จัดทำโดย... ประภาศรี ฟุ้งศรีวิโรจน์ prapasri@book.co.th แผนกสนับสนุนฝ่ายทรัพยากรอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา บริษัท บุ๊ค โปรโมชั่น แอนด์ เซอร์วิส จำกัด อัพโหลดโดย สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1. โดย... ประภาศรี ฟุ้งศรีวิโรจน์
prapasri@book.co.th
แผนกสนับสนุนฝ่ายทรัพยากร
อิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา
บริษัท บุ๊ค โปรโมชั่น แอนด์ เซอร์วิส จำากัด
ปรับปรุงล่าสุด 29/02/55

2. Introduction
EndNote เป็นโปรแกรมที่ใช้สำาหรับจัดการข้อมูล
ทางบรรณานุกรมที่ได้มาจากการสืบค้นแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
เช่น ฐานข้อมูลออนไลน์ หรือ ฐานข้อมูลของห้องสมุด
(Library OPAC)
EndNote สามารถจัดเก็บได้ทั้งรูปภาพ ตาราง
กราฟ และบรรณานุกรม ซึ่งเก็บไว้ในลักษณะฐานข้อมูล
ห้องสมุดส่วนตัว (Private Reference Library) เพื่อให้
สามารถนำาข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ในการอ้างอิงภายในตัวเล่ม
วิทยานิพนธ์หรืองานวิจัยต่อไป

3. Introduction
• จัดเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ของรายการทางบรรณานุกรมไว้ใน Library ของ
EndNote
• สามารถสร้าง Library ได้ไม่จำากัดจำานวน และ แต่ละ Library สามารถจัด
เก็บรายการอ้างอิงได้ไม่จำากัดจำานวน
• มีรูปแบบบรรณานุกรมที่หลากหลายต่อการใช้งานมากกว่า 5,000 รูปแบบ
• สามารถสร้าง Group Set ได้สูงสุด 500 Group ต่อหนึ่งห้องสมุด
• สามารถสร้าง Custom Group และ Smart Group รวมกันได้สูงสุด 500
Group ต่อหนึงห้องสมุด
่
• สามารถถ่ายโอนไฟล์เอกสารรูปแบบ PDF (Importing PDF Files)
• ไฟล์ PDF ที่จัดเก็บในโปรแกรม สามารถเพิ่มหรือไฮไลท์ข้อความที่สำาคัญ
ค้นหาเรื่องที่สนใจภายในเอกสาร พร้อมทั้งบันทึกหรือสั่งพิมพ์เอกสารได้ด้วย
• มีการค้นหาการปรับปรุงเนือหาใหม่ของรายการอ้างอิงที่มีอยู่เดิม (Find
้
Reference Updates)

4. Introduction
• สามารถค้นหาไฟล์เอกสารฉบับเต็มของเอกสารได้ โดยทำาการค้นหาจาก
ISI Web of Knowledge Full Text Links, EndNote Web Services, DO
I (Digital Object Identifier), PubMed LinkOut และ OpenURL
• สามารถสร้างบรรณานุกรมให้กับเอกสารในแต่ละบทโดยแยกเป็นหลาย
ไฟล์ พร้อมทั้งสร้างเอกสารอ้างอิงที่อยู่ท้ายเอกสารให้ด้วย
• สามารถเปลียนรูปแบบการอ้างอิงในเนือหา (Citation in Text) ได้หลาก
่ ้
หลายรูปแบบ เช่น Display as: Author (Year), Exclude author,
Exclude year, Show Only in Bibliography เป็นต้น
• สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมจัดการเอกสารทั่วไป Microsoft Word for
Windows 2003, 2007 และ 2010, OpenOffice.org version 3 Writer
• ใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Windows XP, Vista และ 7

5. Start EndNote Program
คลิกที่ Start เลือก Programs – EndNote – EndNote Program

6. Create a new library
1
1. เลือกที่ Create a new library เพื่อสร้างห้องสมุดใหม่ หรือ
เลือกที่ Open an existing library เพื่อเลือกห้องสมุดที่มีอยู่แล้ว

7. Create a new library
2
3
2. เลือกสถานที่จัดเก็บห้องสมุด 3. ระบุชื่อห้องสมุด แล้วคลิก Save

8. EndNote Library

9. Add References to EndNote library
1. การเพิ่มรายการอ้างอิงด้วยตนเอง (Entering a References)
2. การถ่ายโอนข้อมูลอ้างอิงจากฐานข้อมูลการสืบค้นเข้าสู่ EndNote
2.1 Direct Export เป็นการถ่ายโอนรายการอ้างอิงที่สืบค้นจากฐาน
ข้อมูลต่างๆเข้าสู่ EndNote โดยตรง
2.2 Importing Reference Data into EndNote ต้องบันทึกรายการ
อ้างอิงที่สบค้นจากฐานข้อมูลต่างๆก่อน แล้วนำามาถ่ายโอนเข้าสู่ EndNote
ื
โดยใช้ Filter ที่เหมาะสม
2.3 Importing PDF Files to Create New References เป็นการถ่าย
โอนไฟล์เอกสารรูปแบบ PDF เข้าสู่ EndNote
2.4 Searching an Online Databases ถ่ายโอนข้อมูลที่ได้จากการ
สืบค้นฐานข้อมูลผ่านหน้าจอ EndNote โดยตรง

10. Entering a References

11. Entering a References
1
1. คลิกที่ References แล้วเลือก New Reference

12. Entering a References
2
2. เลือกประเภทสิ่งพิมพ์ที่ต้องการจากส่วน Reference Type

13. Entering a References
3
3. พิมพ์รายละเอียดทางบรรณานุกรมที่สำาคัญตามประเภทสิ่งพิมพ์ที่เลือก
จากนั้นคลิกที่เครื่องหมาย เพื่อบันทึกข้อมูล

14. Attach Figure
1
1. คลิกที่ References แล้วเลือก Figure – Attach Figure

15. Attach Figure
2
2. คลิกที่ Choose File เพื่อเลือกไฟล์ที่ต้องการ

16. Attach Figure
3
3. เลือกรูปภาพหรือไฟล์ที่ต้องการ

17. Attach Figure
4
4. ระบุคำาอธิบายภาพหรือไฟล์ในเขตข้อมูล Caption

18. Attach Other File
1
1. คลิกที่ References แล้วเลือก File Attachments – Attach File

19. Attach Other File
2
2. เลือกไฟล์ที่ต้องการ เช่น ไฟล์ PDF, PowerPoint, Word, Excel เป็นต้น

20. Attach Other File

21. PDF & Quick Edit
คลิกที่ PDF & Quick Edit เพื่อเลือกแสดงไฟล์เอกสารฉบับเต็มรูปแบบ PDF
และเลือกแก้ไขข้อมูลอ้างอิงที่ต้องการได้ทันที

22. PDF & Quick Edit
แถบ PDF Viewer สามารถเพิ่มหรือไฮไลท์ข้อความ ค้นหาเรื่องที่สนใจ
ภายในเอกสาร พร้อมทั้งเลือกบันทึกหรือสั่งพิมพ์เอกสารได้

23. Bibliographic Styles

24. Bibliographic Style
1
1. เลือกรูปแบบทางบรรณานุกรมที่ต้องการได้ คลิกที่ Select Another Style

25. Bibliographic Style
2
2. เลือกรูปแบบทางบรรณานุกรมที่ต้องการและคลิก Choose

26. Direct Export

27. Direct Export
2
1
1. เลือกรายการที่ต้องการ 2. คลิกที่ Export เลือก Export to EndNote

28. Direct Export
3
3. คลิกที่ปุ่ม Continue

29. Direct Export
ข้อมูลจะถูกถ่ายโอนโดยตรงเข้าสู่ EndNote ในทันที

30. Importing Reference
Data into EndNote

31. Importing Reference Data
2
1
1. เลือกรายการที่ต้องการ 2. คลิกที่ Export to RIS

32. Importing Reference Data
3
3. คลิกที่ปุ่ม Continue
4. คลิกที่ Save เพื่อเลือก
4
บันทึกข้อมูล

33. Importing Reference Data
5
5. เลือกที่จัดเก็บข้อมูล ระบุชื่อและเลือก Save as type เป็น Text File

34. Importing Reference Data
6
6. คลิกที่ File แล้วเลือก Import - File

35. Importing Reference Data
7
7. เลือกไฟล์ข้อมูลที่ Choose จากนั้นเลือก Filter หรือ รูปแบบที่สอดคล้องกับข้อมูลที่
จะถ่ายโอน (Import Option) ถ้าไม่พบ Filter ทีต้องการ ให้คลิกที่ Other Filters
่

36. Importing Reference Data
8
8. เลือก Filter ที่ต้องการและคลิก Choose

37. Importing Reference Data
9
9. คลิกที่ Import เพื่อถ่ายโอนข้อมูล

38. Importing PDF Files to
Create New References

39. Importing PDF Files
1
1. คลิกที่ File แล้วเลือก Import - File

40. Importing PDF Files
2
2. คลิกที่ Choose เพื่อเลือกไฟล์เอกสารฉบับเต็ม (Full Text) ที่ตองการถ่ายโอน
้
จากนั้นในส่วน Import Option เลือก Filter ชื่อ PDF แล้วคลิก Import

41. Importing PDF Files

42. Searching Online
Databases

43. Searching Online Databases
1
2
1. คลิกที่ Online Search Mode
2. เลือกแหล่งข้อมูลที่สืบค้น หรือ คลิกที่ More เพื่อเลือกแหล่งข้อมูลอื่นๆ

44. Searching Online Databases
4
3
3. พิมพ์คำาค้นที่ต้องการ แล้วคลิก Search
4. เลือกระบุจำานวนผลลัพธ์ที่ต้องการได้ จากนั้นคลิก OK

45. Searching Online Databases
6
5
5. จากรายการผลลัพธ์ที่ได้ ให้เลือกรายการที่ต้องการ
6. คลิกที่ References เลือก Copy References To และเลือกห้องสมุดที่
ต้องการจัดเก็บข้อมูล

46. Create Custom Group

47. Create Custom Group
2
1
1. เลือกรายการที่ต้องการจัดกลุ่มข้อมูล
2. คลิกที่ Groups เลือก Add References To เลือก Create Custom Group

48. Create Custom Group
3
3. ระบุชอกลุ่มข้อมูลย่อยที่ต้องการ
ื่

49. Create Smart Group

50. Create Smart Group
1
Create Smart Group การจัดกลุ่มรายการอ้างอิงโดยใช้การสืบค้น
1. คลิกที่ Groups แล้วเลือก Create Smart Group

51. Create Smart Group
2
3
2. ระบุชื่อกลุ่มข้อมูล Smart Group Name ที่ต้องการ
3. เลือกเขตข้อมูล แล้วพิมพ์คำาค้นที่ต้องการ จากนันคลิก Create
้

52. Create Smart Group
รายการบรรณานุกรมที่ได้จากการสืบค้น

53. Create Group Set

54. Create Group Set
1
1. คลิกที่ Groups เลือก Create Group Set

55. Create Group Set
2
2. ระบุชอ Group Set ที่ต้องการ
ื่

56. Find Full Text

57. Find Full Text
2 1
1. เลือกรายการอ้างอิง 2. คลิกที่ References เลือก Find Full Text

58. Find Full Text
ผลของการค้นหาเอกสารฉบับเต็ม จะแสดงออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
1. Found PDF พบไฟล์เอกสารฉบับเต็มรูปแบบ PDF
2. Found URL พบ URL Link ของเอกสารต้นฉบับนั้น

59. Find Reference Updates

60. Find Reference Updates
1
2
Find Reference Updates เป็นการค้นหาการปรับปรุงเนื้อหาใหม่ของรายการ
อ้างอิงที่มีอยู่เดิม
1. เลือกรายการอ้างอิง 2. คลิกที่ References - Find Reference Updates

61. Find Reference Updates
3
3. หน้าจอแสดงผลการค้นหา ถ้ามีการปรับปรุงเนื้อหาใหม่ จะแสดงเป็นไฮไลท์
สีฟ้า ซึ่งสามารถคัดลอก หรือ คลิกที่ปุ่ม Update All Fields ปรับปรุงทุกเขต
ข้อมูล หรือ Update Empty Fields ปรับปรุงเฉพาะเขตข้อมูลที่ยังไม่มีข้อมูล

62. Find Reference Updates
4
4. คลิก Yes เพื่อบันทึกการเปลียนแปลง
่

63. Transferring between
EndNote Desktop and
EndNote Web Libraries

64. Transferring References
2
1
1. ในส่วนของ EndNote Web คลิกเลือก configure
2. ระบุ E-mail และ Password ที่ใช้งานใน EndNote Web แล้วคลิก OK

65. Transferring References
3
4
5
6
3. เลือกห้องสมุดที่จะถ่ายโอน
4. เลือกรูปแบบการถ่ายโอนจาก Web ไป Desktop หรือ Desktop ไป Web
5. รวมข้อมูลที่เป็นไฟล์เอกสารหรือภาพด้วย 6. คลิก Transfer

66. Transferring References
6
6. คลิก OK เพื่อยืนยันการถ่ายโอนข้อมูล

67. Using EndNote While
Writing a Paper With
Microsoft Word

68. Cite While You Write
1
1. ใน Word คลิกแถบ EndNote X5 – Insert Citation- Find Citation

69. Cite While You Write
2
3
4
2. พิมพ์คำาค้น แล้วคลิก Find 3. เลือกรายการอ้างอิงที่ต้องการ
4. คลิก Insert

70. Cite While You Write

71. Edit & Manage Citation
1
1. คลิกที่ Edit & Manage Citation

72. Edit & Manage Citation
2
2. คลิกที่ Edit Reference ในรายการที่ต้องการ แล้วเลือกจัดการ
- Edit Library Reference แก้ไขข้อมูลรายการอ้างอิง
- Remove Citation ลบรายการอ้างอิงที่เลือก
- Insert Citation แทรกรายการอ้างอิงใหม่

73. Edit & Manage Citation
3
3. สามารถเปลียนรูปแบบการอ้างอิงได้จาก
่
- Display as: Author (Year) แสดงการอ้างอิงเป็น Author (Year)
- Exclude author แสดงการอ้างอิงเฉพาะปีพิมพ์
- Exclude year แสดงการอ้างอิงเฉพาะชื่อผู้แต่ง
- Show Only in Bibliography แสดงเฉพาะบรรณานุกรม

74. Display as: Author (Year)

75. Exclude author

76. Exclude year

77. Show Only in Bibliography

78. Bibliography Style
เลือกรูปแบบบรรณานุกรมที่ต้องการอ้างอิงจากส่วน Style
ถ้าไม่พบรูปแบบที่ต้องการ คลิกที่ Select Another Style

79. Inserting Figure
1
1. คลิกแถบ EndNote X5 – Insert Citation- Find Figure

80. Inserting Figure
2
3
2. พิมพ์คำาค้นแล้วคลิก Find 3. เลือกรายการอ้างอิงและคลิก Insert

81. Inserting Figure

82. Creating Multiple
Bibliographies in a
Single Document

83. 1
1. ใน EndNote เลือกรูปแบบบรรณานุกรมที่ต้องการแก้ไขก่อน เช่น APA 6th

84. 2
2. คลิกที่ Edit - Output Styles - Edit “APA 6th”

85. 3
3. เลือกที่ Sections แล้วคลิกเลือกที่ Create a bibliography for each
section and a complete bibliography at the end of the document

86. 4
5
4. คลิกที่ File - Save As เพื่อบันทึกรูปแบบที่มีการแก้ไข
5. ระบุชื่อรูปแบบที่ต้องการ จากนันคลิก Save
้

87. 6
6
6. เลือกรูปแบบบรรณานุกรมที่แก้ไขใหม่จาก Select Another Style

88. 7
7. ใน Microsoft Word คลิกแถบ Page Layout - Breaks - Next Page

89. 8
8. เนือหาจะขึ้นบทถัดไป ให้แทรกรายการอ้างอิงที่ต้องการ
้

90. 9
9. ให้เลือกชือรูปแบบบรรณานุกรมที่มีการแก้ไขแล้ว
่

91. จะได้เอกสารที่มีการอ้างอิงบรรณานุกรมในแต่ละบท พร้อมทั้งมีเอกสาร
อ้างอิงทั้งหมดอยู่ท้ายเอกสารให้ด้วย

92. Creating One
Bibliography from
Several Paper

93. 1
1. ใน Word สร้างไฟล์เอกสารจำานวน 5 ไฟล์ และทำาการแทรกรายการอ้างอิง
ตามปกติ และสร้างไฟล์เอกสารเปล่าที่ชื่อ References ด้วย

94. 2
2. คลิกที่ Convert Citations and Bibliography แล้วเลือก Convert to
Unformatted Citations

95. 3
3. คลิกที่ Save As แล้วเลือก Other Formats เพื่อบันทึกไฟล์ดังกล่าว

96. 4
4. ตั้งชื่อไฟล์ข้อมูล เช่น Introduction, Method, Results, References
ตามลำาดับ และเลือก Save as type เป็น Rich text Format (*.rtf)

97. 5
5. ใน EndNote เลือกที่ Tools – Format Paper – Format Paper

98. 6
6. เลือกไฟล์เอกสารที่บันทึก แล้วคลิก Open

99. 7
7. EndNote จะแสดงหน้าจอการตรวจสอบเอกสาร จากนั้นคลิก Scan Next
เพื่อเลือกเอกสารในลำาดับถัดไปจนครบทุกไฟล์

100. 8
8. เลือกรูปแบบบรรณานุกรมที่ต้องการใช้งานในส่วน Output Style เช่น
APA 6th และคลิกที่ Format

101. 9
9. EndNote จะสร้างไฟล์ผลลัพธ์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งไฟล์เหล่านั้นจะมีชื่อเหมือน
ไฟล์ต้นฉบับ แล้วตามด้วยชื่อรูปแบบบรรณานุกรมที่เลือก เช่น
Introduction-APA 6th.rtf