Editor's Notes เป็นปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของก๊าชเรือนกระจก ( Green house gas ) ทำให้สภาพอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกอย่างรุนแรง สภาวะดังกล่าวเรียกว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ( climate change ) ก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ มีปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเผาไหม้ในรูปแบบต่างๆ การเผาไหม้โรงงานเชื้อเพลิงอุตสาหกรรม การเผาป่าเพื่อใช้พื้นที่อยู่อาศัยและการทำปศุสัตว์ ก๊าชมีเทน เกิดขึ้นจากการย่อยสลายของซากสิ่งมีชีวิต จากการทำนาข้าว ปศุสัตว์ และการเผาไหม้มวลชีวภาพ การเผาไหม้เชื้อเพลิงประเภทถ่านหิน น้ำมัน และก๊าชธรรมชาติ สารประกอบคลอโรฟลูออโรคาร์บอน ( CFC ) มีแหล่งกำเนิดจากโรงงานอุตสาหกรรม และอุปกรณ์เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ก๊าชไนตรัสออกไซด์ ( NO ) ก๊าชไนตรัสออกไซด์ในธรรมชาติ เกิดจากการย่อยสลายสิ่งมีชีวิตโดยแบคทีเรีย ก๊าชไนตรัสมีปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมใช้กรดไนตริกในกระบวนการผลิต เช่น อุตสาหกรรมเส้นใยไนลอน อุตสาหกรรมเคมีและพลาสติก น้ำแข็งที่ขั้วโลกละลาย มีแนวโน้มว่าอุณหภูมิของโลกจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ ประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียสในรอบ 40 ปี ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ มีฝนตกหนักในบางพื้นที่ มีพายุพัดเข้าประเทศบ่อยขึ้น มีฤดูหนาวสั้นลง ปัจจุบันในชั้นบรรยากาศมีคาร์บอนไดออกไซด์สูงถึง 380 ส่วนในล้านส่วน เมื่ออุณหภูมิของโลกร้อนขึ้น ผลกระทบคือ การละลายของธารน้ำแข็งของขั้วโลกเหนือที่กรีนแลนด์ซึ่งจัดว่าเป็นแหล่งน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำแข็งที่ละลายนี้จะเพิ่มน้ำแข็งในมหาสมุทร ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและมีการกัดเซาะของชายฝั่งเพิ่มมากขึ้น เพิ่มความรุนแรงของการกัดเซาะชายฝั่ง สภาวะน้ำท่วมที่รุนแรงขึ้นในช่วงฤดูน้ำหลาก น้ำเค็มทะลักเข้าสู่แหล่งน้ำจืด อาคาร ถนน โครงสร้างพื้นฐานที่ก่อสร้างไว้ตามแนวชายฝั่งและในทะเลอาจไม่เหมาะสมอีกต่อไป เมื่ออุณหภูมิของโลกร้อนขึ้นทำอุณหภูมิของน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นด้วยจึงส่งผลให้มีพายุหมุนเขตร้อน คือพายุดีเปรสชั่น พายุโซนร้อนและพายุไต้ฝุ่นเกิดขึ้นถี่ขึ้นและรุนแรงมากขึ้น น้ำท่วมเกิดจากฝนไม่ตกตามฤดูกาล ดินถล่ม คือ การเคลื่อนที่ของมวลดินและหินลงมาตามลาดเขาด้วยอิทธิพลของแรงโน้มถ่วงโลก มักจะมีน้ำเข้ามาเกี่ยวข้องในการเกิดดินถล่ม การจัดการกับปัญหาโลกร้อนไม่ใช่สิ่งที่เกินความสามารถของมนุษย์ เพราะเทคโนโลยีที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และช่วยแก้ปัญหาโลกร้อนได้ การประหยัดพลังงานในชีวิตประจำวัน เช่น ใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ และเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นที่ประหยัดพลังงาน เราใช้พลังงานน้อยลงเท่าไหร่ ก็ช่วยลดการปล่อย CO2 ได้มากเท่านั้น การใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานชีวมวล ( แกลบ ชานอ้อย มันสำปะหลัง ฟืน ฯลฯ ) ก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดี ที่ช่วยลดการปล่อย CO2 ซึ่งเหมาะสมกับประเทศไทย