SlideShare a Scribd company logo
1 of 6
“ลิขิตชีวิต ด้วยการอธิษฐานอย่างถูกต้อง ”
คู่มือชีวิต ตอน ๗๐ โดย นพพร เทพสิทธา
เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับที่ ๑๑๘๗ วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
อธิษฐาน เป็นคาที่คนส่วนใหญ่น่าจะรู้จักดี เพราะถูกสอนให้ไหว้พระ สวดมนต์ และ ตั้งจิต
อธิษฐาน ขอให้เกิดสิ่งดีๆขึ้นกับตนเองและคนที่ตนรัก มาตั้งแต่เด็ก เราก็เลยคุ้นเคยกับการ
อธิษฐาน โดยเข้าใจว่าหมายถึง การตั้งจิตร้องขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพนับถือ ด้วยใจ
ปรารถนาอยากได้สิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือต้องการให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น การอธิษฐานได้
กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติหรือขนบประเพณีของคนไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณ เช่นเดียวกับชนชาติ
อื่นๆ ที่ผู้คนพากันไปไหว้พระไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนนับถือในวันหยุดหรือวันสาคัญๆ เพราะ นอกจาก
จะทาให้จิตใจสบาย อิ่มบุญ มีกาลังใจแล้ว ยังเกิดความรู้สึกดีๆที่ได้อธิษฐาน ได้ขอพร กาหนดหรือ
ทบทวน เป้าหมายของชีวิต รวมทั้งสิ่งที่ตนปรารถนามากที่สุดในช่วงเวลานั้นๆ บางคนมีเรื่องที่
อยากเป็นอยากได้หลายประการ อธิษฐานขอพรแต่ละครั้งนานมาก จนถูกล้อเลียนจากคนใกล้ตัว
ว่า “ขอแต่ละที นานซะจน พระท่านต้องเดินหนี”
หากอธิษฐาน แล้วได้ผลสมดังใจปรารถนาทุกครั้งทุกประการ ทุกคนก็คงอยากจะ
อธิษฐานบ่อยๆ เพราะ ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมาก ก็ได้รับสิ่งที่ต้องการแล้ว ถือว่า เป็นการ
ลงทุนที่ต่ามาก แต่ให้ผลตอบแทนสูง คุ้มค่ายิ่งกว่าการลงทุนประเภทใดๆ บางคนกราบไหว้ขอพร
ด้วยสิ่งของที่เชื่อต่อๆกันมาว่าพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชอบ บางคนได้ยินว่าที่ไหนศักดิ์สิทธิ์ อยู่ไกลแค่
ไหนก็พยายามหาเวลาเดินทางไปไหว้ให้ได้สักครั้ง บางคนไปไหว้ที่ไหนแล้วดี ก็จะพยายามไปเป็น
ประจาทุกปี แล้วก็ชวนเพื่อนๆไปด้วยความหวังดี อยากให้เพื่อนได้สิ่งดีๆเช่นตน
คนไทยในสมัยโบราณมีความฉลาดทางจิตวิญญาณสูงมาก รู้จักเลือกสิ่งดีๆมาสอน
ลูกสอนหลานแบบเนียนๆ ผูกวัฒนธรรมประเพณีไว้กับหลักธรรมทางศาสนา ในกิจกรรมหรือพิธี
การต่างๆ มักแฝงไว้ด้วยแนวคิด คาสอน หรือ ธรรมะ ที่ช่วยกล่อมเกลาและชาระจิตใจ ให้มั่นคงอยู่
กับการคิดดี พูดดี ทาดี และ บ่มเพาะปัญญา ให้เข้าใจสัจธรรมของชีวิต เพื่อนาชีวิตไปสู่ความสุข
ความเจริญที่มั่นคงสถาพร
การไปไหว้พระ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง นอกจากจะทาให้เราได้
ระลึกถึงพระคุณด้วยความกตัญญูกตเวที ได้นึกถึงความดีที่สมควรยกย่องและประพฤติปฏิบัติ
ตามแล้ว ยังเป็นโอกาสที่เราจะได้ตั้งจิตอธิษฐาน และ บาเพ็ญอธิษฐานบารมีให้เพิ่มพูนขึ้นด้วย
คาว่า “อธิษฐาน” มีความหมายหลายประการ ได้แก่ การตั้งจิตร้องขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เพื่อให้เกิดผลอย่างใดอย่างหนึ่ง, การตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว, การตั้งใจอย่างมั่นคงแน่วแน่,
การวางจุดหมายแห่งการกระทาของตนไว้อย่างชัดเจนมั่นคง และดาเนินตามนั้นอย่าง
แน่วแน่, การแสดงความตั้งใจและผูกใจไว้กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น พระภิกษุ
อธิษฐานว่า จะใช้ผ้าสบงสาหรับนุ่ง ใช้ผ้าจีวรสาหรับห่ม ใช้บาตรสาหรับเป็นภาชนะใส่อาหาร
เลี้ยงชีพตน เพื่อให้มีสติในการใช้และรักษาสิ่งของ ด้วยความเรียบง่ายและไม่มักง่าย เป็นต้น
พระพุทธเจ้า ก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ก็ทรงอธิษฐาน และ ทรงสอนให้พวก
เรารู้จักอธิษฐานอย่างถูกต้อง เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของความตั้งใจอย่างจริงจัง ที่จะบ่มเพาะความ
ดีหรือบารมีต่างๆให้บังเกิดและเจริญยิ่งขึ้นๆ จนบรรลุเป้าหมายสูงสุดของชีวิต คือ ความพ้นทุกข์
พระอริยเจ้าทั้งหลาย ตลอดจนบุคคลสาคัญๆทั้งหลาย ที่ประสบความสาเร็จอัน
ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นทางธรรม หรือ ทางโลก ก็ตาม ล้วนเริ่มต้นด้วยการตั้งจิตอธิษฐาน
ทั้งสิ้น แต่อาจแตกต่างกันไปตามเชื้อชาติ วัฒนธรรม และ ความเชื่อ
ในการบริหารจัดการสมัยใหม่ องค์กรจะเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงยั่งยืนได้ ต้องมี
วิสัยทัศน์ มีทิศทาง เป้าหมาย วัตถุประสงค์ และ แผนดาเนินการ ที่ชัดเจน และทุกคนในองค์กร
เข้าใจ มั่นใจ พร้อมใจ ร่วมใจกันอย่างมีเอกภาพ ที่จะทาให้วิสัยทัศน์ เป้าหมาย และ วัตถุประสงค์
ดังกล่าว บรรลุผลสาเร็จ นั่นคือ ทุกคนมีความมุ่งมั่นและผูกพัน (Commitment) ร่วมกัน ซึ่ง
หากทุกคนในองค์กร ตั้งแต่ระดับบนสุดจนถึงล่างสุด หมั่นตั้งใจระลึกถึงและทบทวน
วิสัยทัศน์ ด้วยตนเองและร่วมกันทาอย่างสม่าเสมอ ก็จะทาให้ทุกคนในองค์กรมีความ
ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา องค์กรนั้นย่อมมีโอกาสบรรลุความสาเร็จได้ดีกว่า ยั่งยืนกว่า องค์กรที่ปี
หนึ่งๆทบทวนเรื่องดังกล่าวเพียงครั้งเดียว คนส่วนใหญ่ในองค์กรยังไม่เข้าใจ ไม่ให้ความสาคัญ
หรือ เขียนไว้เพียงเพื่อสร้างภาพให้องค์กรดูดี
การกาหนดวิสัยทัศน์และการหมั่นทบทวนว่าบรรลุวิสัยทัศน์แล้วหรือยัง ก็คือ การ
อธิษฐาน รูปแบบหนึ่ง เป็นการอธิษฐานโดยคนทั้งองค์กร เพื่อประโยชน์และความสาเร็จ
ของทั้งส่วนรวมและส่วนตัว เรียกได้ว่า เป็นการอธิษฐานแบบมืออาชีพ
ดังนั้น ถ้าเข้าใจ การอธิษฐาน และ รู้จักนามาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม ทั้งในการ
บริหารงานและการดาเนินชีวิต ทั้งในเรื่องส่วนรวมและเรื่องปัจเจกบุคคล ก็จะเป็นปัจจัยสาคัญ
อย่างยิ่งประการหนึ่ง ที่เกื้อหนุนให้องค์กรหรือบุคคล บรรลุ “ความฝันอันสูงสุด” ได้ตามต้องการ
องค์กรใด ที่คนส่วนมากรักและผูกพันองค์กร หมั่นอธิษฐานแบบมืออาชีพอย่าง
สม่าเสมอ ให้องค์กรบรรลุวิสัยทัศน์โดยเร็ว มั่นใจได้ว่า องค์กรนั้น เป็นองค์กรที่มีเอกภาพ
เปี่ยมไปด้วยพลังขับเคลื่อน ที่พร้อมจะพาองค์กรให้เดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง จนกว่าจะบรรลุ
ความสาเร็จ
แต่การอธิษฐานแบบพร่าเพรื่อ ก็ไม่ใช่เรื่องดี เพราะแสดงถึงความไม่ตั้งใจจริง เมื่อ
ไม่ให้ความสาคัญกับการอธิษฐาน ก็เท่ากับ ไม่ให้ความสาคัญกับผลด้วย เช่นกัน
คนที่ไม่รู้จักอธิษฐาน ก็เหมือนกับ คนที่ไม่มีเป้าหมายแท้จริงของชีวิต ไม่มีความ
มุ่งมั่นและความพยายามที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้มา ซึ่งสิ่งที่ตนเห็นว่าสาคัญและต้องการอย่าง
จริงจังในชีวิต
ชีวิตของเขาก็คงเป็นไปตามยถากรรม เหมือนเรือที่ไม่มีหางเสือ ไม่มีการคัดแจวเพื่อให้แล่น
ไปในทิศทางที่ถูกต้องและถึงเป้าหมายที่กาหนด ปล่อยให้ล่องลอยไปตามแต่กระแสน้ากระแสลม
จะพัดพาไป
คนที่รู้จักอธิษฐาน หรือ อธิษฐานด้วยปัญญา ย่อมมีความเห็นความเข้าใจที่ถูกต้อง
เกี่ยวกับตนเองอย่างดีแล้ว, ย่อมรู้ว่า ตนเองต้องการอะไรที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อตนเองหรือ
คนที่ตนรักมากที่สุด, ย่อมรู้ว่า ผลที่ตนต้องการนั้น จะได้มาด้วยการทาเหตุที่ถูกต้องให้ถึงพร้อม
ไม่ใช่ได้มาด้วยการร้องขอโดยไม่ต้องทาอะไร, และ ย่อมพยายามทุกวิถีทางที่จะทาเหตุนั้นให้
ครบถ้วน อย่างดีที่สุด เท่าที่ความสามารถของตนจะทาได้
คนที่หมั่นอธิษฐาน ก็คือ คนที่ฉลาด หมั่นทบทวนเป้าหมาย ว่าบรรลุหรือยัง ? ยัง
ห่างเป้าหมายอยู่เพียงใด ? และ หมั่นทบทวนเหตุที่จะทาให้บรรลุเป้าหมาย ว่าได้ทาดีแล้วหรือยัง ?
อะไรที่ทาดีแล้ว ก็ทาให้มากขึ้น อะไรที่ยังทาไม่ดี ก็แก้ไขและทาใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม เมื่ออธิษฐาน
ในลักษณะเช่นนี้บ่อยๆ โดยมั่นคงแน่วแน่อยู่กับผลที่ต้องการและการสร้างเหตุที่ถูกต้อง ก็ย่อมมี
โอกาสสาเร็จได้แน่นอนกว่า การอธิษฐานโดยร้องขอแต่เพียงอย่างเดียว
การอธิษฐานด้วยใจปรารถนาอย่างแน่วแน่ มีใจมุ่งมั่นอุตสาหะวิริยะ ใส่ใจหมั่น
ทบทวน และ ไตร่ตรองแก้ไขอย่างจริงใจ ก็คือ การสร้างอธิษฐานบารมี ที่กอปรด้วยอิทธิ
บาท ๔ คือ ฉันทะ ความพอใจ, วิริยะ ความกล้า ความเพียร, จิตตะ ความเอาใจใส่, และ
วิมังสา ความไตร่ตรองพิจารณา และ นามาซึ่งบารมีอื่นๆอีกหลายประการ ได้แก่ ทาน ศีล
เนกขัมมะ ปัญญา ขันติ วิริยะ สัจจะ เมตตา และ อุเบกขา
อธิษฐานบารมีเป็นสิ่งที่ต้องบาเพ็ญให้เจริญขึ้นๆ แม้นว่ายังไม่บรรลุผลสาเร็จ แต่ก็ทา
ให้มั่นใจได้ว่า กาลังเดินอยู่ในทิศทางที่ถูกต้องเสมอ และ เห็นความก้าวหน้าขึ้นเป็นลาดับ พร้อมๆ
กับการสะสมคุณงามความดีเพิ่มขึ้นๆไปเรื่อยๆจนเปี่ยมล้นบริบูรณ์
คาอธิษฐาน เสมือนเป็นทั้งเข็มทิศ และ หางเสือ ที่คอยคัดท้ายให้มุ่งตรงไปใน
ทิศทางที่กาหนดไว้ โดยไม่วอกแวก ไม่หลงทิศผิดทาง ทาให้เสียเวลาไปโดยใช่เหตุ
สิ่งสาคัญอีกประการหนึ่ง ที่ต้องเข้าใจและระลึกถึงเสมอ เมื่ออธิษฐานจิต ก็คือ ต้อง
เข้าใจกฎของธรรมชาติที่ว่า “ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ” และ “ไม่มีอะไรได้มา โดยไม่เสียอะไร
ไป”
อยากได้สิ่งดีๆ ก็ต้องแลกด้วยสิ่งดีๆ
อยากได้สิ่งเลวๆ ก็ต้องแลกด้วยสิ่งเลวๆ
อยากได้สิ่งมีค่า ก็ต้องแลกด้วยสิ่งที่มีค่าของตน
อยากได้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ ก็ต้องแลกด้วยสิ่งที่ยิ่งใหญ่ พอกัน
เมื่อจะตั้งจิตอธิษฐานปรารถนาในสิ่งใด ก็ต้องพร้อมที่จะแลกด้วยบางสิ่งบางอย่างหรือ
หลายอย่างเสมอ แต่ไม่ว่าอธิษฐานสิ่งใด สิ่งที่ต้องสละและแลกออกไปแน่ๆ ก็คือ เวลา
แรงกาย แรงใจ จะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ปรารถนาในคาอธิษฐานของเรา
ดังนั้นจึงควรถามตนเองให้ดีก่อนอธิษฐานว่า พร้อมหรือยังที่จะแลก ? ถ้ายังไม่พร้อม ก็อย่า
เพิ่งอธิษฐาน เพราะคงยากที่จะสาเร็จได้ดั่งใจ
บางคนที่ไม่พร้อมแลก หรือ ไม่รู้ว่าจะแลกด้วยอะไร ธรรมชาติก็อาจจัดสรรให้เองว่า
จะต้องเสียอะไรไป เพื่อแลกกับสิ่งที่เราตั้งจิตอธิษฐานไว้ ซึ่งบางสิ่งที่เราเสียไป อาจจะไม่ถูกใจเรา
ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะต้องเสียสิ่งนี้ไป หรือ ไม่เป็นไปตามที่เราคาดคิดไว้ทั้งหมด บางคนรับ
ไม่ได้กับสิ่งที่ต้องเสียไป อยากคืนคาอธิษฐาน แต่ก็สายเกินกว่าที่จะแก้ไข ทางเดียวที่ทา ก็คือ ใช้
ปัญญา เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ก็จะได้สิ่งที่มีคุณค่าอีกอย่างแทน ได้แก่ บทเรียน ที่สอนให้
รู้จัก “การอธิษฐานอย่างถูกต้อง” และ “ไม่อธิษฐานโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน
นึกถึงภาพยนตร์บางเรื่อง ที่มารหรือซาตานมาเสนอสิ่งที่มนุษย์ต้องการ โดยแลก
กับบางสิ่งบางอย่างที่ชั่วร้าย เมื่อความโลภโกรธหลงเข้าครอบงา มนุษย์ก็ยอมเซ็นสัญญาตกลง
กับมารหรือซาตานไป แต่เมื่อได้สิ่งที่ต้องการมาแล้ว ต้องยอมเสียบางอย่างออกไปตามข้อตกลง
เช่น ความเป็นมนุษย์ เกิดผลร้ายในภายหลังโดยไม่คาดคิดมาก่อน สุดท้ายก็ไม่อยากได้ ขอคืนคา
อธิษฐาน แต่ก็สายเกินไปแล้ว หรือ กว่าจะกลับตัวกลับใจ คิดได้ ก็ต้องเสียอะไรไปมากมาย
เรื่องราวเหล่านี้ มีให้เห็นอยู่เสมอๆในชีวิตจริง แต่ก็ยังมีคนอีกมากมายที่พร้อมจะใช้อธิษฐานไป
ในทางที่ผิด เพราะใจถูกมารหรือซาตานเข้าสิง เห็นผิดเป็นชอบ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว มองดูแล้ว
เป็นคนที่น่าสงสาร
โลกนี้จึงบังเกิดมี ผู้ปลดปล่อย หรือ พระโพธิสัตว์ เกิดขึ้นมากมาย เพื่อหวังจะช่วย
มนุษย์ผู้มีความเห็นผิด อธิษฐานแบบผิดๆ แล้วทาให้คนอื่นพลอยเดือดร้อนไปด้วย
โดยสรุป การอธิษฐาน ก็คือ การกาหนดเป้าหมายและเส้นทางชีวิต
และ ให้สัญญากับตนเองอย่างมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง
พร้อมสละ และ แลกกับ บางสิ่งบางอย่าง หลายอย่าง หรือ ทุกอย่าง
แม้จะลาบากเพียงใด ก็พร้อมสู้ตาย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
ดังนั้น จงมา ลิขิตชีวิตของเรา ด้วยการอธิษฐานอย่างถูกต้อง กันเถิด
ให้สมกับเป็นลูกศิษย์ขององค์สมเด็จพระบรมศาสดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

More Related Content

Viewers also liked

Product Catalogue
Product CatalogueProduct Catalogue
Product CatalogueJudy Zhu
 
Peluches
PeluchesPeluches
Peluchescenel92
 
Hot Chocolate | ช็อคโกแลตร้อน
Hot Chocolate | ช็อคโกแลตร้อนHot Chocolate | ช็อคโกแลตร้อน
Hot Chocolate | ช็อคโกแลตร้อนpannily
 
پنج نکته برای طراحی و ارائه یک پرزنتیشن حرفه ای و متمایز
پنج نکته برای طراحی و ارائه یک پرزنتیشن حرفه ای و متمایزپنج نکته برای طراحی و ارائه یک پرزنتیشن حرفه ای و متمایز
پنج نکته برای طراحی و ارائه یک پرزنتیشن حرفه ای و متمایزMahdi Nasseri
 
Startup Recipe (by @mahdinasseri)
Startup Recipe (by @mahdinasseri)Startup Recipe (by @mahdinasseri)
Startup Recipe (by @mahdinasseri)Mahdi Nasseri
 

Viewers also liked (8)

Html
HtmlHtml
Html
 
Product Catalogue
Product CatalogueProduct Catalogue
Product Catalogue
 
Peluches
PeluchesPeluches
Peluches
 
SONIA DELAUNAY
SONIA DELAUNAYSONIA DELAUNAY
SONIA DELAUNAY
 
Sorolla
SorollaSorolla
Sorolla
 
Hot Chocolate | ช็อคโกแลตร้อน
Hot Chocolate | ช็อคโกแลตร้อนHot Chocolate | ช็อคโกแลตร้อน
Hot Chocolate | ช็อคโกแลตร้อน
 
پنج نکته برای طراحی و ارائه یک پرزنتیشن حرفه ای و متمایز
پنج نکته برای طراحی و ارائه یک پرزنتیشن حرفه ای و متمایزپنج نکته برای طراحی و ارائه یک پرزنتیشن حرفه ای و متمایز
پنج نکته برای طراحی و ارائه یک پرزنتیشن حرفه ای و متمایز
 
Startup Recipe (by @mahdinasseri)
Startup Recipe (by @mahdinasseri)Startup Recipe (by @mahdinasseri)
Startup Recipe (by @mahdinasseri)
 

More from Taweedham Dhamtawee

2015-01-09 คู่มือชีวิต ตอน 65 เนกขัมมะ การออกบวช ตอน 5
2015-01-09 คู่มือชีวิต ตอน 65 เนกขัมมะ การออกบวช ตอน 52015-01-09 คู่มือชีวิต ตอน 65 เนกขัมมะ การออกบวช ตอน 5
2015-01-09 คู่มือชีวิต ตอน 65 เนกขัมมะ การออกบวช ตอน 5Taweedham Dhamtawee
 
2014-04-11 คู่มือชีวิต ตอน 28 อาวุโสด้วยปัญญา
2014-04-11 คู่มือชีวิต ตอน 28 อาวุโสด้วยปัญญา2014-04-11 คู่มือชีวิต ตอน 28 อาวุโสด้วยปัญญา
2014-04-11 คู่มือชีวิต ตอน 28 อาวุโสด้วยปัญญาTaweedham Dhamtawee
 
2014-01-22 พุทธศาสนา 3.0 กับ CEO ทางธรรม v2
2014-01-22 พุทธศาสนา 3.0 กับ CEO ทางธรรม v22014-01-22 พุทธศาสนา 3.0 กับ CEO ทางธรรม v2
2014-01-22 พุทธศาสนา 3.0 กับ CEO ทางธรรม v2Taweedham Dhamtawee
 
ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต
ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโตประวัติและปฏิปทา หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต
ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโตTaweedham Dhamtawee
 
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสีธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสีTaweedham Dhamtawee
 
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตTaweedham Dhamtawee
 
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรมธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรมTaweedham Dhamtawee
 

More from Taweedham Dhamtawee (8)

2015-01-09 คู่มือชีวิต ตอน 65 เนกขัมมะ การออกบวช ตอน 5
2015-01-09 คู่มือชีวิต ตอน 65 เนกขัมมะ การออกบวช ตอน 52015-01-09 คู่มือชีวิต ตอน 65 เนกขัมมะ การออกบวช ตอน 5
2015-01-09 คู่มือชีวิต ตอน 65 เนกขัมมะ การออกบวช ตอน 5
 
Exim CG Corner 2557-12
Exim CG Corner 2557-12Exim CG Corner 2557-12
Exim CG Corner 2557-12
 
2014-04-11 คู่มือชีวิต ตอน 28 อาวุโสด้วยปัญญา
2014-04-11 คู่มือชีวิต ตอน 28 อาวุโสด้วยปัญญา2014-04-11 คู่มือชีวิต ตอน 28 อาวุโสด้วยปัญญา
2014-04-11 คู่มือชีวิต ตอน 28 อาวุโสด้วยปัญญา
 
2014-01-22 พุทธศาสนา 3.0 กับ CEO ทางธรรม v2
2014-01-22 พุทธศาสนา 3.0 กับ CEO ทางธรรม v22014-01-22 พุทธศาสนา 3.0 กับ CEO ทางธรรม v2
2014-01-22 พุทธศาสนา 3.0 กับ CEO ทางธรรม v2
 
ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต
ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโตประวัติและปฏิปทา หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต
ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต
 
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสีธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
 
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
 
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรมธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
 

2015-02-27 คู่มือชีวิต ตอน 70 ลิขิตชีวิต ด้วยการอธิษฐานอย่างถูกต้อง

  • 1. “ลิขิตชีวิต ด้วยการอธิษฐานอย่างถูกต้อง ” คู่มือชีวิต ตอน ๗๐ โดย นพพร เทพสิทธา เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับที่ ๑๑๘๗ วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ อธิษฐาน เป็นคาที่คนส่วนใหญ่น่าจะรู้จักดี เพราะถูกสอนให้ไหว้พระ สวดมนต์ และ ตั้งจิต อธิษฐาน ขอให้เกิดสิ่งดีๆขึ้นกับตนเองและคนที่ตนรัก มาตั้งแต่เด็ก เราก็เลยคุ้นเคยกับการ อธิษฐาน โดยเข้าใจว่าหมายถึง การตั้งจิตร้องขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพนับถือ ด้วยใจ ปรารถนาอยากได้สิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือต้องการให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น การอธิษฐานได้ กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติหรือขนบประเพณีของคนไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณ เช่นเดียวกับชนชาติ อื่นๆ ที่ผู้คนพากันไปไหว้พระไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนนับถือในวันหยุดหรือวันสาคัญๆ เพราะ นอกจาก จะทาให้จิตใจสบาย อิ่มบุญ มีกาลังใจแล้ว ยังเกิดความรู้สึกดีๆที่ได้อธิษฐาน ได้ขอพร กาหนดหรือ ทบทวน เป้าหมายของชีวิต รวมทั้งสิ่งที่ตนปรารถนามากที่สุดในช่วงเวลานั้นๆ บางคนมีเรื่องที่ อยากเป็นอยากได้หลายประการ อธิษฐานขอพรแต่ละครั้งนานมาก จนถูกล้อเลียนจากคนใกล้ตัว ว่า “ขอแต่ละที นานซะจน พระท่านต้องเดินหนี” หากอธิษฐาน แล้วได้ผลสมดังใจปรารถนาทุกครั้งทุกประการ ทุกคนก็คงอยากจะ อธิษฐานบ่อยๆ เพราะ ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมาก ก็ได้รับสิ่งที่ต้องการแล้ว ถือว่า เป็นการ ลงทุนที่ต่ามาก แต่ให้ผลตอบแทนสูง คุ้มค่ายิ่งกว่าการลงทุนประเภทใดๆ บางคนกราบไหว้ขอพร ด้วยสิ่งของที่เชื่อต่อๆกันมาว่าพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชอบ บางคนได้ยินว่าที่ไหนศักดิ์สิทธิ์ อยู่ไกลแค่ ไหนก็พยายามหาเวลาเดินทางไปไหว้ให้ได้สักครั้ง บางคนไปไหว้ที่ไหนแล้วดี ก็จะพยายามไปเป็น ประจาทุกปี แล้วก็ชวนเพื่อนๆไปด้วยความหวังดี อยากให้เพื่อนได้สิ่งดีๆเช่นตน
  • 2. คนไทยในสมัยโบราณมีความฉลาดทางจิตวิญญาณสูงมาก รู้จักเลือกสิ่งดีๆมาสอน ลูกสอนหลานแบบเนียนๆ ผูกวัฒนธรรมประเพณีไว้กับหลักธรรมทางศาสนา ในกิจกรรมหรือพิธี การต่างๆ มักแฝงไว้ด้วยแนวคิด คาสอน หรือ ธรรมะ ที่ช่วยกล่อมเกลาและชาระจิตใจ ให้มั่นคงอยู่ กับการคิดดี พูดดี ทาดี และ บ่มเพาะปัญญา ให้เข้าใจสัจธรรมของชีวิต เพื่อนาชีวิตไปสู่ความสุข ความเจริญที่มั่นคงสถาพร การไปไหว้พระ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง นอกจากจะทาให้เราได้ ระลึกถึงพระคุณด้วยความกตัญญูกตเวที ได้นึกถึงความดีที่สมควรยกย่องและประพฤติปฏิบัติ ตามแล้ว ยังเป็นโอกาสที่เราจะได้ตั้งจิตอธิษฐาน และ บาเพ็ญอธิษฐานบารมีให้เพิ่มพูนขึ้นด้วย คาว่า “อธิษฐาน” มีความหมายหลายประการ ได้แก่ การตั้งจิตร้องขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้เกิดผลอย่างใดอย่างหนึ่ง, การตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว, การตั้งใจอย่างมั่นคงแน่วแน่, การวางจุดหมายแห่งการกระทาของตนไว้อย่างชัดเจนมั่นคง และดาเนินตามนั้นอย่าง แน่วแน่, การแสดงความตั้งใจและผูกใจไว้กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น พระภิกษุ อธิษฐานว่า จะใช้ผ้าสบงสาหรับนุ่ง ใช้ผ้าจีวรสาหรับห่ม ใช้บาตรสาหรับเป็นภาชนะใส่อาหาร เลี้ยงชีพตน เพื่อให้มีสติในการใช้และรักษาสิ่งของ ด้วยความเรียบง่ายและไม่มักง่าย เป็นต้น พระพุทธเจ้า ก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ก็ทรงอธิษฐาน และ ทรงสอนให้พวก เรารู้จักอธิษฐานอย่างถูกต้อง เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของความตั้งใจอย่างจริงจัง ที่จะบ่มเพาะความ ดีหรือบารมีต่างๆให้บังเกิดและเจริญยิ่งขึ้นๆ จนบรรลุเป้าหมายสูงสุดของชีวิต คือ ความพ้นทุกข์ พระอริยเจ้าทั้งหลาย ตลอดจนบุคคลสาคัญๆทั้งหลาย ที่ประสบความสาเร็จอัน ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นทางธรรม หรือ ทางโลก ก็ตาม ล้วนเริ่มต้นด้วยการตั้งจิตอธิษฐาน ทั้งสิ้น แต่อาจแตกต่างกันไปตามเชื้อชาติ วัฒนธรรม และ ความเชื่อ
  • 3. ในการบริหารจัดการสมัยใหม่ องค์กรจะเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงยั่งยืนได้ ต้องมี วิสัยทัศน์ มีทิศทาง เป้าหมาย วัตถุประสงค์ และ แผนดาเนินการ ที่ชัดเจน และทุกคนในองค์กร เข้าใจ มั่นใจ พร้อมใจ ร่วมใจกันอย่างมีเอกภาพ ที่จะทาให้วิสัยทัศน์ เป้าหมาย และ วัตถุประสงค์ ดังกล่าว บรรลุผลสาเร็จ นั่นคือ ทุกคนมีความมุ่งมั่นและผูกพัน (Commitment) ร่วมกัน ซึ่ง หากทุกคนในองค์กร ตั้งแต่ระดับบนสุดจนถึงล่างสุด หมั่นตั้งใจระลึกถึงและทบทวน วิสัยทัศน์ ด้วยตนเองและร่วมกันทาอย่างสม่าเสมอ ก็จะทาให้ทุกคนในองค์กรมีความ ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา องค์กรนั้นย่อมมีโอกาสบรรลุความสาเร็จได้ดีกว่า ยั่งยืนกว่า องค์กรที่ปี หนึ่งๆทบทวนเรื่องดังกล่าวเพียงครั้งเดียว คนส่วนใหญ่ในองค์กรยังไม่เข้าใจ ไม่ให้ความสาคัญ หรือ เขียนไว้เพียงเพื่อสร้างภาพให้องค์กรดูดี การกาหนดวิสัยทัศน์และการหมั่นทบทวนว่าบรรลุวิสัยทัศน์แล้วหรือยัง ก็คือ การ อธิษฐาน รูปแบบหนึ่ง เป็นการอธิษฐานโดยคนทั้งองค์กร เพื่อประโยชน์และความสาเร็จ ของทั้งส่วนรวมและส่วนตัว เรียกได้ว่า เป็นการอธิษฐานแบบมืออาชีพ ดังนั้น ถ้าเข้าใจ การอธิษฐาน และ รู้จักนามาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม ทั้งในการ บริหารงานและการดาเนินชีวิต ทั้งในเรื่องส่วนรวมและเรื่องปัจเจกบุคคล ก็จะเป็นปัจจัยสาคัญ อย่างยิ่งประการหนึ่ง ที่เกื้อหนุนให้องค์กรหรือบุคคล บรรลุ “ความฝันอันสูงสุด” ได้ตามต้องการ องค์กรใด ที่คนส่วนมากรักและผูกพันองค์กร หมั่นอธิษฐานแบบมืออาชีพอย่าง สม่าเสมอ ให้องค์กรบรรลุวิสัยทัศน์โดยเร็ว มั่นใจได้ว่า องค์กรนั้น เป็นองค์กรที่มีเอกภาพ เปี่ยมไปด้วยพลังขับเคลื่อน ที่พร้อมจะพาองค์กรให้เดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง จนกว่าจะบรรลุ ความสาเร็จ แต่การอธิษฐานแบบพร่าเพรื่อ ก็ไม่ใช่เรื่องดี เพราะแสดงถึงความไม่ตั้งใจจริง เมื่อ ไม่ให้ความสาคัญกับการอธิษฐาน ก็เท่ากับ ไม่ให้ความสาคัญกับผลด้วย เช่นกัน
  • 4. คนที่ไม่รู้จักอธิษฐาน ก็เหมือนกับ คนที่ไม่มีเป้าหมายแท้จริงของชีวิต ไม่มีความ มุ่งมั่นและความพยายามที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้มา ซึ่งสิ่งที่ตนเห็นว่าสาคัญและต้องการอย่าง จริงจังในชีวิต ชีวิตของเขาก็คงเป็นไปตามยถากรรม เหมือนเรือที่ไม่มีหางเสือ ไม่มีการคัดแจวเพื่อให้แล่น ไปในทิศทางที่ถูกต้องและถึงเป้าหมายที่กาหนด ปล่อยให้ล่องลอยไปตามแต่กระแสน้ากระแสลม จะพัดพาไป คนที่รู้จักอธิษฐาน หรือ อธิษฐานด้วยปัญญา ย่อมมีความเห็นความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับตนเองอย่างดีแล้ว, ย่อมรู้ว่า ตนเองต้องการอะไรที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อตนเองหรือ คนที่ตนรักมากที่สุด, ย่อมรู้ว่า ผลที่ตนต้องการนั้น จะได้มาด้วยการทาเหตุที่ถูกต้องให้ถึงพร้อม ไม่ใช่ได้มาด้วยการร้องขอโดยไม่ต้องทาอะไร, และ ย่อมพยายามทุกวิถีทางที่จะทาเหตุนั้นให้ ครบถ้วน อย่างดีที่สุด เท่าที่ความสามารถของตนจะทาได้ คนที่หมั่นอธิษฐาน ก็คือ คนที่ฉลาด หมั่นทบทวนเป้าหมาย ว่าบรรลุหรือยัง ? ยัง ห่างเป้าหมายอยู่เพียงใด ? และ หมั่นทบทวนเหตุที่จะทาให้บรรลุเป้าหมาย ว่าได้ทาดีแล้วหรือยัง ? อะไรที่ทาดีแล้ว ก็ทาให้มากขึ้น อะไรที่ยังทาไม่ดี ก็แก้ไขและทาใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม เมื่ออธิษฐาน ในลักษณะเช่นนี้บ่อยๆ โดยมั่นคงแน่วแน่อยู่กับผลที่ต้องการและการสร้างเหตุที่ถูกต้อง ก็ย่อมมี โอกาสสาเร็จได้แน่นอนกว่า การอธิษฐานโดยร้องขอแต่เพียงอย่างเดียว การอธิษฐานด้วยใจปรารถนาอย่างแน่วแน่ มีใจมุ่งมั่นอุตสาหะวิริยะ ใส่ใจหมั่น ทบทวน และ ไตร่ตรองแก้ไขอย่างจริงใจ ก็คือ การสร้างอธิษฐานบารมี ที่กอปรด้วยอิทธิ บาท ๔ คือ ฉันทะ ความพอใจ, วิริยะ ความกล้า ความเพียร, จิตตะ ความเอาใจใส่, และ วิมังสา ความไตร่ตรองพิจารณา และ นามาซึ่งบารมีอื่นๆอีกหลายประการ ได้แก่ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา ขันติ วิริยะ สัจจะ เมตตา และ อุเบกขา
  • 5. อธิษฐานบารมีเป็นสิ่งที่ต้องบาเพ็ญให้เจริญขึ้นๆ แม้นว่ายังไม่บรรลุผลสาเร็จ แต่ก็ทา ให้มั่นใจได้ว่า กาลังเดินอยู่ในทิศทางที่ถูกต้องเสมอ และ เห็นความก้าวหน้าขึ้นเป็นลาดับ พร้อมๆ กับการสะสมคุณงามความดีเพิ่มขึ้นๆไปเรื่อยๆจนเปี่ยมล้นบริบูรณ์ คาอธิษฐาน เสมือนเป็นทั้งเข็มทิศ และ หางเสือ ที่คอยคัดท้ายให้มุ่งตรงไปใน ทิศทางที่กาหนดไว้ โดยไม่วอกแวก ไม่หลงทิศผิดทาง ทาให้เสียเวลาไปโดยใช่เหตุ สิ่งสาคัญอีกประการหนึ่ง ที่ต้องเข้าใจและระลึกถึงเสมอ เมื่ออธิษฐานจิต ก็คือ ต้อง เข้าใจกฎของธรรมชาติที่ว่า “ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ” และ “ไม่มีอะไรได้มา โดยไม่เสียอะไร ไป” อยากได้สิ่งดีๆ ก็ต้องแลกด้วยสิ่งดีๆ อยากได้สิ่งเลวๆ ก็ต้องแลกด้วยสิ่งเลวๆ อยากได้สิ่งมีค่า ก็ต้องแลกด้วยสิ่งที่มีค่าของตน อยากได้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ ก็ต้องแลกด้วยสิ่งที่ยิ่งใหญ่ พอกัน เมื่อจะตั้งจิตอธิษฐานปรารถนาในสิ่งใด ก็ต้องพร้อมที่จะแลกด้วยบางสิ่งบางอย่างหรือ หลายอย่างเสมอ แต่ไม่ว่าอธิษฐานสิ่งใด สิ่งที่ต้องสละและแลกออกไปแน่ๆ ก็คือ เวลา แรงกาย แรงใจ จะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ปรารถนาในคาอธิษฐานของเรา ดังนั้นจึงควรถามตนเองให้ดีก่อนอธิษฐานว่า พร้อมหรือยังที่จะแลก ? ถ้ายังไม่พร้อม ก็อย่า เพิ่งอธิษฐาน เพราะคงยากที่จะสาเร็จได้ดั่งใจ บางคนที่ไม่พร้อมแลก หรือ ไม่รู้ว่าจะแลกด้วยอะไร ธรรมชาติก็อาจจัดสรรให้เองว่า จะต้องเสียอะไรไป เพื่อแลกกับสิ่งที่เราตั้งจิตอธิษฐานไว้ ซึ่งบางสิ่งที่เราเสียไป อาจจะไม่ถูกใจเรา ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะต้องเสียสิ่งนี้ไป หรือ ไม่เป็นไปตามที่เราคาดคิดไว้ทั้งหมด บางคนรับ
  • 6. ไม่ได้กับสิ่งที่ต้องเสียไป อยากคืนคาอธิษฐาน แต่ก็สายเกินกว่าที่จะแก้ไข ทางเดียวที่ทา ก็คือ ใช้ ปัญญา เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ก็จะได้สิ่งที่มีคุณค่าอีกอย่างแทน ได้แก่ บทเรียน ที่สอนให้ รู้จัก “การอธิษฐานอย่างถูกต้อง” และ “ไม่อธิษฐานโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน นึกถึงภาพยนตร์บางเรื่อง ที่มารหรือซาตานมาเสนอสิ่งที่มนุษย์ต้องการ โดยแลก กับบางสิ่งบางอย่างที่ชั่วร้าย เมื่อความโลภโกรธหลงเข้าครอบงา มนุษย์ก็ยอมเซ็นสัญญาตกลง กับมารหรือซาตานไป แต่เมื่อได้สิ่งที่ต้องการมาแล้ว ต้องยอมเสียบางอย่างออกไปตามข้อตกลง เช่น ความเป็นมนุษย์ เกิดผลร้ายในภายหลังโดยไม่คาดคิดมาก่อน สุดท้ายก็ไม่อยากได้ ขอคืนคา อธิษฐาน แต่ก็สายเกินไปแล้ว หรือ กว่าจะกลับตัวกลับใจ คิดได้ ก็ต้องเสียอะไรไปมากมาย เรื่องราวเหล่านี้ มีให้เห็นอยู่เสมอๆในชีวิตจริง แต่ก็ยังมีคนอีกมากมายที่พร้อมจะใช้อธิษฐานไป ในทางที่ผิด เพราะใจถูกมารหรือซาตานเข้าสิง เห็นผิดเป็นชอบ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว มองดูแล้ว เป็นคนที่น่าสงสาร โลกนี้จึงบังเกิดมี ผู้ปลดปล่อย หรือ พระโพธิสัตว์ เกิดขึ้นมากมาย เพื่อหวังจะช่วย มนุษย์ผู้มีความเห็นผิด อธิษฐานแบบผิดๆ แล้วทาให้คนอื่นพลอยเดือดร้อนไปด้วย โดยสรุป การอธิษฐาน ก็คือ การกาหนดเป้าหมายและเส้นทางชีวิต และ ให้สัญญากับตนเองอย่างมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง พร้อมสละ และ แลกกับ บางสิ่งบางอย่าง หลายอย่าง หรือ ทุกอย่าง แม้จะลาบากเพียงใด ก็พร้อมสู้ตาย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ดังนั้น จงมา ลิขิตชีวิตของเรา ด้วยการอธิษฐานอย่างถูกต้อง กันเถิด ให้สมกับเป็นลูกศิษย์ขององค์สมเด็จพระบรมศาสดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า