More Related Content
Similar to รายงานโครงงานคอมพิว
Similar to รายงานโครงงานคอมพิว (20)
รายงานโครงงานคอมพิว
- 1. รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้ วย Wordpress
เรื่อง แท็บเล็ต – Tablet
จัดทาโดย
เด็กหญิงกัญญาณัฐ
เบ้ าอู๋
ม.3/11 เลขที่ 44
เด็กหญิงชลธิชา
จินเลียง
้
ม.3/11 เลขที่ 46
เด็กหญิงภัทรวดี
แปนทอง
้
ม.3/11 เลขที่ 49
เด็กหญิงวงศ์ รวี
สุ รันนา
ม.3/11 เลขที่ 50
เด็กหญิงอุดมพร
บุญสุ ข
ม.3/11 เลขที่ 52
นาเสนอ
นางสาวเขมวันต์ กระดังงา
รายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ()
ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2555
กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์ )
สานักงานเขตพืนทีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 9
้ ่
- 2. หัวข้ อโครงงาน
ประเภทของโครงงาน
ผู้เสนอโครงงาน
ครู ทปรึกษาโครงงาน
ี่
ปี การศึกษา
:
:
:
:
:
การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress
โครงงานพัฒนาสื่ อเพื่อการศึกษา
นางสาวพรชนก พรหมโสภา ม.5/2 เลขที่29
2556
บทคัดย่ อ
โครงงานการพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpressเรื่ องประเภทของคอมพิวเตอร์ นี้ จัดทาขึ้น
โดยมีวตถุประสงค์เพื่อนาเอารู ปแบบการเรี ยนรู ้ยุคใหม่ที่ใช้สื่อสังคม หรื อ Social Media ซึ่ งเป็ นสื่ อที่
ั
ได้รับความสนใจและเป็ นที่นิยมในปั จจุบน มาประยุกต์เข้ากับการเรี ยนรู้ โดยได้ศึกษารู ปแบบและ
ั
พัฒนาการเรี ยนรู ้ในการจัดสร้างเว็บบล็อกด้วยเว็บไซต์สาเร็ จรู ปชื่ อว่า Wordpressทั้ งนี้ ได้ทาการศึกษา
ค้นคว้าเนื้ อหาความรู ้ที่สนใจเกี่ ยวกับเรื่ องประเภทของคอมพิวเตอร์ ซึ่ งมีเนื้ อหาเกี่ ยวกับประเภขของ
คอมพิวเตอร์ โดยผูจดทาโครงงานสามารถพัฒนารู ปแบบของเว็บบล็อกจากWordpressได้ดวยตนเอง
้ั
้
และนามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรี ยนรู ้ ของตนเองมากยิ่งขึ้น และนาได้นาเสนอบทเรี ยนผ่านเว็บ
บล็อก ที่ http://nuttapongko.wordpress.comทั้ งนี้ ทาให้สามารถติดต่อสื่ อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อน
และผูสนใจทัวไปได้เป็ นอย่างดี
้
่
กิตติกรรมประกาศ
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ ฉบับนี้ สาเร็ จลุล่วงไปได้ดวยความเมตตาช่วยเหลืออย่างดี
้
ยิ่งจากอาจารย์เขมวันต์ กระดังงา อาจารย์ผสอนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่อนุมติเห็นชอบในการ
ู้
ั
จัดทาโครงงานและให้ความรู ้เกี่ยวกับการพัฒนาเว็บบล็อกด้วยเว็บไซต์ wordpress อีกทั้งเป็ นที่ปรึ กษา
ในด้านวิชาการและการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอขอบพระคุ ณ คณะครู โ รงเรี ยนราชิ นี บู ร ณะทุ ก ท่ า นที่ มี ส่ ว นช่ ว ยสนั บ สนุ น ให้
การเรี ยนรู ้ประสบผลสาเร็ จ ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่มีส่วนช่วยแนะนาการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
- 3. การใช้อินเทอร์ เน็ต การสร้างเว็บบล็อก และการช่วยเข้ามาคลิก “LIKE” ในกล่องแสดงความคิดเห็ น
ขอบคุณกาลังใจดีๆ จากคุณพ่อคุณแม่ที่คอยให้คาปรึ กษา ความดีอนเกิดจากการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้
ั
ผูจดทาโครงงานขอมอบแด่บิดา มารดา ครู อาจารย์และผูมีพระคุ ณทุกท่าน ที่มีส่วนช่วยผลักดันและ
้ั
้
เป็ นกาลังใจ ซึ่ งผูจดทาซาบซึ้ งในความกรุ ณาอันยิงใหญ่จากท่าน และขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้
้ั
่
ผู้เสนอโครงงาน
ผู้เสนอโครงงาน
ผู้เสนอโครงงาน
ผู้เสนอโครงงาน
:
:
:
:
:
เด็กหญิงกัญญาณัฐ
เด็กหญิงชลธิชา
เด็กหญิงภัทรวดี
เด็กหญิงวงศ์รวี
เด็กหญิงอุดมพร
เบ้าอู๋
จินเลี้ยง
แป้ นทอง
สุ รันนา
บุญสุ ข
ม.3/11
ม.3/11
ม.3/11
ม.3/11
ม.3/11
เลขที่ 44
เลขที่ 46
เลขที่ 49
เลขที่ 50
เลขที่ 52
สารบัญ
หน้ า
บทคัดย่อ
กิตติกรรมประกาศ
สารบัญ
สารบัญภาพ
ก
ข
ค
จ
- 4. บทที่ 1 บทนา
1.1 แนวคิด ที่มา และความสาคัญ
1.2 วัตถุประสงค์
1.3 ขอบเขตของโครงงาน
1.4 ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1
1
บทที่ 2 เอกสารทีเ่ กียวข้ อง
่
2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์ เน็ต
2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่ อสังคม Social Media
2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)
บทที่ 3 วิธีดาเนินงานโครงงาน
3.1 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่ องมือหรื อโปรแกรมหรื อที่ใช้ในการพัฒนา
3.2 ขั้นตอนการดาเนิ นงาน
บทที่ 4 ผลการดาเนินงานโครงงาน
4.1 ผลการพัฒนาเว็บบล็อก
4.2 ตัวอย่างการนาเสนอหน้าเว็บบล็อก
หน้ า
บทที่ 5 สรุ ปผลการดาเนินงาน และข้ อเสนอแนะ
5.1 การดาเนินงานจัดทาโครงงาน
5.2 สรุ ปผลการดาเนินงานโครงงาน
5.3 ข้อเสนอแนะ
บรรณานุกรม
- 5. ภาคผนวก
บทที่ 1
บทนา
1.1 แนวคิด ทีมา และความสาคัญ
่
ปั จจุ บนเทคโนโลยีสารสนเทศและอิ นเทอร์ เน็ ตได้เข้ามามีบทบาทต่อการดาเนิ นชี วิต
ั
ของเรามากขึ้ น ซึ่ ง เราอาจไม่ รู้สึ ก ตัวว่า อิ น เทอร์ เน็ ตกลายเป็ นปั จ จัย ที่ ส าคัญ ต่ อ การดารงชี วิ ตใน
ยุค ข้อมู ล ข่ า วสารมี ค วามส าคัญ คนหัน มาบริ โ ภคข้อมู ล ข่ า วสารกันมากขึ้ น นอกจากเทคโนโลยี
อินเทอร์ เน็ตเปรี ยบเสมือนถนนสาหรับการเข้าไปถึ งข้อมูลที่ต้องการ เรายังต้องการเครื่ องมือที่จะ
สามารถสร้างเนื้ อหาและข้อมูลต่างๆ ไว้รองรับการเข้าถึงนั้นก็คือเทคโนโลยีเว็บไซต์ ซึ่ งเป็ นตัวกลาง
- 6. คอยให้ขอมูลต่างๆ แก่ผใช้โดยการพัฒนาของเทคโนโลยีอินเทอร์ เน็ตและเว็บไซต์ได้ถูกเปลี่ยนแปลง
้
ู้
จากเดิมไปมาก
ในยุคที่ เทคโนโลยีการสื่ อสารผ่า นอิ นเทอร์ เน็ ต ก าลังเป็ นที่ นิยมและมี ผลกระทบใน
ทุกๆ ด้านในปั จจุบน ทาให้ทุกคน ทุกสังคมต้องมีการปรับตัว และพัฒนาให้ทนต่อการเปลี่ยนแปลง
ั
ในโลกของการสื่ อสาร และการพัฒนาของโลกเวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web; WWW) จากยุคแรก
คือ Web 1.0 ซึ่ งมีลกษณะเป็ น Static Web คือ มีการนาเสนอข้อมูลทางเดียว (one-way communication)
ั
ด้วยการแปลงข้อมูล ข่าวสารที่มีอยู่รอบตัวเราให้อยู่ในรู ปของดิ จิตอล (Digital) เช่ น หนังสื อพิมพ์
นิตยสาร หรื อการโฆษณาตามหน้าเว็บไซต์ โดยผูใช้สามารถอ่านได้แต่ไม่สามารถเข้าร่ วมในการสร้าง
้
ข้อมูลได้ แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ ยุคที่ 2 ของเทคโนโลยี คือ WWW หรื อ Web 2.0 เป็ นยุคที่ทาให้อินเทอร์ เน็ต
มีศกยภาพในการใช้งานมากขึ้น เน้นให้ผใช้มีส่วนร่ วมในการสร้างสรรค์
ั
ู้
จุดกาเนิ ดของ Web 2.0 และการพัฒนาก้าวผ่านเข้าสู่ ยุค Web 3.0 ความนิยมของ Social
Media มีการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งและมีแนวโน้มของผูใช้บริ การทัวโลกปั จจุบน Social Network
้
ั
่
Website ต่างๆ ก็มีการพัฒนา และเปิ ดโอกาสให้ผใช้ได้เข้าไปมีส่วนร่ วมในการใช้ประโยชน์เชิ งสังคม
ู้
่
กันมากขึ้น ไม่วาจะเป็ น Facebook หรื อการสร้างเว็บ Blog เพื่อเผยแพร่ ขอมูลในรู ปแบบต่างๆ
้
ในเรื่ องของเนื้ อหาความรู ้เกี่ยวกับ แท็บเล็ต นั้น เป็ นความสนใจส่ วนตัวที่อยากจะศึกษา
เรื่ องราวเกี่ ย วกับ ประโยชน์ ของแท็บเล็ต แท็บเล็ตสามารถท างานได้เหมือนโน๊ตบุ๊ คทุ กอย่างมัย ?
๊
ซึ่ งมีเนื้ อหาของ “แท็บเล็ต ‟ Tablet” ในความหมายแท้จริ งแล้วก็คือแผ่นจารึ กที่เอาไว้บนทึกข้อความ
ั
ั
ต่างๆโดยการเขียน (อาจจะเป็ นกระดาษ, ดิน, ขี้ผ้ืง, ไม้) และมีการใช้กนมานานแล้วในอดีต แต่ใน
ปั จจุบนมีการพัฒนาคอมพิวเตอร์ ที่ใช้แนวคิดนี้ ข้ ึนมาแทนที่ซ่ ึ งมีหลายบริ ษทได้ให้คานิ ยามที่แตกต่าง
ั
ั
กันไป หลักๆ แล้วก็มี 2 ความหมายด้วยกันคือ "แท็บเล็ต พีซี - Tablet PC (Tablet Personal Computer)"
และ "แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ - Tablet Computer" หรื อเรี ยกสั้นๆว่า "แท็บเล็ต - Tablet ดังนั้น ผูจดทา
้ั
จึงได้มีความคิดที่จะนาเอารู ปแบบของ WebBlog ด้วยเว็บไซต์ Wordpress มาใช้ในการเผยแพร่ ขอมูล
้
ที่เกี่ยวข้องกับเรื่ อง แท็บเล็ต ‟ Tablet เพื่อศึกษา เผยแพร่ ความรู ้ดงกล่าวสู่ ผสนใจต่อไป
ั
ู้
1.2 วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่ อง แท็บเล็ต ‟ Tablet
2. เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่ องที่สนใจเกี่ยวกับแท็บเล็ต ‟ Tablet
3. เพื่อให้ผเู้ รี ยนสามารถพัฒนารู ปแบบของเว็บบล็อกจาก Wordpress ได้ดวยตนเองและนามา
้
4. ประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรี ยนรู ้ของตนเองมากยิงขึ้น
่
4. เพื่อให้สามารถติดต่อสื่ อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผูสนใจทัวไป
้
่
- 7. 1.3 ขอบเขตของโครงงาน
1. จัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่ อง แท็บเล็ต ‟
Tablet
2. วัสดุ อุปกรณ์ เครื่ องมือหรื อโปรแกรมหรื อที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ เครื่ องคอมพิวเตอร์ พร้อม
2. เชื่อมต่อระบบเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ต
3. เว็บไซต์ที่ให้บริ การเว็บบล็อก คือ http://www.wordpress.com
4. เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่ อสาร เช่น http://www.facebook.com http://www.hotmail.com
3. http://www.google.com
5. โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรู ปภาพ เช่น Adobe Photoshop CS4 และ PhotoScape2.0
1.4 ผลทีคาดว่ าจะได้ รับ
่
1. ได้รับความรู ้เกี่ยวกับพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่ อง แท็บเล็ต ‟ Tablet
2. ได้รับความรู ้เกี่ยวกับเรื่ องที่นามาเป็ นบทเรี ยนในการสร้างเว็บบล็อกคือเรื่ องแท็บเล็ต ‟ Tablet
3. ผูเ้ รี ยนสามารถพัฒนารู ปแบบของเว็บบล็อกจาก Wordpress ได้ดวยตนเองและนามาประยุกต์ใช้
้
3. ให้เข้ากับการเรี ยนรู ้ของตนเองมากยิงขึ้น
่
4. สามารถติดต่อสื่ อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผูสนใจทัวไป เพื่อสร้างเป็ นเครื อข่าย
้
่
่
4. การเรี ยนรู ้ผานเว็บบล็อกได้
5. ได้นาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่มาใช้อย่างมีคุณค่า และสร้างสรรค์
บทที่ 2
เอกสารที่เกียวข้ อง
่
ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress
เรื่ อง แท็บเล็ต ‟ Tablet นี้ ผูจดทาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
้ั
ดังต่อไปนี้
2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์ เน็ต
- 8. 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่ อสังคม Social Media
2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)
2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์ เน็ต
เทคโนโลยีสารสนเทศ หรื อ ไอที (อังกฤษ: Information technology หรื อ IT) หมายถึง
เทคโนโลยีสาหรับ การประมวลผลสารสนเทศ ซึ่ งครอบคลุ มถึ งการรั บ -ส่ ง การแปลง การจัดเก็ บ
การประมวลผล และการค้นคืนสารสนเทศ ในการประยุกต์ การบริ การ และพื้นฐานทางเทคโนโลยี
สามารถแบ่ ง กลุ่ ม ย่อยเป็ น 3 กลุ่ ม ได้แก่ คอมพิ ว เตอร์ การสื่ อสาร และข้อมู ล แบบมัล ติ มี เดี ย ซึ่ ง
ในแต่ละกลุ่มนี้ยงแบ่งเป็ นกลุ่มย่อยๆ ได้อีกมากมาย องค์ประกอบทั้ง 3 ส่ วนนี้ ยังต้องอาศัยการทางาน
ั
ร่ วมกัน ยกตัวอย่าง เช่ น เครื่ องเซิ ร์ฟเวอร์ คอมพิวเตอร์ (คอมพิวเตอร์ ) เป็ นองค์ประกอบสาคัญของ
ระบบเครื อ ข่ า ย (การสื่ อ สาร) โดยมี ก ารส่ ง ข้อ มู ล ต่ า งๆ ไปยัง เครื่ อ งลู ก (ข้อ มู ล แบบมัล ติ มี เ ดี ย )
ในบางครั้งจะมีการใช้ชื่อว่า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร (information and communications
technology ย่อว่า ICT)
ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
สามารถอธิ บายความส าคัญของเทคโนโลยีส ารสนเทศในด้า นที่ มี ผลกระทบต่ อการ
เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านต่าง ๆ ของผูคนไว้ 6 ข้อ ดังต่อไปนี้
้
1. เทคโนโลยีสารสนเทศ ทาให้สังคมเปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมมาเป็ นสังคมสารสนเทศ
2. เทคโนโลยีสารสนเทศทาให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากระบบแห่ งชาติไปเป็ นเศรษฐกิจโลก ที่ทาให้
ระบบเศรษฐกิ จของโลกผูกพันกับทุกประเทศ ความเชื่ อมโยงของเครื อข่ายสารสนเทศทาให้เกิ ด
สังคมโลกาภิวฒน์
ั
3. เทคโนโลยีส ารสนเทศท าให้องค์ก รมี ล ัก ษณะผูก พัน มี ก ารบัง คับ บัญชาแบบแนวราบมากขึ้ น
หน่ วยธุ รกิ จมี ขนาดเล็กลง และเชื่ อมโยงกันกับหน่ วยธุ รกิ จอื่ นเป็ นเครื อข่าย การดาเนิ นธุ รกิ จมี
การแข่ง ขันกันในด้านความเร็ ว โดยอาศัย การใช้ระบบเครื อข่ ายคอมพิ วเตอร์ และการสื่ อสาร
โทรคมนาคมเป็ นตัวสนับสนุน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ ว
4. เทคโนโลยีส ารสนเทศเป็ นเทคโนโลยีแบบสุ นทรี ย สัมผัส และสามารถตอบสนองตามความ
ต้องการการใช้เทคโนโลยีในรู ปแบบใหม่ที่เลือกได้เอง
5. เทคโนโลยีสารสนเทศทาให้เกิดสภาพทางการทางานแบบทุกสถานที่และทุกเวลา
- 9. 6. เทคโนโลยีสารสนเทศก่ อให้เกิ ดการวางแผนการดาเนิ นการระยะยาวขึ้ น อี กทั้งยังทาให้วิถีการ
ตัดสิ นใจ หรื อเลือกทางเลือกได้ละเอียดขึ้น
อินเทอร์ เน็ต (อังกฤษ: Internet) หมายถึง เครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ขนาดใหญ่ ที่มีการ
เชื่ อมต่อระหว่างเครื อข่ายหลายๆ เครื อข่ายทัวโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์
่
ที่เรี ยกว่า โพรโทคอล (Protocol) ผูใช้เครื อข่ายนี้ สามารถสื่ อสารถึ งกันได้ในหลายๆ ทาง อาทิเช่ น
้
อีเมล์เว็บบอร์ ด และสามารถสื บค้นข้อมูลและข่าวสารต่างๆ รวมทั้งคัดลอกแฟ้ มข้อมูลและโปรแกรม
มาใช้ได้
ความสาคัญของอินเทอร์เน็ต
ด้ านการศึกษา
่
1. สามารถใช้เป็ นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่วาจะเป็ นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง
ด้านการแพทย์ และอื่นๆ ที่น่าสนใจ
2. ระบบเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ต จะทาหน้าที่เสมือนเป็ นห้องสมุดขนาดใหญ่
3. นักศึกษาในมหาวิทยาลัย สามารถใช้อินเทอร์ เน็ต ติดต่อกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูล
่
ที่กาลังศึกษาอยูได้ ทั้งที่ขอมูลที่เป็ นข้อความเสี ยง ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เป็ นต้น
้
ด้ านธุรกิจและการพาณิชย์
1. ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสิ นใจทางธุ รกิจ
2. สามารถซื้ อขายสิ นค้า ผ่านระบบเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ต
3. ผูใช้ที่เป็ นบริ ษท หรื อองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิ ดให้บริ การ และสนับสนุนลูกค้าของตน
้
ั
ผ่านระบบเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตได้ เช่น การให้คาแนะนา สอบถามปั ญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้า
แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) หรื อโปรแกรมแจกฟรี (Freeware) เป็ นต้น
ด้ านการบันเทิง
1. การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่างๆ ผ่านระบบเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ต
ที่เรี ยกว่า Magazine Online รวมทั้งหนังสื อพิมพ์และข่าวสารอื่นๆ โดยมีภาพประกอบที่จอ
คอมพิวเตอร์ เหมือนกับวารสารตามร้านหนังสื อทัวๆ ไป
่
่
2. สามารถฟังวิทยุผานระบบเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตได้
3. สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์ ตวอย่าง ทั้งภาพยนตร์ ใหม่ และเก่า มาดูได้
ั
่
จากเหตุผลดังกล่าว พอจะสรุ ปได้วา อินเทอร์ เน็ต มีความสาคัญในรู ปแบบ ดังนี้
- 10. „ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ทนสมัย
ั
„ การติดต่อสื่ อสารที่สะดวก และรวดเร็ ว
„ แหล่งรวบรวมข้อมูลแหล่งใหญ่ที่สุดของโลก
โดยสรุ ปอินเทอร์ เน็ต ได้นามาใช้เป็ นเครื่ องมือที่จาเป็ นสาหรับงานไอที ทาให้เกิดช่องทางในการ
เข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็ ว ช่วยในการตัดสิ นใจ และบริ หารงานทั้งระดับบุคคลและองค์กร
2.2 ข้ อมูลเกียวกับสื่ อสั งคม Social Media
่
2.2.1 ความหมายของ Social Media
ั
ทุกวันนี้ พวกเราหลายคนใช้ชีวิตอยู่กบ Social Network และ Social Media มากขึ้น
่
ทุกวัน แต่พอพูดถึง “Social Media” ว่าคืออะไร หลายคนที่ใช้อยู่ ก็ยงถึงกับอึ้ง และตอบไม่ได้วามัน
ั
คืออะไร และไม่รู้จะอธิ บายอย่างไร
Social หมายถึง "สังคม" ซึ่ งในที่น้ ีก็จะหมายถึง สังคมออนไลน์นนเอง
ั่
่
Media หมายถึง "สื่ อ" ซึ่ งในที่น้ ีก็จะหมายถึงสื่ อในรู ปแบบต่างๆ ไม่วาจะเป็ น ภาพ เสี ยง
วีดิโอ ข้อความ เป็ นต้น
ดังนั้น Social Media ก็น่าจะหมายความว่า สื่ อสังคมออนไลน์ที่ผใช้อินเทอร์ เน็ตสามารถ
ู้
แลกเปลี่ ยนประสบการณ์ ซ่ ึ ง กันและกัน โดยใช้สื่อต่างๆ เป็ นตัวแทนในการสนทนา โดยได้มีการ
จัดแบ่งประเภทของ Social Media ออกเป็ นหลายประเภท เช่ น ประเภทสื่ อสิ่ งพิมพ์ (Publish) ที่มี
Wikipedia, Blogger เป็ นต้น, ประเภทสื่ อแลกเปลี่ยน (Share) ที่มี YouTube, Flickr, SlideShare
เป็ นต้น, ประเภทสื่ อสนทนา (Discuss) ที่มี MSN, Skype, Google Talk เป็ นต้น และยังมีอีกหลาย
ประเภท โดยอีกประเภทของ Social Media ที่สร้างความสับสนให้บาง ก็คือ ประเภทเครื อข่ายสังคม
้
ออนไลน์ หรื อที่เรี ยกกันว่า Social Network ที่มี Facebook, LinkedIn, Google+ เป็ นต้น