SlideShare a Scribd company logo
1 of 27
Download to read offline
โครงงาน
เรื่อง ปัญหาภาวะโลกร้อน
จัดทาโดย
นางสาวชญานิษฐ์ วัลลา เลขที่ 14
นางสาววรกานต์ วิเชนสวัสดิ์ เลขที่ 19
นางสาววรดา สิริเกียรติสกนธ์ เลขที่ 20
นางสาวสิริธิดา ปานสุวรรณ เลขที่ 25
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2
เสนอ
คุณครู ทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม
โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิชาการศึกษาค้นคว้าและการสร้างความรู้ IS1
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8
ก
คำนำ
โครงงำนนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชำกำรศึกษำค้นคว้ำและกำรสร้ำงควำมรู้ IS1 รหัสวิชำ I30201 ชั้น
มัธยมศึกษำปีที่ 5 โดยมีจุดประสงค์เพื่อศึกษำปัญหำภำวะโลกร้อน ซึ่งโครงงำนเล่มนี้มีเนื้อหำเกี่ยวกับ
ปัญหำ สำเหตุ ผลกระทบ และวิธีกำรแก้ไขภำวะโลกร้อนซึ่งเป็นวิธีที่เรำสำมำรถนำมำประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจำวันได้
คณะผู้จัดทำหวังว่ำโครงงำนเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจในเรื่องปัญหำขยะภำยในโลกไม่มำกก็น้อย
หำกมีข้อผิดพลำดประกำรใดต้องขอภัยมำ ณ ที่นี้ด้วย
คณะผู้จัดทำ
24 กันยำยน 2559
ข
กิตติกรรมประกำศ
โครงงำนกำรศึกษำค้นคว้ำและกำรสร้ำงควำมรู้ IS1 เรื่องภำวะโลกร้อน ประสบควำมสำเร็จลุล่วงไป
ได้ด้วยดี จำกควำมช่วยเหลือของ อำจำรย์ทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม ที่ได้ให้คำปรึกษำ แนะนำขั้นตอนกำรทำ
โครงงำนและบอกข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข และตรวจสอบทุกขั้นตอนของกำรทำโครงงำนนี้ คณะผู้จัดทำจึง
ขอขอบพระคุณอย่ำงสูง
ขอขอบคุณเพื่อนนักเรียน ที่เป็นกำลังใจในกำรทำโครงงำนนี้และขอบคุณสมำชิกในกลุ่มทุกท่ำนที่
ให้ควำมร่วมมือ จนโครงงำนนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
ขอขอบคุณคุณครูทุกท่ำนที่ได้ให้ควำมรู้ คำแนะนำในกำรจัดทำรำยงำนกำรศึกษำค้นคว้ำและกำร
สร้ำงควำมรู้ IS1 ฉบับนี้
ขอขอบคุณบิดำ มำรดำของคณะผู้จัดทำ ที่ได้ให้ควำมช่วยเหลือสนับสนุน อีกทั้งคอยให้กำลังใจ
ตลอดมำ
คณะผู้จัดทำ
ค
สำรบัญ
เรื่อง หน้ำ
คำนำ ก
กิตติกรรมประกำศ ข
สำรบัญ ค
สำรบัญรูปภำพ ง
บทที่1 1-3
บทที่2 4-5
บทที่3 6-10
บทที่4 11-12
บทที่5 13
บรรณำนุกรม 14
ภำคผนวก 15-20
ชื่อและภำพผู้จัดทำ 21-22
ง
สำรบัญรูปภำพ
แผนภำพ หน้ำ
ภำพที่ 1.1 สถิติการผลิตขยะของแต่ละภูมิภาคเมื่อเทียบกับปริมาณทั่วโลก 1
ภำคผนวกภำพที่ 1 ภำพกำรประชุมกลุ่ม 15
ภำคผนวกภำพที่ 2 งำนย่อย 4 15
ภำคผนวกภำพที่ 3 งำน ก#1 16
ภำคผนวกภำพที่ 4 งำน ก#1 16
ภำคผนวกภำพที่ 5 งำน ก#1 17
ภำคผนวกภำพที่ 6 งำน ก#1 17
ภำคผนวกภำพที่ 7 งำน ก#1 18
ภำคผนวกภำพที่ 8 งำนย่อย 8 18
ภำคผนวกภำพที่ 9 งำนย่อย 8 19
ภำคผนวกภำพที่ 10 งำนย่อย 8 19
ภำคผนวกภำพที่ 11 งำนย่อย 8 20
1
บทที่ 1
ปัญหาภาวะโลกร้อน
1.1 สาเหตุปัญหาโลกร้อน
สภาวะโลกร้อนเกิดจากการที่มีแก๊สเรือนกระจกในบรรยากาศมากเกินไป แก๊สเรือนกระจกตัวหนึ่ง
ที่สาคัญ ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงเพื่อใช้งาน มนุษย์เองเป็นผู้ปล่อยแก๊สนี้
ออกมาเป็นจานวนมากเพื่อนาพลังงานมาใช้ ยิ่งเราใช้พลังงานมากเท่าใด ก็ยิ่งได้แก๊สเรือนกระจกออกมา
มากขึ้นเป็นเงาตามตัว หากเราพิจารณาอัตราการใช้พลังงานในช่วงครึ่งศรวรรษที่ผ่านมา จะพบว่า
สอดคล้องกับการเพิ่มปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศเป็นอย่างดี และไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง
ในระยะเวลาอันใกล้นี้
ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันนี้ ที่จริงแล้วเป็นกระบวนการรักษาตัวเองของโลก หากเป็นสภาวะ
ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โลกจะกลับมาสู่สภาวะสมดุลได้ในเวลาไม่นานนัก แต่เนื่องจากมนุษย์เราเร่งผลิต
แก๊สเรือนกระจกออกมามากเกินขีดความสามารถ ของโลกที่จะเยียวยาตนเองได้ทัน การเกิดสภาวะโลกร้อน
อย่างรวดเร็วและรุนแรงจึงเกิดขึ้น กล่าวโดยสรุปก็คือ สาเหตุที่ทาให้เกิดสภาวะโลกร้อนในครั้งนี้ ก็คือ
มนุษย์
1.2 สถิติอุณหภูมิในแต่ละปี
ภาพที่ 1.1 สถิติค่าอุณหภูมิต่อปี
ปีที่ผ่านมาอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นถึง 0.74 - 0.18 องศาเซลเซียส และจากแบบจาลองการคาดคะเน
ภูมิอากาศพบว่าในปี ค.ศ 1990 – 2010 อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 1.1 ถึง 6.4 องศาเซลเซียส
2
1.3 ผลกระทบทางด้านลบจากภาวะโลกร้อน
- ผลกระทบที่มีต่อระบบนิเวศวิทยำ
เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นก็ส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลกละลำย เมื่อน้ำแข็งจำนวนมำกละลำยลงก็ทำให้ปริมำณน้ำทะเล
ในโลกของเรำนั้นสูงขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงเลยก็คือทำให้น้ำท่วม สถำนที่ๆเรำรู้จักกันหลำยๆที่ก็จะจมมิดอยู่
ใต้ท้องทะเล อย่ำงเช่น หมู่เกำะมัลดีฟส์ และกรุงเทพมหำนครเมืองหลวงของเรำก็เช่นกัน
นอกจำกนั้นปริมำณน้ำที่เพิ่มขึ้นมำบวกกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นส่งผลให้ระบบนิเวศของท้องทะเลเปลี่ยนไป ทำ
ให้สัตว์น้ำจำนวนมำกปรับตัวไม่ได้และจะต้องตำยลงไป ตอนนี้ที่เห็นอยู่กันทั่วโลกก็คือปรำกฏกำรณ์ฟอก
ขำวของปะกำรัง เกิดจำกกำรที่โพลิปของปะกำรังนั้นตำยเพรำะปรับตัวเข้ำกับสภำพแวดล้อมไม่ได้ เหลือไว้
แต่ส่วนที่เป็นโครงสร้ำงสีขำวไร้ซึ่งชีวิต ไม่ต่ำงอะไรกับโครงกระดูกของสิ่งมีชีวิตที่ตำยแล้ว ซึ่งปะกำรังนั้น
เป็นแหล่งอนุบำลสัตว์น้ำที่สำคัญมำก ถ้ำไม่มีปะกำรังสัตว์น้ำต่ำงๆก็จะลดจำนวนลงไป และบำงชนิดอำจ
สูญพันธุ์ไปในที่สุด
อีกผลกระทบที่พวกเรำเห็นได้อย่ำงชัดเจนเลยก็คือภัยพิบัติจำกธรรมชำติที่เกิดบ่อยขึ้น และรุนแรงมำกขึ้น
เป็นเพรำะสภำพอำกำศเปลี่ยนแปลงไป ฤดูหนำวสั้นลง ฤดูร้อนยำวนำนขึ้น และเมื่ออุณหภูมิของโลกสูงขึ้น
น้ำจำกทะเลและจำกแหล่งน้ำต่ำงๆก็เกิดกำรระเหยมำกขึ้น ปริมำณน้ำฝนที่ตกลงมำก็จะมีปริมำณที่สูงขึ้นจน
ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลำยพื้นที่ ต่อไปอำหำรและน้ำสะอำดก็จะขำดแคลน เพรำะว่ำพืชผลปลูกได้ยำกขึ้นจำก
กำรที่อำกำศเปลี่ยนไป ซ้ำยังมีภัยพิบัติมำคอยทำลำยพื้นที่เพำะปลูกและพืชผลให้เสียหำยอีกด้วย
- ผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจ
อย่ำงที่กล่ำวไปในหัวข้อที่แล้ว เมื่อสัตว์น้ำมีจำนวนน้อยลงก็ทำให้สูญเสียรำยได้จำกกำรจับสัตว์น้ำ แหล่ง
ท่องเที่ยวใต้น้ำที่เคยสวยงำมที่เคยมีก็หมดไป ทำให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจกำรท่องเที่ยว อีกทั้งกำรเกษตรก็
ได้รับผลกระทบไปด้วย ปริมำณพืชผลที่เคยผลิตได้มำกมำยก็ลดน้อยไป ส่งผลให้อำหำรกำรกินแพงขึ้น และ
สินค้ำขำดตลำด
ภัยพิบัติที่รุนแรงยังส่งผลให้เกิดควำมเสียหำยแก่โรงงำนและแหล่งอุตสำหกรรมอีกด้วย จะเห็นได้จำกน้ำ
ท่วมครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 ที่โรงงำนและนิคมอุตสำหกรรมหลำยแห่งได้รับควำมเสียหำย อีกทั้งยังต้องใช้งบ
เพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในกำรป้องกันภัยพิบัติที่อำจจะเกิดขึ้นอีกในอนำคต และยังส่งผลต่อควำมเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
ด้วย
3
- ผลกระทบในด้ำนของสุขภำพ
อุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นนั้นส่งผลให้เกิดสภำวะที่เหมำะสมของกำรดำรงชีวิตของแบคทีเรียและศัตรูพืช
หลำยๆชนิด ซึ่งทำให้ในอนำคตจะมีผู้ที่ติดเชื้อและล้มป่วยมำกขึ้น ยกตัวอย่ำงโรคไข้เลือดออกที่ทุกคนรู้จัก
กันดี รวมไปถึงไข้มำลำเรีย อหิวำตกโรคก็จะระบำดเพิ่มขึ้นมำกในอีกประมำณ 20 ปีข้ำงหน้ำ
4
บทที่2
สาเหตุของปัญหาภาวะโลกร้อน
2.1 การเพิ่มขึ้นของจานวนประชากร
การเพิ่มขึ้นของจานวนประชาทาให้ต้องเพิ่มกาลังในการผลิตความต้องการปัจจัยสี่เพิ่มขึ้น ได้แก่
อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และเครื่องนุ่งห่ม ปัจจัยสี่เหล่านี้ได้มาจากทรัพยากรธรรมชาติ เมื่อประชากร
เพิ่มมากขึ้นต้องเสาะหาทรัพยากรธรรมชาติให้ได้มากขึ้น เพิ่มการผลิตผล ผลิตให้ได้มากและรวดเร็วโดย
อาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีผลของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทาให้ประดิษฐ์คิดค้น
เครื่องมือ เครื่องจักร และกรรมวิธีการ ทาการเกษตรกรรม สมัยใหม่ตลอดจนการแปรรูปผลิตภัณฑ์โดย
เปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตที่ทากันในครอบครัวเป็นการผลิตในระดับอุตสาหกรรมผลจากวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ทาให้ทรัพยากรธรรมชาติถูกนามาใช้อย่างมากมาย และรวดเร็วจนทาให้ทรัพยากรธรรมชาติ
เช่น ป่าไม้ แร่ธาตุ น้ามันเชื้อเพลิง มีปริมาณลดน้องลงไปมากผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทาให้สภาพแวดล้อม
เสื่อมโทรมและเป็นพิษ เกินกว่าธรรมชาติ จะแก้ไขและบาบัดให้ กลับคืนมาเหมือนเดิมได้
2.2 ควันและน้าเสียจากโรงงานอุสาหกรรม
จากโรงงานนั้นสารเคมี ไม่ได้มีเพียงแต่ในรูปของก๊าซพิษที่ปล่อยออกสู่บรรยากาศจากโรงงาน
อุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังมีในรูปการปล่อยสารเคมีในรูปของสารละลายลงสู่แหล่งน้าต่างๆ ทาให้เกิด
ปัญหาน้าเน่าเสีย ไม่สามารถนาน้านั้นมาใช้เพื่อการบริโภค อุปโภค ระบบนิเวศน์ของสัตว์น้าถูกทาลาย
รวมถึงการส่งกลิ่นเหม็นรบกวน
2.3 การเผาขยะและกาจัดขยะไม่ถูกวิธี
ขยะที่เผาประกอบไปด้วยกระดาษ เศษไม้ บรรจุภัณฑ์อาหารหรือพลาสติก วัตถุเหล่านี้สามารถที่จะ
นามาใช้ใหม่ นาไปเป็นเชื้อเพลิงหรือนาเข้าสู่กระบวนการกาจัดอย่างถูกวิธีได้ แต่หากนาขยะเหล่านี้ไปเผา
ทาลายหรือการเกิดไฟไหม้กองขยะในชุมชนมลภาวะอันเกิดจากการเผาไหม้จะลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศรอบ
บ้านหรือชุมชนโดยไม่มีการกรองและในที่สุดก็ตกลงสู่พื้นดินหรือแหล่งน้าเกิดการสะสมในสิ่งแวดล้อม
โดยทั่วไปในชุมชน อันตรายที่สุดของการแพร่กระจายของสารเคมีจากกระบวนการเผาไหม้คือ การเผา
พลาสติกจาพวก พีวีซี ซึ่งในขณะที่มีการเผาไหม้จะก่อให้เกิดสารไดออกซิน ซึ่งเป็นสารประกอบทางเคมีที่
อันตรายที่สุดและสามารถทาลายระบบต่างๆในร่างกาย อีกทั้งยังสะสมในไขมันในร่างกายและสามารถส่ง
5
ต่อจากแม่ถึงลูกในครรภ์ได้ผ่านทางสายรก นอกจากนี้สารไดออกซินยังสามารถสะสมอยู่ในผลิตผลทาง
การเกษตรและแหล่งน้าซึ่งสุดท้ายแล้วจะสามารถเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ได้ ตั้งนั้นก่อการเผาขยะเราควร
แยกขยะที่เป็นพิษออก และศึกษาหาวิธีการกาจัดที่ถูกวิธี
2.2 กำรใช้ทรัพยำกรเกินควำมจำเป็น
มีกำรนำทรัพยำกรธรรมชำติมำใช้สนองควำมต้องกำรในกำรดำรงชีวิตมำกยิ่งขึ้นทั้งทำงด้ำนปริมำณ
และคุณภำพ ซึ่งบำงครั้งเกินควำมจำเป็น จนทำให้ระบบนิเวศต่ำง ๆ เสียสมดุล ทรัพยำกรธรรมชำติบำงอย่ำง
เสื่อมโทรม ร่อยหรอหรือเกิดกำรเปลี่ยนแปลงจนไม่สำมำรถเอื้อประโยชน์ได้เช่นเดิม จึงมีควำมจำเป็นอย่ำง
ยิ่งที่จะต้องหำวิธีกำร หรือมำตรกำรในกำรใช้ทรัพยำกรธรรมชำติอย่ำงเหมำะสมและมีเหตุผลเพียงพอ ทั้งนี้
รวมไปถึงกำรควบคุมขนำดประชำกรโลกให้มีควำมเหมำะสมกับทรัพยำกรของโลก ขณะเดียวกันก็ต้อง
อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย
6
บทที่ 3
ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
3.1 ภาวะเรือนกระจก
คือ ภาวะที่ชั้นบรรยากาศของโลกกระทาตัวเสมือนกระจก ที่ยอมให้รังสีคลื่นสั้นผ่านลงมายังผิวโลก
ได้ แต่จะดูดกลืนรังสีคลื่นยาวช่วงอินฟราเรดที่แผ่ออกจากพื้นผิวโลกเอาไว้ จากนั้นก็จะคายพลังงานความ
ร้อน ให้กระจายอยู่ภายใน ชั้นบรรยากาศและพื้นผิวโลก จึงเปรียบเสมือนกระจกที่ปกคลุมผิวโลกให้มีภาวะ
สมดุลทางอุณหภูมิ และเหมาะสมต่อสิ่งมีชีวิตบนผิวโลก แต่ในปัจจุบันมีก๊าซบางชนิดสะสมอยู่ในชั้น
บรรยากาศมากเกินสมดุล ซึ่งก๊าซเหล่านี้สามารถดูดกลืนรังสีคลื่นยาวช่วงอินฟราเรดและคายพลังงานความ
ร้อนได้ดีพื้นผิวโลกและชั้นบรรยากาศ จึงมีอุณหภูมิสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศของโลก และ
สิ่งมีชีวิตพื้นผิวโลกอย่างมากมาย
3.2 เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจำกภัยโลกร้อน ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดควำมเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน อำทิ
อำกำศร้อนขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลำย หรือระดับน้ำทะเลโลกสูงขึ้นเท่ำนั้น แต่ปัจจุบันยังเป็นต้นเหตุของ
ปรำกฏกำรณ์แปลกๆ มำกมำย ซึ่งเกี่ยวพันกับกำรหำยสำบสูญของทะเลสำบ โรคภูมิแพ้โดยไม่ทรำบสำเหตุ
วิถีโคจรของดำวเทียมในอวกำศ และอื่นๆอีกมำกมำย
สำรภูมิแพ้แพร่ระบำด
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ำนมำนี้ ในประเทศสหรัฐอเมริกำได้เกิดปรำกฎกำรณ์ประหลำดขึ้นทุกๆ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ
นั่นคือ ประชำชนไอ จำม เป็นภูมิแพ้และหอบหืดกันง่ำยขึ้นและบ่อยขึ้นโดยไม่ทรำบสำเหตุ จำกกำรศึกษำที่
ผ่ำนมำ พบว่ำ วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปกับสภำพมลพิษในอำกำศ เป็นสำเหตุสำคัญของอำกำรดังกล่ำว
อย่ำงไรก็ตำม มีงำนวิจัยใหม่ๆ ชี้ให้เห็นว่ำ วิกฤตอุณหภูมิโลกร้อนขึ้นและมีระดับก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์
ในอำกำศมำกขึ้น คือต้นเหตุทำให้พืชพรรณต่ำงๆ ผลิใบเร็วกว่ำเดิม ขณะเดียวกันปริมำณละอองเกสรที่ฟุ้ง
กระจำยไปตำมอำกำศก็มำกขึ้นเช่นกัน คนที่เป็นภูมิแพ้หรือหอบหืดเมื่อสูดละอองเหล่ำนี้เข้ำไปมำกๆ อำกำร
จึงกำเริบง่ำย
7
สัตว์อพยพไร้ที่อยู่
ผลกระทบจำกปัญหำโลกร้อน ทำให้สัตว์บำงชนิด เช่น กระรอก ตัวชิปมังก์ หรือแม้กระทั่งหนู ต้อง
อพยพหนีขึ้นไปอยู่บนที่สูงขึ้นสัตว์ที่กำลังเผชิญปัญหำใหญ่ ได้แก่ "หมีขั้วโลก" ที่ในอนำคตอำจมีชีวิตอยู่ใน
ถิ่นฐำนเดิมแถบอำร์กติก ขั้วโลกเหนือไม่ได้เนื่องจำกธำรน้ำแข็งละลำยอย่ำงรวดเร็ว
"พืช" ขั้วโลกคืนชีพ
ช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่ำนมำ ผลจำกภำวะน้ำแข็งขั้วโลกละลำยเพรำะโลกร้อน ส่งผลต่อกำรดำรงอยู่
ของพืชและสัตว์จำนวนมำก ตำมปกติ พืชแถบอำร์กติกจะถูกปกคลุมอยู่ในน้ำแข็งตลอดทั้งปีแต่ปัจจุบัน เมื่อ
น้ำแข็งละลำยมำกขึ้นเรื่อย โดยเฉพำะในช่วงก่อนฤดูใบไม้ผลิต จึงทำให้พืชที่เคยถูกห่อหุ้มด้วยน้ำแข็ง
กลำยเป็นอิสระสำมำรถเริ่มกระบวนกำรสังเครำะห์แสงและกลับมำเติบโตขึ้นอีกครั้ง กลำยเป็นอีก 1
ปรำกฎกำรณ์ใหม่ของพื้นที่ขั้วโลกเหนือ
ทะเลสำบหำยสำบสูญ
เรื่องประหลำดๆ ที่เกิดขึ้นในเขตอำร์กติก หรือ ขั้วโลกเหนือยังไม่หมดแค่นั้น มีงำนวิจัยชี้ให้เห็นว่ำ
ในช่วง 20-30 ปีที่ผ่ำนมำ "ทะเลสำบ" ประมำณ 125 แห่งได้หำยสำบสูญไปจำกเขตอำร์กติก เป็นสัญญำณ
หนึ่งที่ช่วยให้เห็นว่ำภัยโลกร้อนส่งผลกระทบเร็วมำกต่อสภำพแวดล้อมแถบขั้วโลกสำเหตุที่ทะเลสำบ
หำยไปก็เพรำะ "เพอร์มำฟรอส" ที่เป็นน้ำแข็งแข็งตัวอยู่ใต้พื้นทะเลสำบนั้นละลำยหมดสิ้นไป ดังนั้น น้ำใน
ทะเลสำบจึงซึมเข้ำสู่พื้นดินข้ำงใต้ได้ เหมือนกับเวลำเรำดึงจุกปิดน้ำออกจำกอ่ำงอำบน้ำแล้วน้ำจึงไหลหมด
ไปจำกอ่ำงนั่นเองนอกจำกนี้ กำรที่ทะเลสำบขั้วโลกหำยวับไป ยังส่งผลลูกโซ่ปั่นป่วนไปถึงระบบนิเวศใน
พื้นที่ที่พึ่งพิงน้ำจำกทะเลสำบอีกด้วย
น้ำแข็งใต้พื้นโลกละลำย
ภำวะโลกร้อนไม่ได้เพียงแค่ทำให้ธำรน้ำแข็งขั้วโลกละลำยอย่ำงต่อเนื่องเท่ำนั้น แต่ยังส่งผลให้ชั้น
น้ำแข็งถำวรที่มีอยู่ใต้พื้นผิวโลกค่อยๆ ละลำยลดปริมำณลงไปเช่นกันผลลัพธ์ที่อำจเกิดขึ้นตำมมำในอนำคต
ก็คือ จุดใต้พื้นโลก ซึ่งเคยเป็นน้ำแข็งหำยไปจนเกิดเป็น "รูรั่ว" ใต้ดินขึ้นมำ เมื่อเป็นเช่นนี้สภำพทำง
ภูมิศำสตร์ในพื้นที่ย่อมเปลี่ยนไป
8
สิ่งปลูกสร้ำง หรือ สิ่งก่อสร้ำงของมนุษย์ เช่น ทำงรถไฟ ถนน บ้ำนเรือน ฯลฯ ซึ่งตั้งอยู่เหนือจุดดังกล่ำวมี
โอกำสได้รับควำมเสียหำยตำมไปด้วย ถ้ำปรำกฏกำรณ์น้ำแข็งละลำยเกิดขึ้นบนที่สูง เช่น ภูเขำ จะก่อให้เกิด
ภัยธรรมชำติตำมมำ อำทิ หินถล่มและโคลนถล่ม เป็นต้น
ชนวนเกิดไฟป่ำ
นักวิทยำศำสตร์ส่วนใหญ่ยืนยันตรงกันทั่วโลก ว่ำภัยโลกร้อนเป็นสำเหตุให้ธำรน้ำแข็งละลำยและ
พำยุก่อตัวบ่อยและรุนแรงขึ้นกว่ำในอดีต ยิ่งไปกว่ำนั้น ภำวะโลกร้อนยังเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิด "ไฟป่ำ"
ได้ง่ำยขึ้นในหลำยประเทศทั่วโลก
และชำติเมืองหนำวในซีกโลกตะวันตก ซึ่งตำมปกติไม่ค่อยมีปัญหำเรื่องไฟป่ำ ก็เริ่มรู้สึกถึงควำม
เปลี่ยนแปลงนี้กันแล้ว เหตุเพรำะสภำพป่ำแห้งกว่ำเดิม จึงเป็นเชื้อไฟอย่ำงดี
ผู้แข็งแกร่งเท่ำนั้นถึงอยู่รอดโลกร้อนส่งผลให้หน้ำหนำวหดสั้นลง และหน้ำร้อนมำถึงเร็วขึ้น บรรดำ "นก
อพยพ" หลำยสำยพันธุ์ต่ำงมึนงง ปรับ "นำฬิกำชีวภำพ" ในตัวของมันให้เข้ำกับสภำพควำมผันแปรของ
ฤดูกำลที่บิดเบี้ยวไปไม่ทัน สัตว์ที่จะเอำชีวิตรอดจำกสภำพภูมิอำกำศแปรปรวนในทุกวันนี้ได้ต้องเป็นสำย
พันธุ์ที่แข็งแรงที่สุดเท่ำนั้นในที่สุดสัตว์ที่อยู่รอดจะต้อง "กลำยพันธุ์" หรือปรับพันธุกรรมในตัวมันเสียใหม่
เพื่อรับมือภัยโลกร้อนให้ได้และมีสัตว์หลำยชนิดกำลังวิวัฒนำกำรตัวเองเช่นนั้นอยู่
ดำวเทียมโคจรเร็วกว่ำเดิม
กำรปล่อยก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์จำกโรงงำนอุตสำหกรรม โรงไฟฟ้ำถ่ำนหิน ยวดยำนพำหนะ
ฯลฯ คือ ตัวกำรสำคัญของวิกฤตโลกร้อนล่ำสุดพบว่ำ เจ้ำก๊ำซตัวเดียวกันนี้เองที่ขึ้นไปสะสมมำกขึ้นในชั้น
บรรยำกำศโลก ได้กลำยเป็นต้นเหตุทำให้ "ดำวเทียม" ที่อยู่ในวงโคจรโลกเคลื่อนที่เร็วกว่ำเดิมตำมปกติ
อำกำศในบรรยำกำศชั้นนอกสุดของโลกจะเบำบำง แต่โมเลกุลของอำกำศจะยังคงมีแรงดึงดูดมำกพอในกำร
ทำให้ดำวเทียมโคจรช้ำๆ ดังนั้น เรำอำจเคยได้ยินข่ำวกันมำบ้ำงว่ำ ผู้ควบคุมต้องจึงระเบิดดำวเทียมเป็น
ระยะๆ เพื่อให้ดำวเทียมโคจรต่อไปอย่ำงถูกต้องอย่ำงไรก็ตำม เมื่อคำร์บอนไดออกไซด์ลอยไปสะสมใน
บรรยำกำศชั้นล่ำงมำกไป จะทำแรงดึงดูดของบรรยำกำศชั้นนอกสุดลดกำลังลง ดำวเทียมจึงโคจรเร็วกว่ำ
ปกติ
ภูเขำกระเด้งตัวเหนือพื้นโลก
ภูเขำและเทือกเขำสูงหลำยแห่งทั่วโลกกำลังขยำยตัว "สูง" ขึ้น เพรำะผลจำกโลกร้อน! นั่นเป็นเพรำะ
ตำมธรรมชำติที่ผ่ำนๆ มำนับพันปี ยอดภูเขำในเขตหนำวเย็นโดยทั่วไปจะมี "น้ำแข็ง" ปกคลุมอยู่ ทำหน้ำที่
9
เป็นเหมือนกับตุ้มน้ำหนักที่คอยกดทับให้ฐำนล่ำงของภูเขำทรุดต่ำลงไปใต้พื้นผิวเมื่อน้ำแข็งบนยอดเขำมลำย
สูญสิ้นไป ส่วนฐำนล่ำงที่เคยถูกกดจมดินลงไปจะค่อยๆ กระเด้งคืนตัวกลับมำเหนือผิวโลกอีกครั้ง
โบรำณสถำนเสียหำย
โบรำณสถำน เมืองเก่ำแก่ ซำกปรักหักพังทำงประวัติศำสตร์ ฯลฯ อันเป็นสิ่งแสดงถึงวัฒนธรรมอัน
รุ่งเรื่องของมนุษย์ในอดีตได้รับผลกระทบจำกโลกร้อนเหตุเพรำะโลกร้อนทำให้อำกำศทั่วโลกแปรปรวน ทั้ง
เกิดพำยุ น้ำท่วม ภัยแล้ง ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง และล้วนแต่ยิ่งสร้ำงควำมเสียหำยให้กับมรดกตกทอดทำง
ประวัติศำสตร์ดังกล่ำว ซึ่งมีสภำพทรุดโทรมอยู่แล้ว
3.3 สัตว์ป่ำไม่มีที่อยู่
กำรบุกรุกป่ำไม้เพื่อนำทรัพยำกรมำใช้ในกำรผลิต ทำให้ป่ำถูกทำลำยลงอย่ำงรวดเร็วโดยมีส่วนน้อย
ที่ทำกำรปลูกทดแทนที่นำไปทำเป็นทรัพยำกร ทำให้ป่ำที่เป็นที่อยู่อำศัยของสัตว์ถูกทำลำยและทำให้สัตว์ป่ำ
ไม่มีที่อยู่อำศัยและขำดแหล่งอำหำรในกำรดำรงชีพ ซึ่งอำจทำให้สัตว์บำงชนิดล้มตำยและทำให้ไม่ไปตำม
ระบบห่วงโซ่อำหำร ธรรมชำติขำดควำมสมดุล
3.4 เกิดมลพิษทำงน้ำ อำกำศ
สำเหตุของมลพิษทำงน้ำ แหล่งน้ำต่ำงๆ อำจเกิดจำกกำรเน่ำเสียได้เองเมื่ออยู่ในภำวะที่ขำด
ออกซิเจน ส่วนใหญ่มีสำเหตุเกิดจำกกำรเพิ่มจำนวนอย่ำงรวดเร็วของแพลงค์ตอน แล้วตำยลงพร้อม ๆ กัน
เมื่อ จุลินทรีย์ทำกำรย่อยสลำยซำกแพลงค์ตอนทำให้ออกซิเจนในน้ำถูกนำไปใช้มำกจนเกิดกำรขำดแคลนได้
นอกจำกนี้กำรเน่ำเสียอำจเกิดได้อีกประกำรหนึ่งคือ เมื่อน้ำอยู่ในสภำพนิ่งไม่มีกำรหมุนเวียนถ่ำยเท
โรงงำนอุตสำหกรรม ของเสียจำกโรงงำนอุตสำหกรรม เช่น โรงงำนปลำป่น โรงงำน ผลิตภัณฑ์นม โรงโม่
แป้ง โรงงำนทำอำหำรกระป๋ อง ส่วนใหญ่มีสำรอินทรีย์พวกโปรตีน คำร์โบไฮเดรตปนอยู่มำกสำรอินทรีย์ที่
ถูกปล่อยออกมำกับน้ำทิ้งนี้ก็จะถูกย่อยสลำยทำให้เกิดผล เช่นเดียวกับน้ำทิ้งที่ถูกปล่อยจำกชุมชน นอกจำกนี้
อำจมีสำรพิษชนิดอื่นปะปนอยู่ด้วย ขึ้นอยู่กับ ประเภทของโรงงำน เช่นปรอทจำกโรงงำนผลิตโซเดียมไฮดร-
อกไซด์ซึ่งเป็นสำรพิษต่อสัตว์น้ำ และผู้นำสัตว์น้ำไปบริโภคนอกจำกนี้น้ำทิ้งจำกโรงงำนบำงประเภท ทำให้
สภำพกรดเบส ของแหล่งน้ำนั้นเปลี่ยนไป เช่นน้ำทิ้งจำกโรงงำนกระดำษมีค่ำ pH สูงมำก น้ำทิ้งจำกโรงงำน
บำงประเภท เช่นจำกโรงไฟฟ้ำอำจทำให้อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนแปลงไป สภำพเช่นนี้ไม่ เหมำะกับกำรดำรง
ชีพของสิ่งมีชีวิตในน้ำ กำรคมนำคมทำงน้ำ ในกำรเดินเรือตำมแหล่งน้ำ ลำคลอง ทะเล มหำสมุทร มีกำรทิ้ง
ของ เสียที่ประกอบด้วยสำรอินทรีย์ และน้ำมันเชื้อเพลิงถ้ำมีโอกำสรั่วไหลลงน้ำได้และมีจำนวนมำก ก็จะทำ
ให้สัตว์น้ำขำดออกซิเจน และเป็นผลเสียต่อระบบนิเวศ
10
ผลกระทบของมลพิษทำงน้ำ กำรสำธำรณสุข น้ำเสียเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค ทำให้เกิดโรคระบำด เช่น โรค
อหิวำตกโรค ไทฟอยด์ บิด เป็นแหล่งเพำะเชื้อยุงซึ่งเป็นพำหะของโรคบำงชนิด เช่น มำเลเรีย ไข้เลือดออก
และสำรมลพิษที่ปะปนในแหล่งน้ำ ถ้ำเรำบริโภคทำให้เกิดโรคต่ำง ๆ เช่น โรค มินำมำตะ เกิดจำกกำร
รับประทำนปลำที่มีสำรปรอทสูง เกิดจำกกำรได้รับสำร แคดเมียม กำรประมง น้ำเสียทำให้สัตว์น้ำลด
ปริมำณลง น้ำเสียที่เกิดจำกสำรพิษอำจทำให้ปลำตำยทัน ที ส่วนน้ำเสียที่เกิดจำกกำรลดต่ำของออกซิเจน
ละลำยในน้ำถึงแม้จะไม่ทำให้ปลำตำยทันที แต่อำจทำลำยพืชและสัตว์น้ำเล็ก ๆ ที่เป็นอำหำรของปลำและตัว
อ่อนทำให้ปลำขำดอำหำร ก่อให้เกิดผลเสียหำยต่อกำรประมงและเศรษฐกิจ ปริมำณออกซิเจนละลำยในน้ำ
ถ้ำหำรลด จำนวนลงมำก ๆ ในทันทีก็อำจทำให้ปลำตำยได้นอกจำกนี้น้ำเสียยังทำลำยแหล่งเพำะวำงไข่ ของ
ปลำเนื่องจำกกำรตกตะกอนของสำรแขวนลอยในน้ำเสียปกคลุมพื้นที่วำงไข่ของปลำ ซึ่งเป็นกำรหยุดยั้งกำร
แพร่พันธุ์ทำให้ปลำสูญพันธุ์ได้
สำเหตุของมลพิษทำงอำกำศ
ยำนพำหนะที่ใช้เครื่องยนต์ รถยนต์เป็นแหล่งก่อปัญหำอำกำศเสียมำกที่สุด สำรที่ออกจำก รถยนต์ที่สำคัญ
ได้แก่ คำร์บอนมอนอกไซด์ ไฮโดรคำร์บอน ออกไซด์ของไนโตรเจน และของกำมะถัน สำรพวก
ไฮโดรคำร์บอนนั้น ประมำณ 55 % ออกมำจำกทอไอเสีย 25 % ออกมำจำกห้องเพลำ ข้อเหวี่ยง และอีก 20 %
เกิดจำกกำรระเหยในคำร์บูเรเตอร์ และถังเชื้อเพลิง ออกไซด์ของไนโตรเจนคือ ไนตริกออกไซด์ (NO)
ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) และไน ตรัสออกไซด์ (N2O) เกือบทั้งหมดออกมำจำกท่อไอเสีย เป็นพิษต่อ
มนุษย์โดยตรง นอกจำกนี้สำรตะกั่วในน้ำมันเบนซินชนิดซุปเปอร์ยังเพิ่มปริมำณตะกั่วในอำกำศอีกด้วยควัน
ไฟ และก๊ำซพิษจำกโรงงำนอุตสำหกรรมจำกโรงงำนผลิตสำรเคมี ได้แก่ โรงกลั่นน้ำมัน โรงผลิตไฟฟ้ำ
โรงงำนทำเบียร์ โรงงำน สุรำ โรงงำนน้ำตำล โรงงำนกระดำษ โรงงำนถลุงแร่ โรงงำนย้อมผ้ำ โรงงำนทำ
แก้วโรงงำนผลิตหลอดไฟ โรงงำนผลิตปุ๋ ย และโรงงำนผลิตกรด
ผลกระทบของมลพิษทำงอำกำศ
ทำลำยสุขภำพ อำกำศเสียทำให้เกิดโรค แพ้อำกำศ โรคเกี่ยวกับทำงเดินหำยใจ โรค เกี่ยวกับกำร
ไหลเวียนของโลหิตผลที่เกิดในระยะยำวอำจทำให้ถึงตำยได้ทำลำยสิ่งก่อสร้ำงและเครื่องใช้โดยเฉพำะ
สิ่งก่อสร้ำงที่ทำด้วยโลหะทำให้เกิดกำรสึกกร่อนทำให้หนังสือและศิลปกรรมต่ำงๆเสียหำยทำให้ทัศน์วิสัย
เลวลง และมีผลทำให้อุณหภูมิอำกำศลดต่ำลงกว่ำปกติได้ทัศน์วิสัยเลวลง ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทั้งในอำกำศ
ท้องถนน และท้องน้ำ ไฮโดรคำร์บอนต่ำง ๆ ออกไซด์ของไนโตรเจน และ กำมะถันในบรรยำกำศ
11
บทที่ 4
วิธีการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน
4.1 ปลูกต้นไม้ทดแทน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานคาแนะนาให้มีการปลูกป่าทดแทนตามสภาพ
ภูมิศาสตร์และสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ที่เหมาะสม กล่าวคือ
1) ปลูกป่าทดแทนในพื้นที่ป่าไม้ถูกบุกรุกแผ้วถางและพื้นที่ป่าไม้และพื้นที่เสื่อมโทรม
“...การปลูกป่าทดแทนในพื้นที่เสื่อมโทรมหรือพื้นที่ต้นน้าลาธารที่ถูกบุกรุกแผ้วถางจนเป็นภูเขาหัวโล้น
แล้วจาต้องปลูกป่า ทดแทนเร่งด่วนนั้น ควรจะทดลองปลูกต้นไม้ชนิดโตเร็วคลุมแนวร่องน้าเสียก่อน เพื่อทา
ให้ความชุ่มชื้นค่อยๆ ทวีขึ้นแผ่ขยายออกไปทั้งสองร่องน้า ซึ่งจะทาให้ต้นไม้งอกงามและมีส่วนช่วยป้องกัน
ไฟป่า เพราะไฟจะเกิดง่ายหากป่าขาดความชุ่มชื้น ในปีต่อไปก็ให้ปลูกต้นไม้ในพื้นที่ถัดขึ้นไป ความชุ่มชื้นก็
จะแผ่ขยายกว้างออกไป ต้นไม้จะงอกงามดีตลอดทั้งปี...”
2) การปลูกป่าทดแทนตามไหล่เขา
“...จะต้องปลูกต้นไม่หลายๆ ชนิด เพื่อให้ได้ประโยชน์เอนกประสงค์คือ มีทั้งไม้ผล ไม้สาหรับก่อสร้าง และ
ไม้สาหรับทาฟืน ซึ่งเกษตรกรจาเป็นต้องใช้เป็นประจา ซึ่งเมื่อตัดไม้ใช้แล้ว ก็ปลูกทดแทนหมุนเวียนทัน...”
3) การปลูกป่าทดแทนบริเวณต้นน้าบนยอดเขาและเนินสูง
“...ต้องมีการปลูกป่าโดยปลูกไม้ยืนต้นและปลูกไม้ฟืน ซึ่งไม้ฟืนนั้นราษฎรสามารถตัดไปใช้ได้แต่ต้องมีการ
ปลูกทดแทนเป็นระยะ ส่วนไม้ยืนต้นจะช่วยให้อากาศมีความชุ่มชื้น ทั้งยังช่วยยึดดินบนเขาไม่ให้พังทลาย
เมื่อเกิดฝนตกอีกด้วย...”
4) ให้มีการปลูกป่าที่ยอดเขา
เนื่องจากสภาพป่าบนที่เขาสูงทรุดโทรม ซึ่งจะมีผลกระทบต่อลุ่มน้าตอนล่าง และคัดเลือกพันธุ์ไม้ที่มีเมล็ด
เป็นฝักเพื่อให้เป็นกระบวนการธรรมชาติปลูกต่อไปจนถึงตีนเขา
5) ปลูกป่าบริเวณอ่างเก็บน้า หรือเหนืออ่างเก็บน้าที่ไม่มีความชุ่มชื้นยาวนานพอ
6) ปลูกป่าเพื่อพัฒนาลุ่มน้าและแหล่งน้าให้มีน้าสะอาดบริโภค
7) ปลูกป่าให้ราษฎรมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยให้ราษฎรในท้องที่นั้นๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการปลูกและดูแลรักษา
ต้นไม้ให้เจริญเติบโต นอกจากนี้ยังเป็นการปลูกฝังจิตสานึกให้ราษฎรเห็นความสาคัญ ของการปลูกป่า
8) ปลูกป่าเสริมธรรมชาติ เพื่อเป็นการเพิ่มที่อยู่อาศัยแกสัตว์ป่า
12
บัดนี้ ในหลายโครงการที่เป็นการปลูกป่าทดแทนตามแนวพระราชดาริได้บรรลุผลสัมฤทธิ์น่าพึงพอใจ อาทิ
เช่น โครงการปลูกป่าชัยพัฒนา แม่ฟ้าหลวงที่ดอยตุง จังหวัดเชียงราย และที่หนองพลับ อาเภอหัวหิน จังหวัด
ประจวบคีรีขันธ์ โครงการปลูกสร้างสวนป่าในศูนย์ศึกษาการพัฒนาต่างๆ โครงการสวนป่าสิริเจริญวรรษ
จังหวัดชลบุรี โครงการปลูกป่าห้วยองคต จังหวัดกาญจนบุรี โครงการปลูกป่าเสริมธรรมชาติในและนอกเขต
ภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร เป็นต้น
4.1 ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก
ถุงผ้า จึงเป็นทางเลือก เพื่อใช้คุมกาเนิดถุงพลาสติก ช่วยลดขยะ ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ ด้วยความ
เหมาะสมลงตัว กับวิถีการเดินทางในชีวิตประจาวัน ที่พร้อมจะจับจ่ายซื้อของได้ทุกเวลา ที่ผู้บริโภคจะ
สามารถมีส่วนร่วมในขวนการจัดการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ด้วยการใช้ถุงผ้า แทนถุงพลาสติก
ข้อดีของการใช้ถุงผ้า เช่น
1) ถุงผ้า ซักทาความสะอาดได้โดยง่าย นากลับมา Reuse ใช้ซ้า ได้มากครั้งกว่าถุงพลาสติก
2) นุ่มสบายมือน่าใช้และไม่ก่อให้เกิดการกดทับอย่างรุนแรงต่อฝ่ามือเท่าถุงพลาสติก
3) พกสะดวก ใช้ง่ายขาดยาก ทนทาน และยังตกแต่งได้ตามสไตล์ที่ชอบ
4) ย่อยสลายได้ไม่ตกค้างจนเป็นปัญหาในสิ่งแวดล้อม
5) ช่วยลดปริมาณขยะ ไม่ทาให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ช่วยลดปัญหาโลกร้อน
6) ถุงผ้าดิบจะช่วยลดการเกิดและการปนเปื้อนของสารประกอบไดอ๊อกซิน ที่เป็นสารก่อมะเร็งที่มีอันตราย
ต่อชีวิต
7) บ่งบอกภาวะรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ของผู้ใช้
8) พกพาติดตัวได้ง่าย ไปได้ทุกที่ ติดตัว ติดรถ พร้อมใช้งานในทุกโอกาส ใช้ใส่สิ่งของได้หลายอย่าง
9) ใช้เป็นสื่อรณรงค์เสริมสร้างความเข้าใจ และความตระหนักในสิ่งแวดล้อมได้อย่างกว้างขวาง
10) ส่งเสริมองค์กร ธุริจการค้า การท่องเที่ยว ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
11) ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้ตัวเอง ในการประดิษฐ์ถุงผ้าใช้ด้วยตัวเอง D.I.Y. จากเสื้อผ้าเก่าๆที่ไม่ใช้
แล้ว อีกทั้งยังทาเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย
12) การหันมาใช้ถุงผ้า นอกจากจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยเกื้อหนุนธุรกิจรายย่อย หรือแรงงาน
ฝีมือตัดเย็บถุงผ้าอีกด้วย
บทที่ 5
13
จุดประสงค์การแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน
5.1 ทราบถึงที่มาของภาวะโลกร้อน
ซึ่งล้วนเกิดจากน้ามือของมนุษย์เราทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของประชากร การใช้ทรัพยากร
ต่างๆเกินความจาเป็นหรือผลกระทบจากการผลิตสิ่งต่างๆเพื่อสนองความต้องการของประชากรมนุษย์ที่มี
มากขึ้นทุกวันนั่นเอง
5.2 รู้จักการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมีคุณภาพ
การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงสภาพต่าง ๆ ทางธรรมชาติไว้ ทั้ง
ปริมาณ และคุณภาพ ให้มีอยู่หรือยั่งยืนตลอดไป วิธีการนี้ใช้ได้กับการจัดการทรัพยากร ดิน ป่าไม้ สัตว์ป่า
ทิวทัศน์ ธรรมชาติ เช่น การเพาะปลูกแบบขั้นบันไดและการปลูกหญ้าแฝกในพื้นที่สูงชันเพื่อป้องกันดิน
พังทลาย การตัดไม้ หรือ ทาไม้ในป่าไม้ ไม่ให้เกินกาลังงอกพร้อมกันนั้นก็ปลูกป่าทดแทนไปในเวลา
เดียวกัน นอกจากนี้การผสมเทียมและปล่อยปลาลงไปในแหล่งน้าต่าง ๆ ตลอดจนการเผยแพร่พันธุ์ปลาใน
วันสงกรานต์ซึ่งถือเป็นวันประมงแห่งชาติ การจัดพื้นที่ในรูปอุทยานแห่งชาติ สวนป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
สวนพฤกษศาสตร์วรรณคดีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ได้โดยตลอดไปด้วย
การรู้จักบูรณะและปรับปรุงทรัพยากรด้วยการรู้จักบูรณะและปรับปรุงทรัพยากรที่ใช้มานานจนเสื่อคุณภาพ
และใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้วให้กลับมีคุณภาพและใช้ประโยชน์ได้อีก อาทิ การปลูกป่าทดแทน หรือการปลูก
สร้างสวนป่า การปรับปรุงแก้ไขดินเปรี้ยว ดินเค็ม ให้ใช้เพาะปลูกได้ดังเดิม การแก้ไขมลภาวะของน้า การ
ผสมเทียมพันธุ์พืช และสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์
5.3 เพื่อให้โลกกลับสู่ภำวะปกติ
เมื่อทุกคนช่วยกันคนละไม้ละมือในกำรแก้ไขปัญหำโลกร้อนแล้ว ภำยในอนำคตโลกจะกลับสู่
สมดุลภำวะปกติเหมือนที่เคยเป็น ภัยพิบัติและมลภำวะ ปัญหำต่ำงๆก็จะลดตำมไป ส่งผลให้กำรเป็นอยู่ของ
คนนั้นดีขึ้นด้วยเช่นกัน
5.4 เพื่อให้มีทรัพยำกรใช้ต่อไปได้อย่ำงยั่งยืน
เมื่อมีกำรวำงแผนกำรใช้ทรัพยำกรทำให้มีทรัพยำกรเหลือเพียงพอต่อเรำและรุ่นลูกหลำนของเรำต่อไป
บรรณำนุกรม
14
มูลนิธิชัยพัฒนำ.2559.ทฤษฎีกำรพัฒนำฟื้นฟูป่ำไม้อันเนื่องมำจำกพระรำชดำริ(ออนไลน์).แหล่งที่มำ:
http://www.chaipat.or.th/site_content/68-4/254-theory-developed-forest-restoration.html.
24 กันยำยน 2559
ศูนย์วิจัยและพัฒนำกำรป้องกันและจัดกำรภัยพิบัติ.2559.ภัยจำกสำรเคมี: น้ำเสียจำกโรงงำนอุตสำหกรรม
(ออนไลน์).แหล่งที่มำ:
http://dpm.nida.ac.th/main/index.php/articles/chemical-hazards/item/129. 24 กันยำยน 2559
sirirat .2559.สำเหตุกำรเกิดภำวะโลกร้อน(ออนไลน์).แหล่งที่มำ: http://sirirat9876.blogspot.com/p/blog-
page_27.html. 24 กันยำยน 2559
บทเรียนออนไลน์.2559.ปัญหำที่เกิดจำกกำรเพิ่มจำนวนประชำกร(ออนไลน์).แหล่งที่มำ:
http://environment.ekstepza.ws/population-problem.html 24 กันยำยน 2559
สำนักงำนกำรป้องกันคุ้มครองโรค.2559.อันตรำยจำกกำรเผำขยะ.(ออนไลน์).แหล่งที่มำ:
http://odpc5.ddc.moph.go.th/groups/academic/index.php?option=com_content&view=article&id=59:2011
-03-24-10-24-24&catid=45:2011-03-24-10-42-30&Itemid=61.24 กันยำยน 2559
ภำคผนวก
15
ภำคผนวกภำพที่ 1 ภำพกำรประชุมกลุ่ม
ภำคผนวกภำพที่ 2 งำนย่อย 4
ภาคผนวกภาพที่ 2 งานย่อย 4
ภำคผนวกภำพที่ 3 งำน ก#1
16
ภำคผนวกภำพที่4 งำน ก#1
ภำคผนวกภำพที่5 งำน ก#1
ภำคผนวกภำพที่4 งำน ก#1
ภำคผนวกภำพที่5 งำน ก#1
17
ภำคผนวกภำพที่6 งำน ก#1
ภำคผนวกภำพที่9 งำน ก#1
ภำคผนวกภำพที่ 6 งำนย่อย 8
ภำคผนวกภำพที่ 7 งำน ก#1
ภำคผนวกภำพที่ 7 งำนย่อย 8
18
ภำคผนวกภำพที่ 8 งำนย่อย 8
ภำคผนวกภำพที่ 9 งำนย่อย 8
19
ภำคผนวกภำพที่ 10 งำนย่อย 8
ภำคผนวกภำพที่ 11 งำนย่อย 8
20
21
ชื่อและภำพผู้จัดทำ
1.นำงสำวชญำนิษฐ์ วัลลำ เลขที่ 14
2.นำงสำววรกำนต์ วิเชนสวัสดิ์ เลขที่ 19
22
3.นำงสำววรดำ สิริเกียรติสกนธุ์ เลขที่ 20
4.นำงสำวสิริธิดำ ปำนสุวรรณ เลขที่ 25

More Related Content

What's hot

โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุด
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุดโครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุด
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุดพัน พัน
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงานspanerrrrr
 
ชอล์กกำจัดมดจากเปลือกไข่
ชอล์กกำจัดมดจากเปลือกไข่ชอล์กกำจัดมดจากเปลือกไข่
ชอล์กกำจัดมดจากเปลือกไข่pink2543
 
เรื่อง มหัศจรรย์เรื่องกล้วยๆ
เรื่อง มหัศจรรย์เรื่องกล้วยๆเรื่อง มหัศจรรย์เรื่องกล้วยๆ
เรื่อง มหัศจรรย์เรื่องกล้วยๆRujira Meechin
 
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)Pongpan Pairojana
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเทียนหอมไล่ยุงตะไคร้
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเทียนหอมไล่ยุงตะไคร้โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเทียนหอมไล่ยุงตะไคร้
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเทียนหอมไล่ยุงตะไคร้Paramin Suwannawut
 
หน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงานหน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงานKanistha Chudchum
 
โครงงานเรื่อง กล้วย (กล้วยแขก)
โครงงานเรื่อง กล้วย (กล้วยแขก) โครงงานเรื่อง กล้วย (กล้วยแขก)
โครงงานเรื่อง กล้วย (กล้วยแขก) Np Vnk
 
โครงงานการทำขนมเค้ก
โครงงานการทำขนมเค้กโครงงานการทำขนมเค้ก
โครงงานการทำขนมเค้กPloy Siriwanna
 
แผ่นดินไหวในทวีปอเมริกาเหนือ
แผ่นดินไหวในทวีปอเมริกาเหนือแผ่นดินไหวในทวีปอเมริกาเหนือ
แผ่นดินไหวในทวีปอเมริกาเหนือpoundspk
 
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนโครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนพัน พัน
 
วิทยาศาสตร์ วงจรไฟฟ้า
วิทยาศาสตร์ วงจรไฟฟ้าวิทยาศาสตร์ วงจรไฟฟ้า
วิทยาศาสตร์ วงจรไฟฟ้าChanida Manonom
 
โครงงานน้ำหมักชีวภาพ
โครงงานน้ำหมักชีวภาพโครงงานน้ำหมักชีวภาพ
โครงงานน้ำหมักชีวภาพKris Niyomphandh
 
โครงงานเรื่อง กล้วยฉาบ
โครงงานเรื่อง กล้วยฉาบโครงงานเรื่อง กล้วยฉาบ
โครงงานเรื่อง กล้วยฉาบLorpiyanon Krittaya
 

What's hot (20)

โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุด
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุดโครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุด
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุด
 
โครงงานวุ้นกะทิ
โครงงานวุ้นกะทิโครงงานวุ้นกะทิ
โครงงานวุ้นกะทิ
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
ชอล์กกำจัดมดจากเปลือกไข่
ชอล์กกำจัดมดจากเปลือกไข่ชอล์กกำจัดมดจากเปลือกไข่
ชอล์กกำจัดมดจากเปลือกไข่
 
เรื่อง มหัศจรรย์เรื่องกล้วยๆ
เรื่อง มหัศจรรย์เรื่องกล้วยๆเรื่อง มหัศจรรย์เรื่องกล้วยๆ
เรื่อง มหัศจรรย์เรื่องกล้วยๆ
 
ปกโครงงานคณิตศาสตร์
ปกโครงงานคณิตศาสตร์ปกโครงงานคณิตศาสตร์
ปกโครงงานคณิตศาสตร์
 
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
 
ตัวอย่าง 5 บท โครงงานคอมฯ
ตัวอย่าง 5 บท โครงงานคอมฯตัวอย่าง 5 บท โครงงานคอมฯ
ตัวอย่าง 5 บท โครงงานคอมฯ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเทียนหอมไล่ยุงตะไคร้
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเทียนหอมไล่ยุงตะไคร้โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเทียนหอมไล่ยุงตะไคร้
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเทียนหอมไล่ยุงตะไคร้
 
หน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงานหน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงาน
 
โครงงานเรื่อง กล้วย (กล้วยแขก)
โครงงานเรื่อง กล้วย (กล้วยแขก) โครงงานเรื่อง กล้วย (กล้วยแขก)
โครงงานเรื่อง กล้วย (กล้วยแขก)
 
อาหาร Fast food
อาหาร Fast foodอาหาร Fast food
อาหาร Fast food
 
โครงงานการทำขนมเค้ก
โครงงานการทำขนมเค้กโครงงานการทำขนมเค้ก
โครงงานการทำขนมเค้ก
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง ขยะหอมไล่แมลง
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง ขยะหอมไล่แมลงโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง ขยะหอมไล่แมลง
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง ขยะหอมไล่แมลง
 
แผ่นดินไหวในทวีปอเมริกาเหนือ
แผ่นดินไหวในทวีปอเมริกาเหนือแผ่นดินไหวในทวีปอเมริกาเหนือ
แผ่นดินไหวในทวีปอเมริกาเหนือ
 
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนโครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
 
วิทยาศาสตร์ วงจรไฟฟ้า
วิทยาศาสตร์ วงจรไฟฟ้าวิทยาศาสตร์ วงจรไฟฟ้า
วิทยาศาสตร์ วงจรไฟฟ้า
 
โครงงานน้ำหมักชีวภาพ
โครงงานน้ำหมักชีวภาพโครงงานน้ำหมักชีวภาพ
โครงงานน้ำหมักชีวภาพ
 
โครงงานเรื่อง กล้วยฉาบ
โครงงานเรื่อง กล้วยฉาบโครงงานเรื่อง กล้วยฉาบ
โครงงานเรื่อง กล้วยฉาบ
 
ขนมไทย
ขนมไทยขนมไทย
ขนมไทย
 

Similar to เรื่องปัญหาภาวะโลกร้อน

ภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อนภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อนbambam bam
 
ปัญหาน้ำเน่าเสีย
ปัญหาน้ำเน่าเสียปัญหาน้ำเน่าเสีย
ปัญหาน้ำเน่าเสียพัน พัน
 
ปัญหาสิ่งแวดล้อม
ปัญหาสิ่งแวดล้อมปัญหาสิ่งแวดล้อม
ปัญหาสิ่งแวดล้อมTangkwa Pawarisa
 
เค้าโครงร่างโครงงาน
เค้าโครงร่างโครงงานเค้าโครงร่างโครงงาน
เค้าโครงร่างโครงงานJah Jadeite
 

Similar to เรื่องปัญหาภาวะโลกร้อน (7)

ภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อนภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อน
 
บทที่ 1 (1)
บทที่ 1 (1)บทที่ 1 (1)
บทที่ 1 (1)
 
ปัญหาน้ำเน่าเสีย
ปัญหาน้ำเน่าเสียปัญหาน้ำเน่าเสีย
ปัญหาน้ำเน่าเสีย
 
ภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อนภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อน
 
ปัญหาสิ่งแวดล้อม
ปัญหาสิ่งแวดล้อมปัญหาสิ่งแวดล้อม
ปัญหาสิ่งแวดล้อม
 
เค้าโครงร่างโครงงาน
เค้าโครงร่างโครงงานเค้าโครงร่างโครงงาน
เค้าโครงร่างโครงงาน
 
Is3sharinglove
Is3sharingloveIs3sharinglove
Is3sharinglove
 

More from พัน พัน

เรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการเรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการพัน พัน
 
เรื่องภาษาซี
เรื่องภาษาซีเรื่องภาษาซี
เรื่องภาษาซีพัน พัน
 
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษรการเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษรพัน พัน
 
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
การทำงานของคอมพิวเตอร์
การทำงานของคอมพิวเตอร์การทำงานของคอมพิวเตอร์
การทำงานของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัยระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัยพัน พัน
 
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศพัน พัน
 
ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้นพัน พัน
 
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้นพัน พัน
 
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์เรื่องด้านคอมพิวเตอร์
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
เรื่องคอมพิวเตอร์
เรื่องคอมพิวเตอร์เรื่องคอมพิวเตอร์
เรื่องคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้พัน พัน
 

More from พัน พัน (20)

เรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการเรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการ
 
เรื่องภาษาซี
เรื่องภาษาซีเรื่องภาษาซี
เรื่องภาษาซี
 
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
 
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษรการเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
 
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
 
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
การทำงานของคอมพิวเตอร์
การทำงานของคอมพิวเตอร์การทำงานของคอมพิวเตอร์
การทำงานของคอมพิวเตอร์
 
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัยระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
 
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์
 
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
 
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
 
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์เรื่องด้านคอมพิวเตอร์
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์
 
เรื่องคอมพิวเตอร์
เรื่องคอมพิวเตอร์เรื่องคอมพิวเตอร์
เรื่องคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
การปริ้น
การปริ้นการปริ้น
การปริ้น
 
Office
OfficeOffice
Office
 
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
 
ยาเสพติด
ยาเสพติดยาเสพติด
ยาเสพติด
 

เรื่องปัญหาภาวะโลกร้อน

  • 1. โครงงาน เรื่อง ปัญหาภาวะโลกร้อน จัดทาโดย นางสาวชญานิษฐ์ วัลลา เลขที่ 14 นางสาววรกานต์ วิเชนสวัสดิ์ เลขที่ 19 นางสาววรดา สิริเกียรติสกนธ์ เลขที่ 20 นางสาวสิริธิดา ปานสุวรรณ เลขที่ 25 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 เสนอ คุณครู ทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิชาการศึกษาค้นคว้าและการสร้างความรู้ IS1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8
  • 2. ก คำนำ โครงงำนนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชำกำรศึกษำค้นคว้ำและกำรสร้ำงควำมรู้ IS1 รหัสวิชำ I30201 ชั้น มัธยมศึกษำปีที่ 5 โดยมีจุดประสงค์เพื่อศึกษำปัญหำภำวะโลกร้อน ซึ่งโครงงำนเล่มนี้มีเนื้อหำเกี่ยวกับ ปัญหำ สำเหตุ ผลกระทบ และวิธีกำรแก้ไขภำวะโลกร้อนซึ่งเป็นวิธีที่เรำสำมำรถนำมำประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ คณะผู้จัดทำหวังว่ำโครงงำนเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจในเรื่องปัญหำขยะภำยในโลกไม่มำกก็น้อย หำกมีข้อผิดพลำดประกำรใดต้องขอภัยมำ ณ ที่นี้ด้วย คณะผู้จัดทำ 24 กันยำยน 2559
  • 3. ข กิตติกรรมประกำศ โครงงำนกำรศึกษำค้นคว้ำและกำรสร้ำงควำมรู้ IS1 เรื่องภำวะโลกร้อน ประสบควำมสำเร็จลุล่วงไป ได้ด้วยดี จำกควำมช่วยเหลือของ อำจำรย์ทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม ที่ได้ให้คำปรึกษำ แนะนำขั้นตอนกำรทำ โครงงำนและบอกข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข และตรวจสอบทุกขั้นตอนของกำรทำโครงงำนนี้ คณะผู้จัดทำจึง ขอขอบพระคุณอย่ำงสูง ขอขอบคุณเพื่อนนักเรียน ที่เป็นกำลังใจในกำรทำโครงงำนนี้และขอบคุณสมำชิกในกลุ่มทุกท่ำนที่ ให้ควำมร่วมมือ จนโครงงำนนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ขอขอบคุณคุณครูทุกท่ำนที่ได้ให้ควำมรู้ คำแนะนำในกำรจัดทำรำยงำนกำรศึกษำค้นคว้ำและกำร สร้ำงควำมรู้ IS1 ฉบับนี้ ขอขอบคุณบิดำ มำรดำของคณะผู้จัดทำ ที่ได้ให้ควำมช่วยเหลือสนับสนุน อีกทั้งคอยให้กำลังใจ ตลอดมำ คณะผู้จัดทำ
  • 4. ค สำรบัญ เรื่อง หน้ำ คำนำ ก กิตติกรรมประกำศ ข สำรบัญ ค สำรบัญรูปภำพ ง บทที่1 1-3 บทที่2 4-5 บทที่3 6-10 บทที่4 11-12 บทที่5 13 บรรณำนุกรม 14 ภำคผนวก 15-20 ชื่อและภำพผู้จัดทำ 21-22
  • 5. ง สำรบัญรูปภำพ แผนภำพ หน้ำ ภำพที่ 1.1 สถิติการผลิตขยะของแต่ละภูมิภาคเมื่อเทียบกับปริมาณทั่วโลก 1 ภำคผนวกภำพที่ 1 ภำพกำรประชุมกลุ่ม 15 ภำคผนวกภำพที่ 2 งำนย่อย 4 15 ภำคผนวกภำพที่ 3 งำน ก#1 16 ภำคผนวกภำพที่ 4 งำน ก#1 16 ภำคผนวกภำพที่ 5 งำน ก#1 17 ภำคผนวกภำพที่ 6 งำน ก#1 17 ภำคผนวกภำพที่ 7 งำน ก#1 18 ภำคผนวกภำพที่ 8 งำนย่อย 8 18 ภำคผนวกภำพที่ 9 งำนย่อย 8 19 ภำคผนวกภำพที่ 10 งำนย่อย 8 19 ภำคผนวกภำพที่ 11 งำนย่อย 8 20
  • 6. 1 บทที่ 1 ปัญหาภาวะโลกร้อน 1.1 สาเหตุปัญหาโลกร้อน สภาวะโลกร้อนเกิดจากการที่มีแก๊สเรือนกระจกในบรรยากาศมากเกินไป แก๊สเรือนกระจกตัวหนึ่ง ที่สาคัญ ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงเพื่อใช้งาน มนุษย์เองเป็นผู้ปล่อยแก๊สนี้ ออกมาเป็นจานวนมากเพื่อนาพลังงานมาใช้ ยิ่งเราใช้พลังงานมากเท่าใด ก็ยิ่งได้แก๊สเรือนกระจกออกมา มากขึ้นเป็นเงาตามตัว หากเราพิจารณาอัตราการใช้พลังงานในช่วงครึ่งศรวรรษที่ผ่านมา จะพบว่า สอดคล้องกับการเพิ่มปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศเป็นอย่างดี และไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันนี้ ที่จริงแล้วเป็นกระบวนการรักษาตัวเองของโลก หากเป็นสภาวะ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โลกจะกลับมาสู่สภาวะสมดุลได้ในเวลาไม่นานนัก แต่เนื่องจากมนุษย์เราเร่งผลิต แก๊สเรือนกระจกออกมามากเกินขีดความสามารถ ของโลกที่จะเยียวยาตนเองได้ทัน การเกิดสภาวะโลกร้อน อย่างรวดเร็วและรุนแรงจึงเกิดขึ้น กล่าวโดยสรุปก็คือ สาเหตุที่ทาให้เกิดสภาวะโลกร้อนในครั้งนี้ ก็คือ มนุษย์ 1.2 สถิติอุณหภูมิในแต่ละปี ภาพที่ 1.1 สถิติค่าอุณหภูมิต่อปี ปีที่ผ่านมาอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นถึง 0.74 - 0.18 องศาเซลเซียส และจากแบบจาลองการคาดคะเน ภูมิอากาศพบว่าในปี ค.ศ 1990 – 2010 อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 1.1 ถึง 6.4 องศาเซลเซียส
  • 7. 2 1.3 ผลกระทบทางด้านลบจากภาวะโลกร้อน - ผลกระทบที่มีต่อระบบนิเวศวิทยำ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นก็ส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลกละลำย เมื่อน้ำแข็งจำนวนมำกละลำยลงก็ทำให้ปริมำณน้ำทะเล ในโลกของเรำนั้นสูงขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงเลยก็คือทำให้น้ำท่วม สถำนที่ๆเรำรู้จักกันหลำยๆที่ก็จะจมมิดอยู่ ใต้ท้องทะเล อย่ำงเช่น หมู่เกำะมัลดีฟส์ และกรุงเทพมหำนครเมืองหลวงของเรำก็เช่นกัน นอกจำกนั้นปริมำณน้ำที่เพิ่มขึ้นมำบวกกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นส่งผลให้ระบบนิเวศของท้องทะเลเปลี่ยนไป ทำ ให้สัตว์น้ำจำนวนมำกปรับตัวไม่ได้และจะต้องตำยลงไป ตอนนี้ที่เห็นอยู่กันทั่วโลกก็คือปรำกฏกำรณ์ฟอก ขำวของปะกำรัง เกิดจำกกำรที่โพลิปของปะกำรังนั้นตำยเพรำะปรับตัวเข้ำกับสภำพแวดล้อมไม่ได้ เหลือไว้ แต่ส่วนที่เป็นโครงสร้ำงสีขำวไร้ซึ่งชีวิต ไม่ต่ำงอะไรกับโครงกระดูกของสิ่งมีชีวิตที่ตำยแล้ว ซึ่งปะกำรังนั้น เป็นแหล่งอนุบำลสัตว์น้ำที่สำคัญมำก ถ้ำไม่มีปะกำรังสัตว์น้ำต่ำงๆก็จะลดจำนวนลงไป และบำงชนิดอำจ สูญพันธุ์ไปในที่สุด อีกผลกระทบที่พวกเรำเห็นได้อย่ำงชัดเจนเลยก็คือภัยพิบัติจำกธรรมชำติที่เกิดบ่อยขึ้น และรุนแรงมำกขึ้น เป็นเพรำะสภำพอำกำศเปลี่ยนแปลงไป ฤดูหนำวสั้นลง ฤดูร้อนยำวนำนขึ้น และเมื่ออุณหภูมิของโลกสูงขึ้น น้ำจำกทะเลและจำกแหล่งน้ำต่ำงๆก็เกิดกำรระเหยมำกขึ้น ปริมำณน้ำฝนที่ตกลงมำก็จะมีปริมำณที่สูงขึ้นจน ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลำยพื้นที่ ต่อไปอำหำรและน้ำสะอำดก็จะขำดแคลน เพรำะว่ำพืชผลปลูกได้ยำกขึ้นจำก กำรที่อำกำศเปลี่ยนไป ซ้ำยังมีภัยพิบัติมำคอยทำลำยพื้นที่เพำะปลูกและพืชผลให้เสียหำยอีกด้วย - ผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจ อย่ำงที่กล่ำวไปในหัวข้อที่แล้ว เมื่อสัตว์น้ำมีจำนวนน้อยลงก็ทำให้สูญเสียรำยได้จำกกำรจับสัตว์น้ำ แหล่ง ท่องเที่ยวใต้น้ำที่เคยสวยงำมที่เคยมีก็หมดไป ทำให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจกำรท่องเที่ยว อีกทั้งกำรเกษตรก็ ได้รับผลกระทบไปด้วย ปริมำณพืชผลที่เคยผลิตได้มำกมำยก็ลดน้อยไป ส่งผลให้อำหำรกำรกินแพงขึ้น และ สินค้ำขำดตลำด ภัยพิบัติที่รุนแรงยังส่งผลให้เกิดควำมเสียหำยแก่โรงงำนและแหล่งอุตสำหกรรมอีกด้วย จะเห็นได้จำกน้ำ ท่วมครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 ที่โรงงำนและนิคมอุตสำหกรรมหลำยแห่งได้รับควำมเสียหำย อีกทั้งยังต้องใช้งบ เพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในกำรป้องกันภัยพิบัติที่อำจจะเกิดขึ้นอีกในอนำคต และยังส่งผลต่อควำมเชื่อมั่นของผู้ลงทุน ด้วย
  • 8. 3 - ผลกระทบในด้ำนของสุขภำพ อุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นนั้นส่งผลให้เกิดสภำวะที่เหมำะสมของกำรดำรงชีวิตของแบคทีเรียและศัตรูพืช หลำยๆชนิด ซึ่งทำให้ในอนำคตจะมีผู้ที่ติดเชื้อและล้มป่วยมำกขึ้น ยกตัวอย่ำงโรคไข้เลือดออกที่ทุกคนรู้จัก กันดี รวมไปถึงไข้มำลำเรีย อหิวำตกโรคก็จะระบำดเพิ่มขึ้นมำกในอีกประมำณ 20 ปีข้ำงหน้ำ
  • 9. 4 บทที่2 สาเหตุของปัญหาภาวะโลกร้อน 2.1 การเพิ่มขึ้นของจานวนประชากร การเพิ่มขึ้นของจานวนประชาทาให้ต้องเพิ่มกาลังในการผลิตความต้องการปัจจัยสี่เพิ่มขึ้น ได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และเครื่องนุ่งห่ม ปัจจัยสี่เหล่านี้ได้มาจากทรัพยากรธรรมชาติ เมื่อประชากร เพิ่มมากขึ้นต้องเสาะหาทรัพยากรธรรมชาติให้ได้มากขึ้น เพิ่มการผลิตผล ผลิตให้ได้มากและรวดเร็วโดย อาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีผลของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทาให้ประดิษฐ์คิดค้น เครื่องมือ เครื่องจักร และกรรมวิธีการ ทาการเกษตรกรรม สมัยใหม่ตลอดจนการแปรรูปผลิตภัณฑ์โดย เปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตที่ทากันในครอบครัวเป็นการผลิตในระดับอุตสาหกรรมผลจากวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ทาให้ทรัพยากรธรรมชาติถูกนามาใช้อย่างมากมาย และรวดเร็วจนทาให้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ป่าไม้ แร่ธาตุ น้ามันเชื้อเพลิง มีปริมาณลดน้องลงไปมากผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทาให้สภาพแวดล้อม เสื่อมโทรมและเป็นพิษ เกินกว่าธรรมชาติ จะแก้ไขและบาบัดให้ กลับคืนมาเหมือนเดิมได้ 2.2 ควันและน้าเสียจากโรงงานอุสาหกรรม จากโรงงานนั้นสารเคมี ไม่ได้มีเพียงแต่ในรูปของก๊าซพิษที่ปล่อยออกสู่บรรยากาศจากโรงงาน อุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังมีในรูปการปล่อยสารเคมีในรูปของสารละลายลงสู่แหล่งน้าต่างๆ ทาให้เกิด ปัญหาน้าเน่าเสีย ไม่สามารถนาน้านั้นมาใช้เพื่อการบริโภค อุปโภค ระบบนิเวศน์ของสัตว์น้าถูกทาลาย รวมถึงการส่งกลิ่นเหม็นรบกวน 2.3 การเผาขยะและกาจัดขยะไม่ถูกวิธี ขยะที่เผาประกอบไปด้วยกระดาษ เศษไม้ บรรจุภัณฑ์อาหารหรือพลาสติก วัตถุเหล่านี้สามารถที่จะ นามาใช้ใหม่ นาไปเป็นเชื้อเพลิงหรือนาเข้าสู่กระบวนการกาจัดอย่างถูกวิธีได้ แต่หากนาขยะเหล่านี้ไปเผา ทาลายหรือการเกิดไฟไหม้กองขยะในชุมชนมลภาวะอันเกิดจากการเผาไหม้จะลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศรอบ บ้านหรือชุมชนโดยไม่มีการกรองและในที่สุดก็ตกลงสู่พื้นดินหรือแหล่งน้าเกิดการสะสมในสิ่งแวดล้อม โดยทั่วไปในชุมชน อันตรายที่สุดของการแพร่กระจายของสารเคมีจากกระบวนการเผาไหม้คือ การเผา พลาสติกจาพวก พีวีซี ซึ่งในขณะที่มีการเผาไหม้จะก่อให้เกิดสารไดออกซิน ซึ่งเป็นสารประกอบทางเคมีที่ อันตรายที่สุดและสามารถทาลายระบบต่างๆในร่างกาย อีกทั้งยังสะสมในไขมันในร่างกายและสามารถส่ง
  • 10. 5 ต่อจากแม่ถึงลูกในครรภ์ได้ผ่านทางสายรก นอกจากนี้สารไดออกซินยังสามารถสะสมอยู่ในผลิตผลทาง การเกษตรและแหล่งน้าซึ่งสุดท้ายแล้วจะสามารถเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ได้ ตั้งนั้นก่อการเผาขยะเราควร แยกขยะที่เป็นพิษออก และศึกษาหาวิธีการกาจัดที่ถูกวิธี 2.2 กำรใช้ทรัพยำกรเกินควำมจำเป็น มีกำรนำทรัพยำกรธรรมชำติมำใช้สนองควำมต้องกำรในกำรดำรงชีวิตมำกยิ่งขึ้นทั้งทำงด้ำนปริมำณ และคุณภำพ ซึ่งบำงครั้งเกินควำมจำเป็น จนทำให้ระบบนิเวศต่ำง ๆ เสียสมดุล ทรัพยำกรธรรมชำติบำงอย่ำง เสื่อมโทรม ร่อยหรอหรือเกิดกำรเปลี่ยนแปลงจนไม่สำมำรถเอื้อประโยชน์ได้เช่นเดิม จึงมีควำมจำเป็นอย่ำง ยิ่งที่จะต้องหำวิธีกำร หรือมำตรกำรในกำรใช้ทรัพยำกรธรรมชำติอย่ำงเหมำะสมและมีเหตุผลเพียงพอ ทั้งนี้ รวมไปถึงกำรควบคุมขนำดประชำกรโลกให้มีควำมเหมำะสมกับทรัพยำกรของโลก ขณะเดียวกันก็ต้อง อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย
  • 11. 6 บทที่ 3 ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน 3.1 ภาวะเรือนกระจก คือ ภาวะที่ชั้นบรรยากาศของโลกกระทาตัวเสมือนกระจก ที่ยอมให้รังสีคลื่นสั้นผ่านลงมายังผิวโลก ได้ แต่จะดูดกลืนรังสีคลื่นยาวช่วงอินฟราเรดที่แผ่ออกจากพื้นผิวโลกเอาไว้ จากนั้นก็จะคายพลังงานความ ร้อน ให้กระจายอยู่ภายใน ชั้นบรรยากาศและพื้นผิวโลก จึงเปรียบเสมือนกระจกที่ปกคลุมผิวโลกให้มีภาวะ สมดุลทางอุณหภูมิ และเหมาะสมต่อสิ่งมีชีวิตบนผิวโลก แต่ในปัจจุบันมีก๊าซบางชนิดสะสมอยู่ในชั้น บรรยากาศมากเกินสมดุล ซึ่งก๊าซเหล่านี้สามารถดูดกลืนรังสีคลื่นยาวช่วงอินฟราเรดและคายพลังงานความ ร้อนได้ดีพื้นผิวโลกและชั้นบรรยากาศ จึงมีอุณหภูมิสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศของโลก และ สิ่งมีชีวิตพื้นผิวโลกอย่างมากมาย 3.2 เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจำกภัยโลกร้อน ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดควำมเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน อำทิ อำกำศร้อนขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลำย หรือระดับน้ำทะเลโลกสูงขึ้นเท่ำนั้น แต่ปัจจุบันยังเป็นต้นเหตุของ ปรำกฏกำรณ์แปลกๆ มำกมำย ซึ่งเกี่ยวพันกับกำรหำยสำบสูญของทะเลสำบ โรคภูมิแพ้โดยไม่ทรำบสำเหตุ วิถีโคจรของดำวเทียมในอวกำศ และอื่นๆอีกมำกมำย สำรภูมิแพ้แพร่ระบำด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ำนมำนี้ ในประเทศสหรัฐอเมริกำได้เกิดปรำกฎกำรณ์ประหลำดขึ้นทุกๆ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ นั่นคือ ประชำชนไอ จำม เป็นภูมิแพ้และหอบหืดกันง่ำยขึ้นและบ่อยขึ้นโดยไม่ทรำบสำเหตุ จำกกำรศึกษำที่ ผ่ำนมำ พบว่ำ วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปกับสภำพมลพิษในอำกำศ เป็นสำเหตุสำคัญของอำกำรดังกล่ำว อย่ำงไรก็ตำม มีงำนวิจัยใหม่ๆ ชี้ให้เห็นว่ำ วิกฤตอุณหภูมิโลกร้อนขึ้นและมีระดับก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ ในอำกำศมำกขึ้น คือต้นเหตุทำให้พืชพรรณต่ำงๆ ผลิใบเร็วกว่ำเดิม ขณะเดียวกันปริมำณละอองเกสรที่ฟุ้ง กระจำยไปตำมอำกำศก็มำกขึ้นเช่นกัน คนที่เป็นภูมิแพ้หรือหอบหืดเมื่อสูดละอองเหล่ำนี้เข้ำไปมำกๆ อำกำร จึงกำเริบง่ำย
  • 12. 7 สัตว์อพยพไร้ที่อยู่ ผลกระทบจำกปัญหำโลกร้อน ทำให้สัตว์บำงชนิด เช่น กระรอก ตัวชิปมังก์ หรือแม้กระทั่งหนู ต้อง อพยพหนีขึ้นไปอยู่บนที่สูงขึ้นสัตว์ที่กำลังเผชิญปัญหำใหญ่ ได้แก่ "หมีขั้วโลก" ที่ในอนำคตอำจมีชีวิตอยู่ใน ถิ่นฐำนเดิมแถบอำร์กติก ขั้วโลกเหนือไม่ได้เนื่องจำกธำรน้ำแข็งละลำยอย่ำงรวดเร็ว "พืช" ขั้วโลกคืนชีพ ช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่ำนมำ ผลจำกภำวะน้ำแข็งขั้วโลกละลำยเพรำะโลกร้อน ส่งผลต่อกำรดำรงอยู่ ของพืชและสัตว์จำนวนมำก ตำมปกติ พืชแถบอำร์กติกจะถูกปกคลุมอยู่ในน้ำแข็งตลอดทั้งปีแต่ปัจจุบัน เมื่อ น้ำแข็งละลำยมำกขึ้นเรื่อย โดยเฉพำะในช่วงก่อนฤดูใบไม้ผลิต จึงทำให้พืชที่เคยถูกห่อหุ้มด้วยน้ำแข็ง กลำยเป็นอิสระสำมำรถเริ่มกระบวนกำรสังเครำะห์แสงและกลับมำเติบโตขึ้นอีกครั้ง กลำยเป็นอีก 1 ปรำกฎกำรณ์ใหม่ของพื้นที่ขั้วโลกเหนือ ทะเลสำบหำยสำบสูญ เรื่องประหลำดๆ ที่เกิดขึ้นในเขตอำร์กติก หรือ ขั้วโลกเหนือยังไม่หมดแค่นั้น มีงำนวิจัยชี้ให้เห็นว่ำ ในช่วง 20-30 ปีที่ผ่ำนมำ "ทะเลสำบ" ประมำณ 125 แห่งได้หำยสำบสูญไปจำกเขตอำร์กติก เป็นสัญญำณ หนึ่งที่ช่วยให้เห็นว่ำภัยโลกร้อนส่งผลกระทบเร็วมำกต่อสภำพแวดล้อมแถบขั้วโลกสำเหตุที่ทะเลสำบ หำยไปก็เพรำะ "เพอร์มำฟรอส" ที่เป็นน้ำแข็งแข็งตัวอยู่ใต้พื้นทะเลสำบนั้นละลำยหมดสิ้นไป ดังนั้น น้ำใน ทะเลสำบจึงซึมเข้ำสู่พื้นดินข้ำงใต้ได้ เหมือนกับเวลำเรำดึงจุกปิดน้ำออกจำกอ่ำงอำบน้ำแล้วน้ำจึงไหลหมด ไปจำกอ่ำงนั่นเองนอกจำกนี้ กำรที่ทะเลสำบขั้วโลกหำยวับไป ยังส่งผลลูกโซ่ปั่นป่วนไปถึงระบบนิเวศใน พื้นที่ที่พึ่งพิงน้ำจำกทะเลสำบอีกด้วย น้ำแข็งใต้พื้นโลกละลำย ภำวะโลกร้อนไม่ได้เพียงแค่ทำให้ธำรน้ำแข็งขั้วโลกละลำยอย่ำงต่อเนื่องเท่ำนั้น แต่ยังส่งผลให้ชั้น น้ำแข็งถำวรที่มีอยู่ใต้พื้นผิวโลกค่อยๆ ละลำยลดปริมำณลงไปเช่นกันผลลัพธ์ที่อำจเกิดขึ้นตำมมำในอนำคต ก็คือ จุดใต้พื้นโลก ซึ่งเคยเป็นน้ำแข็งหำยไปจนเกิดเป็น "รูรั่ว" ใต้ดินขึ้นมำ เมื่อเป็นเช่นนี้สภำพทำง ภูมิศำสตร์ในพื้นที่ย่อมเปลี่ยนไป
  • 13. 8 สิ่งปลูกสร้ำง หรือ สิ่งก่อสร้ำงของมนุษย์ เช่น ทำงรถไฟ ถนน บ้ำนเรือน ฯลฯ ซึ่งตั้งอยู่เหนือจุดดังกล่ำวมี โอกำสได้รับควำมเสียหำยตำมไปด้วย ถ้ำปรำกฏกำรณ์น้ำแข็งละลำยเกิดขึ้นบนที่สูง เช่น ภูเขำ จะก่อให้เกิด ภัยธรรมชำติตำมมำ อำทิ หินถล่มและโคลนถล่ม เป็นต้น ชนวนเกิดไฟป่ำ นักวิทยำศำสตร์ส่วนใหญ่ยืนยันตรงกันทั่วโลก ว่ำภัยโลกร้อนเป็นสำเหตุให้ธำรน้ำแข็งละลำยและ พำยุก่อตัวบ่อยและรุนแรงขึ้นกว่ำในอดีต ยิ่งไปกว่ำนั้น ภำวะโลกร้อนยังเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิด "ไฟป่ำ" ได้ง่ำยขึ้นในหลำยประเทศทั่วโลก และชำติเมืองหนำวในซีกโลกตะวันตก ซึ่งตำมปกติไม่ค่อยมีปัญหำเรื่องไฟป่ำ ก็เริ่มรู้สึกถึงควำม เปลี่ยนแปลงนี้กันแล้ว เหตุเพรำะสภำพป่ำแห้งกว่ำเดิม จึงเป็นเชื้อไฟอย่ำงดี ผู้แข็งแกร่งเท่ำนั้นถึงอยู่รอดโลกร้อนส่งผลให้หน้ำหนำวหดสั้นลง และหน้ำร้อนมำถึงเร็วขึ้น บรรดำ "นก อพยพ" หลำยสำยพันธุ์ต่ำงมึนงง ปรับ "นำฬิกำชีวภำพ" ในตัวของมันให้เข้ำกับสภำพควำมผันแปรของ ฤดูกำลที่บิดเบี้ยวไปไม่ทัน สัตว์ที่จะเอำชีวิตรอดจำกสภำพภูมิอำกำศแปรปรวนในทุกวันนี้ได้ต้องเป็นสำย พันธุ์ที่แข็งแรงที่สุดเท่ำนั้นในที่สุดสัตว์ที่อยู่รอดจะต้อง "กลำยพันธุ์" หรือปรับพันธุกรรมในตัวมันเสียใหม่ เพื่อรับมือภัยโลกร้อนให้ได้และมีสัตว์หลำยชนิดกำลังวิวัฒนำกำรตัวเองเช่นนั้นอยู่ ดำวเทียมโคจรเร็วกว่ำเดิม กำรปล่อยก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์จำกโรงงำนอุตสำหกรรม โรงไฟฟ้ำถ่ำนหิน ยวดยำนพำหนะ ฯลฯ คือ ตัวกำรสำคัญของวิกฤตโลกร้อนล่ำสุดพบว่ำ เจ้ำก๊ำซตัวเดียวกันนี้เองที่ขึ้นไปสะสมมำกขึ้นในชั้น บรรยำกำศโลก ได้กลำยเป็นต้นเหตุทำให้ "ดำวเทียม" ที่อยู่ในวงโคจรโลกเคลื่อนที่เร็วกว่ำเดิมตำมปกติ อำกำศในบรรยำกำศชั้นนอกสุดของโลกจะเบำบำง แต่โมเลกุลของอำกำศจะยังคงมีแรงดึงดูดมำกพอในกำร ทำให้ดำวเทียมโคจรช้ำๆ ดังนั้น เรำอำจเคยได้ยินข่ำวกันมำบ้ำงว่ำ ผู้ควบคุมต้องจึงระเบิดดำวเทียมเป็น ระยะๆ เพื่อให้ดำวเทียมโคจรต่อไปอย่ำงถูกต้องอย่ำงไรก็ตำม เมื่อคำร์บอนไดออกไซด์ลอยไปสะสมใน บรรยำกำศชั้นล่ำงมำกไป จะทำแรงดึงดูดของบรรยำกำศชั้นนอกสุดลดกำลังลง ดำวเทียมจึงโคจรเร็วกว่ำ ปกติ ภูเขำกระเด้งตัวเหนือพื้นโลก ภูเขำและเทือกเขำสูงหลำยแห่งทั่วโลกกำลังขยำยตัว "สูง" ขึ้น เพรำะผลจำกโลกร้อน! นั่นเป็นเพรำะ ตำมธรรมชำติที่ผ่ำนๆ มำนับพันปี ยอดภูเขำในเขตหนำวเย็นโดยทั่วไปจะมี "น้ำแข็ง" ปกคลุมอยู่ ทำหน้ำที่
  • 14. 9 เป็นเหมือนกับตุ้มน้ำหนักที่คอยกดทับให้ฐำนล่ำงของภูเขำทรุดต่ำลงไปใต้พื้นผิวเมื่อน้ำแข็งบนยอดเขำมลำย สูญสิ้นไป ส่วนฐำนล่ำงที่เคยถูกกดจมดินลงไปจะค่อยๆ กระเด้งคืนตัวกลับมำเหนือผิวโลกอีกครั้ง โบรำณสถำนเสียหำย โบรำณสถำน เมืองเก่ำแก่ ซำกปรักหักพังทำงประวัติศำสตร์ ฯลฯ อันเป็นสิ่งแสดงถึงวัฒนธรรมอัน รุ่งเรื่องของมนุษย์ในอดีตได้รับผลกระทบจำกโลกร้อนเหตุเพรำะโลกร้อนทำให้อำกำศทั่วโลกแปรปรวน ทั้ง เกิดพำยุ น้ำท่วม ภัยแล้ง ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง และล้วนแต่ยิ่งสร้ำงควำมเสียหำยให้กับมรดกตกทอดทำง ประวัติศำสตร์ดังกล่ำว ซึ่งมีสภำพทรุดโทรมอยู่แล้ว 3.3 สัตว์ป่ำไม่มีที่อยู่ กำรบุกรุกป่ำไม้เพื่อนำทรัพยำกรมำใช้ในกำรผลิต ทำให้ป่ำถูกทำลำยลงอย่ำงรวดเร็วโดยมีส่วนน้อย ที่ทำกำรปลูกทดแทนที่นำไปทำเป็นทรัพยำกร ทำให้ป่ำที่เป็นที่อยู่อำศัยของสัตว์ถูกทำลำยและทำให้สัตว์ป่ำ ไม่มีที่อยู่อำศัยและขำดแหล่งอำหำรในกำรดำรงชีพ ซึ่งอำจทำให้สัตว์บำงชนิดล้มตำยและทำให้ไม่ไปตำม ระบบห่วงโซ่อำหำร ธรรมชำติขำดควำมสมดุล 3.4 เกิดมลพิษทำงน้ำ อำกำศ สำเหตุของมลพิษทำงน้ำ แหล่งน้ำต่ำงๆ อำจเกิดจำกกำรเน่ำเสียได้เองเมื่ออยู่ในภำวะที่ขำด ออกซิเจน ส่วนใหญ่มีสำเหตุเกิดจำกกำรเพิ่มจำนวนอย่ำงรวดเร็วของแพลงค์ตอน แล้วตำยลงพร้อม ๆ กัน เมื่อ จุลินทรีย์ทำกำรย่อยสลำยซำกแพลงค์ตอนทำให้ออกซิเจนในน้ำถูกนำไปใช้มำกจนเกิดกำรขำดแคลนได้ นอกจำกนี้กำรเน่ำเสียอำจเกิดได้อีกประกำรหนึ่งคือ เมื่อน้ำอยู่ในสภำพนิ่งไม่มีกำรหมุนเวียนถ่ำยเท โรงงำนอุตสำหกรรม ของเสียจำกโรงงำนอุตสำหกรรม เช่น โรงงำนปลำป่น โรงงำน ผลิตภัณฑ์นม โรงโม่ แป้ง โรงงำนทำอำหำรกระป๋ อง ส่วนใหญ่มีสำรอินทรีย์พวกโปรตีน คำร์โบไฮเดรตปนอยู่มำกสำรอินทรีย์ที่ ถูกปล่อยออกมำกับน้ำทิ้งนี้ก็จะถูกย่อยสลำยทำให้เกิดผล เช่นเดียวกับน้ำทิ้งที่ถูกปล่อยจำกชุมชน นอกจำกนี้ อำจมีสำรพิษชนิดอื่นปะปนอยู่ด้วย ขึ้นอยู่กับ ประเภทของโรงงำน เช่นปรอทจำกโรงงำนผลิตโซเดียมไฮดร- อกไซด์ซึ่งเป็นสำรพิษต่อสัตว์น้ำ และผู้นำสัตว์น้ำไปบริโภคนอกจำกนี้น้ำทิ้งจำกโรงงำนบำงประเภท ทำให้ สภำพกรดเบส ของแหล่งน้ำนั้นเปลี่ยนไป เช่นน้ำทิ้งจำกโรงงำนกระดำษมีค่ำ pH สูงมำก น้ำทิ้งจำกโรงงำน บำงประเภท เช่นจำกโรงไฟฟ้ำอำจทำให้อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนแปลงไป สภำพเช่นนี้ไม่ เหมำะกับกำรดำรง ชีพของสิ่งมีชีวิตในน้ำ กำรคมนำคมทำงน้ำ ในกำรเดินเรือตำมแหล่งน้ำ ลำคลอง ทะเล มหำสมุทร มีกำรทิ้ง ของ เสียที่ประกอบด้วยสำรอินทรีย์ และน้ำมันเชื้อเพลิงถ้ำมีโอกำสรั่วไหลลงน้ำได้และมีจำนวนมำก ก็จะทำ ให้สัตว์น้ำขำดออกซิเจน และเป็นผลเสียต่อระบบนิเวศ
  • 15. 10 ผลกระทบของมลพิษทำงน้ำ กำรสำธำรณสุข น้ำเสียเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค ทำให้เกิดโรคระบำด เช่น โรค อหิวำตกโรค ไทฟอยด์ บิด เป็นแหล่งเพำะเชื้อยุงซึ่งเป็นพำหะของโรคบำงชนิด เช่น มำเลเรีย ไข้เลือดออก และสำรมลพิษที่ปะปนในแหล่งน้ำ ถ้ำเรำบริโภคทำให้เกิดโรคต่ำง ๆ เช่น โรค มินำมำตะ เกิดจำกกำร รับประทำนปลำที่มีสำรปรอทสูง เกิดจำกกำรได้รับสำร แคดเมียม กำรประมง น้ำเสียทำให้สัตว์น้ำลด ปริมำณลง น้ำเสียที่เกิดจำกสำรพิษอำจทำให้ปลำตำยทัน ที ส่วนน้ำเสียที่เกิดจำกกำรลดต่ำของออกซิเจน ละลำยในน้ำถึงแม้จะไม่ทำให้ปลำตำยทันที แต่อำจทำลำยพืชและสัตว์น้ำเล็ก ๆ ที่เป็นอำหำรของปลำและตัว อ่อนทำให้ปลำขำดอำหำร ก่อให้เกิดผลเสียหำยต่อกำรประมงและเศรษฐกิจ ปริมำณออกซิเจนละลำยในน้ำ ถ้ำหำรลด จำนวนลงมำก ๆ ในทันทีก็อำจทำให้ปลำตำยได้นอกจำกนี้น้ำเสียยังทำลำยแหล่งเพำะวำงไข่ ของ ปลำเนื่องจำกกำรตกตะกอนของสำรแขวนลอยในน้ำเสียปกคลุมพื้นที่วำงไข่ของปลำ ซึ่งเป็นกำรหยุดยั้งกำร แพร่พันธุ์ทำให้ปลำสูญพันธุ์ได้ สำเหตุของมลพิษทำงอำกำศ ยำนพำหนะที่ใช้เครื่องยนต์ รถยนต์เป็นแหล่งก่อปัญหำอำกำศเสียมำกที่สุด สำรที่ออกจำก รถยนต์ที่สำคัญ ได้แก่ คำร์บอนมอนอกไซด์ ไฮโดรคำร์บอน ออกไซด์ของไนโตรเจน และของกำมะถัน สำรพวก ไฮโดรคำร์บอนนั้น ประมำณ 55 % ออกมำจำกทอไอเสีย 25 % ออกมำจำกห้องเพลำ ข้อเหวี่ยง และอีก 20 % เกิดจำกกำรระเหยในคำร์บูเรเตอร์ และถังเชื้อเพลิง ออกไซด์ของไนโตรเจนคือ ไนตริกออกไซด์ (NO) ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) และไน ตรัสออกไซด์ (N2O) เกือบทั้งหมดออกมำจำกท่อไอเสีย เป็นพิษต่อ มนุษย์โดยตรง นอกจำกนี้สำรตะกั่วในน้ำมันเบนซินชนิดซุปเปอร์ยังเพิ่มปริมำณตะกั่วในอำกำศอีกด้วยควัน ไฟ และก๊ำซพิษจำกโรงงำนอุตสำหกรรมจำกโรงงำนผลิตสำรเคมี ได้แก่ โรงกลั่นน้ำมัน โรงผลิตไฟฟ้ำ โรงงำนทำเบียร์ โรงงำน สุรำ โรงงำนน้ำตำล โรงงำนกระดำษ โรงงำนถลุงแร่ โรงงำนย้อมผ้ำ โรงงำนทำ แก้วโรงงำนผลิตหลอดไฟ โรงงำนผลิตปุ๋ ย และโรงงำนผลิตกรด ผลกระทบของมลพิษทำงอำกำศ ทำลำยสุขภำพ อำกำศเสียทำให้เกิดโรค แพ้อำกำศ โรคเกี่ยวกับทำงเดินหำยใจ โรค เกี่ยวกับกำร ไหลเวียนของโลหิตผลที่เกิดในระยะยำวอำจทำให้ถึงตำยได้ทำลำยสิ่งก่อสร้ำงและเครื่องใช้โดยเฉพำะ สิ่งก่อสร้ำงที่ทำด้วยโลหะทำให้เกิดกำรสึกกร่อนทำให้หนังสือและศิลปกรรมต่ำงๆเสียหำยทำให้ทัศน์วิสัย เลวลง และมีผลทำให้อุณหภูมิอำกำศลดต่ำลงกว่ำปกติได้ทัศน์วิสัยเลวลง ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทั้งในอำกำศ ท้องถนน และท้องน้ำ ไฮโดรคำร์บอนต่ำง ๆ ออกไซด์ของไนโตรเจน และ กำมะถันในบรรยำกำศ
  • 16. 11 บทที่ 4 วิธีการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน 4.1 ปลูกต้นไม้ทดแทน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานคาแนะนาให้มีการปลูกป่าทดแทนตามสภาพ ภูมิศาสตร์และสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ที่เหมาะสม กล่าวคือ 1) ปลูกป่าทดแทนในพื้นที่ป่าไม้ถูกบุกรุกแผ้วถางและพื้นที่ป่าไม้และพื้นที่เสื่อมโทรม “...การปลูกป่าทดแทนในพื้นที่เสื่อมโทรมหรือพื้นที่ต้นน้าลาธารที่ถูกบุกรุกแผ้วถางจนเป็นภูเขาหัวโล้น แล้วจาต้องปลูกป่า ทดแทนเร่งด่วนนั้น ควรจะทดลองปลูกต้นไม้ชนิดโตเร็วคลุมแนวร่องน้าเสียก่อน เพื่อทา ให้ความชุ่มชื้นค่อยๆ ทวีขึ้นแผ่ขยายออกไปทั้งสองร่องน้า ซึ่งจะทาให้ต้นไม้งอกงามและมีส่วนช่วยป้องกัน ไฟป่า เพราะไฟจะเกิดง่ายหากป่าขาดความชุ่มชื้น ในปีต่อไปก็ให้ปลูกต้นไม้ในพื้นที่ถัดขึ้นไป ความชุ่มชื้นก็ จะแผ่ขยายกว้างออกไป ต้นไม้จะงอกงามดีตลอดทั้งปี...” 2) การปลูกป่าทดแทนตามไหล่เขา “...จะต้องปลูกต้นไม่หลายๆ ชนิด เพื่อให้ได้ประโยชน์เอนกประสงค์คือ มีทั้งไม้ผล ไม้สาหรับก่อสร้าง และ ไม้สาหรับทาฟืน ซึ่งเกษตรกรจาเป็นต้องใช้เป็นประจา ซึ่งเมื่อตัดไม้ใช้แล้ว ก็ปลูกทดแทนหมุนเวียนทัน...” 3) การปลูกป่าทดแทนบริเวณต้นน้าบนยอดเขาและเนินสูง “...ต้องมีการปลูกป่าโดยปลูกไม้ยืนต้นและปลูกไม้ฟืน ซึ่งไม้ฟืนนั้นราษฎรสามารถตัดไปใช้ได้แต่ต้องมีการ ปลูกทดแทนเป็นระยะ ส่วนไม้ยืนต้นจะช่วยให้อากาศมีความชุ่มชื้น ทั้งยังช่วยยึดดินบนเขาไม่ให้พังทลาย เมื่อเกิดฝนตกอีกด้วย...” 4) ให้มีการปลูกป่าที่ยอดเขา เนื่องจากสภาพป่าบนที่เขาสูงทรุดโทรม ซึ่งจะมีผลกระทบต่อลุ่มน้าตอนล่าง และคัดเลือกพันธุ์ไม้ที่มีเมล็ด เป็นฝักเพื่อให้เป็นกระบวนการธรรมชาติปลูกต่อไปจนถึงตีนเขา 5) ปลูกป่าบริเวณอ่างเก็บน้า หรือเหนืออ่างเก็บน้าที่ไม่มีความชุ่มชื้นยาวนานพอ 6) ปลูกป่าเพื่อพัฒนาลุ่มน้าและแหล่งน้าให้มีน้าสะอาดบริโภค 7) ปลูกป่าให้ราษฎรมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยให้ราษฎรในท้องที่นั้นๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการปลูกและดูแลรักษา ต้นไม้ให้เจริญเติบโต นอกจากนี้ยังเป็นการปลูกฝังจิตสานึกให้ราษฎรเห็นความสาคัญ ของการปลูกป่า 8) ปลูกป่าเสริมธรรมชาติ เพื่อเป็นการเพิ่มที่อยู่อาศัยแกสัตว์ป่า
  • 17. 12 บัดนี้ ในหลายโครงการที่เป็นการปลูกป่าทดแทนตามแนวพระราชดาริได้บรรลุผลสัมฤทธิ์น่าพึงพอใจ อาทิ เช่น โครงการปลูกป่าชัยพัฒนา แม่ฟ้าหลวงที่ดอยตุง จังหวัดเชียงราย และที่หนองพลับ อาเภอหัวหิน จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ โครงการปลูกสร้างสวนป่าในศูนย์ศึกษาการพัฒนาต่างๆ โครงการสวนป่าสิริเจริญวรรษ จังหวัดชลบุรี โครงการปลูกป่าห้วยองคต จังหวัดกาญจนบุรี โครงการปลูกป่าเสริมธรรมชาติในและนอกเขต ภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร เป็นต้น 4.1 ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก ถุงผ้า จึงเป็นทางเลือก เพื่อใช้คุมกาเนิดถุงพลาสติก ช่วยลดขยะ ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ ด้วยความ เหมาะสมลงตัว กับวิถีการเดินทางในชีวิตประจาวัน ที่พร้อมจะจับจ่ายซื้อของได้ทุกเวลา ที่ผู้บริโภคจะ สามารถมีส่วนร่วมในขวนการจัดการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ด้วยการใช้ถุงผ้า แทนถุงพลาสติก ข้อดีของการใช้ถุงผ้า เช่น 1) ถุงผ้า ซักทาความสะอาดได้โดยง่าย นากลับมา Reuse ใช้ซ้า ได้มากครั้งกว่าถุงพลาสติก 2) นุ่มสบายมือน่าใช้และไม่ก่อให้เกิดการกดทับอย่างรุนแรงต่อฝ่ามือเท่าถุงพลาสติก 3) พกสะดวก ใช้ง่ายขาดยาก ทนทาน และยังตกแต่งได้ตามสไตล์ที่ชอบ 4) ย่อยสลายได้ไม่ตกค้างจนเป็นปัญหาในสิ่งแวดล้อม 5) ช่วยลดปริมาณขยะ ไม่ทาให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ช่วยลดปัญหาโลกร้อน 6) ถุงผ้าดิบจะช่วยลดการเกิดและการปนเปื้อนของสารประกอบไดอ๊อกซิน ที่เป็นสารก่อมะเร็งที่มีอันตราย ต่อชีวิต 7) บ่งบอกภาวะรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ของผู้ใช้ 8) พกพาติดตัวได้ง่าย ไปได้ทุกที่ ติดตัว ติดรถ พร้อมใช้งานในทุกโอกาส ใช้ใส่สิ่งของได้หลายอย่าง 9) ใช้เป็นสื่อรณรงค์เสริมสร้างความเข้าใจ และความตระหนักในสิ่งแวดล้อมได้อย่างกว้างขวาง 10) ส่งเสริมองค์กร ธุริจการค้า การท่องเที่ยว ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 11) ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้ตัวเอง ในการประดิษฐ์ถุงผ้าใช้ด้วยตัวเอง D.I.Y. จากเสื้อผ้าเก่าๆที่ไม่ใช้ แล้ว อีกทั้งยังทาเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย 12) การหันมาใช้ถุงผ้า นอกจากจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยเกื้อหนุนธุรกิจรายย่อย หรือแรงงาน ฝีมือตัดเย็บถุงผ้าอีกด้วย บทที่ 5
  • 18. 13 จุดประสงค์การแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน 5.1 ทราบถึงที่มาของภาวะโลกร้อน ซึ่งล้วนเกิดจากน้ามือของมนุษย์เราทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของประชากร การใช้ทรัพยากร ต่างๆเกินความจาเป็นหรือผลกระทบจากการผลิตสิ่งต่างๆเพื่อสนองความต้องการของประชากรมนุษย์ที่มี มากขึ้นทุกวันนั่นเอง 5.2 รู้จักการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมีคุณภาพ การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงสภาพต่าง ๆ ทางธรรมชาติไว้ ทั้ง ปริมาณ และคุณภาพ ให้มีอยู่หรือยั่งยืนตลอดไป วิธีการนี้ใช้ได้กับการจัดการทรัพยากร ดิน ป่าไม้ สัตว์ป่า ทิวทัศน์ ธรรมชาติ เช่น การเพาะปลูกแบบขั้นบันไดและการปลูกหญ้าแฝกในพื้นที่สูงชันเพื่อป้องกันดิน พังทลาย การตัดไม้ หรือ ทาไม้ในป่าไม้ ไม่ให้เกินกาลังงอกพร้อมกันนั้นก็ปลูกป่าทดแทนไปในเวลา เดียวกัน นอกจากนี้การผสมเทียมและปล่อยปลาลงไปในแหล่งน้าต่าง ๆ ตลอดจนการเผยแพร่พันธุ์ปลาใน วันสงกรานต์ซึ่งถือเป็นวันประมงแห่งชาติ การจัดพื้นที่ในรูปอุทยานแห่งชาติ สวนป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สวนพฤกษศาสตร์วรรณคดีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ได้โดยตลอดไปด้วย การรู้จักบูรณะและปรับปรุงทรัพยากรด้วยการรู้จักบูรณะและปรับปรุงทรัพยากรที่ใช้มานานจนเสื่อคุณภาพ และใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้วให้กลับมีคุณภาพและใช้ประโยชน์ได้อีก อาทิ การปลูกป่าทดแทน หรือการปลูก สร้างสวนป่า การปรับปรุงแก้ไขดินเปรี้ยว ดินเค็ม ให้ใช้เพาะปลูกได้ดังเดิม การแก้ไขมลภาวะของน้า การ ผสมเทียมพันธุ์พืช และสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ 5.3 เพื่อให้โลกกลับสู่ภำวะปกติ เมื่อทุกคนช่วยกันคนละไม้ละมือในกำรแก้ไขปัญหำโลกร้อนแล้ว ภำยในอนำคตโลกจะกลับสู่ สมดุลภำวะปกติเหมือนที่เคยเป็น ภัยพิบัติและมลภำวะ ปัญหำต่ำงๆก็จะลดตำมไป ส่งผลให้กำรเป็นอยู่ของ คนนั้นดีขึ้นด้วยเช่นกัน 5.4 เพื่อให้มีทรัพยำกรใช้ต่อไปได้อย่ำงยั่งยืน เมื่อมีกำรวำงแผนกำรใช้ทรัพยำกรทำให้มีทรัพยำกรเหลือเพียงพอต่อเรำและรุ่นลูกหลำนของเรำต่อไป บรรณำนุกรม
  • 19. 14 มูลนิธิชัยพัฒนำ.2559.ทฤษฎีกำรพัฒนำฟื้นฟูป่ำไม้อันเนื่องมำจำกพระรำชดำริ(ออนไลน์).แหล่งที่มำ: http://www.chaipat.or.th/site_content/68-4/254-theory-developed-forest-restoration.html. 24 กันยำยน 2559 ศูนย์วิจัยและพัฒนำกำรป้องกันและจัดกำรภัยพิบัติ.2559.ภัยจำกสำรเคมี: น้ำเสียจำกโรงงำนอุตสำหกรรม (ออนไลน์).แหล่งที่มำ: http://dpm.nida.ac.th/main/index.php/articles/chemical-hazards/item/129. 24 กันยำยน 2559 sirirat .2559.สำเหตุกำรเกิดภำวะโลกร้อน(ออนไลน์).แหล่งที่มำ: http://sirirat9876.blogspot.com/p/blog- page_27.html. 24 กันยำยน 2559 บทเรียนออนไลน์.2559.ปัญหำที่เกิดจำกกำรเพิ่มจำนวนประชำกร(ออนไลน์).แหล่งที่มำ: http://environment.ekstepza.ws/population-problem.html 24 กันยำยน 2559 สำนักงำนกำรป้องกันคุ้มครองโรค.2559.อันตรำยจำกกำรเผำขยะ.(ออนไลน์).แหล่งที่มำ: http://odpc5.ddc.moph.go.th/groups/academic/index.php?option=com_content&view=article&id=59:2011 -03-24-10-24-24&catid=45:2011-03-24-10-42-30&Itemid=61.24 กันยำยน 2559 ภำคผนวก
  • 20. 15 ภำคผนวกภำพที่ 1 ภำพกำรประชุมกลุ่ม ภำคผนวกภำพที่ 2 งำนย่อย 4 ภาคผนวกภาพที่ 2 งานย่อย 4 ภำคผนวกภำพที่ 3 งำน ก#1
  • 21. 16 ภำคผนวกภำพที่4 งำน ก#1 ภำคผนวกภำพที่5 งำน ก#1 ภำคผนวกภำพที่4 งำน ก#1 ภำคผนวกภำพที่5 งำน ก#1
  • 22. 17 ภำคผนวกภำพที่6 งำน ก#1 ภำคผนวกภำพที่9 งำน ก#1 ภำคผนวกภำพที่ 6 งำนย่อย 8 ภำคผนวกภำพที่ 7 งำน ก#1 ภำคผนวกภำพที่ 7 งำนย่อย 8
  • 23. 18 ภำคผนวกภำพที่ 8 งำนย่อย 8 ภำคผนวกภำพที่ 9 งำนย่อย 8
  • 24. 19 ภำคผนวกภำพที่ 10 งำนย่อย 8 ภำคผนวกภำพที่ 11 งำนย่อย 8
  • 25. 20
  • 26. 21 ชื่อและภำพผู้จัดทำ 1.นำงสำวชญำนิษฐ์ วัลลำ เลขที่ 14 2.นำงสำววรกำนต์ วิเชนสวัสดิ์ เลขที่ 19
  • 27. 22 3.นำงสำววรดำ สิริเกียรติสกนธุ์ เลขที่ 20 4.นำงสำวสิริธิดำ ปำนสุวรรณ เลขที่ 25