Recommended
More Related Content
What's hot
Similar to การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการศึกษา
Similar to การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการศึกษา (20)
More from Fern's Supakyada
More from Fern's Supakyada (10)
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการศึกษา
- 3. แนวคิดวิธี ไม่สอดคล้อง เพราะ วิธีของครูสมศรีทาเพือให้นกเรียนจา ่ ั เนื้อหาทีครูกาหนดได้มากทีสุด แต่ยุคปฏิรปการศึกษาเน้นเนื้อหาตาม ่ ่ ู ความต้องการของผูเ้ รียน การจัดการเรียนการสอน ไม่สอดคล้อง เพราะ วิธีของครูสมศรีเน้นการสอนหรือ บรรยายให้จาได้ กิจกรรมเป็นไปตามทีครูกาหนด แต่ยุคปฏิรปการศึกษา ่ ู เน้นการได้ทดลองจริง จัดกิจกรรมตามความสนใจของนักเรียน
- 4. การใช้สื่อการสอน ไม่สอดคล้อง เพราะ สื่อการสอนทีนามาใช้เป็นการเน้นการถ่ายทอด ่ ความรูเ้ ท่านัน แต่ยุคปฏิรปการศึกษาเน้นสื่อทีทาทาย น่าทดลอง น่าพิสจน์ ้ ู ่ ้ ู สามารถใช้เรียนรูเ้ พือเพิมประสบการณ์ในเรืองทีนกเรียนอยากเรียน ่ ่ ่ ่ ั วิธีการเรียนรูของนักเรียน ้ ไม่สอดคล้อง เพราะ เป็นการเรียนรูแบบรับจากครูอย่างเดียว ้ ไม่กระตือรือร้นทีจะหาความรูจากทีอนเพิมเติม แต่ยคปฏิรปการศึกษา ่ ้ ่ ื่ ่ ุ ู นักเรียนจะเรียนรูตามสิงสนใจ สามารถหาความรูเ้ พิมเติมได้ ทาให้ ้ ่ ่ นักเรียนมีความกระตือรือร้น
- 6. การเปลียนแปลงด้านแนวคิดทางการศึกษา ่ เปลี่ยนจาก "เน้นทักษะการจดจา‛(จาอย่าง เดียว) เป็น "การศึกษาจึงต้องเป็นพลวัตร" (เปลียนให้ ่ ทันการเปลียนแปลงของสังคมโลก ให้คิดเป็น แก้ปัญหา ่ เป็น ศึกษาด้วยตนเองได้) อาจเพราะ ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้ามามีอทธิพลต่อการดาเนินชีวิตของมนุษย์มากขึน ทาให้เกิดการ ิ ้ เปลี่ยนแปลงต่างๆอย่างรวดเร็ว รวมทังแนวคิดทางการศึกษาด้วย ้
- 7. การเปลียนแปลงผู้เรียน ่ เปลี่ยนจาก ‚การตอบสนองต่อการเรียนแบบท่องจา‛ เป็น ‚ผู้ที่มีสวนร่วมอย่างตืนตัวในการเรียนรู้ คิดค้น หาวิธทจะวิเคราะห์ ่ ่ ี ี่ ตั้งคาถาม อธิบายทาความเข้าใจสิ่งแวดล้อมทีมการเปลียนแปลง‛ ่ี ่ เนื่องจาก สังคมต้องการบุคคลทีมทกษะการให้เหตุผลใน ่ี ั ระดับสูงเพือการแก้ปัญหาทีซบซ้อน ทาให้ผู้เรียนต้องตืนตัวในการ ่ ่ั ่ เรียนรู้ คิดค้น หาเหตุผล มากกว่าการท่องจา
- 8. การเปลียนแปลงมาสู่การเรียนที่เน้นผูเ้ รียนเป็นศูนย์กลาง ่ เปลี่ยนจาก ‘การสอน’ มาเป็น ‘การเรียนรู’้ สู่ ‘การเน้น ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง’ เนื่องจากการส่งข้อมูลได้รวดเร็ว หาง่าย เพือให้ผู้เรียนเกิดความพร้อมใน ่ การวิเคราะห์ขอมูล แก้ปญหาได้ ้ ั จึงต้องเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือทา หาคาตอบ มาใช้ใน การแก้ปญหาได้ ไม่รอรับความรูจากครูเพียงอย่างเดียว ั ้
- 10. ปรับวิธีสอนโดย 1. เปิดโอกาสให้นกเรียนเป็นผูเ้ ลือกหรือตัดสินใจในเนื้อหาสาระ ั ที่สนใจ เป็นประโยชน์ตอตัว ผู้เรียนหรือไม่ ่ 2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีสวนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ โดยได้ ่ คิด ได้รวบรวมความรูและลงมือปฏิบัตจริงด้วยตนเอง ้ ิ
- 11. วิธีการใช้สื่อ 1 . การเรียนแบบร่วมมือ เป็นวิธการเรียนทีให้นกเรียน ี ่ ั ทางานด้วยกันเป็นกลุมเล็กๆเพื่อให้เกิดผล ่ การเรียนรูทงด้านความรู้ และทางด้านจิตใจ ้ ั้ ช่วยให้นกเรียนเห็นคุณค่าในความแตกต่าง ั ระหว่างบุคคลของเพือนๆ เคารพความคิดเห็น ่ และความสามารถของผูอนทีแตกต่างจากตน ้ ื่ ่ ตลอดจนรูจกช่วยเหลือและสนับสนุนเพือนๆ ้ั ่
- 12. 2. การเรียนแบบประสบการณ์ เป็นการเรียนรูจากประสบการณ์ หรือการเรียนรูจาก ้ ้ การได้ลงมือปฏิบัตจริง โดยผู้เรียนได้มโอกาสรับประสบการณ์ แล้วได้รบ ิ ี ั การกระตุนให้สะท้อนสิ่งต่างๆ ที่ได้จากประสบการณ์ออกมาเพือพัฒนา ้ ่ ทักษะใหม่ๆ เจตคติใหม่ๆหรือวิธการคิดใหม่ๆ ี
- 13. 3. การเรียนแบบอภิปัญญา เป็นการเรียนทีให้ผู้เรียนคิดโดยเป็นการคิดทีรตวว่าคิดอะไร มีวิธี ่ ่ ู้ ั คิดอย่างไร สามารถตรวจสอบความคิดของตนได้ และสามารถปรับเปลียน ่ กลวิธการคิดของตนได้ด้วย ี
- 14. 4. การเรียนแบบส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เป็นการเรียนโดยส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความคิดสร้างสรรค์ เช่น ให้ ผู้เรียนระดมสมอง ให้ผู้เรียนคิดออกแบบในวิชาการงานและพืนฐานอาชีพ ้ ให้ผู้เรียนคิดเขียนภาพในวิชาศิลปะ เป็นต้น
- 15. 5. การเรียนแบบทาโครงงาน เป็นการเรียนโดยให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเรืองทีตนเองสนใจ และ ่ ่ ทาเป็นโครงงาน (Project) อาจทาเป็น รายงาน ภาคนิพนธ์ หรือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก็ได้
- 16. สมาชิก นางสาวนาถนที อวิรุทธไพบูลย์ นางสาวสุภคญาดา บุษบงก์ ั นางสาวคงหทัย ชัยชนะสุวัฒน์ 553050154-4 553050156-0 553050227-3 สาขาการสอนภาษาญีปน ชั้นปีที่ 2 ่ ุ่ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น