1. DNA
ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมได้
อย่างไร
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร โรงเรียนบ้านสวน(จั่นอนุสรณ์) ชลบุรี
2. จากการศึกษาโครงสร้างของ DNA ที่ผ่านมาพบว่าโครงสร้างของ DNA
ประกอบด้วยพอลินิวคลีโอไทด์สองสายที่มีความยาวนับเป็นพันเป็นหมื่นคู่เบส
การเรียงลาดับคู่เบสมีความแตกต่างกันหลายแบบ ทาให้ DNA แต่ละโมเลกุล
แตกต่างกันที่ลาดับและจานวนของคู่เบสทั้งที่มีเบสเพียง 4 ชนิด คือ เบสA
เบส T เบส C และ เบส G
จึงเป็นไปได้ว่าความแตกต่างกันทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตอยู่ที่ลาดับและ
จานวนของเบสใน DNA หลักฐานที่ DNA เกี่ยวข้องกับการแสดงลักษณะ
ทางพันธุกรรม
ฉวีวรรณ นาคบุตร
18. การสังเคราะห์ RNA โดยมี DNA เป็นแม่พิมพ์จะคล้ายกับการ
สังเคราะห์ DNA แต่การสังเคราห์ RNA ใช้ DNA เพียงสาย
เดียวเป็นแม่พิมพ์ ใช้เอ็นไซม์ อาร์เอ็นเอ พอลิเมิเรส (RNA
polymerase) และ ไรโบนิวคลีโอไทด์ 4 ชนิด คือ
ไรโบนิวคลีโอไทด์ที่มีเบส A ไรโบนิวคลีโอไทด์ที่มีเบส C
ไรโบนิวคลีโอไทด์ที่มีเบส G และ ไรโบนิวคลีโอไทด์ที่มีเบส U
ฉวีวรรณ นาคบุตร
36. DNA แต่ละโมเลกุลแตกต่างกันที่ลาดับเบส ซึ่งมีเพียง 4 ชนิด
คือ A T C G ถ้ามีนวคลีโอไทด์ 2 โมเลกุลเรียงต่อ
ิ
กัน ลาดับเบส 4 ตัว นี้จะแตกต่างกัน เท่ากับ 42 = 16
แบบได้แก่
AA AT TA AC CA AG GA TT TC CT
TG GT CC CG GC และ GG จานวน 16 แบบนี้
ไม่เพียงพอที่จะเป็นรหัสให้แก่กรดอะมิโนซึ่งมีประมาณ 20 ชนิด
ถ้ามีนวคลีโอไทด์ 3 โมเลกุลเรียงต่อกัน ลาดับเบส 4 ตัวนี้ จะ
ิ
แตกต่างกันเท่ากับ 43 = 64 แบบ ซึ่งเกินกว่าจานวนชนิดของ
กรดอะมิโนที่มีอยู่
ฉวีวรรณ นาคบุตร