเข้าจริงไม่ได้อะไรหรือได้เฉพาะ
ช่วงแรกหลังจากนั้นรายได้ตก เพราะเน้นจ่ายคนใหม่ ไม่เน้นจ่ายคนบริโภคซื้อซ้า ทาให้พฤติกรรมเน้นหาแต่คน
ใหม่มาลงทุนส่วนคนบนๆ ก็ย้ายไปเรื่อยๆ แบบทาไร่เลื่อนลอย อีก1จุดแข็งหากทางานถึงจุดที่มีองค์กรในระดับ
AEBA แล้วแบบเสถียรๆ สามารถหยุดทางานรายได้ แต่รายได้ไม่หยุด ส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลานได้จริงยั่งยืน
และที่ว้าวสุดๆ ต้องยกให้การจ่ายพูลโบนัส Pool Bonus 3 ก้อน ที่คานวณ% จากยอดขายจ่ายให้ผู้นาระดับ AEBA
เป็นต้นไป เหมือนได้โบนัสต่อปี ปีละหลายล้านถึงหลายสิบล้านบาท เพื่อยืนยันว่าเราเป็นหุ้นส่วนธุรกิจระดับโลก
กับบริษัท Unilever จริงๆ สุดท้ายบางบริษัทเขียนแผนจ่าย 100 ล้าน จ่ายเยอะจ่ายมาก รวยเร็วรวยรายวันรายสัปดาห์
แต่พอไปดูทุนจดทะเบียนแค่ 2 ล้าน แล้ว 100 ล้านจะจ่ายได้จริงๆ ไหม ในขณะที่ยูนิลีเวอร์ใช้ทุนจดทะเบียน
Unilever Network กว่า 4,000 ล้านนี่คือยักษ์ใหญ่ที่ไม่ธรรมดา สรุปแผนนั้นสาคัญมากและบ่งบอกว่า บริษัทมี
แนวคิดการจ่ายรายได้ส่งผลต่อจรรยาบรรณการทางานที่ดีขนาดไหน แต่ถ้าเราเจอใครที่เดินเข้ามาแล้ว จะผ่าแผนๆ
ลูกเดียวโดยไม่สอบถามถึงจุดแข็งอื่นๆ มักไม่ใช่นักเครือข่ายมืออาชีพหรือรู้จริงแต่อย่างใด แผนดีแค่ไหน สร้าง
องค์กรไม่เป็นก็จบ
- 5. **4.จังหวะเวลา
บริษัทยูนิลีเวอร์ ตัดสินใจเปิด Unilever Network ในประเทศไทยเป็นประเทศแรก เรียกได้ว่า "เราสามารถ
เป็นต้นสาย คืออัพไลน์ของคนทั่วโลก" แตกต่างจากบางบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เราเป็นดาวน์ไลน์ของคนทั้งโลก
เรายังมีโอกาสเหลืออีก 190 ประเทศ ที่มีโอกาสขยายธุรกิจเราได้เป็นต้นสายโลก ***นี่คือปัจจัยที่สาคัญ
มากและการขยายทั่วโลกนั้น ด้วยศักยภาพที่ถึงพร้อมของบริษัท สินค้า การวิจัย การตลาด การจดทะเบียน
สานักงาน ยูนิลีเวอร์เป็นบริษัทระดับ Global ของจริงที่สามารถสร้างตราสินค้าให้ขยายไปทั่วโลกได้จริง
โลโก้ตัว U นั้นทรงพลังมาก ถ้าเปรียบเทียบกับการทาเครือข่ายแบรนด์ไทยให้ไปแบรนด์โลกไม่ใช่เรื่อง
ง่ายๆ มีใจแต่ไม่มีทุนก็โตไม่ได้ มีทุนแต่ไม่มี มีทุนแต่ไม่มีประสบการณ์ก็ยิ่งยาก
**5.ทีมเวิร์ค
หากปัจจัยข้อ 1-4 สุดยอดแล้วแต่ขาดอัพไลน์และทีมเวิร์คที่ใช่ก็ทาให้เราไม่เติบโตได้ การทาธุรกิจเครือข่าย
ต้องมีวัฒนธรรมองค์กรมีทัศนคติความเชื่อเฉพาะทางที่ใช่ด้วย จึงทาให้เราเติบโตยั่งยืน เพราะบรรยากาศ
ช่วยสร้างคน คนช่วยสร้างบรรยากาศ เวลาเราทางานหากทาแล้วได้เงินแต่ไม่มีความสุข ก็ไม่ยั่งยืนหรือหาก
เรามุ่งมั่นมากๆๆๆ แต่ขาดระบบทีมให้การ Coaching ที่ถูกวิธีก็อาจทาให้ทางานผิดทิศทางได้ เราและทีม
เวิร์คที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ต้องสอดคล้องกัน
- 12. วัคซีน เรื่อง คน 5 ประเภทที่ไม่สาเร็จจริงในธุรกิจเครือข่าย
เพื่อป้องกันมลภาวะจากคน 5 ประเภท จะเป็นใครก็ได้แต่ “ไม่ใช่เรา”
1 คนรู้ไม่จริง : คนส่วนใหญ่รู้จักธุรกิจนี้ แต่ไม่ศึกษาเลยรู้ไม่จริง พอลงมือทาไม่สาเร็จก็ว่าไม่ดี
2 คนรู้จริง แต่ทาไม่จริง : บางคนรู้เยอะ หรือสมัครมาหลายที่ แต่ไม่มีระบบ หรือไม่เข้าใจว่า ต้อง
ใช้ระบบทางาน รวมทั้งลงมือทาไม่จริงจัง จึงทาให้ไม่สาเร็จ
3 คนรู้จริง ทาจริง แต่อยู่ในบริษัทที่ไม่สาเร็จ : เวลาเลือกบริษัทให้เหมือนเลือกบริษัทสมัครงาน
ประจา ปัจจุบันมีบริษัทนับ 1000 แต่ถูกกฎหมาย แค่หลักสิบ ดูใน TDSA มีไม่เกิน 30 บริษัท
4 คนรู้จริง ทาจริง อยู่ในบริษัทที่สาเร็จ แต่ไม่ยั่งยืน : ปัจจัยที่ทาให้ไม่ยั่งยืน
1 แผน(ไม่เป็นธรรมชาติ บังคับโต 2-3 ขา ระยะยาวโตแบบปิรามิดคนบนๆได้เงิน คน
ล่างๆถูกให้ลงทุน
2 สินค้า(คุณสมบัติหวือหวา ราคาเกินจริงหรือบางครั้งราคาถูก แต่ให้ซื้อยกล็อตทีละ
30,000, 60,000 บาท ไม่สอดคล้องความต้องการในชีวิตประจาวัน)
5 คนรู้จริง ทาจริง อยู่ในบริษัทที่สาเร็จ แต่สาเร็จมานานแล้ว : ธุรกิจเครือข่ายไม่มีวันอิ่มตัว แต่ถ้า
ทาในบริษัทที่จังหวะเวลาไม่เหมาะสม ก็ยากที่จะสาเร็จเพราะชวนยาก ไม่ได้ส่วนแบ่งการตลาด